ความคิดเห็นที่ 1 อ่านแล้ว ขอถามแจมหน่อย ถ้าเปลี่ยน battery ใหม่ มันต้องถอดแบตออก  ECU ของแก๊สมันจะจำค่าไหมครับ  หรือต้องจูนใหม่ครับ จากคุณ : ohrin - [ 17 มิ.ย. 51 14:47:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รถผมติดแก๊สตั้งแต่ น้ำมัน24 บาท ตอนนี้ขับมาร่วม 1.5แสนและ ทั้งขึ้นเหนือ ล่องใต้ เปลี่ยนยางไป 3 รอบแล้ว  ยังไม่เคยเปลี่ยนกรองแก๊สซักที แถมเครื่องก็ยังปกติดีไม่ต้องตั้งวาล์วแต่ประการใด วาล์วฮอนด้า ไม่ต้องตั้งหรอกครับ รถที่ต้องตั้งวาล์วส่วนมากเป็นแท็กซี่ครับ เพราะเค้าจะปรับส่วนผสมให้บางมากๆๆๆ ทำให้เกิดความร้อนสูงที่ห้องเผาไหม้ บ่าวาล์วจะสึกเร็ว ถ้าเป็นรถบ้าน ส่วนใหญ่จะจูนแก๊สผสมพอดี จึงไม่ต้องตั้งวาล์วแต่ประการใด แต่ถ้าวาล์วดังขึ้นมา รู้ไว้เลยว่าช่างจูนเครื่องให้คุณบางมากเกินไป อัตราเฉลี่ย สำหรับรถ 1600 ซีซี กับแก๊สที่ราคา 11 บาท ควรกินแก๊สที่ 1-1.3 บาทต่อกิโลครับ กำลังดี ส่วนการเปลี่ยนแบต ไม่มีผลต่อ ECU ทั้งที่เป็นกล่องเสริม หรือกล่องโม เชิญถอดเล่นตามสบาย จากคุณ : ปลาทองน้องปลาทู - [ 17 มิ.ย. 51 15:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ECU ที่กล่าวมา ส่วนมากเป็น ECU แบบแปลงสัญญาณครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องถอดแบตฯ คร่าวๆนะครับ  ปกติ ecu จะเป็นตัวบอกว่า ถ้ารอบเครื่องเท่านี้ ไอเชื่อเพลิงเท่านี้ ต้องเปิดวาล์วดูดอากาศมาเท่านี้ แต่พอคุณไปติดแก็ส อัตราส่วนไอเชื่อเพลิง กับอากาศ จะเปลี่ยนไป  แต่เนื่องจากคุณยังต้องใช้ Ecu ที่ติดมากับรถเป็นหลัก จึงมีการสร้างกล่องแปลงสัญญาณ โดยเอาสัญญาณ ออกซิเจน ไปคูณค่าคงที่  ทำให้ปริมาณ อากาศที่เข้าเครื่องลดลงกว่าความเป็นจริง  เพราะไอแก็ส มีอากาศผสมอยู่มากกว่า ไอน้ำมัน อยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องลด ไออากาศที่นำมาผสมเพิ่ม  และมันเป็นวงจรตายตัว  ไม่ต้องห่วงเรื่อง ถอดแบตฯ ไม่ถอดแบตฯ อย่างที่บอกข้างต้น  เครื่องเดินเรียบไม่เรียบ อยู่ที่  ไออากาศ ไอเชื่อเพลิง  ถ้าติดแบบหัวฉีด ก็จะปัญหาน้อยหน่อย แทบไม่ต้องจูน  แต่ถ้าติดแบบดูด  ถึงแม้ว่า คุณจะติดกล่องแปลงสัญญาณอากาศแล้ว ก็ยังต้องจูน เพราะถ้าคุณปล่อยแก็สหนาเกินไป เครื่องก็น๊อก อยู่ดี ปล่อยบางไปเครื่องก็สั่นเป็นเจ้าเข้า  ดังนั้น การติดแบบ ระบบดูด ยังต้องจูนครับ ติดมาแล้วประหยัด หรือเร่งทันใจได้ดีแค่ไหน ก็อยู่ที่จูนนี้หละ เพราะนิสัยการขับไม่เหมือนกัน กรองแก็ส แนะนำเปลี่ยน ปีละครั้ง  ก็เหมือนกรองน้ำมันเบนซินหละครับ  ใช้รถเยอะ ก็อาจต้องเปลี่ยนไวกว่า  แต่ปกติ ถ้าปีหนึ่งไม่เปลี่ยนเลย ก็ควรจะเปลี่ยนได้ จะได้ไม่ไปสะดุดเอาตอนที่กำลังใช้รถในเวลาสำคัญ  เหมือนพวกสายพาน ใบปัดน้ำฝน บ่าวาล์ว ก็แนะนำว่า ควรตั้งทุกๆ 2-3 ปี/ครั้งครับ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 17 มิ.ย. 51 15:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เสริมนิด การจูนทำจนพอใจ แล้วไม่ต้องไปยุ่งกับมันอีกเลยครับเอาเมจิกขีดไว้เลยก็ได้ ถ้างบประมาณพอ แนะนำ ติดแบบหัวฉีดครับ จะได้ไม่ต้องมาห่วงเรื่องจูนหนา จูนบาง จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 17 มิ.ย. 51 15:39:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ได้ความรู้ดีครับ ขออนุญาตเก็บกระทู้นี้ไว้ จากคุณ : ลำไผ่ บ้านท่า - [ 17 มิ.ย. 51 15:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทำไมกรองแก๊สมีอายุ 1 ปีแล้ว อู่ไม่บอกละคะ แล้ว สรุปว่า ไม่ต้องกลับไปจูนหรอคะ อ่านแล้ว งง ๆ โง่ๆ แปลให้ด้วยสิ จากคุณ : - - (NongPleZa) - [ 17 มิ.ย. 51 16:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กรองแก็ส ไม่ได้มีอายุ 1ปีครับ แต่ถ้าคุณจะรอจนมันตัน ซึ่งก็ไม่รู้จะไปแจคพอร์ตวันไหน เวลาใด  โดยมาก จึงจัดให้ทำการเปลี่ยนมันประจำปี เหมือนเวลาเราเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ช่างก็จะเปลียนกรองน้ำมันเครื่องมาด้วยเลย  ทั้งๆที่ กรองน้ำมันเครื่อง ก็ไม่ได้ตันสักหน่อย  แต่ว่าคุณจะรอจนมันตัน แล้ววิ่งหาช่าง จ่ายค่าแรงอีกรอบเหรอ??? การจูน หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า ช่างติดให้คุณแบบไหน ปกติ แบบหัวฉีด มันจะมีกล่องควบคุมมาต่อกับ ECU ปกติของรถ ทำให้แทบไม่ต้องจูน แต่แบบ ระบบดูด หรือ MIX เป็นการจ่ายไอแก็ส ตายตัวคงที่ตลอดเวลา ดังนั้น อยู่ที่ช่างจูนเก่งไม่เก่ง เวลาติดรอบแรก จูนแล้วลองรถดีไหม  อย่างที่จะเห็นกระทู้ในหน้าหลักว่า  ติดแก็สมา เดินเบาสั่นทำไงดี  นั้นหละครับ อยู่ที่จูนมาไม่ดี ควรเอากลับไปจูนไหม จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 17 มิ.ย. 51 16:10:31 ]