ความคิดเห็นที่ 1 และได้ยินมาอีกนั่นแหละว่า NGV มาเลย์ บริสุทธิ์ 99% จากคุณ : khonthai_I - [ 6 ส.ค. 51 15:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Isuzu หรือ Toyota เคยบอกไว้ว่า CNG ไทยยังไม่น่าไว้ใจ คุณภาพไม่ถึง จากคุณ : ohm.udomvanich@gmail.com (HSOPA) - [ 6 ส.ค. 51 16:13:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 และเคยได้ยินมาด้วยว่า บ่อน้ำพองแถวขอนแก่นใช้ดีกว่าที่ได้จากแหล่งอื่น จากคุณ : อ้วนดำ - [ 6 ส.ค. 51 16:46:20 A:124.121.26.84 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 http://en.wikipedia.org/wiki/Natural_gas เรื่องความบริสุทธิของก๊าซ  ผมว่าน่าจะเป็น % ของมีเธน รวมถึงพวก CxHx ต่างๆ ที่มีอยู่ในเนื้อแก๊สมั้งครับ    ซึ่งถ้ามี % มากก็จะทำให้ค่าความร้อนสูงกว่าพวกที่มี % น้อยกว่าครับ จากคุณ : sunsetbeach - [ 6 ส.ค. 51 17:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ... น่าจะเป็น %มีเธน ที่ขึ้นมาจากหลุมแก๊สครับ http://www.temcl.com/php_script/th_news.php?nid=th202 แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 51 17:45:53 จากคุณ : pae3X - [ 6 ส.ค. 51 17:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมไม่มีตัวเลขเป๊ะ ๆ ความบริสุทธิ์ที่กล่าวถึงนี้ น่าจะหมายถึงปริมาณ methane ซึ่ง methane ในหลุมอ่าวไทย มี methane ต่ำครับ แต่เป็น rich gas ทำให้เราได้พวก ethane propane butane และ condensate ตามมาพอควร จึงมีการตั้งโรงแยก เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบปิโตรเคมี และ LPG. ให้ใช้ แต่ NGV ที่ใช้อยู่จากแหล่งอ่าวไทยจะมี methane สูงขึ้น ถึงประมาณ 80 กว่า % แยกการผ่านโรงแยก แต่ก๊าซพม่า methane ดีกว่าเล็กน้อย แต่ไม่เป็น rich gas จึงไม่มีโรงแยก ทำให้คุณภาพ NGV สู้แหล่งอื่นไม่ได้ แหล่งน้ำพอง methane สูงสุดครับ ประมาณ 90 กว่า% (มั้ง) จากคุณ : Mr.Moon - [ 6 ส.ค. 51 19:20:51 A:202.44.7.81 X: TicketID:002682 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^ (ขอชี้ข้ามไปที่ คห. 10 แทนนะ เพราะคห. 6 ของผม ถูกลบโดยอัตโนมัติไป) ต่อนะครับ ซึ่งก็เป็นข้อมูลจาก นายกสมาคมผู้ติดตั้งแก๊ส พูด/ให้ไว้นี่แหละ 3. จนมาเจอ link นี้ครับ จากใน Volvo Club http://www.volvomania.com/forum/index.php?topic=10670.msg111629;topicseen คุณ SleepyCat เขียนไว้น่าสนใจครับ (ตั้งแต่ 20 มิ.ย. 51 แล้ว) เลยขอ copy เอามาให้อ่านกัน SleepyCat Member Offline Posts: 17  Re: ๑๑ รมต.พลังงานเป็นผู้สร้างปัญหามากกว่า แก้ปัญหา « Reply #10 on: June 20, 2008, 10:58:24 am »   -------------------------------------------------------------------------------- ขอแสดงความเห็นจากสิ่งที่ผมรู้ หน่อยนะครับ ผมเข้าใจว่าที่รัฐสนับสนุนให้ใช้ NGV เพราะต้องการจะ subsidy LPG ให้กับภาคครัวเรือนต่อไปนะครับ ถ้าปริมาณใช้ LPG ไม่เยอะก็พอจะ subsidy ไหว เหมือนมาเลย์ที่เค้า subsidy น้ำมันในบ้านเค้า แต่ถ้าใช้ LPG กันมากกว่าที่ผลิตได้       จะเริ่มสู้ไม่ไหว เหมือนอินโดนีเซียที่ประเทศเจ๊งแล้วเจ๊งอีก เพราะยังคงอุ้มราคาน้ำมันอยู่บางส่วน    รัฐเลยรณรงค์ให้ใช้ NGV มากกว่า ที่ว่า NGV บริสุทธิ์แค่ 73% ก็ถูกครับ  แต่จะทำให้เข้าใจผิดได้ ....งง ไหม เพราะ NGV หรือ CNG เอาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ผลิตไฟฟ้ามาเติมรถยนต์ ตัว spec ก๊าซธรรมชาติ บ้านเราจะยอมให้มี CO2 สูงสุดที่  23%   ซึ่งโรงไฟฟ้าบ้านเราจะรับได้โดยไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์เพิ่ม และโดยปกติจะใช้ spec นี้กันหลายประเทศ   เพราะการเอา CO2 ออกจากเนื้อก๊าซ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทำให้ก๊าชมีต้นทุนแพงเกินไป   และเท่าที่ทราบคือ เค้าจะทำเพียงให้ CO2 เหลืออยู่ 10% เพื่อไปผสมก๊าซที่มี  %CO2มาก   จะได้ก๊าซธรรมชาติที่ผสมแล้วอยู่ในเกณฑ์ปกติ   เวลาคำนวณควรดูที่ค่าพลังงานที่ก๊าซจะให้ได้ครับ การซื้อขายก๊าซธรรมชาติจะอิงราคาน้ำมัน/น้ำมันเตา ครับ    ถ้าน้ำมันแพง  ก๊าซธรรมชาติก็แพง โดยซื้อขายเป็นหน่วย บาท/ล้านบีทียู  (วัดเป็นพลังงานความร้อน   เพื่อตัดปัญหาว่าก๊าซมี CO2 ไม่เท่ากัน, CO2 ไม่ให้พลังงานความร้อน)   ดูราคาก๊าซธรรมชาติได้จาก dmf.go.th ครับ ราคาก๊าซบ้านเราถูกกว่าตลาดโลกอยู่แล้วครับ  เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 5-6 $/MMBTU   ขณะที่ ตลาดโลกขึ้นไปถึง 13 $/MMBTU (henry hub)  หรือ LNG ที่ประเทศเรามีแผน จะนำเข้ามาใช้ใน 6-7 ข้างหน้า  ราคาอยู่ที่ 16 $/MMBTU (อีก 6-7 ปีข้างหน้าก๊าซที่มีอยู่ในประเทศ+นำเข้าจากพม่า จะเริ่มไม่พอกับความต้องการใช้ผลิตไฟฟ้า รัฐบาลจึงมีแผนนำเข้า LNG มาใช้   และเพิ่มโรงไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหิน 2 โรง  ระยะยาวมากๆ จะมี นิวเคลียร์อีก 1 โรง   แต่ของพวกนี้เปลี่ยนได้ตามกระแสการเมืองครับ ) ราคา NGV จะเป็น 12 บาท/กก. ก็เพราะราคาก๊าซธรรมชาติที่ ปตท.ซื้อ มันขึ้นตามราคาน้ำมัน ....อันนี้น่าจะพอเข้าใจได้ แต่  ปตท.ซื้อ gas จากผู้ผลิตมาต่ำกว่าราคาตลาดโลก  ทำไมอยากขาย LPG เท่าตลาดโลกล่ะ อันนี้ผมเดาว่า (บอกตามตรงครับ  เดาจริงๆ)     เพื่อไปเกลี่ยกับราคาก๊าซธรรมชาติที่ส่งให้ โรงไฟฟ้า   เพื่อไม่ให้ไฟฟ้าแพงเกินไป      ซึ่งผู้ที่จะควบคุมไม่ให้ ปตท.ค้ากำไรเกินควรจากการ แยกก๊าซคือ  กฟผ.(ผู้ซื้อก๊าซจาก ปตท. แต่โดนคุมค่าไฟฟ้าที่ขายให้ประชาชน) และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ผมอาจจะเห็นไม่ตรงกับเพื่อนๆ  ขออภัยด้วย ผมเห็นว่ารัฐไม่ควรจะ subsidy ราคาเชื้อเพลิง (น้ำมัน/LPG/NGV) สำหรับรถยนต์ครับ ถ้าจำเป็นต้อง subsidy ซึ่งก็คือการเอาเงินภาษีหรือเอาทรัพยากรของประเทศ มาอุ้มแล้ว ควรเป็นภาคครัวเรือน เช่นค่าไฟฟ้ามากกว่า หรือเอาเงินไปทำรถไฟฟ้าให้ทั่วถึง ซึ่งน่าจะดีกว่าในระยะยาว ปล. 1) ผมไม่ใช่คนปตท.นะครับ   แต่เป็นฝั่งคนขายก๊าซให้ปตท.อีกที      2) ผมไปลอง search ในเวป volvo ต่างประเทศดูเหมือนว่าเค้านิยม LPG มากกว่าอะ   และตั้งใจจะติด LPG ครับ  ขี้เกียจไปรอเติมก๊าซครับ แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 51 19:30:01 แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 51 19:22:10 จากคุณ : P_Wut - [ 6 ส.ค. 51 19:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ถ้าตามที่คุณ SleepyCat ว่าไว้ (ตอนนี้ ผมขอเชื่อก่อน จนกว่าจะมีข้อมูลอื่นมาหักล้าง) ก็แสดงว่า ประเด็นความบริสุทธิ์ 73% ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่ค่าความร้อนต่อหน่วยของก๊าซ ยังสูงอยู่ จากคุณ : P_Wut - [ 6 ส.ค. 51 19:25:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้ ๆ ๆ แปลกมาก ๆ ครับ บทความที่เขียนโดย คุณพรประไพ เสือเขียว ลงในเดลินิวส์ วันที่ 23 ก.ค. 51 เรื่อง เกี่ยวกับ เปรียบเทียบ LPG และ NGV ผมไม่สามารถโพสต์ได้ ไม่ทราบว่า ติดคำไหน ถึงโดนพันทิพแบนอัตโนมัติไปได้? ลองไปหาทั้งบทความอ่านกันเอาเองแล้วกันนะครับ (แต่คิดว่า หลายคนคงได้เคยอ่านจากเว็บอื่นๆ กันมาบ้างแล้ว) ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้ มีอยู่ประเด็นเดียวครับ คือ 73% ก็เป็นคำพูดของ นายกสมาคมติดตั้งแก๊สไทย คนๆ เดืยวกับที่ผมอ้างถึงนี่แหละ จากคุณ : P_Wut - [ 6 ส.ค. 51 19:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 NG จากเฮนรี่ฮับ ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 8-9$ ไม่ใช่13 จากคุณ : x - [ 6 ส.ค. 51 19:55:25 A:210.246.64.183 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 6 ส.ค. 51 20:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 lately news on purifying percentage of Thai NGV are only 63 % .... ...........oh that might be just only rumour ha............ha ha ha erg !!!...........NGV is PTT's name for thier own N. gas ha,and in some other countries els they calling CNG/LNG ha. จากคุณ : popeye (youngbear) - [ 6 ส.ค. 51 20:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ใช้คำว่าความบริสุทธ์คงไม่ถูกนัก น่าจะใช้คำว่า ส่วนประกอบของก๊าซ มากกว่า ผมไม่ได้ มีข้อมูลแบบตรงๆ จากโรงแยกที่ไหนแต่ จากบทความวิชาการทดสอบเครื่องยนต์กับก๊าซธรรชาติชื่อดังในไทย ได้ระบุคุณสมบัติของก๊าซที่นำมาใช้ในการทดสอบ ก็ระบุส่วนประกอบหลักมีก๊าซธรรมชาติแค่ 73-75% ที่เหลือหลักๆเป็น CO สิบกว่า% ผมคาดว่าคงจะไม่ใช่ก๊าซนำเข้า น่าจะเป็นภายในประเทศครับ และก็คงที่ผ่านกระบวนการมาแล้ว ไม่น่าจะไปแอบเจะตามแนวส่งแน่ครับ จากคุณ : อาท - [ 6 ส.ค. 51 20:22:46 A:58.8.166.21 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 โทษครับ CO2 ครับ ไม่ใช่ CO จากคุณ : อาท - [ 6 ส.ค. 51 20:43:36 A:58.8.166.21 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 นี่คงพอใช้ได้ จากคุณ : P-mtr - [ 7 ส.ค. 51 00:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 19 #2 จากคุณ : P-mtr - [ 7 ส.ค. 51 00:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 #3 จากคุณ : P-mtr - [ 7 ส.ค. 51 00:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 #4 จากคุณ : P-mtr - [ 7 ส.ค. 51 00:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 #5 จากคุณ : P-mtr - [ 7 ส.ค. 51 00:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #6 จากคุณ : P-mtr - [ 7 ส.ค. 51 00:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ดูน้ำพอง #5 สิ ของดีๆเขาลดคุณภาพลงมาเฉยเลย จาก 1,320 BTU/Cu.FT เหลือ 1,100 โดยเอา CO2 เติมลงไป จากคุณ : P-mtr - [ 7 ส.ค. 51 00:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 25 รู้ก่อนติดแก๊ส แอลพีจี-เอ็นจีวี...ดีด้อยต่างกัน โดย พรประไพ เสือเขียว วันที่  23 กรกฎาคม 2551 แม้ช่วงนี้จะมีข่าวดีเล็ก ๆ กับราคาน้ำมันที่เริ่มปรับลดลง ชั่วโมงนี้ประชาชนที่ยังจำเป็นต้องใช้รถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ส่วนตัว ไม่รอให้รัฐบาลมาพยุงราคาน้ำมัน หรือรอน้ำมันลดราคา รีบออกมาจัดการปัญหาราคาค่าใช้จ่ายจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้วยการนำรถไปติดตั้งแก๊ส  ปัจจุบันสถิติรถยนต์ใช้ก๊าซ เชื้อเพลิงทั่วประเทศมี 309,064 คัน แบ่งเป็นรถที่ใช้ก๊าซแอลพีจี 256,083 คัน และใช้ก๊าซเอ็นจีวี 52,981 คัน จากตัวเลขความต้องการที่สูงขึ้น ตัวรัฐบาลเองก็ปรับตัวไม่ทันกับความต้องการของประชาชน จะเห็นว่าเรื่องของการออกมาตรฐานรับรองเรื่องของอู่ หรือให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการติดตั้งแก๊ส ยังไม่มีหน่วยงานจากภาครัฐออกมาให้ความรู้อย่างจริงจัง ก่อนจะพารถคู่ใจไปยังอู่ติดตั้งแก๊ส มาทำความรู้จักกับแก๊ส 2 ชนิดกันก่อนคือ NGV และ LPG ยานยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Natural Gas Vehicles หรือเรียกย่อ ๆ ว่า NGV หมายถึง ยานยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัด (Compressed Natural Gas : CNG) เป็นเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงประเภทฟอสซิลอย่างหนึ่ง พบ ในแอ่งใต้ดิน หรืออาจพบร่วมกับน้ำมันดิบ คาดว่าจะเป็นแหล่งพลังงานหลักที่จะนำมาใช้ได้อีก 60 ปีข้างหน้า ปริมาณสำรองที่มีข้อมูลแล้วทั่วโลกเมื่อปี 2541 มีปริมาณ 5,086 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต พบมากที่สุดในสหภาพโซเวียตเดิม มีปริมาณ 1,700 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 51 09:48:07 จากคุณ : P_Wut - [ 7 ส.ค. 51 09:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ส่วน LPG คือคำย่อ ซึ่งได้มาจากตัวอักษรหน้าของก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas) และเป็นส่วนประกอบที่เบาที่สุดที่มีอยู่ในน้ำมันปิโตรเลียม LPG เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนมีหลายชนิดด้วยกัน ขึ้นอยู่กับการรวมตัวของคาร์บอนอะตอม และไฮโดรเจนอะตอม ได้แก่ โพรเพน โพรพิลีน บิวเทน บิวทีลีน เป็นต้น  มีส่วนประกอบที่สำคัญคือโพรเพน และบิวเทน ก๊าซเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษที่ว่า เมื่อได้รับความเย็นหรือความดันจะเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวได้โดยง่าย ในทางกลับกัน เมื่อให้ความร้อนหรือลดความดันก็จะกลายเป็นก๊าซ ซึ่งจะมีน้ำหนักประมาณ 1.5-2 เท่าของอากาศ โดยปกติ LPG จะ ถูกทำให้เป็นของเหลวโดยได้รับความดัน และถูกเก็บไว้ในภาชนะความดันสูง  แอลพีจีมี 2 ชนิด คือชนิดก๊าซบ่อน้ำมัน (oil field gas) ที่ได้จากการแยกและกลั่นก๊าซธรรมชาติที่ได้ (ทั้งแอลพีจี และเอ็นจีวี) และชนิดก๊าซโรงกลั่นน้ำมันที่ได้จากการแยกก๊าซ อันเป็นผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ เนื่องจาก LPG มีสภาพเป็นก๊าซที่อุณหภูมิและความดันปกติ จึงต้องทำให้เป็นของเหลวอยู่เสมอ โดยการอัดความดันหรือแช่แข็ง แล้วต้องขนส่งด้วยเรือที่ใช้บรรทุก LPG โดยเฉพาะ ดูจากตัวเลขการติดตั้งข้างต้นการติดตั้ง แอลพีจีสูงกว่าเอ็นจีวี ปรากฏการณ์นี้ ชัยฤทธิ์ กาญจนาเวส นายกสมาคมติดตั้งแก๊สไทย บอกว่า แอลพีจีใช้ในบ้านเรามา นาน 27 ปีแล้ว ขณะที่เอ็นจีวี เพิ่งมาใช้ เมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา ช่างติดตั้ง ช่างซ่อมบำรุงจะมีประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญมากกว่า มีผู้ค้าแก๊สรายใหญ่หลายรายไม่ถูกผูก ขาดเหมือนเอ็นจีวี ดังนั้นจึงหาปั๊มเติมได้สะดวกกว่า อีกทั้งรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊สแอลพีจีบรรจุก๊าซขนาดใกล้เคียงกัน วิ่งได้ระยะทางมากกว่า ซึ่งระยะเฉลี่ยแอลพีจีต่อถังวิ่งได้ 350 กม. ขณะที่เอ็นจีวีวิ่งได้แค่ 100 กม. อีกทั้งขนาดของถังที่หนักกว่าแอลพีจี นอกจากนี้ยังรวมถึงราคาค่าติดตั้งเอ็นจีวีสูงกว่าแอลพีจี เหตุผลหลักของราคาแพง มาจากราคาค่าถังแก๊ส เพราะถังเอ็นจีวีต้องใช้ แรงดัน 3,000 ปอนด์ ขณะที่แอลพีจี 300 ปอนด์ ต่างกัน 10 เท่า ดังนั้นเมื่อมีความดันสูง ถังเอ็นจีวี จำเป็นต้องใช้เหล็กที่หนากว่า ถังที่เป็นเหล็กล้วนที่เรียกว่า Type 1 ราคาอยู่ที่หมื่นกว่าบาท ขณะที่ถัง Type 2 ใช้วัสดุเหล็กผสมไฟเบอร์ กลาสเบาลงอีก ราคาขยับขึ้นกว่า 20,000 บาท และถัง Type 3 ขยับขึ้นมาเกือบ 50,000 บาท น้ำหนักเบาลงมาแต่ยังมีเหล็กผสม และถัง Type 4 เป็นไฟเบอร์กลาส ล้วน น้ำหนักใกล้เคียงกับถังแอลพีจี ราคาตกใบละ 100,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมอุปกรณ์ชุดฉีด และค่าติดตั้งเบ็ดเสร็จแล้ว 150,000 บาท จากคุณ : P_Wut - [ 7 ส.ค. 51 09:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันสูงขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้ ราคาค่าติดตั้งแก๊สแอลพีจีและเอ็นจีวีสูงขึ้นเฉลี่ย 20 เปอร์เซ็นต์ บวก กับราคาเหล็กขึ้น ทองเหลืองขึ้น ส่วนรูปแบบของถังที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถังตามมาตรฐาน มอก. ที่อนุญาตให้ใช้ในประเทศไทยต้องเป็นถังชนิดแคปซูลเท่านั้น ส่วนถังล้ออะไหล่หรือถังโดนัท ไม่ได้รับอนุญาตจาก มอก. ในบ้านเรา แต่ในต่างประเทศใช้กันแพร่หลาย ปลอดภัยเหมือนกันหากได้รับรอง มอก. รถยนต์ที่เลือกติดถังโดนัทจะไม่ผ่านการตรวจสภาพจาก กรมการขนส่งทางบก สำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องดีเซล หากต้องการติดตั้งแก๊สต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงถึง 80,000-90,000 บาท เพราะต้องเปลี่ยนลูกสูบใหม่ เปลี่ยนฝาสูบ ใส่หัวเทียน เพิ่มระบบ แต่ราคาที่สูงมากจนทำให้ผู้บริโภครับไม่ไหว ยกเครื่องดีเซลออกไปเปลี่ยนมาเป็นเครื่องเบนซินแทน นายกสมาคมติดตั้งแก๊สไทย บอกถึงข้อเท็จจริงของเอ็นจีวี อีกด้านหนึ่งว่า ก๊าซเอ็นจีวีในบ้านเรามีกากมาก คือยังมีคาร์บอน ยังแยกก๊าซที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงออกหมด มีความบริสุทธิ์แค่ 73% เมื่อเทียบกับเอ็นจีวีของมาเลเซียบริสุทธิ์ถึง 99% เมื่อมีความบริสุทธิ์น้อย ส่งผลให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็ว แม้ขณะนี้ราคาของเอ็นจีวีจะถูกกว่า คือลิตรละ 8.50 บาท และจะปรับขึ้นเป็น 12 บาท ในวันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า ขณะที่ราคาแอลพีจีอยู่ที่ลิตร ละ 11.50 ซึ่งรัฐบาลพยายามให้ข่าวเป็นระยะว่าจะปรับราคาแอลพีจี โดยจะแยกเป็น 2 ราคา คือราคาก๊าซหุงต้ม และภาคขนส่ง คาดว่าจะปรับราคาขึ้นอีก 4 บาทต่อลิตร “วันนี้ไม่มีใครมาการันตีได้ว่า เอ็นจีวีจะปรับราคาเป็น 20 บาท หรือราคาจะถูกลงครึ่งหนึ่งของ ราคาดีเซล ที่ผ่านมาเกิดปัญหาขาดแคลนแอลพีจี จน ปตท. ต้องนำเข้า แล้ว ปตท. ออกมาขอค่าชดเชยจากรัฐบาล อยากถามว่ารัฐบาลนำเข้าเองไม่ได้หรือทำไมต้องผ่านบริษัทดังกล่าว แอลพีจีคือสัญชาติไทย 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วทำไมต้องนำเข้า แอลพีจีได้มาจากการกลั่นน้ำมันด้วย เวลาได้ก๊าซจากหลุมได้ทั้งแอลพีจีและเอ็นจีวีด้วย ที่ผ่านมาไม่เคยมีการแสดงตัวเลขการกลั่น การนำเข้าที่ชัดเจนให้ประชาชนดู อ้างแต่ว่าขาดแคลนต้องนำเข้า” จากคุณ : P_Wut - [ 7 ส.ค. 51 09:49:43 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ลองง่ายๆครับ เอารถที่ติดก๊าซที่ กทม. ไปลองเติมตามปั๊มต่อไปนี้ ปั๊มหลังฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ปัมเปิดใหม่ตรง สายใต้ใหม่ที่มี10หัวจ่าย ปั๊มที่สมุทรสาคร ปั๊มที่ขอนแก่น ปั๊มที่อุดร ปั๊มที่ราชบุรี รับรองจะเจอกับความแตกต่าง ทั้งความแรง อัตราการกินก๊าซ ก๊าซที่มาจากระยองจะมี%มีเทนซัก 73-78 ก๊าซที่มาจากพม่าจะมี%มีเทน 68-72 ก๊าซที่ได้จากบนบก เช่น ขอนแก่น อุดร พิษณุโลก จะมี%มีเทนซัก 80-90 คราวนี้ก๊าซที่ กทม. ถูกส่งมาจาก2แหล่งใหญ่ ฝั้งตะวันตกมาจาก พม่า ฝั่งตะวันออกมาจากอ่าวไทย ที่เหลือจาก กทม.ส่งมาที่วังน้อยแล้วส่งตามท่อไปสระบุรีถึงแก่งคอย เรื่องของเรื่องมันอยู่ที่ประสิทธิภาพของโรงแยกก๊าซด้วยครับว่ามีความสามารถขนาดไหน จากคุณ : ghia - [ 7 ส.ค. 51 12:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จะปรับปรุงแต่คุณภาพแก็สธรรมชาติเหรอ ครับ ท่าน ปตท ท่านไม่คิดจะปรับปรุงปั้มแก็ส NGV กับ วิธีการส่งแก็ส NGV ให้มันดีกว่านี้ ไม่ได้เหรอ แล้วใครมันจะอยากมาใช้ แก็ส NGV ของท่านละครับ จากคุณ : jame - [ 7 ส.ค. 51 14:16:05 A:58.8.155.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ปตท.โดยปืนจี้หลัง จากคุณ : โลกันต์ - [ 7 ส.ค. 51 19:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ปรับปรุงคุณภาพแก๊ซให้ดีขึ้นทำยาก แต่ถ้าปรับให้คุณภาพแก๊ซเท่ากันทำไม่ยาก......ครับ ใช้วิธีไหนดี จากคุณ : 1 - [ 13 ส.ค. 51 08:26:01 A:61.90.220.222 X: ]