ความคิดเห็นที่ 1 http://www.ngk.com/more_info.asp?AAIA=&pid=3484 BKR5E-11 14mm, 3/4" reach, 5/8" hex, gasket seat, resistor, ISO length, projected tip, V-power (v-grooved center electrode), .044" gap จากคุณ : ton99 - [ 26 ธ.ค. 50 01:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 http://www.ngk.com/more_info.asp?AAIA=&pid=3692 ZFR5F-11 14mm, 3/4" reach, 5/8" hex, gasket seat, resistor, ISO length, projected extended tip, V-power (v-grooved center electrode), .044"gap สังเกตุตรงฉนวนขาวๆจะเห็นว่า  แบบ projected extended tip  จะยื่นออกมามากกว่า จากคุณ : ton99 - [ 26 ธ.ค. 50 01:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยากรู้ว่าเป็นไง ต้องลองแลกใส่ แล้ววิ่งบนไดโนเทสต์หล่ะครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 26 ธ.ค. 50 02:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตามหลักการจะต้องทำให้อุณหภูมิของฉนวนหุ้มอิเล็กโทรดของหัวเทียนอยู่ระหว่าง 500-850 องศา C เพื่อให้ฉนวนหุ้มอิเล็กโทรดร้อนมากพอที่จเผาไหม้คราบเขม่าที่อาจมาเกาะติด หัวเทียนแบบร้อนจะมีฉนวนหุ้มอิเล็กโทรดยาวกว่าหัวเทียนแบบเย็น (มีซอกรอบฉนวนลึกกว่า) ซึ่งจะถ่ายเทความร้อนได้ช้ากว่าทำให้อุณหภูมิหัวเทียนสูงกว่าแบบเย็น 70-100 องศา C ส่วนหัวทียนแบบ projected extended tip จะถ่ายเทความร้อนได้ช้ากว่าแบบ   projected tip อีกหน่อยหนึ่ง คือทำให้อุณหภูมิของหัวทียนสูงขึ้นอีก 10-20 องศา C ช่างสมัยก่อนจะแนะนำให้ใช้หัวเทียนแบบใหนก็จะดูสภาพของหัวเทียนหลังใช้งาน ถ้าเครื่องยนต์กำลังอัดปกติแล้วพบมีคราบเขม่าสะสมที่ฉนวนหุ้มอิเล็กโทรด ก็จะแนะนำให้ใช้หัวเทียนแบบร้อน ถ้าพบว่าฉนวนหุ้มมีร่องรอยร้อนจัดก็ให้ใช้หัวเทียนแบบเย็น อุณหภูมิในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์สมัยก่อนขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการขับ และขึ้นอยู่กับการจูนอัพเครื่องยนต์ด้วย หรือใช้รถในเมืองให้ใช้หัวเทียนแบบร้อน ใช้รถต่างจังหวัดใช้หัวเทียนแบบเย็น สมัยนี้เครื่องยนต์มีระบบควบคุมที่ทันสมัยอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ก็ต้องใช้หัวเทียนตามกำหนดของโรงงานผู้ผลิต จากคุณ : ท.ทหารอดทน - [ 26 ธ.ค. 50 04:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ถูกแล้ว 500-800 C เป็น self-cleaning Temperature ครับ NGK ใช้รหัส P บอก หัวเทียนจมูกยาว เช่น BP 5 ES  / BP 6 ES (เหมือนใน ภาพ คห. 2) ถ้าไม่มี P ก็จมูกสั้น (เหมือนรูป คห 1) ดูจากรูป คห. 1 และ 2 ผมเข้าใจว่า projected extended tip น่าจะเหมือน P นั่นเอง คือ จมูกยาว หัวเทียนจมูกยาว หรือ แบบ P   มีผลกับ timing การจุดระเบิดลดลงได้ 3-5 องศา และ ==> ช่วยลดระยะทางที่เปลวไฟเผาไหม้ให้สั้นลง ==> การเผาไหม้ก็เร็วขึ้น ลดปัญหาเปลวไฟดับ ==> ช่วยลด NOx นอกจากนี้ หัวเทียนแบบ P เมื่อใช้งานรอบต่ำ ก็ร้อนเร็วกว่า ร้อนถึง self-cleaning temperature ได้เร็วกว่า เป็นผลให้หัวเทียนไม่ค่อยสกปรก ยืดอายุหัวเทียน ครับ รายละเอียดเคยอ่านในหนังสือ NPK จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 26 ธ.ค. 50 09:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาเซฟครับ จากคุณ : P_Wut - [ 26 ธ.ค. 50 10:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รายละเอียดเคยอ่านในหนังสือ NPK >>>>>>>> ลองค้นแล้ว บอก Ref ผิด ขอแก้ไข หนังสือ เทคนิครถยนต์สำหรับประชาชน ของ ซี เอ็ด ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 26 ธ.ค. 50 10:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมงงครับ หัวเทียนสองตัวนี้มันก็มีเบอร์ ร้อนเย็นเหมือนกัน คือ เบอร์ 5 หรือว่าที่เบอร์ 5 เหมือนกัน  มันก็ร้อนเย็นต่างกันด้วยหรือครับ จากคุณ : ton99 - [ 26 ธ.ค. 50 17:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ งง อะไร .... ... หัวเทียนแบบ P เมื่อใช้งานรอบต่ำ ก็ร้อนเร็วกว่า ร้อนถึง self-cleaning temperature ได้เร็วกว่า ... ร้อนเร็วกว่า คือ ร้อนถึงจุดทำงาน ( self-cleaning temperature) ได้ในเวลาเร็วกว่า ไม่ใช่ "ร้อนกว่า" จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 26 ธ.ค. 50 19:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พอดีอ่านตรงที่คุณ ททหาร บอกไว้ว่า มันทำให้หัวเทียนร้อนขึ้นอีก 10-20 C ปกติหัวเทียนร้อนเย็นต่างกันเบอร์นึง  มันทำให้ร้อนเย็นแตกต่างกันกี่องศาครับ จากคุณ : ton99 - [ 27 ธ.ค. 50 12:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 10 http://www.ngksparkplugs.com/techinfo/spark_plugs/overviewp2.asp จากคุณ : ป๋า - [ 28 ธ.ค. 50 09:29:26 A:203.146.104.32 X: TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 12 A projected style spark plug firing tip temperature is increased by 10°C to 20°C. In identical spark plug types, the difference from one full heat range to the next is the ability to remove 70°C to 100°C from the combustion chamber. จากคุณ : ป๋า - [ 28 ธ.ค. 50 09:33:49 A:10.212.212.129 X:203.146.104.41 TicketID:110672 ]