ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่ขับมา เกียร์ออโต้.. กดเติมไปเรื่อยๆ เกียร์จะค่อยๆ เปลี่ยนลงตามลำดับ ยังไงก็ขึ้นได้ Tiger 4WD D4D 3.0at คันนี้ แรงบิดรอบต่ำดี  ดังนั้น มันเลยไม่ downshift มาก C200 w202 นั่ง 5 คน ของท้ายรถ 50% ขึ้นสะพานแขวน เติมคันเร่งไปเรื่อยๆ เกียร์ก็ downshift ลงมาเรื่อยๆ ถ้าจะแซง กดคันเร่งจนชนสวิตช์ kickdown ก็เร่งแซงได้เหลือๆ  ไม่ต้องยุ่งกับคันเกียร์   Civic 2.0 นี่ก็ไม่มีปัญหา  เกียร์มันจะขยัน downshift ทั้งขึ้นเนิน และลงเนิน ... ใส่ D ไว้ อย่างเดียว จากคุณ : ถัง - [ 17 ธ.ค. 50 22:55:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมก็ไม่เคยเจอเหมือนกันว่ารถคันไหนเข้า D แล้วขึ้นเขาไม่ได้ เกียร์ 1 ทุกคันน่าจะขึ้นไหว แต่จะเร็วหรือเปล่านี่อีกเรื่อง จากคุณ : athlon1400 - [ 17 ธ.ค. 50 22:58:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อเครื่องมีโหลดมากๆ Vacumn ในท่อไอดีจะต่ำ  เกียร์จะจับตรงนี้เพื่อเปลี่ยนให้ต่ำลง   เมื่อมันทำงานอย่างนี้ ยังไงมันก็ต้องไล่ลงให้ถึงเกียร์ 1 จนได้ ไม่งั้นก็เกียร์มีปัญหาแหละ จากคุณ : หมูน่ารักจริงๆ - [ 17 ธ.ค. 50 23:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถามเป็นความรู้นะครับ..... ถ้าเกียร์ D ขึ้นเขาได้อย่างงี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องลดเกียร์ต่ำเหรอครับ  เพราะส่วนใหญ่ผมจะลดเกียร์ต่ำตลอดเลย ไม่เคยลองขึ้นเขาที่เกียร์ D เลย ....ถามเพื่อขอความรู้ครับ....ผมใช้ เครื่อง 1J รบกวนขอข้อมูลด้วยครับ จากคุณ : songyot001 - [ 17 ธ.ค. 50 23:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราลดต่ำลงไปที่ D3 ,2 ,L  ในกรณีที่ไม่อยากให้เกียร์เปลี่ยนกลับไปกลับมาจาก 4 - 3 -ไป 2 แล้วเปลี่ยนจาก 2 - 3 - ไป 4 ธรรมชาติของเกียร์อัตโนมัติมักจะพยายามเปลี่ยนเป็นเกียร์สูงให้ได้เร็วที่สุด พอขึ้นเขามันก็เปลี่ยนต่ำลงให้ แต่พอความเร็วรถเพิ่มขึ้นนิดเดียวเท่านั้นแหละ มันก็เปลี่ยนเป็นเกียร์สูงเร็วเกินไป ทั้งๆที่ยังไปไม่พ้นเนินสูงชันแห่งนั้น ในกรณีนี้จะสร้างความรำคาญให้คนขับเพราะี่เกียร์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ได้ ก็เลยต้องลดมาที่ D3 หรือ 2 เพื่อให้มันไม่เปลี่ยนไปเกียร์ 4 และรถจะได้มีกำลังสม่ำเสมอกว่า จากคุณ : Shoe_Shine - [ 17 ธ.ค. 50 23:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แบบ คห.5 ที่เปลี่ยนก็กันไม่ให้มันจะสี่ก็ไม่สี่ สามก็ไม่สาม ช่วงที่มันชันไม่มาก  แต่ก็เห็นหลายคนตอบลักษณะที่ จขกท.ตั้งมานั่นแหละ แต่ถ้าลงเขา ละก็ต้องเปลี่ยน ถ้าต้องการให้เครื่องยนต์ช่วยเบรค จากคุณ : mod15 - [ 17 ธ.ค. 50 23:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าเขาให้เอาไว้เข้าตอนลงเขามากกว่าครับ เกียร์ออโต้ อย่างไงซะ มันก็ต้องลดเกียร์ลงให้เรื่อยๆ เมื่อมันไม่มีกำลังนั่นแหละครับ ถ้า D ขึ้นเขาไม่ได้ แสดงว่าเกียร์ ๑ ของรถคันนั้นขึ้นเขาไม่ได้สิครับ ก็คง ต้องโทษเรื่องมุมใต่ที่สูงไป + อัตราทดที่ต่ำไปหล่ะครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 18 ธ.ค. 50 00:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าขึ้นเขาไม่ได้ แสดงว่าตอนขับพื้นราบ รถคุณ ก้อต้องออกตัวด้วยเกียร์ 1 ไม่ได้เหมือนกัน จากคุณ : Altezza (Altezza) - [ 18 ธ.ค. 50 00:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ทางเรียบออกตัวด้วยเกียร์ ๓ ยังได้เลยครับ แต่ขึ้นเขา ไม่น่าจะได้นะครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 18 ธ.ค. 50 00:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 - ถ้าเครื่องไม่หลวมขนาดไม่มีแรงบิด หรือระบบเกียร์ไม่เน่า จนส่งกำลังมาไม่ได้ ยังไงซะ มันก็ต้องขึ้นได้ เหตุผล มีผู้ตอบไว้หมดแล้วครับ... จากคุณ : - License To Kill - - [ 18 ธ.ค. 50 03:11:00 A:124.120.197.126 X: TicketID:163231 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เออ รถน้ำมันเกียร์หมดครับ จากคุณ : สมป๊อป - [ 18 ธ.ค. 50 03:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อืม.....นั้นดิ......มันมีด้วยหรือขึ้นเขาด้วยDไม่ได้เนี่ย จากคุณ : เกิดมาจน - [ 18 ธ.ค. 50 05:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 D มันก็คือเกียร์รวมที่เริ่มจากเกียร์ 1 ถึงเกียรสูงสุดนี่นา.. ถ้าเข้า D แล้วขึ้นเขาไม่ได้ล่ะก็.. แปลว่าเกียร์ 1 มันก็ขึ้นไม่ได้เหมือนกัน.. หรือไม่ก็คงหมายความว่า.. สมองกลของเกียร์มันเพี้ยนไปแล้วน่ะ.. จากคุณ : SCTL - [ 18 ธ.ค. 50 05:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รถแม่ผมคันนึงล่ะที่เคยเกือบขึ้นเขาไม่ได้เพราะเกียร์มันไม่ยอมเปลี่ยนลงมาให้ ผมเลยบอกแม่ให้ดันเกียร์มาที่2ถึงจะขึ้นได้ ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้หลายปีแล้วก้อยังใช้ได้อยู่ไม่พัง แต่ก้อเริ่มเพี้ยนๆแล้วแหละ จากคุณ : -OmegA- - [ 18 ธ.ค. 50 07:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่าคงเป็นเกียร์ รถรุ่นเก่าๆ ที่ออกตัวเกียร์ สอง อ่ะป่าวครับ.. แต่ไม่รุ้นะ..ผมเพิ่งมาขับ ..เกียร์ออโต้..รุ่นสักปีก 90 อัพ.. แต่ เท่าที่ใช้มา..ผมว่า เกียร์ ฮอนด้า ฉลาด และนุ่มนวล กว่า โตต้า.. เอา สตรีม ขึ้นอ่างขาง ฉิวเลย...แต่เอาวิช ขึ้น ..ยังมี อาการ บ้าง..ไม่ค่อยต่อเนื่อง จากคุณ : ~cupid~ - [ 18 ธ.ค. 50 07:53:07 A:222.123.29.203 X: TicketID:139017 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตามน้าหยึ๋มครับ น่าจะเพื่อลงเขามากกว่า เพื่อไม่ต้องการให้เกียร์เปลี่ยน เป็น 2-3-4 ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายได้ D อย่างเดียวมันก็ขึ้นเขาได้อยู่แล้ว จากคุณ : ลำไผ่ บ้านท่า - [ 18 ธ.ค. 50 08:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขาขึ้นก็แบบความเห็น 5 แต่ขาลงอยากใช้ engine brake ก็ต้องใช้เกียร์ต่ำๆช่วย เพราะเคย brake จมมาแล้ว นึกแล้วยังเสียวอยู่เลย ดีน่ะที่จมตอนลงมาถึงข้างล่างแล้ว จากคุณ : boodoo - [ 18 ธ.ค. 50 09:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมเคยเอาเจ้า sportcruiser 4wd 3.0 at ขึ้นดอย อินทนนย์ ช่วงจะถึงยอดดอย จะเป็นช่วงทางชันยาว ก็ใช้เกียร์ D มาตลอด พอมาถึงช่วงนี้ พอความเร็วลดมาถึง ประมาณ 60 กม/ชม. มันก็ลดลงมาหนึ่งเกียร์ พอความเร็วขึ้นมา 60 กม/ชม. มันก็ เพิ่มเกียร์ให้อีก สักเดี๋ยวก็ลดเกียร์ สักเดี๋ยวก็เพิ่มเกียร์ สลับไปสลับมาจนรำคาญ เลยต้องโยกคันเกียร์มาตำแหน่ง ที่ D2 ทีนี้ก็ OK พอเลย 60 กม/ชม. ไม่เปลี่ยน เกียร์ให้ทีนี้ก็ขับสบายขึ้น คือถ้าใช้เกียร์ D ตลอดมันก็ขึ้นได้น่ะ แต่มันจะไม่สะดวก เท่านั้นเอง ต้องไปลองดูถึงจะรู้ ส่วนเจ้าน้องแพนเค้กใช้ เกียร์ D สบม. สบายๆ ส่วน vios นั่งเต็มคันแล้วใช้เกียร์ D เหนื่อยคครับ ส่วน jazz vtec หลังจาก 0 รีโปรแกรม ใช้ S mode ทั้งขึ้นเขาลงเขาสบายๆ ครับ ถ้าสลับกับ manual mode ขับสนุกครับ จากคุณ : เฉื่อยฉ่ำ (เฉื่อยฉ่ำ) - [ 18 ธ.ค. 50 09:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ก่อนอื่นต้องบอกเสียก่อน ผมชอบแนวคิดของคุณต้น และชื่นชมที่เข้าใจตั้งคำถามนี้ ผมไม่สนับสนุนให้คนขับรถคอยเปลี่ยนเกียร์เอง ผมคิดว่า ถ้าใครขยันชอบเปลี่ยนเกียร์ จะเลือกใช้ออโต้ ทำไม ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 18 ธ.ค. 50 10:06:20 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มีเพื่อนผมคนหนึ่งตอนนั้นเพิ่งออกรถฮอนด้า เขามาบ่นกับผมว่า เกียร์ออโต้ของฮอนด้าไม่ดี ขับขึ้นห้างโยฮัน ไม่ไหว (ทางขึ้นชัน ช่วงยาว) เขาบอกว่า "อุตส่าห์เปลี่ยนเกียร์ 2" แล้ว รถยังขึ้นไม่ไหว ที่เป็นอย่างนี้เพราะความเข้าใจผิดของผู้ใช้ฮอนด้า คือ ฮอนด้าเกียร์2 มันจะออกตัวด้วยเกียร์ 2 ไม่ใช่เกียร์ 1 ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 18 ธ.ค. 50 10:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 http://www.hondaloverclub.com/forums/showthread.php?t=7971 http://www.hondaloverclub.com/forums/showthread.php?t=9220 กระทู้นี้น่าจะเคลียร์ครับ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 50 11:13:21 จากคุณ : papu - [ 18 ธ.ค. 50 10:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 TicketID:151168 เรื่องรถผมก็ฟังไปเรื่อย   พอดีผมรู้ไม่เยอะแต่อยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรที่ผมไม่รู้อีกบ้าง คลื่นไหนมีผมก็เปิดไปฟัง  บอร์ดไหนมีผมก็เข้าไปอ่านเรื่อยๆ ฉะนั้นพวกที่เอาผมไปด่าลับหลัง  ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไม่รู้ ถึงผมจะไม่เจอเองเดี๋ยวพวกผมก็ไปเจอแล้วมาบอกให้อยู่ดี ส่วนเรื่องเก่าที่คุณพยายามจะเสี่ยมผม  ผมเคยถามเจ้าตัวเขาแล้วเขาบอกว่าไม่ได้ด่า จากคุณ : ton99 - [ 18 ธ.ค. 50 10:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เกียร์ auto ของรถรุ่นไหนบ้าง ที่ใช้ D อย่างเดียวแล้วขึ้นเขาไม่ไหว ???!!! >>>>>>>> ที่จริงไม่น่าจะมี  รถยี่ห้อไหน เข้า D แล้วขึ้นเขาไม่ไหว แต่ มันมีครับ   รถเบนซ์เข้า D จะออกตัวด้วยเกียร์ 2 ถ้าจะออกตัวด้วยเกียร์ 1 คนขับจะต้อง "เหยียบจม + แช่นิ่ง" รถถึงออกเกียร์ 1 พุ่งแรง วิ่งดีเชียวครับ สังเกต เงือนไขออกตัวเกียร์ 1 จะต้อง kick-down รถถึงออกเกียร์ 1 คราวนี้ก็มีปัญหาบ้าง เช่น ขับขึ้นเขาสูงๆ ภูเขาแถวภาคใต้เยอรมันติดชายแดนฝรั่งเศส ทางขึ้นเขา วนเวียนวกวนมาก บางทีรถไปจอดติดคาบนเนินชันๆ เห็นทางโค้งอยู่ข้างหน้า จะออกตัวบนเนินชันๆ "จะให้คนขับ kick down" ก็คงจะไม่เหมาะ เพราะรถจะพุ่งพรวดพราด พาลตกเขาได้ง่ายๆ กรณีอย่างนี้ แนะนำให้เปลี่ยนเกียร์ L รถจะมีพลังขับขึ้นได้ดีกว่า D ครับ L มาจากคำเต็มภาษาเยอรมันว่า das Last แปลว่า Load แต่พออนุโลม เรียกเป็นเกียร์ Low ก็ไม่ผิดกติกา ครับ ยกเว้น ถ้าเลือก Mode E รถเบนซ์จะออกตัวเกียร์ 2 ตลอด ไม่ยอมออกเกียร์ 1  ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 18 ธ.ค. 50 10:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 autotrans car under engine power lower than 1,500-1,300 cc may needs shift down on low gear while climbing steep hill, but for sure if engine power over 2,000 cc it's doesn't needs to shift down increase the rev .......................( means let automate itself !) จากคุณ : boo boo - [ 18 ธ.ค. 50 10:34:33 A:124.121.6.244 X: TicketID:157474 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมเองก็ขับรถ at มาไม่มาก  เพราะว่าไม่ค่อยชอบ at สักเท่าไหร่เพราะว่ามันไม่ได้ดั่งใจ จะชอบก็เรื่องเดียวคือตอนจอดแล้วขึ้นทางชันๆ  มันไม่ต้องมาตั้งใจเร่งเลี้ยงครัชเหมือน mt อย่าง Accord99 ผมใช้ D อย่างเดียว  มันก็ขึ้นเขาได้สบาย แต่เกียร์รุ่นนี้มันจะขยันขึ้นเกียร์สูงไวไป  ทั้งๆที่ Honda คุยว่ามี grade logic control แต่พอเอา Civic06 ไปขึ้นเขาดูบ้าง ปรากฏว่าเกียร์ที่ฉลาดเกิดเหตุเมื่อวิ่งบนทางปกติ  พอมาเจอทางเขากลับวิ่งได้เข้าท่าดีเลยทีเดียว เพราะว่ามันจะไม่ยอมรีบเปลี่ยนเกียร์สูงให้พร่ำพรื่อ  ชนิดที่ผมสงสัยว่ามันมี G-Sensor ติดไว้กับรถหรือเปล่า เพราะว่าผมหลอกคันเร่งก็แล้วมันก็ไม่ยอมเปลี่ยนขึ้น ส่วนช่วงลงเขา  ก็ยังเปลี่ยนเกียร์ต่ำให้เพื่อดึงช่วยด้วย แต่เสียอย่างเดียวคือ  ถึงจะชันมากและรถวิ่งช้าขนาดไหน  มันก็ไม่ยอมลง 1 ให้ จะดึงให้มาสุดก็แค่ 2 เท่านั้น    แต่สำหรับคนทั่วไปผมว่าแค่นี้ก็เหลือๆแล้ว ขับขึ้นเขาลงเขา D อย่างเดียว ได้เลย จากคุณ : ton99 - [ 18 ธ.ค. 50 10:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ประเด็นเข้าDขึ้นไม่ได้แต่เข้าLขึ้นได้ ไม่เคยเจอและก็คิดว่าไม่มีครับ ถ้าจะมีข้อแตกต่างบ้างก็เป็นเรื่องจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ของDซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละภาวะมีจังหวะการเปลี่ยรเกียร์ลงต่ำที่แตกต่างกัน บางคนคิดว่าจังหวะที่เครื่องเปลี่ยนเกียร์ให้ไม่ถูกใจก็อาจจะอยากโยกคันเกียร์เองให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ แต่อยากรู้ว่า"2คน"เขาบอกว่าอย่างไรเหมือนกัน (ไม่ต้องบอกว่าคือใครก็ได้เพราะไม่ใช่สาระสำคัญ) จากคุณ : akeb - [ 18 ธ.ค. 50 10:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมเป็นไปตามคห.5ว่าไว้ครับ ที่ลดลง3หรือ2มาเพราะเกียร์มันคอยเปลี่ยนเป็นเกียร์สูงในระยะสั้นๆในบางช่วงทาง  ทำให้แรงบิดมันหายไปทำให้เสียแรงส่งขึ้นไปบ้างครับ จากคุณ : . (หาญศึก) - [ 18 ธ.ค. 50 11:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 29 รุ่นไหนหว่า ไม่แน่ใจ เคยขับขึ้น ดอยอ่างขาง ขึ้นตรงทางชัน ๆ บรรทุก 5 คน+สัมภาระหลังเต็ม ก็ขึ้นได้ โดยใช้ เกียร์ D อย่างเดียว เกียร์auto เดี๋ยวนี้ดีขึ้นกว่าก่อนมาก ฉลาดกว่าเก่า สังเกตุได้จาก พอเวลาขึ้นทางชัน (ในอยู่เกียร์D) พอแรงตก มันก็เปลี่ยนมาเกียร์ 1 หรือ 2 ตามระดับความชัน หรือรอบในเวลานั้น ซึ่งคนขับแค่ แช่คันเร่ง อย่างเดียว ก็ทำให้สะดวก ไม่ต้องมาปรับเปลี่ยนเกียร์ จากคุณ : malldeff - [ 18 ธ.ค. 50 11:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณช่างกลหนุ่ม ตอบได้เคลียร์ดีครับ จะมาบอกเหมือนกันว่ารถเบนซ์ในโหมด E จะไม่ยอมเข้าเกียร์ 1 ให้ครับ ที่น่าสนใจก็คือ ถ้าเป็นพวกเกียร์ CVT ล่ะ ที่เคยเจอขึ้นห้างชันๆ เช่นเยาฮันต้องปลดลงมา L เลยครับ เวลารถติดที่ทางชัน เกียร์ CVT มันจะไหลกลับลงมาได้นิดหน่อย เสียวครับ ถ้าใช้ D แล้วพอกดคันเร่งปล่อยเบรก กว่ากำลังและอัตราทดมันจะแปรค่าจนพอที่จะดึงรถขึ้นได้ รถจะไหลลงมานิดนึงก่อนครับ ถ้าใช้ S ก็จะดีขึ้น ส่วนถ้า L นี่ขึ้นได้เลย เหมือนมันแปรอัตราทดเผื่อไว้ ถ้าขึ้นเขาแล้วรถติดบนเขา ผมว่าใช้ D ก็เสียวนะครับ ใครมีรถเกียร์ CVT สงสัยก็ลองดูก็ได้ครับ ดูว่าเวลารถขึ้นเนินแล้วหยุดไว้ พอปล่อยเบรกแล้วมันจะไหลลงมานิดนึงหรือเปล่า เท่าที่เคยลองแม้กระทั่งเกียร์ multitronic ของ Audi ก็มีอาการไหลเหมือนกันครับ จากคุณ : Mr. Coffee - [ 18 ธ.ค. 50 14:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ได้ความรู้เพียบเลย ยังไม่เคยขับ AT ขึ้นดอยจริงๆสักที แหะๆ จากคุณ : kengkang - [ 18 ธ.ค. 50 14:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คคห.14,25 ถ้าใช้Dแล้วเครื่องยังไม่เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำให้แสดงว่ายังกดคันเร่งไม่ถึงจุดที่เครื่องจะลดเกียร์ให้ อาจต้องกดคันเร่งจนสุดเครื่องจึงจะเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำให้ ถึงอย่างไรก็ตามถ้าไม่ชอบจังหวะที่เครื่องเปลี่ยนเกียร์ให้จะโยกเปลี่ยนเองก็ย่อมได้ครับ จากคุณ : akeb - [ 18 ธ.ค. 50 16:25:02 ]

ความคิดเห็นที่ 33 #30 ไหลครับ ของผมก็ไหล บางทีก็ใช้เบรคมือช่วย เห็นว่าเกี่ยวกับ Torque Converter อะไรเนี่ยแหละ ทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้น (พอดีผมไม่มีความรู้ด้านนี้เท่าไหร่ครับ ขออภัย) แต่เคยเห็นกระทู้นึง บอกว่า Yaris ก็ไหลครับ จากคุณ : sLiimFit - [ 18 ธ.ค. 50 18:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่อง at ไหลถอยได้  อันนี้ผมว่าไม่แปลกแล้วนะครับ รถสมัยใหม่จะเน้นประหยัดน้ำมัน  ถ้าคา D แล้วไม่เบรค ไม่เร่ง ก็ไหลถอยหลังกันเกือบทั้งนั้น   ถึงพี่เอกนะครับ คือเขาบอกว่า  ถ้าเข้า D แล้วขึ้นไม่ไหว  ก็เปลียนลงมา D3 ถ้า D3 ไม่ไหว ก็เปลี่ยนลงมา 2  และ L เหมือนขับรถเกียร์ธรรมดา จากคุณ : ton99 - [ 18 ธ.ค. 50 20:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 35 "ถ้าเข้า D แล้วขึ้นไม่ไหว  ก็เปลียนลงมา D3 ถ้า D3 ไม่ไหว ก็เปลี่ยนลงมา 2  และ L เหมือนขับรถเกียร์ธรรมดา" >>> คงไม่เคยใช้Dขึ้นเขามั้ง จากคุณ : akeb - [ 18 ธ.ค. 50 21:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขออนุญาตตอบ ถึงแม้ว่าจะขึ้นเขาไหว รถคันเก่า Lancer ท้ายเบนซ์ 1.5 ขึ้นเขาชันมากๆ บรรทุกเต็มคันรถ ใช้เกียร์ D (ชันกว่า 45 องศา) ทำท่าเหมือนว่าจะไม่ไหวคือ มันหนืดๆ รอบต่ำๆ (จริงๆ เราใจร้อนไปเอง) ตอนนั้นน่าจะเป็นเกียร์ 2 ลองใช้วิธีลดความเร็วลงโดยการถอนคันเร่ง เกียร์มันจะรู้ตัวรีบเปลี่ยนเป็น 1 ทันที แล้วเราค่อยกดคันเร่งพรวดลงไป คราวนี้ขึ้นสบายๆ เกียร์ไม่เปลี่ยนขึ้น 2 อีกเลย - D เฉยๆ ถ้าขึ้นไม่ไหว ลองลดความเร็วลงมาเรื่อยๆ เกียร์มันรู้สภาพตัวเองก็จะเปลี่ยนมา 1 เอง แล้วก็ค่อยๆ ขึ้น - แต่ถ้าเป็นทางชันมาก-บรรทุกหนัก ก็เข้า 1 แล้วลากยาวเลย แต่ให้ค่อยๆ ขึ้น เพราะอย่าลืมว่าเกียร์มันไม่เปลี่ยนเป็นเกียร์สูงขึ้น ระวังเกียร์+เครื่องพังด้วย อยากทราบเหมือนกันครับ เกียร์ออโต้คันนั้นที่ขึ้นเขาด้วยเกียร์ D ไม่ไหวคือรถอะไร แล้วอาการมันเป็นยังไง จากคุณ : lookkaew_lechery - [ 18 ธ.ค. 50 22:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ดูตย.ตารางการเปลี่ยนเกียร์ตามความเร็ว,การกดคันเร่งตามที่ระบบเซ็ทไว้ข้างล่าง จะเข้าใจการทำงานเมื่อใช้Dได้ดีขึ้น ตย. เกียร์Dขับขึ้นเขา ความชันพอประมาณ ความเร็วอยู่ที่60กม/ชม ต้องกดคันเร่งอยู่กลางๆ ระบบเซ็ทshift patternแบบauto powerเนื่องจากกำลังขับแบบกดคันเร่งมากกว่าปกติต่อเนื่องในการขึ้นเขา ระบบใช้เกียร์D3อยู่ ทางชันขึ้น ความเร็วเริ่มลดลง กดคันเร่งเพิ่มขึ้น ความเร็วลดลงถึง~50กม/ชม. ระบบเปลี่ยนเกียร์จากD3ลงD2ให้ (ตามตารางที่half throttle, autopower เปลี่ยนD3>D2ที่45-53กม/ชม.) ทางชันเพิ่มขึ้นอีก ความเร็วลดลงอยู่ที่~45กม/ชม. ถ้ากดคันเร่งเพิ่มจนสุด ระบบเปลี่ยนเกียร์จากD2ลงD1ให้ (ตามตารางที่full throttle, autopower เปลี่ยนD2>D1ที่41-49กม/ชม.) กรณีข้างบนถ้าผ่อนกดคันเร่งให้ความเร็วลดลง ต้องลดความเร็วถึง~10กม/ชม. ระบบจึงจะเปลี่ยนเกียร์จากD2ลงD1ให้ (ตามตารางที่half throttle, autopower เปลี่ยนD2>D1ที่5-13กม/ชม.) สรุปว่าถ้าต้องการให้ระบบลดเกียร์ลงเพื่อเพิ่มแรงขับให้รถลดความเร็วลงไม่มากเมื่อทางชันขึ้นควรใช้วิธีกดคันเร่งเพิ่ม จากคุณ : akeb - [ 19 ธ.ค. 50 09:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เกียร์ auto ของรถรุ่นไหนบ้าง ที่ใช้ D อย่างเดียวแล้วขึ้นเขาไม่ไหว ความชันบางแห่ง รถบางรุ่น D 3 2 ขึ้นเขาไม่ไหว แต่ L ขึ้นไหว จากคุณ : ป๋า - [ 19 ธ.ค. 50 13:17:14 A:202.44.210.31 X: TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 39 http://www.autoshop101.com/forms/AT05.pdf จากคุณ : ป๋า - [ 19 ธ.ค. 50 13:27:14 A:202.44.210.31 X: TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 40 http://www.autoshop101.com/forms/AT21.pdf จากคุณ : ป๋า - [ 19 ธ.ค. 50 13:34:57 A:202.44.210.31 X: TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คือผมสงสัยว่า เกียร์แบบที่ 2 คนนั้นเขาพูด มันมีด้วยหรือครับ มีครับ ยกเว้นรถเฮงซวยเช่นhttp://downloads.hondatech.info/Auto/Manuals/Prelude/Prelude%205/Ab0VE.Honda%20Prelude%20V%20(97+)%20Chapter%2014%20Automatic%20Transmission.zip 2 คน นั้นคือใคร? จากคุณ : ป๋า - [ 19 ธ.ค. 50 14:44:00 A:10.212.212.129 X:203.149.16.42 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เพิ่งทดสอบ อีซูซุ ดีแมกเกียร์ออโตJATCO ปล่อยคันเร่ง ให้ไหลเข้าในบ้าน เกียร์ L แรงขับเคลื่อนดีกว่า D Toyota เกียร์ออโตECT ใช้ LPG ปล่อยคันเร่ง ให้ไหลเข้าในบ้าน เกียร์ L แรงขับเคลือนดีกว่า D City เกียร์ CVT ใช้ CNGมีคันโยกเกียร์ D S Lและ Manual ยังไม่ทดสอบ เพราะในบ้านจอดรถได้ 2 คัน สรุป อีซูซุ ดีแมกเกียร์ออโตJATCOและToyota เกียร์ออโตECT ที่คันเกียร์ L อัตราทดสูงกว่า ที่เกียร์1ของคันเกียร์ D 2 คนนี้ พูดถูกแล้วครับ จากคุณ : ป๋า - [ 19 ธ.ค. 50 22:16:36 A:172.16.5.106 X:203.146.104.41 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ป๋า เวลาขับขึ้นเขา เดินคันเร่งขึ้นนะป๋า ไม่ใช่ปล่อยไหลขึ้น จากคุณ : ถัง - [ 19 ธ.ค. 50 22:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 44 http://www.autoshop101.com/forms/AT05.pdf http://www.autoshop101.com/forms/AT21.pdf http://downloads.hondatech.info/Auto/Manuals/Prelude/Prelude%205/Ab0VE.Honda%20Prelude%20V%20(97+)%20Chapter%2014%20Automatic%20Transmission.zip จากคุณ : ton99 - [ 19 ธ.ค. 50 22:20:46 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เอ๊ะป๋า จากที่ผมจำได้  ถ้าเหยียบคันเร่ง  เข้า L หรือ 2 มันก็ได้แรงขับเคลื่อนเท่ากันกับเข้า D แต่ถ้าไม่เหยียบคันเร่ง  L หรือ 2 ครัชมันจะจับทันที แรงไหลมันเลยดีกว่า ตรง link ป๋า ขอเวลาไปอ่านพรุ่งนี้ จากคุณ : ton99 - [ 19 ธ.ค. 50 22:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าเป็นอีซูซุ(หรือมาสดา นิสสัน ซูบารุ) โตโยต้า(U-series) แรงดันในการจับคลัทช์(Line Pressure) ดูได้ใน http://www.autoshop101.com/forms/AT24.pdf หน้า 1และหน้า 20 ถ้าเป็นโตโยต้ารุ่นก่อนแรงดันในการจับคลัทช์(Line Pressure) ต่อมาจากสายคันเร่ง จากคุณ : ป๋า - [ 19 ธ.ค. 50 23:08:58 A:unknown X:203.146.104.35 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 45 http://www.autoshop101.com/forms/AT05.pdf หน้า 5และ10 http://www.autoshop101.com/forms/AT21.pdf หน้า 22 และ28 เกียร์ 1 คันเกียร์ L-Range จะทดแตกต่างจาก เกียร์ 1ที่คันเกียร์ D or 2 range จากคุณ : ป๋า - [ 19 ธ.ค. 50 23:21:24 A:unknown X:203.146.104.35 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 48 จากที่ป๋าให้ดู การปรับline pressureแปรตามการกดคันเร่ง ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้เนียนไม่กระตุก จากคุณ : akeb - [ 20 ธ.ค. 50 00:15:47 ]

ความคิดเห็นที่ 49 Dตอนเกียร์1ต่างกับLตรงengine brake จากคุณ : akeb - [ 20 ธ.ค. 50 00:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ความคิดเห็นที่ 48 ใช่แล้ว การปรับline pressureแปรตามการกดคันเร่ง ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้เนียนไม่กระตุก ครับ Line pressure นอกจากขึ้นกับ คันเร่งแล้ว ใน U-series (หน้า26 ขึ้นไป)ยังขึ้นกับจังหวะเปลี่ยนเกียร์มีการลดแรงดันด้วย ในโตโยต้ารุ่นก่อนเช่นA-series จังหวะเปลี่ยนเกียร์มีการลดองศาของหัวเทียนเพื่อลดแรงบิด ถ้าเป็นอีซูซุ(หรือมาสดา นิสสัน ซูบารุ) จังหวะเปลี่ยนเกียร์มีการลดแรงดันใคลัทช์แรงเหวี่ยง ดูรูปhttp://www.autoshop101.com/forms/AT21.pdf หน้า 13 จากคุณ : ป๋า - [ 20 ธ.ค. 50 07:59:20 A:10.212.212.129 X:203.149.16.42 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เพิ่มเติมเรื่องline pressureจากคคห.48,50 อันนี้อธิบายกว้างขึ้นครับ line pressure มีผลต่อแรงจับของคลัช ขณะเร่งความเร็วต้องใช้แรงดันสูงกว่า แต่ถ้าแรงดันสูงเกินไป(ขณะที่ไม่ได้เร่งหรือเร่งไม่มาก)ก็สูญเสียกำลังสูง,สร้างความร้อนต่อน้ำมันเกียร์สูงและทำให้เปลี่ยนเกียร์กระตุก จากคุณ : akeb - [ 20 ธ.ค. 50 08:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ความคิดเห็นที่ 49 นอกจาก Dตอนเกียร์1ต่างกับLตรงengine brake แล้ว ตอนขับเคลื่อนอัตราทดต่างกัน ด้วย ดูรูปด้านล่างและหน้า 11ประกอบด้วย D-range output ของ rear planetary gears คือ ring gear L-range output ของ rear planetary gears คือ carrierของ planetary gear (ring gearถูกล็อคด้วยB3) จากคุณ : ป๋า - [ 20 ธ.ค. 50 11:27:40 A:unknown X:203.149.16.36 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 53 AT05หน้า10 จากคุณ : akeb - [ 20 ธ.ค. 50 15:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 54 AT05หน้า11 จากคุณ : akeb - [ 20 ธ.ค. 50 15:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 55 rear planetary ring gear  สีฟ้า(ทางซ้าย) rear planetary carrier      สีแดง(ทางซ้าย) จากคุณ : akeb - [ 20 ธ.ค. 50 15:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ทั้งฺB3และF2ก็จับระหว่างrear planetary carrier(สีแดงทางซ้าย)กับตัวถังเกียร์ทั้งคู่ แต่F2จับในการหมุนทิศทางเดียวทิศตรงข้ามฟรีได้ ขณะที่B3จับทั้ง2ทิศทาง outputทั้งเกียร์D1และL ก็เป็นrear planetary ring gear(สีฟ้าทางซ้าย) เหมือนกัน ดูรูปทั้งหน้า10และ11 ส่วนrear planetary carrier(สีแดงทางซ้าย)ไม่ได้ต่อเป็นoutput ดูแล้วอัตราทดD1กับLน่าจะเท่ากันครับป๋า จากคุณ : akeb - [ 20 ธ.ค. 50 16:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ความคิดเห็นที่ 52 ข้อความนี้ผิด L-range output ของ rear planetary gears คือ carrierของ planetary gear (ring gearถูกล็อคด้วยB3) จากคุณ : ป๋า - [ 20 ธ.ค. 50 17:13:05 A:10.212.212.129 X:203.146.104.41 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ความคิดเห็นที่ 56 ดูแล้วอัตราทดD1กับLน่าจะเท่ากัน หรือไม่ กรณีเครื่องขับล้อ (ไม่ใช่ล้อขับเครื่อง ตามความคิดเห็นที่ 53 ) D1 rear planetary carrier หมุนอิสระตามเข็มนาฬิกา(หมุนทวนไม่ได้) L1 rear planetary carrier ถูกลอค สมมุติว่า Zs1 จำนวนฟันเฟืองของซันเกียร์ตัวที่1 =29 ฟัน Zr1 จำนวนฟันเฟืองของริงเกียร์ตัวที่1 =53 ฟัน Zs2 จำนวนฟันเฟืองของซันเกียร์ตัวที่2 =19 ฟัน Zr2 จำนวนฟันเฟืองของริงเกียร์ตัวที่2 =49ฟัน ลองคำนวณดูว่า ริงเกียร์ตัวที่2(output) หมุนเท่ากันหรือไม่ จากคุณ : ป๋า - [ 21 ธ.ค. 50 23:03:23 A:172.16.6.10 X:203.149.16.42 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 59 power flow มันก็วิ่งเหมือนกันหนิป๋า มันต่างตรงที่ B3 จับกับไม่จับ ส่วน F2 มันจับเหมือนกันอยู่แล้ว F2 จับ  มันก็หมุนทวนไม่ได้อย่างเดียว แต่ถ้า B3 จับเมื่อไหร่มันก็หมุนทั้งทวนทั้งตามไม่ได้เลย มันก็เลยมีผลต่างกันตอน Engine Brake แต่เกียร์ลูกนี้ผมว่ามันโบราณมากเลย มันมีแค่ 3 เกียร์ เดินหน้าเอง เกียร์สมัยใหม่อาจจะไม่เหมือนอย่างนี้แล้วมั้งครับ จากคุณ : ton99 - [ 22 ธ.ค. 50 02:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 60 power flow มันก็วิ่งเหมือนกัน แต่ Line pressure ต่างกัน http://www.autoshop101.com/forms/AT08.pdf อ่านหน้า 110 เรื่อง Low coast modulator valve เมื่อเกียร์อยู่ตำแหน่ง L (B3 จับ) รถจะมีอาการหัวทิ่มเมื่อปล่อยคันเร่ง กระชากเมื่อเหยียบคันเร่ง เหมาะสำหรับถนนบ้านนอกที่ขรุขระมาก ปีนเขาชัน Toyota A-series เกียร์ชุดแรก แค่ 3 เกียร์ O/D จะมีเกียร์อีกชุด (O/D OFF เกียร์ชุดนี้จะไม่ทด) จากคุณ : ป๋า - [ 22 ธ.ค. 50 07:00:58 A:unknown X:203.149.16.34 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เกียร์สมัยใหม่อาจจะไม่เหมือนอย่างนี้ ดูรายละเอียดได้ใน http://www.autoshop101.com/forms/AT21.pdf ถึง http://www.autoshop101.com/forms/AT28.pdf ควรใช้น้ำมันเกียร์ของโตโยต้าโดยเฉพาะ เพราะในจังหวะเปลี่ยนเกียร์มีการลดแรงดันที่จับคลัทช์(line pressure) จากคุณ : ป๋า - [ 22 ธ.ค. 50 07:21:55 A:unknown X:203.149.16.34 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คคห.58 จากหน้า10 "The first and reverse brake does the same thing as the one-way clutch No.2 (F2) in the forward direction, as seen in the illustration." >>กรณีเครื่องขับล้อ ในเกียร์L B3จับrear planetary carrierทำให้ส่งแรงขับจากเครื่องสู่ล้อเหมือนกับการจับrear planetary carrierของF2(ในเกียร์D1) กรณีนี้ทั้งเกียร์D1และLการขับของเฟืองทุกตัวเหมือนกันหมด อัตราทดก็ต้องเท่ากัน "In "D1" only, the one-way clutch No.2 holds the carrier, so while decelerating, the one-way clutch would release and no engine braking would occur."   >> กรณีล้อขับเครื่อง ในเกียร์D1 F2ไม่จับrear planetary carrier ทำให้ไม่มีengine brake  กรณีนี้ไม่มีอัตราทดเพราะเกียร์ไม่ได้ส่งต่อแรงengine brake (ขณะที่ในเกียร์L B3จับrear planetary carrier ทำให้มีengine brake) แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 50 08:23:24 จากคุณ : akeb - [ 22 ธ.ค. 50 07:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 63 AT05 หน้า10 ตามคคห.62 จากคุณ : akeb - [ 22 ธ.ค. 50 08:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สรุป จังหวะขับเคลื่อน D1 และL1 อัตราทดเท่ากัน แต่แรงดัน line pressureที่ใช้ในการจับต่างกัน D 3 2 line pressure แปรผันตามคันเร่ง (บางรุ่นลดแรงดันในจังหวะเปลี่ยนเกียร์) L line pressure ขึ้นอยู่กับ Low coast modulator valve จังหวะโยกคันเกียร์ไป L แรงดันน้อยกันกระตุก หลังจากนั้นแรงดันจะสูง จากคุณ : ป๋า - [ 22 ธ.ค. 50 22:48:51 A:172.16.5.109 X:203.149.16.45 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เรื่องLow Coast Moderator ValveจากAT08หน้า23 ตามที่ป๋าว่าไว้ จากคุณ : akeb - [ 23 ธ.ค. 50 08:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ดูที่AT23(ซึ่งน่าจะครอบคลุมเกียร์รุ่นใหม่ๆด้วย)ที่หน้า19 ไม่ได้พูดถึงline pressure จากคุณ : akeb - [ 23 ธ.ค. 50 08:47:48 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เทียบกับShift Solinoid เกียร์ECT (จากAT08หน้า24) ไม่มีLow Coast Shift Value และ Low Coast Moderator Valve จากคุณ : akeb - [ 23 ธ.ค. 50 09:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 68 การเช็คline pressure ของ Toyota Altis (ECT) เช็คแต่ที่เกียร์DกับR จากคุณ : akeb - [ 23 ธ.ค. 50 09:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 69 การเช็คline pressure ของ Honda Prelude (ECT) ที่เกียร์1,2,D3,D4,Rค่าเท่ากันหมด แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 50 09:16:41 จากคุณ : akeb - [ 23 ธ.ค. 50 09:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 70 การเช็คline pressure ของ Nissan X-trail (ECT) ที่เกียร์1,2,Dค่าเท่ากัน ที่เกียร์Rสูงกว่า จากคุณ : akeb - [ 23 ธ.ค. 50 09:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 71 จากคคห.65-70 ผมตั้งสมมุติฐานว่า เกียร์hydraulic control (อาจจะไม่ทุกรุ่นทุกตัว) มีการปรับline pressureสูงขึ้นในเกียร์L ส่วนเกียร์ECT line pressureเท่ากันในเกียร์LและD ป๋าคิดว่าอย่างไรครับ จากคุณ : akeb - [ 23 ธ.ค. 50 09:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เพิ่มเติม รถX-trailมีการเพิ่มline pressureแปรตามความเร็ว ในเกียร์2,L เพื่อช่วยแรงengine brake จากคุณ : akeb - [ 23 ธ.ค. 50 11:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 73 อ่านแล้วงงครับ line pressure D กับ L ของ ECT  ต่างหรือไม่ต่างกันแน่ครับ จากคุณ : ton99 - [ 24 ธ.ค. 50 00:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คคห.67-70เป็นตย.ที่เกียร์ECTมีline pressureเท่ากันในเกียร์LกับD ส่วนคคห.72 ของรถX-trail กราฟ1 แสดงการเพิ่มline pressureตามการกดคันเร่ง โดยในเกียร์D,2,Lเท่ากัน เกียร์Rสูงกว่า กราฟ2 แสดงการเพิ่มline pressure ในเกียร์2,Lตามความเร็ว "เพื่อช่วยแรงengine brake" ที่ความเร็วต่ำๆระดับline pressureอยู่ในระดับปกติ          >> ตีความว่าสำหรับการเร่ง การเพิ่มline pressureตามการกดคันเร่งเพียงพออยู่แล้ว กราฟ3 แสดงการลดline pressureในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์เพื่อลดอาการกระตุก เรื่องline pressureโดยรวมคิดว่าเขาออกแบบมาให้สูงเพียงพอให้คลัชจับได้โดยไม่ลื่นครอบคลุมสภาวะการใช้งานต่างๆของแต่ละเกียร์ เช่นสำหรับเกียร์L,2ก็ต้องเผื่อสำหรับengine brakeสูงขึ้นจากD ถ้าคลัชลื่นเวลาใช้เกียร์Dในทางชันๆ เขาคงต้องเขียนเตือนไว้ในคู่มือรถไม่ให้ใช้เกียร์Dในการขึ้นทางชัน-ซึ่งก็ไม่เคยเห็น จากคุณ : akeb - [ 24 ธ.ค. 50 07:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ความคิดเห็นที่ 73 line pressure D กับ L ของ ECT ต่างหรือไม่ต่างกันแน่ http://www.autoshop101.com/forms/AT08.pdf หน้า 110 จากคุณ : ป๋า - [ 24 ธ.ค. 50 22:47:32 A:unknown X:203.149.16.33 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ความคิดเห็นที่ 66 เกียร์รุ่นใหม่ๆ ของ Toyota อีซูซุ ฯลฯ line pressure ถูกควบคุมด้วย ECM และ Solinoid valves อีกหลายตัว ดูรายละเอียดใน http://www.autoshop101.com/forms/AT24.pdf ส่วนLow coast modulator valve เดาว่าเอาไว้กันกระตุก จังหวะโยกคันเกียร์ไป L(ไม่มีรายละเอียด) หมายเหตู ความหมายของ1 position ต่างจาก L position จากคุณ : ป๋า - [ 24 ธ.ค. 50 23:07:44 A:unknown X:203.149.16.33 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 77 AT08 หน้า110ของmanual (หน้า23ของfile ในคคห.65) เป็นเกียร์hydraulic control จากคุณ : akeb - [ 24 ธ.ค. 50 23:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 78 AT08 หน้า111ของmanual (หน้า24ของfile ในคคห.67) เป็นเกียร์ECT ใช้solinoid valveควบคุม ไม่มีLow Coast Shift Valueและ Low Coast Moderator Valve จากคุณ : akeb - [ 24 ธ.ค. 50 23:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ความคิดเห็นที่ 77 AT08 หน้า110ของmanual (หน้า23ของfile ในคคห.65) ใช้ได้ทั้งเกียร์ hydraulic control และ ECT รุ่นแรก (รุ่น U ยังไม่มีข้อมูล) แนะนำให้อ่านหนังสือ ของ ซีเอ็ด มีวงจร hydraulic และคำบรรยายภาษาไทย จากคุณ : ป๋า - [ 25 ธ.ค. 50 08:38:08 A:unknown X:203.149.16.36 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คคห.76 "ความหมายของ1 position ต่างจาก L position" >>> ต่างกันอย่างไรครับ ผมเข้าใจว่าเหมือนกันคือระบบจะใช้เกียร์1อย่างเดียว ยกเว้นเมื่อรอบยังสูงไปสำหรับเกียร์1 จากคุณ : akeb - [ 25 ธ.ค. 50 13:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คคห.79 "AT08 หน้า110ของmanual (หน้า23ของfile ในคคห.65) ใช้ได้ทั้งเกียร์ hydraulic control และ ECT รุ่นแรก (รุ่น U ยังไม่มีข้อมูล)" >>> ECTเท่าที่เห็นใช้Solenoid Valve แทนLow Coast Shift Valueและ Low Coast Moderator Valveทั้งนั้น       วงจรECTจากAT08 หน้า111ของmanual (หน้า24ของfile ในคคห.67) ตามคคห.78 ผมว่าManualAT08นี่ก็เก่ามากๆแล้วนะครับ       ECTที่ป๋าว่ามีLow Coast Shift Valueและ Low Coast Moderator Valveเป็นเกียร์รุ่นไหนหรือรถรุ่นไหนครับ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 50 13:43:11 จากคุณ : akeb - [ 25 ธ.ค. 50 13:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 82 1 position ต่างจาก L position 1 position (เช่นฮอนดา ซฺติ รุ่นที่แล้ว)line pressure L position line pressure จะสูงกว่า เท่า R position(ดูรูปhttp://www.autoshop101.com/forms/AT08.pdf หน้า91 ประกอบ) เมือคันเกียร์ อยู่ตแหน่ง R และ L จะมีแรงดันมากระทำด้านล่างสปริงของ primary regulator valve ทำให้line pressure สูงกว่าตำแหน่งอื่น จากคุณ : ป๋า - [ 25 ธ.ค. 50 14:53:08 A:unknown X:203.149.16.33 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ECT (รุ่นA140E)ใช้ Solenoid Valve 3 ตัว 2ตัวสำหรับเปลี่ยนเกียร 1 2 3 4(OD) ดูตารางใน http://www.autoshop101.com/forms/AT08.pdf หน้า162 อีก1ตัวสำหรับลอคอัพคลัทช์ แนะนำให้ซื้อหนังสือระดับ ปวช มาอ่าน ดีกว่า หรือ พิมพ์ด้วยหมึกสี จากhttp://www.autoshop101.com/forms/AT01.pdf ถึงhttp://www.autoshop101.com/forms/AT28.pdf อธิบายในนี้ เหมือน สีซอให้กระบือฟัง จากคุณ : ป๋า - [ 25 ธ.ค. 50 15:19:24 A:unknown X:203.149.16.33 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 84 AT08หน้า91 เป็นตำแหน่งR ส่วนตำแหน่งL ดูที่AT08หน้า110ในคคห.77 จะเห็นว่าท่อของManual Valveขวาสุดด้านล่างไม่มีแรงดัน  ขณะที่ในตำแหน่งRรูปข้างล่างมีแรงดันส่งไปPrimary Regulator Valve จากรูปAT08หน้า110ในคคห.77ดูไม่ออกเหมือนกันว่าในตำแหน่งL Primary Regulator Valveได้รับแรงดันจากLow Coast Modulator Valveมาปรับline pressureให้สูงขึ้นทางไหน/อย่างไร จากคุณ : akeb - [ 25 ธ.ค. 50 15:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 85 "อธิบายในนี้ เหมือน สีซอให้กระบือฟัง" >>> และแล้วก็เจอแบบนี้อีกแล้ว !!!!! จากคุณ : akeb - [ 25 ธ.ค. 50 15:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เคยบอกว่า "นอกจาก Dตอนเกียร์1ต่างกับLตรงengine brake แล้ว ตอนขับเคลื่อนอัตราทดต่างกัน ด้วย" แล้วทีนี้บอกว่า "อธิบายในนี้ เหมือน สีซอให้กระบือฟัง" ไม่เข้าใจจริงๆ จากคุณ : akeb - [ 25 ธ.ค. 50 16:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ความคิดเห็นที่ 84 เหมือน สีซอให้กระบือฟัง ถ้าโยกคันเกียร์ไปที่ L ทางเดิน ของน้ำมันผ่าน mannual valve จะเหมือน R สรุป คันเกียร์อยู่ที่ L และ R แรงดัน line pressure (โดย Primary regulator valve) จะมากกว่าปกติ ประมาณ50% ตอนขับเคลื่อนอัตราทดเกียร์1เท่ากัน จากคุณ : ป๋า - [ 26 ธ.ค. 50 08:17:42 A:203.146.104.32 X: TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เห็นได้ชัดว่าคุณป๋าเข้าใจการทำงานของเกียร์autoไม่ถูกต้อง :   คคห.47       "เกียร์ 1 คันเกียร์ L-Range จะทดแตกต่างจาก เกียร์ 1ที่คันเกียร์ D or 2 range"   คคห.52      "นอกจาก Dตอนเกียร์1ต่างกับLตรงengine brake แล้ว ตอนขับเคลื่อนอัตราทดต่างกัน"      "L-range output ของ rear planetary gears คือ carrierของ planetary gear (ring gearถูกล็อคด้วยB3)"   คคห.57 (หลังจากที่ผมได้อธิบายในคคห.53-56)      "ความคิดเห็นที่ 52       ข้อความนี้ผิด       L-range output ของ rear planetary gears คือ carrierของ planetary gear (ring gearถูกล็อคด้วยB3)"   คคห.58      "ดูแล้วอัตราทดD1กับLน่าจะเท่ากัน หรือไม่       กรณีเครื่องขับล้อ (ไม่ใช่ล้อขับเครื่อง ตามความคิดเห็นที่ 53 )       D1 rear planetary carrier หมุนอิสระตามเข็มนาฬิกา(หมุนทวนไม่ได้)       L1 rear planetary carrier ถูกลอค"   คคห.64  (หลังจากที่ผมได้อธิบายในคคห.62-63)      "สรุป       จังหวะขับเคลื่อน D1 และL1 อัตราทดเท่ากัน"   คคห.82,87      "L position line pressure จะสูงกว่า เท่า R position(ดูรูปhttp://www.autoshop101.com/forms/AT08.pdf หน้า91 ประกอบ) เมือคันเกียร์ อยู่ตแหน่ง R และ L จะมีแรงดันมากระทำด้านล่างสปริงของ primary regulator valve ทำให้line pressure สูงกว่าตำแหน่งอื่น"       "เหมือน สีซอให้กระบือฟัง ถ้าโยกคันเกียร์ไปที่ L ทางเดิน ของน้ำมันผ่าน mannual valve จะเหมือน R        สรุป        คันเกียร์อยู่ที่ L และ R แรงดัน line pressure (โดย Primary regulator valve) จะมากกว่าปกติ ประมาณ50%"       >>> ย้ำอีกที ตำแหน่งL ดูที่AT08หน้า110ในคคห.77 จะเห็นว่าท่อของManual Valveขวาสุดด้านล่างไม่มีแรงดัน  ขณะที่ในตำแหน่งRตามAT08หน้า91ในคคห.84มีแรงดันส่งไปPrimary Regulator Valve อย่าเอาdiagramตำแหน่งRที่แตกต่างกับตำแหน่งLมาปนกัน  >>> อย่าออกอาการใช้ถ้อยคำสบประมาทแทนการใช้เหตุผล-ข้อมูลมาโต้แย้ง แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 50 13:30:37 แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 50 10:43:31 จากคุณ : akeb - [ 26 ธ.ค. 50 10:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ตำแหน่งL ดูที่AT08หน้า110 เขียนไม่ครบวงจร ครับ แนะนำให้ หาหนังสือ เกี่ยวกับ เกียร์ออโต ของซีเอ็ด มาอ่าน อธิบายในนี้เหมือนสีซอให้ควายฟัง จากคุณ : ป๋า - [ 4 ม.ค. 51 12:48:32 A:10.212.212.129 X:203.149.16.45 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 90 อ่านประโยคสุดท้าย หน้า 110 It also............ จากคุณ : ป๋า - [ 4 ม.ค. 51 13:01:49 A:10.212.212.129 X:203.149.16.45 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 91 พอจับได้ว่าสิ่งที่คุณป๋าพูด/อ้างมาคุณป๋ายังไม่เข้าใจมันเองเลย ก็เลยพูดออกอาการอย่างชัดเจน เลิกเผยภูมิปัญญาได้แล้วครับ จากคุณ : akeb - [ 5 ม.ค. 51 18:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อ้อเลิกพฤติกรรมใช้ถ้อยคำสบประมาทเสียด้วย มันไม่น่ารักเลย จากคุณ : akeb - [ 5 ม.ค. 51 18:42:14 ]