ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยครับ   อ้อ ถังโดนัทอีกเรื่อง จากคุณ : cinogen - [ 8 ส.ค. 51 18:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ จากคุณ : waterside - [ 8 ส.ค. 51 18:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สภาพถนนผมว่ามันยังไม่เอื้อนะครับพี่หมอ บางช่วงดี บางช่วงก็เน่า จากคุณ : Nemomancear - [ 8 ส.ค. 51 18:09:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอสนับสนุนครับพี่หมอ จากคุณ : SinbadJunior - [ 8 ส.ค. 51 18:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 vote ครับ จากคุณ : babysang - [ 8 ส.ค. 51 18:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สนับสนุน สัง คา ย นา ซะทีก็ดี เยอะแยะ ระเบียบโบราณ ๆ ต้อง แก้ไข ถังโดนัท                ทำไมไม่ยอมให้จดทะเบียน ความเร็วรถ                 ทำไมต้อง ไม่เกิน 90 พวกมอไซด์                 โดนระเบียบ โง่ ๆ จุกจิก แทกซี่ ต้อง 1600 cc ขึ้นไป              ทำไมละ ต่อทะเบียนต้องตรวจสภาพ                  แต่ไม่เคยตรวจ จากคุณ : KU_EE - [ 8 ส.ค. 51 18:32:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วย แต่เชื่อว่า ไม่มีใครกล้าเสนอเรื่อง เหตุผลก็คือ ถ้าอนุมัติเพิ่ม speed limit เท่ากับว่า บุคคลผู้นั้น 1. ไม่รณรงค์เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน 2. เพิ่มความรุนแรง ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุให้แรงขึ้น ถึงแม้จะดูว่า มีเหตุผล แต่ ผู้มีอำนาจ คงไม่กล้าอนุมัติเรื่องแบบนี้ เพราะถ้าเกิดว่า มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น จะโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ใครมันจะกล้าอนุมัติ ฉะนั้น ในกรณีเช่นนี้ ก็จะผลักภาระมาที่ ผู้ขับขี่ว่า ต้องไปเสี่ยงเอาเองนะกับตำรวจ ถ้าคุณอยากขับเร็ว คุณทำผิดกฎหมาย คุณเป็นคนสร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา คุณผิด เพราะกฎหมายบอกไว้แล้วว่า ไม่เกิน 90 เพราะถ้าไม่เกิน 90 ถ้าเกิดมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น มันก็ไม่เลวร้ายเท่า 120 ถึงแม้จะไปลงทุน ศึกษากันเต็มที่เลย ว่า เมืองนอกเมืองนา ที่ speed limit ต่างกัน สมมติ 60mph กับ 75mph ไม่มีความแตกต่างในเรื่องอัตราการเกิดอุบัติเหตุ มีเอกสาร ยืนยัน รับรอง แต่ใครมันจะอนุมัติให้ตัวเอง เจ็บตัว? ถ้าคุณเป็นผู้มีอำนาจ คุณจะกล้าอนุมัติไม๊? จากคุณ : นามแฝงที่จะใช้ในเว็บ - [ 8 ส.ค. 51 18:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เ้รื่องฟิล์มใส ของหมวกกันน๊อก ก็ด้วย. . จากคุณ : indytrade - [ 8 ส.ค. 51 18:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยกสองมือชู จั๊กกะแร้ เห็นด้วย เต็มกำลัง โหวต 1 จึ๊ก จากคุณ : BOPI - [ 8 ส.ค. 51 18:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ครับ คือรถผมวิ่ง120 -140 นี่ สบายๆ กำลังดี 160 ก็พอได้ วิ่ง 90 หลับพอดี จากคุณ : Sympho - [ 8 ส.ค. 51 18:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยครับ ผมขึ้นทางด่วนขับ90กลายเป็นเต่าไปเลย.. จากคุณ : SkiNeZ - [ 8 ส.ค. 51 18:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่เห็นด้วยครับ 90 สำหรับ คนขับไม่เป็น เนี่ย นรกชัด ๆ เล่นเอาเถิดกันบนถนนอย่างนี้แหละ สนุกดี ตื่นตัวดีด้วย อย่าว่าผมขับช้านะเอ้อ 150 up  เหมียนกัลลล อย่างไรเสีย ด่านคงต้องมี ต่อไป ทางหลวง คงต้องมี ต่อไป ไม่งั้น คุณจะได้เห็น 18 ล้อ ยางโล้น วิ่ง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ซึ่งก็มีให้เห็น บ่อยไป ขนาดจำกัดที่ 80 นะนั่น) จากคุณ : greeny pony - [ 8 ส.ค. 51 18:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับความคิดนะครับ จะว่าไป 120 มันก็ไม่ได้เร็วเท่าไหร่ แล้วจุดที่ประหยัดน้ำมันในทางปฏิบัติ ของรถบางคัน อยู่ที่ 110 + - ด้วยซ้ำไปครับ จากคุณ : corretto - [ 8 ส.ค. 51 18:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สัก 110 ก็ยังดี ให้ดีหน่อยก็ 120 90 นี่ สมัยนี้จะมีสักกี่คนที่ขับความเร็วนี้ออก ตจว จากคุณ : KhongLen` - [ 8 ส.ค. 51 19:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับคุณหมอครับ แต่ว่า..... ใครหน้าไหนจะกล้าครับ เชื่อผมมั๊ย ถ้าใครเสนอ มันผู้นั้น จะโดนทั้ง ส.ว. ส.ส. ฝ่ายค้าน และพาลทะมิด เหยียบจนจมดิน ....ไม่มีใครกล้าแน่นอน เชื่อผม... จากคุณ : Sifer2002 - [ 8 ส.ค. 51 19:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไว้เจอเพื่อนๆ เจอพี่ เจอน้องๆ ที่เป็น สส. หรือรัฐมนตรี จะลองคุยให้เค้าผลักดันดู อีกทางที่จะกระตุ้นได้ดี คือ สื่อ จากคุณ : -=Jfk=- - [ 8 ส.ค. 51 19:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยครับ ใครเห็นด้วยเหมือนผมต้องโหวตนะครับ...พี่น้อง คุณ KU_EE ความเห็น 6 เปิดโลกสักนิด ถังโดนัท                ทำไมไม่ยอมให้จดทะเบียน เพราะ มันมีความปลอดภัยน้อยครับ หลายๆประเทศก็ไม่อนุญาตเหมือนเรา และ ประเทศที่อนุญาตก็มีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่าถังแคปซูล .... พวกมอไซด์                 โดนระเบียบ โง่ ๆ จุกจิก เท่าที่ทราบจาก พรบ.จราจร ผมไม่คิดว่ามีข้อไหนโง่ๆ จุกจิกเลย ด้วยความเคารพในความเห็นท่านครับ จากคุณ : nuinonthaburi - [ 8 ส.ค. 51 19:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยอย่างมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : JIMMY - [ 8 ส.ค. 51 19:25:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยครับ 90 บางครั้ง ยังไม่ทันขึ้นเกียร์ 5 เลย ความเร็วเดินทาง 110-120 กำลังสวย ต่ำกว่า 100 หลับครับ หลับจริงๆ เคยลองแล้ว จากคุณ : Albe'do - [ 8 ส.ค. 51 19:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอซัก 110 หรือ 115 กม./ชม. ก็พอครับ จะได้ไม่ต้องมีช่องทางให้พวกตำรวจทางหลวงหาเรื่องยัด.... จากคุณ : ทาคุจัง - [ 8 ส.ค. 51 19:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยค่ะ จากคุณ : น้องอ๊อฟ - [ 8 ส.ค. 51 19:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เคย อ่านข่าวหนังสือพิมพ์เจอ ว่า กำลังพิจารณากันอยู่นิครับ จากคุณ : Bugs - [ 8 ส.ค. 51 19:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ กฎหมายที่ทำไม่ได้ ก็ควรต้องแก้ไขใหม่ เพราะว่าขับขี่บนถนนตอนนี้ ผิดกฎหมายกันเกือบทุกคน จากคุณ : Chat5 - [ 8 ส.ค. 51 19:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 นโยบายประหยัดของรัฐบาลท่าน ทางด่วน แต่วิ่งได้ไม่เกิน 90 มีไว้ทำหอกไรว้า จากคุณ : CZX19 - [ 8 ส.ค. 51 20:07:05 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตาม 22 ครับ เร็วๆนี้เห็นข่าวใน นสพ.ว่าตำรวจมีการตั้งคณะพิจารณาสังคายณาข้อบังคับที่ล้าหลังหลายเรื่อง รวมทั้งความเร็วด้วยครับ แต่ไม่ทราบว่าไปถึงไหนจะเสร็จเมื่อไร จากคุณ : นที - [ 8 ส.ค. 51 20:22:23 A:118.173.218.18 X: TicketID:072386 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยครับ 120 km/h กำลังดี จากคุณ : koyah - [ 8 ส.ค. 51 20:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โดนประจำครับ ปกติขับ 120-140 ครั้งละ 300 บาท ผมว่าถนน 4 เลนควรจะลิมิตที่ 120 น่าจะสมเหตุผลนะ แต่เราคงไปแก้ไม่ได้ เดี๋ยวพันธมิตรจะว่าเอา...... จากคุณ : โดนจนชิน (wsonpee) - [ 8 ส.ค. 51 20:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เห็น ด้วย คับ  4  เลน  มากกว่า  ทางด่วน อีก ที่มี  แค่  3  หรือ  2  ช่องทาง  เอง แต่  200  นี่ ขอเถอะหมอ เป็น   ห่วง อะ และ  ออกกฏหมาย  ห้ามมีหลุม  มีรู  บนถนน อะ คับ  หากมีของทางหลวงรับผิดชอบ  ล้อท่านหมอ  หน่อย ละกันไม่คิดดอกเบื้ย เสียดายแทน เลย ผม จากคุณ : ชลน่าน - [ 8 ส.ค. 51 20:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ควรแก้อย่างด่วน 90 มันช้าจริงๆ จากคุณ : เจ้าชายไม่วิเศษ - [ 8 ส.ค. 51 21:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สนับสนุนเต็มที่เลยครับ    ช่วยๆกันผลักดันกันนะครับ จากคุณ : รวงทอง - [ 8 ส.ค. 51 21:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาโหวต..................ด้วยคนคร๊าบบบบบบบบบบบบ!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : ชาวเขาไอที - [ 8 ส.ค. 51 21:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 โหวตตามครับ แต่เรื่องสภาพถนนนี่ไม่ไหวเหมือนกัน เน่าสนิท! จากคุณ : kid-roddick - [ 8 ส.ค. 51 21:19:52 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยอย่างแรงครับพี่หมอ..Vote ครับ จากคุณ : หนุ่ม เมืองนนท์ - [ 8 ส.ค. 51 21:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความเร็วนี้ บังคับใช้มา มากกว่า10ปีแล้ว ล้าหลังมาก สมกับเป็นประเทศกำลังพัฒนาจริงๆ สมควรปรับปรุงอย่างเร็ว เห็นด้วยมากกกกกกกกกกกกกกกก...ครับ จากคุณ : malldeff - [ 8 ส.ค. 51 21:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มาช่วยโหวตอีก 1 เสียงครับ จากคุณ : DoraemonZa - [ 8 ส.ค. 51 21:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยครึ่งเดียวครับให้อนุโลม 120 ได้ แต่ถ้ามากกว่านี้ ต้องจับกุมให้ได้ผลจริงจังครับ การปล่อยเลย อาจไปทำให้วัยรุ่นวัยคะนอง เอามาแอบแข่ง drag ทางหลวงกันโดยกฎหมายเอื้อมไม่ถึงก็ได้ ตามกฎหมาย ขับเร็วยังไงก็ถือว่าประมาทอยู่แล้ว จากคุณ : นัยตาสองชั้น - [ 8 ส.ค. 51 21:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 #17 ไม่อยากจะโต้ นะแต่ละคนอาจมีความเห็นแตกต่าง ผมว่าเราไม่รู้จักกัน ไม่น่าพูดอะไรอย่างนั้น ว่าโลกผมแคบหรือ 2 เท้านี่เหยียบมามากกว่า 20 ประทศ ผมว่าผมไม่แคบหลอก ไอ้ความปลอดภัยของถังโดนัท นี่อยากให้ลองศึกษาดูหน่อย ก่อนซื้อมาใช้นี่ คุณคิดว่าผมไม่ศึกษาก่อนหรือว่ามันปลอดภัยหรือไม่ ลูก เด็กเล็กแดง นั่งกันเต็มรถ ใครจะเอาชีวิตไปเสี่ยง ผมว่า มันปลอดภัยมาก ๆ  พวกประเทศในอียู เขาก็มีมาตรฐาน  ECE- R67.01   เขาทดสอบถังต้องทน ความดัน  672  ปอนด์ต่อตารางนิ้วได้ ทั้ง ๆที่ความ ดัน lpg จะไม่เกิน 105 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ยังน้อยกว่าลมยางรถบรรทุกที่ใส่ลมยางกัน 110 psi คุณอาจ จะมีวิธีคิดของคุณ ตาม ๆที่ ราชการอยากให้เป็น แต่ผมไม่ใช่ ผมไม่เชื่อว่า ngv ปลอดภัยกว่า lpg ผมไม่เชื่อว่า ถังโดนัทไม่ปลอดภัย ใครจูง ผมไม่ได้ง่าย ๆ อาจจะด้วย ผมไม่เชื่อมือเจ้าหน้าที่ ราชการที่ส่วนมากจะ แนว ๆ อนุรักษ์นิยม จึงมีให้เห็นระเบียบการเชย ๆ ที่พี่หมอเจ้าของกระทู้ อยากให้แก้ใข ใครในโลกนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว กรมการขนส่งไทย สมอ ยังไม่เลิกเช้า ชามเย็นชาม ไม่ปรับปรุงระเบียบ (ขออภัยข้าราชการหลายคน ที่ไม่ได้เป็นแบบนี้)   มี web ที่ใหความรู้มากมาย เกี่ยวกับ เรื่อง ถัง lpg นี่ ถ้าพออ่านภาษาอังกฤษได้ ใช้google หาเอาเยอะแยะ โลกจะได้กว้างขึ้น เวปภาษาไทยก็พอมี เช่น http://www.gmcworkshop.com/new_lpg/lpg22.asp ส่วนเรื่องระเบียบโง่ ๆ นี่ยืมมาจาก กระทู้แถว ๆนี้เหละ เห็นมา โพสกันบ่อย ๆ เช่นความเห็น พี่สยึ๋มกึ๋ยนี่ก็ได้ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6873554/V6873554.html แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 51 21:39:04 จากคุณ : KU_EE - [ 8 ส.ค. 51 21:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 38 90 นี่ขับชานเมืองละมั้งคับ ขับตจว.บนทางหลวง ไม่เกิน 120 ก็พอไหวนะ บนทางด้วนน่าจะห้ามต่ำกว่า 90 ไม่เกิน 140 นะ จากคุณ : Etinity - [ 8 ส.ค. 51 21:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยครับ แล้วถ้าใครขับเกิน 120 ก็จับปรับให้ได้ทุกครั้งไปเลยครับ อาจเริ่มด้วยด้วยการทดลองสัก 1 เดือน ถ้าอุบัติเหตุมากกว่าเดิมก็ถอยลงมาเหมือนเดิม รับรองคนจะขับกันด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวจะเหลือ 90 แบบเดิม ซึ่งจะเป็นช่องทางให้มีการขอทานข้างถนนได้ จากคุณ : ss2498 - [ 8 ส.ค. 51 22:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สำหรับความเห็นที่ 6   taxi เขากำหนดไว้ 1500 ครับ  แต่รถที่บอกว่าเครื่อง 1500  จริงๆแล้วปริมาตรความจุมันแค่ 149X   ทำให้ต้องนำรุ่น 1600 มาทำครับ จากคุณ : w2000 - [ 8 ส.ค. 51 22:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขี้เกียจอ่าน แต่รู้ลึกถึงใจความ ขอยกกระจู๋ชูว่าเห็นด้วยคนคร๊าบบบบ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย - [ 8 ส.ค. 51 22:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยครับ.... แต่กับสื่อ.. ผมว่าบ้างครั้งสื่อก็เน้นลงข่าวอุบัติเหตุ ..กับคำว่า "ซิ่งนรก" มันดูเกินไปน่ะครับ..เพื่อนผมขับไม่ถึง 60 แต่ไปเขียน ซิ่งนรก......น่าจะแก้ตรงนี้ด้วย... จากคุณ : ตั้มขาว - [ 8 ส.ค. 51 22:09:50 ]

ความคิดเห็นที่ 43 กฏหมายว่าด้วยเรื่องดัดแปลงสภาพ  มันครอบคลุมเกินไปครับ  แค่เปลี่ยนยางผิดขนาดก็ไม่ได้แล้ว เรื่องภาษีอีก  กระบะสี่ประตูเสียภาษีแพงเกินไปทั้งๆที่เป็นรถเอนกประสงค์ตัวจริง  ไม่ได้หรูอะไรเลย กฏหมายเรื่องระดับไฟหน้ารถ  ตั้งแต่ 60 ซม ไปจนถึง 130 ซม  มันสูงเกินไปครับ  ระดับแสงไฟไม่ควรเกิน 80 ซมก็พอ จากคุณ : Tangible - [ 8 ส.ค. 51 22:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอถนนสายหลัก(เลขตัวเดียว หรือสองตัว) วิ่งได้ 120 ถนนสายรอง (เลขสามตัว สี่ตัว) วิ่งได้ 100 ถ้าวิ่งเกินก็ปรับไปเลย 2000 จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 8 ส.ค. 51 22:21:29 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จริงๆเอามาพิจารณาทุกข้อ..  ว่ามีอะไรล้าสมัยแล้วบ้าง..  น่าจะดี.. จากคุณ : nai_aoum - [ 8 ส.ค. 51 22:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยค่ะ ขอ 120 พอ จากคุณ : o_and_pum - [ 8 ส.ค. 51 22:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณครับพี่หมอ สำหรับกระทู้นี้ ผมโหวตให้ด้วยครับ จากคุณ : Mongther - [ 8 ส.ค. 51 22:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ความคิดเห็นที่ 41   ขี้เกียจอ่าน แต่รู้ลึกถึงใจความ ขอยกกระจู๋ชูว่าเห็นด้วยคนคร๊าบบบบ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย  - [ 8 ส.ค. 51 22:05:32 ]     ^ ^ ^ เอ่อ........เห็นด้วยกับพี่หมอ ช่วยโหวตค่ะ  แต่แอบสยองคุณเหล่านั้งยก...ชู จากคุณ : ส่งเสียน้องออส - [ 8 ส.ค. 51 23:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 49 Votee จากคุณ : JIRATH - [ 8 ส.ค. 51 23:16:15 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คห. 12 90 นรก สำหรับคนขับรถไม่เป็น ถ้าขับไม่เป็น ก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่จะไปขับรถบนถนนตั้งแต่แรกแล้วครับ จากคุณ : Tread'em all - [ 8 ส.ค. 51 23:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ตั้งแต่โดนจับมาก็เจอแต่อนุโลมที่ 120 อยู่แล้วครับ 90 นี่ยังไม่เคยเจอเลยครับ หลายๆครั้งที่โดนก็ยืนคุยกับตำรวจไปด้วย ตำรวจหลายคนเค้ายังบอกเองเลยว่าเค้าเข้าใจว่าเดี๋ยวนี้ถนนมันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วมันควรจะเพิ่มความเร็วได้แล้วแต่ทำไงได้กฎหมายมันยังไม่แก้แล้วนายก็สั่งมาก็เลยต้องจับ จากคุณ : golden fish - [ 8 ส.ค. 51 23:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นด้วยครับพี่หมอ ลองอิงกับต่างประเทศ (เลียนแบบราคาน้ำมัน อิ อิ) เช่น อเมริกา speed limit บน interstate ก็ต่างกันไป ส่วนใหญ่ 65 mph อนุโลมได้อีก 10 เป็น 75 mph คูณ 1.6 ได้ 120 kph สภาพถนนที่ต่างกัน ก็กำหนดความเร็วต่างกันก็ได้ ติดป้ายเป็นช่วงๆ ไปครับ จากคุณ : วิกรมาทิตย์ - [ 9 ส.ค. 51 00:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 กฏหมายนี้ไทยเอามาจากเมืองนอกไม่ใช้เหรอครับ 90 ของเมื่อนอก ก็อยู่ที่ประมาณ 120 คือ ป้ายเมืองนอก 90 เค้าคิดเป็นไมค์ ไม่ใช้กิโลเมตรครับ ก๊อปเค้ามาก็พูดอะไรไม่ได้ครับ จากคุณ : ชัดไชโย - [ 9 ส.ค. 51 00:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ร่วมโหวตครับ ให้ลิมิตไว้ที่ 120 กม/ชม ไปเลย ส่วนเกินจากนี้ก็ไม่ต้องอลุ่มอล่วย จับทันที มันจะได้เป็นมาตรฐานเดียวกันไปเลย ไม่ใช่ตำรวจบางคนจับ บางคนไม่จับอะไรวะ จากคุณ : ปลาวาฬสีฟ้า..หางกุด - [ 9 ส.ค. 51 01:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขับ 90 แล้วจะหลับจริงๆ ครับ เห็นด้วย ซัก 120 กำลังดี โหวตให้ด้วยคน จากคุณ : Fongster - [ 9 ส.ค. 51 01:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ปัญหา...อยู่ที่ไหน....?????????? -ถนนพร้อม..... -รถ..มีประสิทธิ์ภาพ...วิ่งได้เร็วกว่า 120 Km/h แล้วคนขับ..ล่ะ....พร้อมหรือเปล่า..... พร้อม..ที่จะขับที่ความเร็ว 120 Km/h หรือเปล่า.... ...บางท่านอาจจะบอกว่า...ไม่เห็นมีอะไร...ก็ขับๆกันอยู่แบบนี้ทุกๆวัน... ....เอา...อย่างนั้นก็ลองทดสอบตัวเองหน่อยนะครับ.... ..ว่า...ท่านรู้บ้างหรือเปล่าว่า... -ถ้าขับที่ความเร็ว 120 Km/h เราควรจะทิ้งระยะห่างจากคันหน้ากี่เมตร..? ทำไม ? และยังไง ? -ถ้าคุณเห็นรถคันหน้าเบรค คุณจะใช้เวลาในการตัดสินใจเบรคตามกี่วินาที..และระยะทางที่รถใช้ในเวลาที่คุณตัดสินใจนี้..เป็นระยะทางกี่เมตร ? ความรู้ที่ผมเอามาถามกันนี้เป็นความรู้พื้นฐานที่คุณควรรู้ไว้เพื่อความปลอดภัยทั้งกับคุณเอง...ครอบครัวคุณ..และผู้ร่วมทางอื่นๆ ( แน่นอนรวมผมด้วย ) อย่างน้อยถ้าคุณรู้..คุณก็พร้อมขึ้นมาบ้างแล้วละ่...สำหรับการขับรถ..ที่เร็วยิ่งขึ้น............ จากคุณ : zone2 - [ 9 ส.ค. 51 02:45:26 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ,, ผมเห็นด้วยนะ ที่ 120 km/h ,, ,, เรื่องประหยัด อย่าเอามาอ้าง ,, ,, เรื่องความรุนแรงของอุบัติเหตุ ก็ไปทดสอบมา ถ้ามีนัย ก็โอเค ,, ,, เรื่องความพร้อม ไม่พร้อมก็อย่าขับเร็ว มันไม่ได้กำหนดความเร็วขั้นต่ำ ,, ,, จริงๆ แล้วควรกวดขันเรื่องการออกในอนุญาตขับขี่ให้เข้มงวดกว่านี้ด้วย ,, ,, ถ้าเป็นคนที่มีวินัยจราจรดีๆ เท่านั้นที่ได้สิทธิ์ขับ ผลดีจะเกิดเอง ,, จากคุณ : pseudomorph - [ 9 ส.ค. 51 03:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ผมว่าไม่น่าเกี่ยวกับสมรรถนะของรถเลยนะครับ ความเร็วที่เหมาะสม ผมเห็นด้วยที่ 90 ช้าไป แต่ก็ไม่ควรเกิน 110 ครับ ถนนของเราหลายเส้น มักจะมีหมู่บ้านเล็กๆอยู่เรื่อยๆตามทาง ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นพื้นที่เกษตรกรรมซะอีก คือไม่ใช่ไรนะครับ แต่ขนาดว่าบังคับที่ 90 แล้วดูแต่ละคนขับดิครับ มันก็เกินกันทั้งนั้น ไม่ใช่เกินมา นิดๆหน่อยๆนะ แต่ 120+ เนี่ย อันตรายนะครับ มีอะไรตัดหน้านี่ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่าหลายเท่านะครับ ต่อให้แก้ไปมันก็ไม่ได้ดีขึ้นมาเลยครับ จากคุณ : so_love1 - [ 9 ส.ค. 51 04:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เห็นด้วยอย่างยิ่งอีกหนึ่งเสียงครับ จากคุณ : warn2506 - [ 9 ส.ค. 51 05:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่เกิน 90 อย่างบูรพาวิถี (บางนา-บางปะกง) หรือมอเตอร์เวย์ หรือวงแหวนตะวันนออก มันอึดอัดน่าดูกว่าจะถึงปลายทาง จากคุณ : CZX19 - [ 9 ส.ค. 51 07:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เข้ามาอีกรอบครับ เรียน คห ที่ 56 ครับ วิชาการไปป่าวครับเนี่ย ผมยังไม่รู้เลยครับว่า แล้วถ้าความเร็วที่ 90 เนี่ย เราควรจะทิ้งระยะห่างจากคันหน้ากี่เมตร..? ทำไม ? และยังไง ? -ถ้าคุณเห็นรถคันหน้าเบรค คุณจะใช้เวลาในการตัดสินใจเบรคตามกี่วินาที..และระยะทางที่รถใช้ในเวลาที่คุณตัดสินใจนี้..เป็นระยะทางกี่เมตร ? ช่วยบอกผมด้วยนะครับ ผมจำข้อนี้ไม่ได้อีกนั้นแหล่ะ เท่าที่ผมขับรถมาก็คือ ห่างจากคันหน้าพอประมาณ ไม่เคยวัดว่ากี่เมตร เพื่อป้องกันการชนท้ายในขณะที่คันหน้าเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ รู้แค่นี้คับ จากคุณ : Mongther - [ 9 ส.ค. 51 07:28:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ข้อที่จริงอย่างนึงก็คือรถพัฒนาไปแล้ว ถนนพัฒนาไปแล้ว แต่ร่างกายของเรายังทนแรงกระแทก ได้เท่าเดิมตลอด 100ปีที่ผ่านมา แต่รถที่ปลอดภัยขึ้นบ้าง ก็อาจส่งแรงกระแทกให้ร่างกายเราน้อยลงได้บ้างแต่ถ้ามากเกินไป ยังไงก็เจ็บยังไงก็เสี่ยง ความเร็วที่ผมคิดว่าน่าจะ set ใหม่ ก็คงดูตามสภาพถนน ถ้าเป็นทางหลวงช่วงที่ไม่ใช่เขตชุมชน 110-120 แค่นี้ผมก็คิดว่าเร็วพอแล้ว มีอะไรตัดหน้ายังกระทืบเบรคลงมาให้เหลือ 60ได้ก่อนชน เสียหาย แต่ไม่ถึงตาย ส่วนถนนทางหลวงที่พาดผ่านเขตชุมชน ไม่ควรเป็น110 ต้องช้ากว่านั้น คนข้ามถนนไม่ดูทาง สองล้อ สี่ล้อ สวนเลน กลับรถ และอีกสารพัด... จากคุณ : หมีไฟฟ้า (V.Putin) - [ 9 ส.ค. 51 07:38:02 ]

ความคิดเห็นที่ 63 #41 ร่วมยินดีกับ แป๊ะเหล่านั้ง ให้ชูขึ้นจริงๆ \(-_-")/ จากคุณ : เป็นกำลังใจ (BOPI) - [ 9 ส.ค. 51 07:43:08 ]

ความคิดเห็นที่ 64 แยกให้ละเอียดดีไหม ที่ถนนทางพิเศษ(มอเตอร์เวย์,ทางด่วน) ,ทางหลวงเลขตัวเดียว ยอมให้ได้ ๑๒๐ ทางหลวงเลขสองตัว ยอมให้ได้ ๑๐๐ ทางหลวงเลขสามตัว สี่ตัว ยอมให้ได้ ๙๐ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 9 ส.ค. 51 07:45:34 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่เห็นด้วยครับ สมรรถนะของเครื่องยนต์ ปัจจุบันนี้ ดีกว่าเมื่อ 40 ปีที่แล้วมากจริงๆ ครับ แต่ ระยะเบรคไม่ต่างกันเท่าไหร่เลย  การควบคุมความเร็ว กำหนดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ทุกๆคนที่ใช้ถนน มิใช้เพิ่มความสะดวกสบาย โดยคิดจากระยะเบรคที่ปลอดภัยเป็นสำคัญ ถนนบ้านเราไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่คิดนะครับ อย่างเช่นถนนสายเอเซีย ที่จะขึ้นไปทางเหนือ บางช่วงก็ไม่ดี บางช่วงก็เป็นชุมชน เป็นโรงเรียนริมถนนก็มี เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งดูกระทู้เพื่อนสมาชิกจากที่รัชดานี้ขับ volvo ป้ายแดง 170 ตกหลุมตอนสายๆที่ถนนสายเอเซียแถวกำแพงเพชร ยางระเบิด 2 ล้อ แม็กดุง โชคดีมากที่ไม่เสียหลักตกถนน ถ้าวิ่งตามกฎหมายกำหนดอาจจะไม่เกิดเหตุตามนี้ และถนนบ้านเราก็ไม่ได้ถูกกำหนดความเร็วสูงสุดเพียงแค่ 90 นะครับ  แต่ 120 ก็มีอย่างเช่นในมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นถนนปิดก็ให้ใช้ 120 ได้ จากคุณ : WeArePry (WeArePry) - [ 9 ส.ค. 51 08:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 66 90 10 ปีที่แล้วไม่ตายก้อพิการ  ผ่านมาตอนนี้ ผมว่า ไม่ตายก้อพิการ เหมือนเดิม รถ แรงขึ้น เหล็กห่วยลง เปลี่ยนเป็น 120 ก้อดี ไปอย่าง ได้ตายสถานเดียว  ไม่ต้องพิการ   จริงๆ ผมเห็นด้วยนะ ที่จะปรับเป็น 110 , 120 เพราะเป็นการปรับให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ใครไม่อยาก ขับเร็ว เค้าก้อไม่ได้ว่าไรอยู่แล้วนิ คนที่จะขับเร็วก้อเสี่ยงกันเอาเอง ส่วนที่เกิดอันตรายแล้วคนร่วมถนนต้องเสี่ยงด้วย  ทุกวันนี้มันก้อขับเกินอยู่แล้วนิ   อันที่จริง  ผมว่าเสนอให้ มีผัว มีเมีย ได้เกินคนเดียว ได้ตามกฏหมาย ไปด้วยซะก้อดี  ไหนๆ ทุกวันนี้มันก้อมีกันเกร่อแล้ว อ้อ เรื่องห้ามกิ๊ก เด็กต่ำกว่า 18  จะได้สอดคล้องกับความเป็นจริงด้วย  555 จากคุณ : ARMS STRONG - [ 9 ส.ค. 51 08:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 67 USA .. ถนนดี ถึงดีมาก  (ว่าตรงๆ ขนาดถนนระดับแย่ ยังดีกว่า highway บ้านเรา)  กฏหมาย ให้ speed limit ที่เท่าไหร่ .. รู้ไหมครับ?  ทำไม ถึงให้ไว้ที่เท่านั้น .. รู้ไหม?  การเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เพื่อแค่ให้คนขับ ขับได้สนุกมากขึ้น  ตัวแปรอื่นๆ ยังมีอีกมาก  โดยเฉพาะความปลอดภัยของผู้เสียภาษี ที่เรียกว่า "ผู้โดยสารและคนเดินถนน"  ถนนสายหลักต่างๆ ที่ถึงแม้ไม่มีรถสวน แต่ก็ยังเป็นทางสัญจรร่วม ของคนอื่นๆ ที่ใช้รถสมรรถนะไม่สูง  ต่างจากทางด่วนพิเศษ ซึ่งเป็นทางสัญจรเฉพาะ ของรถส่วนน้อย  จะเห็นได้ว่าทางด่วนพิเศษ มีการห้ามรถหลายๆอย่าง เข้าไปใช้ ไม่ว่ากระบะ (ไม่ปิดท้าย), มอเตอร์ไซค์ ฯลฯ  -------------------  กลับมาที่ทางหลวงทั่วไป .. เป็นอย่างที่คุณ v.putin ว่า  ถนนพัฒนาไปแล้ว แต่ร่างกายของเรายังทนแรงกระแทกได้เท่าเดิม  อุบัติเหตุ ที่เกิดที่ความเร็วสูง หนักหนากว่าที่ความเร็วต่ำ  สำหรับคน(ส่วนน้อย) ที่มีรถสมรรถนะสูง ... รถอาจป้องกันอันตรายที่ 140-150 กม/ชม. ได้  แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ .. ใช้รถที่ออกแบบมาให้ป้องกันอันตรายได้ .. ไม่เกิน 80 กม/ชม.ด้วยซ้ำ!  -------------------------------  ดูการทดสอบเบรคเป็นตัวอย่าง ... ทดสอบกันที่ความเร็วเท่าไหร่?  60 กม/ชม. และ 90 (หรือ 100) กม/ชม.เท่านั้น  ไม่ใช่ทดสอบที่ 110 หรือ 120  เบรคดีๆ ประสิืทธิภาพ 100%  ความเร็ว 60 กม/ชม. ... หยุดรถได้ที่ระยะประมาณ 5 เมตร  แต่เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น 50% .. จาก 60 -> 100 กม/ชม.  ระยะเบรค จะเพิ่มจาก 5 เมตร -> 15 เมตร ... หรือ เพิ่มขึ้น 300%  -------------------------------  ที่ใน UK เขาทำการทดสอบระยะเบรค ในสภาพบนถนน  เริ่มจากเบรคทำงาน จนรถหยุด .. ได้ตัวเลขที่น่าดูมาก  ที่ความเร็ว 30 mph (ประมาณ 50 กม/ชม)  .. ระยะทางเบรค คือ 14 เมตร  เมื่อเพิ่้มความเร็วเป็น 70mph (ประมาณ 110 กม/ชม) หรือ เพิ่มความเร็วขึ้น 200%  ระยะทางเบรคคือ 75 เมตร หรือ เพิ่มขึ้น 500%  ถ้ารวม เวลาในการตัดสินใจ และเริ่มเหยียบเบรค อีก 0.75 วินาทีเข้าไป  เวลาดังกล่าว จะทำให้ระยะทางเบรคเพิ่ม 9 เมตร (ที่ 50 กม/ชม) ถึง 21 เมตร (ที่ 110 กม/ชม)  -------------------------------  รถดีขึ้น ถนนดีขึ้น  แต่ระยะทางเบรค ไม่มีทางลดต่ำกว่านี้  และผู้สัญจรร่วมบนท้องถนน ก็ไม่มีทางทนแรงกระแทกมากขึ้นกว่าเดิม จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 9 ส.ค. 51 08:29:56 ]

ความคิดเห็นที่ 68 โพสท์เสร็จ เห็น คห.คุณ arm strong  ขอเข้ามาสนับสนุน กม.ที่คุณ arm strong กำลังจะเสนอครับ  เพราะเด็ก (และผู้ใหญ่) รอบๆตัวผมเกินกว่า 90% มีกิ๊กหลายคน  เด็กส่วนใหญ่พัฒนาไปมากกว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้วเยอะ  มีผัว มีเมียกันตั้งแต่อายุ 14-15  เราไม่ควรใช้ กม.พรากผู้เยาว์ ที่สุดแสนโบราณ ออกมาเกือบ 100 ปี ไม่ได้เข้ากับยุคสมัยเลย    ควรดูความจริงว่า .. เด็ก 13-14 ก็อวบ อัด อั๋น สมรรถภาพสูงกว่าป้าแก่ๆ อายุ 25-30  ทำไมยังต้องใช้  age limit ที่ 18 อยู่อีกก็ไม่รู้!  เอื้อก จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 9 ส.ค. 51 08:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คุณหมอแมวได้ทดสอบแล้วหรือครับว่า  สมรรถภาพของ เด็ก 13-14 ? ดีกว่าป้าแก่ ?  ยังไงขอหลักฐานทางวิชาการมายันหน่อยครับ ว่าแจ๋วกว่าจริง ชักออกทะเลแล้ววุ้ย จากคุณ : Professor - [ 9 ส.ค. 51 08:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อีกหนึ่งเสียงคับ.....เห็นด้วย...มากๆๆๆๆๆ....vote ต่อเลยคับ.. จากคุณ : song hey khuan - [ 9 ส.ค. 51 09:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 71 vote จากคุณ : pisith (pisith) - [ 9 ส.ค. 51 10:20:22 ]

ความคิดเห็นที่ 72 จะแรงกันไปไหนล่ะท่าน ส่วนตัว ถ้าทางโล่งๆ 80 ผม ก็โอเคแล้ว แต่มากกว่ากว่านี้เคยลอง 140 (แล้วคุมรถไม่อยู่) ก็เลย คิดว่าทำประชาพิจารณ์มั้ยครับ ว่าประชาชนส่วนใหญ่เค้าขับรถกันที่ความเร็วไม่เกินเท่าไหร่กัน เอาเสียงส่วนใหญ่แล้วกันครับ จากคุณ : . - [ 9 ส.ค. 51 10:30:40 A:58.64.65.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 เห็นด้วยกับ แมวเหมียวพุงป่อง  เลยครับ อะจึ๋ยๆๆ จากคุณ : cinogen - [ 9 ส.ค. 51 10:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ใ้ห้กรมขนส่ง จัดทำประชาพิจารณ์ไปเลย บังคับให้ประชาชนผู้มีรถทุกคัน ยื่นแสดงความคิดเห็นต่อการใช้ความเร็วบนท้องถนน ว่ากันไปเลยว่าชอบขับแบบ ต่ำกว่า 80 หรือในช่วง 80-90 หรือ 100-120 หรือมากกว่านั้น xxxxx... โดยนำสมุดทะเบียนรถ พร้อมบัตรประชาชน มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ========================================== ผมว่าดีนะ..... จะได้รู้กันไปเลยครับ ว่าคนส่วนใหญ่ต้องการขับแบบไหน จากคุณ : . - [ 9 ส.ค. 51 10:36:10 A:58.64.65.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 ดีจัง ความเห็นหลากหลาย ประชาพิจารณ์ ก็ดีเหมือนกัน แต่เท่าที่เห็น ก็อย่างที่เพื่อนๆ ว่าแหละ ครับ ส่วนใหญ่ บนไฮเวย์ หาคนขับ ต่ำกว่า 100 ยาก มากๆ จากคุณ : -=Jfk=- - [ 9 ส.ค. 51 10:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ที่เยอรมันมีแนวคิดให้ License พิเศษสำหรับคนที่ชำนาญ ให้ขับเกิน 120 ได้ด้วยซ้ำไป จากคุณ : หนุ่มน้อยหน้าใสวัยสิบแปด - [ 9 ส.ค. 51 10:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะถนนไฮเวย์สายหลัก จากคุณ : ตี๋อุดร - [ 9 ส.ค. 51 11:09:05 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เท่าที่สรุปได้ตอนนี้ คนที่เห็นด้วย 1. เพราะรถมีสมรรถนะที่ดีกว่าแต่ก่อน 2. ที่ความเร็ว 90 จะหลับ 3. ที่ความเร็ว 60 หรือ 70 mph ไม่มีความต่างของจำนวนอุบัติเหตุที่เกิด แต่คงไม่มีใครกล้าเสนอ คนที่ไม่เห็นด้วย 1. กลัวอุบัติเหตุ 2. รถสมรรถนะเพิ่ม แต่ความปลอดภัยไม่ได้เพิ่ม (ระยะเบรค กับ โครงสร้าง) 3. เพราะตัวเองขับที่ความเร็วนี้ประจำ รู้สึกปลอดภัยดี ควบคุมง่าย ข้อเสนอแนะของผู้ที่เห็นด้วย 1. ให้มี license สำหรับผู้ขับ เฉพาะให้สามารถขับได้เกิน 90 หรือ 110 แล้วแต่ว่ากันไป 2. ความเร็วที่รถสามารถวิ่งได้กำหนดเป็นสายๆไป ตามเลข 2 ตัว 3 ตัว 4 ตัว แต่ละเลนส์ก็อาจจะกำหนดความเร็วไว้อย่างน้อยเท่าไหร่ และห้ามเกินเท่าไหร่ 3. ให้มีการตรวจสภาพและเอาผิดตามกม. อย่างจริงจัง ข้อเสนอแนะของผู้ที่ไม่เห็นด้วย 1. จัดทำประชาพิจารณ์ จากคุณ : KhongLen` - [ 9 ส.ค. 51 11:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 79 รถวิ่งเร็วขึ้น ก็เกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้น,ระยะเบรคยาวขึ้น,แรงปะทะแรงขึ้น,ตายกันง่ายขึ้น ฯลฯ ลองดูอุบัติเหตุที่ถึงขั้นเสียชีวิต หรือ พิการ สิครับ...เหยียบกัน 120 ขึ้นทั้งนั้น.... แล้วเวลาชน รถเร็ว 120 ชนทีนึง ไม่ใช่จะหยุดแรงเฉื่อยกันง่ายๆ ยังกระเด็นกระดอนไปปะทะสิ่งอื่นๆอีก กว่ามันจะหมดฤทธิ์ได้...???? ประโยชน์ของสปีดลิมิตมากขึ้น คือ - ถึงที่หมายเร็วขึ้น ไม่กี่สิบนาที - ไม่ง่วง..???? - ขับสนุก ???????? ถ้าสปีดลิมิต มันมีประโยชน์แค่นี้......ผมว่า เป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ชอบความเร็ว ใจร้อน นะครับ.... คนส่วนใหญ่ เดินทาง ก็เพื่อไปถึงที่หมายโดยปลอดภัย ไม่ตายกลางทางซะก่อน.... รถ 140 สองคัน แค่ สะกิดกันนิดเดียว ก็กระเด็นไปคนละทางแล้ว !!!! ยังจะสนุกกันอีกหรือ ? คงไม่เถียงว่า ความรุนแรงจะแปรผันกับความเร็วตอนปะทะ .......... รถที่ทดสอบการชน มันไม่ได้ชนกันที่ 140 ซะหน่อย...แค่ 60-80 เท่านั้นเอง รถบางรุ่นยังบี้เป็นกระดาษยับเลย แล้วความเร็ว 140 จะเหลือซากอะไรให้เก็บ ??? คิดให้ดีๆนะครับ ถนน ไม่ได้ คนกลุ่มเดียววิ่งเท่านั้น.... ถ้าผม ขับรถจะไปหาลูกเมียที่ 90 แล้วเจอพวก 140 มาชนจนผมพิการ จะทำยังไง...??จะเลี้ยงผมไปตลอดชีวิตหรือ จากคุณ : ศิลาโรเซ็ตต้า - [ 9 ส.ค. 51 11:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 80 แนวความคิดดีครับ แต่ผมไม่ค่่อยจะเห็นด้วย เพราะ 1. สภาพรถยนต์ที่ใช้ บ้านเมืองเราไม่เข้มงวดเรื่องนี้ ถึงแม้จะมีการตรวจสภาพก่อนเสียภาษีประจำปี แต่ก็มีการหลบเลี่ยงกันอยู่ ดังนั้นเราจะเจอรถที่สภาพเ่ก่า ๆ ไฟสัญญานต่่าง ๆ ไม่ครบถ้วน วิ่งอยู่บนถนนร่วมกับรถเก่าสภาพดี ๆ 2. คนขับรถยังไม่เคารพกฏจราจร ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้ถนน การเพิ่มความเร็วในการขับรถเท่ากับเพิ่มอันตรายในการใช้ถนน ถ้าหากจะำเพิ่มความเร็ว เราต้องกวดขันเรื่องวินัย การเคารพกฏจราจร สภาพรถยนต์ที่นำมาวิ่งบนถนนให้เข้มงวดกว่านี้ จริงครับที่เทคโนโลยีของรถยนต์ ถนนพัฒนาขึ้นไปมาก รถตลาดที่ดัดแปลงเครื่อง ตัวถัง วิ่งแข่งกันในสนามแข่ง วิ่งเร็วกว่าในถนนหลวงเยอะ แต่ว่าเขามีกฏระเบียบของความปลอดภัย สภาพรถที่พร้อม ตัวคนขับที่พร้อม ทุกอย่างในสนามพร้อมไปหมด คนขับเขารู้กฏกติกา มารยาทในการขับรถ เทคโนโลยีมันพัฒนาขึ้น แต่วินัยของคนหลาย ๆ คนไม่พัฒนาตามเทคโนโลยีไปด้วย สมองคนไม่ใช่คอมพิวเตอร์ที่สามารถอัพเกรดfirmwareได้นี่ครับ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 51 12:54:15 จากคุณ : Mr. SJ - [ 9 ส.ค. 51 11:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ใจนึงก็เห็นด้วยใจนึงก็ไม่เห็นด้วย เห็นด้วย แต่ 1 ต้องมีกฏหมายให้โทษสูงสุดแก่ผู้ดื่มสุราแล้วขับ การตั้งด่านตรวจต้องไม่มี  การลักลั่น เอกมัย รัชดา ก็ต้องมาตั้งด่านตรวจ 2 ต้องให้เงินเดือนเจ้าหน้าที่เพิ่มเพื่อการจูงใจไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง 3 กฏหมายจราจรต้องเข้มงวดและชัดเจนมากกว่านี้ และเอาผิดได้จริงๆจังๆ 4 ถือโอกาสจัดระเบียบรถบรรทุกไปด้วยให้จริงๆจังๆสักที 5 คงต้องทำประชาพิจารณ์ไปด้วย ไม่เห็นด้วยเพราะ 1 คนไทยส่วนใหญ่ยังขาดวินัยทางจราจร ขับรถเร็วขึ้นกลัวว่าจะเพิ่มปัญหา 2 สภาวะปัจุบันกับมตราฐานการติดตั้งแก๊สยังไม่ชัดเจน เกิดอุบัติเหตุอาจจะ   รุนแรงกว่าเดิม 3 ถนนทางหลวงตำรวจยังหากินอยู่ เช่นวิ่งเลนขวาก็ถูกจับเลย ออกกฏหมาย  ใหม่มาพี่แกก็หาช่องโหว่มาหากินอีก สรุปว่าไม่ว่าเห็นด้วยไม่เห็นด้วยแต่ที่แน่ๆ วันนี้ต้องแก้ระบบเจ้าหน้าที่ ที่ใช้ช่องว่างทางกฏหมายหากินสักที รวมถึงกฏหมายที่มันกำกวมต่างๆ จะได้ขับรถอย่างมีความสุขจะขับ90แต่ก็สบายใจเพราะทุกคนรู้หน้าที่รักษากฏจราจรกัน จากคุณ : [kv] - [ 9 ส.ค. 51 11:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เพิ่มอีกเรื่องได้เปล่า ห้ามมีตัวหนอน บน ถนน ท้งในถนนส่วนบุคคล และ ถนนสาธารณะ รถโหลด เข้าไม่ได้ จากคุณ : kho_kho - [ 9 ส.ค. 51 12:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คนร่างกฎ เค้าเห็นความสำคัญ ในตัวพวกคุณ เค้ากลัวทรัพยากร อันมีค่าเช่นพวกคุณ จะตาย ห่_ กันหมด จึงต้องมีกฎแบบนี้มา ถ้าแก้เป็น 110-120 เด๋ว ก็คิดว่า อนุโลมเป็น 130-140 เกิดเหตุที ไม่ต้องเรียกรถพยาบาลหรอก จองวัดเลย ถ้าเป็นแบบนี้ทั่วประเทศ ประเทศจะต้องแบกรับ ปัญหา ทรัพยากรมนุษย์ ที่พิการ และด้อยประสิทธิภาพ อีกมากมาย แล้วใครจะมาขับเคลื่อนประเทศล่ะ พออายุถึง วัยทำงาน ดันมาตายกันหมด... เค้าคิดกันยาวๆครับ ไม่ได้คิดที่ปลายจมูก (ตรูสูดอากาศได้ คนอื่นช่างมัน) คุณมั่นใจในฝีมือการขับรถตัวเองแค่ใหน ขนาดนักแข่งรถ ยังมีพลาด จนตัวเองตายก็มี... ขอบคุณ ที่มีที่ให้ผมระบายครับ จากคุณ : คนจ๊นจน - [ 9 ส.ค. 51 12:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 84 โหวต เพราะบางครั้งรู้สึกเหมือนเป็นช่องทางทำมาหากินของคนบางกลุ่ม จากคุณ : locolocoboy - [ 9 ส.ค. 51 12:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 85 โหวต ครับ ผมว่าควรอยู่ที่ 120 กม/ชม. เหมาะสมสุด จากคุณ : Peenoy_9 - [ 9 ส.ค. 51 12:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ด่านตรวจจับความเร็ว มันจะตั้งเฉพาะช่วงทางตรงยาว ๆ ถนนดี ๆ เท่านั้น เพราะถ้าเอาไปตั้งในจุดที่ขับเร็วไม่ได้ มันไม่ได้ตังค์กินหนม.. จากคุณ : ขาจร - [ 9 ส.ค. 51 12:30:25 A:58.64.104.240 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 เห็นด้วยครับผม จากคุณ : มนุษย์สัญจร - [ 9 ส.ค. 51 12:52:15 ]

ความคิดเห็นที่ 88 รวบรวมอุบัติเหตุที่เกิดจากสภาพถนนเมืองไทย บนมอเตอร์เวย์ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6817642/V6817642.html บันทึกอุบัติเหตุจาก จขกท ถ้าช้าอีกนิดอาจจะไม่เกิด http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2008/02/V6315210/V6315210.html สภาพถนนเมืองไทย ที่คนไทยต้องยอมรับ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6801568/V6801568.html รถแต่ละคันที่โดน ก็เทพๆทั้งนั้น ไม่มีคันไหนรอดซักคัน... แต่โชคดีมากที่ไม่ได้กวาดเอาชาวบ้านริมถนน หรือรถคันข้างๆไปด้วย จากคุณ : WeArePry (WeArePry) - [ 9 ส.ค. 51 13:05:40 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ให้ซัก 110-120 กม./ชม. ก็ไม่น่าเกลียดครับ แต่ขับรถทางหลวง หลายคนขับกัน 140-160 กม./ชม. เห็นแบบนี้ผมไม่เชื่อว่าถึงเพิ่มความเร็วสูงสุดไป แต่ก็ยังมีคนขับเร็วกว่าที่กำหนดอยู่ดี แถมยังมาคุยอีกว่าขับที่ความเร็ว 140-160 กม./ชม. ปลอดภัย แต่ถ้ามีอะไรตัดหน้า ผมว่าก็ไม่เหลือ ถ้าใช้ความเร็วขนาดนั้น ประเทศอื่น กำหนดความเร็วสูงสุดที่ 110-120 กม ไม่เห็นมีปัญหา จากคุณ : oddie - [ 9 ส.ค. 51 14:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 90 120 เห็นด้วย โหวดให้แล้ว จากคุณ : my_whitechristmas - [ 9 ส.ค. 51 14:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ผมว่าหลายคนน่าจะเข้าใจประเด็นผิดแล้วครับ คือที่ผมคิดเหมือนคุณพี่หมอ คือว่า ปกติ(ตอนนี้) ตำรวจบางท่านบอกว่าขับได้ไม่เกิน90 (ตาม กม.) แต่อลุ่มหล่วยได้ไม่เกิน 120 บางคน 110 บางคนเกิน90 ไม่ได้เลย แล้วบรรทัดฐานมันคืออะไรล่ะครับ ตำรวจไม่ได้รับการอบรมมาจากกระทรวงเดียวกันเหรอ ทีนี้ไหนๆ ตำรวจหลายๆท่านก็บอกอลุ่มอล่วยกันไปแล้ว งั้นก็กำหนดให้เป็นมาตรฐานเดียวกันไปเลยสิ (เฉพาะนอกเมือง ย้ำว่านอกเมือง) ก็เอาตามที่ท่านยินยอมไปเลย คือ จะ 110 หรือ 120 ก็เอาไปสักอย่าง ไม่ใช่ว่า บางทีพอต้นเดือนบอก 120 ได้ แต่พอปลายเดือน ท่านบอกว่า เกิน 90 ไม่ได้ ทั้งที่การขับขี่จริงแล้ว มันก็อยู่ที่ประมาณ 100-120 กันทั้งนั้น ส่วนในที่ชุมชนในเมืองก็กำหนดไว้เท่าเดิม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ขับช้าอยู่แล้ว จะต้องมาขับเร็ว ไม่ใช่นี่ครับ แค่กำหนดกฎหมายให้มันสอดคล้องกับการใช้ชีวิตและการประณีประนอมของ เจ้าพนักงานเดิมเท่านั้นเอง จากคุณ : ปลาวาฬสีฟ้า..หางกุด - [ 9 ส.ค. 51 14:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ****เฉลย***** -ถ้าขับที่ความเร็ว 120 Km/h เราควรจะทิ้งระยะห่างจากคันหน้ากี่เมตร..? ทำไม ? และยังไง ? **** ****มีสูตรคำนวนดังนี้    ( ความเร็วรถ/10) x (ความเร็วรถ/10) **** ****ถ้าขับที่ความเร็ว 120 Km/h ระยะเบรกก็จะเท่ากับ ****                        (120/10) x ( 120/10) = 144 m. แต่ยังต้องรวมระยะตัดสินใจอีก -ถ้า คุณเห็นรถคันหน้าเบรค คุณจะใช้เวลาในการตัดสินใจเบรคตามกี่วินาที..และระยะทางที่รถใช้ในเวลาที่ คุณตัดสินใจนี้..เป็นระยะทางกี่เมตร ? ****        (ความเร็วรถ x3)/10 ****ถ้าขับที่ความเร็ว 120 Km/h ระยะตัดสินใจก็จะเท่ากับ ****         (120x3)/10 =  36 m. ****หมายความว่าถ้าคุณตัดสินใจเบรคตอนขับอยู่ 120 Km/h รถจะแล่นไป****แล้ว 36 เมตร ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, รวมแล้ว = 180 เมตร ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, อันนี้เป็นหลักการและสูตรทางทฤษฏี นะครับ....ในความเป็นจริงอาจจะมีตัวแปรที่ทำให้ค่าต่างๆเปลี่ยนแปลงได้..ซึ่งอาจะได้ค่าที่น้อยลง... เช่น..คนขับ...สภาพของผู้ขับ...ตัดสินใจได้เร็วหรือช้ากว่า 1 วินาทีก่อนจะ    ........เบรค ถ้าง่วงหรือเมาก็คงต้องช้ากว่านี้ และระยะทางก็จะยาวกว่าที่คำนวนไว้ .......สภาพรถยนต์ อันนี้เป็นตัวแปรที่สำคัญ...ทุกวันนี้รถยนต์ใหม่ๆมีสมรรถนะสูงขึ้น ระบบเบรค ก็มีประสิทธิภาพดีขึ้นมีระบบช่วย เรื่องเบรคหลายระบบทำให้ระยะเบรคสั้นลงมาก..อันนี้แสดงว่าระยะเบรคในรถแต่ละคัน..สั้น...ยาว..แตกต่างกัน..รถบ้านธรรมดา..ระยะเบรคก็คงต้องยาวกว่า รถ Sport เป็นต้น.....แล้วก็ยังขึ้นกับ ยางรถ สภาพถนน น้ำหนักที่รถบรรทุกอยู่ในตอน..นั้นๆ อีก.. แล้วรถ...คุณละ..ระยะเบรคอยู่ที่เท่าไหร่...... โดยทั่วไปบริษัทรถก็จะทำการ Test มาในรถแต่ละรุ่น ถ้ามีก็คงอยู่ในคู่มือหรือSpec ของรถรุ่นนั้นๆ อาจจะ Test ที่ความเร็วต่างๆ แล้วบอกมาเป็นระยะเบรคเป็นกี่เมตร เป็นต้น... xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx อาจจะดูน่าเบื่อ..แล้วก็เป็นวิชาการเกินไป... ..แต่ถ้ามันทำให้เราและผู้ใช้ถนนร่วมกันปลอดภัยก็น่าจะควรรู้ไว้นะครับ.......... ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, จากคุณ : zone2 - [ 9 ส.ค. 51 15:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เรื่องเมื่อ 40 ปี ก่อน เค้าก็รู้หมดสิว่าพี่หมอแก่แล้ว จากคุณ : cbrzoom - [ 9 ส.ค. 51 16:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ตามเพื่อนๆ ว่านั่นแหละครับ แม้จะเพิ่มความเร็ว จำกัดขึ้นไปที่ 110-120 ก็คงยังมีคนที่ฝ่าฝืนเกินอยู่ดี ซึ่งตรงนั้นจะจับกัน ก็ยอมให้จับ ครับ (รวมทั้งผม) แต่ ที่ให้ปรับแก้กฏหมาย ก็เพื่อให้สอดคล้องกับความเร็วจริงๆ ที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน ซึ่งปกติ ตำรวจเค้าก็เข้าใจ และอนุโลมกันอยู่แล้ว แต่เอามากำหนดให้มันเป็นลายลักษณ์อักษร  ไม่เปิดช่องให้ มีคนนำมาประโยชน์ หรือจับกันตามอารมณ์ ท่าน ดีกว่า ครับ จากคุณ : -=Jfk=- - [ 9 ส.ค. 51 16:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เห็นด้วยอีกเสียงครับ ตอนนี้รถผมกำลังจะเป็นง่อยตายแล้วครับ จากคุณ : New (utccinter) - [ 9 ส.ค. 51 16:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 96 อ่านมาเยอะแล้ว ขอเสนอความคิดด้วยคน ความจริงเรื่องกำหนดความเร็วควรขึ้นกับวิศวกร (Highway or Traffic Engineer) เป็นผู้กำหนด ก่อนอื่นเรื่องการกำหนด Speed limit นี้ขึ้นกับประเภทหรือชนิดของถนน โดยทางวิศวกรผู้ออกแบบ ได้คำนึงถึงหลักการด้านความปลอดภัยต่าง อาทิเช่น ระยะหยุดรถที่ปลอดภัย ระยะมองห็นที่ปลอดภัย และค่า การรับรู้ต่างๆ ดังนั้น ทางมอเตอร์เวย์ ทางด่วนยกระดับ เช่น บูรพาวิถี หรือ ทางหลวงต่างจังหวัดที่เป็น 4lane- divided นั้น สามารถทำความเร็วได้ถึง 110 กม/ชม ได้แน่นอน และขอยืนยันว่าปลอดภัย กับผู้ขับขี่ ที่ขับ กฏจราจรทุกวัย อย่างไรก็ตามอาจมีบางแห่งที่ไม่สามารถใช้ความเร็ว 110 ได้ เราจะสังเกตุเห็นป้ายเปลี่ยน ความเร็วแจ้งให้ทราบก่อนถึงตำแหน่งดังกล่าว (เช่น โค้งบางแห่งอาจระบุ 90 กม/ชม) (ความเห็นที่ 56 ผมตอบ ได้ทุกคำถามครับ แต่ยืนยันว่า เราสามารถกำหนดควาเร็ว ที่ 110 ได้) ปัญหาหลักของเมืองไทย คือพฤติกรรมการขับรถ (driving behaviour) ที่มีความแต่ต่างทางความเร็ว ค่อนข้างมาก เพราะบางคนขับตามกฏ ก็ประมาณ 90-100 ส่วนคนทั่วไป 110-120 แต่มีจำนวนไม่น้อยที่ชอบแซงแบบ ฉีกกระดาษ ที่ความเร็ว 150-160 กม/ชม พวกบ้าๆขับ 180-200 ก็มี ทำให้มีความแต่ต่างทางด้านความเร็วสัมพัทธ์ (Relative Speed) มากเกินไป ขอยกตัวอย่าง.ในออสเตรเลีย Highway หรือ ทางหลวงระหว่างเมืองที่มีคุณภาพสูง มี Speed limit ที่ 110 กม/ชม และลองนึกภาพดูครับ 97% ขับที่ความเร็วใกล้เคียงกันคือ ระหว่าง 105-115 กม/ชม เวลาเราขับจะเหมือนทุกรถคันแทบจะ ไม่เคลื่อนที่ เพราะระยห่างแทบจะคงที่ตลอด น้อยนักที่จะมีคนแซงด้วยความเร็วที่แตกต่าง ทำไมคนไทยถึงขับรถแบบนี้??? >> เพราะความไม่เข้มงวดของกฎหมายและตำรวจที่รับเงินมากกว่าเขียนใบสั่ง วิธีแก้ เชื่อว่าได้ผล (เหมือนกับการออกกฎหมายเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัย) มีการตรวจวัดความเร็ว >> ติดตั้งกล้องวัดความเร็ว เป็นระยะๆ หรือ มีหน่วยวัดความเร็นเคลื่อนที่พร้อมถ่ายภาพทันที ทั้งกลางวันและกลางคืน บนทางหลวงสายหลักต่างๆ เพิ่มบทลงโทษ >>ลองแบบคร่าวๆดูนะครับ ถ้ากำหนดความเร็วสูงสุดที่ 110 กม/ชม ถ้าคุณวิ่งที่ 110-115 จะถือว่าอะลุ่มอะล่วย ถ้าคุณวิ่งที่ 115-123 กม/ชม ปรับประมาณ 1000 บาท ตัด 2 แต้ม ถ้าคุณวิ่งที่ 123-130 กม/ชม ปรับประมาณ 2500 บาท ตัด 3 แต้ม ถ้าคุณวิ่งที่ 130-140 กม/ชม ปรับประมาณ 5000 บาท ตัด 4 แต้ม ยึดใบขับขี่งดขับ 3 เดือน ถ้าคุณวิ่งที่ 140 ขึ้นไป ปรับ 10000 บาท ยึดใบขับขี่ 6 – 12 เดือน พร้อมขึ้นศาลอาจจำคุกได้ ถ้ากฎหมาจราจรบ้านเราเข้มงดขึ้น คนจะขับรถมีวินัยขึ้น และผมที่ตามมาจำนวนและความรุนแรงจากอุบัติเหตุยอมจะลดลงไปด้วย ความเศร้าโศกเสียใจจากอุบัติเหตุ ย่อมน้อยลงเช่นกัน -- จากคุณ : NB - [ 9 ส.ค. 51 16:43:17 A:130.102.102.223 X:130.102.102.41 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เห็นด้วยครับ จากคุณ : ps - [ 9 ส.ค. 51 16:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ผมอยากให้แก้กฏหมายข้อนี้ด้วย ยกเลิกกฏหมายที่บอกว่าเลนขวาไว้สำหรับแซงเท่านั้น วิ่งไปต่างจังหวัด ถนนเลนซ้ายมันทุเรศอ่ะ ดันบ่อยให้รถบรรทุกน้ำหนักเกิน ถนนพัง รถที่ไหนจะไปวิ่งวะ รถได้พังกันพอดี ใครที่ปล่อยให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินแล้วมาจับคนวิ่งหลบถนนห่วย ๆ ใครว่ะ เบื่อมาก จากคุณ : BeastGuy - [ 9 ส.ค. 51 17:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เรื่องนี้ผมเห็นด้วยจริงๆ ครับใครที่ไม่ค่อยได้ขับรถทางไกลๆนาน ๆ คงไม่เข้าใจหรอกครับ จำกัดแค่ 90 มันเหนื่อยคนขับมันช้ามากๆ ครับอยากให้เพิ่มเป็น 120 กำลังดีเลยครับ จากคุณ : Goodly (Goodly) - [ 9 ส.ค. 51 17:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เห็นด้วยอยู่แล้วแหล่ะ ปกติ ก็เห็นขับกันเกินอยู่แล้ว จากคุณ : ป่ะป๊าสุดหล่อ - [ 9 ส.ค. 51 17:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ถ้าคนใช้รถใช้ถนน มีวินัยพอก็น่าจะได้นะครับ ปัญหามันไม่ใช่อย่างนั้นนะซิ  นิสัยคนไทยชอบการฝ่าฝืน กฎหมายเดิม ไม่เกิน 90  ก็ขับกัน 120 ขึ้นไปอยู่แล้ว พอรู้มีด่าน ก็ลดลงมา เลยด่านก็กดอีก แถมมีการ แว๊บไฟ เตือนคนที่สวนมาอีกว่า มีด่าน ถ้าหากกำหนดไว้ เป็น 120 ก็จะฝ่าฝืน เหยียบกันถึง 140-160 อีก คือคนไทยชอบทำอะไรเกินแล้ว ภูมิใจครับ เช่นห้ามบรรทุกเกิน 26 ตัน  แต่ก็ฝ่าฝืน กันบรรทุกเกิน โดยการส่งส่วยรายทาง ถนนก็พังอยู่ดี มีคนเรียกร้อง ให้บรรทุกได้ 30 ตัน  ถึงเวลาก็บรรทุกเป็น 35- 40 ตัน อีก การออกกฎหมายใหม่ ถ้าจำกัดความเร็วที่สูงขึ้นควร เพิ่มโทษ ให้หนักขึ้นด้วย ควรแยกเอา การขับรถเร็วเกินกำหนดไปรวม ในข้อหา ขับรถในลักษณะจะเป็นอันตรายต่อบุคคลอื่น ซึ่งมีโทษหนัก ปรับ 10000 บาท จากคุณ : ไผ่ กำเพลิง - [ 9 ส.ค. 51 18:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เห็นด้วยกับพี่หมอเจ คนชอบขับที่ 140+  ตั้งไว้ที่ 90  เค้าก็จะขับที่ 140+ ที่อยากให้ตั้งไว้ที่ 110 หรือ 120 เพราะทุกวันนี้ Highway ทั้งหลายขับกันเกิน 90 แทบทั้งนั้น ซึ่งโดยเฉลี่ยบนถนน ก็อยู่ในย่านความเร็วนี้ ส่วนใครจะขับเกิน 100 หรือไม่เกิน 100 ก็แล้วแต่ใครอยากขับ สำหรับคนที่ว่าสมรรถนะรถไม่เกี่ยว อันนี้ขอแย้งครับ มันเกี่ยวด้วยเยอะเลยครับ เครื่องยนต์ ระบบเบรค ช่วงล่าง และระบบอิเลคทรอนิคส์ที่มีเข้ามาช่วยเหลือมากขึ้น  เทียบกับรถสมัย 20-30 ปีก่อน นี่คนละเรื่องกันเลย สมัยนั้นขับกัน 70 ก็ถือว่าเร็วมากแล้ว อนาคตผมว่าเพื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปเรื่อยๆ ความเร็วที่จำกัดไว้ 120 ก็อาจจะต้องเปลี่ยนไปอีก อุบัติเหตุทั้งหลายเกิดจากความประมาทและคะนองของคนขับมากกว่าความเร็วที่กำหนด จากคุณ : KhongLen` - [ 9 ส.ค. 51 18:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 103 โหวตให้อีก 1 จึ๊ก รวมถึงพวกทำผิดกฎจลาจรแล้วนำมาให้เกิด อุบัติเหตุ ต้องกำหนดโทษให้ชัดเจน ไม่ใช่ผิดร่วม จากคุณ : หลี่ เสียนหลอ - [ 9 ส.ค. 51 18:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เห็นด้วยในการเพิ่มเพดานความเร็วสูงสุดบนทางหลวง แต่สิ่งที่ควรทำควบคู่กันคือการปรับปรุงป้ายจราจร โดยเฉพาะป้ายจำกัดความเร็ว ถนนแต่ละช่วงสามารถใช้ความเร็วได้ไม่เท่ากันเช่นบริเวณเขตชุมชนหรือผ่านหมู่บ้านถึงจะอยู่บนทางหลวงที่มีเลข 2 หลัก หรือ 3 หลักก็ควรจะลดความเร็วลงมา อีกส่วนคือคนใช้รถที่ต้องปฏิบัติตามกฏจราจรอย่างเคร่งครัด และเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายที่ต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมกันทั้งหมดถึงจะสามารถปรับความเร็วให้สูงขึ้นโดยยังคงความปลอดภัยเท่าเดิมหรือดีขึ้น ทุกวันนี้เราไม่ยอมรับความเร็วสูงสุดที่กฏหมายกำหนด ที่ 90 และแหกคอกกันมาตลอด ถ้าปรับเป็น 110-120 แล้วต้องถามตัวเองว่าเราจะแหกคอกอีกหรือเปล่า ถ้ายังยอมรับมันไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะแก้กฏหมายให้เหนื่อยเปล่า แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 51 19:57:55 จากคุณ : Miami_Dolphin - [ 9 ส.ค. 51 19:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เห็นด้วยครับพวกพี่พี่ที่รอเก็บตังค์จะได้ได้น้อยหน่อย จากคุณ : เจอกันอีกแล้ว (เจอกันอีกแล้ว) - [ 9 ส.ค. 51 20:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ร่วมโหวตคร้าบ เห็นด้วยตามคห.104 ครับ จากคุณ : labbaby - [ 9 ส.ค. 51 21:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 107 สำหรับคนที่ต่อต้านที่บอกว่ายิ่งขับเร็วยิ่งอันตราย นั่นมันรถโบราณครับ ไอ้พวกที่เขาเอามาตั้งโชว์ในพิพิธภัณฑ์ เพราะรถสมัยนั้นมีแต่ความแข็ง แต่ไม่ซึมซับแรงกระแทก เลยทำให้หลังชนรถมีึัสภาพดีแต่ผู้โดยสารตายคารถ รถสมัยใหม่มีระบบความปลอดภัยที่ดีกว่ารถสมัยก่อนเยอะ (ถ้าไม่นับใครบางคนที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยหรือเอาจุกยางมารั้งให้หย่อนๆ) ดังนั้น 120 เป็นความเร็วที่สามารถขับได้อย่างปลอดภัยครับ ส่วนใครที่บอกว่า90เป็นความเร็วที่น่ากลัว ผมว่าคนๆนั้นคงได้ขับแค่รถที่เขาหยอดเหรียญ10บาทแล้วให้เด็กนั่งเล่นมั๊งครับ อย่างน้อย ตอนผมหัดขับผมก็ขับเกิน90และไม่ได้กลัวอะไร ตอนนี้ผมใช้Cruise Controlที่110ครับ ขับสบายๆ ส่วนเรื่องจักรยานยนต์ ผมว่ากฎหมายออกน้อยไปเสียด้วยซ้ำ น่าจะออกข้อบังคับเพิ่มเยอะๆ เพราะเกือบทั้งหมดจะขับเลว -ขี่ช้ากลางเลน -ปาด -ชนแล้วชิ่ง -วิ่งบนฟุตบาธ -จอดเกะกะ -ผิดแล้วไม่สำนึก -วิ่งย้อนศร -ละเมิดกฎความปลอดภัยต่างๆ เช่น พับกระจกมองหลัง ไม่ใส่หมวกกันน็อก ขี่รถไม่เปิดไฟ(ใครบางคนบอกว่ากฎหมายโง่ๆ) ฯลฯ ถ้าจักรยานยนต์ดี ตอนทำประกันเขาไม่ถามหรอกครับว่าขี่มอไซค์รึเปล่า และ พวกรถเน่าๆ น่าจะกำจัดออกจากท้องถนนได้แล้ว -ควันดำ -บุบบิบบู้บี้ไม่มีไฟสักดวงเหลือ -สนิมรับประทานทั้งคัน -ซาเล้งขน(ขโมย)ของเก่า จากคุณ : เอย์นุย์ - [ 9 ส.ค. 51 21:06:02 A:58.8.20.251 X: TicketID:125107 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ลองคิดดู...นะครับ.... ..ว่า ที่ Germany...ทำไม AutoBahn ( บางช่วง ) ...เค้าถึงไม่ จำกัดความเร็ว....... เพราะอะไร...? แล้ว... ถ้าเป็นประเทศไทย ไม่จำกัดความเร็ว บ้าง ( บางช่วง ) ..จะเป็นยังไง..? จากคุณ : zone2 - [ 9 ส.ค. 51 22:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เรื่องถ้าเพิ่มเพดานความเร็วแล้ว คนจะขับเร็ว ตามไปอีก ตามที่ ความเห็น 101 ตั้งสมมติฐาน ไว้นั้น ผมเห็นด้วยกับความเห็น 102 ครับ ว่า ถ้าตอนตอนนี้ จำกัด 90 เพิ่มเป็น 120 พวกที่ขับ 120 ก็คงขับเท่าเดิมของเค้า ส่วน พวกที่ ตอน 120 จะขับ 140-160  ซึ่งผิดกฏหมาย ตอนนี้ ก็ยังคง ขับ 140-160 อยู่เหมือนกัน เพราะว่า มันผิดกฏหมายเท่ากัน เผลอๆ ไม่แน่ คนที่ขับ 130-140 ตอนนี้ เพราะเห็นว่า ไหนๆ 120 ก็ผิดอยู่แล้ว เลยขับตามใจตัวเองไปที่ 130-140 แต่ถ้ากฏหมาย เพิ่มให้เป็น 120 ซึ่งเป็นความเร็วที่เค้ายอมรับได้ อาจจกลับมาอยู่ในกรอบ บ้างก็ได้ แต่แน่นอน คนที่ยังขับไว บางคน ก็ยังคงขับไวเหมือนเดิม แต่อันนั้น ลงโทษหนักได้เลย จากคุณ : -=Jfk=- - [ 9 ส.ค. 51 22:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ... จากคุณ : moc - [ 9 ส.ค. 51 22:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เห็นด้วย ที่ควรจะเพิ่ม จาก 90 เป็น 110 แต่ไม่อยากให้เกินนี้ครับ จริงอยู่ที่ สมรรถนะรถดีขึ้น ถนดีขึ้น แต่........ ประสิทธิภาพในการเบรคอาจจะดีขึ้น แต่ไม่เท่าความเร็วที่ทำได้ เช่นคุณบอกว่า เมื่อก่อนรถวิ่งได้แค่ 100 กม/ชม เดี๋ยวนี้ได้ 150 กม/ชม เพิ่มขึ้น 50% แต่ระยะเบรคไม่ได้สั้นลง 50% ตามความเร็วนะครับ และที่สำคัญ คือ ระยะเวลาตัดสินใจที่จะเบรคของคนขับ เมื่อ 20 ปี ที่แล้ว กับเดี๋ยวนี้มันไม่ได้ต่างกันเลย..... อย่าลืมนะครับว่า เจตนารมณ์ ของกฎหมายเค้าคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนครับ ไม่ใช่คำนึงถึงสมรรถนะของรถยนต์ และความพร้อมของถนน จากคุณ : 000 (aekalter) - [ 9 ส.ค. 51 23:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เห็นด้วยค่ะ ซักไม่เกิน 120 เราว่าจะดีกว่า 90 นะ อยากให้จับรถที่ขับช้าจนกีดขวางการจราจร หรือขับรถบนทางด่วนแล้วขับช้าแต่มาอยู่เลนขวาด้วยค่ะ จากคุณ : แบ๊น แบน - [ 9 ส.ค. 51 23:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ผมใช้ รถกะบะ Isuzu Dmax slx ปี 2007 ผมขอเรียนเชิญท่านรัฐมนตรี ท่านปลัด ก.คมนาคม ท่านอธิบดีกรมทางหลวง และ ท่าน รอง ผบตร.จร. มานั่งรถผมออกทริปสั้นๆครับ กทม.---> สระบุรี หรือ กทม.---> นครสวรรค์ ก็คงพอ แล้วท่านก็จะได้รับรู้ปัญหาที่เกิดกับผู้ใช้รถ ใช้ถนน ทุกวันนี้ ครับ จากคุณ : PreHeater (PreHeater) - [ 9 ส.ค. 51 23:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 114 หมายเหตุ: 113 เพราะเวลาผมเห็น แต่ละท่านเดินทาง โดยส่วนใหญ่ เฉียดๆ 180 กม/ชม. ทั้งนั้น เลยครับ ท่าทางรถจะออกแบบมาดี จากคุณ : PreHeater (PreHeater) - [ 9 ส.ค. 51 23:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 115 มารออ่าน แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 51 18:49:45 จากคุณ : 1 (พระเอกจอมหักกระดูก) - [ 10 ส.ค. 51 00:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เห็นด้วยครับ..... จากคุณ : เจ้าชายไร้สตางค์ - [ 10 ส.ค. 51 03:05:25 ]

ความคิดเห็นที่ 117 คนที่ห่วงแต่เรื่องสมรรถนะรถ เห็นแก่ตัวมากไปหรือเปล่าครับ กฏหมายไม่ได้ออกมาเพื่อคนขับรถเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนรอบข้าง เช่นว่ารถเสียหลัก พลาดพลั้งอะไรขึ้นมา ถามว่า 90 กับ 120 รถคันไหนมันจะมีสิทธิ์หมุนไปฟาดขอบทางได้ก่อนกัน แล้วถ้าเกิดมันรุนแรงล้มกลิ้งหมุนขึ้นไปฟาดคนข้างทาง ล่ะ ไอ้ถ้าคนไหนมันมีฝีมือน่ะมันไม่มีปัญหา แต่คนส่วนใหญ่มีการควบคุมถึงระดับนั้นมั้ย? ถ้าไม่ห่วงตัวเองก็ห่วงคนอื่นบ้างเถอะ รถดีเบรกเจ๋งโครงสร้างสุดยอด แต่คนเดินถนน ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นล่ะ ไม่อยู่ในสายตาเหรอครับ ขับเร็วกันมากขึ้น รถคุณๆท่านๆบอกว่าโหใช้น้ำมันมากกว่าเดิมหน่อยนึง แต่อย่าคิดแค่นั้นสิครับ คนละ 0.1 KM/Ltr ก็มีประโยชน์แล้ว รถตั้งกี่คัน ในทุกๆกี่กิโลเมตรของการเดินทาง ประเทศก็ลดการนำเข้าน้ำมันได้เท่าไร เราเป็นเพียงหน่วยเล็กๆก็จริง แต่ก็เป็นหลายล้านหน่วย อาจจะมองข้ามหรือนอกเรื่องไป แต่ผมก็มองไปถึงจุดนั้นจริงๆ ยังไงก็ไม่สนับสนุนเลยครับ เหตุผลหลักๆมีเพื่อความบันเทิงมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมเห็นๆ จากคุณ : so_love1 - [ 10 ส.ค. 51 05:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ความจริงน่าเจ็บปวดของเรื่องประหยัดน้ำมัน กับการขับรถเร็ว คือ .. กฏหมาย ไม่ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง  ถ้ามองรถแต่ละคัน ... ขับเร็วขึ้น(จนความเร็วแรงลมปะทะ มีผลมากกว่าความฝืด)  กินน้ำมันมากขึ้น ... อันนี้แน่นอน  แต่ตอนน้ำมันแพงๆ เมื่อไม่กี่ปีก่อน ทาง USA ออกกฏหมายใหม่ ลดความเร็วสูงสุดลงประมาณ 15-20 กม/ชม. และบังคับใช้หลายรัฐ (ถ้าจำไม่ผิด 20 กว่ารัฐ)  ปรากฏว่า ความเร็วที่ลดลง 20 กม/ชม. ทำให้ประหยัดน้ำมันลง 0.5% ถึง 1.0% เท่านั้น  --------------------------  คนอเมริกาบ้าพลัง บ้าเรียกร้อง บ้าประท้วง บ้าฟ้องร้อง ฯลฯ  เรื่องการเพิ่ม speed limit เนี่ย ฟ้องร้อง เข้าสภา ฯลฯ ไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยรอบแล้ว  เพราะรถ USA แรงม้าเกิน 120 แทบทั้งนั้น  (พวก city car คันเล็กๆ ที่บ้านเรานิยมกัน อย่าง vios หรือ jazz แทบไม่มีให้เห็น .. แท็กซี่เขาใหญ่กว่า camry เราซะอีก)  ผลออกมาคือ ... แป่กเหมือนเดิม  แถมหนักกว่านั้นคือ  พอเรื่องเข้าสภา ... บางรัฐก็บ้าจี้ ทำการศึกษาว่าถ้าเปลี่ยน speed limit จะเกิดอะไรขึ้น  ศึกษาเสร็จ ..  ประกาศลด speed limit ลงมาอีก  (7-10 รัฐมั้ง ถ้าจำไม่ผิด)  เพราะการศีกษาชี้ชัดว่า  ความเร็วสูงสุดถ้าเปลี่ยนจาก 55 mph (90 กม/ชม) เป็น 65mph (ราวๆ 110 กม/ชม) ก่อเกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่โดยตรง เพิ่มขึ้นเกือบ 50%  แต่ก่ออันตรายกับผู้ใช้ทางอื่นๆ เพิ่มขึ้นกว่า 300%  ถนนระหว่างรัฐ (interstate highway) ของ USA ... เหยียบ 200-250 กม/ชม. ยังไม่มีปัญหา (โคตะระกว้างและเรียบ)  แต่ก็ยังโดนลิมิตที่ 65-70 mph เช่นกัน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 10 ส.ค. 51 08:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 119 และอีกหนึ่ง คห. คือ  การเพิ่ม speed limit มันไม่ใช่แค่ "เปลี่ยนกฏหมาย"  เพราะถ้าเพิ่มให้ แล้วไม่ปรับปรุงคน (อย่างที่หลายๆ คห.ว่ามา) .. อันตรายจะเพิ่มอีกหลายร้อยเปอร์ฺเซนต์  เพราะเมื่อเพิ่มเป็น 110 หรือ 120  คนไทยที่หลายๆคนด่า (เพราะดันเป็นตำรวจ ) ก็พร้อมแหกกฏ อนุโลม(เป็นบางครั้ง) ให้ขับกันที่ 130-140 ได้  -----------------------  นอกจากอีกหนึ่ง คห. ขอแถมอีก 1 ข้อมูล  การเพิ่ม speed limit มันไม่ใช่แค่ "เปลี่ยนกฏหมาย" ฉบับเดียว  เพราะถ้าเพิ่มให้ แล้วไม่ปรับปรุงถนน หรือ กฏหมายฉบับอื่นๆ (ไม่เห็นมีใครว่ามาซักคน ) .. อันตรายจะเพิ่มอีกหลายร้อยเปอร์ฺเซนต์  ถนนทุกวันนี้ ออกแบบภายใต้กฏเกณฑ์ speed limit 90 กม/ชม  อย่างเช่น ระยะระหว่างเส้นประ, ช่องว่างทางออกทางด่วน, ขนาดป้าย, ตำแหน่งป้าย ฯลฯ  คนที่ขับจนชินทาง ขับผ่านเป็นร้อยๆพันๆหน อาจไม่เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ เพราะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะต้องชลอความเร็วเมื่อไหร่ หรือต้องเลี้ยวตรงไหน ฯลฯ  แต่คนที่ไม่ิชินทาง ... ความเร็ว 110 .. มันจะทำให้ดูป้ายไม่ทัน หรือ ชลอความเร็วไม่ทัน  ไม่ต้องดูอื่นไกล .. เส้นทางไปเชียงใหม่  ทางตรงยาวเหยียด แล้วตามด้วยโค้ง  แน่นอนว่า บนทางตรง .. ไม่ต้องมีป้ายกำหนดความเร็ว (แน่ใจหรือ )  แต่ก่อนเข้าโค้ง ต้องมีป้ายบอกว่า ข้างหน้าเป็นโค้งซ้าย - โค้งขวา  ตำแหน่งปักป้าย ... ที่ความเร็ว 90 กม/ชม. จะปักก่อนถึงโค้ง ไม่น้อยกว่า 90 เมตร  แต่ถ้าความเร็ว 110 ต้องเลื่อนป้ายออกมาปักก่อนถึงโค้ง ไม่น้อยกว่า 120 เมตร  และขนาดป้ายต้องใหญ่ขึ้นกว่าเดิมไม่น้อยกว่า 50%  หนักกว่าป้ายบอกโค้ง คือ ป้ายเตือน  อย่างเช่น ป้ายเตือนบอกจุดกลับรถ ของรถที่สวนทางมา  ถ้าความเร็ว 90 กม. ต้องปักบอกก่อนถึงจุดอนุญาตให้กลับรถ ไม่น้อยกว่า 150 เมตร  แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น 110 ต้องเลื่อนป้ายมาบอกก่อนถึง ปักบอกก่อนไม่น้อยกว่า 200 เมตร  เพราะถ้าไม่อย่างนั้น เตรียมตัวเตรีัยมใจ หรือ ชลอรถไม่ทัน ฟาดกับรถสวนทางที่กำลังกลับรถตรงนั้นแน่นอน  หรือป้ายเตือนลดความเร็ว  ถ้าลิมิตที่ 90 กม. เราปักป้ายว่า  จากจุดนี้ .. ให้ลดความเร็วเหลือ 60  วิ่งไปอีกซักพัก ก็จะให้เหลือ 40 -> 20 เพราะมันเป็นทางแยก หรือ ชุมชน หรือ ทางรถไฟ หรืออะไรก็ชั่งมันเหอะ  แต่ถ้าลิมิตที่ 110 เราต้องมาคำนวนหาจุดปักป้ายเพิ่มอีก 1 จุด  เพื่อให้ลดความเร็วลงเหลือ 90 ก่อน  ทันทีที่ กม.ประกาศใช้ ... รับรองว่า คนส่วนใหญ่ก็จะเล่นกันที่ 110-120 กม/ชม.  และเมื่อไม่มีป้ายเตือนให้ลดความเร็วเหลือ 90 ... คนส่วนหนึ่งจะไป"กระทืบเบรค" เพื่อลดความเร็วจาก 110-120 เหลือ 60 ... ตามที่เตือน (อันตรายดีไหม?)  และคนอีกส่วนหนึ่ง .. จะมองไม่เห็นป้ายเตือน (เพราะเร็วเกิน)  ใช้เวลาเท่าไหร่ไม่รู้ ที่จะเพิ่มป้ายเตือนอันใหม่  ระหว่างนั้น ... พวกที่สอง ... คงลดปริมาณลงครึ่งหนึ่ง  เพราะไปเป็นคนพิการหรือศพเสียครึ่งหนึ่ง  แค่ป้าย ... เราต้องเปลี่ยนอีกกี่หมื่นกี่แสนป้าย ก็ไม่รู้  เพื่อให้ขับรถได้ "สนุกขึ้น" แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 51 09:18:15 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 10 ส.ค. 51 09:10:50 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ทุกวันนี้ เวลาผมเดินทาง ตจว.  บ่อยครั้ง ที่ผมใช้ความเร็วผิดกฏหมาย ... 110-120  และบางครั้งที่ผมใช้ความเร็วผิดกฏหมายอย่างมาก ... 140-160    แต่ผมรู้ตัว และตั้งสติระลึกเสมอว่า  สิ่งที่ผมทำนั้น ผิืดกฏหมาย ก่ออันตรายได้ทั้งตัวเองและผู้อื่น  ทุกครั้งที่ใช้ความเร็วผิดกฏหมาย ผมต้องตั้งสติในการระวังภัยเพิ่มขึ้น  และพร้อมที่จะลดความเร็วลง ถ้าเหนื่อยล้าไม่สามารถตั้งสติขนาดนั้นได้ตลอดเวลา  ผมเห็นด้วยที่ว่า  กฏหมายจราจรทุกวันนี้ แม้จะโบราณ หรือไม่ทันสมัย  แต่ กม.เหล่านั้น มันถูกตั้งขึ้นมา เพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยส่วนรวม  เทคโนโลยีรถ ทันสมัยขึ้น  ถนน ดีขึ้น  ถ้าจะแก้กฏหมาย เพื่อให้ใช้รถใช้ถนนมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ผมเห็นด้วย 100%  แต่ต้องมี ข้อมูลที่ชัดเจน ว่า  กฏหมายใหม่นั้น ไม่ทำให้ความปลอดภัยของประชาชน โดยส่วนรวม ลดน้อยลง หรือ ทำให้ความปลอดภัยของประชาชน โดยส่วนรวม เพิ่้มขึ้น จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 10 ส.ค. 51 09:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 121 แค่ป้าย ... เราต้องเปลี่ยนอีกกี่หมื่นกี่แสนป้าย ก็ไม่รู้ เพื่อให้ขับรถได้ "สนุกขึ้น" ู^ ^ ^ สุดยอด เลยครับ น้่าแมว แทงใจดำ(ผม)จริงๆ จากคุณ : NPM - [ 10 ส.ค. 51 09:37:19 ]

ความคิดเห็นที่ 122 โหวตแล้วกัน ที่เหลือ ตาม 80,81 จากคุณ : giguru - [ 10 ส.ค. 51 11:11:22 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ให้ตายเถอะ ผมทึ่งกับข้อมูล ของคุณหมอแมวเหมียว มาก จริงๆนะครับ ผมเพิ่งรู้ว่า ป้ายที่ทำกัน นี่ออกแบบไว้ สำหรับมองเห็นที่ ความเร็ว 90 เพราะว่าปกติ ผมขับ เกินกว่านั้นเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็มองเห็นชัดดีนี่ครับ ผมว่าอันนั้นมันเหมือนทฤษฏีจ๋า เกินไปหรือป่าว ปัญหา ไม่ใช่ ที่ว่า เราแก้กฏหมายให้ เราขับรถสนุก แต่เป็นการแก้กฏหมายให้สอดคล้อง กับความเป็นจริง ในปัจจุบันต่างหาก อยากให้คนไปนั่งที่ไฮเวย์ ว่างๆ แล้ว ลองดูว่า มีรถยนต์ปกติ ที่ไม่ใช่รถเก่าบุโรทั่ง คันไหนมั่ง ที่ขับรถไม่เกิน 90 ในปัจจุบัน จริงๆผมพยายามจะเลี่ยงไม่บอกว่า ออกมาเพื่อปิด หรือลดช่องทางทำมาหากิน ของคนบางกลุ่มที่อาศัยกฏหมาย นี้ คนที่บอกว่า 90 ปลอดภัยกว่า 110 หรือ 120 ถ้าทุกคนขับกันตามนั้นได้ ก็อาจจะจริงบ้าง แต่ผมเอง เชื่อว่า มันแทบไม่ต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ สำหรับ ปัจจุบันนี้ ดังนั้น คนส่วนใหญ่ ถึงได้ใช้ ความเร็วระดับนี้กันหมดแล้ว อย่าคิดว่า คนส่วนใหญ่ไม่รักตัวกลัวตาย สิครับ คนระดับรถ ต้องมีจิตสำนึกกัน บ้างพอสมควร เราจะเอาตัวเลขว่า ขับข้าปลอดภัยกว่า อย่างเดียว มันก็คงไม่ถูก ไม่งั้น เด๋วก็บอกว่า 60 ปลอดภัยกว่า 90 ให้ไปขับ 60 กันดีกว่ามั้ย ผมว่าโลกเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน ไป มันควรจะต้องเปลี่ยน ใครที่ว่าถนน กับรถ ไม่ดีขึ้นกว่า 40 ปีก่อน ไปหา Toyopet ที่ใช้กับ 40 ปีก่อน มาขับบน ถนนสายชนบทแถวบ้านผม ซึ่งสภาพผิว พอๆกับ สายเอเชีย เมื่อ สี่สิบปีก่อน ด้วยความเร็ว 90 (ถ้าหาไม่ได้เอา พวก รถเก่าสามสิบ สี่สิบปีที่แล้ว ก็ได้ มาลอง แล้วผมขับ รถญี่ปุ่นปัจจุบันนี้ ล่ะกัน ที่ความเร็ว 120 บน สายเอเชียปัจจุบัน ลองทดสอบเรื่องเบรคกระทันหัน หรือการทรงตัวหลบหลีกสิ่งกีดขวางเปรียบเทียบกัน แล้ว ดูว่า อันไหน มันปลอดภัยกว่ากัน จากคุณ : -=Jfk=- - [ 10 ส.ค. 51 11:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ลองนึกภาพคนเมาแล้วเหยียบ 160+ คิดแล้วเหวอเหมือนกัน จากคุณ : . - [ 10 ส.ค. 51 11:46:10 A:58.64.64.101 X: ]

ความคิดเห็นที่ 125 ผมว่ามีให้เลือกสองทาง คือ ไม่แก้กฎหมาย ก็ต้องแก้พฤติกรรมการขับให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่ไม่ทำอะไรซักอย่าง แล้วอยากขับ 110 ก็ขับ อยากขับ 140 ก็ได้ ยิ่งถ้าเราผู้มีการศึกษาและความรู้สูง เรายังไม่ขับตามกฎหมายที่บังคับเป็นแบบอย่าง แล้วจะหวังให้ผู้อื่นทำได้อย่างไรละครับ เห็นได้ชัดว่าในทางพฤตินัยนั้น ผู้คนขับตามกฎน้อยมาก อาจเพราะเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ้น เหยียบเพียงเล็กน้อยก็ขึ้นไปถึง 120 โดยไม่รู้ตัวแล้ว ดังนั้นการปรับแก้กฎหมายให้มีความเหมาะสม กับสภาพปัจจุบันจึงอาจจะดีกว่าปล่อยไปวันๆแบบทุก วันนี้ ขอเน้นว่า ถ้าต้องแก้ Speed limit ต้องไม่ใช่แก้เพื่อเพิ่มความสนุกในการขับ แต่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากกว่า อีกอย่าง การศึกษาเรื่อง Speed limit อย่างชัดเจน ไม่ใช่เรื่องบ้าจี้หรอกครับ เป็นสิ่งที่พึงกระทำมากกว่า ดีกว่าการยกตัวอย่าง ที่ไม่ชัดเจนจากที่อื่น ทั้งพฤติกรรมการขับรถต่างกันอย่างสิ้นเชิง กรมทางหลวงต้องแก้กี่หมื่นป้ายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำมิใช่หรือ ด้วยความเคารพ อย่าปล่อยบ้านเมืองเป็นแบบนี้ไปอีกนานเลยครับ จากคุณ : NB - [ 10 ส.ค. 51 11:49:27 A:130.102.102.223 X:130.102.102.41 ]

ความคิดเห็นที่ 126 มีหลายเรื่องที่อยากให้ลองพินิจพิจารณาดู 1.แก้กฎหมายเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง หรือเพื่อไม่ให้ถูกตำรวจเรียกจับบ่อยในโทษฐานขับรถเร็ว กว่ากำหนด 2.ความเป็นจริงทุกวันนี้ เราก็ต่างขับรถเร็วกว่ากฎหมายกำหนด ด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะบนทางหลวง หรือ ทางด่วน หรือทางโค้ง เพียงแต่ หากโดนตำรวจเรียกตรวจ ถือเป็นเคราะห์ไป ( ซึ่งส่วน ใหญ่ก็จะมาเป็นเวลา โดยเฉพาะบนทางด่วน ) 3.พรบ.จราจรทางบก 2522 พรบ.รถยนต์ 2522 ในบรรดาทั้งสิ้น 17 หมวด ก็ยังไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้อย่างจริงๆจังๆ เช่น หมวด 10 การหยุดและการจอดรถ หรือบางหมวดที่ไม่ค่อยมีผู้ใช้ รถใช้ถนนท่านใดนำมาใช้ ในหมวด 7 การให้สัญญาณด้วยมือและ แขน สำหรับประเด็นปัญหาที่ถกกันในกระทู้คือ หมวดที่ 11 ข้อกำหนด เกี่ยวกับความเร็วของรถ ผมเองยังคิดว่าไม่จำเป็นสำหรับการแก้ไขใน ส่วนนี้ 4.มีอีกเรื่องที่ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ได้รับการแก้ไขหรือยัง เรื่องป้ายต่างๆที่ ปรากฎในท้องถนน ซึ่งจะมี 2 ลักษณะ คือ 4.1 ออกโดยกรมตำรวจ ( สำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน ) ส่วนใหญ่จะเห็นในเขตเทศบาล สุขาภิบาล 4.2 ออกโดยกรมทางหลวง สำหรับ เนื้อหาใน พรบ. http://www.dlt.go.th/knowledgedrl2/drive12.htm จากคุณ : ดาราเดช - [ 10 ส.ค. 51 12:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 127 เห็นกระทู้นี้แล้วคิดถึงเรื่องหมวกกันน็อก มอเตอร์ไซต์ เป็นไงบ้างครับเรื่อง กระจกหมวกกันน็อก จากคุณ : ตามนั้น - [ 10 ส.ค. 51 12:08:06 A:202.91.19.206 X: TicketID:140217 ]

ความคิดเห็นที่ 128 เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ กฎหมายจราจรที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้มันล้าหลังมากแล้วครับ  ( มันไม่เหมาะสมกับสภาพท้องถนนปัจจุบัน ) จากคุณ : athit1975 - [ 10 ส.ค. 51 13:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ข้อมูลคุณแมวเหมียวพุงป่อง ยอดมาก ผมว่าก่อนจะแก้อะไรๆ แก้วินัยคนใช้รถใช้ถนนก่อนดีกว่า ทุกวันนี้ก็ มั่ว มากมายเหลือเกิน ทั้งความรู้พิ้นฐานในการจราจร สติตัวเอง ความคะนอง ความมักงาย ฯลฯ จากคุณ : แสงเรืองรองของฟ้าหลังฝน - [ 10 ส.ค. 51 13:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 130 อุบัติเหตุไม่น่าเพิ่มนะครับ เพราะทุกวันนี้ก็วิ่งกัน120กันโดยทั่วไปอยู่แล้ว ผมวิ่งไปเชียงใหม่บางครั้งยัง 160-170 จากคุณ : Narak-Man (Narak-Man) - [ 10 ส.ค. 51 14:32:52 ]

ความคิดเห็นที่ 131 เห็นด้วยกับพี่หมอครับ สำหรับท่านที่ไม่เห็นด้วย เพราะเหตุผลที่ว่า ความเร็ว 120 มันอันตรายกว่า 90 หรือ ร่างกายคนเรามันทนแรงแระแทกไม่ได้มากไปกว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมขอชี้แจงดังต่อไปนี้ครับ 1. ความเร็วสูงสุด ที่เหมาะสมที่สุด ว่าจะเป็นเท่าใดนั้น มันมีองค์ประกอบ อยู่ 3 ปัจจัยครับ คือ ผู้ขับขี่, เวลากับสถานที่ และสมรรถนะของรถ ทั้งสามเรื่องมันเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กัน การไปพูดกำหนดเพียงด้านเดียว มันก็ทำให้เกิดข้อยกเว้นขึ้นในด้านที่เหลือเสมอๆ ในที่นี้ผมสมมุติให้สมรรถนะของรถเป็นปัจจัยที่คงที่ เพราะน่าจะเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วว่า รถสมัยนี้ ความเร็ว 120 ไม่ใช่สิ่งที่ต้องไป “โหน” มาจากสมรรถนะของมัน ต่อ จากคุณ : Beluga - [ 10 ส.ค. 51 17:56:11 ]

ความคิดเห็นที่ 132 2. ในสามองค์ประกอบนั้น มันเกี่ยวเนื่องกัน แยกคิดแบบเด็ดขาดทีละเรื่องไม่ได้ ความเร็ว 90 ในบางเวลาและสถานที่ ก็สามารถเป็นอันตราย ได้มากกว่าความเร็ว 120 ในเวลาและอีกสถานที่หนึ่ง แต่ทั้งนี้ผมให้ความสำคัญกับคนขับรถมากที่สุด สมมุติว่าเรากำหนดไว้ที่ 90 คนขับก็ทำตามกฎหมาย คือขับ 90 บนนถนนหลวง 4เลน แต่ช่วงนั้นเป็นเวลาเย็นฝนตกพรำๆ  โรงเรียนกำลังเลิก รถคุณแต๋นกำลังกลับรถกันเป็นแถวเพื่อมารับลูกหลาน อย่าว่าแต่ 90 เลย  แค่ 70 ก็อาจจะอันตรายไปซะแล้ว คนขับรถที่ดี ไม่ว่าเขาขับมา 120 หรือ 90 เขาก็จะลดความเร็วลงมา พร้อมตั้งสติด้วยความไม่ประมาท และใส่ใจระวังผู้ร่วมทาง ระหว่างคนที่ขับมา 120 แล้วมีจิตสำนึก กับคนที่ขับถูกกฎหมาย 90 แต่ไม่มีจิตสำนึก ใครอันตรายกว่ากันครับ ดังนั้นความเร็วที่ไม่ได้ระห่ำเกินไป จึงไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดในเรื่องของความปลอดภัย 3. การที่เราขอให้กำหนดความเร็วสูงสุดที่ 120 นั้น ก็ไม่ได้แปลว่า บังคับให้ทุกคนเมื่อออกจากบ้านแล้วก็ต้องเหยียบกันให้ได้ 120 ตลอดเวลาทุกเส้นทาง แต่หมายความว่า เมื่ออยู่ในถนนที่สภาพมันเอื้ออำนวย เช่น ทางหลวง แบบ 4 เลน ไม่ต้องเดินรถสวนกัน ก็ให้สามารถใช้ความเร็วได้ถึง 120 ไม่ใช่ แค่ 90 ผมว่าประเด็นมันอยู่ตรงนี้ต่างหาก เรากำลังพูดถึงสภาพกนนที่มันเอื้ออำนวย อย่าไปเหมารวมถึงข้อจำกัดที่เป็นกรณีอื่นๆ เพราะอย่างที่บอกแล้วว่า ในสภาพถนนแบบนั้น กับความเร็ว 120 มันเป็น ระดับที่บาลานซ์กันได้ โดยที่ไม่ทำให้เกิดอันตรายมากขึ้นกว่า 90 แต่อย่างใด ต่อ จากคุณ : Beluga - [ 10 ส.ค. 51 17:57:01 ]

ความคิดเห็นที่ 133 4. ถ้าถามว่าผมเอาข้อมูลอะไรมายืนยัน ก็อย่างที่หลายๆ ท่านบอกละครับว่า ไปดูความเร็วจริงที่คนส่วนใหญ่ใช้กันตอนนี้สิครับ จากประสบการณ์ของทุกท่าน คงบอกได้ว่ามันเกิน 90 แน่ๆ เฉลี่ยๆ ก็ 110 ถึง120 กันทั้งนั้น จากประสบการณ์ถามจริงๆ เถอะครับ เคยเห็นรถที่เขากันมา 120 ในสภาพถนนที่มันเอื้ออำนวย แล้วเกิดอุบัติเหตุกันซักกี่มากน้อย ส่วนอุบัติเหตุที่บางท่านกล่าวถึงนั้น ตั้องเอาปัจจัยทั้ง3 องค์ประกอบมาคิดพร้อมกันครับ จะเอาความเร็วมาเป็นจำเลยอย่างเดียวไม่ได้ ที่ความเร็วเดียวกัน แต่ต่างเวลาและสถานที่กัน ก็ก่อให้เกิดอันตรายได้ไม่เท่ากัน และผมไม่นับกรณีที่ขับด้วยความเร็ว ประเภท 150 ขึ้นไป 5. ทำไมผมถึงเชื่อว่า การกำหนดไว้ที่ 90 เป็นช่องทางให้ทำทุจริตของตำรวจหรือครับ เพราะ จากประสบการณ์ในการใช้รถ ผมพบว่า นี่เป็นเรื่องที่ตำรวจชอบจับมากที่สุด ทำได้ง่ายที่สุด ผมเคยขับรถกระบะ เพิ่งจะแซงเลนซ้ายมาตำรวจก็โบกให้เสียค่าปรับเลย ส่วนรถเก๋งคันหรู ตราสามแฉกติดฟิล์มดำ ที่แซงผมไปนั้น ท่านไม่สน ในขณะที่สิ่งที่ควรจะไปจับบนทางหลวง เพราะมันก่อให้เกิดอันตรายมากกว่า การขับ 120 มีอีกตั้งเยอะ แต่ไม่เห็นท่านจะกวดขันกัน เช่น พวกแซงในที่ห้ามแซง พวกเปลี่ยนช่องทางไม่ให้สัญญานไฟ พวก ออกจากทางร่วมทางแยก แบบพรวดพราด ไม่ดูรถร่วมทาง ท่านไม่จับ ไม่เตือน แต่ท่าน ถนัดนัก กับความเร็วเกิน ไป 8 คุณวิ่งแช่ขวามา (ทั้งๆที่ ก็ยังไม่ได้กีดขวางใคร ส่วนเลนซ้ายที่มันพัง อยู่เป็นโลกพระจันทร์ ก็ไม่มีใครสนใจ) 6. การแก้ปัญหา จึงไม่ใช่แต่เรื่องการเปลี่ยน speed limit แต่มันรวมไปถึงทั้งระบบ ตั้งแต่ การได้มาซึ่งใบขับขี่ การปัฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ, และจิตสำนึกของคนไทยทุกคน ซึ่งไม่ค่อยแน่ใจว่าระบบการศึกษาบ้านเรา และสถาบันครอบครัวทุกวันนี้ จะช่วยสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนรุ่นใหม่ๆ ได้ ในระดับกว้าง จากคุณ : Beluga - [ 10 ส.ค. 51 17:58:37 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เห็นด้วยที่ว่้า "ทฤษฎีจ๋า"  เพราะมัน "ยากมาก" ถึง "เป็นไปไม่ได้" ที่จะพิสูจน์ว่า  1.ทฤษฎีที่ว่าความเร็ว 80 กม.ปลอดภัยสุดนั้น ผิด  =และ=  2.ทฤษฎีที่ว่า ขับ 110 ก็ปลอดภัยพอๆกับขับ 90  เพราะถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ... เราได้ขับที่ 110  แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นจริงหละ ????  เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ไม่เป็นอย่างนั้นจริง???  How many deaths will it take till we know?  -----------------------------  เพราะการทดลอง ... ไม่ยาก แค่สามปีเท่านั้นก็รู้ผล  ให้ตำรวจ และทางหลวง ประกาศว่า ในช่วงเทศกาลหยุดยาวประจำปี .. อนุญาตให้ใช้ความเร็วได้ถึง 110  จากนั้นก็เก็บยอดคนเจ็บ คนพิการ คนตาย ซัก 3 ปี  เทียบกับยอดคนเจ็บ คนพิการ คนตาย 3 ปี ช่วงเวลาเดียวกัน ที่มีการเข้มงวดเรื่องความเร็วสูงสุด 90 กม/ชม. (ข้อมูลอันนี้มีแล้ว)  ถ้าเท่าเดิม  ก็มาหาทางแก้ไขเรื่องกฏหมายอื่นๆ เรื่องป้าย เรื่องไฟส่องสว่าง เรื่องรัศมีความโค้ง เรื่องการปรับปรุงผิวถนน ฯลฯ  ถ้ามากกว่าเดิม  พวกที่ซวย ..ตายไปช่วงเก็บข้อมูล.. ถือว่าเสียสละเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีแล้วกัน  ------------------------  ปล. ป้าย ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ "เห็นที่ 90"  มันเป็นอินทิเกรต พื้นที่ใต้โค้งครับ  การออกแบบวิศวกรความปลอดภัยในการจราจร มีตัวเลขพื้นฐานอยู่ตัวนึง  คือ ตัวเลข 85%  ขนาดป้าย (ในภาวะปกติ)  คน 85% จะเห็นได้ ทัน = 100% ที่ความเร็วไม่เกิน 90 กม/ชม  โดย 85% นี้ อินทิเกรตพื้นที่ใต้กราฟ นับจากศูนย์  อาจมีคน 15% ที่เห็นได้ชัดเจนกว่า 85% ที่ความเร็วเกิน 90  ซึ่งถือว่า ได้ประโยชน์เช่นกัน  85% + 15% = 100%  มันหมายความว่า คนที่มองไม่ทัน = 0%  แต่ถ้า(ภายใต้สภาวะเดิม) ความเร็วเปลี่ยนเป็น 110 กม/ชม.  คน 15% อาจมองทันเหมือนเดิม  แต่คนพวกแรก (85%) จะมองไม่ทัน  พวกนี้แหละ ที่จะมีอันตราย  ------------------------------------------  การออกแบบเส้นทางจราจร .. เน้นเรื่องความปลอดภัย 100% มากกว่าเรื่องอื่น  แต่ขนาดนั้น ... เมื่อใช้งานจริง ยังผิดพลาดได้มากมาย  อย่างเช่น พอใช้งานจริง 1-2 ปี ต้องมีการปิดช่องทางกลับรถจำนวนมาก  เพราะเราไม่สามารถเอาความคิด ความเคยชิน ฯลฯ ของคนที่ใช้ถนนละแวกนั้น มาคิดคำนวนรวมกับความคิด ความเคยชิน ฯลฯ ของผู้ใช้ถนนที่มาจากที่อื่น  ... เหนื่อยครับ  ที่ต้องมาดูแล แก้ไข ผู้พิการเพราะอุบัติเหตุจราจรบนท้องถนน ... จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 10 ส.ค. 51 18:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 135 หมอแมวเหมียว ขานั้นเค้า ทฤษฏีจ๋า มาตั้งนานแล้วครับ เรื่องป้าย ถ้าขับ 120 แล้วมองป้ายไม่ทัน หรือเบรคไม่อยู่ตอนโค้ง ก็อย่ามาขับรถเลยครับ อันตรายเปล่าๆ จากคุณ : หัวใจในลังกระดาษ - [ 10 ส.ค. 51 18:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 136 โอ้โ๋ฮเฮะ กลายเป็นกระทู้้ Hot เลยนะครับ คุณแมวเหมียวเห็นยกทฤษฎีเสียเยอะแยะ แต่ไหง ขับเกินเสียเองละครับ ผมว่าการที่คุณหมอตั้งกระทู้ขึ้นมานั้นต้องการสะท้อน ความเป็นจริง ที่ว่าประสบการณ์จริงของผู้ขับขี่ทั่วไป เราต้องยอมรับว่าแทบทุกคนล้วนแล้วแต่ใช้ความเร็วเกิน แทบทั้งสิ้น จากคุณ : Chat5 - [ 10 ส.ค. 51 20:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ถกกันด้วยเหตุด้วยผล + ทฤษฎี+ความเป็นจริง ผมชอบจริงๆ ส่วนตัวแล้วผมเข้าใจและเห็นด้วยกับคุณหมอJนะครับ เพราะในชีวิตจริง วิ่ง90แล้วต้องรอลุ้นพี่หนวด ในช่วงแซงเนี่ยเครียดเหมือนกัน ในส่วนของพี่แมวเหมียวก็น่าสนใจ ในเรื่องของความปลอดภัย ผมว่าน่าจะมีการกำหนดเส้นทางที่ สภาพถนน สภาพแวดล้อม ลักษณะทาง ลักษณะโค้ง ก็กำหนดไปเลย ว่าได้เท่าไหร่ จากคุณ : PirenZe - [ 10 ส.ค. 51 20:28:48 ]

ความคิดเห็นที่ 138 vote ครับ    เห็นด้วยอย่างแรง....เดินไกลต่างจังหวัดผมขับเกิน 100 ทุกครั้ง    แต่ในที่ชุมชนก็ต้องขับให้ปลอดภัยไม่เกิน 80 ครับ จากคุณ : spajan - [ 10 ส.ค. 51 20:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ไม่ได้เข้ามาโพสนานมากๆแล้ว นานๆก็เข้ามาอ่านที วันนี้หัวข้อถูกใจ ขอร่วมแจมครับ ผมเคยตั้งกระทู้ลักษณะนี้เมื่อ 4-5 ปีก่อนแต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่ คงอาจ เป็นเพราะโนเนม อ่านมาจนตาแฉะ เอางี้ ผมเป็นคนนิยมความเร็ว เรียกว่าขับรถเร็วมากๆ ขับทางไกลทีไร ต้องรีดม้าออกมาหมดแทบทุกตัว ที่เสียสตางค์ซื้อมา แต่ก็ค่อนข้างเอนเอียง และเห็นด้วย ไปทางคุณ NB คห. 96 และคุณหมอแมวครับ แต่ก็ให้แปลกใจ เมื่อไม่ให้เกิน 90 หรือ 120 ทำไม ไอ้ที่มีหน้าที่ ไม่พากันไปแก้ปัญหา ที่ต้นตอกันฟระ จำกัด สเปคความเร็วรถยนต์ ที่มีจำหน่าย ไม่ว่าจะนำเข้าหรือผลิตในประเทศ ไปเลย ง่ายกว่าตั้งเยอะ กระทืบให้ตายก็ไม่มีทางเกิน 100 กม./ชม. หรือ 120 ก็ได้ เอ้า จะได้เสมอ ภาคกันทุกคน แถมประหยัดน้ำมันอีกต่างหาก การนำเข้า หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไข กล่อง ชิพ อุปกรณ์ใดๆ เพื่อเพิ่มความเร็ว เป็นความ ผิดและมีโทษหนักแบบเดียวกับ การล่อลวงเด็กต่ำกว่า 18 ปี ไปทำอนาจารเลยครับ จากคุณ : Mr Hunter - [ 10 ส.ค. 51 21:09:23 ]

ความคิดเห็นที่ 140 VOTE ! จากคุณ : นางฟ้าคล้ายนางมาร - [ 10 ส.ค. 51 21:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 141 เห็นด้วยกับความเร็ว  120 กม./ชม.  แต่ให้มีข้อกำหนดเพิ่มในกฎหมายไว้ว่า  เมื่อใดที่คนขับผู้นั้นทำให้เกิดอุบัติเหตุ  หรือมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุ  ให้บันทึกในใบขับขี่ไว้  ลดความเร็วลงทุก  20 กม./อุบัติเหตุ   1  ครั้ง   เมื่อความเร็วเหลือต่ำกว่า  60  กม./ชม.  ให้ยึดใบขับขี่ไว้มีกำหนด  2  ปี  ถ้าจะขับขี่ใหม่ให้ต้องทำ (สอบ) ใบขับขี่ใหม่  ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมกันรับผิดชอบต่อส่วนรวมด้วย   อีกนิด  เขาคงจะออกกฎหมายจราจรให้ใช้ความเร็วได้  120  กม./ชม.  เมื่อไม่มีรถยนต์  มีแต่รถจักรยาน (ถีบ)  แถมถึงตอนนั้นก็คงมีกฎหมายออกแถมมาว่า  ใครถีบช้ากว่า  50  กม./ชม. ผิดกฎหมายด้วย จากคุณ : ขอนเก่า - [ 10 ส.ค. 51 21:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 142 เค้าไม่แก้หรอก ถ้าแก้ เค้าจะรีดไถชาวบ้านไม่ได้อีกต่อไป... มาแล้ว 122 กม/ชม ไม่รู้ว่าหาตัวเลขมาจากไหน ขอค่าน้ำสักหน่อยแล้วกัน หรือจะเอาใบสั่ง ยื่นให้ 50 หน้าตาไม่พอใจ เหมือนๆ ดูถูกเจ้าพนักงาน ส่งใบร้อยให้ หน้าตาสดใสหน่อย ไปๆ รีบๆ ไปเหม็นหน้าเอ็งแล้ว เดี๋ยวขากลับเจอกัน อีกนะ โชคดี จากคุณ : Tmonster - [ 11 ส.ค. 51 00:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 143 โหวตครับ มาตรฐานผมอยู่ที่ 110-160 (ขับขี่ปกติพยายามไม่ให้เกิน120) อยากให้เพิ่มตรงส่วนมอเตอร์ไซค์ อยากให้ขึ้นสะพานได้ โดยขับชิดซ้ายได้มั้ยครับ ตากแดดข้างล่างนี่บางแยกก็นานแสน.. T T จากคุณ : . (oat_jazz) - [ 11 ส.ค. 51 07:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 144 เข้ามาอ่าน ความ ฝัน ของทุกทั่นครับ 5555 คงต้องรอกันจนแก่ตายไปข้าง หรือ ชาติ หน้า กระมัง เอ้า ฝันกันต่อไปครับ ทุกคนมีสิทธิฝัน ^^ จากคุณ : neo1982 - [ 11 ส.ค. 51 08:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 145 จริงอยู่ครับ ทุกวันนี้ 90 ถือว่าช้ามากบนเส้นทางไฮเวย์หลายๆเส้น ที่เป็นถนนใหญ่ 3-4 เลน แต่เราคงเปรียบเทียบมาตราฐานกับต่างประเทศไม่ได้ซะทีเดียว อย่างที่อเมริกา freeway จะมี speed limit อยู่ที่ประมาณ 70 mph (ทั้งๆที่สภาพถนนสามารถวิ่งได้ 100 mph สบายๆ) แต่..... 1. freeway ของเค้า จะไม่มีบ้านคนอยู่ข้างๆ ร้านอาหารข้างถนนเหมือนเมืองไทย ถ้าจะออก ไปออกข้างหน้า แล้วค่อยหาทางไปจุดมุ่งหมายจาก local เอง 2. จากข้อ 1. มันก็เลยทำให้ไม่มีมอเตอร์ขี่ย้อนศร 3. อีกหนึ่งตัวอย่างคือ freeway ของเค้า ไม่มีทางกลับรถให้มาตัดหน้ากัน จะกลับรถ ก็ต้อง exit แล้วค่อยขึ้นใหม่ เอาแค่ 3 ข้อที่เมืองไทยทำไม่ได้ และไม่มีวันทำได้ จึงคิดว่า ไม่สามารถมี speed limit ระดับเดียวกับ ตปท ที่เจริญแล้วได้ ต้องยอมรับว่า คนไทยไม่มีวินัยในการขับขี่ยานพาหนะครับ ทั้งรถเก๋ง มอเตอร์ไซค์ 6ล้อ 10ล้อ รถเมล์ ทำผิดกฎหมายกันให้วุ่น ยกตัวอย่างง่ายๆ สังคมรัชดาแห่งนี้ ที่ต้องยอมรับว่า เป็นแหล่งรวมความรู้ที่ดีให้ได้ประโยชน์ต่อสังคม เอาง่ายๆแค่ตรงนี้ก่อน อ่านๆมาทั้งหมด หลายๆคน รู้ทั้งรู้ว่า maximum speed บนทางด่วนคือเท่าไหร่ แต่หลายๆท่าน ก็บอกว่าเหยียบ 140 บ้าง 160 บ้าง บางทีทะลุกันไป 200 เป็นเรื่องปกติ ก็รู้ทั้งรู้ว่ากฎหมายเป็นอย่างไร แต่ก็ฝ่าฝืนกฎหมายกัน ทั้งๆที่ถ้าไป ตปท เค้าขับเครื่องใหญ่ๆกันทั้งนั้น แต่เค้าก็ขับอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายที่กำหนด ประเด็น 90 kph ผมว่ามันก็ต่ำไปจริงๆนะครับ แต่ต้องยอมรับความจริงของเมืองไทยว่า 1. สภาพการวางผังเมือง ผังจราจรของไทยในเส้นหลักไปต่างจังหวัด สุ่มเสี่ยงต่อการใช้ความเร็วบนถนนเส้นต่างๆอย่างมาก 2. ระเบียบวินัยของคนใช้รถ ใช้ถนน ต่ำ อยากจะกลับรถก็กลับ อยากย้อนศรก็ย้อน อยากปาดออกจากซอยก็ปาด ไฟท้ายเสีย ไฟเบรคเสียกัน เคยซ่อมที่ไหน ไอ้ที่อยากเหยียบ ก็เหยียบกันมันส์ ปาดไปปาดมา เอาแค่ตรงนี้ ท่านๆคิดว่า เหมาะสมหรือเปล่าครับที่จะให้เปลี่ยน speed limit ให้สูงขึ้น??? ขอย้ำนะครับว่า "ผมก้รู้สึกว่า 90 มันต่ำไปจริงๆ" แต่เมื่อมอง "ประเทศไทย" แล้ว มันก้ยังไม่สมควรที่จะขึ้นไปให้มากเกินกว่านี้ จากคุณ : LAPD21 - [ 11 ส.ค. 51 09:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 146 คห. 135 "เรื่องป้าย ถ้าขับ 120 แล้วมองป้ายไม่ทัน หรือเบรคไม่อยู่ตอนโค้ง ก็อย่ามาขับรถเลยครับ อันตรายเปล่าๆ " ผมว่า แก้เป็น "เรื่องป้าย ให้ขับ ไม่เกิน 100 ยังไม่มีความสามารถพอที่จะทำตามกฏหมาย ก้ออย่ามาขับรถเลยดีกว่าครับ  อันตรายเปล่าๆ" ดีกว่ามั้ยครับ จากคุณ : ARMS STRONG - [ 11 ส.ค. 51 09:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 147 เห็นด้วยครับ  ลองใครบ้าจี้วิ่งแค่ 90  คงเป็นภาระคนใช้ถนนคนอื่นแน่ๆ เผลอ ๆ จะยิงกันตายด้วยซ้ำ จากคุณ : ติ๊กติ๊ก - [ 11 ส.ค. 51 10:34:20 ]

ความคิดเห็นที่ 148 อ่านข้อมูลของคุณหมอแมวเหมียวฯ แล้วเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ ยิ่งเราเพิ่มความเร็ว ปัจจัยอื่น ๆ มันต้องเพิ่มตามไปด้วย ยิ่งขนาดของป้าย เราต้องทำให้มันมีขนาดยาว และใหญ่ขึ้น เคยเห็นกันใช่ไหม ป้ายงานวัดหรือป้ายเลือกตั้งที่ปักริมทางหลวงเขาจะทำหลาย ๆ ป้าย เขียนป้ายละคำให้อ่านง่าย ๆ ขนาดช่องทางของถนนก็ต้องเพิ่มขยายขึ้น ถ้าหากเราเพิ่มความเร็วสูงสุด โอเคครับ ถ้าหากถนนแห้ง ทัศนวิสัยชัดเจน ขับ 120 ตามๆ กันไป ก็ดีแน่ แต่ถ้าหากมีฝนตกบางคนยังเปิดไฟกระพริบเข้าอีก โดยบอกว่าเพื่อให้คนอื่น ๆ เห็นได้ชัดขึ้น กลางคืนเปิดไฟสูงส่องอีก คนขับรถคันอื่นๆ เขาตาพร่านะครับ แล้วอีกอย่างหนึ่ง คนที่นั่งในเบาะแถวที่ 2,3 คาดเข็มขัดนิรภัยกันหรือเปล่า ผมเคยเห็นหลายครั้งแล้ว รถที่มีเด็กเล็ก ปล่อยให้เด็กมานั่งกับคนนั่งข้างคนขับบ้าง ยืนเกาะเบาะบ้าง ยืนตรงช่องระหว่างเบาะก็มี ฯลฯ ต่อให้รถมีถุงลม มี ABS , EBD ฯลฯ แต่ถ้าคนขับ และคนโดยสารในรถไม่คำำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง 90 กม./ชม. ก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ในคห.ที่ 123 ของคุณหมอ J เรื่องเพิ่มความเร็วผมไม่ออกความเร็วว่าเพิ่มขึ้นดีหรือไม่ บางครั้งผมก็ขับเร็วถึง 100 เพราะต้องการทำเวลาเพื่อให้ถึงที่หมายทันกำหนด แต่ความคิดเห็นของผมคือ ถ้าเราเพิ่มความเร็วของรถ เราต้องเพิ่มความสำนึกในเรื่องความปลอดภัยของคนขับและคนในรถครับ ถนนหลวง 4 ช่องแยกทิศทางจราจร ไม่ใช่้ถนนที่สงวนไว้สำหรับรถสมรถณะดี ๆ ใช้มาใช้ รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ รถพ่วง รถกะบะ ก็มาใช้เหมือนกัน ถ้าหากทุกคนรู้ เคารพกฏของความปลอดภัย มีมารยาทในการใช้ถนน การขับขี่รถด้วยความเร็วสูงก็มีความเสี่ยงกับอุบัติเหตุน้อยลงครับ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 11:01:36 จากคุณ : Mr. SJ - [ 11 ส.ค. 51 10:42:51 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ผมว่า ผมเห็นด้วยนะ อย่างแรกที่ทุกคนจะได้คือ ไม่เสียเงินให้กับพวกที่หากินกับ ข้อกฏหมายตัวนี้ คนที่ไม่เห็นด้วย ผมถามว่า ถ้ามีรถ (ใหม่ๆ ออกมาแล้วเหยียบได้ไม่เกิน 90 กิโล) ท่านที่ไม่เห็นด้วย จะขับไหมครับ เพราส่วนมากผมก็เห็นขับกันเกิน 90 กันทั้งนั้น ขอถามคนที่ไม่เห็นด้วยนะครับ ว่า ปัจจุบัน ท่านขับรถด้วยความเร็วเท่าไร ถ้าเสียงคนในรัชดา 50% บอกว่าไม่เกิน 90  หรือเต็มที่แล้ว 90 ก็ขอรับความคิดเห็นของ ท่านที่ไม่เห็นด้วยครับ เบื่อกับเมืองไทยที่ 1. กำหนด ความเร็วไว้ที่ 90 แต่ รถที่ออกมาขาย เหยียบได้ถึง 140-180 2. รณรงค์ไม่สูบบุหรี่-เหล้า แต่ก็มีขาย 3. ของผิดกฏหมาย เช่นของแต่ง ผิดทันทีที่ตกแต่ง แต่คนขายไม่เป็นไร ฯลฯ เยอะครับ แต่จำได้เท่านี้ ความคิดเห็นส่วนบุคคล นะจ๊ะ จากคุณ : ๐นูโวเบาะแดง๐ (wuttikrai1) - [ 11 ส.ค. 51 11:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 150 เหตุผลดีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่ส่วนตัวผมยึดหลักความเป็นจริง เอาจากตัวเองเวลาขับรถออกต่างจังหวัด ไม่มีสักครั้งเดียวที่ขับรถแค่ 90 กม./ชั่วโมงตลอดทาง เกินทั้งนั้น มากหรือน้อยต่างกันไป สมัยวันรุ่นก็ซัดไป 140+ แต่ช่วงหลังแก่ขึ้น ก็จะขับประมาณไม่เกิน 120 ยกเว้นตอนเร่งแซง อาจจะขึ้นไปถึง 130-140 แต่ก็เพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น จากคุณ : AutoCrazy - [ 11 ส.ค. 51 12:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 151 เดี๋ยวนี้หารถวิ่งเร็วๆเข้ากลุ่มยากมาก ขับช้าๆด้วยติดว่าประหยัดกันเยอะ 110 ของเราเลยนำโด่ง หลุดไปเดี่ยวๆจะโดนเรียกซักข้อหา ช่วงนี้ผมโดนบ่อยมาก บางวันหยุดคุยเฉยๆไม่มีไรก็ไป(มันเสียเวลานะครับ) วันไหนลืมคาดเข็มขัดก็ 200 เซ็งเป็ด..... จากคุณ : คิดถึงใบตอง - [ 11 ส.ค. 51 13:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 152 เห็น ด้วย ครับ จากคุณ : evolution X - [ 11 ส.ค. 51 14:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 153 เห็นด้วยครับ รถผมประหยัดน้ำมันที่สุด ต้อง110กม/ชม ครับ ลองมาหลายรอบมากๆ จากคุณ : เกิดมาจน - [ 11 ส.ค. 51 14:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 154 พวก ค้านๆ ความเร็ว นี่ ลองให้ ขับ 90 จก กทม ไปเชียงใหม่สักรอบสอง รอบ จะเข้าใจ หุๆๆ จากคุณ : vn, man - [ 11 ส.ค. 51 14:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ยังเห็นด้วยกับ 120 เป็นความเร็วสูงสุดของถนนสายหลัก เรากำลังพูดกันถึงว่า เมื่อสภาพถนน มันเอื้ออำนวย ความเร็วสูงสุดควรเป็น 120 หรือ 90 เราไม่ได้กำลังพูดกันว่า ในสถานการณ์ที่มีข้อจำกัด ความเร็วสูงสุดควรเป็นเท่าไหร่ ขอย้ำอีกครั้งครับว่า ความเร็วสูงสุด 120 ไม่ได้แปลว่าบังคับให้ขับทุกที่ ทุกเส้นทางด้วย 120 แต่แปลว่า ในสภาพที่ถนนมันเอื้ออำนวย อนุญาตให้ใช้ได้ 120 ไม่ใช่แค่ 90 ในสภาพที่ถนนเอื้ออำนวย คนขับที่มีจิตสำนึก กับความเร็ว 120 ยังปลอดภัยยิ่งกว่า คนขับ 90 แต่ไม่มีจิตสำนึกด้วยซ้ำไป  ความเร็ว 120 ไม่ได้เกินความเป็นจริง ที่คนปรกติทั่วไป สามารถควบคุมรถได้ ดังนั้นในความเร็ว 120 ที่คนส่วนใหญ่ควบคุมรถได้นี้ ปัจจัยที่มีผลมากกว่าในเรื่องของความปลอดภัย คือ จิตสำนึกของคนขับ Ok ถ้า 150 จิตสำนึกจะเริ่มไม่ใช่ปัจจัยสำคัญอีกต่อไป เพราะมันเร็วเกินกว่าที่คนทั่วไป จะสามารถควบคุมรถได้ทัน ทำไม 120 จึง ok เพราะ ทุกวันนี้ก็ขับกันประมาณนี้ทั้งนั้น ย้ำอีกทีว่าในสภาพถนนและเวลาที่เอื้ออำนวย ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นล้วนมาจากความเร็วที่สูงกว่านี้ หรือ ความประมาทของผู้ขับ หรือไม่เคารพกฎอื่นๆ เช่น ย้อนศร ตัดหน้ากระชั้นชิด ไม่ให้สัญญาน เมา หลับใน แซงในเส้นห้ามแซง ในที่ที่ไม่ควรใช้ความเร็ว 120 เช่นในเขตชุมชน ในเมือง ถนนสายแคบๆ นั้น ก็ให้กำหนดความเร็วที่ต่ำลงไป ไม่ว่ากันอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก เรื่องของความปลอดภัยมันขึ้นอยู่กับเวลาและสถานที่ และจิตสำนึกของคนขับด้วย ต่อให้ในชุมชนกำหนดไว้ที่ 60 แต่ สถานการณ์มันไม่ได้ตายตัว บางครั้ง 60 ก็อันตรายได้ครับ ข้อจำกัด เรื่องป้าย, สภาพถนน, และสภาพแวดล้อมอื่นๆ ต่อให้ขับแค่ 90 ในบางสถานการณ์มันก็ยังเป็นข้อจำกัดอยู่ดี คนขับที่มีจิตสำนึก เมื่อใช้ความเร็วมาในที่มันเอื้ออำนวยแล้ว พอเข้าที่ที่ควรจะลดความเร็ว เขาก็จะลดความเร็วลงมาให้เหมาะสมเอง ถ้าไม่มีจิตสำนึก ขับ 90 ก็อันตรายแล้วครับ จากคุณ : Beluga - [ 11 ส.ค. 51 14:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 156 ผมว่าแปะป้ายให้เห็นกันชัดๆในทุกเส้นทางจะดีกว่านะครับ ไม่ว่าจะกำหนดความเร็วที่เท่าไหร่ และบังคับใช้กันอย่างจริงจัง จะได้ไม่ต้องมาเถียงกันว่าควรจะเท่านั้นเท่านี้ ผมเองเคยขับระหว่างเมืองที่ 60 ก็เคยมาแล้ว เพราะประเทศเค้ากำหนดไว้ให้แค่เท่านี้ รำคาญเหมือนกัน ก็เข้าใจหลายๆคนนะครับที่อยากจะให้เพิ่มเป็น 110-120 เพราะส่วนใหญ่ในถนนบ้านเรามันวิ่งเท่านี้กัน แต่ถ้ามองเรื่องความปลอดภัย ถนนหลายสายมันก็ยังไม่พร้อม รวมถึงทางบางช่วงที่ไม่ควรจะวิ่งเร็ว ดังนั้นการกำหนดความเร็วแบบเป็นช่วงๆ ติดป้ายให้เห็นชัดเจน น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้วครับ จากคุณ : s7014249 - [ 11 ส.ค. 51 15:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ช่าย จากคุณ : body jak - [ 11 ส.ค. 51 16:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 158 เห็นด้วยครับ อ้อเรื่องติดแก็สกับระยะ 35 ซม.+มอก.ถังโดนัท แล้วก็เรื่องภาษีรถกระบะสี่ประตู ก็ควรพิจารณาด้วยนะครับ จากคุณ : ^^aka^^ - [ 11 ส.ค. 51 16:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 159 อยากให้ทำความเข้าใจกันหน่อยนะครับ ที่จะปรับกฏหมายใหม่ให้สามารถขับรถเร็วได้ถึง 120 หรืออะไรเนี่ย ไม่ได้หมายความว่าพอกฏหมายตัวนี้ออกมาแล้วทุกคน ทุกคันต้องขับ 120นะครับ ก็ยังคงต้องขับกันตามความสามารถ และความเหมาะสมของแต่ละคนต่อไป โดยที่คนที่ความสามารถสูง ต้องการความเร็ว เค้าจะได้ไม่ต้องโดนไถจากตำมะหรวด มันก็แค่นั้น ส่วนคนที่พิจารณาด้วยปัญญาแล้วเห็นว่ามันไม่ควร ก็ขับให้มันช้าลงตามสมควร ก็แค่นั้นเอง อุบัติเหตุ อะไรนั่นผมว่าคนละประเด็น ถ้าอนุญาตให้ใช้ความเร็วได้มาก ผมว่าจำนวนอุบัติเหตุมันไม่เพิ่มขึ้นหรอก เพราะแต่ละคนก็จะขับตามความสามารถของตัวเองอยู่ดี เพราะมันเป็นความเร็วสูงสุด ไม่ใช่ความเร็วขั้นต่ำ คิดให้ดี ๆ อย่าหลงประเด็นนะครับ มันก็คล้าย ๆ กับผับที่ให้ปิดผับตี 2 นั่นแหละ มันไม่ได้หมายความว่าผับจะต้องปิดตี 2 เท่านั้น ใครเปิดผับแล้วอุตริปิดตอนเที่ยงคืน มันก็ไม่ผิดกฏหมายซะกะหน่อย จริงไหมครับ ลองพิจารณาดูครับ ด้วยความเคารพ.. จากคุณ : jaminonez - [ 11 ส.ค. 51 17:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 160 เห็นด้วยกับคุณหมอครับ แต่ระวัง จารชน มาเจอกับ จราจร ครับ จากคุณ : พันละที - [ 11 ส.ค. 51 19:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ในการใช้งานจริงมันก็เป็นอย่างที่เราๆท่านๆขับกันอยู่แล้ว มันคือความจริง เห็นด้วยครับ จากคุณ : pyf - [ 11 ส.ค. 51 20:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 162 เห็นด้วยครับบบบบบบบบบบบบ จากคุณ : Nosky - [ 11 ส.ค. 51 21:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 163 เห็นด้วยทุกประการครับ จากคุณ : Pixzz - [ 11 ส.ค. 51 21:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 164 จริงๆได้ 120 ก็ดีครับ แต่ผมว่าสัก 110 ก็น่าจะพอแล้วสำหรับถนนปกติ พวก motorway ก็สัก 130-140 พอแล้ว เกินนี้ก็ให้ยิงเลเซอร์จับปรับ 2000 ไปเลยตัดแต้มด้วย แล้วรถแต่ละประเภทควรจะมี limit ไม่เหมือนกันแม้จะวิ่งบนถนเส้นเดียวกัน คงไม่มีใครอยากให้รถพ่วง 18 ล้อขับ 120 ไล่บี้รถอื่น จากคุณ : dmesg - [ วันแม่แห่งชาติ 00:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 165 เห็นด้วยกับคุณ jaminonez ทุกประการค่า กำหนดว่า ไม่เกิน 120 ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องขับ 120 ซะหน่อย ใครใคร่ขับช้าก็ช้าได้ ใครที่คิดว่าขับ 120 แล้วโอเคก็ขับไป จากคุณ : แบ๊น แบน (แบ๊น แบน) - [ วันแม่แห่งชาติ 00:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 166 แก้ได้ก็จะดีมากเลยครับ ผมโดนบ่อยมากๆเลย ก็ต้องเดินทาง 6-700 กม. จะให้ขับแค่ 90 ตงหลับแน่ครับ หนับหนุนครับ จากคุณ : dangcpc - [ วันแม่แห่งชาติ 01:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 167 เห็นด้วย จากคุณ : REX-REX - [ วันแม่แห่งชาติ 03:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 168 เห็นด้วยนะที่ให้เพิ่มความเร็ว แต่ก่อนที่จะอนุญาตให้เพิ่มความเร็ว ควรจัดการให้คนมีวินัยให้ได้ก่อน ขนาดเค้าให้ขับเร็วแค่ 90 ยังเกิดอุบัติเหตุกันทุกวัน จากคุณ : ^^ZENTOZA^^ (blur_blur) - [ วันแม่แห่งชาติ 04:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 169 ไม่จำกัดเลยได้ไหมครับ สำหรับถนนสภาพดีๆ หรือว่าจำกัดเป็นช่วงๆ แล้ว แต่สภาพถนน เคยพยายามจะขับให้ต่ำกว่า 120 เหมือนกันเพราะรู้ว่าแถวนั้น มี ตร คอยตั้งด่านอยู่ แต่ก็ทำไม่ค่อยได้ซักที เมื่อยเท้ามาก ไม่เหมือนเหยียบ ซัก 140-160 รู้สึกว่าเป็นระยะสบายๆ ไม่ค่อยเมื่อยเท่าไร จากคุณ : พ่อต้นกล้า - [ วันแม่แห่งชาติ 05:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 170 หลงประเด็นแล้วครับ   เพื่อนๆ พี่   กำหนดไว้ที่ 120  Km  คุณจะขับ สัก20-30  แบบ รถอีแต๋นก็ขับไปสิครับ แต่คนอื่นที่เขารีบ     มี ธุระ  งาน แต่ง งาน  หมั้น  หนีน้องเมีย เคลียร์นายหญิง  ชิ่งหนีพ่อตา ขับบ้าแบบลืมตาย ไม่วายชีวาสิ้น ไม่ดิ้นก็เหยียบไป  เลขไมค์ขอ 120 เอย จบ ผมเมา อย่าถือสา ขอบคุณ จากคุณ : Thanomklom - [ วันแม่แห่งชาติ 07:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 171 เอาเลยครับ ว่าไงว่าตามกัน คิดเหมือนกับคุณ Armstrong #66 แต่ก็เข้าใจคนร่างกฏหมายเหมือนกัน เค้าก็ทำเพื่อความปลอดภัยของเราแล้วก็พ่อแม่พี่น้อง ประชาชนตาดำๆเนี่ยแหละครับ ถามว่าคนขับรถเร็วเป็นคนเลวไม่มั๊ย บอกไม่ได้หรอกครับ ต้องดูว่าเค้ามีความคิดรับผิดชอบต่อสังคมที่เค้าอยู่มามากแค่ไหน ผมก็ไม่ชอบขับ 90 เหมือนกันครับ ไม่ชอบสวมหมวกกันน็อคด้วย ไม่ชอบเปิดไฟมอเตอร์ไซด์ตอนกลางวันอีกต่างหาก รู้สึกว่าจะเปิดทำไมวะ  ผมก็รู้ว่าผมทำผิดกฏหมาย แต่ผมไม่ได้รู้สึกผิดในการกระทำของผม พอได้อ่านกระทู้นี้แล้วเลย ได้ความคิดว่าจะพยายามทำให้มันถูกกฏหมายแล้วละ สรุป:ผมรู้สึกว่ากฏหมายที่พี่หมอเจพยายามจะแก้เนี่ย คล้ายๆความรู้สึกที่มีกับพ่อแม่เรานะครับ คือไม่รู้จะห้ามนู่นห้ามนี่อะไรนักหนา น่ารำคาญจัง แต่ก็รู้ว่าที่เค้าห้ามก็เพื่อเราทั้งนั้น เราก็เลยขานตอบแม่ไปว่า คร้าบแม่ แต่ก็ทำเหมือนเดิมนะแหละ กลัวเค้าเสียใจ แก้ไขก็อาจจะดีครับ ไม่แก้ไขก็คงไม่เสียหายอะไรมากมั้งครับ ป.ล.พิมพ์เยอะจัง แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 51 12:55:17 จากคุณ : Good Sleep - [ วันแม่แห่งชาติ 12:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 172 ขับช้าไปก็มีข้อเสียนะครับ..... ถ้าส่วนใหญ่อยากจะขับกันที่ 120 ก็ควรจะใช้ความเร็วที่ใกล้เคียงนี้ ทุกๆคันที่ใช้ถนน.. +/- ก็ควรจะไม่เกิน 10-20% ลองคิดดู ซิ ครับ...ขับมา 120 แต่เจอรถ ขับ 60-70 ขวางอยู่ข้างหน้า นอกจากจะทำให้เกิครถติดแล้ว...ก็ยังเป็นอันตรายเช่นกันนะครับ... รถที่ไม่มีประสิทธิภาพที่จะทำความเร็วได้ตามที่ว่าก็ไม่ควรมีสิทธิที่ จะใช้ถนนนี้... ตัวอย่าง..... ขอยกตัวอย่างกฏจราจรบางข้อที่ใช้ใน เยอร์มัน ..นะครับ -ในย่านที่พักอาศัยที่เป็นบ้านคน หรือ เช่นใน หมู่บ้าน ใกล้โรงเรียน จำกัดความเร็วที่ 30 -ในเมือง จำกัดความเร็วที่ 50 -ในเมือง วงแหวนรอบเมือง จำกัดความเร็วที่ 60 -นอกเมืองถนนเชื่อมระหว่างเมือง(ไม่ใช่ Autobahn) จำกัดความเร็วที่ 100 -Autobahn (บางช่วง)ไม่จำกัดความเร็ว แต่ จะมีป้ายบอกเป็นระยะๆถึงช่วงที่จำกัดความเร็วไว้ เช่นบางช่วงก็จำกัดที่ 100,120,130 และขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ส่วนความเร็วที่แนะนำสำหรับใช้บน Autobahn คือ 130 Km/h จากคุณ : zone2 - [ วันแม่แห่งชาติ 13:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 173 เห็นควรด้วยอย่างยิ่งครับ พี่หัวปิงปองยังขับ 120 เลยคับ จากคุณ : AssorTmenT - [ วันแม่แห่งชาติ 16:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 174 ขอตัดที่คุณ beluga ว่ามา  ในสภาพที่ถนนเอื้ออำนวย คนขับที่มีจิตสำนึก กับความเร็ว 120 ยังปลอดภัยยิ่งกว่า คนขับ 90 แต่ไม่มีจิตสำนึกด้วยซ้ำไป    ปัญหาอีกส่วนหนึ่งมันอยู่ตรงนี้ครับ  คนขับที่มีจิตสำนึกที่ดี รถดี ถนนดี ขับเท่าไหร่ก็ปลอดภัย  แต่คนขับที่จิดสำนึกแย่ รถดี ถนนเอื้ออำนวย ความปลอดภัยลดต่ำลงแล้ว  ถามว่า ถ้าคนขับที่จิตสำนึกดี ใช้รถดี "คิดว่า"ถนนดี  ความปลอดภัยมีเท่าไหร่  ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ ระหว่างความเร็ว 120 กับความเร็ว 90  อย่างไหนปลอดภัยกว่ากัน  หากเราอนุญาตความเร็ว 110-120  ผู้ที่มีสำนึกดี ก็จะไปขับกันที่ 130-140 ด้วยสำนึกที่ดี (???? หรือเปล่า?? ไม่แน่ใจ)  แต่ผู้ที่สำนึกแย่ๆ จะขับที่ 110-120 ตามกฏหมายกำหนด  และด้วยความเคยชิน .. ก็จะตะบี้ตะบันขับมันที่กฏหมายกำหนด (แถมบางทีก็ไปอยู่เลนขวา)  โดยไม่ยอมรับรู้ว่า รถมันเริ่มแย่ หรือ สถานการณ์บนท้องถนนมันไม่เอื้ออำนวย  ---------------------  ผมอยากให้คนที่ "ดูถูก" ทฤษฏีเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน  มาช่วยเหลือห้องฉุกเฉิน ตอนช่วงเทศกาลวันหยุดยาวบ้าง ตาม รพ.ต่างๆ บนเส้นทางหลัก  ... ไม่ว่าปีใหม่ สงกรานต์ หรือเข้าพรรษาก็ได้ ...  เอาเฝ้าซักแค่ 3 วันก็พอ  ดูสิว่า ถ้าไม่อ้วกตาย สติแตกคาห้องฉุกเฉิน  จะ "ดูถูก" ทฤษฏีเหมือนเดิมหรือเปล่า    อุบัติเหตุ ช่วงเทศกาลพวกนั้น  สาเหตุหลัก คือ  1. ดื่มสุรา ... ตรงนี้ป้องกันได้ มากขึ้นเรื่อยๆ ใกล้ถึงจุดเด็ดขาด  2. ใช้ความเร็วเกินขีดจำกัดของกฏหมาย .. ตรงนี้ พึ่งจะเริ่มป้องกันขึ้น และจะเข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต  แน่นอนหละว่า .. ความเข้มงวดนี้ หย่อนยานลง เมื่อเจอรถตราดาว, รถ exotic ฯลฯ  แต่ ... อุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิด มันเกิดจากปิคอัพ .. รถที่สมรรถนะไม่ดี ... แต่ดันไปบรรทุกคนจำนวนมากเข้าให้อีก!  จะเห็นได้ว่า ทุกๆวันหยุดยาว ขนาดมีการเข้มงวดความเร็วสูงสุดที่่ 90-100 ยังมีอุบัติเหตเกิดขึ้นจนนับไม่ไหว  ถ้าปล่อยให้วิ่ีง 110-120 ได้ ... (ความเร็วสูงสุด ก็จะกระโดดไป 120-130)  ช่วงวันหยุดยาว ... คุณจะมาเฝ้าห้องฉุกเฉินไหม    ---------------------  กม. เพื่อความปลอดภัย  มันมี "ข้อยกเว้นที่จำเพาะเจาะจง" มากไม่ได้  ไม่งั้น งงกัน "ตาย"  ตัวอย่างชัดๆ  ถ้าอนุญาตให้ขับได้ 120 บนถนนที่แห้่งสนิท เรียบ ตรง มีป้ายดี ผิวถนนและระดับถนนดี ฯลฯ  ก่อนมีข้อห้าม วรรค 1, วรรค 2 ว่า  ยกเว้น วันหยุดราชการยาว หรือ วันสำคัญที่หยุดยาว หรือ ในภาวะหมอกลง หรือ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่เห็นสมควรลดขีดจำกัดลง หรือ ฯลฯ หรือ ฯลฯ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ วันแม่แห่งชาติ 18:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 175 ผมว่าคงเป็นเรื่อง ไอ้หมวกปรอทนี่ละคับ ที่น่าเปลี่ยน แล้วก็ ....  เรื่องความเร้วนี่ละครับ ผมว่าอย่างทางด่วนหรือ ทางสายหลัก น่าจะอยู่ที่ 120-140 นะครับ ไม่เกินนี้ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ  90 มันก็ปลอดภัยแต่กว่าจะถึงที่หมายนี่สิ เครียด วิ่ง 90 กรุงเทพ - เชียงใหม่  เมื่อไหร่จะถึงอ่ะ??? จากคุณ : ปลาโลมา_:P - [ วันแม่แห่งชาติ 20:04:00 ]

ความคิดเห็นที่ 176 จะขอแย้งคุณแมวเหมียวพุงป่องสักเล็กน้อย อันกฏหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยนั้นยิ่งละเอียดหรือยิ่งจำเพาะเจาะจงนั้นจะยิ่งทำให้ปลอดภัยมากขึ้นให้ลองดูกฏหมายเกี่ยวกับการบินเป็นต้น จะเห็นได้ว่าโอกาสที่เครื่องบินตกนั้นมีน้อยกว่าน้อยและกฏหมายการบินนั้นวุ่นวายและละเอียดยิ่งถึงแม้ว่าจะมีแค่สองตำราใหญ่เท่านั้นเชื่อผมเถอะ แต่ผมก็เข้าใจว่าแม้การทำให้มันละเอียดมากนั้นจะทำให้ประสิทธิภาพของกฏหมายและการจราจรสูงขึ้นก็จริงแต่ในทางปฏิบัติจริงนั้นคงไม่ได้ไม่อย่างนั้นหกสิบล้านคนของประเทศจะได้ออกมาขับรถกันไม่กี่แสนคน จากคุณ : Cat's tail - [ วันแม่แห่งชาติ 20:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 177 เห็นด้วยครับ ขอซัก120ละกัน หยวนๆ จากคุณ : maxibon - [ วันแม่แห่งชาติ 21:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 178 เห็นด้วย การแก้พิกัดความเร็วแค่แก้กฎกระทรวงเท่านั้นง่ายมาก จากคุณ : watd (watd) - [ วันแม่แห่งชาติ 21:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 179 ,,ขอแย้งคุณCat's tail เช่นกันนะครับ.... ,,,แต่ในทางปฏิบัติจริงนั้นคงไม่ได้ไม่อย่างนั้นหกสิบล้านคนของประเทศจะได้ออกมาขับรถกันไม่กี่แสนคน ,,,,,,,, ใบขับขี่ที่เรามีๆ..ใช้ๆกันอยู่นี่...ควรจะเน้นที่คุณภาพ หรือปริมาณ...ครับ... ที่..คุณแมวเหมียวพุงป่อง...เอามาเล่าๆให้กันฟังนั้น...ผมว่ามันยังเป็นแค่เศษเสี้ยวหนึ่งที่เราควรรู้...และคำนึงถึง..เท่านั้น... ของจริง..เรื่องจริง..ที่ควรจะมี...จะเป็นยังมีอีกเยอะมาก...นะ..ครับ จากคุณ : zone2 - [ วันแม่แห่งชาติ 22:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 180 เห็นด้วย 120 กำลังดี โหวต โหวต จากคุณ : back Office - [ วันแม่แห่งชาติ 22:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 181 ผมก้อเห็นด้วยกับพี่หมอครับ จากคุณ : เด็กข้างหนามบิน - [ วันแม่แห่งชาติ 22:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 182 AGREE !! VVVVVVVVVVVVVVVVVVVOTE จากคุณ : nc@1600cc - [ 13 ส.ค. 51 00:34:23 ]