ความคิดเห็นที่ 26
BMW มี M3, M5 แต่ไม่เคยมี BMWคันไหน ทำให้คนที่ไม่ได้ชอบBMWอย่างผม คิดอยากจะได้ BMW อย่างนี้มาก่อน มากเสียจนกระทั่งถ้าหากว่าตอนนี้ผมมีเงินสัก3ล้าน ผมจะเดินเข้าโชว์รูม BMWอย่างแน่นอน
ไม่ใช่รถแรงดิบเถื่อน แต่แรงดึงชนิดหลังติดเบาะจนทำให้รู้สึกอึดอัดชั่วครู่ที่2-3พันรอบ ทั้งๆที่รถกำลังบรรทุกน้ำหนักอยู่ราว 300โลนั้น ไม่น่าจะเรียกว่าธรรมดาเท่าไหร่นัก
ความที่มีช่วงอัตราทดเกียร์รับกับทุกความเร็ว และมีแรงบิดที่มาแรง เยอะ ทำให้ ในการขับส่วนมาก คุณแค่กดคันเร่งครึ่งเดียวก็แทบจะแซงรถสิบล้อได้แบบปลอดภัยสูง
ช่วงล่างที่ความเร็วต่ำมีอาการกระด้างนิดหน่อยนะในความคิดผม แต่ที่ความเร็ว240 ความตื่นเต้นหวาดหวั่นมีอยู่แค่ในระดับเท่าๆกับการขับAccordใหม่ที่ความเร็ว190-200
นิ่ง แน่น มั่นใจ มีพลังสำรองในทุกย่านเหลือพอ แต่หรูหราสมราคา และอัตราการกินน้ำมัน ถ้าเทียบกับรถเบนซินเติม95 ต่อราคาดีเซล ก็ยังถือว่าจ่ายบาทต่อกิโลเมตรเท่ารถญี่ปุ่นขับหน้า ตัวเบาๆ ถ้าไม่นับเรื่องเบาะหลังมันแคบ(แต่ก็ยังเป็นที่ที่น่าอยู่มากกว่าเบาะหลังสไตล์รถสองประตูของ IS250) และหน้าตาที่ขอแสดงความเห็นส่วนตัวว่าดูยังไงก็ไม่หล่อเหมือนสมัยE46แล้วล่ะก็ BMWคันนี้เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ
โชคดีที่สรรพสิ่งในโลกมีการถ่วงดุลย์กันและกัน ถ้าฟ้าได้มอบความทนทานอึดสู้โลกแบบโคโรลล่าสามห่วงและราคาอะไหล่ที่ถูกเท่าๆฮอนด้าJazzมาให้ แล้วล่ะก็ เราคงได้เห็น 320dวิ่งบนถนนในจำนวนเกือบเท่า Camry เลยทีเดียว
เทวดาก็รู้ว่านั่นมันเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากๆ ฉะนั้นเราก็จะยังคงเห็น320dกันนานๆครั้งต่อไป
แต่..อีกครั้ง สำหรับคนที่เป็นคอรถยุโรปอยู่แล้ว และกำลังมองหารถยุโรปพรีเมี่ยมสักคันในงบ 4ล้านบาท ผมขอแนะนำให้ลองขับ 320dเป็นคันแรก เราพูดกันเมื่อ5ปีที่แล้วว่าดีเซลยุคใหม่ ไม่เหมือนยุคเก่า ..320dคันนี้ทำให้เราพูดว่าดีเซลวันนี้ยกระดับจาก5ปีที่แล้วอีกครั้งนึง
จากคุณ :
หมีไฟฟ้า (V.Putin)
- [
วันเข้าพรรษา 22:49:15
]
|
|
|