ความคิดเห็นที่ 2 อาการกระด้างผมไม่รู้ว่าเป็นยังไงนะ แต่ถ้าเด้งมากไป หรือเจอระนาดหน่อยๆก็ดีดแรงไป  ไปอัดน้ำมันใหม่ช่วยได้มาก ถ้าทำดีๆ โช๊คหน้าเปลี่ยนแกนใหม่ให้สั้นลง จะช่วยได้มากกว่าเดิม อัดแข็งๆโช๊คจะได้ไม่ยันน้ำมันออกมา จากคุณ : หัวหอม++หัวเหม็น - [ 4 ก.ย. 51 20:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไอ้อาการกระด้างอย่างที่ผมบอกก็คือ คิดง่ายๆเหมือนไม่มีโช๊คอ่ะครับ คิดแค่นี้ ทื่อๆ ยิ่งถ้านั่งสามคนขึ้นไปละก็แค่เจอถนนไม่เรียบนิดเดียวยังรู้สึกครับไม่ต้องไปลงหลุมอะไรเลย แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 22:03:09 จากคุณ : tum2910 - [ 4 ก.ย. 51 22:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มันเข้ากันนะครับ ทั้งสปริงและโช้ค   ถ้าสปริงแข็งเกิน (ค่า K สูง) ไปอัดน้ำมันใหม่ยังไง มันก็แข็งครับ จากคุณ : EITHER - [ 4 ก.ย. 51 23:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช้สปริงเดิมหรือสปริงหลอดครับ อาการแบบนี้น่าจะเป็นสปริงเดิม+ปลอกปรับเกลียว+อัดน้ำมันช็อคอับ สูตรนี้กระด้างอยู่แล้วเพราะสปริงเดิมนิ่มเกินไป ไม่เหมาะจะใช้กับปลอกปรับเกลียวตามเหตุผลข้างล่างนี้ ###################################### ปลอกปรับเกลียวที่ปรับตรงฐานรองสปริงเป็นผลผลิตที่ได้จากรถสนามซึ่งมีไว้เพื่อเซ็ท"ความแข็งของสปริง" ไม่ใช่เซ็ทความสูงของรถครับ การปรับเกลียวขึ้น-ลงที่ฐานรองสปริงขึ้น-ลงในแต่ละเกลียวมีผลต่อความแข็งของสปริงคือ ากคุณปรับเกลียวสูงขึ้นสปริงจะโดนบีบให้ยุบตัวลง ดังนั้นสปริงจะมีช่วงการยุบตัวน้อยลงคือแข็งขึ้น รถก็จะสูงขึ้นเนื่องจากสปริงยุบน้อยลง ในทางกลับกัน คุณปรับเกลียวลง สปริงโดนบีบน้อยลงก็จะยุบง่าย รถคุณจะเตี้ยลงแต่เป็นการเตี้ยแบบยวบๆย้วยๆเนื่องจากสปริงสามารถยุบตัวเพิ่มได้อีก  ยิ่งใช้ร่วมกับสปริงเดิมๆซึ่งนิ่มกว่าสปริงหลอด มีโอกาสท้องรถฟาดพื้นสูง ########################################## เมื่อคุณปรับเกลียวลง สปริงจะนิ่มมาก ช่างจะแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุโดยอัดน้ำมันที่หนืดมากๆให้ช็อคอับแข็งเพื่อไม่ให้ช็อคอับยัน ซึ่งส่วนใหญ่จะแข็งแบบไม่ยอมยุบดังนั้นไม่แปลกที่จะทำให้รถคุณกระด้าง   ช็อคอับที่หนืดมากในจังหวะคอมเพรส(ยุบ)จะเป็นสาเหตุของอาการกระด้างซึ่งช็อคอับอัดน้ำมันส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ ขณะที่ช็อคอับที่ได้มาตรฐานจะเซ็ทค่าความหนืดในจังหวะรีบาวด์สูงกว่าจังหวะคอมเพรส แบบนี้จะหน่วงสปริงแข็งๆไม่ให้ดีดแรง-เร็วเกินไป ช่วงล่างรถคุณก็จะไม่กระด้าง จากคุณ : คนรู้จริง - [ 5 ก.ย. 51 07:33:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ สตรัทปรับเกลียว มีไว้ปรับความสูงของรถแน่นอนครับ เพราะเมื่อปรับสปริงขึ้น-ลง   แกนโช้คมันก็ขึ้นตาม หรือลงตามด้วย ทำให้รถสูงขึ้น และเตี้ยลง สปริงไม่ได้ถูกอัดแต่อย่างใด (นอกจากสุดแกนโช้คแล้ว) ความนิ่ม-แข็งของรถ อยู่ที่ค่า K ของสปริง เมื่อค่า K สูง จะทำให้ระยะยุบตัวน้อยลง เมื่อรับแรงเท่าเดิม และยังอยู่ที่ค่าความหนืดด้วย ส่วนนึง ที่จะช่วยให้ รถไม่กระด้าง เพราะความนืดของโช้คจะต้องดึง หรือรับได้พอดี ดังนั้นโช้คแต่งที่แพงหน่อยจะทำให้ โช้คสามารถปรับหนืดได้ด้วย ค่า K ของสปริงโหลด มักอยู่ที่ 1-3   ขึ้นกับรถ ค่า K ของสปริงที่มากับโช้คแต่งต่างๆ มักอยู่ที่ 2-8 ขึ้นกับรถและการเซ็ต ค่า K ของสปริงรถแข่ง มักอยู่ที่ 9 ขึ้นไป โดยประมาณ จากคุณ : EITHER - [ 5 ก.ย. 51 08:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สตรัทปรับเกลียวแบบปรับที่ฐานรองสปริงมีผลกับความแข็งของสปริงครับซึ่งความแข็งของสปริงส่งผลทางอ้อมให้รถสูงหรือต่ำลง   ดังนั้นสตรัทปรับเกลียวรุ่นสูงๆจึงต้องทำขายึดช็อคอับแบบปรับได้ด้วยเพื่อให้สามารถเซ็ทความสูง-ต่ำของรถได้โดยไม่มีผลกับการยุบ-ยืดตัวของสปริง ค่า K สปริงก็ขึ้นอยู่กับ -น้ำหนักรถ นน.เยอะ ค่า K สปริงต้องสูงมากขึ้น หากต้องการให้ได้ความหนึบเท่ากัน -รูปแบบของช่วงล่าง ระหว่างแมคเฟอร์สันสตรัทกับดับเบิลวิชโบนก็มีความแตกต่างกัน เพราะจุดรับน้ำหนักต่างกัน การเซ็ทช่วงล่างคุณไม่สามารถเทียบเคียงแค่นน.หนักรถแล้วเลือกค่า K สปริงครับ -ลักษณะการใช้งาน หากเป็นรถสนาม จะเซ็ทความสูงของเกลียวไม่เท่ากันเพื่อให้สปริงแข็งไม่เท่ากันซึ่งจะมีผลต่อการตอบสนองของรถให้เหมาะสมกับรูปแบบของแต่ละสนาม นี่คือความจำเป็นของสตรัทปรับเกลียวแบบปรับที่ฐานรองสปริง จากคุณ : คนรู้จริง - [ 5 ก.ย. 51 09:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 -..-  รู้จริง จริงๆ รึ??? เหอๆ อ่านแล้ว หน้าร้อนๆ ชาๆ แทนยังไงก็ไม่รู้สิ.. วูบวาบๆ จากคุณ : avalanche_fx - [ 6 ก.ย. 51 01:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณคิดว่าข้อมูลผมผิดตรงไหนก็แย้งมาสิครับ พิมพ์มาแค่นี้มีประโยชน์อะไร จากคุณ : คนรู้จริง - [ 6 ก.ย. 51 07:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 #6 เค้าเขียนไว้แล้วครับ จะไปเขียนซ้ำทำไม strut เกลียวเอาไว้ปรับความสูง ไม่เกี่ยวกับความแข็งของสปริงค์แต่อย่างใด ไม่ได้มีการอัดสปริงค์เข้าตามที่คุณ คิดเอาเองและกล่าวอ้าง.. จบ... อ่อ ตามเค้าอีก อาจจะอัดเข้าได้ถ้าทะลึ่งปรับยกจนโช้คยืดสุด ถ้าโช้คยืดออกไม่ได้แล้ว สปริงค์ถึงถูกอัดครับ.. ง่ายๆ รถคันไหนก็ได้ก้มลงไปดูแล้วถ่ายรูปมา ถ้าคันไหนปรับเกลียวแล้ว สปริงค์โดนอัด เอารูปมาดูเลยครับ  ตั้งกระทู้ใหม่เด่นๆเลยก็ได้ ผมอาจจะไม่ได้เข้ามากระทู้นี้อีก.. รึหลังไม่ค์มาก็ได้ครับ ผมจะได้ตามไปดุ รับความรู้เข้าหัว.. แต่บอกตรงๆ ยังไม่เคยเจอรถที่ออกแบบให้ใช้ strut อัดสปริงค์เพื่อเปลี่ยนค่าK บนรถตลาดที่ทำขายทั่วๆไปเลย บนรถแข่งในสนามก็คิดว่าไม่เคยนะ ถ้าคุณจะเดาเอาจากเวลาที่คุณไปเปลี่ยนโช้ค แล้วเค้าต้องเอาไปอัดสปริงค์ประกอบเข้ากับโช้คและเบ้า มันอาจจะทำให้คุณนึกว่า อ่อ ถ้าเรายกstrut ขึ้นอีกสปริงค์มันก็ต้องแข็งขึ้นอีก.. อิอิ อันนี้เข้าใจถูกครับ ถ้ามันอยู่นอกตัวรถ.... เพราะตอนโช้คอยุ่นอกตัวรถ แกนมันยืดสุดครับ.. พอยก strut ขึ้น สปริงค์มันเลยโดนอัดค่า K เลยเพิ่ม.. แต่!!!!!  เวลาอยุ่ภายใต้ นน. ของรถแล้วเนี่ย.. นน. จะกดให้สปริงค์ยุบลง. แกนโช้คก็ยุบลงด้วย.. ค่า K ก็เพิ่มขึ้นจากตอนที่อยุ่นอกรถอีกนะ แต่ค่า K ตอนนี้คือค่า ที่ใช้งาน... ณ. เวลานี้ถ้าคุณไปปรับ strut ให้สูงขึ้น... แต่แกนโช้คยังไม่ยัน.. สปริงค์ก็จะดันตัวรถให้ลอยขึ้ยเรื่อยๆ ด้วยค่า K เท่าเดิมจริงๆเพิ่มขึ้นนิดเดียวจากแรงดึงดูด พอรถหยุดยก มันก็เท่าเดิม.. 555   (นิดเดียวนี่นิดจริงๆจนไม่ควรนำมาคิด แต่ผมใส่ไว้เพื่อกันแถ...) มันก็จะยกขึ้นได้เรื่อยๆ จนโช้คยันน่นแหละครับ.. พอยันแล้วตอนนี้แหละถึงจะเริ่มอัดสปริงค์ค่า K ถึงจะเริ่มเพิ่มขึ้น.... ดังนั้นสรุปว่าทั้งหมดที่ต้องพิมพ์ มีคนเค้าพิมพ์มาแล้ว.. ไม่รู้จะพิมพ์อีกทำไม ถ้าพอมีความรู้อยู่บ้างเท่าหางอึ่ง เรื่องแค่นี้ อ่านที่เค้าพิมพ์มาก็เข้าใจแล้ว ไม่ต้องขยายความ.. " สตรัทปรับเกลียว มีไว้ปรับความสูงของรถแน่นอนครับ เพราะเมื่อปรับสปริงขึ้น-ลง   แกนโช้คมันก็ขึ้นตาม หรือลงตามด้วย ทำให้รถสูงขึ้น และเตี้ยลง สปริงไม่ได้ถูกอัดแต่อย่างใด (นอกจากสุดแกนโช้คแล้ว) " แค่เนี้ย.. จบในตัว สมบูรณ์สุดๆแล้ว...  ยังจะเอาประโยชน์อะไรจากผมได้อีก นอกจากให้ผมพิมพ์ให้เสียเวลาอ่าน.. แถมยิ่งอธิบายยิ่งงงด้วย.. จากคุณ : avalanche_fx - [ 6 ก.ย. 51 11:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ่อ ถ้าปรับstrut แต่ละล้อไม่เท่ากัน ส่งผลให้ นน.ของรถกระทำต่อล้อไม่เท่ากัน ดังนั้น ค่าK จึงต่างกัน.. ได้... แต่ไม่ได้เกิดจากการที่ เลื่อน strut เข้าแล้ว สปริงค์ถูกอัด.. คนละเรื่องกันเลย  เพราะถ้าเลื่อนเท่ากัน แค่คู่หน้า รึคู่หลัง.. นน.แบ่งลง 2 ข้างเท่ากัน อุปกรณ์เหมือนกัน ค่าK ได้เท่ากันครับ ความแข็งความกระด้างก็เท่ากัน.. เหมือนยืนเต็มเท้ากับไม่เต็มเท้านั้นแหละ.. ยืน 2 ขาเหมือนกัน ลงนน.ไปข้างไหนข้างนั้นก็แข็งกว่า แต่ถ้าถ่ายเท นน. มาเท่าๆกันก็เเข็งเท่ากัน จากคุณ : avalanche_fx - [ 6 ก.ย. 51 11:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อิอิ อันนี้เข้าใจถูกครับ ถ้ามันอยู่นอกตัวรถ.... เพราะตอนโช้คอยุ่นอกตัวรถ แกนมันยืดสุดครับ.. พอยก strut ขึ้น สปริงค์มันเลยโดนอัดค่า K เลยเพิ่ม.. แต่!!!!!  เวลาอยุ่ภายใต้ นน. ของรถแล้วเนี่ย.. นน. จะกดให้สปริงค์ยุบลง. แกนโช้คก็ยุบลงด้วย.. ค่า K ก็เพิ่มขึ้นจากตอนที่อยุ่นอกรถอีกนะ แต่ค่า K ตอนนี้คือค่า ที่ใช้งาน... ณ. เวลานี้ถ้าคุณไปปรับ strut ให้สูงขึ้น... แต่แกนโช้คยังไม่ยัน.. สปริงค์ก็จะดันตัวรถให้ลอยขึ้ยเรื่อยๆ ด้วยค่า K เท่าเดิมจริงๆเพิ่มขึ้นนิดเดียวจากแรงดึงดูด พอรถหยุดยก มันก็เท่าเดิม.. 555   (นิดเดียวนี่นิดจริงๆจนไม่ควรนำมาคิด แต่ผมใส่ไว้เพื่อกันแถ...) ######################################### น้ำหนักรถกดให้แกนช็อคอับยุบลง พอคุณปรับเกลียวเร่งสปริงสูงขึ้น แกนช็อคอับยืดตามขึ้นไป มันยืดตามขึ้นไปด้วยตัวมันเองหรือเพราะสปริงแข็งมากขึ้นจนต้านการยุบตัวเนื่องจากน้ำหนักรถได้ สปริงมันถูกอัดจากน้ำหนักรถนั่นแหละ  ผมจึงบอกว่าการปรับเกลียวที่ฐานรองสปริงทำให้สปริงแข็งขึ้นและส่งผลทางอ้อมให้รถสูงขึ้น ตามข้อความข้างล่างนี้ สตรัทปรับเกลียวแบบปรับที่ฐานรองสปริงมีผลกับความแข็งของสปริงครับซึ่งความแข็งของสปริงส่งผลทางอ้อมให้รถสูงหรือต่ำลง   ##################################### -ลักษณะการใช้งาน หากเป็นรถสนาม จะเซ็ทความสูงของเกลียวไม่เท่ากันเพื่อให้สปริงแข็งไม่เท่ากันซึ่งจะมีผลต่อการตอบสนองของรถให้เหมาะสมกับรูปแบบของแต่ละสนาม นี่คือความจำเป็นของสตรัทปรับเกลียวแบบปรับที่ฐานรองสปริงเพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบโค้งและสภาพสนามแต่ละแห่งและเหมาะสมกับผู้ขับขี่ การปรับสูง-ต่ำที่ฐานรองสปริงมันมีผลต่อค่า K สปริง มิฉะนั้นสตรัทปรับเกลียวรุ่นสูงๆจะเพิ่มฟังค์ชั่นปรับสูง-ต่ำที่แบร็คเก็ตมาให้เปลืองต้นทุนทำไม Pre load คือการเซ็ทสตรัทก่อนประกอบ Ride height คือการเซ็ทความสูงของรถที่แบร็กเก็ตหลังจากติดตั้งในรถแล้วเพื่อไม่ให้มีผลต่อความแข็งของสปริง Full-length adjustment system with movable lower bracket has been adopted, which enables the separate adjustment of the ride-height and pre-load. http://www.tein.co.jp/e/products/super_racing.html อ่านให้มากๆ ตอบให้ตรงประเด็น อย่าเพิ่งอวดตัว ผมเข้ามาตอบที่นี่ ผมไม่เคยดูถูกใครเพราะไม่มีใครรู้ทุกเรื่อง แต่ที่ผมสังเกตส่วนใหญ่พวกที่ชอบเกรียนจะโชว์โง่บ่อยๆ จากคุณ : คนรู้จริง - [ 6 ก.ย. 51 13:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ความคิดเห็นที่ 3   น้ำหล่อเย็น มันมาจากปั๊ปม์น้ำครับ ปั๊มป์น้ำหมุนด้วยแรงเครื่องโดยสายพาน ดับเครื่องแล้ว ปั๊มป์หมุนไม่ได้ครับ.. แนะนำ turbo timer ครับ ถ้าต้องการให้หน่วงเวลาดับเครื่องเอง จากคุณ : avalanche_fx    - [ 27 ส.ค. 51 06:25:30 ]   ######################################## ผมเห็นคำตอบแบบนี้ของคุณแล้วสงสารคนถาม ตัดต่อพัดลมโดยเทอร์โบไทเมอร์ คุณไม่ต้องลงทุนขนาดนั้นหรอก แค่ต่อพัดลมผ่านเทอร์โมสวิทช์ไปยังแบต เทอร์โมสวิทช์มันจะทำงานตามอุณหภูมิ พอเครื่องเย็นมันก็ตัดการทำงานพัดลมก็เท่านั้นเอง  ขอร้องอย่ามาตอบกระทู้ทางเทคนิคเลย คนอื่นๆที่ไม่รู้เรื่องเขาจะเดือดร้อน เพิ่มลิงค์กระทู้หน่อย เดี๋ยวจะหาว่าผมมั่ว http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6929414/V6929414.html แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 51 13:15:10 จากคุณ : คนรู้จริง - [ 6 ก.ย. 51 13:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 6 ก.ย. 51 19:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พัดลมหมุนโดยที่น้ำไม่ไหล มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยนี่คุณ... ส่วนที่คุณ พูดมาใน #12 ก็อยุ่ใน #11 แล้ว.. จากคุณ : avalanche_fx - [ 6 ก.ย. 51 21:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่มหน่อยนึงดีกว่า.. จากกระทู้นั้นจะเห็นว่ามีคนออกความเห้นก่อนหน้านั่นว่า เครื่องมันดับน้ำจะไหลเวียนได้ยังไง OK ถ้า วาวล์น้ำยังไม่ปิด thermosyphon ยังพอช่วยให้น้ำหมุนเวียนได้แต่... โคตรน้อยเลยครับ.. ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากพัดลม นอกจากลดแรงดันในระบบหม้อน้ำเท่านั้น.. เครื่องไม่ได้เย็นลงเท่าไหร่เลย.. เป็นการกระทำที่ไม่เห็นผลไม่ตรงจุด ผมเลยแนะนำว่าใช้ turbo timer แทนจะดีกว่า ถูกๆตัวนึง เจ็ดแปดร้อยก็มีครับ.. ไม่ได้แพงนัก.. ดังนั้นผมข้ามประเด็นที่จะตอบเจ้าของกระทู้โดยคำถามโดยตรงของเค้าไปแล้ว แต่ข้ามไปแนะนำให้กระทำในสิ่งที่สนองวัตถุประสงค์แทน ต้องการลดความร้อนเครื่องยนต์ที่ติดแก๊ส ผมมองว่าตรงวัตถุประสงค์ที่สุดที่ไม่ต้องดัดแปลงและ ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมมากก็คือแนะนำให้ไปติด turbo timer ง่ายสุดๆ แล้ว.. เดี๋ยว rep. หน้ามาว่ากันเรื่อง โช้ค กะ สปริงค์ต่อ.. ไปเปิดประตูรถให้เมียก่อน ดันลืม กุญแจไว้ในรถ แล้ว lock รถซะงั้น... จากคุณ : avalanche_fx - [ 6 ก.ย. 51 21:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อืมม เข้าอ่าน แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 51 07:54:59 จากคุณ : Ontjung - [ 7 ก.ย. 51 07:34:54 ]