ความคิดเห็นที่ 1 (ประกาศ ฉบับเดิม ปี 46) ประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ฉบับที่ 70 พ.ศ. 2546 เรื่อง การกำหนดราคาขายก๊าซ ณ คลังก๊าซเป็นราคาเดียวกันทุกแห่งทั่วราชอาณาจักร --------------     อาศัยอำนาจตามข้อ 4(3) และข้อ 5 แห่งคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 1/2546 เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไข และป้องกันสภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้     ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน ฉบับที่ 45 พ.ศ. 2545 เรื่อง การกำหนดราคาขายก๊าซ ณ คลังก๊าซ เป็นราคาเดียวกันทุกแห่ง ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2545     ข้อ 2 ให้กำหนดราคาขายก๊าซ ณ คลังก๊าซ เป็นราคาเดียวกันทุกแห่งทั่วราชอาณาจักร ดังนี้ ราคาขายก๊าซ ณ คลังก๊าซ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม  กิโลกรัมละ 11.5223 บาท     ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่  5  ธันวาคม พ.ศ. 2546 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่  4   ธันวาคม พ.ศ. 2546 (นายเมตตา บันเทิงสุข) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน จากคุณ : จขกท. (ขออุบไว้ก่อน) - [ 23 มิ.ย. 51 08:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คือ อ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ สรุปแล้วรวมบวกโน่น บวกนี่  อย่างราคา ณ ก.ท. นี่ ขึ้นมาเป็นเท่าไหร่ต่อลิตรหรอครับ จากคุณ : อิคาริ ชินจิ - [ 23 มิ.ย. 51 09:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณค่ะ แต่อ่านแล้วเรางง กำลังพยายามทำความเข้าใจอยู่ ว่าตกลงแนวโน้มราคามันยังไงกัน จากคุณ : catty ขี้สงสัย - [ 23 มิ.ย. 51 09:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ราคาตามประกาศ เป็นราคาขายส่ง ซึ่งกำหนดเป็นราคาเดียว  ดูข้อ (2) หากจะขึ้นราคาครั้งใหญ่ (เดือน ก.ค.) คงจะมีการออกประกาศฉบับใหม่     การบริหารการจัดการ  (เพื่อให้ราคาส่ง ณ คลังก๊าซ เป็นราคาเดียว) เขาจะมีกองทุนทำหน้าที่ควบคุม  (หักเข้า-จ่ายชดเชย) ราคาขายปลีก   ต้องบวก  ภาษีสรรพสามิต  ภาษีมูลค่าเพิ่ม (2ขยัก) ค่าขนส่ง  และค่าการตลาด  3.2566  บาท   กรณีเติมรถ  ต้องแปลงหน่วย  จาก ก.ก.เป็น ลิตร (ตัวแปรที่ทำราคาขายปลีกไม่เท่ากัน คือ ค่าขนส่ง ค่าการตลาด(บางรายเก็บไม่เต็มเพดาน)  และ ผู้ขายตั้งราคาขายบวกราคาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ) จากคุณ : คนตามข่าว (ขออุบไว้ก่อน) - [ 23 มิ.ย. 51 09:33:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องจับตาดูข้อ (11)  ด้วย ถ้ามีการนำเข้า  เขาจะมาเบิกเงินชดเชยจากกองทุน กก. ละ 16.1839 บาท   เงินชดเชยตัวนี้  รวมกับ ราคาขายส่งแล้ว  อยู่ที่ประมาณ  ก.ก.ละ 30  บาท   นั่นคือ ตีเคลมว่า  ราคาตลาดโลก  ก.ก.ละ  30  บาท กองทุนที่ว่านี้   น่าจะเป็นคนละกองทุนกับกองทุนน้ำมัน   แต่หารายละเอียดมากกว่านี้ไม่ได้ จากคุณ : คนตามข่าว (ขออุบไว้ก่อน) - [ 23 มิ.ย. 51 09:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มาช่วยอธิบายบางส่วน เท่าที่รู้ พร้อมกับมีคำถาม เนื่องจากอ่านแล้วงง "(3) กําหนดราคาก๊าซที่ทําในราชอาณาจักร กิโลกรัมละ 10.9960 บาท" ##### ตรงนี้แหละ ที่ว่าคำนวณจาก 320US$/Ton สรุปได้ว่า ไม่ว่า LPG จากส่วนการผลิตไหน หากผลิตในไทย ต้องขายหน้าโรงกลั่น/โรงแยก/โรงปิโตร ที่ราคานี้เท่านั้น ##### "(1) กําหนดราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับก๊าซ กิโลกรัมละ 13.68627 บาท (2) กําหนดราคาขายก๊าซ ณ คลังก๊าซไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นราคาเดียวกันทุกแห่งทั่วราชอาณาจักร กิโลกรัมละ 13.6863 บาท" ##### โรงกลั่น = ผู้ผลิตที่ผลิต LPG จากน้ำมันดิบ   ส่วนคลังก๊าซ หมายถึง ถังเก็บขนาดใหญ่ที่กระจายแต่ละภาค ซึ่งจะมีการขนส่ง LPG ไปเก็บที่คลัง ไม่ว่าจะด้วยท่อใต้ดิน หรือรถเทรลเลอร์ หรือรถไฟ (ไม่แน่ใจว่ามีมั้ย แต่น้ำมันมีส่งด้วยรถไฟแน่ๆ) อ่านจากข้อความทั้งหมด จะนับได้ว่า มีคลังก๊าซอย่างน้อย 5 แห่ง ดังนี้ คลังก๊าซที่ชลบุรี คลังก๊าซที่จังหวัดนครสวรรค์ คลังก๊าซที่จังหวัดลําปาง คลังก๊าซที่จังหวัดขอนแก่น คลังก๊าซที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี คลังก๊าซที่จังหวัดสงขลา เอาข้อ (3) มาดูกับ (1) และ (2) + ความรู้จากตารางโครงสร้างราคาน้ำมันและ LPG ได้ว่า ส่วนต่างระหว่าง 13.6863 กับ 10.9960 นั้น คือ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และเงินที่เก็บเข้ากองทุนน้ำมัน (= 2.17 , 0.217 , 0.3033 บาท/กก. ตามลำดับ) ##### จากคุณ : P_Wut - [ 23 มิ.ย. 51 11:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 "(7) กําหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชย สําหรับก๊าซที่ส่งออกจากคลังก๊าซที่ จังหวัดชลบุรี โดยการขนส่งทางรถยนต์ ดังนี้ ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดนครสวรรค์ กิโลกรัมละ 0.7067 บาท ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดลําปาง กิโลกรัมละ 1.7067 บาท ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดขอนแก่น กิโลกรัมละ 1.0997 บาท ไปยังที่อื่น ๆ กิโลกรัมละ 0.3033 บาท (8) กําหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชย สําหรับก๊าซที่ส่งออกจากคลังก๊าซที่จังหวัดชลบุรี โดยการขนส่งทางอื่น ดังนี้ ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดนครสวรรค์ กิโลกรัมละ 0.2743 บาท ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดลําปาง กิโลกรัมละ 0.7582 บาท ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดขอนแก่นน กิโลกรัมละ 0.4614 บาท ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี กิโลกรัมละ 0.0324 บาท ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดสงขลา กิโลกรัมละ 0.0528 บาท ไปยังที่อื่น ๆ กิโลกรัมละ 0.3033 บาท" ##### (1) + (2) + (7) + (8) เป็นแบบนี้ หมายความว่า รัฐต้องการเกลี่ยค่าขนส่งจากแหล่งผลิตไปหาคลังให้เป็น 0 เสมือนว่า ซื้อจากจุดกระจายหลักในแต่ละภาค ด้วยราคาเดียวกันทั้งหมด เงินที่มีการเก็บเข้า - ออก ก็คือ เพื่อชดเชยกับค่าขนส่งจากแหล่งผลิต ไปยังคลัง (แต่ยอมรับว่า ยังไล่ตัวเลขตัวเลขแต่ละตัวไม่ถูก ว่า ตัวเลขไหนเก็บเข้า ตัวเลขไหนจ่ายออก) ##### "(4) กําหนดราคาก๊าซที่นําเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร กิโลกรัมละ 10.9960 บาท จังหวัดชลบุรี ก๊าซที่ส่งออกจากโรงแยกก๊าซของบริษัท ปตท. สผ. สยาม ฯ อําเภอลานกระบือ จังหวัดกําแพงเพชร และก๊าซที่ส่งออกจากโรงแยกก๊าซขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช กิโลกรัมละ 0.3033 บาท" ##### ข้อนี้แหละที่งง เหมือนข้อความขาดหายไปบางส่วน และข้อ (5) ก็หายไปด้วย ##### จากคุณ : P_Wut - [ 23 มิ.ย. 51 11:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 "(6) กําหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสําหรับก๊าซที่นําเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร (นําเข้าตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2551 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2551) ดังนี้ นําเข้าคลังก๊าซที่จังหวัดชลบุรี กิโลกรัมละ 16.1839 บาท นําเข้าคลังก๊าซที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี กิโลกรัมละ 15.8806 บาท นําเข้าคลังก๊าซที่จังหวัดสงขลา กิโลกรัมละ 15.8806 บาท นําเข้าที่อื่น ๆ กิโลกรัมละ 15.8806 บาท" ##### อันนี้ น่าจะเป็นค่าชดเชยกรณีต้องนำเข้า LPG เข้ามา โดยแยกให้ดูด้วยว่า นำเข้าแต่ละที่ ชดเชยได้เท่าไหร่ ซึ่งแตกต่างกันไป น่าจะเพราะค่าขนส่ง ข้อนี้ ผมตีความได้ว่า คลังที่สุราษฏร์ และสงขลา น่าจะมีท่าเรืออยู่ด้วย ##### "(9) กําหนดอัตราเงินสงเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชย สําหรับก๊าซที่ส่งออกจาก โรงแยกก๊าซบริษัท ปตท.ผส.สยาม ฯ อําเภอลานกระบือ จังหวัดกําแพงเพชร ดังนี้ ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดนครสวรรค์ กิโลกรัมละ 2.2945 บาท ไปยังคลังกาซที่จังหวัดลําปาง กิโลกรัมละ 1.8978 บาท ไปยังคลังกาซที่จังหวัดขอนแก่น กิโลกรัมละ 2.2103 บาท ไปยังที่อื่น ๆ กิโลกรัมละ 2.6903 บาท (10) กําหนดอัตราเงินสงเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชย สําหรับก๊าซที่ส่งออกจากโรงแยกก๊าซขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ดังนี้ ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดสุราษฎรธานี กิโลกรัมละ 0.1100 บาท ไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดสงขลา กิโลกรัมละ 0.0490 บาท ไปยังที่อื่น ๆ กิโลกรัมละ 0.3033 บาท" ##### 2 ข้อนี้ เกี่ยวกับการขนส่ง LPG จากโรงแยกก๊าซ ปตท. ที่กำแพงเพชร ไปยังคลัง 3 คลังที่ภาคเหนือตอนบน และอีสาน และ จากโรงแยกก๊าซที่ขนอม ไปยังคลังอีก 2 คลังที่ภาคใต้ ก็น่าจะอย่างนั้นแหละ จะไปส่งข้ามเขตไกลๆ ทำไม ##### จากคุณ : P_Wut - [ 23 มิ.ย. 51 11:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 "(11) กําหนดอัตราเงินชดเชยสําหรับก๊าซที่ทําในราชอาณาจักร ซึ่งผลิตจากก๊าซที่นําเข้าจากต่างประเทศ (นําเข้าตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2551 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2551) กิโลกรัมละ 16.1839 บาท (1) ปริมาณก๊าซที่นําเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักรตามข้อ 2 (6) ให้ขอรับเงินชดเชยได้ไม่เกินปริมาณตามที่ กรมธุรกิจพลังงานกําหนดให้นําเข้า (2) ปริมาณก๊าซที่ทําในราชอาณาจักร ซึ่งผลิตจากก๊าซที่นําเข้าจากต่างประเทศตามข้อ 2 (11) ให้ขอรับเงิน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2551 เป็นต้นไป" ##### อัตราชดเชยที่ 16.1839 บาท/กก. นี้ มาจากไหนหว่า? ราคาในประเทศ = 10.9960 บาท/กก. หรือ 333.21 US$/Ton (อัตราแลกเปลี่ยน 33 บาท/$) 16.1839 => 490.42 US$/Ton เท่านั้น  เอา 2 อันมารวมกันจะได้ = 27.1799 หรือ 823 $/Ton เท่านั้น หรือถ้าคิดอัตราแลกเปลี่ยน 32 ก็จะได้ 849 $/Ton แต่หนังสือออกประกาศหลังวันที่มีผลบังคับใช้ตั้ง 1 เดือน (หนังสือออก 26 พ.ค. แต่ให้ย้อนหลังตั้งแต่ 26 เม.ย. เพื่อให้ครอบคลุมถึงเรือนำเข้า LPG ล็อตแรก "Clean River" ที่ขึ้นเทียบท่า 29 เม.ย. เชื่อว่า คงมีการ recheck มาเรียบร้อยแหละว่า ที่สั่งนำเข้ามา (น่าจะล่วงหน้า 1 เดือน) ปตท.สั่งมาด้วยราคาเท่าไหร่ มี (1) คุมอีกตะหากว่า ถ้ากรมธุรกิจพลังงานไม่ได้กำหนดให้นำเข้า หรือนำเข้ามาด้วยปริมาณที่เกินกว่าที่กำหนด ก็จะมาขอเงินชดเชยไม่ได้  --> แบบนี้ ถ้าโรงกลั่น/ผู้ค้าอื่นอยากจะนำเข้ามาขาย ก็ได้นะ ก็ไปขออนุมัติจากกรมฯ เท่านั้น แต่ว่า เอาเข้ามาแล้ว ก็ต้องขายที่ กก.ละ 10.9960 เท่านั้น ส่วนที่เกินเบิกเงินชดเชยไม่ได้ ถ้าไม่ได้เป็นการมอบหมายให้นำเข้าจากกรมฯ  รวมทั้ง แม้แต่ ปตท. ถ้านำเข้าเกินปริมาณที่กรมฯ กำหนด ก็จะขอเงินชดเชยไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 12:01:40 จากคุณ : P_Wut - [ 23 มิ.ย. 51 11:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กลับไปอ่านคห. จากคุณป๋า หลายๆ ครั้ง เกี่ยวกับเรื่อง LPG จากการแยกจากก๊าซธรรมชาติ เช่น http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6726148/V6726148.html#13 "ผู้ผลิตรายใหญ่คือ Chevron ในอ่าวไทย และพม่าLPG ที่ผลิตได้ส่งทางเรือ ขายที่ไหนไม่รู้ ผู้ผลิตรายย่อยคือ ปตท มี2แท่นเจาะ ส่งมาตามท่อแกสธรรมชาติ" จากคุณ : ป๋า - [ 21 มิ.ย. 51 22:39:36 A:unknown X:203.149.16.34 TicketID:110672 ]     เลยงงว่า 1. ในรายงานการผลิต LPG มีส่วนที่ได้จากโรงแยกก๊าซถึง 55% แต่ทำไมไม่ค่อยมีพูดถึงใน หนังสือฉบับนี้ - หรือความหมายคำว่า "โรงกลั่น" ใน (1) รวมโรงแยกก๊าซ ปตท. ที่มาบตาพุดด้วย 2. ถ้า Chevron ผลิตได้โดยตรงที่แท่นขุดเจาะก๊าซ ปตท. ซึ่งมีอยู่ 2 แท่น จะหามาได้ไงตั้ง 55% ของปริมาณการใช้? ถ้า ปตท. ที่มีแค่ 2 แท่น ยังผลิตได้ตั้ง 55% ของปริมาณการบริโภคในไทย Chevron 12 แท่นเจาะ คงเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ LPG ระดับภูมิภาคได้เลยมั้งเนี่ย ผมกลับเชื่อว่า มันก็มากับก๊าซธรรมชาติที่ส่งจากอ่าวไทยผ่านท่อใต้ทะเล มาแยกที่โรงแยกมาบตาพุดนี่แหละ แยกแล้วก็ส่งผ่านท่อใต้ดินไปเก็บที่คลังใหญ่ที่ชลบุรี ** สรุปคือ ข้อมูลคุณป๋า น่าจะหมายถึง เฉพาะ LPG ส่วนน้อยที่แยกได้เลยจากตามแท่น ไม่ใช่ปริมาณส่วนใหญ่ ** ถ้าผมเข้าใจผิด รบกวนคุณป๋ามาตอบให้ด้วย จากคุณ : P_Wut - [ 23 มิ.ย. 51 12:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 .. จากคุณ : bouncer - [ 23 มิ.ย. 51 13:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทั้ง จขกท และคุณ P_Wut ครับ จากคุณ : Papiruz - [ 23 มิ.ย. 51 17:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปกติ LPG จะได้ที่โรงแยกก๊าซปลายท่อครับ ที่เชฟรอนได้ที่บริเวณต้นทางแล้วเก็บใส่เรือไปขายคือ คอนเดนเสท ครับ เป็นของเหลวราคาแพงกว่าน้ำมันซะอีก จากคุณ : zzz (Mr. Coffee) - [ 24 มิ.ย. 51 10:24:34 ]