ความคิดเห็นที่ 1 อ้างอิงจากที่ผมได้เคยนำเสนอแล้วเก็บไว้ในนี้ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ton99&month=02-2008&date=22&group=1&gblog=72 ผมไม่รู้ว่ามีใครเคยเอาวิธีคิดคำนวณอัตราสิ้นเปลืองจากตอนที่ใช่น้ำมันเป็น LPG NGV มาลงให้ดูกันไปบ้างแล้วหรือยัง ลองดูกันนะครับ ก่อนอื่นมาดูค่าความร้อนของเชื้อเพลิงแต่ละชนิดกันก่อน Gasoline 95 31,754 BTU/Litre Gasoline 91 32,133 BTU/Litre LPG 26,595 BTU/Litre NGV 35,947 BTU/kg จะเห็นว่า Gasoline 95 มีค่าความร้อนเป็น 1.19 เท่า ของ LPG Gasoline 91 มีค่าความร้อนเป็น 1.21 เท่า ของ LPG Gasoline 95 มีค่าความร้อนเป็น 0.88 เท่า ของ NGV Gasoline 91 มีค่าความร้อนเป็น 0.89 เท่า ของ NGV เพื่อลดความยุ่งยากในการของการคิดแยก 91 กับ 95 ผมจึงยุบทั้งสองตัวเป็น Gasoline อย่างเดียว และทำการปัดเศษทิ้ง จะได้ว่า Gasoline มีค่าความร้อนเป็น 1.2 เท่า ของ LPG Gasoline มีค่าความร้อนเป็น 0.9 เท่า ของ NGV ดังนั้นในการคิดอัตราสิ้นเปลือง จาก Gasoline เป็น LPG ในหน่วย km/L เป็น km/L จะต้องหารด้วย 1.2 หรือคูณด้วย 0.833 และจาก Gasoline เป็น NGV ในหน่วย km/L เป็น km/kg จะต้องหารด้วย 0.9 หรือคูณด้วย 1.111 ยกตัวอย่างเช่น เมื่อใช้น้ำมันเบนซิน วิ่งกินน้ำมันอยู่ 15.5 km/L พอมาใช้ LPG แล้ว อัตราสิ้นเปลืองก็จะเปลี่ยนเป็น 15.5/1.2 = 12.9 km/L อย่างรถผมตอนก่อนตอนใช้น้ำมันเบนซินวิ่งกิน 15km/L ขึ้น พอมาใช้แกสก็กินแถวๆ 13km/L จากคุณ : ton99 - [ วันวิสาขบูชา 19:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 และจากคุณบอย ติดต่อมาทางหลังไมค์ ///////////////////////////////////////////////////////////////////// From : LAMBDAJET [18 พฤษภาคม 2551 19:10]         นายต้น เรื่องคำนวนความสิ้นเปลือง แอลพีจีกับเบนซิน ค่าความร้อน ไม่สำคัญ เท่ากับ เอเอฟ ที่แลมบ์ดา 1 และการซื้อแล้วได้น้ำหนักต่อลิตรเท่าไร ที่แลมบ์ดา 1 - เเอเอฟ เรโช เบนซิน 14.7ฃแอลพีจีแถวๆ 15.5 ต่อ 1 เวลาซื้อ เบนซิน 1 ลิตร เราได้ 750 กรัม ซื้อแอลพีจีเราได้ 550 กรัม การคำนวน ต้องเกิดจากค่าเอเอฟ และอย่าลิมว่าค่าเอเอฟ นั้น สัดส่วนนั้น โดยน้ำหนัก ดังนั้น การคำนวนด้วยค่าความร้อน ต่อ ลิตรนั้นไม่ตรงประเด็น ต้องดูว่า ที่แลมบ์ดา 1 อากาศเท่าไร สมมุติตัวเลขมา เบนซินเท่าไร และเมื่อเป็นแอลพีจี อากาศที่เท่ากัน เราจะเติมแอลพีจีเข้าไปเท่าไร กี่กรัม แล้วมาดูตอนซื้อ ต่อลิตรว่า ได้น้ำหนักเชื้อเพลิงตามกันเท่าไร ผมยังยันว่า การคำนวนต้องมาจาก เอเอฟเรโช ต่อกรัม และการซื้อ ว่าต่อลิตร ได้มากี่กรัม การคำนวนด้วยค่าความร้อน ผิด เพราะนั่นเป็นเรื่องความแรง จะกินเท่าไร ขึ้นกับเอเอฟ เรโชที่แลมบ์ดา 1 และค่อยมาดูว่า การซื้อต่อลิตรได้เท่าไร กี่กรัม ///////////////////////////////////////////////////////////////////// จากคุณ : ton99 - [ วันวิสาขบูชา 19:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมยังยืนยันว่าการคำนวณอัตราสิ้นเปลืองที่เปลี่ยนแปลงจากค่าความร้อนนั้นเป็นแนวทางที่ถูกต้อง กลับมาที่เรื่องพื้นฐานกันก่อน เครื่องยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานศักย์ในเชื้อเพลิงให้เป็นพลังงานกล ดังนั้นเมื่อไหร่ ที่มีการเปลี่ยนแปลงค่าความร้อนของเชื้อเพลิง อัตราสิ้นเปลืองเชื่อเพลิงก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกัน ในการดูการเปลี่ยนแปลงอัตราสิ้นเปลืองเชื่อเพลิงนั้น จะต้อง Fix Output ของระบบให้เท่ากัน เมื่อ Output เท่ากัน Input ก็จะเท่ากัน  สิ่งที่ต่างคือค่าความร้อนของเชื่อเพลิงต่อหน่วยปริมาตร ดังนั้นอัตราสิ้นเปลืองที่เปลี่ยนไป  ก็จะมาจากค่าความร้อนของเชื่อเพลิงต่อหน่วยปริมาตรนั้นเอง อย่างเช่น เบนซิน มีค่าความร้อนมากว่า LPG อยู่ 1.2 เท่า ในการที่ใช้ LPG แทนเบนซิน จะต้องใช้ปริมาณ LPG มากกว่า เบนซินเป็น 1.2 เท่า เช่นกัน เรื่องการคิดอัตราสิ้นเปลืองจากค่าความร้อน ไม่ได้มีผมคิดแบบนี้อยู่คนเดียว  โดยทั่วไปเขาก็จะคิดแบบนี้กัน ตัวอย่างเช่นรูปข้างล่างนี้ จากคุณ : ton99 - [ วันวิสาขบูชา 19:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาต่อเรื่องวิธีคิดที่คุณบอย นำเสนอมา การคิดอัตราสิ้นเปลืองจาก A/F ที่ Lamda 1 นั้น  มันจะเป็นการคิดที่ผิดประเด็น เพราะนั่นเป็นการคิดการเปลี่ยนแปลงปริมาณจ่ายเชื่อเพลิงจากการ Fix อากาศที่เข้าเครื่อง ไม่ใช่เป็นการคิดอัตราสิ้นเปลืองที่เปลี่ยนแปลง การ Fix อากาศที่เข้าเครื่องเอาไว้แบบนี้แล้วเปลี่ยนเชื่อเพลิง ที่มีค่าความร้อน และค่า A/F ต่างกัน  มันจะทำให้กำลังที่ได้จากเครื่องนั้นต่างกัน ในเมื่อ Output จากเครื่องนั้นมีค่าต่างกัน  จึงเอามาคิดเทียบกันไม่ได้ ยกตัวเลขจากข้างบนมาลองคิดกันดู เบนซิน A/F 14.7 ความหนาแน่น 0.75 kg/L LPG A/F 15.5 ความหนาแน่น 0.55 kg/L ถ้า Fix ให้อากาศเข้าเครื่อง 100 kg เท่ากัน จะต้องใช้ เบนซิน 6.803 kg = 9.070 L หรือใช้ LPG 6.452 kg = 11.730 L จะเห็นว่าถ้าเปลี่ยนจากเบนซินเป็น LPG จะต้องใช้ปริมาณ LPG มากกว่าเบนซินเป็น 1.29 เท่า จากข้างบน เบนซิน 9.070 L มีค่าความร้อน 288,018 btu LPG 11.730 L มีค่าความร้อน 311,965 btu จะเห็นว่า ถ้าคิดแบบนี้  ตอนใช้ LPG จะได้ค่าความร้อนมากกว่า  ได้พลังงานมากกว่า ซึ่งมันจะใช้เอามาคิดเทียบเป็นอัตราสิ้นเปลืองไม่ได้  เพราะรถมันวิ่งแรงไม่เท่ากัน และวิธีการคิดแบบนี้ต่างหาก  ที่เป็นวิธีการคิดเรื่องความแรง แต่เห็นตัวเลขแบบนี้  ก็อย่าเพิ่งคิดว่าใช้ LPG แล้วจะแรง เพราะ LPG 11.730 L นี้เป็นปริมาตรภายใต้แรงดัน 10 bar ถ้ามาขยายตัวในบรรยากาศ 1 bar  จะมีปริมาตรเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่า รถทั่วไปที่ไม่มีระบบอัดอากาศ  ในท่อไอดีเป็นสุญญากาศ ปริมาตรจะยิ่งขยายได้มากว่าที่แรงดันบรรยากาศขึ้นไปอีก การขยายตัวของ LPG ตรงนี้  มันจะไปแย่งปริมาตรอากาศที่จะเข้าเครื่อง ทำให้ปริมาตรอากาศที่เข้าเครื่องลดลง  กำลังเครื่องลดลง จากคุณ : ton99 - [ วันวิสาขบูชา 19:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ ton99 มากเลยครับได้ความรู้มากเลย จากคุณ : DoctorChao - [ วันวิสาขบูชา 20:07:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากคุณ : *380 Z - [ วันวิสาขบูชา 22:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 LPG 26,595 BTU/Litre NGV 35,947 BTU/kg ผมคิดว่า LPG น่าจะให้ค่าความร้อนสูงกว่านะครับ เพราะมีค่า cมากกว่า ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกป่าว จากคุณ : terios - [ วันวิสาขบูชา 22:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อา....... ยังไม่ได้อ่านหมด แต่ขอออกความเห็นเบื้องต้นครับ ถ้าพูดถึงกำลัง หรือ พูดถึงอัตราสิ้นเปลือง มันก็คงต้องดูค่าความร้อนเป็น หลัก เพราะเครื่องยนต์คือ machine ที่เปลี่ยนพลังงานความร้อน ไปเป็นพลังงานจลน์ แต่ถ้าว่ามันคือทั้งหมดใช่มั้ย ก็คงต้องตอบว่าไม่ใช่ มันมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ตัวเลขคลาดเคลื่อน ไม่งั้นตัวเลขมันต้องออกมา เป๊ะๆ 15.5/1.2 = 12.9 km/L ไม่ใช่ 15:13 ปัจจัยที่ทำให้คลาดเคลื่อนเช่น A/F ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่อง ยนต์ในการเปลี่ยนพลังงานความร้อนให้เป็นพลังงานจลน์ แต่ไม่ใช่ แบบที่เป็นการคำนวนน้ำหนักเพียวๆ ลักษณะการขับเพราะการ ใช้น้ำมันกับ lpg ทำให้ character ของเครื่องยนต์เปลี่ยนไป การเลี้ยงเครื่องยนต์ให้อยู่ในย่านที่ได้ประสิทธิภาพสูงสุดก็มีผล ถ้าดู AF เพื่อวัดปริมาณการจ่ายเชื้อเพลิงอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะ AF มันไม่ได้นิ่งเท่ากันทุกรอบการใช้งาน หรือจะบังคับให้ มันนิ่ง แต่ทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพต่ำในการเปลี่ยนพลังงาน มันก็ทำให้เปลืองมากขึ้น จากคุณ : Dark Archon - [ วันวิสาขบูชา 23:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ (ตอบคห. 7) ค่าความร้อนของ LPG หน่วยเป็น BTU/ลิตร ค่าความร้อนของ NGV หน่วยเป็น BTU/กก. LPG 1 กก. จะราวๆ 1.8 ลิตร ดังนั้น ถ้าหาค่าความร้อนของ LPG เป็น กก. จะได้ตัวเลขเป็น 1.8 เท่า = 47,871 BTU/kg ครับ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 51 23:21:13 จากคุณ : P_Wut - [ วันวิสาขบูชา 23:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าการคิดอัตราการสิ้นเปลืองโดยเอาค่าความร้อนมาคิดเพียงอย่างเดียว ไม่ถูกต้องครับ ต้องดูที่ AF ร่วมด้วย และปัจจัยอีกหลายอย่าง ถ้าจูนแกสกับอากาศได้เหมาะสม ลงตัว ไม่จำเป็นเสมอที่จะได้ค่าจาก่อัตราส่วนโดยใช้ค่าความร้อนมาคำนวน แต่ถ้าเอาแค่ค่าลวกๆ คร่าวๆ หรือค่าการคาดคะเน ก็พอจะได้อยู่ จากคุณ : so_love1 - [ 20 พ.ค. 51 00:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ก่อนอื่นมาดูค่าความร้อนของเชื้อเพลิงแต่ละชนิดกันก่อน Gasoline 95 31,754 BTU/Litre Gasoline 91 32,133 BTU/Litre LPG 26,595 BTU/Litre NGV 35,947 BTU/kg >>>>>>> จขกทขยันช่างค้นหาคำตอบเรื่องต่างๆหลากหลาย   เครื่องยนต์เป็นเครื่องพลังความร้อน เอาค่าความร้อนมาเปรียบเทียบถูกแล้วครับ อย่างไรก็ตาม ถ้าเปรียบเทียบด้วยหน่วยเดียวกัน จะดีกว่าครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 พ.ค. 51 04:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การเปรียบเทียบ fuel consumption จากค่าความร้อนเชื้อเพลิง ... เพียงอย่างเดียว จะไม่ได้ค่าแม่นยำ เต็มร้อย ครับ เพราะ คุณสมบัติเฉพาะของเชื้อเพลิงแต่ละชนิด == แตกต่างกัน "ความแตกต่าง" ส่งผลกระทบประสิทธิภาพ (thermal efficiency) โดยตรง เช่น ค่า C, H ที่ไม่เท่ากัน ทำให้ A/F ratio ไม่เท่ากัน ค่า Octane ที่ต่างกัน ทำให้ timing ต่างกัน มีผลกระทบมากมีผลกับ thermal efficiency ไม่น้อย ตัวแปรพวกนี้ มีผลต่อความแม่นยำ อย่างไรก็ตาม ค่าความร้อนเชื้อเพลิง สามารถบอกได้ "แม่นยำ 100%" คือ บอกได้แม่นยำว่า เมื่อ output เท่ากัน ==> เชื้อเพลิงตัวไหนจะสิ้นเปลืองมากกว่า จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 พ.ค. 51 05:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 20 พ.ค. 51 11:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 /// การเปรียบเทียบ fuel consumption จากค่าความร้อนเชื้อเพลิง ... เพียงอย่างเดียว จะไม่ได้ค่าแม่นยำ เต็มร้อย ครับ เพราะ คุณสมบัติเฉพาะของเชื้อเพลิงแต่ละชนิด == แตกต่างกัน "ความแตกต่าง" ส่งผลกระทบประสิทธิภาพ (thermal efficiency) โดยตรง /// เห็นด้วยตามนี้เลยครับ การเปลี่ยนค่าออกเทน กำลังอัด ชนิดของเชื้อเพลิง  พวกนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องทั้งนั้น แต่ตอนนี้ขอละเอาไว้ก่อน   ที่ละไว้เพราะว่าไม่รู้ว่า ประสิทธิภาพนั้นมันเปลี่ยนไปเท่าไหร่ จากคุณ : ton99 - [ 20 พ.ค. 51 13:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมสนับสนุนให้เปรียบเทียบง่ายๆ โดยดูจาก "ค่าความร้อนเชื้อเพลิง" อย่างเดียวก็พอแล้ว เพราะ "ค่าความร้อน" คือ input-energy เราดูเพียง output = เท่ากัน จะต้องใช้ input = มากหรือน้อย ต่างกันอย่างไร ? ที่สำคัญ ต้องใช้หน่วยเดียวกัน จึงจะเปรียบเทียบได้ ไม่จำเป็นต้องลงลึกไปดูรายละเอียด ว่า A/F ต่างกันอย่างไร หรอกครับ ง่ายๆ ดูแต่ "ราคา ต่อ ค่าความร้อน" ก็เพียงพอแล้ว จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 21 พ.ค. 51 06:18:47 ]