ความคิดเห็นที่ 1 เพราะไทยไม่มีบ่อน้ำมัน เป็นของตัวเองครับ..แถมต้องนำเข้า มาเพื่อใช้ในประเทศ กว่า 90% ฉะนั้นราคา อ้างอิง ก็ต้องอ้างอิง ราคา สิงคโปร์ ที่เป็น โบร๊คเกอร์รายใหญ่ ในย่านนี้.. ส่วนมาเลย์ เท่าที่ ได้ยินมา น่าจะมีบ่อน้ำมัน..เพียงพอที่ใช้ในประเทศ และเหลือส่งออก ครับ..เลยซัพพอร์ต ราคาให้ ..คนในประเทศได้อยู่.. แต่ฝ่ายค้านในประเทศ เค้า คงมี ค้านๆ มั๊งหล่ะ ค๊าบ แบบว่า จะปล่อยให้ เป็นไปตามกลไก ตลาด....อิอิ จากคุณ : ~cupid~ - [ 15 พ.ค. 51 19:27:38 A:222.123.23.83 X: TicketID:139017 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เฮ้อ วิชาการทีไร ...สีตก ทุกทีเลย ตรู.. จากคุณ : ~cupid~ - [ 15 พ.ค. 51 19:28:29 A:222.123.23.83 X: TicketID:139017 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นะบบบริหารจัดการที่ต่างกัน และ การรักษาประโยชน์ให้คนในประเทศ กับ กลุ่มนายทุน ต่างกันครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 15 พ.ค. 51 19:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณรู้ไหมครับว่ารัฐของมาเลอุ้มราคาน้ำมันไว้ ตอนนี้ขาดทุนถึง 5000 ล้านแล้ว เค้าจะขึ้นไม่ได้ อย่าง US ค่าน้ำมันตกลิตรล่ะ 30-32 บาทเองถูกกว่าบ้านเราอีกทั้งๆที่นำเข้าเพราะถ้าขึ้นปุ๊บคนของเค้าจะออกมาประท้วงรัฐก็ไม่กล้าขึ้น จะช่วยคนของเค้า จากคุณ : Chun (chunlive) - [ 15 พ.ค. 51 19:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ภาษีสรรพสารมิต ...เปล่าอะครับ.. จากคุณ : JJJJ (z_rubber) - [ 15 พ.ค. 51 20:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อุ้มครับ คล้ายๆกองทุนน้ำมัน...แต่อันนั้นใช้ตังรัฐบาล... จากคุณ : Milo - [ 15 พ.ค. 51 20:03:54 A:58.64.70.248 X: TicketID:168725 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อื่มมม   จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ - [ 15 พ.ค. 51 21:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น้ำมันเป็นสินค้า commodity ครับ แบบเดียวกับทองคำ, ข้าว สิงคโปร์เป็นตลาดกลางน้ำมันในย่านนี้ เรียกได้ว่าภูมิภาคบ้านเราซื้อขายกันที่นี่เป็นหลัก ราคาจึงถูกกำหนดโดยการเคาะซื้อขายกันที่นี่ (น้ำมันเขามีกระดานซื้อขายกันเหมือนหุ้นนะ) เมื่อได้ราคาเพื่อส่งมอบมาแล้ว คนซื้อก็ต้องส่ง คนขายก็ต้องจ่าย จึงมีราคาปิดในแต่ละวัน แต่ละช่วงเหมือนซื้อหุ้น ลองคิดดูว่าถ้าราคาน้ำมันในบ้านเราเป็น 10 บาท แต่สิงค์โปร์เขาซื้อขาย 30 บาท มันจะไม่มีคนซื้อในประเทศออกไปขายเหรอครับ หรือถ้าผมเป็นโรงกลั่นในไทย หรือมีเงินทุนซักหน่อย ผมก็ซื้อส่งออกไปขายไม่ดีกว่าหรือ ในทางกลับกัน ถ้าราคาน้ำมันบ้านเราเป็น 30 บาท ในขณะที่สิงคโปร์ขาย 10 บาท ก็ต้องมีคนนำเข้ามาขายที่ 30 อยู่แล้ว ส่วนโรงกลั่นในประเทศกลั่นออกมาก็จะขายไม่ออก ก็ต้องลดราคาลงมาที่ 10 บาท โดยแบกรับขาดทุนไว้เอง ตลาดน้ำมันมันเป็นแบบนี้ครับ (อันนี้เทียบให้เห็นแบบหยาบ ๆ นะครับ ในความเป็นจริงเขาต้องมีสูตรราคาที่เอาค่าขนส่งเข้ามาเกี่ยวข้อง และตัวแปรอื่น ๆ อีก) ถึงได้มีบางช่วงที่กลุ่มพลังงานเองก็ขาดทุน เพราะต้นทุนผลิตแพงกว่าราคารับซื้อในตลาด แต่ก็ยังต้องขาย หรือบางช่วงที่กำไรมาก เพราะได้น้ำมันดิบมาที่ต้นทุนถูก แล้วราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดมันขึ้นไปมาก อีกปัจจัยนึงที่ทำให้น้ำมันราคาแพงคือภาษีครับ ในน้ำมันที่เราใช้กันทุกวันนี้มีสารพัดภาษีรวมอยู่ เคยได้ยินมาว่าแทบจะครึ่งหนึ่งของราคาขายเลย (จริงหรือเปล่าไม่แน่ใจ) ทั้งภาษีอนุรักษ์พลังงาน, สรรพสามิต, มูลค่าเพิ่ม สำหรับผมมองว่าถ้ารัฐจะช่วยจริง ก็คงช่วยได้ในส่วนของด้านภาษี (พูดง่าย ๆ คือเก็บให้มันน้อยลงหน่อย) ส่วนตัวเนื้อน้ำมันเองคงไปแตะอะไรไม่ได้ เพราะมันเป็นไปตามกลไกตลาดครับ ถ้าประเทศไหนมีบ่อน้ำมันของตัวเอง แถมยังส่งออกได้เนี่ย ไอ้พวกภาษีที่ต้องเก็บจากการใช้น้ำมันรัฐบาลของประเทศนั้นก็คงไม่อยากจะเก็บหรอกครับ มันก็ลดราคาขายไปได้มากอยู่ล่ะ จากคุณ : Mr.CPA - [ 15 พ.ค. 51 21:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้าว ปลูกบ้านเรา ยังอิงราคาตลาดโลกเลย กรรมของคนไทย จากคุณ : EITHER - [ 15 พ.ค. 51 21:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข้าวแย่งกันขายนี่ครับ ไม่เหมือนน้ำมันเขารวมตัวกันขาย ไม่เห็นหรือว่าพอมีปัญหาเรื่องขาดแคลนข้าวแล้วราคาทำท่าจะขึ้น ฝรั่งมันถึงมาโวยวายใหญ่ว่าไม่ให้จำกัดเรื่องการส่งออก ไม่งั้นราคาตลาดโลกมันจะยิ่งขึ้นไปกว่านี้ จากคุณ : Mr.CPA - [ 15 พ.ค. 51 21:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมซื้อข้าวแกงปากซอยแถวบ้านกิน...ราคาตลาดโลกคับ :'P NGV ฉันใดฉันนั้น จากคุณ : ช่ง - [ 15 พ.ค. 51 21:49:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คห.2 สีตกจริงๆ เจอมาหลายกระทู้แล้ว --------------------------------------------------- ราคาตลาดข้อเสียตรงที่ผลกระทบล่ะ แต่ข้อดีทำให้รู้จักเติบโตนะ จากคุณ : AVSystem - [ 15 พ.ค. 51 23:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เพราะว่ารัฐบาลเค้าอุ้มไงคะ Subsidization รู้จักบ่ ถึงเค้าจะผลิตเองได้ ยังไงราคาที่ขายให้คนในประทศ มันก็ถูกกว่าส่งไปขายที่อื่น แต่เค้าก็เลือกที่จะ "จ่าย" ในส่วนต่าง ให้คนในประเทศเค้า มีพอบริโภค ในราคาถูกค่ะ ตรงนี้ รัฐเขาอุ้มไำว้ค่ะ ไม่อุ้มก็ราคาเท่า "ตลาดโลก" ที่รัฐบาลหน้าด้านบางประเทศ ชอบยกมาอ้างไงคะ ที่นี้เข้าใจหรือยังคะ ว่าทำไมรัฐบาลไทย ไม่จำเป็นต้องขึ้นราคาของอะไร ให้เท่ากับราคาโลกเสียทุกอย่าง เพราะต้นทุนมันมา ไม่เท่าราคาโลก ขายให้คนไทยด้วยกัน มันก็ต้องขายราคาไทยๆ ไว้ส่งไปนอก ค่อยขายราคาตลาดโลก เมืองไทยกับมาเลย์ ผิดกันก็ตรงนี้ค่ะ รัฐบาลเค้าทำเพื่อประชาชนค่ะ รัฐบาลไทย ทำเพื่อใครคะ? จากคุณ : สุธาสินี - [ 15 พ.ค. 51 23:52:48 A:124.121.112.226 X: TicketID:115358 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อืม จริงอย่างที่ค.ห.13ว่า จากคุณ : Fatdiary - [ 16 พ.ค. 51 00:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 13 แต่รัฐบาง มาจากการเลือกตั้งนะคราบบบบบบ จากคุณ : som13579 - [ 16 พ.ค. 51 01:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เคยรู้มะว่า มาเลเซีย เค้าเป็นหนึ่งใน โอเปค หมายความว่าเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกน้ำมัน ถ้าสามารถส่งออกได้แสดงว่ามีน้ำมันเหลือเฟือ พอที่จะขายขาดทุนได้ ทีนี้ขาดทุนมากเข้าคนฝั่งไทยแอบเอารถเข้าไปเติม เค้าพยายามจับไม่ดีใจที่คนไทยไปเอามาขายครับ ข่าวออกบ่อยๆ สงสัยเหลือเกินที่ไม่ให้อิงตลาดโลก ...สงสัยเหลือเกินถ้าเพื่อนๆเป็นชาวนา...ปลูกข้าวในแผ่นดินไทย...... พอข้าวตลาดโลกแพง...ข้าวไทยก็แพงชาวนาก็อยากขายแพง....เพื่อจุนเจือครอบครับ....แต่บังคับให้ขายถูกชาวนาคงไม่ยอมมั้ง..เกลือก็ใช่..ปลาในทะเลไทยก็ของคนไทยทุกคน..ชาวประมงแค่เอาเรือไปจับ...แต่มาขายแพงทำไม...........อิอิ..แค่สงสัย จากคุณ : 2 (บอลค้าบ) - [ 16 พ.ค. 51 06:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เฉพาะน้ำมันดิบที่ไทยนำเข้ามา (ยังไม่ได้กลั่น) ก็ตกลิตรละ 24.40 บาทแล้วล่ะครับ  (ค่าเงิน 32.50 บาท/USD)  พอกลั่นได้เป็นน้ำมันสำเร็จรูป  จนไปถึงผู้บริโภค  ต้องเสียภาษี และเก็บเข้ากองทุนน้ำมันอีกกว่า 5 บาท   อย่างดีเซลสิงคโปร์  ราคายังไม่บวกภาษี และเก็บเข้ากองทุน  ตอนนี้ก็ตกลิตรละ 33.09 บาทแล้วครับ อยากได้ราคาลิตรละ 15 บาท  ช่วยเข้าใจหน่อยนะครับ   อย่าเอาภาษีของคนทั้งประเทศมาอุดหนุนคนส่วนน้อยที่ใช้รถเลยครับ  สู้เอาเงินจำนวนนี้ไปสร้างระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่  หรือตัดถนนเพิ่มจะดีกว่านะครับ จากคุณ : จีเอส โมบาย - [ 16 พ.ค. 51 08:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ ชัดดีครับ จากคุณ : Ontjung - [ 16 พ.ค. 51 08:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ปตท. ประกาศผลกำไรไตรมาสแรกออกมาแล้ว ปรากฎว่าได้กำไร นิดหน่อยประมาณ 26,000  ล้านบาท จากคุณ : นายอิสระ - [ 16 พ.ค. 51 08:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ อย่างคุณ คห.19 ว่าปตท.ก็ยังคงกำไร ในขณะที่คนไทยเลือดเริ่มซึมออกตามผิวหนังแล้ว คุณ จีเอส โมบาย ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ แต่ความคิดเห็นของผมค้นคุณนิดเดียว ตรงที่ว่าคนส่วนน้อยที่ใช้รถ ผมว่า ณ ปัจจุบันไม่มีใครไม่ใช้รถหรอกครับกลุ่มคนทำงานทุกอาชีพ นักเรียนนักศึกษา ชาวไร่ชาวนา รถคือปัจจัย 5 ของคนปี2008 ไปแล้วครับ ถึงกลุ่มที่ไม่มีรถก็ต้องพึ่งรถรับจ้างรถโดยสาร ราคาน้ำมันกระเทือนถึงแทบทุกกลุ่มครับ ยกเว้นอยู่คนกลุ่มเดียวคือกลุ่ม......             แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 51 08:53:46 จากคุณ : border - [ 16 พ.ค. 51 08:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คิดแบบ คห 13 จากคุณ : artah - [ 16 พ.ค. 51 08:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คิดแบบ คห 13 เหมือนกันครับ ที่จริงก็เห็นด้วยกับ คห 17 นะ แต่ผมไม่เห็นเค้าจะสร้างระบบขนส่งมวลชนให้มันดีขึ้นเลย เห็นมีแต่จะสร้างน่ะ จากคุณ : saintjesas - [ 16 พ.ค. 51 09:10:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าผมเงินเดือน 2 แสน น้ำมันลิตรละ 50 ก็ไม่รู้สึก.... จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 16 พ.ค. 51 09:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คนไม่มีรถ ต้องแบกรับเอาเงินไปช่วย คนมีรถ ที่ออกมาบอก ว่าอยากใช้น้ำมันถูกๆโดยให้รัฐอุ้มช่วย เหมือน รบ.ทักษิณ ที่เป็นหนี้ เอาใจประชานิยม พอ รบ.ขิงแก่เลิกอุ้มไม่ประชานิยม(ด่าเขาไว้) จนใช้หนี้หมดแล้ว เลยมาจนถึง รบ.ปัจจุบัน รบ.เขาก็ไม่อุ้มแบบขิงแก่เพราะกลัวโดนด่าแบบ รบ.ทักษิณ ว่าประชานิยม พอไม่อุ้มก็ด่าว่าแบบ กระทู้นี้บานเลย แต่ถ้าอุ้ม แบบทักษิณ ก็จะถูกด่าว่า บิดเบือนราคาน้ำมัน เอาใจรากหญ้า ซื้อใจประชานิยมสุดโต่ง แก้แบบไม่ตรงจุด ผักชีโรยหน้า สรุปแล้ว เรื่องราคาน้ำมัน ที่ด่า ปตท.เพื่อกระทบชิ่งไปด่าทักษิณและ พปช. การเมืองล้วนๆ กระทู้ข้างล่าง มีด่าเป็นระยะๆ อยากรู้ว่า ถ้า ปชป.ได้เป็น รบ.ราคาน้ำมันจะถูกลงไหม ถ้าแพงแบบนี้จะมีคนด่าไหม ด่าแบบไม่ฟังเหตุผล จะเอาถูกอย่างเดียว จากคุณ : จ่าแห้ว - [ 16 พ.ค. 51 09:32:16 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วรัฐเอาเงินจากไหนมาจ่ายเพื่อSubsidize ล่ะครับ เงินภาษีของประชาชน? จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 16 พ.ค. 51 10:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มาเลย์ฯ รัฐบาลเขายังรวยก็ช่วยได้ แต่นานแค่ไหนไม่รู้ รัฐบาลเราจน ขัดสนเกือบทุกอย่าง ก็ต้องทำได้เท่าที่ทำ ครอบครัวผมยามนี้ก็ประหยัดกันทุกคน มีอยู่คนมันเรียนสูงรายได้ดีกว่าใคร มันก็ยังกินเที่ยวเหมือนเดิม แม่บอกให้ช่วยเพิ่มค่าใช้จ่ายส่วนกลางอีกหน่อย มันเป็นคนแรกเลยที่ออกมาโวยวายแถมไซโคน้องๆอีก ส่วนผมตอนนี้ก็ปลูกมันดะไปเลย ทั้งกระเพรา,โหรพา,ข่า,ตะไคร้,ใบมะกูด,หอม,คื่นช่าย,กระชาย,ตำลึง,แม้แต่ผักบุ้งก็เอา จากคุณ : weeras - [ 16 พ.ค. 51 12:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไงล่ะ แปรรูป เหอะๆ จากคุณ : ตุ๊มาแว้ว - [ 16 พ.ค. 51 12:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 28 Media Thai News / ข่าวรอบโลก / หน้าปัจจุบัน     ( 05-05-2008 ) 10:56:45 แหล่งข่าว  คม ชัด ลึก มาเลย์เล็งติดชิพบัตรประชาชน สกัดคนไทยลักซื้อน้ำมันถูก กัวลาลัมเปอร์-ทางการเสือเหลืองเล็งติดชิพบนบัตรประชาชน ป้องกันชาวไทย-สิงคโปร์แอบเข้าไปซื้อน้ำมันราคาถูกที่มีไว้ขายเฉพาะชาวมาเลเซียเท่านั้น นายชาฮีร์ ซามัด รัฐมนตรีการค้าภายในและกิจการผู้บริโภคของมาเลเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันอาทิตย์ (4 พ.ค.) ว่ารัฐบาลมาเลเซียกำลังพิจารณาจะนำบัตรประชาชนแบบติดชิพคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อให้ประชาชนใช้แสดงตนยามซื้อน้ำมันตามปั๊มต่างๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวไทยและชาวสิงคโปร์เข้าไปหาซื้อน้ำมันมาเลเซียซึ่งมีราคาถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพราะรัฐบาลให้เงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน นายชาฮีร์กล่าวว่าบัตรประชาชนติดชิพนั้นมีคุณสมบัติทางเทคนิคที่เอื้ออำนวยให้ทำได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องหาทางนำมาใช้ตามปั๊มน้ำมันเท่านั้น เพื่อที่ว่าจะได้มีแต่ชาวมาเลเซียเท่านั้นที่จะซื้อน้ำมันราคาถูกได้ เพราะมาเลเซียไม่ควรจะให้เงินอุดหนุนเชื้อเพลิง และอาหารเพื่อชาวต่างชาติอย่างคนไทยและคนสิงคโปร์ โดยคนที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนที่ติดชิพคอมพิวเตอร์ก็ยังสามารถซื้อน้ำมันจากปั๊มได้ แต่จะต้องซื้อในราคาที่ไม่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลจึงทำให้มีราคาแพงกว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นแผนการล่าสุดในช่วงที่รัฐบาลมาเลเซียกำลังเริ่มพิจารณาการให้เงินอุดหนุนน้ำมันในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 4.3 หมื่นล้านริงกิต (ประมาณ 435,000 ล้านบาท) หากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังอยู่ที่ระดับ 120 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,800 บาทต่อบาร์เรล นายชาฮีร์ยังกล่าวด้วยว่ารัฐบาลมาเลเซียยังกำลังพิจารณาระบบบริหารการให้เงินอุดหนุนเพื่อรับประกันว่าน้ำมันราคาถูกจะถึงมือคนจน และเพื่อป้องกันการจ่ายเงินอุดหนุนโดยเปล่าประโยชน์ด้วย โดยนายชาฮีร์กล่าวว่าหากประหยัดเงินอุดหนุนน้ำมันได้จะได้นำไปใช้ในกองทุนป้องกันเงินเฟ้อเพื่อช่วยชาวมาเลเซียต่อไป ก่อนหน้านี้ ทางการมาเลเซียให้เงินอุดหนุนเป็นจำนวนมากเพื่อควบคุมราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล รวมทั้งอาหาร 21 รายการ แต่ราคาในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น และมาตรการควบคุมต่างๆ ได้ทำให้เกิดความขาดแคลนอย่างรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ในแต่ละวันยังมีชาวสิงคโปร์เดินทางข้ามพรมแดนเข้าไปในมาเลเซียเพื่อซื้อน้ำมันและสิ่งของอุปโภคบริโภคซึ่งมีราคาถูกกว่าในสิงคโปร์ อีกทั้งยังมีการลักลอบนำน้ำมันพืช น้ำมันเชื้อเพลิง และแป้งข้ามชายแดนมาเลเซียเข้ามาขายในไทยอีกด้วย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียประกาศว่าจะทุ่มเงิน 2,490 ล้านริงกิตในปีนี้เพื่อเพิ่มการผลิตอาหาร โดยมาเลเซียนั้นผลิตข้าวได้ปีละประมาณ 1.6 ล้านตัน เพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศ 70% ส่วนที่เหลือจะนำเข้าจากไทยและเวียดนาม จากคุณ : sunsetbeach - [ 16 พ.ค. 51 13:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาเลย์ทุ่มสุดตัว4แสนล้านอุ้มน้ำมัน โพสต์ทูเดย์ — รัฐบาลมาเลย์ทุ่มงบกว่า 4 แสนล้านบาท อุ้มน้ำมันมากแซงหน้าเงินพัฒนาประเทศ สำนักข่าวเอเอฟพี อ้างรายงานของสำนักข่าวเบอร์นามา ในมาเลเซีย เมื่อวันที่ 11 พ.ค. โดยระบุว่า ในปีนี้มาเลเซียจะทุ่มงบประมาณเพื่อช่วยเหลือภาคน้ำมันและก๊าซมาก กว่างบประมาณที่ใช้ในโครงการพัฒนาประเทศอื่นๆ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี ยังเรียกร้องให้มีการทบทวนโครงการเมกะโปรเจกต์ทั้งหมด อีกด้วย บาดาวี กล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียจะควักกระเป๋า 4.5 หมื่นล้านริงกิต (ราว 4.11 แสนล้านบาท) เพื่ออุดหนุนภาคน้ำมันและก๊าซใน ปีนี้ โดยเงินช่วยเหลือดังกล่าวสูง กว่างบประมาณประจำปีของประเทศที่ใช้สำหรับโครงการการพัฒนาและสาธารณูปโภค ภายใต้แผนพัฒนาประเทศฉบับที่ 9 ซึ่งอยู่ที่ 4 หมื่นล้านริงกิต (ราว 3.65 แสนล้านบาท) “ในฐานะรัฐบาล เราจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อแบ่งเบาภาระด้านน้ำมันและก๊าซ เราจะไม่ยอมให้ปัญหาดังกล่าวลุกลาม เรามีความมุ่งมั่นทางการเมืองที่จะแบ่งเบาภาระของประชาชน” ผู้นำเสือเหลือง กล่าว พร้อมระบุว่า การที่ราคาน้ำมันพุ่งทะลุ 126 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชาวมาเลเซีย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยังแสดงความไม่มั่นใจว่า เงินทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อบรรเทาวิกฤตราคาอาหารแพงนั้น จะมีเพียงพอหรือไม่ แม้ว่ารัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 4,000 ล้านริงกิต (ราว 3.65 หมื่นล้านบาท) เพื่อจัดหาอาหารตอบสนองความต้องการในประเทศ โดยจะแบ่งใช้จ่ายเงิน 2,400 ล้านริงกิต (ราว 2.19 หมื่นล้านบาท) และเก็บสำรองไว้ 1,600 ล้านริงกิต (ราว 1.46 หมื่นล้านบาท) ก็ตาม จากความกังวลดังกล่าว ส่งผลให้รัฐบาลมาเลเซียตัดสินใจที่จะทบทวนโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั้งหมด เพื่อแบ่งสรรงบประมาณ มาช่วยเหลือปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะทั้งหมดต่างส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน มาเลเซียซึ่งนำเข้าข้าวกว่า 30% จากปริมาณความต้องการทั้งหมดในประเทศ ได้ทุ่มงบประมาณอุดหนุนสินค้าประเภทอาหารกว่า 20 ชนิด ซึ่งรวมถึงนมและเกลือ อีกด้วย อย่างไรก็ดี อดีตนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด ได้เตือนผู้นำมาเลเซียว่า การเร่งเพิ่มเงินอุดหนุนไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาราคาน้ำมันและอาหารแพง โดยมหาเธร์ ระบุว่า รัฐบาลไม่ควรทำเพียงแค่การประกาศประชานิยมเกี่ยวกับการเพิ่มเงินอุดหนุน แต่ต้องเร่งหาทางแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารในประเทศมากกว่า จากคุณ : sunsetbeach - [ 16 พ.ค. 51 13:35:58 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สำหรับประเทศไทย  วงเงินงบประมาณประจำปีงบ ประมาณจำนวน 1,660,000 ล้านบาท โดยมีการประมาณการรายได้อยู่ที่ระดับ 1,495,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจัดสรรงบประมาณแบบขาดดุล จำนวน 165,000 ล้านบาท ถ้าต้องมีการชดเชยราคาคาน้ำมัน 400,000 ล้านบาท  จะเอาเงินจากไหนมาครับ  25%ของงบประมาณประจำปีของประเทศไทยเลยนะ จากคุณ : sunsetbeach - [ 16 พ.ค. 51 13:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าจะเอาเงินไปหนุน ชดเชยค่าน้ำมันอีก อันนั้นไม่เห็นด้วย คราวก่อนก้หายไปแสนกว่าล้าน ถ้าจะใช้เงินจำนวนมากจริงๆ ก็ เอาเงินมาพัฒนา รถไฟไทย ให้เดินทางทั่วประเทศได้ดีกว่านี้ เอาเงินมาพัฒนา รถไฟฟ้าไปย ให้ครอบคุม มากกว่านี้ น่าจะดีกว่า จากคุณ : supercc - [ 16 พ.ค. 51 14:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าลดกำไรจาก "ค่าการกลั่น" และคิดตัวเลขที่มันควรจะเป็น.. แค่นี้ก็ช่วยได้พอสมควรแล้ว.. คิดดู... "ห้าหมื่นล้าน" เติมน้ำมันได้เป็น(หลาย)ปียังไม่หมดเลย.. "กำไร" มันก็ดี.. ดีกับผู้ถือหุ้น.. ดีกับบริษัท.. แต่แย่กับ ปชช. หาเช้ากินค่ำ.. "ค่าน้ำมัน" ค่าเดินทาง ยังมากกว่าค่าข้าวอีก.. คนที่ไม่มีจะกินถ้าไม่ใช่คุณคงไม่รู้สึก.. "ทำนาบนหลังคน" หากำไรกับสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ (กึ่งผูกขาด) อ้างโน่น.. อ้างนี่.. ยกตัวเลขต่างๆ นาๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ (ส่วนตน) ของคนกลุ่มเล็กๆ.. พักคืนละเป็นแสน.. กินข้าวมื้อละเป็นหมื่น.. โปรดเห็นใจคนส่วนรวมด้วยครับ.. จากคุณ : นายแว่นธรรมดา - [ 16 พ.ค. 51 16:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอามาจากบางส่วนของรายงาน Q1 ของ Thai Oil  ซึ่งเป็นธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันโดยตรงนะครับ http://www.set.or.th/set/newsdetails.do?type=H&time=1210040040000&filename=dat%2Fnews%2F200805%2F08015793.t08&source=TOP&headline=%A4%D3%CD%B8%D4%BA%D2%C2%E1%C5%D0%C7%D4%E0%A4%C3%D2%D0%CB%EC%B7%D2%A7%A1%D2%C3%E0%A7%D4%B9%E4%B5%C3%C1%D2%CA%B7%D5%E8+1+%BB%D5+2551&symbol=TOP&language=&country= ตาราง 5: ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ (ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน)                                                        ไตรมาส           ไตรมาส                               (ล้านบาท)                                                  +/(-)                                                        1/51            1/50 (1) การใช้กำลังการกลั่น (%)(2)                                 100%             106%            (6%) ปริมาณวัตถุดิบที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิต (พันบาร์เรลต่อวัน)          276             239              36 GRM (เหรียญสหรัฐ ต่อ บาร์เรล)                               6.8             8.3             (1.5) รายได้จากการขาย                                        98,828          62,592             36,236 EBITDA                                                 4,649           5,474             (825) ดอกเบี้ยจ่ายฯ                                             (335)           (377)              (42) กำไร /(ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน                          885             774               111 กำไรก่อนภาษีเงินได้และเงินปันผลรับจาก บ.ย่อย                   4,278           5,105             (827) ภาษีเงินได้                                               (1,068)         (1,279)            (211) กำไรก่อนเงินปันผลรับจาก บ.ย่อย                              3,210           3,826             (616) เงินปันผลรับจากบริษัทย่อย                                     155                0             155 กำไรสุทธิ                                                  3,365           3,826            (461) หมายเหตุ (1) ในไตรมาส 1/50 ปรับปรุงผลกระทบจากการเปลี่ยนนโยบายบัญชีการบันทึกบัญชีสินทรัพย์ถาวร และ การบันทึกบัญชีเครื่องมือทาง    การเงินที่เป็นตราสารอนุพันธ์ (2) ในไตรมาส 1/51 บริษัทฯ คำนวณการใช้กำลังการกลั่น (%) จากกำลังการกลั่นน้ำมัน 275,000 บาร์เรลต่อวันหลังจากขยายกำลังการ    กลั่นของ CDU-3 ในไตรมาส 1/50 คำนวณจากกำลังการกลั่นเดิมที่ 225,000 บาร์เรลต่อวัน         ในไตรมาส 1/51 บริษัทฯมีอัตราการใช้กำลังการกลั่นที่ร้อยละ 100 (กำลังการกลั่น 275,000 บาร์เรล ต่อวัน) ทำให้บริษัทมีรายได้จากการขายจำนวน 98,828 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจำนวน 36,236 ล้านบาทจากไตรมาส เดียวกันของปีก่อน ถึงแม้ว่าส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ยและราคาน้ำมันดิบในไตรมาสนี้จะปรับตัว สูงขึ้น แต่จากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นซึ่งส่วนมากเป็นผลของค่าระวางเรือ (Freight) ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ ปลายปี 2550 จากภาวะตลาดเรือขนส่งที่ตึงตัว ทำให้ GRM ในไตรมาส 1/51 อยู่ที่ 6.8 เหรียญสหรัฐฯต่อ บาร์เรลลดลง 1.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลจากไตรมาส 1/50 มี EBITDA จำนวน 4,649 ล้านบาทลดลง 825 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้จากค่าของเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้มีกำไรจากอัตรา แลกเปลี่ยนจำนวน 885 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจำนวน 111 ล้านบาทจากไตรมาส 1/50 บริษัทฯได้รับเงินปันผลจาก TP ในไตรมาสนี้จำนวน 155 ล้านบาท ดังนั้นบริษัทฯมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/51 จำนวน 3,365 ล้านบาท ลดลงจำนวน 461 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ค่าการกลั่น หรือ GRM (Gross Refinery Margin )  กล่าวถึง  ไม่ใช่กำไรสุทธิ   แต่เป็น "กำไรขั้นต้น"  หรือส่วนต่างของราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่กลั่นได้  กับน้ำมันดิบที่นำมากลั่น  ซึ่งราคาจะแตกต่างไปขึ้นอยู่กับราคาตลาดของน้ำมันสำเร็จรูปแต่ละประเภท  และผลพลอยได้   สูตรการกลั่นที่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปของโรงกลั่นแต่ละแห่ง   และราคาน้ำมันดิบ   ค่าการกลั่นนี้  ยังไม่ได้หักต้นทุนที่ต้องดำเนินกิจการอย่างอื่นๆ อีก  เช่น  ค่าน้ำ  ค่าไฟ  ค่าพนักงาน  ค่าเสื่อมราคาของโรงงาน  ฯลฯ   หลายๆ ธุรกิจมีกำไรขั้นต้นมากกว่า 30% ด้วยซ้ำ   แต่นี่กำไรไม่ถึง 10% เลย   มันดูจะไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าใดนัก   ท่าจะกล่าวหากันโดยไม่ทราบความจริงครับ จากคุณ : sunsetbeach - [ 16 พ.ค. 51 17:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ท่าทางความเห็นที่28-19มันจะยาวหลายๆคนเลยอดทนอ่านไม่ไหว แต่คำว่ากำไร5หมื่นล้าน มันจำง่ายดีนะครับไม่ต้องไปเสียเวลาคิดด้วยว่า PTT มันมีหุ้นในบริษัทอื่นๆอีกเท่าไหร่ที่ทำรายได้ให้โดยส่วนที่ขายน้ำมันเนี่ยมะนไม่ได้เยอะเลย ประเทศไทยไม่มีโรงกลั่นชื่อโรงกลั่นปตท. แต่มีโรงกลั่นที่ปตท.เข้าไปมีหุ้นด้วย ถ้าจะให้สะใจ พวกคุณก็คงจะบอกว่าไม่ต้องเอากำไรจากค่าการกลั่นพวกเราจะได้ใช้น้ำมันกันอย่างสะใจเหมือนแต่ก่อนไม่ต้องวางแผนอะไรกันมาก อยากเที่ยวเมื่อไหร่ ไป อยากขับรถเล่น ไป ต่อให้เป็นอย่างนั้นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือโรงกลั่นที่เป็นบริษัทลูก(ถ้าหน้ามืดทำอย่างนั้นจริงๆ)ก็จะเจ๊งไป เจ้าหนี้ก็จะขายโรงกลั่นนี้ให้บริษัทอื่นที่ดูแลคนไทยมาอย่างดีตลอดทั้งดาวเสือหอยและอื่นๆ ปตท.ก็จะเสียรายได้จากโรงกลั่นนั่นไป อาจจะกระทบกับการค้าน้ำมันปลีกในปั้ม แต่ขอโทษ ในปีนั้นปตท.ก็จะกำไรเป็นหมื่นๆล้านอยู่ดีเพราะนี่มันเป็นแค่ส่วนนึงของธุรกิจเค้า คุณกำลังจะบอกว่ารัฐบาลที่ดีต้องเอาเงินภาษีประเทศเป็นแสนๆล้านไปจ่ายส่วนต่างค่าน้ำมันที่คุณคิดว่าแพงที่คุณจะขับไปเที่ยวเล่นนั้นเป็นเรื่องดีเหรอครับ ทำไมทีเวลาแบบนี้ดันมองว่าแต่แสนล้านที่มาจ่ายอุดค่าน้ำมันนี่จิ๊บๆเหรอครับ สำหรับคุณที่บอกว่าห้าหมื่นล้านนี่เติมน้ำมันได้ไม่รู้กี่ปี ขอโทษครับมันจะถึงเดือนรึเปล่าครับ ใช้สติหน่อยครับ คราวที่แล้วมีคนอุ้มค่าน้ำมันให้ก็ตะบี้ตะบันใช้พอถึงเวลารู้ว่าเป็นหนี้เท่าไหร่ก็โวลวายไปว่าเค้า หัดเป็นผู้ใหญ่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตัวเองได้แล้วครับ10ปีก่อนกับตอนนี้โลกมีคนเพิ่มมากขึ้นขนาดไหนแล้วของทุกอย่างมันแพงขึ้นแนอนครับ ถ้ามันอัดอั้นมากก็เติมที่อื่นที่ไม่ใช่ผู้ผูกขาดเช่นเสือหอยดาวดูนะครับ ผูกขาดกันเหลือเกิน ผมไม่ได้ทำงานปตท.แน่นอนแต่เห็นว่านับวันเรื่องที่พูดกันมันชักไปกันใหญ่อีกหน่อยคงมีคนบอกว่าพนักงานเงินเดือนตั้งต้นที่แสนนึง จากคุณ : POR_SK116 - [ 16 พ.ค. 51 17:19:05 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ดิฉันไม่ได้บอกว่า การอุดหนุนน้ำมันเป็นเรื่องที่ดีนะคะ แต่ในเมื่อถามมาว่า ทำไมมาเลย์น้ำมันถูก ก็็้ตอบไปตามเนื้อผ้า และต้องการแสดงให้เห็นว่า ประเทศที่เจริญกว่าเรา และเป็นผู้ส่งออกน้ำมันเอง ยังต้องอุดหนุนค่าน้ำมันให้คนในประเทศตัวเองเลย ประเทศไทยเรา คงไม่จำเป็นต้องไปอุดหนุนมากๆ เท่ามาเลย์ เพราะรัฐบาลเราไม่รวยเท่าเขา แต่ปัดความรับผิดชอบให้ประชาชนหมดแบบนี้ จะมาเป็นรัฐบาลทำไมคะ? แล้วถามว่า จะเอาเงินที่ไหนมาอุดหนุน? ตอบว่า ไม่ทราบสิคะ ขนาดรัฐบาล (เก่งๆ ทั้งนั้น) ยังไม่รู้จะไปหาเงินมาจากไหน แล้วเราๆ ซึ่งเป็นคนธรรมดา จะไปรู้ได้ยังไงคะ เรื่องประหยัด...ทุกคนก็ประหยัดกันแทบแย่อยู่แล้ว ไม่มีใครเขาขับรถผลาญน้ำมันเล่นกันหรอกนะคะ ไม่อยากให้ใช้รถ? แล้วให้เดินทางยังไงคะ รถเมล์ ก็ห่วยแตก แท๊กซี่ ก็ไม่ค่อยรับคน รถไฟฟ้า-ใต้ดิน ก็วิ่งแต่ในเมือง อย่างนี้ไม่ขับรถผลาญน้ำมัน แล้วจะให้เดินไปหรืออย่้างไร . . . อ้อ ทำไมถึงคิดว่า การอุดหนุน เป็นการเอาเงินคนไม่ใ้ช้่รถ ไปจ่ายให้คนใช้รถ ถามจริงๆ คนไทยไม่ใ้ช้่รถ มีด้วยหรือ คนไม่มีรถ ไม่ขับรถ ไม่ขึ้นรถ แต่ยังต้องกินข้าวปลาอาหาร อุปโภคบริโภคสินค้า แล้วไอ้ข้าวปลาอาหาร สินค้าต่างๆ เนี่ย มันไม่ต้องขนส่งด้วยรถหรืออย่างไรคะ เห็นไหมคะว่า อย่างไรเสีย ทุกคนต้องใช้รถ ใช้น้ำมัน ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เพราะฉะนั้น การที่รัฐบาล ช่วยประชาชนเรื่องน้ำมัน (รวมถึงพลังงานอื่นๆ) ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจเลย แต่จะช่วยเท่าไหร่ ยังไง ตอบว่า ดิัฉันก็ไม่รู้ค่ะ ก็อาจต้องปลูุกข้าวปลูกผักเยอะๆ แลกน้ำมันมั๊งคะ ป.ล. ดิฉันจะเดือดร้อนไปทำไมเนี่ย ก็ตอนนี้รถดิฉันใช้แก๊สนี่น่า คริ คริ จากคุณ : สุธาสินี คห. 13 - [ 16 พ.ค. 51 18:29:53 A:124.121.117.201 X: TicketID:115358 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไปอ่านกระทู้แนะนำที่เฉลิมไทยเรื่องไทยช่วยพม่า อืมมม... จริงแหละ คนในประเทศก็จะอดตายอยู่แล้ว ------------------------------------------------------------------- น้ำมันแพง ก็ต้องปล่อยให้แพงไป เพราะคนใช้รถใช้น้ำมัน เป็นคนส่วนน้อยเหรอคะ ? เห็นพอน้ำมันขึ้นทุกอย่างก็ขึ้นตามหมด เพราะค่าเชื้อเพลิง ค่าขนส่งต่างๆ ต้นทุนมันสูงขึ้นไปหมด อย่างนี้จะเรียกว่าของแค่กลุ่มคนใช้รถเท่านั้นเหรอคะ ก็เห็นว่ามันมีผลกระทบ ไปหมด กับคนเดินดินกินข้าวแกงทั่วไปนี่แหละ ขสมก. รถร่วม ก็จะเป็น 10 บาทแล้ว เราขึ้นตอนเรียน ม.ปลาย 3.50 ของทุกอย่างมันขึ้น ก็จริงอยู่ แต่มันก็เป็นระยะเวลา แต่ราคาน้ำมันตอนนี้ มันพรวดพราดมากค่ะ เราขับรถมือสอง เปลี่ยนมาเติมโซฮอล์ล สมัยราคาเริ่มขึ้น อยากเปลี่ยนไปทำแก๊ส แต่ก็ไม่มีเงินจะทำ เป็นหมื่นๆ ก็ต้องผ่อนใช้กับค่าน้ำมันไป .... ทำไงได้ ค่าแรงเพิ่ม ก็ตลกมาก ขึ้นแบบน่าเกลียดนะ ไม่สมดุลกับค่าครองชีพเลย อย่างเซ็ง..... จากคุณ : makamkaew - [ 16 พ.ค. 51 23:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นว่า กระทู้นี้ ถกกันเยอะดี ผมคำนวณให้ดูดีกว่านะ ก่อนอื่น ขอเอารูปนี้ มาอ้างอิงก่อน ตารางนี้ เป็นตารางแสดงสัดส่วนการกลั่นน้ำมันดิบ เป็นน้ำมันชนิดต่างๆ (เอามาจากเว็บ eppo ครับ) จากคุณ : P_Wut - [ 17 พ.ค. 51 01:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมขอหยิบเอาตัวเลขจากตารางข้างบนนี้ กับราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูป ตามคห.17  มาใส่ตาราง Excel คำนวณให้ดูละกัน จากคุณ : P_Wut - [ 17 พ.ค. 51 01:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตารางนี้ บอกว่า ในน้ำมันดิบ 1 ลิตร (100%) ซึ่งมีราคาต้นทุนเฉพาะเนื้อน้ำมัน ยังไม่รวมค่าขนส่งจากดูไบ มาประเทศไทย = 24.41 บาท/ลิตร กลั่นแล้ว ได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหลักๆ คือ เบนซิน ดีเซล และน้ำมันเตา ตามสัดส่วน % ในตารางนั้น รวมกันคิดเป็นราวๆ 80% แต่ละโรงกลั่นขายผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 อย่าง ตามราคาอ้างอิงของสิงคโปร์ จะได้เงินกลับมาแค่ 21 - 23 บาท/ลิตร ผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆ อีก 17-21% สมมติว่า มองแง่ดีสุดๆ คือ ขายได้แพงเท่าๆ เบนซิน จะได้เงินกลับมาอีก 4.5 - 5.6 บาท/ลิตร รวมยอดขายน้ำมันทุกชนิด จะได้ 26.22-27.948 บาท/ลิตร ส่วนต่างระหว่างต้นทุนน้ำมันดิบ กับผลิตภัณฑ์น้ำมันทุกชนิดที่ขายได้รวมกัน อยู่ระหว่าง 1.8 - 3.5 บาท/ลิตร ส่วนต่างที่ว่านี้ ยังไม่หักต้นทุนการผลิตต่างๆ ทั้ง Variable Cost และ Fix Cost เลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า แต่ละโรงกลั่น ต้นทุนที่ว่าเหล่านี้ ใครสูง ใครต่ำ สักเท่าไหร่ อย่าลืมว่า ราคาขายผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆ นั้น ผมเอาราคาขายได้แพงเท่าเบนซินเลยนะ ถ้าของจริงมันขายได้ถูกเท่าน้ำมันเตา มันจะน้อยจนอาจจะติดลบครับ จากคุณ : P_Wut - [ 17 พ.ค. 51 01:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มาเลเซีย เค้าผลิตน้ำมันได้มากกว่า ความต้องการใช้ในประเทศ จึงสามารถกดราคาน้ำมันให้ต่ำๆ เพื่อให้คนในชาติเค้า ซื้อน้ำมันในราคาถูกได้ แต่บ้านเรา เราผลิตน้ำมันดิบไม่ได้นี่ครับ เราต้องซื้อเค้ามาในราคาตลาดโลก มันก็ต้องขายแพงใกล้ตลาดโลกนี่แหละ ไม่งั้นโรงกลั่นจะอยู่ได้ยังไง เรื่องข้าว ยาง และสินค้าเกษตรอื่นๆ  บางท่านบอกว่า เมื่อประเทศเราผลิตเองได้ ก็ควรกดราคาให้ถูกๆ  ให้ขายแพงๆ เฉพาะที่ส่งออก พูดแบบนี้นี่ เห็นแก่ตัวเองจริงๆ ในเมื่อเงินเดือนตูเท่าเดิม/เพิ่มน้อย ค่าใช้จ่ายน้ำมันแพงมากขึ้น อย่างอื่นๆ ต้องถูกๆ เพื่อให้ตัวเองมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงที่เคยเป็น ลองมองอะไรให้กว้างขึ้นสักนิด ถ้าเราส่งออกอะไรได้ราคาดี เราควรส่งออกให้ได้มากขึ้น (ก็โดยการขายสินค้าชนิดเดียวกัน ให้กับคนในชาติในราคาตลาดโลกนี่แหละ มันจะได้บริโภคกันน้อยลง และมีเหลือส่งออกมากขึ้น) ข้าวแพง คุณก็กินอย่างอื่นสิครับ ผมขอเล่าเรื่อง เกาหลี ให้ฟังเรื่องนึง ผมจำไม่ได้ว่า ยุคไหน ปีอะไร แต่ช่วงนั้นเศรษฐกิจในเกาหลีตกต่ำมาก แต่โชคดีตรงที่ว่า ช่วงนั้น ราคาข้าวดีทั่วโลก รู้มั้ยครับว่า รัฐบาลเกาหลีเค้าทำยังไง? เค้ารณรงค์ให้คนในชาติเค้า "กินก๋วยเตี๋ยว" ครับ เพราะก๋วยเตี๋ยว ก็เป็นแป้งคาร์โบไฮเดรต เหมือนข้าว มนุษย์กินเข้าไปแล้ว ร่างกายก็ย่อยเอาไปใช้เป็นพลังงานได้เหมือนกัน แต่ก๋วยเตี๋ยว ทำมาจากแป้งข้าวเจ้า ที่ทำมาจากข้าวหักๆ เศษข้าว ข้าวคุณภาพไม่ค่อยดี การรณรงค์ให้คนหันมากินก๋วยเตี๋ยว เป็นการยิงนัดเดียว ได้นก 3 ตัว - มีข้าวคุณภาพดีเหลือส่งออกมากขึ้น ทำรายได้เข้าประเทศมากขึ้น - เป็นการเพิ่มมูลค่าของข้าวคุณภาพไม่ดี ให้มีราคาสูงขึ้น - เกื้อกูลอตสาหกรรมการทำก๋วยเตี๋ยว ซึ่งก็ต้องใช้แรงงานคนส่วนนึง ประชาชนคนไทย โดยเฉพาะในรัชดา มีใครคิดแบบนี้บ้างมั้ย? ถ้าชาวนา เจ้าของสวนยาง สวนผลไม้ ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศได้ราคาดีๆ เงินที่เค้าได้ ก็มาจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศนี่แหละ มันจะไปไหนเสียล่ะ? พวกคุณที่ทำงานในกิจการผลิตสินค้า / ซื้อมาขายไป / ธุรกิจบริการ  รายได้จากเงินเดือน ตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นทีท่าว่ามันจะดีขึ้น แต่เดี๋ยวมันจะมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะเงินมันไหลเข้าประเทศมากขึ้นครับ น้ำมันแพง แล้วเราเดือดร้อน เพราะเหตุผลหลักคือ มันหาสินค้าชนิดอื่น มาให้อุปโภคบริโภคทดแทนกันไม่ค่อยได้ครับ แต่อย่างอื่น ยังพอหาได้ ก็หันไปหาของที่ถูกกว่า แต่ได้ประโยชน์พอๆ กัน โลกมันเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ยิ่งระยะหลังยิ่งเปลี่ยนเร็ว ก็ต้องปรับตัวตามครับ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 51 02:02:34 จากคุณ : P_Wut - [ 17 พ.ค. 51 01:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คิดอย่างพี่วุฒิคิดน่ะถูกต้องที่สุด ขอบคุณครับ จากคุณ : พัลลภ - [ 17 พ.ค. 51 11:55:43 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับคุณ P_Wut นะครับ ดูจากตัวเลขก็เห็นแล้วว่า แค่ต้นทุนน้ำมันดิบมันมากกว่า 20 บาทต่อลิตร แล้วจะไปกดราคาขายให้เหลือ 15 บาทต่อลิตรได้อย่างไร ส่วนที่คุณสุธาสินี เห็นว่าประเทศส่งออกน้ำมันดิบอย่างมาเลย์ และเป็นประเทศที่เจริญกว่าเรา ทำไมยัง subsidized ให้ประชาชนได้ คำตอบมันก็ชัดอยู่แล้วครับ ว่าเขาขุดได้ของเขาเองไง ต้นทุนน้ำมันดิบของเขาจะถึง 24 บาทหรือ อย่างนี้เขาเรียกว่าแค่ขาดทุนกำไร เพราะแทนที่จะส่งออกแต่เอามาใช้เองครับ ต่างจากบ้านเราที่ต้องนำเข้า ถ้าขืนไป subsidized เข้ามันคือเอาเงินภาษีที่ควรจะไปใช้ได้อื่นเข้าไปโปะแทนล้วน ๆ เลยนะ ถ้าจะเทียบอย่างที่คุณสุธาสินีเทียบ ควรเทียบกับประเทศที่เจริญกว่าเช่นญี่ปุ่น หรือสิงคโปร์ ที่ไม่มีบ่อน้ำมันของตัวเอง แล้วลองดูว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปในบ้านเขาเป็นเท่าไหร่ เขา subsidized แทนประชาชนหรือไม่ ถึงจะสมเหตุสมผลครับ ส่วน ปตท. ที่มองว่าเขากำไร เขากำไรจากบริษัทย่อยที่ไม่ได้ขายน้ำมันตั้งเท่าไหร่ครับ ถ้าผมจำไม่ผิด ปตท.สผ. กำไรดีกว่า ปตท. ด้วยมั้ง (เทียบบริษัทต่อบริษัทนะครับ ไม่ใช่ดูรวมทั้งเครือเขา) จากคุณ : Mr.CPA - [ 17 พ.ค. 51 13:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เค้าอุ้มราคาน้ำมัน โดยเฉลียจากสินค้า ปิโตรเลียม อื่น ๆ มาช่วยคับอันไหนจำเป็น ต่อประชาชน ก็ให้สำคัญไว้ก่อน ตัวน้ำมันขายขาดทุน แต่มีสินค้าอื่น ๆ กำไร โดยรวม บริษัทไม่ขาดทุน Happy ไม่เหมือนบ้านเรา ปตท ไม่เคยขาดทุนสักนิด (ผลประกอบการโดยรวม) แต่ถ้านับน้ำมัน ขาดทุนแน่นอน บ้านเรามองเป็น ชิ้น ๆ คับ อันไหนขาดทุนอยู่ต้องทำให้กำไร ไม่เหมือน มาเลย์ จากคุณ : กอบ (JieBoJai) - [ 17 พ.ค. 51 16:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามาอ่าน หายข้องใจแล้ว ครับ จากคุณ : @สองล้อรอคนซ้อน@ - [ 20 พ.ค. 51 01:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 45 การรณรงค์ให้คนหันมากินก๋วยเตี๋ยว เป็นการยิงนัดเดียว ได้นก 3 ตัว - มีข้าวคุณภาพดีเหลือส่งออกมากขึ้น ทำรายได้เข้าประเทศมากขึ้น  -  แล้วรายได้มันไปอยู่กับคนทั้งประเทศหรือกลุ่มนายทุนครับ - เป็นการเพิ่มมูลค่าของข้าวคุณภาพไม่ดี ให้มีราคาสูงขึ้น  -  เอาข้าวห่วยๆ ให้คนในชาติกิน แล้สเอาข้าวคุณภาพดีให้ต่างชาติกินเนี่ยนะ - เกื้อกูลอตสาหกรรมการทำก๋วยเตี๋ยว ซึ่งก็ต้องใช้แรงงานคนส่วนนึง  -  ส่วนนึงนี้น่าจะน้อยมาก คิดว่าน้อยมากกว่าปริมาณคนที่ทิ้งที่นามาขับแท๊กซี่ในเมือง ประชาชนคนไทย โดยเฉพาะในรัชดา มีใครคิดแบบนี้บ้างมั้ย?  -  ผมไม่คิดครับ ผมขอโทษ ถ้าชาวนา เจ้าของสวนยาง สวนผลไม้ ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศได้ราคาดีๆ เงินที่เค้าได้ ก็มาจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศนี่แหละ มันจะไปไหนเสียล่ะ?  -  ข้าวส่งออกได้ราคาดี ทุกวันนี้ชาวนารวย หรือ เจ้าของโรงสีรวยครับ แล้วเจ๊มิ่งของเรากล้าไปเห่าเจ้าของโรงสีซักแอะไม๊ หรือ ทำได้แค่ปล่อยให้ขบวนม็อบชาวนาประท้วงแบบงงๆ ว่า ข้าวส่งออกราคาแพงขนาดนี้ๆ แต่ทำไมรับซื้อกรูแค่เศษสตางค์ที่อยากจะโยนให้เท่าไหร่ก็โยน ไม่เอาก็ไม่ต้องขาย ขนข้าวกลับบ้านไป ของบางอย่างฟังดูดี แต่ควรดูความจริงมากกว่า ถ้ามัวแต่ยึดถือกลไกตลาด ก็เตรียมตัวรับมือกับกลไกทางสังคมที่คนจะถ่ายถังแก๊สเองตามบ้านได้เลย แล้วจะตามจับไหวหรือ ผมไม่ได้สนับสนุนการใช้แก๊สผิดวิธี แต่ผมหมายความว่า ถ้าคิดว่าแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันได้ดีที่สุดแล้วในรูปแบบนี้ เตรียมตัวแก้ไขปัญหาอื่นๆ ตามกลไกของสังคมไว้หรือยัง จากคุณ : idolation - [ 20 พ.ค. 51 07:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สุธาสินี เป็นโรคจิตป่าวเนี่ย มองอะไรก็เอาตัวเองเป็นใหญ่ หากเป็นคนไทยก็สมัครสมาชิกมา อย่ามั่ว จากคุณ : dib2000 - [ 20 พ.ค. 51 08:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 47 -"- จากคุณ : ส่งเสียน้องออส - [ 20 พ.ค. 51 09:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตอบคุณ idolation ข่าวล่าสุด - ครม. อนุมัติให้รับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง แล้วหาทางไปขายส่งออกเอาเอง ไม่ต้องผ่านโรงสี และผู้ส่งออก หวังแก้เกมพวกโรงสีและผู้ส่งออกเลวๆ แล้วครับ  เพิ่งจะอนุมัติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา - คุณมิ่งขวัญ ก็โดนตำหนิกลางวงครม. ว่า เอาข้าวในสต็อกมาทำข้าวถุงธงฟ้าขาย มีส่วนทำให้ราคาข้าวในประเทศตกลง กลไกเรื่องข้าวเป็นยังไง ผมก็ไม่ค่อยรู้หรอก แต่โดยปกติ รัฐมีหน้าที่แค่ออกนโยบาย และกำกับควบคุม ไม่ใช่ลงมือไปทำซะเอง ยกเว้น มีปัญหา ก็จะทำเป็นครั้งๆ ไป คุณเชื่อหรือไม่ว่า แทนที่ชาวนาจะประท้วงแบบงงๆ อย่างที่คุณว่า มีหัวหน้าชาวนาสักคนนึง ฉลาด แก้เกมกลโกงโรงสี นัดกับชาวนาทั่วประเทศ เผาข้าวที่เก็บเกี่ยวได้มา คนละ 20% ของที่ตัวเองเก็บเกี่ยวได้ ปริมาณข้าวที่จะผลิตได้ จะหายไปทันที 20%  ขี้คร้าน จะมีแต่พวกโรงสีแตกคอ ออกมาวิ่งรับซื้อครับ ชาวนา ถึงขายข้าวได้ปริมาณน้อยลง แต่จะได้เม็ดเงินเท่าเดิมครับ คุณเชื่อมะ? จากคุณ : P_Wut - [ 20 พ.ค. 51 12:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 49 "ของบางอย่างฟังดูดี แต่ควรดูความจริงมากกว่า ถ้ามัวแต่ยึดถือกลไกตลาด ก็เตรียมตัวรับมือกับกลไกทางสังคมที่คนจะถ่ายถังแก๊สเองตามบ้านได้เลย แล้วจะตามจับไหวหรือ" ถ้าปรับราคาแก๊ส LPG ทั้งประเทศ ไม่ว่าจะขายให้ใคร เอาไปใช้ทำอะไร ในราคาเดียวกันทั้งหมด ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการถ่ายถัง จริงมั้ยครับ? ผมบอกมานานแล้ว ยืนยันมานานแล้วว่า สินค้าอย่างเดียวกัน เหมือนกันทุกอย่าง ขาย 2 ราคา ไม่มีวันทำได้จริง รังแต่จะสร้างปัญหาอื่นๆ ตามมาในอนาคต สมมติ วันนี้ ไทยผลิต LPG ได้ทั้งหมด 100% (รวมทั้งจากการแยกก๊าซธรรมชาติ กลั่นจากน้ำมันดิบ และที่ได้จากปิโตรเคมี) แต่ยังไม่พอใช้ ต้องนำเข้าอีก 10% จากสิงคโปร์ ในราคาตลาดโลก กำหนดราคาเดือนหน้าเลยครับ ราคาเดือนหน้า LPG ราคาทั้งประเทศ = (100% ราคาในประเทศ + 10% ราคานำเข้า) หารด้วย 110% (ปริมาณ LPG ทั้งหมดที่ใช้ในประเทศ) ถ้าเดือนถัดไป ยังไม่พอ ต้องนำเข้าเพิ่มเป็น 20% ราคาเดือนต่อไป ก็ = (100% ราคาในประเทศ + 20% ราคานำเข้า) หารด้วย 120% (ปริมาณ LPG ทั้งหมดที่ใช้ในประเทศ) . . . ก็เอาแบบนี้ไปเลย  ไม่ต้องมีใครแบก ไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาถ่ายถัง ฯลฯ ด้วย ใครอยากจะติด LPG / NGV ก็เลือกติดได้ตามสบาย ไม่ห้าม ไม่หน่วงเหนี่ยว ไปคำนวณความคุ้มค่า - จุดคุ้มทุนกันเอาเอง จากคุณ : P_Wut - [ 20 พ.ค. 51 12:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ความคิดโง่ๆ ของผม หรือแบบสิ้นคิด ผมว่า เอาราคา น้ำมันเบนซิน ดีเซล LPG NGV โซฮอล ไบโอ เอาเฉลี่ยให้เท่าๆกันให้หมด ใครใช้อะไรก็ใช้ไป ประหยัดๆกันเอา ไม่ต้องบนว่าอันไหนแพงกว่ากัน มันเท่ากันหมด เป็นไงล่ะครับ ความคิดแบบสิ้นคิดของผม จากคุณ : สีดอก - [ 20 พ.ค. 51 15:14:02 A:118.173.237.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณคุณ P_Wut มากครับ ติดตามผลงานมานานไม่เคยผิดหวังเลยจริงๆ สมัยหนึ่ง ด้อกเตอร์ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ประท้วงคนขาวที่เข้าไปยึดครองแผ่นดินในอัฟริกา โดยการให้คนดำทั้งประเทศเดินไม่ขึ้นรถเมล์ ผลปรากฎว่าไม่ถึงเดือนคนขาวยอมแพ้ เพราะคนดำไม่ขึ้นรถเมล์ รถเมล์ขาดทุน รถเมล์เลิกวิ่ง คนขาวต้องเดินเหมือนคนดำ ชาวนาไทยเราจะยอมเผาข้าว 20 เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า จากคุณ : idolation - [ 21 พ.ค. 51 07:04:46 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โรงกลั่นขายผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 อย่าง "ตามราคาอ้างอิงของสิงคโปร์" เอาล่ะ.. ผมไม่ใช่คนที่อยู่ในวงการนี้ข้อมูลผมจึงไม่แน่นพอที่จะมาถกกับคุณวุฒิได้.. แต่ราคาขายล่าสุดมันจะสี่สิบบาทต่อลิตรแล้ว.. ถ้าเทียบกับราคาที่คุณวุฒิแจงมา (อ้างอิงจากตาราง) มันแค่ ยี่สิบสี่บาท ต่อลิตรเท่านั้น.. คิดเป็นต่อลิตรมันก็กำไรดูน้อย.. แต่ถ้าคิดเป็นตันผมว่ากำไรมันมากทีเดียว.. ผมยังมีข้อสงสัยอีกว่า.. "เรากลั่นน้ำมันเอง" เราจะไม่สามารถคิดต้นทุนการกลั่นด้วยตัวเองเลยหรือ? อย่าบอกนะว่าถ้าเราคิดราคาเองแล้วน้ำมันจะถูกขายไปสิงค์โปรหมด.. จริงๆ แล้วผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า.. สิงค์โปรมีโรงกลั่นเองหรือเปล่า? ถ้าไม่มีแต่สามารถ"จูงจมูกไทยได้".. นี่ก็.. "แปลกดี" แล้วถ้าสิงค์โปรมันคิดราคาน้ำมันที่กลั่นแล้วถูกกว่าต้นทุนจริงๆ ที่เรากลั่นได้.. เราก็ต้อง "คอยตาม" ให้มันจูงเล่นหรือ? ผลประโยชน์มันมากมาย.. มากจนบดบังจิตใจใครบางคน.. มากจนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้.. และก็มากจนจะไม่มีที่ให้คนจนๆ ยืนอยู่แล้ว.. ผมจะพยายามตอบกระทู้ "ประเภทนี้" เป็นครั้งสุดท้าย.. เพราะคิดว่าคงไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะไปตอบโต้ "คน" ที่กำลังหาผลประโยชน์อยู่บนหลังผม และปชช.ทั้งประเทศ.. ปล. ขอให้ทุกอย่างที่ผมคิดเป็นการเข้าใจผิด.. และขอให้ทุกท่านโชคดี.. จากกบในกะลา จากคุณ : นายแว่นธรรมดา - [ 21 พ.ค. 51 09:57:01 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คุณนายแว่นธรรมดาครับ ราคาในตารางข้างบนนั้น เฉพาะเนื้อน้ำมันดิบอย่างเดียว มันก็ 24 บาทต่อลิตรแล้ว ราคาน้ำมันทุกชนิดที่กลั่นได้ ถัวเฉลี่ยออกมาเป็นราคาต่อลิตร ก็ราวๆ 27-28 บาท แต่ที่ราคาขายหน้าปั๊มมันเกือบ 40 บาท เพราะมันมีภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล (หรือว่าภาษีท้องที่ ไม่แน่ใจชื่อไทย) เงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมัน และ VAT 7% อีกด้วย รวมแล้วเป็นเงิน 3-4 บาทในกรณีดีเซล และ 10 บาทในกรณีเบนซิน ดูภาพข้างล่างนี้แล้วกัน จากคุณ : P_Wut - [ 21 พ.ค. 51 21:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณหลังไมค์ตอบผมมา กรณีที่ผมว่าคุณทางหน้ากระทู้ (จำไม่ได้ว่า กระทู้ไหน) ว่า คุณเป็นกบในกะลา ผมยอมรับว่า ผมว่าคุณจริง และยังยืนยันว่า ในสายตาผม คุณก็ยังเป็นกบในกะลาอยู่เหมือนเดิม เพราะ เราคุย เราเถียงกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว  ในกระทู้ที่ผมไล่เรียงรายละเอียดยาวเหยียด มีคำตอบพวกนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่คุณก็..ไม่รู้สิ อาจจะไม่ได้อ่านมั้ง หรืออ่านแล้ว แต่ไม่เชื่อ ถ้าอ่านแล้ว แต่ไม่เชื่อ ผมไม่ว่าอะไรเลย เพราะ "สิทธิ์" ที่คุณเลือกจะเชื่ออะไร หรือไม่เชื่ออะไร มันเป็นของคุณ แต่ถ้าไม่คิดจะอ่าน เพราะมันมี "อคติ" ที่ฝังลึกอยู่ในหัวแล้ว ผมบอกตรงๆ ว่า ผมเสียดายครับ คุณไม่ใช่ เด็กแว้น ไม่ใช่เด็กวัยรุ่น ที่จะมาตอบกระทู้แบบใช้อารมณ์ ไม่รับผิดชอบคำพูด หรือสิ่งที่ตัวเองเขียน คุณมีการศึกษา คุณเล่นเน็ตเป็น "คุณตอบทุกกระทู้ โดยใช้คำภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง" แสดงว่า คุณมีการศึกษาพอสมควร สมองและสติปัญญาคุณ ไม่ได้ต่ำต้อยแล้ว สูงพอสมควร หากแต่เหลือเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 51 21:24:31 จากคุณ : P_Wut - [ 21 พ.ค. 51 21:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอขอบคุณอีกครั้ง.. ผมว่าเรามองคนละมุม.. คุณมองอย่าง "พ่อค้า" ส่วนผมมองอย่าง "คนที่ถูกกระทำ" เพราะอย่างนี้.. ยังไงความเห็นมันก็ไม่มีทางมาบรรจบกันได้.. และผมก็สงสัยเหลือเกินว่า "ทำไม" คุณต้องมาออกรับแทน ปตต. ที่คุณพูดอยู่เสมอว่าไม่มีส่วนได้เสีย.. ขอให้โชคดีกับ "เงิน" ทีคุณหาได้นะครับ.. สวัสดี แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 51 08:22:37 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 51 11:14:46 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 51 11:13:19 จากคุณ : นายแว่นธรรมดา - [ 22 พ.ค. 51 11:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 56 พอดีเห็นคุณวุฒิหลังไมค์มา.. ผมขอย้ำนะครับว่า "ผมยอมกินข้าวแพง ดีกว่ายอมจ่ายน้ำมันแพงแบบหมกเม็ด".. แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 51 08:23:18 จากคุณ : นายแว่นธรรมดา - [ 22 พ.ค. 51 16:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 57 Price Structure ของคุณ P_Wut  เป็นของจริงรึเปล่าครับ ผมขออนุญาต save ไว้นะครับ ถ้า Price Structure ของน้ำมันเป็นแบบนี้จริง รัฐบาลก็คงช่วยได้เรื่องลดภาษีแหละครับ แต่มันจะยอมรึ? ประเทศอื่นเก็บภาษีน้ำมันยิบย่อยอย่างนี้รึป่าวฟะ จากคุณ : พันเล่ม - [ 24 พ.ค. 51 14:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 58 บอกแค่ว่า น้ำมันแพงมาก ถ้าเทียบกับ รายได้ต่อหัวของไทยนะครับ แต่ถ้าเทียบกับ ราคาเฉลี่ยน้ำมันโลก ก็ปานกลาง..... แต่รู้มั้ย นอรเวย์ แพงอันดับสองเนี่ย รายได้ต่อหัวเค้าปีเท่าไหร่ ประชากรเค้าน้อย พอเกษีย รัฐก็เลี้ยงประชาชน แถบแสกนดิเนเวีย น้ำมันแพงแต่ ชาวบ้านไม่ได้แทบตายแบบเราหรอกครับ  เค้าอยู่แบบพอเพียง ไปถามคุณ ซิกเว่ย์ แห่งดีแทคซิครับ เอ้ามาดูข่าวนี้กัน นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) กล่าวว่า ในปีนี้ ปตท.จะแบก รับภาระอุดหนุนราคาพลังงานกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยมาจากเอ็นจีวี 4,000-5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เท่าตัวจากปีที่ผ่านมาที่ 2,000 ล้านบาท และราคาขายปลีกน้ำมันอีก 5,000-7,000 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจาก ปตท.ไม่สามารถกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันให้เป็นไปตามกลไกตลาดได้ โดย 5 เดือนแรกค่าการตลาดดีเซลของ ปตท. ติดลบ 32 สต./ลิตร โดย ยังไม่รวมกรณีการลดค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร ทางด้านของแอลพีจี ซึ่งเริ่มนำเข้ามาตั้งแต่เดือนที่ผ่านมาในราคา 900 เหรียญสหรัฐ แต่ต้องขายในประเทศที่ราคา 300 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งปัจจุบันทั้งระบบมีการใช้แอลพีจี 3 ล้านตัน/ปี หากคำนวณแล้วมีส่วนต่างราคาถึงประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ในส่วนนี้เป็นของ ปตท.ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท แม้ไม่ใช่ส่วนสูญเสียสุทธิที่เกิดกับ ปตท. เหมือนกับน้ำมันดีเซลหรือเอ็นจีวี แต่เป็นโอกาสที่ ปตท.ต้องสูญเสียไป “ภาระที่รับมาย่อมส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ แต่ ปตท.สามารถบริหารจัดการได้ โดยนำรายได้จากส่วนอื่นมาชดเชยเหมือนกับไตรมาสแรกปีนี้ กำไรของ ปตท.เติบโตดี เพราะมีรายได้จากปิโตรเคมีมาช่วย” นายประเสริฐ กล่าว ******************* คนทั่วไปบริโภคข่าว หรือ รับรู้ข่าวสารจากใน องค์กร หรือแม้กะทั่งคนในองค์กรระดับที่ไม่ใช่ ผู้บริหารใหญ่ เอง ได้ยินข่าวนี้แล้ว แหม ปตท. ดีจังยอมขาดทุนเพื่อชาติ หารู้มั้ยจริงๆนะ ไม่มีคำว่าขาดทุน ป๋าเสริฐเองเค้าก็รู้ดีอยู่แล้น LPG นำเข้าครับ พึ่งนำเข้าเพราะไม่ทำแบบนี้เดี๋ยวจะหาทางขึ้นราคาไม่ได้ "ในราคา 900 เหรียญสหรัฐ แต่ต้องขายในประเทศที่ราคา 300 เหรียญสหรัฐ/ตัน" solution ก็คือ รู้มั้ยครับเค้าส่งออกโดยผ่าน 3-4 เจ้าสัมปทานแก๊ซไป กำไรมากกว่า 900 เหรียญขนาดไหน เอามาขาย 300 หักลบยังไงก็กำไร แต่ถ้าจากแหล่งแล้วมาขายเลย มันไม่ได้กำไรนะซิ ต้องผ่านกระบวนการวนไปวนวนมา ก่อน เหมือนสินค้าผลิตในจีน ส่งไปอเมกา แล้วกลับมาจีนอีกทีในรูปแบบ import ก็จะสามารถขายในราคาที่สูงขึ้น นี่น่่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่เฮียแกบอกว่ารายได้ปิโตรเคมีเข้ามาช่วย อะ ช่วงนี้เริ่มบอกว่า อุดหนุน CNG/NGV 4-5 พันล้านแล้วนะ มากกว่า ปีที่แล้วเท่าตัวแล้วนะ ไม่นานถึงเวลา เพิ่มราคาแล้วซินะ ทั้งๆที่ทุกทั่นเองน่าจะพอรู้อยู่แล้วว่า แหล่งผลิตเค้ามาจากไหน ต้องอิงราคาน้ำมันตลาดโลกขนาดนั้นหรือไม เวนกำจิงๆ่ จากคุณ : SuHciP - [ 5 มิ.ย. 51 10:52:50 ]