ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าไฟตัดหมอกยังไม่เท่าไหล่ แต่พวกใส่ชุดซีนอนนี่แสบตาจริงๆเวลามาจ่อท้าย จากคุณ : civil40 - [ 1 มี.ค. 51 02:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในห้องนี้เค้ามีคำคมสำหรับพวกนี้อยู่ครับ รู้สึกว่าจะเป็นคำนี้นะครับ " เปิดหาหอก หมอกไม่มี"  ประมาณนี้นะครับ จากคุณ : ใบไผ่ลู่ตามลม - [ 1 มี.ค. 51 03:01:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 "นานๆทีมีหมอก ไอ้หอก เสือกไม่เปิด" จากคุณ : smokie - [ 1 มี.ค. 51 05:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หมอกหน้าไม่รู้สึกครับ ผมเลยไม่เครียด. แต่หมอกหลัง แดงแปร๊ดดดด จากคุณ : ลำไผ่ บ้านท่า - [ 1 มี.ค. 51 07:57:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตัดหมอกหน้า เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยแยงเท่าไหร่ (ไม่ใช่ไม่มี) แต่แสบตัดหมอกหลัง กับซีนอนมากกว่า จากคุณ : EITHER - [ 1 มี.ค. 51 08:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไฟตัดหมอกต้องเป็นแสงสีเหลือง ตัดหมอกไม่ได้ เปิดตอนมีหมอกแค่ทำให้รถทีสวนเห็นเราชัดขึ้น ส่วนไฟสปอร์ทไลท์ในกันชนที่รถรุ่นใหม่ติดมาให้นั้นผมว่าติดเพื่อความสวยงามมากกว่าครับ ถ้าฝนตกหนักแล้วเปิดมันจะสะท้อนเข้าตาตัวเอง ถ้าถนนมืดก็จะช่วยมองพื้นถนนได้ ท่านใดคิดยังไงก็แล้วแต่เถอะครับ ผมขับรถไปต่างจังหวัดพอซีนอนมาพบยังรีบขับชิดซ้ายเลย จากคุณ : palace - [ 1 มี.ค. 51 08:44:20 A:58.9.145.122 X: TicketID:167624 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตัดหมอกหลัง vios นี่ตัวดีเลยครับ แยงยิ่งกว่าตัดหมอกหน้าซะอีก จากคุณ : ^oio^ - [ 1 มี.ค. 51 08:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คนเปิดไม่ได้อ่าน คนอ่านไม่ได้เปิด จากคุณ : สู่โลกกว้าง - [ 1 มี.ค. 51 09:33:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่เคยแสบตาจากไฟตัดหมอกหน้าที่ติดมาจากโรงงานเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ไอ้พวกเปลี่ยนซีนอนทั้งไฟหน้า ไฟตัดหมอกนี่สิ น่าจะโดดลงไปกระตื้บๆๆๆๆๆๆ แล้วลากลงมาอยู่หน้ารถตัวเอง ให้มันนั่งดูไฟตัวเองซัก 2 ชั่วโมง ส่วนไฟตัดหมอกหลัง มันไม่ได้ช่วยให้เจ้าของรถมองเห็นวิสัยทัศน์ดีขึ้นเลย ไม่รู้จะเปิดทำไม จากคุณ : LAPD21 - [ 1 มี.ค. 51 10:02:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อเช้ามืดถนนนวมินทร์เจอวอลโว่ s80 ขับตั้งแต่แยกลำสาลีถึงอุโมงเกษตรไม่เปิดไฟเลย ผมว่าอันตรายมากถึงแม้ว่ามันจะเป็นถนนวันเวย์ก็เถอะครับ ส่วนไอ้พวกเปิดไฟตัดหมอก(กรณีไม่มีหมอกลงจัด ถือว่าเป็นพวกหมอกหงอยคือหมอกไม่ร่าเริง)/ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลัง/ขับช้าแช่ขวา /เปิดไฟสูงตลอดทาง/ขับจี้ตูดชาวบ้าน/ขอเลนไม่ให้สัญญาณ....คงต้องช่วยกันรณรงค์ต่อไป จากคุณ : หญ้าไซร - [ 1 มี.ค. 51 10:04:08 A:124.121.22.80 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 9 จากคุณ : ต่างคน ต่างความคิด (อยู่อย่างเมาๆ) - [ 1 มี.ค. 51 10:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โหวตครับ เพราะเซ็งกับไฟตัดหมอกทั้งหน้าและหลัง รวมทั้งซีนอนทั้งหลายแหล่ครับ ผมว่ามันเกินความจำเป็นครับ จากคุณ : SuppayaBoy - [ 1 มี.ค. 51 10:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แนะนำให้พกหนักกระติ๊ก... สอยซะเลยครับ -*- จากคุณ : แล่งใต้ดีเหลืออู้เหนือหวานนัก - [ 1 มี.ค. 51 11:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าผมตัดสติกเกอร์ติดหลังว่า "No fog No Fog Light" "หมอกไม่ลงฝนไม่ตกเปิดทำ xxxxx เหรอ"    <<< ออกแนวสิบล้อ คิดไม่ออกแล้ว นอนซะ 12 ชั่วโมง..เล่นเอาเบลอเลย - -" จากคุณ : CK5 - [ 1 มี.ค. 51 11:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พูดไปก็เท่านั้น  ไอ้พวกนี้มันไม่รู้ภาษาคน ชื่อก็บอกว่าไฟตัดหมอก  ถ้าสมองคิดได้มันก็ไม่เปิดกันหรอก จากคุณ : ton99 - [ 1 มี.ค. 51 12:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 --- จากคุณ : u2pop2 - [ 1 มี.ค. 51 12:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ด้วยความเคารพทุกท่านนะคับ ผมเปิดไฟตัดหมอก หรือจะเรียกอะไรก็ตาม มันทำให้ทัศนวิสัยด้านข้างตัวรถมีมากขึ้น ผมก็ลองทดสอบดูแล้วโดยการขับรถที่บ้านอีกคันสวนกัน กับ civic ของผมที่เปิดไฟตัดหมอกที่ติดมาจากโรงงาน มันไม่แสบตาเลย ถ้าเราไม่ไปจ้องที่ไฟ ผมเปิดเพื่อความปลอดภัยและได้ใช้งาน ไม่ได้เปิดหาหมอก แต่เปิดให้ข้างทางมันสว่างขึ้น มองเห็นได้กว้างขึ้น และผมคิดว่า การที่เราไปเรียกมันว่าไฟตัดหมอก มันทำให้ต้องจำกัดการใช้งาน หรือประโยชน์ที่จะได้รับจากมันเลยหรือ ด้วยความเคารพทุกท่าน แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 51 14:18:28 จากคุณ : Mr. John Smith - [ 1 มี.ค. 51 14:18:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แต่ผมว่า ตัดหมอกหลังของวีออสใหม่นี่ ปัญญาอ่อนที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เข้าตาโคตรๆ จากคุณ : เจอมาเต็มๆ (ดีเจทอม) - [ 1 มี.ค. 51 14:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตาม ค.ห 18 เลยครับ เจอเมื่อคืนนี้เองวีออส กำลังกลับกรุงเทพมันแซงไปผมก็นึกว่ามันเบรกอะไร ข้างหน้าก็ว่าง  แสงไฟมันแสบตามาก ว่าจะสวนแล้ว เสียดายมันไวกว่า อิอิ จากคุณ : กล้วยทอดสี่แยก (zrrzz) - [ 1 มี.ค. 51 15:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณผู้ใช้นามแฝงว่า Mr. John Smith ... ไฟตัดหมอกหน้า เน้นว่าด้านหน้านะครับ มันจะแยงตาชาวบ้านเฉพาะบางคันเท่านั้นครับ รถบางรุ่นไม่แยงตาเลยก็มีจริงๆ บางรุ่นแยงตาจริงๆ และ มันจะแยงชัดๆบนถนน 2 เลนสวนกัน หรือ ในซอยแคบๆเท่านั้น เพราะ รถมันต้องวิ่งสวนกันแบบใกล้ชิด แสงไฟที่คุณบอกว่าช่วยให้เห็นข้างๆนั่นแหละ มันจะไปบดบังทัศนวิสัยด้านข้างของคนที่ขับรถสวนมา พูดง่ายๆก็คือ แสงไฟที่ฟุ่งด้านข้างรถคุณ ทำให้คนที่ขับรถสวนมาเค้ามองไม่เห็นด้านข้างรถคุณ ทำให้กะระยะลำบาก ผมเคยเจอแบบนี้ครั้งนึง ต้องจอดครับ เพราะไม่แน่ใจว่าจะพ้นมั๊ย .... ที่คุณว่าคุณเห็นชัดขึ้นก็อาจจะจริง แต่ถ้ามันทำให้คนอื่นลำบาก คุณก็ลองคิดเองแล้วกันว่า ทำไงดี... ด้วยความเคารพเช่นกัน จากคุณ : nuinonthaburi - [ 1 มี.ค. 51 16:01:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เปิดไฟเยอะขึ้นมันย่อมมองเห็นมากขึ้นแน่ แต่ถามหน่อยว่าทำไมคนปกติเขาขับรถ  ทำไมเขาไม่เปิดไฟสูงขับกันไปเลยล่ะ ทั้งๆที่รถบางรุ่นเวลาเปิดไฟสูง  มันติดทั้งไฟต่ำและไฟสูง  เห็นสว่างทั่วไปหมด เรื่องแยงตาไม่แยงตา อันนี้เบื่อที่จะพูดแล้ว  เอาเป็นว่าคนที่ใช้มันไม่ค่อยมีบอกหรอกครับว่าไฟมันแยงตาใคร ตั้งแต่ไฟตัดหมอก ยันพวกไฟ Xenon เถื่อน ความเข้าใจของคนบางคน  คำว่าแยงตา  คือแสงไฟตรงๆที่ส่องเข้าตา แต่ตามหลักการแล้ว  แสงแยงตาเขาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท และประเภทที่คนชอบแกล้งลืมคือ แสงฟุ้ง (glare) กฏหมายเขาบังคับขนาดกำลังไฟเอาไว้  ก็เพราะกันไม่ให้แสงฟุ้งมันเกิน เขาบังคับจำนวนหลอดเอาไว้  ก็เพราะกันไม่ให้แสงฟุ้งมันเกิน ไม่ให้เปิดไฟตัดหมอกซี๊ซั๊ว  ก็เพราะกันไม่ให้แสงฟุ้งมันเกิน อันนี้เป็นข้อกฏหมาย ข้อ 13 ในเวลาที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอที่จะมองเห็นคน สัตว์ รถ หรือ สิ่งกีดขวางในทางได้โดยชัดแจ้งภายในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร (1) ใช้โคมไฟแสงพุ่งไกลเมื่อไม่มีรถสวนมา (2) ใช้โคมไฟแสงพุ่งต่ำเมื่อมีรถสวนมา (3) ในกรณีที่รถมีโคมไฟแสงพุ่งไกลหรือโคมไฟแสงพุ่งต่ำติดห่างจากด้านข้าง สุดของรถเกิน 0.40 เมตร ต้องใช้โคมไฟเล็กในเวลาขับรถด้วย (3 ทวิ) ในกรณีที่รถมีโคมไฟเพื่อใช้ตัดหมอก  จะเปิดไฟหรือใช้แสงสว่างได้ เฉพาะในทางที่รถจะขับผ่านนั้นมีหมอก ควัน หรือฝุ่นละอองจนเป็นอุปสรรค อันอาจจะเกิดอันตรายในขณะขับรถ  และเมื่อไม่มีรถอยู่ด้านหน้าหรือสวนมา ในระยะของแสงไฟ และอันนี้เป็นข้อมูล  ที่ผมเคยเขียนเอาไว้นานแล้ว http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ton99&month=02-2007&date=12&group=1&gblog=52 ท่านใดที่ยังเข้าใจผิดอยู่  โปรดอ่านเพื่อเข้าใจใหม่ให้ถูกด้วย จากคุณ : ton99 - [ 1 มี.ค. 51 16:22:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อย่าไปจ้องมันสิครับ -*- ไม่เห็นจะยากเลย !!! เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บนท้องถนน ผ่านมาแล้วผ่านไป อย่าเอาไปคิดให้มันปวดหัว ปล. ผมไม่เห็นว่าไฟตัดหมอกมันจะแสบตาตรงไหนเลย อย่าไปจ้องมันสิครับ แต่ไฟ Xenon ผมยืนยันได้เลยครับว่ามันแสบตาจริง เพราะผมใส่อยู่ จากคุณ : R.Tiyanuch - [ 1 มี.ค. 51 17:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อีกนิดนึงครับ.... ไฟตัดหมอกหลังตระกูล TOYOTA ทุกรุ่น ผมก็ยืนยันครับ ว่าแสบตาจริง เพราะมันอยู่ตรงหน้า  ไม่รู้จะหลบสายตาไปยังไง ขอบคุณครับ แต่เรื่องไฟตัดหมอกหน้า อย่าเอาไปคิดให้ปวดหัวครับ ^_^ จากคุณ : R.Tiyanuch - [ 1 มี.ค. 51 17:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมยังไม่เคยเห็นไฟตัดหมอกหน้า(ที่คนไทยนิยมเรียกกัน) มันจะแยงตาเลยครับ   ตรงกันข้าม พวกรถที่ใส่ไฟสีขาว หรือบรรทุกของแล้วไม่ยอมปรับระดับไฟ หรือเปิดไฟสูงค้าง มันแยงตากว่าเป็นไหนๆ จากคุณ : Kasteo - [ 1 มี.ค. 51 20:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ด้วยความเคารพ รถผมน่าจะเป็นหนึ่งในรถที่ไฟตัดหมอกหน้าไม่แสบตา เพราะผมลองแล้ว ไม่แสบตา ลองด้วยตัวเอง ไม่ได้ใช้ความรู้อะไรมากหรอก และถ้าจะปฏิบัติตามกฏหมายยิ๊บย่อยที่มีอยู่ของไทย ผมคิดว่าคงมีรถน้อยคันในประเทศไทย ที่จะสามารถวิ่งบนถนนเมืองไทยได้ กฏหมายควรทำตาม อันนั้นถูกต้อง แต่ใครจะทำตามได้หมด ผมไม่เชื่อหรอก ด้วยความเคารพ จากคุณ : Mr. John Smith - [ 1 มี.ค. 51 20:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จริงๆ ไม่เคยมีปัญหากับไฟตัดหมอกหน้าเลย แต่วันนี้มาเจอ Vios ไฟตัดหมอกหน้า แสบตาโคตรๆ เซ็งเลย จากคุณ : BaLL182 - [ 1 มี.ค. 51 21:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เคารพอะไรครับ  พูดเลอะเทอะติดปากเปล่าๆ เพราะคุณไม่ได้เคารพใครเลย คิดเองเออเองว่าไม่เดือนร้อนใคร ผมเอาข้อมูลมาให้อ่าน  ก็ไม่เอาเข้าหัว สรุปว่าจะดื้อด้านเปิดไปอย่างนั้น จากคุณ : ton99 - [ 1 มี.ค. 51 21:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับคุณ R.Tiyanuch  ครับ ผมว่าไฟตัดหมอกไม่แสบตาเท่าซีน่อนครับ  บางคนติดซีน่อน แถมเป็นสีฟ้า สีขมพูอีก ยิ่งรถสูงๆโอ้ แสบตาครับ   สำหรับผมแล้วพวกติด ซีน่อน แสบตากว่าเยอะครับ จากคุณ : Ferio_SiR - [ 1 มี.ค. 51 21:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แสบตาจริงด้วย ขนาดดูรูปใน คห.8 ยังแสบตาเลย จากคุณ : SCO - [ 1 มี.ค. 51 21:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเปิดหมอกหน้าทุกวันครับชัดดี คันที่สวนผมมาส่วนมากก็เปิด แต่ก็ไม่แยงตาครับ คันที่แยงตาชาวบ้านน่าจะเกิดจากการปรับตั้ง มากกว่าครับ แยงให้ต่ำหน่อยก็ โอ แล้วครับ จากคุณ : แสงจันทร์ (pyf) - [ 1 มี.ค. 51 21:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไฟตัดหมอก ,ซีนอนมาจ่อท้าย   เป็นเหตุผลที่ต้องรีบกลับบ้านก่อนมึด ไม่งั้นจะขับรถหงุดหงิดมาก จากคุณ : Galim_ - [ 2 มี.ค. 51 00:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คิดเองเออเองเยอะจริงๆ ถ้ารถคุณสูงกว่าคันอื่นคุณก็มองว่าคันอื่นไม่ได้แยงตา แต่คุณเองแยงตาคนอื่น จริงแล้วหลายๆคนเขาเอาข้อมูลต่างๆมาบอกเอาภาพและวิธีใช้มาบอกยังพยายามไม่ยอมรับอีก จากคุณ : จะเด่น ณ ปานนั้น - [ 2 มี.ค. 51 04:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านคู่มือบางหรือเปล่า อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน จากคุณ : จะเด่น ณ ปานนั้น - [ 2 มี.ค. 51 04:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมขับเก๋ง เจอกระบะเปิดนี่ ยังกะพระอาทิตย์เลยครับ กระบะสูงกว่าแสงไฟเข้าตาพอดี แย่นะครับ จะไปว่าเขาก็ไม่ถูก เขาไม่รู้นี่ครับ แต่ผมก็รู้สึกแย่มาก จากคุณ : ปุถุชน - [ 2 มี.ค. 51 08:15:14 A:125.24.102.132 X: TicketID:126935 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ติดไว้ แล้วใช้ให้ถูกกาละ เทศะ ไม่ผิดครับ *เปิดเฉพาะเวลา มีหมอกจริงๆ *ห้ามเปิด เวลา สภาพอากาศปกติ -- เนื่องจากไฟตัดหมอก จะเป็นแสงแบบกระจายทุกทิศทุกทาง ทำให้มองเห็นได้ชัดแม้เวลามีหมอกหนา หมายถึง ให้รถคันอื่นมองเห็นเรานะครับ ไม่ได้ช่วยให้เรามองเห็นมากขึ้นกว่าเดิมเลยครับ ***เพราะฉะนั้น ในสภาพปกติ ไม่ได้ช่วยให้เรามองเห็นดีขึ้นเลย แต่กลับจะไปแยงตาชาวบ้านเค้ามากขึ้นครับ  ขอร้องหละครับ ถ้าไม่มีหมอกอย่าเปิดเลยครับ อาจเป็นสาเหตุทำให้รถคันอื่นประสบอุบัติเหตุได้ครับ ระวังจะโดนข้อหาพยายามฆ่านะครับ -- บางคนบอกว่า ถ้าเปิดแล้วผิด แล้วเค้าติดตั้งมาในรถให้ทำไม ** ตอบได้เลยว่า ติดไว้ไม่ผิดครับ แต่ใช้ผิด ก็โดนจับครับ ยกตัวอย่าง --- คุณแวะซื้อมีดกลับมาบ้าน 1.คุณใช้มีดไปทำอาหาร  ---  ไม่มีความผิดครับ 2.คุณใช้มีดไปแทงคนตาย --- ผิดแน่นอนครับ **สรุป** คนที่ชอบเปิดไฟตัดหมอก โดยคิดว่าเท่ คิดว่าไม่ผิด ไม่หนักหัวใคร เลิกซะเถอะครับ อย่าเอาเปรียบสังคมอีกเลย . แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 51 11:09:58 จากคุณ : เอ-อุบล - [ 2 มี.ค. 51 11:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 36 - ขอร้องหละครับ ถ้าไม่มีหมอกอย่าเปิดเลยครับ อาจเป็นสาเหตุทำให้รถคันอื่นประสบอุบัติเหตุได้ครับ ระวังจะโดนข้อหาพยายามฆ่านะครับ อันนี้ผมว่าออกแนวเวอร์ไปหน่อยนะครับ ไม่หน่อยสิครับ ผมว่าเวอร์จริง ๆ !!! แต่ผมก็ไม่ได้สนับสนุนให้เปิดกันนะครับ น่าจะเป็นเฉพาะคนกลุ่มน้อยนะครับที่มีปัญหากับไฟตัดหมอก เพียงแต่ว่า ในสังคมส่วนใหญ่มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว เราน่าจะทำใจและยอมรับครับ ถ้าไม่เดือดร้อนอะไรมากครับ สมมติว่าอีกหน่อยไฟ Xenon คือไฟมาตรฐานรถที่มาจากโรงงานทุกคัน เราก็ควรที่จะยอมรับกัน ถูกต้องมั้ยครับ ^_^ ปล. นี่คือความคิดเห็นของผมครับ จากคุณ : R.Tiyanuch - [ 2 มี.ค. 51 11:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไฟตัดหมอก จะเป็นแสงแบบกระจายทุกทิศทุกทาง เวลาขับรถสวนทางกับรถที่เปิดไฟตัดหมอกนี่ จะทำให้ตาพร่าไปชั่วขณะหนึ่งครับ มองไม่เห็นข้างหน้าเลย เหตุนี้แหละครับจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ขอเถอะครับ...ช่วยกันอย่าใช้ไฟตัดหมอกเลยครับ(แล้วช่วยเอาไปบอกต่อๆ กับพ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอา ญาติสนิท มิตรสหาย กันด้วย)เอาไว้ใช้เวลาที่มีหมอกหรือควันหนาๆเถอะครับ เปิดไฟหน้าแบบธรรมดาก็น่าจะเห็นทางแล้วนะครับ จากคุณ : SaMuRaiJiBi - [ 2 มี.ค. 51 12:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่เข้าใจจริงๆว่า " ทำไม " คนบางจำพวกถึงใช้เวลาที่จะเข้าใจใน " เหตุ และ ผล " ได้ช้ากว่าคนอื่น การจราจรบนท้องถนนคุณต้องใช้ " ร่วม " กับคนอื่นๆในสังคม จึงควรที่จะเคารพสิทธิของคนรอบข้างบ้าง ไม่รู้ว่าจะ " แถเอาเท่ " ไปทำไม " ไม่เข้าใจจริงๆ " ไม่มีหมอกก็ไม่รู้จะเปิดเอาอะไรกันครับพี่น้องครับ !!!!!!!                                                   > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini - [ 2 มี.ค. 51 22:30:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตามคห.20 และ37 ค่ะ เอ่อ  แล้วตามที่คุณ R.Tiyanuch บอกว่า อย่าไปจ้องมันสิ คือ อันที่จริง ไม่ได้อยากจ้องเลยค่ะ   เวลาขับรถในหมู่บ้านสวนกัน แต่ไอ้รถที่สวนมาเปิดไฟตัดหมอก ขนาดไม่จ้อง แสงไฟมันยังแยงลูกกะตาเลย  ทำเอาตาพร่า มองไม่เห็นเส้นแบ่งถนนค่ะ จำได้ว่า มันสว่างขยายกว้างทั้งกำแพงยันใบไม้บนต้นไม้ทั้งสองฝั่ง สว่างถึงเลยค่ะ   ดิฉันกลัวอย่างเดียวค่ะ ว่าจะขับรถเอนเอียงไปจิ้มหน้ารถคันนั้น  แหะๆ อันที่จริง  แค่ไฟสองดวงด้านหน้า ก็ทำให้มองทรรศนียภาพชัดนะคะ แต่ถ้าใครว่าไม่ชัด  ลองพิจารณาฟิล์มติดกระจกบานหน้าดีกว่าค่ะ อาจจะมืดไป ทำให้คุณว่า แสงที่มันน่าจะเพียงพอ ที่ติดรถเดิมๆมาให้ มันไม่สว่าง  ทำให้ต้องเปิดไฟตัดหมอกช่วยคุณในการมองถนน โดยไม่นึกถึงคนรอบข้างที่ขับรถสวนกับคุณ จากคุณ : YaM_NoT - [ 2 มี.ค. 51 23:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ใครว่าไฟตัดหมอกหน้าไม่แสบ หึๆๆๆ แสดงว่าไม่เคยขี่มอไชค์ สวนกับรถจำพวกสูงๆ แถมตำแหน่งไฟตัดหมอกก็สูง เช่น ฟอร์จูนเนอร์ ไตรตันพลัส ขี่มอไชค์สวนทีไร ลงหลุมทุกที หน้ามืดไป 3 วิ ปล. 3 วิ บนถนน ไม่น้อยน๊ะครับ ยิ่งคนเป็นต้อลมด้วยแล้ว หึๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 51 02:29:14 จากคุณ : คิดว่าตัวกรูถูกเสมอรึ (Pickmon) - [ 3 มี.ค. 51 02:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ทะเลาะกันไปๆมาๆ  ก็ให้ติดกันทุกคัน แล้ว ก็เปิดใช้กันทุกคัน ต่อไปบนท้องถนน ตอนกลางคืน ก็มีแต่ไฟตัดหมอก+ซีนอล ก็แล้วกัน จากคุณ : la-on-jang - [ 3 มี.ค. 51 11:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับเสียงส่วนใหญ่ในกระทู้นี้ครับ เรื่องไฟตัดหมอกก็พูดกันมานานแล้ว     มีเหตุผลให้ด้วย แต่ทำไมหลายคนพยามไม่เข้าใจ เหมือน คห.38  ว่าไว้ครับ   ถนนมันใช้ ร่วมกันนะครับ ไม่ได้ขับอยู่คนเดียว   เห็นใจเพื่อนร่วมทางบ้าง จากคุณ : หมูดำอ้วนเตี้ย - [ 3 มี.ค. 51 12:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมเจอบางคันเอาไปติดตำแหน่งสปอร์ตไลต์ด้วย.......... เปิดเสีย.................... สวนกับผมเจอส่องไฟสูงเตือนแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากเปิดไฟพวกนี้ต้องมีหมอก........หรือไม่ก็เข้าป่า................ มีรถวิ่งอยู่คันเดียว.................ไม่ต้องเกรงใจใคร...พี่แถเอ๋ย จากคุณ : sagurahi - [ 3 มี.ค. 51 12:28:35 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยมากๆกับ คห 38 ครับ จากคุณ : dna-design - [ 3 มี.ค. 51 15:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ใส่แว่นดำขับ จากคุณ : Korea so sad - [ 3 มี.ค. 51 18:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ... คุณ Mr. John Smith ครับ อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานครับ ไม่ทราบด้านข้างรถคุณที่คุณบอกว่าทำให้ทัศนวิสัยดีขึ้นน่ะ หมายถึงว่ามันห่างออกไปจากหน้ารถกี่เมตร ถามหน่อยว่า ถ้ามันหมาโผล่มาตัวนึง คุณเบรกทันไหม? เอาอยู่ไหม? ตอบมาแค่นี้พอครับ ผมว่าไอ้หน้ารถคุณที่ส่องไกล ๆ น่ะ ทัศนวิสัยด้านข้างเหลือแหล่ ความไกลของแสงที่ส่องออกไป ไม่กี่วินาทีก็วิ่งผ่านไปแล้ว ด้านข้างคุณไม่เห็นหรอครับ ไม่งั้นแสงรถคงเป็นลำเป็นเลเซอร์เลย ส่องแต่พื้นถนน ไม่มีกระจายไปด้านข้างบ้างเลยสิครับ ผมว่าไปลดความเข้มของฟิล์มบ้างก็ดีนะครับ มันกลืนแสงที่คุณควรจะเห็นไปเยอะนะครับ ... คิดแบบนี้ มอไซค์คงตายกันหมดล่ะครับ ไฟมันแย่กว่ารถยนต์เยอะครับ จากคุณ : พันท้ายนรสิงห์ - [ 3 มี.ค. 51 18:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ตัดหมอกหน้ารับได้ครับ แต่ตัดหมอกหลังนี่ไม่รู้จะเปิดกันทำไม หรือว่าติดมาแล้วกลัวไม่ได้ใช้... จากคุณ : Triton - [ 4 มี.ค. 51 09:47:34 ]