ความคิดเห็นที่ 12
credit : http://th.answers.yahoo.com/my/profile;_ylt=Av_qjWugzMf4LDAPY2VL95vZTgx.;_ylv=3?show=Gd7BaQ60aa
E20 คือน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วผสมกับเอทานอลซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ บริสุทธิ์ 99.5% ในอัตราส่วน เบนซิน 80 : เอทานอล 20 ได้เป็นน้ำมัน E 20 ออกเทน 95 ตามมาตรฐานของกระทรวงพลังงาน
E20 ใช้ได้กับเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้ E 20 โดยรถที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E 20 ได้ยังสามารถใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ได้อีกด้วย
E20 มีส่วนผสมของเอทานอลที่ผลิตได้เองจากพืชผลเกษตรในประเทศถึง 20% (มันสำปะหลัง) ซึ่งพลังงานชีวภาพเหล่านี้ช่วยลดมลพิษจาก การเผาไหม้ โดยลดคาร์บอนไดออกไซด์ และสารไฮโดรคาร์บอนลงจึงลดการเกิดภาวะโลกร้อน
ในเบื้องต้นจะมีรถยนต์แก๊สโซฮอล์ E 20 จำหน่ายในปี 51 ประมาณ 60,000คัน จาก 5 ยี่ห้อ (ข้อมูลจากบริษัทรถยนต์ ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2550) - Ford: Focus ทุกรุ่นตั้งแต่ปี 2005, Escape 3.0 L ตั้งแต่ปี 2005 - Honda: Accord, CR-V, Civic, City รุ่นปี 2008 - Mazda: Mazda 3 - Mitsubishi: New Space Wagon minor change - Nissan: Tiida, Teana รุ่นปี 2008 - Toyota: Camry, New Altis, New Vios รุ่นปี 2008
รถที่จะใช้ E 20 ได้ ต้องเป็นรถที่ออกแบบมาเฉพาะ โดยมีการพัฒนาอุปกรณ์บางอย่างในระบบน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสม เพื่อรองรับส่วนผสมของเอทานอลที่สูงกว่าร้อยละ 10 ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณเอทานอลที่สูงขึ้นเป็นร้อยละ 20 ในแก๊สโซฮอล์ E 20 นั้น จะส่งผลถึงความสามารถในการกัดกร่อนยาง และโลหะ หรือทองแดง ในระบบเก็บส่งน้ำมันในเครื่องยนต์
จากการศึกษาพบว่าชิ้นส่วนที่สัมผัสกับน้ำมันโดยตรง เช่น ถังน้ำมัน ท่อส่งน้ำมัน หัวฉีด คาบูเรเตอร์ ที่ทำจากโลหะ ทองเหลือง ทองแดง ยาง พลาสติก รวมถึงระบบสมองกล ECU จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ปัจจุบันมีค่ายรถยนต์เพียงรายเดียวที่ออกแบบชิ้นส่วนให้รองรับการใช้ E 20 ได้แก่ ฟอร์ด โฟกัส โดยปรับเปลี่ยนโลหะบางชนิดมาใช้สเตนเลสแทน ซึ่งทนทานกว่า และคาดว่าในปีนี้ค่ายรถยนต์อื่นๆ จะเปิดตัวรถยนต์ที่รองรับการใช้ E 20 หลังรัฐบาลให้การสนับสนุนมาตรการด้านภาษีกับรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E 20 ในปี 2551
สถานีบริการน้ำมันปตท. ที่จำหน่าย พีทีที E20 พลัส 12 สถานี
- สาขาทางด่วนบางนาขาออก(สุขุมวิท 62) - หจก. ศรีเจริญภัณฑ์ (วิภาวดี) - สาขาบางบอน - บจก. เกษตรนวมินทร์ปิโตรเลียม สาขากรมช่างอากาศ - บจก. ที.3 เจ. (ราชพฤกษ์) สาขาการท่าอากาศยาน 2 (ดอนเมือง) - สาขาองค์การแบตเตอรี่ บจก. ปิโตรเลียมน้ำมัน (รามอินทรา) - หจก. สุวัจชัยออยล์ (ประชาชื่น) - สาขาสำนักงานใหญ่ - บจก.นาคสวัสดิ์
กระทรวงการคลังได้ออกประกาศ เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 80) เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550 (เอกสารแนบ 2) และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 โดยลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่สามารถใช้เชื้อเพลิงประเภทเอทานอลไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เป็นส่วนผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
- รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 2,000 ลบ.ซม. และมีกำลังเครื่องยนต์ ไม่เกิน 220 แรงม้า จากอัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันร้อยละ 30 (ซึ่งมีเพดานภาษีร้อยละ 50) ลดลงเหลือร้อยละ 25
- รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 2,000 ลบ.ซม. แต่ไม่เกิน 2,500 ลบ.ซม. และมีกำลังเครื่องยนต์ไม่เกิน 220 แรงม้า จากอัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันร้อยละ 35 (ซึ่งมีเพดานภาษีร้อยละ 50) ลดลงเหลือร้อยละ 30
- รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 2,500 ลบ.ซม. แต่ไม่เกิน 3,000 ลบ.ซม. และมีกำลังเครื่องยนต์ไม่เกิน 220 แรงม้า จากอัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันร้อยละ 40 (ซึ่งมีเพดานภาษีร้อยละ 50) ลดลงเหลือร้อยละ 35
- รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 3,000 ลบ.ซม. หรือมีกำลังเครื่องยนต์เกิน 220 แรงม้า จัดเก็บคงเดิมในอัตราภาษีจัดเก็บในปัจจุบันร้อยละ 50
จากคุณ :
อ่านเรื่องนี้อยู่
- [
23 ม.ค. 51 12:02:45
A:61.7.174.64 X:
]
|
|
|