ความคิดเห็นที่ 1 ตามนี้ http://en.wikipedia.org/wiki/Autobahn จากคุณ : กะต่อ - [ 22 ม.ค. 51 00:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นถนนหลวง(หรือเสียตังค์ฟ่ะ)ในเยอรมันครับ  ไม่มีสปีดลิมิท  ฝรั่งที่นั่นเลยชอบเอารถแรงๆ ตามแต่ที่จะมีไปลองกัน   อาจจะเป็นเพราะประเทศยุโรปหรือเมกา หรืออีกหลายๆที่  มีการกำหนดความเร็วตามท้องถนน  ฝรั่งก็เลยอึดอัดบ้างเหมือนกัน  มีรถวิ่งได้ 300 km/h แต่ตามกฏหมายต้องวิ่งไม่เกิน 120 ก็เซ็งอ่ะน่ะ  พอมีถนนแบบนี้มันเลยชอบ และดังไปเลย เหอๆ จริงๆบ้านเราก็มีลิมิท speed แต่คนขับไม่เห็นลิมิทกันเลย  ฮ่ะๆ   ดังนั้นถนนบ้านเราก็เป็น ออโตบาห์นเหมือนกัน  แต่เป็น บานออกข้างถนน (เพราะมันห่วย)   จากคุณ : Future is on my hand - [ 22 ม.ค. 51 00:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เริ่มสร้างสมัย ฮิทเลอร์ ครับ เขาทำให้ทนกว่าทั่วๆไป 2เท่า!!!!!(สมัยนั้น) รู้สึกจะเสียตังนะครับ ห้ามขับช้าด้วยซ้ำ จากคุณ : หมีอ้วนตัวหนึ่ง - [ 22 ม.ค. 51 00:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เคยดูสารคดีครับ ห้ามขับช้าครับ ปกติขับกันเฉลี่ย 160 กม. เป็นถนนที่สร้างขึ้นสมัยฮิตเลอร์เพื่อเชื่อมเมืองหลักของเยอร์มันเข้าด้วยกันครับ ความหนาของคอนกรีตประมาณ 1 เมตรครับ(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) หนากว่าถนนที่อเมริกา 2 เท่าครับ ออกแบบได้ดีมาก ทั้งเรื่องการระบายน้ำของถนน และความทนทานครับ จากคุณ : น้องหนอนนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 01:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคยดูที่ UBC เห็นต้องมีใบขับขี่สำหรับใช้กับเส้นนี้ด้วย พูดง่ายๆคือถ้าจะใช้ ก็ต้องไปสอบใบขับขี่ที่เค้ากำหนดอีก จากคุณ : Asurada - [ 22 ม.ค. 51 02:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 1) ไม่ต้องเสียตัง 2) ไม่ต้องใช้ใบขับขี่พิเศษ 3) เลนนอกเอาไว้แซง ขับแช่เลนนอกก็ได้ แต่ต้องมองกระจกหลังไว้ ถ้ามีรถหลังเข้ามาใกล้ จะต้องหลบ เลนใน "ห้ามแซง" การห้ามแซงอย่างนี้ มีผลดีอย่างหนึ่ง เมื่อเราอยู่เลนนอก จะเข้าเลนในได้สะดวก ไม่เหมือนเมืองไทย กำลังจะเข้าชิดเลนใน ก็โดนรถเลนในบีบแตรไล่ 4) ถนนของประเทศอื่นเขาห้ามขับเร็ว แต่ Autobahn ห้ามขับช้า (80 km/h ถ้าจำไม่ผิด) ตามปกติคนเยอรมันจะขับประมาณ 120 km/h ไม่เกิน 140 km/h ผู้ใหญ่เยอรมันเป็นคนขี้เหนียว เขากลัวเปลืองน้ำมัน บอกว่าขับ 140 km/h จะเปลืองน้ำมัน --ส่วนเด็กหนุ่มไฟแรง ก็เหมือนกันทุกชาติ พอได้ยินผู้ใหญ่เตือนให้ประหยัด จะออกอาการฮึดฮัดไปตามเรื่อง แต่ฮึดฮัดได้ไม่นาน เพราะเด็กฝรั่งต้องหาเงินเติมน้ำมันเอง ครับ รถที่ชอบขับเร็วเป็นรถสปอร์ต หรือ รถแรงๆ ซึ่งนานๆ จะเจอสักคัน 5) ข้อสังเกต เมื่ออยู่บนออโตบาร์น เราจะไม่เคยเห็น "ไอ้ Po" หรือ ตำรวจ เลย แต่ถ้าทำผิด หรือ เกิดอุบัติเหตุ ตำรวจจะมาเร็วมาก ไม่รู้"ซุ่มโป่ง"อยู่ที่ไหน 6) บนออโต้บาร์นจะมี "ตู้โทรศัพท์" วางไว้เป็นระยะๆ พอรถเสีย ยางแตก ไม่มียาง เราจะเดินหาตู้โทรศัพท์ ก็จะถามตัวเองว่า "ควรจะเดินย้อน" หรือ "เดินไปข้างหน้า" ถึงจะใกล้ตู้โทรศัพทย์ ???? เขาทำเครื่องหมาย > ไว้ที่เสาข้างถนน เครื่องหมายนี้เป็นสีดำ ชี้ไปทางที่เดินไปตู้โทรศัพท์ ถ้าเดินตามเครื่องหมายจะมีระยะใกล้กว่าอีกด้าน ครับ (ผมเคยเห็นเมืองไทยเราก็มีเครื่องหมายนี้ บนทางด่วน ครับ) 7) ขับช้า ไม่ปลอดภัย นี่คือ สถิติที่เยอรมัน เนื่องจากช่วงวิกฤติน้ำมันแพง ประมาณปี 197x เขาจำกัดความเร็วบน Autobahn ที่ 100 km/h ปรากฏว่า มีสถิติอุบัติเหตุ เพิ่มขึ้น น่าตกใจ ตอนหลังก็เลิกจำกัดความเร็วครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 06:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เนื่องจากช่วงวิกฤติน้ำมันแพง ประมาณปี 197x เขาจำกัดความเร็วบน Autobahn ที่ 100 km/h >>>>>>>> ถนนดีๆ ผิวเรียบๆ ขับ 100 km/h รู้สึกช้ามาก จนง่วงนอน วิธีขับรถเร็วๆ  ADAC เขาแนะนำ ดังนี้ 1) ให้เปลี่ยนความเร็วเป็นระยะๆ เพราะตามธรรมชาติการขับขี่ความเร็วคงที่นานๆ ทำให้คนขับไม่รู้สึกเร็ว พอจะเบรค ก็กะระยะเบรคไม่ทัน 2) ถ้าจะหยุดรถ ให้ความช่วยเหลือรถเสียที่จอดอยู่ แนะนำให้"ขับเลยไป"ก่อน ค่อยหยุดหน้ารถคันนั้น อย่า เข้าไปจอดต่อท้าย !! เหตุผล .... จากข้อ 1 คือ มักจะกะระยะเบรคไม่ทัน ครับ หมายเหตุ ADAC สมาคมยานยนต์เยอรมัน เสียค่าบำรุงปีละ 25 / 50 DM (สมัย 197x) DM 25 ไม่มีรถส่วนตัว DM 50 มีรถเอง เก็บแพงกว่า  เพราะเขาจะมีบริการลากรถให้ฟรี ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 06:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนที่ จำกัดความเร็ว 100 km/h นั้น มี Autobahn บางช่วง "ไม่จำกัดความเร็ว" จะว่าเขาตั้งใจทำอย่างนั้น หรือเปล่าผมก็ไม่ทราบ เช่น ช่วงหนึ่งที่วิ่งจาก Hannover พอแยกไป Bremen ช่วงนี้ไม่จำกัดความเร็ว คนขับคงจะอัดอั้นมานาน พอเข้าช่วงนี้จะอัดกันเต็มที่ ผมขับ 140-160 km/h รถแรงๆ แซงผ่านไปอย่างรวดเร็ว กะว่าวิ่งกันที่ 300 km/h ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 06:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นความคิดของ Hitler ให้สร้าง Autobahn จุดประสงค์ 2 อย่าง 1) ใช้เดินทาง ที่ความเร็วอย่างน้อย 100 km/h ขณะนั้นรถที่จะวิ่งได้อย่างนี้ เป็นรถ อมก. คันใหญ่ ยังไม่มีรถเยอรมันวิ่งด้วยความเร็วระดับนี้อย่างต่อเนื่อง VW ถูกสร้างขึ้นตามสเปคนี้ คือ วิ่งได้ 100 km/h ต่อเนื่อง VW ย่อมาจากคำว่า Volks-Wagen Volk คือ ประชาชน Wagen คือ รถ เมื่อปี 2505 ผมอยู่มัธยมปลาย จำได้มีบริษัทตัวแทน VW เมืองไทย ชื่อ ประชายนต์  เป็นคำแปลได้ดีมาก 2) เป็นถนนยุทธศาสตร์ ผลงานของ Autobahn ช่วยการขนส่งทางรถยนต์อย่างดีเยี่ยม เราจะเห็นโรงงานอุตสาหกรรมของเขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่กระจุกอยู่จุดเดียว ===> เป็นผลให้ ประชาชนเขากระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ในปี 197x ผมจำได้ว่า 1) ประชาชนเยอรมันมากกว่าไทย 2 เท่า 2) ในขณะที่เยอรมัน(ตะวันตก) มีพื้นที่น้อยกว่าประเทศไทยครึ่งหนึ่ง 3) เนื่องจากความหนาแน่นของประชาชนตามเมืองต่างๆ ไม่หนาแน่น แม้จำนวนประชากรจะมาก แต่จราจรก็ไม่ติดขัด ผมขับเข้าเมืองหลวง เมืองใหญ่ๆ มีรถหนาแน่น แต่รถไม่ติด ปัจจุบันนี้หลังจากรวมชาติกับตะวันออก ชาติใหญ่โตขึ้น คนมากขึ้น แต่ วิถีชีวิตโดยรวม ก็... เปลี่ยนไป จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 06:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เราจะเห็นโรงงานอุตสาหกรรมของเขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่กระจุกอยู่จุดเดียว >>>>>>>> ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เป็นอย่างนี้ ช่วงหยุดเรียนหน้าร้อน ผมไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน เห็นโรงงานอุตสาหกรรม กระจุกอยู่ตามเมืองท่า หรือ ใกล้เมืองใหญ่ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 06:43:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ได้ความรู้จากคุณ ช่างกล-หนุ่มเยอะเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : CK5 - [ 22 ม.ค. 51 06:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ดังนั้นถนนบ้านเราก็เป็น ออโตบาห์นเหมือนกัน  แต่เป็น บานออกข้างถนน (เพราะมันห่วย)   >>>>>>>> ผมขออนุญาตแนะนำอย่างนี้ดีไหม ถ้าคุณมีโอกาสไปใช้ชีวิตต่างแดน ผมแนะนำให้คุณมองดูสิ่งดีๆของเขาเพื่อจะได้เป็นแนวทางมาใช้ประโยชน์ ไม่ใช่ไปดูเขามาดูถูกตัวเอง ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 06:47:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คนเยอรมันไม่นิยม ฟุ่มเฟือย รถ VW standard version ไม่มีอุปกรณ์หรูหรา ปี 1959 VW เริ่มส่งรถไปขาย อมก. เป็นรุ่นแรก รถ VW export รุ่นนี้ใช้เกียร์ซิงโครเมต ในขณะที่รถรุ่นเดียวกันในเยอรมัน เกียร์ยังไม่มีซิงโครเมต รถเก่าราคา 2500 บาท(DM500)  เข้าเกียร์ต้องเบิ้นเหมือนรถบรรทุก รุ่นปี 64-65 VW export ไป อมก.จะวางเครื่อง 1500 CC (รถรุ่นนี้ปกติ 1300cc) เขาบอกว่า อมก.ต้องติดแอร์ นอกจากนั้นยังมีเกียร์ Semi-Auto มีเกียร์ 3-4เกียร์ ไม่แน่ใจ เราเลือกเข้าเกียร์ 1 ถึง 4 เลือกเกียร์ไหน ก็อยู่เกียร์นั้น ไม่เปลี่ยนเกียร์ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 07:07:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ความรู้ดีมากครับง. แต่ รถอมก.. คือ รถอเมริกัน หรือเปล่า หรือเป็นศัพท์ เกี่ยวกับทหารหว่า แบบลำเลียงอะไรแบบนั้น. แหะ ๆ  ไม่กล้าคิดเอง กลัวผิดครับ... จากคุณ : Mr-32 - [ 22 ม.ค. 51 07:19:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณ คุณ ช่างกล หนุ่มครับ [เอน่าจะเรียก คุณลุงช่างกลมากกว่านะ] ผมมองดูแล้วไม่เห็นว่าจะขับได้เร็วเท่าไหร่นะ Motor way บ้านเราน่าจะ เป็น autobahn ได้เหมือนกัน  autobahn ก็มีในเมืองไทยแต่เป็นวงดนตรี จากคุณ : dradul - [ 22 ม.ค. 51 07:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณ คุณช่างกล-หนุ่ม สำหรับความรู้คับ จากคุณ : Ruined - [ 22 ม.ค. 51 09:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รูปใน คห 15 ยังกับถนนมิดตะพาบช่วงปากช่อง-มวกเหล็กเลย แค่กลับฟิล์มเท่านั้น อ้อ ผิวทางไม่ค่อยคล้ายเท่าไหร่ แต่บรรยากาศได้เลยนะเนี่ย จากคุณ : Million miles - [ 22 ม.ค. 51 09:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เคยดูสารคดี จำได้คร่าวๆ 1. ถนนจะสร้างให้สวยเข้ากับภูมิประเทศ คนขับได้ชมความงามตลอดสองข้างทาง 2. ความเรียบความสม่ำเสมอของผิวถนนจะเรียบมากเขามีกำหนดระดับไว้ว่าสุงต่ำได้มากเท่าไหร่เพื่อไม่ให้รถมันโยนไปโยนมา 3.เวลาถนนเสีย ไม่มีการเอายางมะตอยมาปะ เขาทุบบล๊อคนั้นออกแล้วเทปูนใหม่ 4.ความหนาของถนนสูงมากเพื่อให้แข็งแรง คงเพื่อเครื่องบินขึ้นลงหรือขนส่งกำลังทหาร ในยุคสงคราม 5.กฏระเบียบจราจรเข้มงวด มีกล้อง เจ้าหน้าที่คอยสอดส่องตลอด พวกขับจี้ตูด แซง(ขวา)ไหล่ทาง  ช้าแช่ซ้าย โดนหนัก 6.ทางแยกทางเชื่อมจะออกแบบไม่ให้ไปกวนทางหลัก ไฟแดงไม่มี 7.ระบบช่วยเหลือดีมากมี ฮ.บินไปรับผู้บาดเจ็บทันที 8.การจำกัดความเร็วหรือไม่จำดความเร็วก็จะมีเป็นบางช่วงตามความเหมาะสม 9.เขาเชื่อมั่นในคุณภาพ มาตรฐานของรถเขามาก บางช่วงที่เข้าเขตเมือง รถหนาแน่นก็มีชะลอเหมือนๆกัน อัตราการเกิดอุบัติเหตุจะต่ำกว่า พวก Hi-Way Free-Way Motor-Way ในประเทศอื่นๆมาก แต่ว่าเวลาเกิดทีก็สาหัสกว่า จากคุณ : Poonoi - [ 22 ม.ค. 51 09:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมมองดูแล้วไม่เห็นว่าจะขับได้เร็วเท่าไหร่นะ Motor way บ้านเราน่าจะ เป็น autobahn ได้เหมือนกัน   >>>>>>>> เนื่องจากผิวถนนเรียบมาก เวลาขับเร็วๆ จะไม่รู้สึกว่าเร็ว ครับ ผมเคยสังเกตการทำถนนบ้านเรา เครื่องทำถนนคุณภาพดีเท่าเทียมกับของเมืองเขา เครื่องมือพวก Barber Green อะไรพวกนี้ ตอนทำถนนเสร็จใหม่ๆ ผิวถนนเรียบมาก ใช้ได้ดีไม่แพ้ Autobahn ครับ ใช้ไปไม่นานเท่าไร ถนนทรุด โดยเฉพาะคอต่อสะพานเราทำไม่ดี อีกเส้นหนึ่งที่เสียเร็วมาก คือ ถนนเลียบแม่น้ำ พระราม-3 เคยถามเขาบอกว่า ดินบริเวณนั้นอ่อน ครับ ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ที่ไปชลบุรี ออกจากพัฒนาการ แถวๆกรีนสปอร์ต ขนานกับทางไปด่านทับช้าง ตอนเสร็จใหม่ๆ ผมเหยียบเพลินๆ 160 กิโลต่อชั่วโมง ไม่รู้สึกตัว มีความรู้สึกไม่ต่างกับขับบน Autobahn ครับ แต่... ตอนนี้ผิวทางวิ่งเสียหมดแล้ว แย่จัง โดยเฉพาะถนนแถวๆชลบุรี ต้องคอยระวังหลบหลุมให้ดี จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 10:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 20 บน Autobahn เวลาเกิดอุบัติทีหนึ่งเช่น ชนกัน จะชนกันต่อเนื่องหลายคัน สาเหตุหนึ่งที่คนเยอรมันเข้มงวดกฏจราจร นอกจากวินัยส่วนตัวแล้ว ยังเกิดจากสังคมเขาดีมาก คนเยอรมันเป็นคน ขี้ฟ้อง เห็นใครทำผิด คนขับรถข้างๆจะรุมกันด่า อยู่ในรถก็ใช้วิธี "ชี้หัว" เท่ากับเป็นการด่าว่า โง่ มีนกอยู่ในหัวประมาณนี้ ผมก็เคยโดน เมื่อขับทางโทถึงทางแยกหยุดเลยเส้นไปหน่อย โดนรถทางตรงกดแตรลั่นแถมชี้หัว ถ้าเห็นความผิดร้ายแรง เขาไม่ละเลยจะรีบแจ้งตำรวจทันที ครับ สิ่งดีๆที่ประทับใจ คือ เมื่อรถผมเกิดอุบัติเหตุ หลุดตกทาง สองคนกับเพื่อนกำลังช่วยกัน คนขับผ่านมาเจอ เขาจะรีบหยุดรถให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี เอาเชือกมาเกี่ยวรถผมแล้วช่วยลากขึ้นบนถนน ที่จริงตามกฏจราจรเขาระบุไว้อย่างนั้น แต่ลักษณะที่เขาให้ความช่วยเหลือ เป็นไปด้วยความเต็มใจ แสดงน้ำใจ ไม่ใช่ถูกบังคับให้ทำตามกฎหมายครับ ความรู้สึกดีๆอย่างนี้อยู่ในใจผมมาโดยตลอด ถ้ามีโอกาสผมจะตอบแทนเขาบ้าง กลับมาเมืองไทย วันหนึ่งกำลังขับรถกลับจากป่าตอง เวลาใกล้ค่ำมากแล้ว ผมเห็นฝรั่งหนุ่มสาวสองคนกำลังเดินเท้าออกมาถนนใหญ่ นึกเป็นห่วงเขากลัวมืดค่ำจะเกิดอันตราย ผมก็หยุดรถรับมาด้วย คุยกันได้ความเป็นชาวเยอรมัน ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 10:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 21 นอกเรื่องหน่อย.. อยากจะบอกว่าตอนแรกผมมีความรู้สึกว่า คนเยอรมันโหดร้าย ดูจากลักษณะการพูดจา น้ำเสียงเขาดุดัน จริงจัง ประกอบกับเคยดูหนังฮอลีวูตที่สร้างโดยกลุ่มชนะสงคราม คือ อมก (อ่านว่า อเมริกัน ครับ คุณข้างบน) และเรื่องราวเตาเผายิว อะไรพวกนั้น ทำให้เยอรมันเป็นคนน่ากลัว ที่จริง คนเยอรมันเป็นคนอ่อนโยน มีใจเมตตา เด็กๆถูกสอนให้สงสารสัตว์ ครั้งหนึ่งผมไปเที่ยวตกปลาริมทะเลสาป เพื่อนข้างๆตกปลาได้ตัวหนึ่ง ผมก็ยกคันเบ็ดขึ้นมา แอ็กท่าถ่ายรูป เด็กๆเยอรมันที่มุงดู เข้ามาสะกิดผมบอกให้รีบปล่อยปลาลงมา เด็กสงสารปลาจะเจ็บปากครับ -วันคริสมาส รถประจำทางเขาจะหยุดวิ่งเวลา 6 โมงเย็นประมาณนี้ ตอนนั้นผมเพิ่งไปไม่กี่เดือน จึงไม่รู้ธรรมเนียมนี้ หลงยืนคอยรถเมล์ที่ป้าย มีรถคันหนึ่งมาหยุดเรียกผมขึ้นรถ พาไปส่งบ้าน ครับ -เวลาเดินถนน เดินผ่านใครก็ตาม จะต้อง Guten Morgen เสมอ ไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน -เมื่อเรานั่งทานอาหารอยู่คนเดียว บ่อยครั้งที่คนเยอรมันโต๊ะข้างๆจะสั่งเบียร์มาให้ คนเสริฟเอาเบียร์มาวางแล้วบอกว่าคุณลุงคนนั้นเลี้ยง หันไปทางนั้น คุณลุงใจดีจะยกแก้ว Prost เชิญดื่ม เป็นน้ำใจและความกรุณาที่เราจะได้พบในสังคมเยอรมัน สิ่งดีๆอย่างนี้ทำให้สังคมเขาดี ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 11:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นภาพใน ความคิดเห็นที่ 15 ผมนึกถึงถนนที่ไประยอง ที่วิ่งผ่านสนามพีระ วิ่งผ่านก็คิดถึง Autobahn ลักษณะคล้ายกันมาก ประกอบกับภูมิประเทศ ก็เหมือนกัน ครับ เคยคุยกับคุณประชัย (ปิโตรเคมี) ตอนนั้นแกใช้เบนซ์ แกเล่าว่าขับ 190-200 ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 11:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอขอบคุณ คุณช่างกล-หนุ่มครับ ที่ให้ความรู้ อยากจะถามว่าถนนพวกนี้เขาอนุญาตให้ มอไซด์บิ๊กไบค์ ขึ้นไปวิ่งมั้ยครับ.. จากคุณ : ผาหล่มสัก - [ 22 ม.ค. 51 11:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ - อ่านแล้ว ได้มุมมองใหม่ เกียวกับ เยอรมันนี เยอะเลยครับ ขอบคุณที่Share ประสบการณ์ ครับ..... จากคุณ : - License To Kill - - [ 22 ม.ค. 51 11:22:25 A:61.47.31.202 X: TicketID:163231 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อยากจะถามว่าถนนพวกนี้เขาอนุญาตให้ มอไซด์บิ๊กไบค์ ขึ้นไปวิ่งมั้ยครับ.. >>>>>>>>> ที่จริงผมชอบบิกไบค์ เคยฝันจะมี 750 Honda สักคัน ;-) ผมไม่ค่อยแน่ใจนะ เยอรมันอากาศหนาว ตลอดปีมีฤดูร้อนจริงๆเพียงไม่กี่วัน ไม่ค่อยเห็นรถมอไซด์ใหญ่สักเท่าไร แต่รู้สึกจะเคยเห็นวิ่งบน Autobahn ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 11:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หลักภาษาเยอรมัน การออกเสียง เขาจะเน้นพยางค์แรกเสมอ (ภาษาเยอรมันมีข้อยกเว้นน้อยมาก ) เช่นคำว่า Monat แปลว่า เดือน ถ้าเราออกเสียงไม่เน้นแรกคือ Mo แล้วตามด้วย nat คนเยอรมันจะฟังไม่เข้าใจ การออกเสียงในประโยคก็เหมือนกัน ต้องเน้นเสียง ทำให้ฟังเสียงดุดัน คนฟังเหมือนทะเลาะกัน ถ้ารู้หลักแล้ว ภาษาเยอรมันง่ายนิดเดียว ผมเรียน intensive couse กับ Dr Funke เพียง 4 เดือนที่เมืองไทย ก็พูดได้ เคยเรียนแบบเล่นๆไม่ตั้งใจ 3 ปี ท่อง ABC ยังไม่ได้เลย   ผมโชคดีได้ไปเยี่ยมบ้าน Dr Funke ที่เมือง Iserlohn พบคุณแม่ท่าน ใจดีมาก ชวนไปทานน้ำชา บ่อยๆ บ้านท่านใหญ่โต ลักษณะเหมือนบ้านในหนัง The Sound of Music อย่างไรอย่างนั้น ปล. เล่าอย่างนี้ ทายไม่ผิดที่เรียกลุง จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 22 ม.ค. 51 11:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 22 ม.ค. 51 11:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 นึกว่านี่ จากคุณ : กิมทุย - [ 22 ม.ค. 51 11:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ยอดเยี่ยมครับ จากคุณ : PiGsPy - [ 22 ม.ค. 51 12:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แจ่ม เลย ครับ จากคุณ : eping - [ 22 ม.ค. 51 13:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ข้อมูลลุงช่างกลน่าสนใจ ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ครับ จากคุณ : Backup - [ 22 ม.ค. 51 13:53:21 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จากที่คถณช่างกลหนุ่มว่ามานี่ สไตล์เหมือนคนทำรายการทีวีคนนึงเลยแฮะ แต่ไม่แน่ใจว่าคนเดียวกันหรือปล่าว จากคุณ : ก้นกบ - [ 22 ม.ค. 51 14:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โหย ... เหมือนญาติผู้ใหญ่มาเล่าประสบการ์ณให้ฟังเลย อบอุ๊น .. อบอุ่น ยินดีที่ได้รู้จักคุณลุง ... แฮะแฮะ :D จากคุณ : thebackofveryfront - [ 22 ม.ค. 51 16:25:28 A:125.24.0.162 X: TicketID:020615 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไอ้ที่รู้นี่มันได้มากกว่า ออโต้บาน คืออะไรซะอีก(สารคดีย่อมๆเลยนะนี่) จากคุณ : tissue_punch - [ 22 ม.ค. 51 18:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 35 โอ้โห ... มีคุณลุงใจดี มาเล่าชีวิตในเยอรมัน ให้ฟังด้วย ... จากคุณ : Moody-Angle - [ 22 ม.ค. 51 18:46:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เคยขับ Audi S8 ที่ autobahn ความเร็วประมาณ 270 กม/ชม โดนแซงโดย มอไซด์ คิดว่ามีประมาณ เกือบ 300 แน่ๆ จากคุณ : อะ - [ 22 ม.ค. 51 19:19:25 A:210.203.181.92 X: TicketID:164437 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พี่ช่างกล  เอ  ต้องเรียกน้าแล้วล่ะมั้ง ตอนน้าเรียน ม ปลาย  ผมยังไม่เกิดเลย จากคุณ : drof - [ 22 ม.ค. 51 19:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ความรู้เกี่ยวกับชีวิตในเยอรมันแน่นมากคับ เหมือนได้เปิดโลกใหม่ๆเลย ขอบคุณคับๆๆ ว่าแต่ ช่วงที่ไปอยู่ที่นั่น ชอบดูฟุตบอลมั้ยคับ? จากคุณ : Jun Asawa - [ 22 ม.ค. 51 20:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณลุง ช่างกล หนุ่มนี่ลีลาทำให้ผมนึกถึงคน สอง คนมาเลยครับ คนหนึ่งเรียนช่างกลในเมืองไทยจบแบบร่อแร่ แล้วไปต่อที่เยอรมันด้านเอนจิเนอย์ ฝึกงานในโรงงานประกอบรถยนต์ทำหน้าปัด พอกลับมาไทย ทำงานไต่เต้าจนมีชื่อเสียงด้านการตลาด การจัดการ อีกคนผมไม่ทราบประวัติแต่ลีลาแบบนี้ล่ะครับ อยู่ในแวดวงรถยนต์นี่ล่ะครับ ขอแค่เดาๆนะครับ จากคุณ : แว่นน้ำ (แว่นน้ำ) - [ 22 ม.ค. 51 21:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เหมือนอ่านบทความ+สารคดีท่องเที่ยว มองเห็นภาพเลยครับ  ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : spajan - [ 22 ม.ค. 51 22:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เอา บิ๊กไบท์ ขึ้นไปซัดได้ครับ เค้าห้าม มอเตอร์ไซด์ ต่ำกว่า 400 CC ใช้ครับ ............ แต่นานๆจะได้เห็นซักก่ะที เพราะที่นั่นค่อนข้างหนาวครับ แล้วกฎหมายเรื่องเครื่องแบบ ตอนขี่มอเตอร์ไซด์ที่นั่น เข้มงวดมากๆๆครับ กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะ หมวกกันน๊อค แบบบ้านเราโดนจับแน่ๆ ครับ แถม ค่าปรับมหาโหดอีกตะหาก ที่สำคัญมอร์ไซด์ ที่นู่นเค้าไม่มุดๆนะครับต้องต่อคิวเหมือนรถเก๋ง แม้้่กะทั่งตอนจอดติดไปแดง จากคุณ : ไม่เชื่ออย่าตุ๊ดตู่ (Kartoffel Salat) - [ 23 ม.ค. 51 03:38:45 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คห 39 หมายถึงคุณสุจินต์น่ะเหรอครับ อืมมมมม น่าคิด จากคุณ : Million miles - [ 23 ม.ค. 51 09:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สงสัยคุณอะ จะโดนคันนี้แซงไปแน่ๆเลย จากคุณ : Albe'do - [ 23 ม.ค. 51 13:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คห 39 หมายถึงคุณสุจินต์ >>>>>>>> คุณสุจินต์ ที่เบนซ์ใช่ไหม ? จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 23 ม.ค. 51 20:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 45 Kartoffel Salat นี่ของโปรดผม ชอบสั่งกะ Fisch-Staebchen ที่ร้าน NordSee ครับ Kartoffel Salat เป็นมันฝรั่งต้ม ผสมกะมายองเนส ใช่ไหม ?? หรือน้ำสลัดน้ำข้น มันๆหวานนิดๆ เข้ากันดีกับ Fisch Staebchen คือ Fish Finger ครับ ร้าน NordSee แปลว่า ทะเลเหนือ ราวกับจะบอกความนัยว่า ทะเลเหนือเป็นแหล่งปลาของเขา ครับ ทุกวันศุกร์เป็นวันที่ชาวคริสเขากินปลา ร้านนี้คนแน่นเป็นพิเศษ ปลาอีกชนิดหนึ่งที่อร่อยมาก แต่ตอนอยู่เยอรมันเป็นปลาที่น่าเบื่อ เพราะกินบ่อย  คือ Hering ลักษณะคล้ายปลาทู แต่ก้างเล็ก ไม่แข็ง ผมกินได้หมดไม่เหลือก้าง วันหนึ่งเข้าร้านเบียร์สิงห์ ซอยอโศกเห็นเมนู  Hering ดีใจรีบสั่ง ปรากฏว่า เป็นปลาทู (จริงๆ) สงสัยเขาหมายถึง Thai-Hering ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 23 ม.ค. 51 20:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ช่วงที่ไปอยู่ที่นั่น ชอบดูฟุตบอลมั้ยคับ? >>>>>>>> ฟุตบอล เป็นชีวิตจิตใจของคนเยอรมัน เป็นกีฬาสำคัญประจำชาติทีเดียว ผมเรียนที่ Hannover บ้านอยู่ไม่ไกลจากสนามบอล เคยเข้าไปดูในสนาม มองไม่ค่อยเห็นหรอกครับ แต่เสียงเชียร์และบรรยากาศในสนามดังเร้าใจ มันส์ได้อารมณ์ดีจริงๆ คงเป็นเสน่ห์อย่างนี้นี่เอง ที่คนต้องเข้าไปดูในสนาม  กองเชียร์เขาชอบเครื่องเป่า เสียงคล้ายปี่ ปีนๆ ก่อนสอบ 1 วัน คนอื่นดูบอลกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ผมนั่งดูหนังสืออยู่คนเดียว ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านเชียร์บอล เสียงดังลั่นเข้ามาถึงในห้องผม ปรากฏว่าปีนั้น 72 (หรือ 74) เยอรมันได้แชมป์บอลโลก ครับ ก่อนหน้านี้บอลเยอรมันชนะอังกฤษ ไม่แน่ใจว่า ปีเดียวกันหรือปีก่อน ทำให้คนเยอรมันดีใจกันยกใหญ่ กลายเป็น talk of the town อยู่นานทีเดียว ขนาดชั่วโมงเรียน อาจารย์ยังคั่นรายการคุยเรื่องนี้ เห็นคนเยอรมันคุยกันรู้สึกได้เลยว่า เป็นความหวังลึกๆของคนเยอรมันที่จะชนะบอลอังกฤษสักครั้ง ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 23 ม.ค. 51 21:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 47 พูดถึงบอลแล้วผมนึกถึงเพื่อนคนไทยที่ Hannover พวกเราเรียก หนูเหล็ง ชื่อจริง อัมรินทร์ อุดมศิลป์ เพื่อนคนนี้ ปกติเป็นคนเดินช้าๆ แต่พอเล่นบอลแล้วว่องไว วิ่งเร็ว เป็นคนละคนเลย แข้งขาน่องมีกล้ามแข็งแรง สมกับนักกีฬา ถ้าดูทีวีหนูเหล็งจะพากษ์บอลได้ขนาดไม่ต้องเห็นหน้า เห็นหลังไวๆ วิ่งมา หนูเหล็งจะบอกได้ทันทีว่าเป็นใคร ใครเป็นใครในทีมบอกรายละเอียดได้ ดาราสมัยนั้นดาวยิงชื่อ Gerd Mueller เพื่อนๆเคยได้ยินชื่อใช่ไหม ? ตอนยิงลูกโทษ หนูเหล็งเห็น Mueller วิ่งออกมาก็บอกได้ก่อนว่าจะยิงบอลไปทางไหน เขาเฉลยให้ฟังว่า ดูจากการขยับขา ขยับเข่าอย่างนั้น อย่างนี้ ประมาณนี้ ฟังเขาบรรยายรายละเอียดรู้วิธีดูบอลแล้ว เคลิ้มเหมือนกัน (ผมเข้าใจว่า คู่แข่งคงจะจับจุดของ Mueller ได้ ตอนหลังๆ ยิงลูกโทษจึงไม่ให้ Mueller ยิง ผมสังเกตเอง ผิดถูก ไม่รับรอง) ไม่น่าแปลกที่หนูเหล็งจะพากษ์บอลเก่ง ประวัติหนูเหล็งตอนอยู่เมืองไทยเขาเป็นนักจัดรายการเพลงชื่อดังเชียวครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 23 ม.ค. 51 21:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เยอรมันเล่นบอลเป็นวิทยาศาสตร์ ผมเห็นในทีวี เขาซ้อมรับลูกโทษ ผู้บรรยายเล่าว่า ลูกโทษยิงออกมามีความเร็ว ... m/s หรือ km/h เร็วมาก เร็วจนคนจะตัดสินใจไม่ทัน หรือ ยากที่จะทัน เดาว่า ประตูคงจะดูอาการคนยิง แล้วเดาทางบอลก่อนที่บอลจะพุ่งออกมาครับ บอลโลกคราวก่อน เมื่อตัดสินด้วยลูกโทษ ผมทายได้ก่อนว่า เยอรมันจะชนะ รู้สึกจะทายถูกใช่ไหมครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 23 ม.ค. 51 21:34:21 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คห 39 หมายถึงคุณสุจินต์ >>>>>>>> คุณสุจินต์ ที่เบนซ์ใช่ไหม ? ครับ แต่แค่เดานะครับ อาจไม่ใช่ก็ได้ครับ แต่ยังไงก็ขอขอบคุณความรู้ของ คุณลุง ช่างกลหนุ่ม มากครับ จากคุณ : แว่นน้ำ(ยืมล๊อคอินหลาน) (บูมกุ้ง) - [ 24 ม.ค. 51 05:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 50 นับถือครับ  ได้มุมมองใหม่ๆเยอะเลย จากคุณ : นายลุงหมี - [ 24 ม.ค. 51 20:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ได้เกร็ดอะไรในชีวิตที่มากกว่า...ออโต้บาร์น...อีกนะครับ ขอบคุณ คุณ(พี่)ช่างกลหนุ่มครับ สำหรับความรู้... จากคุณ : aaa_a...ครับผม - [ 25 ม.ค. 51 12:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณครับ กระทู้ล่วงไปแล้วผม เซฟเก็บไว้แล้วครับ จากคุณ : djpog - [ 28 ม.ค. 51 23:16:50 ]