ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่รู้รถกะบะ1ตันเสียภาษีพอๆกันครับ ไม่ได้เสียภาษีแบบรถนั่งที่ต้องเสียภาษีคิดตามซีซี ดังนั้นก็น่าจะเสียราวๆสามพันนั่นแหละ อยากรู้เวลาไปดูรถขอดูคู่มือจดทะเบียนดูครับ ว่าปีก่อนๆเขาเสียภาษีปีละเท่าไร จากคุณ : พุงใหญ่ - [ 18 พ.ย. 51 06:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไปหามาแล้วครับ *********************************** นอกเรื่องครับอยากทราบรายละเอียดการเสียภาษีรถกระบะ 4 ประตู ครับ อยู่ในระหว่างการตัดสินใจแต่ติดปัญหาเรื่องภาษี ขอบคุณครับ By : 4 WD [ 5 เม.ย. 46 - 16:38:58 น. ] ความเห็นที่ 1 จดได้สองแบบครับ แบบแรก จดเป็นทะเบียนไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รถเก๋ง) ทะเบียนสีดำ ค่าต่อทะเบียนประมาณ 6800 บาท สำหรับ 3000 cc แบบที่สอง รถตู้ 11 ที่นั่ง สีฟ้า เสียค่าทะเบียนปีละ 1600 บาท ใน cc เท่ากัน ถ้าจะจดแบบนี้ต้องใส่หลังคาสูง (สูงกว่าหลังคา เก๋งอีก ประมาณ 1 ฟุต) แล้วต้องมีที่นั่งแบบสองแถวด้วย ที่ผ่านมาเห็น หลายคัน แอบไปจดแบบรถตู้ หลายคัน ก็ต้องระวังหน่อยนะครับ อาจถูกตำรวจกวนได้บ่อยๆ แต่ถ้ามองในระยะยาว เรื่องประกันด้วย แบบรถตู้จะแพงกว่า ไม่ว่าชั้นหนึ่ง หรือชั้นสาม แล้วถ้าคำนวน ให้ไกลๆ ประมาณ ว่าชั้นหนึ่ง แล้วไม่เคลมเลย ประมาณ ปีที่ 4-5 ค่าใช้จ่ายโดยรวม ก็จะใกล้กันมากครับ From : Chanchai P. [ 5 เม.ย. 46 - 19:54:35 น. ] ความเห็นที่ 2 ไม่เข้าใจ ที่บอกว่าในระยะยาวจดแบบรถตู้ 11 ทีนั่ง ประกัน ชั้น 1 ชั้น 3 ไม่เคลมเลย ปีที่ 4-5 ค่าใช้จ่ายจะมากพอกัน รบกวน คุณ Chanchai P. จะอธิบายหน่อยครับ ผมก็กะจะออก 4 ประตูอยู่ ขอบคุณครับ From : 4 wd. [ 5 เม.ย. 46 - 21:04:11 น. ] ความเห็นที่ 3 ผมขออธิบายแทนนะครับ เพราะผมเพิ่งซื้อ กระบะ4ประตูมา 1. จดแบบเก๋ง ค่าภาษีแพงปีละ6พันกว่า แต่ประกันภัยจะถูกกว่า ประกันปีละราวๆ16000 ถ้าเราขับดีดี ให้ประกันได้ส่วนลดไปเรื่อยๆก็ประหยัดได้มาก ถ้าจดแบบเก๋งนี่ ป้ายจะเป็น ขาว ตัวอักษรดำ ขับไปไหน ตำรวจก็ไม่กวน 2. จดแบบรถโดยสาร เซลสามารถทำให้เราได้ แต่ตามหลักการต้องใส่หลังคาสูงกว่าหลังคารถ30ซม. มีเบาะด้านหลังอีก2แถว ภาษีจะถูก แต่ประกันจะแพงกว่านิดหน่อย ทะเบียนจะสีขาว ตัวหนังสือฟ้า เวลาไปไหนมาไหน ตำรวจเห็นว่าป้ายสีนี้ แต่ไม่มีหลังคาสูง ก็จะโดนเรียก เวลาครบ7ปี ต้องตรวจสภาพ ก้ต้องทำรถตามหลักเพื่อไปตรวจ ก็ยุ่งยากหน่อย ผมจดแบบเก๋งไป เพราะจะได้ม่มีปัญหาภายหลัง ถ้าผมบอกอะไรผิดตรงไหน ใครทราบ ช่วยแก้ด้วยนะครับ พอดีผมรู้มา ประมาณนี้ From : คนขับกระบะ4ประตู [ 5 เม.ย. 46 - 22:58:56 น. ] จากคุณ : พุงใหญ่ - [ 18 พ.ย. 51 06:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บัญชีอัตราภาษีรถตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 ตัวอย่างที่ 1  รถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รถเก๋ง) ขนาดเครื่องยนต์ 1331 ซีซี   เวลาคำนวณภาษี ขนส่งเค้าจะคิดจากขนาดเครื่องยนต์ ให้พวกเราดูที่เอกสารหน้าที่ 4               วิธีการคิด    1. 600 ซีซี แรก ซีซีละ 0.5      = 600x0.5  =  300  บาท                            2.  601-1800 ซีซีๆ 1.50   = (1331-600)x1.50  = 731x1.50  =  1,096.50  บาท                            3.  คิดเป็นภาษี = 300 + 1,096.50  = 1,396.50  บาท                สรุป       เราต้องจ่ายภาษีรถคันนี้ 5 ปีๆ ละ   1,396.50 บาท                            ปีที่   6 ลด 10%  = 1,396.50-10%  =  1,256.85  บาท                            ปีที่   7 ลด  20% = 1,396.50-20%  =  1,117.20  บาท                            ปีที่   8 ลด  30% = 1,396.50-30%  =      977.55 บาท                            ปีที่   9 ลด  40% = 1,396.50-40%  =      837.90 บาท                            ปีที่ 10 ลด  50% = 1,396.50-50%  =      698.25 บาท                            ปีที่  11 => ตลอดอายุการใช้รถเสียภาษีปีละ   698.25 บาท ตัวอย่างที่ 2   รถบรรทุกส่วนบุคคล  น้ำหนักรวม   1,400 กก. เวลาคำนวณภาษี ขนส่งเค้าจะคิดจากน้ำหนักของรถ ให้พวกเราดูที่เอกสารหน้าที่ 3 ตรงคอลัมสุดท้าย               วิธีการคิด   ดูตรงช่องน้ำหนักรถ  1,251 - 1,500 กก. คิดภาษีปีละ     =   900 บาท ตัวอย่างที่ 3   รถนั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง (รถตู้)  น้ำหนักรวม   1,900 กก. เวลาคำนวณภาษี ขนส่งเค้าจะคิดจากน้ำหนักของรถ ให้พวกเราดูที่เอกสารหน้าที่ 3 ตรงคอลัมแรก               วิธีการคิด   ดูตรงช่องน้ำหนักรถ  1,751 - 2,000 กก. คิดภาษีปีละ     =   1,600 บาท ตัวอย่างที่ 4 รถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รถพวก 4 ประตู, Sport Rider, Mu7) ขนาดเครื่องยนต์ 2,494 ซีซี   เวลาคำนวณภาษี ขนส่งเค้าจะคิดจากขนาดเครื่องยนต์ ให้พวกเราดูที่เอกสารหน้าที่ 4  รถกลุ่มนี้ภาษีจะค่อนข้างแพง แต่ พ.ร.บ. ถูกครับแค่ 752.21 บาทเองครับ               วิธีการคิด    1. 600 ซีซี แรก ซีซีละ  0.5   บาท   = 600x0.5  =  300  บาท                            2.  601-1800 ซีซีๆ 1.50  บาท   = (1800 - 600)x1.50  = 1200 x 1.50  =  1,800  บาท                            3.  เกิน 1800   ซีซีๆ  4       บาท   = (2494 - 1800) x 4  = 694 x 4.00  =   2,776   บาท                            4.  คิดเป็นภาษี = 300 + 1,800 +2,776  = 4,876  บาท                สรุป       เราต้องจ่ายภาษีรถคันนี้ 5 ปีๆ ละ   4,876 บาท                            ปีที่   6 ลด 10%  = 4,876-10%  =  4,388.40  บาท                            ปีที่   7 ลด  20% = 4,876-20%  =  3,900.80  บาท                            ปีที่   8 ลด  30% = 4,876-30%  =  3,413.20 บาท                            ปีที่   9 ลด  40% = 4,876-40%  =   2,925.60 บาท                            ปีที่ 10 ลด  50% = 4,876-50%  =  2,438   บาท                            ปีที่  11 => ตลอดอายุการใช้รถเสียภาษีปีละ   2,438   บาท ก้อดูตามนี้ก้อแล้วกัน แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 51 07:02:41 จากคุณ : พุงใหญ่ - [ 18 พ.ย. 51 06:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้ว ข้อมูลแน่นปึ้ก ขอบคุณหลายๆ ครับ จากคุณ : zerxxai - [ 18 พ.ย. 51 07:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 6,880  บาท/ปี รวม พรบ.   (3,000 4*4) ประกันปีแรก 17,000  ปี2 15,000  ป๊นี้ 14,000  แต่ปีนี้จะเครมแล้ว จากคุณ : arnpd - [ 18 พ.ย. 51 07:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ได้ข้อมูลดี ๆ เพิ่มขึ้นเลยอ่ะ  ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : Kibkae001 - [ 18 พ.ย. 51 09:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าจดทะเบียนบริษัท หจก. หสน. ฯลฯ ค่าเสื่อม น้ำมัน ซ่อม ค่าต่อทะเบียน ประกัน เป็นค่าใช้จ่ายได้ครับ จากคุณ : รถเชิงพานิชย์ - [ 18 พ.ย. 51 12:07:03 A:124.120.185.94 X: TicketID:191799 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รถกระบะ แค็บ - ตอนเดียว ขับ2 หรือขับ4 เสียเท่ากัน ไม่กัดซีซี 4 ประตู - แวน เสียอัตราเดียวกันกะรถเก๋ง ถ้าไปจดเป็นป้ายฟ้า คิดค่าตำรวจครังละ 200 ขึ้นไป จากคุณ : pociko - [ 18 พ.ย. 51 13:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อมูลดีมาก ๆ ครับ จากคุณ : พุงพลุ้ย - [ 18 พ.ย. 51 23:16:19 ]