ความคิดเห็นที่ 1 ล้อหน้ามันเป็นล้อขับเคลื่อน ซึ่งจะมีการหมุนฟรีบ้าง ส่วนล้อหลังมันวางอยู่เฉยๆ หมุนตามรถวิ่งครับ ก็เลยไม่ค่อยได้เสียดสีกับพื้นเท่าไหร่ จากคุณ : ไม่ได้กลัวแต่เกรงใจ - [ 2 ก.ค. 51 16:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วิ่งยางหน้าอ่อน  กว่าปกติ  ครับ โดยมากมักมีคนแนะนำให้เติมลม ยางเท่ากันทั้ง 4  ล้อ  แต่กลับลืมว่ายางด้านหน้ารับน้ำหนักมากทั้งเครื่องยนต์  แบตเตอรี่  นำหนักคนนั่ง คนขับ  แต่ยางหลังกลับรับนำหนักจริงๆ  น้อยมากเพราะ ไม่ค่อยมีคนนั่งข้างหลัง  และนานๆจะบรรทุกของทีครับ ที่จริงถ้าเติมลมยางหลัง 30 ยางหน้าน่าจะเติมเพิ่มเป็น 32 ครับ จากคุณ : เล็กชาย - [ 2 ก.ค. 51 16:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ต้องสลับหน้ายางด้วยนะครับ   ถ้าให้ดีควรทำทุก 6 เดือน จากคุณ : หนุ่มเมืองเพ็ด - [ 2 ก.ค. 51 16:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หรือ ทุกๆ 10000 กม จากคุณ : หมิงปู้ - [ 2 ก.ค. 51 16:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ดอกด้านข้างหายเกือบหมด นั่นแปลว่าศูนย์รถไม่ถูกต้องแล้วครับ ยางหน้าสึกเร็วกว่าหลังก็เป็นเรื่องปกติของรถขับเคลื่อนล้อหน้าซึ่งต้องมีการถ่ายเทกำำลังลงสู่พื้นถนน สำหรับรถขับหลัง ยางหลังจะสึกมากกว่าล้อหน้าครับ ส่วนรถบรรทุกเช่นพวกรถกะบะทั้งหลายก็เหมือนกัน ยางหลังหมดเร็วกว่ายางหน้า เพราะต้องทั้งส่งกำลัง ทั้งบรรทุก จากคุณ : เด็กรับรถ - [ 2 ก.ค. 51 18:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สึกมากด้านข้าง ถ้าเป็นทั้งด้านข้างซ้าย-ขวาของหน้ายางสาเหตุลมยางอ่อนเกินไป และถ้าด้านใดด้านหนึ่ง ก็อาจเป็นที่ช่วงล่างมีปัญหาหรือการตั้งศูนย์ พร้อมทั้งลมยางอ่อนด้วยก็ได้ ปกติการเบรถ การเลี้ยวทำให้ยางหน้าสึกเร็วขึ้นและเป็นขับล้อหน้าก็จะยิ่งสึกเร็ว แต่ของคุณถ้าเป็นการขับขี่ปกติที่ควรจะเป็นมันสึกเร็วเกินไป จากคุณ : Poonoi - [ 2 ก.ค. 51 18:30:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เหตุผลที่ล้อหน้าสึกมากกว่าล้อหลังเพราะ 1. การถ่ายเทกำลังตอนขับเคลื่อน รถขับเคลื่อนล้อหน้า ล้อหน้าก็จะรับภาระหนักกว่า  รถขับเคลื่อนล้อหลัง ล้อหลังก็จะรับภาระหนักกว่า 2. การรับภาระขณะหยุดรถ ไม่ว่าขับเคลื่อนแบบไหน ล้อหน้าจะรับภาระหนักกว่าล้อหลัง ยิ่งการเบรครุนแรงมากขึ้นเท่าไหร่ การรับภาระล้อหน้าก็จะมากขึ้น และยางหน้าก็จะสึกมาก 3. ตำแหน่งศูนย์ถ่วงของรถ อยู่กลางรถล้อหน้าและล้อหลังรับภาระเท่ากัน ถ้าอยู่ค่อนไปข้างหน้า ล้อหน้าก็จะรับภาระมากกว่า  ถ้าอยู่ค่อนไปข้างหลังล้อหลังก็จะรับภาระมากกว่า ส่วนเรื่องดอกยางด้านข้างหายเกือบหมด   แสดงว่าลมยางอ่อนไป ทำให้การรับน้ำหนักของยางไม่เต็มหน้ายางแต่เป็นด้านข้างของยางที่รับไปเต็มทั้งด้านในและด้านนอก กรณีที่ลมยางปกติ แต่ถ้าดอกยางด้านในหายไปเยอะกว่าด้านนอก แสดงว่าแคมเบอร์ของรถเป็นลบเยอะ(ล้อแบะ) อาจจะเนื่องจากการโหลด จะแก้ได้ก็ต้องหา Ball Joint เพื่อให้สามารถปรับมุมล้อให้ตั้งฉากได้ การกินหน้ายางก็จะสม่ำเสมอ จากคุณ : KhongLen` - [ 2 ก.ค. 51 18:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รถขับเคลื่อนที่ล้อไหน ยางมันก็สึกมากกว่า ปกติครับ ควรสลับยางตาม คห.4 ครับ ถ้าลมยางอ่อน ขอบยางจะสึกกว่าตรงกลางครับ ถ้าตรงกลางยางสึกมากกว่าขอบยางแสดงว่าลมยางแข็งไปครับ จากคุณ : นายHUT - [ 2 ก.ค. 51 18:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลองไปเช็คศูนย์ล้อก็ดีนะครับ เผื่อมันแบะออก หรือหุบเข้านิดหน่อย ก็มีผลกระทบครับ เหตุผลอื่นๆ ของ คห.ข้างต้น ก็ มีผลกับหน้ายางทั้งนั้น ต้องไล่หาหรือแก้เป็นข้อๆไป แต่กรณีนี้ มันผิดปกติมาก จากคุณ : t-nat - [ 2 ก.ค. 51 18:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปกติมันก็สึกมากกว่าล้อหลังอยู่แล้ว  แต่สึกแบบคุณว่ามามันไม่ถูกต้อง มันต้องสึกแบบไม่เกินหน้าเกินตากันมากขนาด 2-3 เท่าขนาดนั้น กล่าวคือมันสึกมากเกินไป  ควรเช็คศูนย์ล้อ หรือโช๊คอัพ กินข้างมากไป ศูนย์กับโช๊คอัพมีส่วน แต่ผมเอนเอียงไปทางศูนย์ล้อมากกว่าครับ จากคุณ : หัวหยิกผมหยองที่รักของเธอ - [ 2 ก.ค. 51 20:49:35 ]