ความคิดเห็นที่ 60
ปตท. จับมือ เอ็นพีซี ขยายการส่งออก LPG ไปต่างประเทศ
ปตท. ร่วมกับ เอ็นพีซี ส่งออกก๊าซ LPG จาก โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ของ ปตท. จ.ระยอง ผ่านทางท่าเทียบเรือของ เอ็นพีซี เพื่อสร้างโอกาสทางการค้า และเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้กับประเทศ
วันนี้ (24 พฤษภาคม 2548) เวลา 18.00 น. ที่ บริเวณท่าเทียบเรือ ของ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) จ.ระยอง ดร.จิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. และ ดร.วิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นพีซี ร่วมกันเป็นประธานในพิธีเปิดการส่งออกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas : LPG) จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ของ ปตท. ผ่านทางท่าเทียบเรือของ เอ็นพีซี จ.ระยอง
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. และ เอ็นพีซี ในครั้งนี้ นับเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากเดิมที่ ปตท. ส่งออกก๊าซ LPG ผ่านทางท่าเทียบเรือของคลังปิโตรเลียมศรีราชา ของ ปตท. จ.ชลบุรี แต่เนื่องจากปัจจุบัน ปตท. ได้เพิ่มปริมาณการส่งออกมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก ปตท. ได้เริ่มเดินเครื่องโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 5 ทำให้มีปริมาณก๊าซ LPG เพิ่มมากขึ้น ปตท. จึงได้ร่วมมือกับเอ็นพีซี ในการเพิ่มช่องทางการส่งออก และสร้างมูลค้าเพิ่มการใช้ประโยชน์จากท่าเทียบเรือและคลังผลิตภัณฑ์ ของเอ็นพีซี ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็นพีซี เปิดเผยว่า ท่าเทียบเรือของเอ็นพีซีแห่งนี้ จะส่งออกก๊าซ LPG ของ ปตท. ในอัตราการขนส่งสูงสุดที่ 373 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง รองรับเรือขนส่งที่มีระวางขับน้ำที่ 1,000 - 9,000 ตัน เข้าเทียบท่า โดยท่าเทียบเรือและคลังผลิตภัณฑ์ ของ เอ็นพีซี นี้ อยู่ห่างจากโรงโอเลฟินส์ ของเอ็นพีซี ประมาณ 3 กิโลเมตร ทั้งนี้ เอ็นพีซี ได้ก่อสร้างคลังสำหรับใช้ในการเก็บผลิตภัณฑ์ก๊าซเอทิลีน และก๊าซโพรพิลีนของ เอ็นพีซี และใช้เก็บสำรองก๊าซ และสารเคมีขั้นต่อเนื่องเพื่อใช้ในขบวนการผลิตของบริษัทฯ ปัจจุบัน เอ็นพีซี มีท่าเทียบเรือจำนวนทั้งสิ้น 2 แห่ง โดยแห่งแรกอยู่ห่างจากฝั่ง 4.2 กิโลเมตร และแห่งที่ 2 อยู่ห่างจากฝั่ง 5 กิโลเมตร สามารถรองรับเรือที่มีระหว่างขับน้ำตั้งแต่ 1,000-60,000 ตันเข้าเทียบท่า
จากคุณ :
Matrix
- [
17 มิ.ย. 51 14:46:03
A:58.64.51.178 X:
]
|
|
|