ความคิดเห็นที่ 1 มารอฟังโต้ย ขออนุญาตถามต่อ แล้วการปรับแต่งทำอย่างไร ครับ จากคุณ : BOPI - [ 25 ส.ค. 51 16:50:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ... มันเป็นเรื่องทางเทคนิคครับ เพราะตัวเลขที่เห็นกว่าจะได้มา มันต้องผ่านทดสอบมาแล้วอย่างมากมายครับ แต่ตัวเลขพวกนี้ถ้าพอรู้บ้าง จะสามารถนำเอารอบสูงสุด ขนาดความยาวรอบวงล้อหลัง อัตราทดขั้นต้น ขั้นสุดท้าย มาเข้าสูตร คำนวณเป็นความเร็วสูงสุดได้ครับ ... ส่วนการปรับแต่งก็ทำได้แค่ทดสเตอร์ให้ต้นจัดปลายไหลแค่นั้นแหละครับ ส่วนจะแค่ไหนก็ต้องค่อย ๆ ทดกันไป เพราะน้ำหนักรวมของรถแต่ละคันมันไม่เท่ากันครับ จากคุณ : พันท้ายนรสิงห์ - [ 25 ส.ค. 51 16:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 "เกียร์ หมายถึง ฟันเฟือง 2 วงที่ขบกัน => ขนาดวงกลม 2 อันนั้นอาจไม่เท่ากัน แต่ขนาดฟันต้องเท่ากัน ไม่งั้นทำงานไม่ได้" อัตราทดเกียร์:             1). 2.600 (39/15)  = ขาเข้ามีฟัน 15 ฟัน ขาออกมีฟัน 39 ฟัน = ขาเข้าต้องหมุน 2.6 รอบ ขาออกถึงจะหมุนครบแค่ 1 รอบ แต่ก็มีส่วนช่วยทดแรงเพิ่มได้ 2.6 เท่า 2). 1.789 (34/19)  = ขาเข้ามีฟัน 19 ฟัน ขาออกมีฟัน 34 ฟัน = ขาเข้าต้องหมุน 1.789 รอบ ขาออกถึงจะหมุนครบแค่ 1 รอบ แต่ก็มีส่วนช่วยทดแรงเพิ่มได้ 1.789 เท่า 3). 1.409 (31/22) 4). 1.160 (29/25) 5). 1.000 (27/27)  = ทั้งขาเข้าและขาออก มีจำนวนฟันเท่ากัน ดังนั้น จึงไม่ได้ทดรอบ หรือทดแรงแต่อย่างใด 6). 0.893 (25/28)  = อันนี้ ขาเข้ามีฟัน 28 แต่ขาออกมีฟัน 25 = จุดประสงค์ไม่ได้ต้องการเพิ่มแรง แต่ต้องการทดรอบหมุนให้น้อยลงครับ เพราะขาเข้าหมุนแค่ 0.893 รอบ ก็ทำให้ขาออกหมุนครบ 1 รอบแล้ว แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 51 17:08:36 จากคุณ : P_Wut - [ 25 ส.ค. 51 17:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 0.893  นี่ overdrive มอไซด์ป่าวเนี่ย? จากคุณ : ALG - [ 25 ส.ค. 51 17:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ใช่ สเตอร์ ใช่ไหมครับ จากคุณ : เหมือนยังงงอยู่ (killery) - [ 25 ส.ค. 51 17:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ P_wut อธิบายเข้าใจดีครับ แปะๆ (ปรบมือ) จากคุณ : จิงๆ - [ 25 ส.ค. 51 18:04:18 A:117.47.23.103 X: TicketID:178284 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอโทษนะครับ พอดีไม่รู้จริงๆๆ ครับ ปกติในรถมอเตอร์ไซร์ จะมีแค่ สเตอร์หน้ากับหลัง  แต่ งงต่อตรงที่ในวงเล็บ เขาหมายถึงเฟืองที่อยู่ในเครื่องอีกทีใช่ไหมครับ ถ้าใช่ ถ้าทดสเตอร์ หน้าหลังด้านในจะเปลี่ยนอย่างไรบ้างครับ แล้วปกติเราจะรู้ได้ไงครับ ว่าเปลี่ยนสเตอร์แล้วจะต่างจากเดิมอย่างไรบ้าง เราจะรู้ว่าเครื่องรถเราจะไหวที่สเตอร์เท่าไร(การออกตัว เป็นต้น) สมมุติ แบบโง่ๆๆ นะครับ(คือไม่รู้จริงๆๆ) ถ้าปกติสเตอร์เดิมรถวิ่งได้ 120กม/ชม ถ้าเราเปลี่ยนสเตอร์ เพื่อจะวิ่งให้ถึง 300กม/ชม (สมมุติครับ) เป็นไปได้หรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 51 18:08:12 จากคุณ : ไม่รู้จริงๆๆครับ (killery) - [ 25 ส.ค. 51 18:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวเลขหน้าหมายถึงจำนวนรอบที่ล้อช่วยแรงหมุน ปกติล้อช่วยแรงต่ออยู่กับคลัช คลัชต่อกับเครื่องยนต์ ดังนั้นล้อช่วยแรงจึงหมุนเท่าเครื่องยนต์ตามทฤษฎี ตัวเลขหลังหมายถึงจำนวนรอบที่เพลาหมุน เอาไปคุณกับอัตราทดเฟืองท้าย หรือเสตอร์หลัง จะได้เป็นจำนวนรอบที่ล้อหมุน ตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งได้กำลังมาก ความเร็วน้อย เช่น 39/15 หมายถึง เครื่องยนต์หมุน 39 รอบ เพลาจะหมุน 15 รอบ ตอนเลือกซื้อ ต้องดูน้ำหนักรถ สภาพเส้นทาง ถ้ารถหนัก ทางโหด ต้องเลือกอัตราทดเยอะๆ รถเบา ทางเรียบ เลือกอัตราทดน้อยๆ นอกจากนี้ยังมีความต่อเนื่องของเกียร์ และรอบเครื่องที่ให้กำลังสูงสุด ถ้าเลือกอัตราทดที่ทำให้ใช้รอบเครื่องที่ได้กำลังสูงสุดได้จะดีที่สุด เป็นต้น จากคุณ : จั๊กกะจี๋ - [ 25 ส.ค. 51 18:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความคิดเห็นที่ 3 ชัดเจนครับ จากคุณ : CoCola - [ 25 ส.ค. 51 18:30:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ P_Wut  อธิบายดีครับ  ผมแค่ขอเสริมหน่อยเท่านั้น  สำหรับมอเตอร์ไซด์จะมีอัตราทดขั้นต้น  คือ  อัตราทดของเฟืองที่ทดจากเพลาข้อเหวี่ยงก่อนเข้าสู่ชุดเกียร์   ส่วนที่คุณ P_Wut  อธิบายจะเป็นอัตราทดเกียร์  และยังมีอัตราทดสุดท้าย  คือสเตอร์หน้าหลังอย่างที่เราเห็นกันครับ  ส่วนรถระบบออโตเมติกจะไม่มีอัตราทดเกียร์ครับ  มีอัตราทดขั้นต้น  กับอัตราทดขั้นสุดท้าย  แต่สามารถแปรผันตามพูเลย์ได้หรือ  สรุปง่ายๆก็คือ อัตราทดขั้นต้น  กับสุดท้ายมันเปลี่ยนได้เอง  เลยไม่จำเป็นต้องมามีเกียร์เพื่อซอยอัตราทดอีก  ทำให้ลดอุปกรณ์สึกหรอลงไปด้วย จากคุณ : janriyman (janriyman) - [ 25 ส.ค. 51 19:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนรถระบบออโตเมติกจะไม่มีอัตราทดเกียร์ครับ ถ้าเป็นรถยนต์ (ไม่ใช่ CVT) มีสิครับ  ทำไมจะไม่มี จากคุณ : CoCola - [ 25 ส.ค. 51 20:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมก็ชอบศึกษาเรื่องอัตราทดของมอไซค์ครับ ชอบเป็นการส่วนตัว สนุกดี.... ใช่ ๆ  มอไซค์มีอัตราทดขั้นต้นด้วย และถ้าสังเกตดู ไอ้อัตรทดขั้นต้นเนี่ย ขึ้นอยู่กับ ซีซี ของรถด้วย ถ้าซีซียิ่งสูง ก็ยิ่งทดต่ำ ทำให้แต่ละเกียร์ลากความเร็ว ได้เยอะกว่า ผมจะยกตัวอย่างอัตราทดของรถสปอร์ตรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ คือ Ninja 250 VS. ZX10R   ระบบขับเคลื่อน   Ninja 250 ระบบเกียร์ 6-speed, return ระบบส่งกำลังขั้นสุดท้าย Sealed Chain "อั ต ร า ท ด ขั้ น ต้ น  3.087 (71/23)" อัตราทดเกียร์:         1). 2.600 (39/15)   2). 1.789 (34/19) 3). 1.409 (31/22) 4). 1.160 (29/25) 5). 1.000 (27/27) 6). 0.893 (25/28) อัตราทดขั้นสุดท้าย 3.214 (45/14) -------------------------------------- ระบบขับเคลื่อน   ZX10R ระบบเกียร์ 6-speed, return ระบบส่งกำลังขั้นสุดท้าย Sealed chain " อั ต ร า ท ด ขั้ น ต้ น  1.611 (87/54)" อัตราทดเกียร์:  1). 2.600 (39/15) 2). 2.053 (39/19) 3). 1.737 (33/19) 4). 1.550 (31/20) 5). 1.400 (28/20) 6). 1.304 (30/23) อัตราทดขั้นสุดท้าย 2.412 (41/17) -------------------------------------------- จะเห็นว่า อัตรทดขั้นต้นของ 250 กับ 1000 ต่างกันโคตรเยอะมาก ๆ คือ 250 = 3.087 (71/23) 1000 = 1.611 (87/54) นี่คือสาเหตุที่ ตัวพันลากเกียร์ 1 สุด ๆ ได้ความเร็วถึง 150 + ซึ่งมากกว่าประมาณเท่าตัวของ 250 (เกียร์ 1 ลากได้ประมาณ70) เพราะอัตราทดขั้นต้นทดมาต่ำกว่ามาก(แทบจะเท่าตัวนึง)นั่นเอง รวมถึงอัตราทดสเตอร์ของตัวพันทดต่ำกว่ามาก 250 หน้า 14 หลัง 45 (สเตอร์หน้าหมุนถึง 3.214 รอบ หลังหลังหมุน 1 รอบ) 1000 หน้า 17 หลัง 41 (สเตอร์หน้าหมุนเพียง 2.412 รอบ ล้อหลังหมุน 1 รอบ) ฉะนั้น ตัวพันเวลาลากเป็นหมื่นรอบ ความเร็วมันถึงได้ 300 + ไงครับ... นึ่คือข้อสังเกตของผมเรื่องอัตราทดเกียร์ จากคุณ : จอมยุทธตะเกียบคู่ - [ 25 ส.ค. 51 20:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โอ ..........เข้าใจแล้ว ขอบคุณครับ จากคุณ : bankyly - [ 25 ส.ค. 51 22:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ******* ถ้าใครนึกไม่ออกก็ให้นึกถึง สเตอร์หน้า-หลังของพวกจักรยานเสือหมอบ, จักรยานภูเขา ที่ทั้งสเตอร์หน้าและสเตอร์หลังมีหลายๆ ชั้นนะแหละครับ จะเห็นเป็นรูปธรรมหน่อย และถ้าใครเคยขับก็จะเข้าใจง่ายขึ้นครับ 66666 ******* ที่ จขกท ถาม คห3 ตอบให้แล้วครับ ชุดเกียร์มอไซค์มี 2 ราว ชุดเฟืองเกียร์นำจะติดอยู่กับแกนชุดครัชแผ่น ส่วนชุดเฟืองตาม จะติดอยู่กับแกนสเตอร์หน้าครับ 66666 ******* 0.893  นี่ overdrive มอไซด์ป่าวเนี่ย? - ถ้าต่ำกว่า 1.000 ถือว่าเป็นโอเวอร์ไดฟ ที่เฟืองตัวหลังจะหมุนเร็วกว่าเฟืองตัวหน้าครับ 66666 ******* สมมุติ แบบโง่ๆๆ นะครับ(คือไม่รู้จริงๆๆ) ถ้าปกติสเตอร์เดิมรถวิ่งได้ 120กม/ชม ถ้าเราเปลี่ยนสเตอร์ เพื่อจะวิ่งให้ถึง 300กม/ชม (สมมุติครับ) เป็นไปได้หรือเปล่าครับ - เป็นไปได้ ถ้าสามารถทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดและแรงม้าเหลือพอที่จะเอาชนะความต้านทานของอากาศได้ครับ เพราะ ยิ่งอัตราทดลดลงมากเท่าไหร่ แรงบิดก็ยิ่งลดลงตามไปด้วยครับ 66666 ******* คห8 ในชุดของมอไซค์ จะมีอัตราทดอยู่ 3 ชุด ชุดแรกจะเป็นของแกนข้อเหวี่ยงจะมีเฟืองตัวเล็กต่อกบเฟืองชุดครัชแผ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า ชุดที่สองจะเป็นชุดของเกียร์ (แกนเดียวกับชุดครัช)นำกับเกียร์ตาม (แกนสเตอร์หน้า) และ ชุดที่สาม จะเป็นของสเตอร์หน้ากับสเตอร์หลังครับ 66666 ******* ส่วนรถออโต้ก็มีอัตราทดเกียร์เหมือนกันนะครับ แต่มีแค่ตอนออกตัวกับตอนเหวี่ยงเต็มที่ เพียงแต่ว่า ระหว่างช่วงที่เหวี่ยงนั้น จะไม่เป็นสเต็ปขั้นบรรไดแบบพวกเกียร์ทั่วๆ ไป แต่ละไหลลื่นไปเรื่อยๆ แต่ถ้าอยากทำให้เป็นสเต็ปขั้นบรรไดแบบเกียร์ธรรมดาก็ได้ครับ ยกตัวอย่างของรถยนต์ก็ได้ ที่เกียร์ออโต้แบบสายพาน (เหล็ก) มีเกียร์ให้เลือกเหมือนออโต้เฟือง ซึ่งจริงๆ จะทำเป็น 10 เกียร์ก็ได้แค่กำหนดให้สายพานหยุดในตำแหน่งไหนก็จะได้อัตราทดสายพานที่ตำแหน่งนั้นๆ มาก็เท่านั้นเองครับ ในเมื่อรถยนต์ทำได้ รถมอไซค์ก็ทำได้เช่นกัน แต่ลองทดสอบแล้ว เวลาเปลี่ยนเกียร์ที่สายพานเปลี่ยนเองกับมือกด ปรากฏว่า พอๆ กัน ฤ บางทีสายพานเปลี่ยนเองเร็วกว่าด้วยซ้ำไปครับ   ตย ของมอไซค์ยอดฮิตรุ่นหนึ่ง (ลองทายซิว่ารุ่นไหน)  อัตราทดสายพานขับเคลื่อน 2.53 : 1 – 0.85 : 1 อัตรทดขั้นสุดท้าย 10.263 (52/19 x 42/12)   66666 ******* ส่วนวิธีการคำนวณนั้น ก็เอา อัตราทดแรกxอัตราทดเกียร์xอัตราทดสุดท้าย ส่วนใครจะเล่นอะไรแบบไหนก็ตามสบายเน้อ 66666 ******* จานปู่ ม่ายรู้หมึกตัวไหน ยืมคู่มือ "บรอนซ์" ไปแล้วยังไม่คืน (เอ่ หมึกหัวเกียร์ ฤ เปล่าหว่า)    มีเล่มใหม่ให้อ่าน ฤ เปล่า ถ้าให้ดีจะมี "ซิลเวอร์" ฤ "โกลด์" แถมมาด้วยก็ดี  ชอบ  อ่านแล้วปวดหัวดี 66666 แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 51 22:23:56 จากคุณ : monsungja - [ 25 ส.ค. 51 22:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากๆๆครับ จากคุณ : ชอบๆๆ (killery) - [ 26 ส.ค. 51 17:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คห14 Honda Click ใช่มั้ยครับ จากคุณ : tan27600 - [ 26 ส.ค. 51 22:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คห 16 ถูกต้องนะคร๊าบ 66666 จากคุณ : monsungja - [ 27 ส.ค. 51 10:29:00 ]