Honda Civic 06 1.8 VTEC กับ NGV/CNG

ต้องบอกก่อนนะครบว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจบนความเสี่ยงที่คิดว่าไม่มีทางเลือกแล้ว คือต้องใช้รถ 70 กม/วัน ค่าน้ำมันแพงหูฉี่ ขึ้นเป็นรายสัปดาห์/วัน

ที่เรียกว่าตัดสินใจบนความเสี่ยงก็เนื่องจากการที่ได้ศึกษาอ่านกระทู้ต่างๆ จนมีความรู้สึกว่า ข้อมูลมันมากไป (Over Information) ทำให้เกิดการลังเลและสับสน ว่าตกลงมันดีหรือไม่ดี

รถผมเพิ่งใช้แค่ปีกว่าๆ โทรไปปรึกษาทางศูนย์ Honda ก็บอกว่ารถจะหมดประกันศูนย์ทันที (สมกับที่เรียกว่า "0" จริงๆ) และหมดประกันทั้งคันด้วยไม่ใช่เฉพาะกับจุดที่มีผลต่อ NGV เท่านั้น

หันมาทางผลิต CNG บ้าง ปตท. ก็ยังมีปัญหาในการผลิตอยู่ ล่าสุดข่าวบอกว่า จะขาดตลาดอยู่สักระยะ เนื่องจากปีที่แล้วมีคนนำรถไปติดตั้งเป็นจำนวนมาก กำลังการผลิดแค่ 650 ตัน แต่ความต้องการของตลาด 800 ตัน  ซ้ำรายยิ่งกว่านี้น ปั้มให้บริการไม่เพียงพอ หรือสถานีที่เตรียมติดตั้งหัวจ่ายแล้ว แต่ไม่มี CNG มาส่ง เนื่องจากรถขนส่งไม่เพียงพอ

นี่ยังไม่นับปัญหาจิปาถะ (Miscellaneous technical problems) ทั้งในเรื่องการรอคิวยาว และเจ้าหน้าที่เติมแก๊ส มีน้อยมากเมื่อเทียบกับปั้มน้ำมันทั้วไป บางปั้มผมเห็นวิ่งลอกอยู่คนเดียว สงสารครับ ครั้นจะช่วยก็ทำไม่เป็น เห็นบางครั้งแท็กซี่ต้องบริการตัวเอง แต่พอหันไปมองส่วนของปี้มน้ำมันที่วไป พนักงานนั่งเม้าท์กันอยู่

ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหารบกวนใจและเพิ่มความลังเลใจให้กับท่านที่ต้องการติดตั้งอย่างแน่นอน (Delaying decision factors)

สำหรับผมในที่สุดก็ต้องตัดสินใจ ซึ่งมีเหตุผลหลักดังนี้ (Rationale)

1. บ้านใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ มีปั้ม NGV อยู่อย่างน้อย 3-4 ปั้มหลัก คือ สุวรรณภุมิ กิงแก้ว (2 ที่) และ นิคมอุตสาหกรรมฯ

2. CNG ที่นี่ไม่เคยเห็นหมดเนื่องจากใกล้สถานีจ่ายแก๊ส และได้ยินข่าวว่า เดินท่อมาโดยตรง (ไม่ทราบจริงเท็จประการใด)

3. บริษัทรับบริการติดตั้งมีอยู่มากมาย มีปัญหาก็วิ่งรถเอาไปแก้ไขได้ง่าย ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่กล่าวขานกันก็จะมี European Automobile และ NTEC

4. การวิ่งวันละ 70 กม/วัน เนื่องจากบ้านอยู่ไกล ถ้าวิ่งน้ำมันก็คง ต้องกินแกลบแน่ๆ

ในที่สุดผมเลือกติดตั้งกับ European เพราะได้คิวไวกว่า NTEC ซึ่ง ที่นี่ก็มีคุณภาพดีไม่มีปัญหา เดิมที European เป็นบริษัทนำเข้ารถมาก่อน จึงมีสถานที่กว้างขวางให้ลองรถเพิ่อให้ลูกค้ามั่นใจ ก่อนจะขับออกสู่ถนนใหญ่

ในแต่ละวันมีผู้นำรถมาติดตั้งเป็นสิบคัน และจะแบ่งเป็นผ่ายตามความชำนาญของเจ้าหน้าที่ เช่น ไฟ ติดตั้งถัง จูน เป็นต้น

แต่ว่าเจ้าหน้าที่ของที่นี่อาจจะมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าแบบตัวเองเป็นศูนย์กลาง คือ ก็จะเป็นผู้อายุหน่อยการพูดจาไม่หวาน ฟังคล่องหู เหมือนที่อื่นๆ ต้องพินอบพิเทา พูดจาแบบให้เกียรติเค้านิดนึงแล้วจะได้รับบริการที่ดี ซึ่งต่างจาก NTEC พูดจาดีมาก พร้อมให้คำแนะนำอยู่เสมอ แต่รับรถได้น้อยกว่าและคิวจะยาว

Honda Civic ถ้าจะให้ดีต้องใช้เวลาติดตั้งอย่างน้อย 3 วัน เพราะห้องเครื่องจะเล็ก เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความละเอียดและความปราณีตสูง แต่ด้วยความใจร้อนและต้องใช้รถทุกวัน ผมขอต่อรองลงเหลือ 2 วัน

เย็นของวันที่สองก็ไปลองและรับรถ ตื่นเต้นมากครับ รถที่เรารักจะมีสภาพเป็นยังไง มันจะวิ่งได้มั้ย จะมีปัญหานานานับประการที่เคยอ่านมาหรือเปล่า

พลั้นที่เห็นหน้าก็ใจชี้นขึ้นมาหน่อย จนกระทั่งได้ลองรถ ปรากฎว่า มีอาการสะอึกและกระตุก ตอนออกตัว ก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ขอออกนามนะครับ ชื่อพี่ไพรัตน์ ซึ่งบริการดีมาก พี่เค้าก็ยก Laptop มาตั้งในรถแล้วก็จูนให้เห็นเลย จนกระทั้งพอใจแล้วก็รับรถกลับมา

ต้องบอกก่อนนะครับว่า การติด CNG นั้น แน่นอนว่าการวิ่งไม่ได้ดี 100% เท่ากับน้ำมัน เช่น การออกตัวจะช้ากว่านิดหน่อย มีอาการสะอีกบ้าง ของถูกย่อมมีข้อเสียบ้างครับ อันนี้ต้องยอมรับ

แรกๆ ผู้ขับจะระแวงและคอยจับผิดอาการรถตัวเองอยู่ตลอดเวลา บางที่มีความรู้สึกว่า ได้กลิ่น CNG ซึ่งอาจจะอุปาทานไปเอง สัก 1-2 สัปดาห์ ความคุ้นเคยก็จะมีมากขึ้น เรียกว่า เป็นหนุ่มสาวที่เพิ่งจากกันไปแล้วมาเรียนรู้กันเพิ่มเติม แล้วพอรู้ใจกันแล้วก็ไม่มีปัญหา เราก็จะมีปืนคนละกระบอก คือ มีกันและกันครับ (มุกของ โปงลางสะออน)

เคยกลุ่มใจแม้กระทั่งจะเติม CNG ยังไงนะ ต้องปิดแอร์ก่อน ต้องดับเครื่องตอนไหน ต้องเปิดฝากระโปรงกางไว้เหมือนแท็กซี่ หรือต้องออกจากรถไปเปิดฝากระโปงเอง มันตั้นเต้นไปหมด...แต่ในที่สุดประสบการณ์ก็สอนตัวเราเอง ธรรมชาติบำบัดตัวมันเองครับ

หลังจากนั้นสิ่งที่ European แนะนำให้ไปทำศัลยกรรมยกก้นที่ห้อยของน้อง Civic โดยใส่ Spacer เพื่อให้เด้งและงอนขึ้น ประมาณ 1-1.5 นิ้วครับ พองาม (ที่ European ไม่มีบริการประเภทนี้ ซึ่ง NTEC น่าจะมี) และก็จัดการเปลี่ยนหัวเทียนใหม่เพื่อให้การจุดระเบิดได้ดีขึ้น

มาดูความเปลี่ยนแปลงหลังจากติดตั้งบ้าง จะเป็น Beauty หรือ the Beast

จากวันที่ 11 ธ.ค. 2550 จนถึงวันนี้ 15 ม.ค. 2551 ก็เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม รถวิ่ง CNG ได้ 5,000 กม. (ที่วิ่งเยอะเพราะไปต่างจังหวัดตอนปีใหม่) ผมกล้าบอกได้เลยว่า จากค่าน้ำมันรายเดือน อยู่ที่ 4-5 พันบาท ก็เหลือ ไม่เกิน 2 พันบาท รวมที่ขับรถเที่ยวเบ็ดเสร็จ

ยกต้วอย่าง ผมขับรถจากกรุงเทพฯ ไป กาฬสินธุ์ ระยะทางประมาณ 600 กม. ไปกลับ ก็ 1200 กม. ผมจ่ายค่า CNG แค่ 500 กว่าบาท ซึ่งเมื่อก่อนต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 3-4 พันบาท

เรีกว่าคุ้มดีจริงๆ ถามว่าแล้วค่าสึกหลอล่ะ (Deteriorate Value) ก็ต้องบำรุงรักษา และใส่ใจให้มากกกว่าวิ่งน้ำมัน ผมเองไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์เลยแม้แต่น้อย รู้เพิ่มเติมนิดหน่อยว่าต้องหมั่นดูหม้อน้ำหล่อเย็น และใส้กรอง นอกเหนือจากนั้นวิ่งเข้าศูนย์ได้

ผมเคยอ่านใน เว็บบอร์ดว่า ศูนย์ฮอนด้าไม่รับดูแลต่อหลังจากติดตั้ง CNG แต่ศุนย์ที่สุขุมวิท ยังรับปกตินะครับ เพียงแต่ต้องจ่ายเต็มหลังจากหมดประกันศูนย์แล้ว

โดยสรุปครับ แฟนบอกว่า "รถซื้อมาใช้" ไม่ได้ซื้อมาชื่นชมและแค่ขับโชว์ ก็ต้องใช้ให้คุ้ม ถ้าน้ำมันแพงก็ไม่ค่อยอยากจะออกนอกบ้าน แต่หลังจากติดตั้งแล้ว เราอยากไปเที่ยวที่ไหนเราก็ไม่เคยลังเลครับ

และฝากบอกว่า ถ้าท่านที่ไม่เข้าเงื่อนไข ตามเหตุผลที่ผมให้ทั้ง 4 ประการข้างต้น ก็อย่าติดเลย ท่านจะรู้สึกว่า ม้นคือภาระและได้ไม่คุ้มเสียครับผม

ข้อมูลทั่วไป (General Specifications)

ข้อมูล รถยนต์ยี่ห้อ Honda Civic 1.8 ปี 06
อัตราวิ่ง(ทางไกล 80-120)ปกติ ของน้ำมัน 15- 16กิโลเมตร/ลิตร.
อัตราวิ่ง(ทางไกล 80-120)ปกติ NGV 16-17 กิโลเมตร/กก.
ใช้ถัง NGV ขนาด 70 ลิตร(น้ำ)
เติมเต็มถังได้สูงสุด13 กก. (เท่าที่เคยเติมได้สูงสุด แล้วแต่แรงดันของแต่ระปั้ม)
ติดตั้งระบบหัวฉีด ยี่ห้อ Romano
ติดตั้งที่ European Automobiles

แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 51 10:26:28