ที่มา จากประชาชาติธุรกิจ ผมช่วยดันมวยรองให้แจ้งเกิดในไทยกันเยอะๆครับ


"ซูซูกิ" เผยเตรียมเดินหน้าผลิตอีโคคาร์ 2 รุ่น ใช้เครื่อง 996 ซีซี และเครื่อง 1242 ซีซี หลังเทงบฯ 9.5 พันล้าน ตั้งโรงงานผลิตขึ้นในไทย ลั่นขอผลิต 1.38 แสนคันใน 5 ปี แย้มใช้ไทยเป็นฐานผลิตก่อนส่งออกทั่วโลก



นายทากายูกิ ซิกิยาม่า หัวหน้ากลุ่มการตลาดภาคพื้นเอเชีย 2 แผนการตลาดยานยนต์ภาคพื้นเอเชีย ฝ่ายการตลาดทั่วโลก ของบริษัทซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานหลังจากการประกาศลงทุนในประเทศไทยมูลค่า 9,500 ล้านบาท เพื่อขอรับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ เบื้องต้นบริษัทมีแผนที่จะผลิตรถยนต์อีโคคาร์ภายในปี 2557 จะมีปริมาณการผลิตทั้งสิ้น 138,000 คัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อการจำหน่ายในประเทศ 19% และการผลิตเพื่อส่งออก 81% โดยตลาดส่งออกหลัก คือ เอเชีย ออสเตรเลีย และแอฟริกา

ทั้งนี้ในส่วนของโรงงานใหม่นั้น บริษัทจะใช้พื้นที่ทั้งสิ้น 412 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด โดยเบื้องต้นจะใช้พื้นที่เพียงบางส่วนเพื่อใช้ก่อสร้างโรงงานสำหรับผลิตรถยนต์อีโคคาร์ ส่วนพื้นที่ที่เหลือนั้นอาจจะมีการลงทุนเพื่อผลิตรถยนต์ในโมเดลอื่นๆ ต่อไปในอนาคต โดยรถยนต์ที่จะถูกทำมาเป็นอีโคคาร์นั้นจะมีพื้นฐานมาจากรถซูซูกิ สวิฟท์ ที่มีอยู่เดิม

ส่วนสาเหตุที่บริษัทตัดสินใจเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานการผลิตขึ้นที่ประเทศไทยนั้น เนี่องจากโครงการอีโคคาร์ถือเป็นสินค้าที่มีความแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งมีความน่าสนใจในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางอุตสาหกรรมที่ดี และมีฐานการผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สำคัญ

ประกอบกับพื้นที่ตั้งของประเทศไทยถือว่ามีความได้เปรียบ เนื่องจากเป็นประเทศศูนย์กลางของเอเชียซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก

"ที่เราเลือกมาลงทุนในประเทศไทย ทั้งที่เรามีโรงงานอยู่ในหลายประเทศของภูมิภาค เพราะเรามองเห็นว่าประเทศไทยมีความได้เปรียบในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค การมีพื้นฐานทางอุตสาหกรรมที่ดี รวมถึงการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญและยังมีอุตสาหกรรมสนับสนุนอยู่เพียบพร้อมซึ่งนั้นถือเป็นส่วนสำคัญที่เราเข้ามาลงทุนซึ่งหากรวมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนที่จะตามมาก็คงมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านด้วย"

ทั้งนี้บริษัทไม่คาดว่าจะมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ให้ความสนใจเข้าขอรับการลงทุนมากถึง 7 ราย ซึ่งก็เชื่อว่าทั้ง 7 รายอาจจะไม่ได้รับการอนุมัติทั้งหมด แต่หาก 7 รายได้รับการอนุมัติทั้งหมดก็จะส่งผลต่อแผนการดำเนินการของบริษัทบ้างเล็กน้อยในเรื่องของเป้าหมายการมีส่วนแบ่งในตลาดเดิมที่ตั้งไว้อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

อนึ่ง มูลค่าการลงทุนที่ 9,500 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็นการลงทุนโดยไม่รวมมูลค่าพื้นที่และเงินหมุนเวียนคิดเป็นมูลค่า 7,304 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในส่วนของเครื่องจักรมูลค่า 6,316 ล้านบาท ตามแผนการลงทุนที่บริษัทได้ยื่นกับ บีโอไอนั้น จะเป็นการลงทุนเพื่อผลิตรถยนต์อีโคคาร์รวม 2 รุ่น โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 996 ซีซี และขนาด 1242 ซีซี โดยทั้ง 2 รุ่นจะผ่านมาตรฐานตามที่บีโอไอกำหนด