ขออภัยที่วันนี้นอกเรื่อง(อีกแล้ว)
ขอขอบคุณ matichon.co.th
link ตามนี้ครับ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1223783513&grpid=00&catid=19
09.00 น. 12 ต.ค. นายเย็น แก้วมณี หรือ "ปู่เย็น" เฒ่าทรนง แห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี อายุ 108 ปี ได้นอนหมดสติ ไม่รู้สึกตัว เนื่องจากเกิดอาการช็อคอยู่บนเรือ แพทย์พยายามปั้มหัวใจช่วยชีวิต แต่ไม่สามารถช่วยปู่เย็นกลับมาได้ และเสียชีวิตในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ที่ผ่านมา นายเย็น แก้วมณี หรือ ปู่เย็น เฒ่าทรนง แห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี อายุ 108 ปี ซึ่งอาศัยอยู่บนเรือพระราชทาน จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้นอนหมดสติ ไม่รู้สึกตัว เนื่องจากเกิดอาการช็อค และหัวใจหยุดเต้นอยู่บนเรือ โดยพยาบาลผู้ดูแล ได้เข้าไปปลุก แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากปู่เย็นที่นอนแน่นิ่งอยู่ พยาบาลคนดังกล่าวจึงรีบนำร่างของปู่เย็นนำขึ้นรถพยาบาลพาส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี ซึ่งคณะทีมแพทย์ได้พยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตปู่เย็นเป็นเวลาประมาณ ชั่วโมงเศษ แต่สุดท้าย คณะแพทย์ ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของปู่เย็นเอาไว้ได้ และลงความเห็นว่า ปู่เย็นมีอาการหัวใจวายเนื่องจากอายุมากแล้ว ประกอบกับปู่เย็นมีโรคประจำตัว อาทิ เบาหวาน ปอดอักเสบ อยู่ก่อนหน้านี้
ด้านนายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ว่า ปู่เย็นได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยโรคหัวใจวาย หลังหมดสติและหัวใจหยุดเต้น โดยการดำเนินการต่อจากนี้ ผู้ว่าฯ เพชรบุรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อนานแล้ว ได้เคยคุยกับนางน้อย บุตรส่าวบุญธรรมของปู่เย็น และบุตรเขย ก็ได้ความว่า ปู่เย็นเคยบอกเอาไว้ว่า ถ้าเสียชีวิตก็ขอให้ลูกหลานนำไปประกอบพิธีฝัง ตามศาสนาอิlลาม ที่ต.ท่าแร้ง พร้อมระบุว่า ก่อนหน้านี้ ไม่มีเค้าลางถึงสิ่งที่บ่งบอกเหตุของการจากไปของปู่เย็นเลยแม้แต่น้อย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. เรือพระราชทานฯ ของปู่เย็น ได้เกิดจมเนื่องจากพายุฝนที่พัดกระหน่ำอยู่ที่เชิงบริเวณสะพานลำไย ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี ในแม่น้ำเพชรบุรี จนทำให้ปู่เย็นหนีออกจากเรือมาไม่ทัน และต้องลอยคออยู่ในแม่น้ำนานกว่า 15 นาที กระทั่งมีผู้พบเห็นและช่วยเหลือส่งโรงพยาบาล โดยชาวบ้านก็ได้ช่วยกันนำร่างปู่เย็นที่หนาวสั่น ขึ้นมาจากน้ำและส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี โดยตอนแรกปู่เย็นไม่ยอมไป กลับทรุดลงนั่งที่บริเวณบันไดพักขั้นสุดท้ายของสะพานใกล้เคียงจุดที่เรือล่มเนื่องจากห่วงใยทรัพย์สินและเป็นห่วงเรือพระราชทาน จากนั้นชาวบ้านได้ช่วยกันกู้เรือมาไว้ที่ริมตลิ่ง โดยปู่เย็นนั่งดูการกู้เรือด้วยอาการเศร้าสร้อยและมีคราบน้ำตาที่แก้มทั้งสองข้าง ก่อนที่บุรุษพยาบาลจะอุ้มปู่เย็นขึ้นรถพยาบาลนำตัวส่งตรวจอาการ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเรือของปู่เย็นไปซ่อมที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา และเพิ่งได้รับมอบเรือลำใหม่ไปเมื่อวันที 1 ต.ค. ที่ผ่านมานี้นั่นเอง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำปู่เย็นนั่งรถเข็นจากบ้านญาติ เดินทางไปที่เรือพระราชทาน โดยทันทีที่เห็นเรือปู่เย็นได้เอามือลูบเรือพร้อมหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะอุทานออกมาว่า "โอ้...ดีโว้ย ...ลำนี้ใหญ่กว่าลำเก่าโว้ย..สวยไปเลยโว้ย" พร้อมกับกล่าวว่า ไม่อยากนำเรือลำนี้ออกมาใช้ อยากจะเอาเก็บไว้เพราะเสียดาย ดีใจเป็นอย่างมาก รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็นห่วงเป็นใยในชีวิต มีรับสั่งซ่อมแซมเรือให้ในครั้งนี้ จะดูแลรักษาเรือลำนี้เป็นอย่างดี ไม่ให้เรือจมน้ำอีก ซึ่งทันทีที่ปู่เย็นลงไปนั่งในเรือ ปรากฏว่าปู่เย็นดีใจจนยิ้มแก้มปริ พร้อมนำพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มากอดแนบอก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำเรือพาปู่เย็นล่องไปตามลำน้ำไปยังที่จอดเรือของปู่เย็นบริเวณใต้เชิงสะพานลำไย ท่ามกลางชาวบ้านนับพันคนที่มายืนปรบมือให้กับผู้เฒ่าทรนง
แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 51 20:08:35
แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 51 11:37:21