ความคิดเห็นที่ 1 อุณหภูมิ ติดไฟ Lpg      481 c Ngv      650 c เบนซิน  275 c ดีเซล    250 c ก๊าซเทพ.......................... จากคุณ : หมีอ้วนตัวหนึ่ง - [ 18 พ.ค. 51 22:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 LPG มันร้อนกว่า น้ำ มันเบนซิน 50 องศา วัดบริเวณหัวเทียน น้ำมันเผาไหม้ร้อนกี่องศา ประมาณ2500F http://www.autoshop101.com/forms/h55.pdf http://www.autoshop101.com/forms/h56.pdf จากคุณ : ป๋า - [ 18 พ.ค. 51 22:12:03 A:172.16.5.50 X:202.44.210.45 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยากรู้ครับ ผมว่ามันร้อนกว่าเยอะเลยครับ จากคุณ : seto16 - [ 18 พ.ค. 51 22:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ร้อนเอาเรื่องเลย  มีวิธีไหนที่จะถนอมเครื่องยนตร้อนจากการใช้ lpg ไหมครับ รถผมติด lpg ซะด้วย พวกติด ngv นี่น่ากลัวกว่าอีก เผาไหม้ก็ร้อนสุดๆ แรงดันก็สูงสุดๆ จากคุณ : x-philes - [ 18 พ.ค. 51 22:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปกติ 2500F ร้อนขึ้น  50F ไม่เท่าไหร่เอง ( อ้างอิงจากข้อมูลป๋า ) จากคุณ : drof - [ 18 พ.ค. 51 23:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เคยได้ยินว่าเท่าตัว แต่ไม่ค่อยแน่ใจ จากคุณ : Fatdiary - [ 18 พ.ค. 51 23:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ร้อนขึ้น 50 องศาC ครับ http://www.ngkspark.com.au/pages/bulletins/T92-1.htm จากคุณ : ป๋า - [ 18 พ.ค. 51 23:58:45 A:172.16.5.50 X:203.149.16.43 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 8 #4 ก็ดูระบบระบายน้ำ และ น้ำมันเครื่องตั้งแต่ กึ่งสังเคราะห์ ขึ้นไป ให้อยุในสภาพปกติ ก้ ok แล้ว จากคุณ : bouncer - [ วันวิสาขบูชา 02:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มันไม่ได้ร้อนกว่ากัน พลังงานในน้ำมันเบนซินมีควาหนาแน่นกว่าด้วยซ้ำ ที่มันเป็นปัญหาคือก๊าซมันลุกติดไฟและลามหมดได้ช้ากว่าไอเบนซิน ทำให้พลังงานความร้อนแปรเปลี่ยนเป็นความดันในวัฎจักรจุดระเบิดในกระบอกสูบมันทำได้ไม่เต็มที่ กล่าวคือมันร้อนนานกว่าเนื่องจากเผาไหม้ช้ากว่า ขณะที่ไอเบนซินมันระเบิดวูบเดียวหมดความร้อนเปลี่ยนเป็นแรงอัดไปได้เยอะกว่านั่นเอง ดังนั้นถ้าจะโมฯเครื่องเบนซินไปใช้แก๊สให้ร้อนน้อยคือต้องเพิ่มอัตราการอัดขึ้นเล็กน้อย และใช้การจุดระเบิดแบบทวันปลั๊กหัวเทียนคู่ ให้แก๊สเผาไหม้หมดเร็วที่สุด แต่ยังไงก็เจอเรื่องบ่าวาล์วสึกอยู่ดีเพราะไม่มีหล่อลื่น จากคุณ : x - [ วันวิสาขบูชา 02:11:18 A:210.246.64.131 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อยากถนอมเครื่องใช้แก๊ส สำหรับผม ประหยัดเชื้อเพลิงแล้ว ก็นำมาซื้อ นม.เครื่องดีๆๆๆ super syn 100% ยี่ห้อไหนก็แล้วแต่ชอบนะ ใส่ชดเชยกับเปลี่ยนมาใช้แก๊ส  กลับวิ่งดีขึ้น  ชอบมากกกก เลยใช้มาตลอดเลย กลับรู้สึกจะประหยัดกว่าเดิมอีกเพราะใช้ได้ยาวขึ้น เหยียบแล้วก็รู้สึกดี และอย่าลืมตรวจดูหัวเทียน  กรองอากาศ  ระบบน้ำ  และห้องเครื่องด้วย ใช้แก๊สอย่างมีความสุข  หมั่นตรวจสอบด้วย จากคุณ : kom2003 - [ วันวิสาขบูชา 09:17:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 LPG มีค่าความร้อนเชื้อเพลิง "ต่ำกว่า" น้ำมันเบนซิน ครับ การเผาไหม้ก็จะได้ "ความร้อน" ต่ำกว่า ครับ แต่ LPG มันใช้วิธีเอาน้ำร้อนมาช่วยทำ vaporize คือ ต้มให้แก็สเหลว กลายเป็น "ไอ" เสียก่อน ดังนั้น เมื่อดูดไอดี(ในสถานะเป็น ไอ) เข้าไปในกระบอกสูบ ทำให้มี อุณหภูมิ"เริ่มต้น" สูงกว่าน้ำมันเบนซิน เพราะน้ำมันเบนซิน ดูดเข้าไปในสภาพของเหลว พอดูไอดีเข้าไปในกระบอกสูบ เบนซินเหลว "ดูดความร้อนส่วนหนึ่ง" ภายในกระบอกสูบ มาใช้เพื่อจะ vaporize แปลงสถานะเป็น vapor จึงทำให้กระบอกสูบมี "อุณหภูมิเริ่มต้น"  ต่ำกว่า เมื่อเชื้อเพลิงเกิดการเผาไหม้ ตอนนี้ ค่าความร้อนเชื้อเพลิง LHV จะมีบทบาท ทำให้เกิดความ "ความร้อน" มากหรือน้อย LPG มีค่าความร้อน ต่ำกว่า เบนซิน ดังนั้น มันจะร้อนกว่า เบนซิน ได้อย่างไร ครับ ? จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันวิสาขบูชา 09:24:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วน้ำมันเผาไหม้ร้อนกี่องศา >>>>>>>> VerbrennungsTemperature ( แปล .. อุณหภูมิเผาไหม้เบนซิน) อยู่ที่ 2000-2500 C ความร้อนระดับนี้ หลอมเหล็กให้ละลายได้ ครับ อุณหภูมิเริ่มต้น (อุณหภูมิไอดีที่ดูดเข้าไป) สมมติให้มันมีความร้อนต่างกัน มากถึง 200C เอ้า ... ผมเก ทับให้เลย อุณหภูมิ T1 มีค่าต่างกันมากถึง 200 C  ก็แทบไม่มีผลกระทบกับ T2 (อุณหภมิเผาไหม้) หรอกครับ ดังนั้น ที่ว่า   "lpg นั้นเวลาเผาไหม้ ความร้อนมันสูงกว่าน้ำมัน"  จึงไม่เป็นความจริง จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันวิสาขบูชา 09:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ^ ถ้าจริงดังนี้ แล้วมีข้อเสียอะไรบ้างอ่าท่าน จากคุณ : CC.mand - [ วันวิสาขบูชา 09:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มารอดู อยากรู้เหมือนกันครับ จากคุณ : S^o^LidB^o^Y - [ วันวิสาขบูชา 11:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมก็ว่าใช้ LPG แล้วความร้อนของเครื่องไม่ได้มากขึ้นนะครับ เพราะ ดูจากมาตรวัดความร้อนครับ มันขึ้นน้อยลงกว่าตอนใช้ น้ำมันหน่อยหนึ่งครับ (หรือว่า เป็นเพราะผมจูนแก๊สหนาหน่อยๆ หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้) จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ วันวิสาขบูชา 12:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าจริงดังนี้ แล้วมีข้อเสียอะไรบ้างอ่าท่าน ... มารอดู อยากรู้เหมือนกันครับ >>>>>>> ผมไม่ค่อยเข้าใจ คำถามของท่านทั้งสอง จะถามถึง ข้อเสียที่ LPG มี "ค่าความร้อน"  ต่ำกว่าเบนซิน หรือเปล่าครับ ? จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันวิสาขบูชา 13:29:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมขออนุญาตเพิ่มเติมสักนิด เรื่องความร้อน นี่นะ ถ้าเราจูนให้ "บางจัด" หมายถึง ส่วนผสมไอดี เจือจางมาก อย่างนี้ เครื่องจะร้อนจัด และสังเกตได้จากไอเสีย จะร้อนจัด ร้อนจนเอามือไปอังไม่ได้ ครับ เหตุที่ ร้อน เพราะส่วนผสมบาง ทำให้การเผาไหม้ช้าลง เครื่องยนต์เอาพลังความร้อนไปใช้งาน ยังไม่ทันไร ลูกสูบก็เลื่อนลงสุดเสียก่อน จะมี "พลังความร้อนส่วนที่เหลือ"  ทำให้ภายในกระบอกสูบร้อนกว่าปกติ และไอเสียก็ร้อนจัด ครับ ผมมีวิธีสังเกต ว่าจูนบางเกินไปหรือไม่ โดยเอามือ เอาส่วนของท้องแขนก็ได้ ไปอังที่ปลายท่อไอเสีย ถ้าไอเสียร้อนจัด แสดงว่า จูนบาง ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันวิสาขบูชา 13:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณพี่ ช่างกล-หนุ่ม ได้ความรู้ มากๆเลยครับ งั้น ความเชื่อที่ว่ารถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง lpg  นั้น อุณหภูมิของเครื่องยนต์จะสูงกว่านั้น ไม่เป็นความจริงใช่ไหมครับ...อืมม แล้วทำไมคนจำนวนมาก รวมทั้งช่างติดตั้งเองมักบอกว่ามันร้อนกว่า การใช้น้ำมัน? แล้วการที่ต้องเปลี่ยนหัวเทียนให้เย็นขึ้น นั้นจะยังจำเป็นอยู่ไหม? เกี่ยวกันรึเปล่า?? แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 51 14:10:16 จากคุณ : x-philes - [ วันวิสาขบูชา 14:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แล้ว NGV ละออกเทนมันสูงจัง ให้ผลแบบเดียวกับ LPG ไหม ความร้อนมากกว่าแค่ไหน จากคุณ : G - [ วันวิสาขบูชา 15:06:40 A:58.64.41.183 X: TicketID:146529 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วทำไมคนจำนวนมาก รวมทั้งช่างติดตั้งเองมักบอกว่ามันร้อนกว่า การใช้น้ำมัน? >>>>>>>>>> เป็นความเชื่อเก่าที่บอกว่า "แก็สมันแห้ง" ทำให้สึกหรอมาก ฯลฯ พูดกันไปนานๆเข้า กลายเป็น "แก็สร้อนกว่า" หรือ อาจเป็นเพราะ ความตั้งใจอยากให้ประหยัด จึงพยายาม "จูนให้บาง" อันนี้คือ ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ไอเสียออกมาร้อนจัด ทำให้เกิดความเข้าใจว่า แก็สทำให้เครื่องร้อน ครับ ปล. ผมเคยพยายาม "จูนบาง" บางจัดจน CO เหลือ 0% ตอนนั้นผมเห็นเครื่องวัด CO = 0 แล้ว ดีใจมาก คิดว่า แก็สมันดีจริงนะ จูนได้ CO ต่ำขนาดนี้ (เบนซิน จูนขนาดนี้ไม่ได้ครับ) ดีใจได้สักพัก เพื่อนเดินผ่านท่อไอเสีย เอะ ใจ เรียกผมไปดู โอโห ไอเสียออกมาร้อนจัด หลังจากนั้นก็ "สุมหัว" คุยกับฝ่ายวิชาการได้ข้อสรุปว่า จูนบาง ไม่ดี ... ทำให้เครื่องร้อน และ ประสิทธิภาพก็ไม่ดี ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันวิสาขบูชา 19:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แล้วการที่ต้องเปลี่ยนหัวเทียนให้เย็นขึ้น นั้นจะยังจำเป็นอยู่ไหม? เกี่ยวกันรึเปล่า?? >>>>>>>>>> เป็นคำถามที่ดีมาก ราวกับรู้ใจว่า ผมกำลังจะพูดเรื่องนี้ เรื่องเปลี่ยนหัวเทียนของรถแก็ส ให้เย็นลงสัก 1-2 เบอร์ เป็นเรื่องจำเป็น ที่ต้องทำอย่างนี้...  อธิบายได้ดังนี้ หัวเทียน.. เป็นอุปกรณ์ตัวหนึ่งที่ต้องทนการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ที่มีระดับแตกต่างกันสูงมาก ลองคิดดูซิครับ อุณหภูมิตอนจุดระเบิดสูงถึง 2000-2500 C   หลังจากนั้นในจังหวะดูดไอดี อุณหภูมิจะเหลือ 600-800C ไอดีที่ดูดเข้าไปจะดึงเอา "ความร้อนที่เหลือ" ภายในกระบอกสูบ ไปใช้เปลี่ยนสถานะจากเบนซินเหลวให้เป็น vapor (ความร้อนแฝง ใช้เปลี่ยนสถานะ นึกออกนะครับ) จังหวะดูดไอดี(เบนซิน) ช่วยทำให้หัวเทียนลดอุณหภูมิลง จนเหลือ 600-800 C และหัวเทียนจะ "ควบคุมอุณหภูมินี้เอาไว้" ไม่ใช่ลดจนเย็นเกินไป อุณหภูมิระดับนี้เรียก Self-Cleaning Temperature และเป็นที่มาของเบอร์หัวเทียน ที่แตกต่างกันตามค่าความร้อน ที่เราเลือกใช้ หัวเทียนร้อน หรือ เย็น เพื่อต้องการให้หัวเทียนรักษาความร้อนระดับ Self-Cleaning นี่เอง ที่อุณหภูมิระดับนี้ เขม่า สกปรกที่หัวเทียนจะถูกเผาไหม้หมด (ลองดูเตาอบไฟฟ้าของเยอรมัน หลายยี่ห้อ ที่ทำความสะอาดตัวเอง ผนังเตาก็ทำให้ร้อนจนถึงระดับทำความสะอาดตัวเอง หลักการเหมือนกัน) ทีนี้ พอใช้แก็ส LPG แก็สมันดึงความร้อนจาก "หม้อต้ม" ไปใช้เปลี่ยนสถานะเป็น "ไอแก็ส" ตั้งแต่แรก แก็สจึงไม่ได้ถูกดูดเข้าเครื่องยนต์ในสภานะของเหลว ความร้อนภายในกระบอกสูบ จึงไม่ถูกดูดไปใช้เหมือนเบนซิน เพราะเหตุผลนี้   อุณหภูมิที่หัวเทียน จึงสูงกว่าปกติ ถ้าเราต้องการระดับ Self-Cleaning Temperture = เท่าเดิม เราจึงเปลี่ยนหัวเทียนให้เบอร์เย็นลง ผมอธิบายไม่ค่อยเป็น หวังว่า คงเข้าใจนะครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันวิสาขบูชา 19:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 การที่ช่างอู่แก็สทดลองเปลี่ยนหัวเทียน ร้อนบ้าง เย็นบ้าง จนลงตัวได้ข้อสรุปว่า "รถแก็สให้เปลี่ยนหัวเทียนเย็นลงสักเบอร์" พอเห็นอย่างนี้ ก็เกิดความเข้าใจว่า "แก็สร้อนกว่าน้ำมัน" ความจริง  ไม่ใช่แก็สร้อนกว่า ที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่า ไอดี-แก็สมันดูดความร้อนจากหม้อต้มไปใช้เปลี่ยนสภานะเป็นไอ "ภายนอก-เครื่องยนต์" ก่อนแล้ว เมื่อไอดี เข้าไปในกระบอกสูบ มันถึงดูดความร้อน(ที่หัวเทียน)ไม่ได้อีก จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันวิสาขบูชา 19:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 23 1. Spark Plug Temperature Temperatures are higher with L.P.G. compared to petrol. This occurs due to L.P.G.'s reduced cooling effect. ข้อมูลจาก หัวเทียน NGK http://www.ngkspark.com.au/pages/bulletins/T92-1.htm >>>>>>>>>>>>> จะเห็นได้ว่า NGK เขาสรุปว่า "LPG ค่า cooling effect ลดลง" เจ้า cooling effect ก็คือการที่ไอดีเข้าไปดึงความร้อนแฝงมาใช้เปลี่ยนสถานะ ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันวิสาขบูชา 20:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สรุป การเผาไหม้ของ LPG  ไม่ได้ร้อนกว่าเบนซิน แต่หัวเทียนจะร้อนกว่า = จริง เพราะ Cooling Effect ของ LPG น้อยกว่า ทำให้การระบายความร้อนที่หัวเทียน น้อยกว่า หัวเทียนจึงร้อนกว่า ครับ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 51 20:05:39 จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันวิสาขบูชา 20:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับน้าช่างกล จากคุณ : drof - [ วันวิสาขบูชา 20:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อืม.. เยี่ยมมากครับ กระทู้นี้ ผมขอถามเพิ่มเติมอีกนิด สนใจตรงที่จูนจน CO = 0 แต่ไอเสียร้อนจัด แล้วประสิทธิภาพไม่ดีครับ (คห.20) จูนจน CO = 0 คือ การจูนบาง = LPG เข้าห้องเผาไหม้น้อยหน่อย ผลที่ได้ กลายเป็น ไอเสียร้อน เพราะเผาไหม้ช้า (หรือเปล่า - ผมเดาว่า คงเป็นเพราะเหตุนี้) ความร้อนจากไอเสียยังไม่ได้ใช้ดันลูกสูบได้เต็มที่ ก็คายออกจากกระบอกสูบเสียก่อน เราไม่สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ โดยการตั้งองศาจุดระเบิดให้ล่วงหน้ามากขึ้นไปอีก จนได้ใช้ประโยชน์จากไอเสียได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหรอครับ? ถ้าทำได้ ได้ 3 เด้งเลยนะ เครื่องยนต์ - CAT ไม่ร้อนเกินไป / ไม่เปลือง LPG / รักษาสิ่งแวดล้อมเพราะ CO = 0 จากคุณ : P_Wut - [ วันวิสาขบูชา 23:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผลที่ได้ กลายเป็น ไอเสียร้อน เพราะเผาไหม้ช้า (หรือเปล่า - ผมเดาว่า คงเป็นเพราะเหตุนี้) ความร้อนจากไอเสียยังไม่ได้ใช้ดันลูกสูบได้เต็มที่ ก็คายออกจากกระบอกสูบเสียก่อน >>>>>>> ถูกต้องครับ เผาไหม้ช้า peak pressure ไปเกิดขึ้น after- TDC ลูกสูบเลื่อนคล้อยลงไปมากแล้ว ระยะทาง expansion stroke ก็ลดน้อยลง ลูกสูบก็เลื่อนลงถึง BTD ก็จบแล้ว พลังความร้อนที่ยังเหลือ ไม่สามารถขยายตัวเอาไปงานได้ ถูกปล่อยเป็นไอเสีย ไอเสียก็ร้อนจัด จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 พ.ค. 51 05:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เราไม่สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ โดยการตั้งองศาจุดระเบิดให้ล่วงหน้ามากขึ้นไปอีก จนได้ใช้ประโยชน์จากไอเสียได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหรอครับ? >>>>>> ทำได้ระดับหนึ่ง มีข้อจำกัด อย่างนี้ ครับ 1) ความเร็วการเคลื่อนที่ของลูกสูบเป็นความเร็วเชิงมุม ความเร็ว=ไม่คงที่ 2) การเผาไหม้มีความเร็วคงที่ประมาณ 1/1000 วิ ที่รอบ rpm 1 เราตั้ง Timing ให้ ความเร็ว 1 สัมพันธ์กับ ความเร็ว 2  ได้พอดี เมื่อเครื่องมีรอบเพิ่ม เป็น rpm-2 เราต้อง advance timing เพิ่มองศามากขึ้น ในทางปฎิบัติ เมื่อ advance timing จนถึงจุดหนึ่ง เช่น X องศา BTDC ระหว่างที่ลูกสูบกำลังเคลื่อนที่ขึ้นบน ขณะนั้น เชื้อเพลิงก็ค่อยๆเผาไหม้ด้วยอัตราเร็วคงที่ ทำให้เกิด pressure rise ค่อยๆเพิ่มขึ้นตลอดระยะทางที่ลูกสูบเลื่อนขึ้นบน ===> แรงดันนี้ กลายเป็น แรงต้าน ในที่สุดประสิทธิภาพก็ลดลง ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 พ.ค. 51 05:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ข้อมูลจาก หัวเทียน NGK http://www.ngkspark.com.au/pages/bulletins/T92-1.htm 2. Spark Plug Required Voltage Required voltage increases with L.P.G. because of the difference in the bonding of gas particles between the two fuels.   >>>>>>>>>>> ประโยคนี้ สำคัญ "required Votage increase" มาดูว่า ทำไมถึงต้องใช้ Voltage จุดหัวเทียนสูงขึ้น  ? 1) เมื่อ Votage เพิ่มก็ได้ Energy เพิ่ม 2) ส่วนผสมเชื้อเพลิง A/F ของ LPG ต้องใช้ energy มากกว่า เพราะ Ignition Point ของ LPG สูงกว่า เบนซิน ค่า Igition point -Propane 490-550 C -Butane  470-540 C เปรียบเทียบกับ เบนซิน อยู่ที่ 36-380 C เห็นไหมครับ ignition point ต่างกันมาก จึงต้องการ energy ในการจุดระเบิด ต่างกัน นี่คือคำตอบ  FAQ ที่ถามว่า รถแก็ส กินหัวเทียน หรือ ใช้หัวเทียนเปลือง  ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 พ.ค. 51 05:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผลการทดลองส่วนตัว ลองใช้หัวเทียนหลายๆยี่ห้อ บางยี่ห้อ เปลี่ยนใหม่ เอารถไปขับทดลองแค่ไม่กี่ กิโลเมตร หัวเทียนก็ออกอาการ .... อ่อนแรงเสียแล้ว เมื่อเปิดหนังสือของ Bosch ได้ความว่า หัวเทียนเมื่อใช้ จะเกิด shunt หรือ อะไร ?? ที่ทำให้ ไฟ leak ทำให้ไฟวิ่งไปกระโดดที่ปลายเขี้ยว ลดลง ... ไฟจุดระเบิดลด ทำให้ energy ลด สำหรับรถเบนซิน ignition point ต่ำ หัวเทียนก็ยังไม่ออกอาการ แต่รถแก็ส หัวเทียนจึง sensitive กว่า นี่เป็นธรรมชาติของเชื้อเพลิง ครับ เมื่อ เข้าใจปัญหาจริงๆ และรู้สาเหตุเกิดทุกข์ เอ้ย ต้นเหตุของปัญหา แล้ว เราจะแก้ไขได้ และเราจะติดแก็ส , ใช้แก็สได้... อย่างมีความสุข ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 พ.ค. 51 06:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 31 บอกได้ไหม ??? (ไม่แน่ใจ) หัวเทียนที่ผมทดลองใช้ ได้ผลดี เยี่ยม คือ หัวเทียน NGK ครับ หัวเทียนธรรมดาๆ นี่เอง เคยทดลองแพรตตินั่ม ได้ผลไม่พอใจ ครับ แต่ไอ้เดี่ยมๆ นี่ผมไม่เอา ราคามันโหดไปสำหรับผม :-) จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 พ.ค. 51 06:03:13 ]

ความคิดเห็นที่ 32 รถผมใช้ 2 เชื้อเพลิงน่ะครับ ทั้ง แก้สและน้ำมัน หากผมเปลี่ยนหัวเทียนที่เย็นขึ้น 1 เบอร์สำหรับแก้สนั้น หัวเทียนที่เย็นขึ้น 1 เบอร์จะมี effect อะไรบ้างกับเครื่องยนต์หากผมสวิทซ์ไปใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน? เพราะผมเข้าใจว่าเย็นขึ้นกว่าปกติ 1 เบอร์จะ match กับแก้สได้ดีกว่า  แต่ไม่แน่ใจว่ามันจะ match กับน้ำมัน 100%  หรือว่า หัวเทียนที่ต่างกัน 1 เบอร์ ประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้? ทั้ง 2 เชื้อเพลิง จากคุณ : x-philes - [ 20 พ.ค. 51 08:45:45 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หากผมเปลี่ยนหัวเทียนที่เย็นขึ้น 1 เบอร์สำหรับแก้สนั้น หัวเทียนที่เย็นขึ้น 1 เบอร์จะมี effect อะไรบ้างกับเครื่องยนต์หากผมสวิทซ์ไปใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน? ... ... หัวเทียนที่ต่างกัน 1 เบอร์ ประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้? ทั้ง 2 เชื้อเพลิง >>>>>>>>>>> เป็นคำถามที่ดี ที่ผมอยากจะพูดเหมือนกัน คืออย่างนี้ครับ ที่ว่า Cooling effect จากเชื้อเพลิง LPG ส่งผลให้ "หัวเทียนร้อนขึ้น" อันนี้ถ้าดูลงลึกๆ ถึงการทำงานของเครื่องยนต์ Effect ความร้อนนี้มีจะผลมาก เมื่อเครื่องยนต์ใช้ Load มากๆ เช่น ขับความเร็วสูงๆ ต่อเนื่องนานๆ หรือ บรรทุกหนักๆ ขับขึ้นเนิน (ผมยกตัวอย่างสุดโต่งไปเลย ให้เห็นภาพชัดเจน :-) อยากเล่าให้เห็นภาพความร้อนภายในเครื่อง ดังนี้ ครั้งหนึ่งทดลองใน lab เป็นเครื่องรถ Opel บังเอิญมีเพื่อนคนหนึ่งเดินสดุดปลั๊กไฟพัดลมหลุด ทำให้พัดลมระบายความร้อนเครื่องหยุดทำงาน ผมหันไปเห็น exhaust manifold (เขาควาย) ร้อนจัด เหล็กเป็นสีแดงสว่างโร่ น่าตกใจ ลองนึกดูเถอะขนาดไอเสียยังร้อนอย่างนั้น ภายในห้องเผาไหม้ หัวเทียนจะร้อนแค่ไหน ถ้าไม่ได้ cooling effect จากไอดีช่วย เขี้ยวหัวเทียนคงจะละลายแน่นอน ... ตอนนั้นเป็นการทดลอง full load ครับ เจ้า Cooling Effect จากไอดี จึงมีผลมากเมื่อเครื่องทำงาน @ high load ... full load ครับ แต่การขับขี่ประจำวัน เราใช้งานเครื่องยนต์เพียง partial load หรือ Light Load แค่นั้น น้อยคนมากที่จะขับหนักๆ แบบคุณต้น ขออภัยที่นินทา :-) ดังนั้น หัวเทียนเบอร์เดิม ก็ใช้ได้ ครับ ในทางตรงข้าม ถ้าต้องการผลเลิศ เราเปลี่ยนหัวเทียนให้เย็นลง 1 เบอร์ ก็จะทำให้ใช้ได้ดีขึ้น และ "ใช้ได้" เมื่อเปลี่ยนมาใช้เบนซินเป็นครั้งคราว ไม่ถึงกับเป็นผลเสียหายร้ายแรง ผลเสีย ... ก็ไม่มาก ... ถึงไม่มีเลย เมื่อเปลี่ยนใช้ "หัวเทียนเย็นกว่าปกติ" และใช้น้ำมันเบนซิน ผลเสียเพียงทำให้ "ดำง่าย" กว่าปกติ เพราะ หัวเทียนเย็น self cleaning temperature ที่เย็นกว่าปกติ จึงเผาไหม้เขม่าได้ไม่ดี ตามที่ควร ครับ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 51 09:41:49 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 51 09:39:28 จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 พ.ค. 51 09:32:37 ]

ความคิดเห็นที่ 34 2. Spark Plug Required Voltage Required voltage increases with L.P.G. >>>>>> รถที่ติดแก็ส ที่บ่นๆว่า เปลืองหัวเทียน สาเหตุ หลักมาจาก required Voltage increases ตัวนี้ ไม่ได้เป็นเพราะค่าความร้อนของหัวเทียน ครับ ผมมีข้อพิสูจน์ ดังนี้ พวกผมทดลองกันแล้ว รวมหัวกันลงความเห็น สรุปให้ เพิ่ม Voltage ไฟจุดระเบิดซิ หลังจากได้ข้อสรุป   เพื่อนนัก Elec ก็ทำ "อุปกรณ์ชิ้นนี้" ออกขาย (ขายหมดแล้ว .. เมื่อ 20ปีก่อน นะ) ตอนนั้นนึกจะตั้งชื่ออะไรดี พอดีได้ยินเสียงเจ้าออสซิเรเตอร์ (ตัวแปลงไฟ) มันส่งเสียงดัง "หึ่งๆ" .... ก็ปิ้งไอเดีย ตั้งชื่อ Bee เสียเลย ใครที่เคยติดตั้งแก็สที่อู่สหายสันต์เมื่อหลายปีก่อน คงเคยเห็นอุปกรณ์เพิ่มไฟจุดระเบิดตัวนี้ ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 พ.ค. 51 09:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ดังนั้น รถใครที่ติดแก็ส แล้วมีปัญหา เปลืองหัวเทียน ผมอยากแนะนำให้ดู เรื่องไฟจุดระเบิดก่อนที่จะเสียเงินใช้หัวเทียนพิเศษราคาแพงโหดๆ ครับ ความเห็นผม การเปลี่ยนเบอร์หัวเทียนให้เย็นลง ความจริงก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไร ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 พ.ค. 51 09:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ยอดเยี่ยมครับ คุณช่างกล-หนุ่ม เก็บเข้าคลังกระทู้ด้วยเด้อ จากคุณ : AVSystem - [ 20 พ.ค. 51 10:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอเซฟ ลงคลังกระทู้เก่า และคลังส่วนตัวครับ จากคุณ : P_Wut - [ 20 พ.ค. 51 10:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาอีกแล้ว รู้เรื่อง LPG แบบ งู งู ปลา ปลา มาอธิบายให้คนรู้แบบมวยวัด เข้าใจผิด จากคุณ : ป๋า - [ 20 พ.ค. 51 16:09:06 A:unknown X:203.149.16.36 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณทุกท่านมากๆ คุณ ป๋า คห.38  มีอะไรเด็ดๆจะอธิบายไหมครับ? ผมก็อยากฟังความหลายข้างนะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 51 17:29:20 จากคุณ : x-philes - [ 20 พ.ค. 51 17:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เปรียบเทียบ CNG กับ gasoline engine Does CNG engine run hotter than a gasoline engine? There are several different factors at work that determine the exhaust temperature of an NG engine as compared to a similar engine running on petrol. NG engines that are converted from petrol operation do generally run with hotter exhausts. There are several reasons for this - one of the main ones being that with petrol there is a cooling effect as it evaporates in the induction system and in the cylinder. This does not happen with gas. Also a gas mixture tends to burn more slowly than petrol and so may still be burning when it is exhausting through the valves. There are several things that must be taken care of when doing a conversion - all important. The cooling system must be in good order and clean on the water side and the radiator clean on the air side. The engine ignition timing must be correctly adjusted (usually advanced) for gas - which tends to burn more slowly and you have to avoid gas still burning as it passes through the exhaust system. These are some of the important issues. หมายเหตุ LPG ไอดีร้อนกว่า CNG จากคุณ : ป๋า - [ 20 พ.ค. 51 19:45:30 A:125.24.40.232 X: TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สำหรับ CNG น้ำร้อนที่ไปสู่หม้อต้ม Stage แรก เพื่อปรับอุณหภูมิตามทฤษฎี Joule–Thomson effect จากคุณ : ป๋า - [ 21 พ.ค. 51 21:50:50 A:172.16.6.84 X:203.146.104.42 TicketID:110672 ]