ความคิดเห็นที่ 1 2 กฎหมายที่ใช้บังคับ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43  ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถ (1) ในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ (2) ในขณะเมาสุรา  หรือของเมาอย่างอื่น ฯลฯ มาตรา 142  เจ้าพนักงานจราจร  หรือ  เจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผุ้ขับขี่หยุดรถในเมื่อ (1) รถนั้นมีสภาพไม่ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 (2) เห็นว่าผู้ขับขี่  หรือ  บุคคลใดในระนั้นได้ฝ่าฝืน  หรือ  ไม่ปฏิบัติตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้  หรือ  กฎหมายอันเกี่ยวกับรถนั้น ฯ “ในกรณีทีเจ้าพนักงานจราจร  พนักงานสอบสวน  หรือ  พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นว่าผู้ขับขี่ฝ่าฝืนมาตรา 43(1)  หรือ (2)  ให้เจ้าพนักงานจราจร  พนักงานสอบสวน  หรือ  พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ดังกล่าวหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ  หรือเมาสุรา  หรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่ ในกรณีที่ผู้ขับขี่  ตามวรรคสองบไม่ยอมให้ทดสอบ  ให้เจ้าพนักงานจราจร  พนักงานสอบสวน  หรือ  พนักงานเจ้าหน้าที่มี่อำนาจกักตัวผู้นั้นไว้ดำเนินการทดสอบได้  ภายในระยะเวลาเท่าที่จะเป็นแห่งกรณี  เพื่อให้การทดสอบเสร็จสิ้นไปโดยเร็ว  และเมื่อผู้นั้นยอมให้ทดสอบแล้ว  หากผลการทอสอบปรากฏว่าไม่ได้ฝ่าฝืนมาตรา 43(1)  หรือ  (2) ก็ให้ปล่อยตัวไปทันที การทดสอบตามมาตรานี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์  และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116  ตอนที่ 20 ก.  ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2542) จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 3 บทกำหนดโทษ มาตรา 160  วรรคสาม  ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรา 43 (1) (2) ฯลฯ  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน  หรือปรับตั้งแต่ 2,0000 บาท ถึง 10,000 บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ ความหมายของคำที่ควรทราบ 1. การจราจร : หมายความว่า  การใช้ทางของผู้ขับขี่  คนเดินเท้า  คนที่จูง  ที่ขี่  หรือ  ที่ไล่ต้อนสัตว์ 2. ทางร่วมทางแยก : พื้นที่ที่ทางเดินรถตั้งแต่สองสายตัดผ่านกัน  รวมบรรจบกัน  หรือ  ติดกัน 3. เขตปลอดภัย : ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายไว้ให้เห็นชัดเจนทุกเวลาสำหรับให้คนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอ  หรือให้คนที่ให้คนที่ขึ้นลงรถหยุดรอก่อนจะข้ามไป 4. ที่คับขัน : ทางที่มีการจราจรพลุกพล่าน  หรือ  มีสิ่งกีดขวางหรือ ในที่ซึ่งมองเห็น  หรือ  ทราบได้ล่วงหน้าว่าอาจเกิดอันตราย  หรือความเสียหายแก่คน  หรือ  รถได้ง่าย การใช้รถ 1. ห้ามนำรถดังต่อไปนี้ไปใช้ในทางเดินรถ   - รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง  หรือ  อาจเกิดอันตราย  หรือ  อาจทำให้เสื่อมเสียสุขภาพอนามัยแก่ผู้ใช้ เช่น มีเสียงดังเกิน 85 เดซิเบล เอ  หรือมีควันดำเกิน 40 เปอร์เซ็นต์ - รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายเลขทะเบียน - รถที่เกิดเสียอื้ออึง  หรือ  มีสิ่งลากถูไปบนทางเดินรถ 2. การใช้สัญญาณไฟ  หรือ  เสียงสัญญาณของรถ  ในเวลาที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอที่จะมองเห็นคน  รถ  หรือ  สิ่งกีดขวางในทางโดยชัดเจนภายในระยะ 150 เมตร  ผู้ขับขึ่ซึ่งขับรถในทางต้องเปิดไฟหน้าและไฟท้ายรถ   รถยนต์  หรือ  รถจักรยานยนต์ให้ใช้เสียงแตรและต้องได้ยินในระยะไม่น้อยกว่า 60 เมตร  ผู้ขับขี่จะใช้เสียงสัญญาณได้เฉพาะเมื่อจำเป็น  หรือ  เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น  ไม่ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ  เสียงไซเรน เสียงสัญญาณที่เป็นเสียงนกหวีด  เสียงแตกพร่า 3. รถจักรยานยนต์ต้องมีเครื่องไฟเลี้ยวกระพริบ จำนวน 4 ดวง 4. โคมไฟท้ายรถต้องใช้ไฟแสงแดง  และมีแสงสว่างสามารถมองเห็นได้ในระยะ 150 เมตร จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 4 5. รถจักรยานยนต์ให้บรรทุกของได้ไม่เกิน 50 กิโลกรัม  และให้นั่งซ้อนท้ายได้เพียงคนเดียว 6. ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามสัญญาณจราจร  หรือ  เครื่องหมายจราจรที่ปรากฏข้างหน้าในกรณีต่อไปนี้ - สัญญาณจราจรไฟแดง  หรือ  เครื่องหมายจราจรสีแดงที่มีคำว่า  “หยุด”  ให้ผู้ขับขี่หยุดรถหลังเส้นให้หยุด - สัญญาณจราจรไฟสีเหลือง  ให้ผู้ขับขี่เตรียมหยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด  เพื่อเตรียมปฏิบัติตามสัญญาณจราจร  ไฟสีแดง  หรือ  เครื่องหมายจราจรสีแดงที่มีคำว่า “หยุด” เว้นแต่ผู้ขับขี่เลยเส้นให้หยุดไปแล้วให้เลยไปได้  ******** - สัญญาณจราจรไฟสีเขียว  หรือ  เครื่องหมายจราจรสีเขียวที่มีคำว่า “ไป” ให้ผู้ขับขี่ขัยรถต่อไปได้ เว้นแต่จะมีเครื่องหมายจราจรกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น 7. สัญญาณจราจรไฟกระพริบสีแดง  ให้หยุดหลังเส้นให้หยุดรถ 8. สัญญาณจราจรไฟกระพริบสีเหลืองอำพัน  ให้ผู้ขับขี่เตรียมหยุดรถหลังเส้นให้หยุดรถทันที 9. ต้องปฏิบัติตามสัญญาณจราจรของพนักงาน  แม้จะต่างจากเครื่องหมาย  หรือ สัญญาณจราจรที่ปรากฏไว้ การขับรถ   1. ต้องระมัดระวังไม่ให้รถชน  หรือ  โดนคนเดินเท้าไม่ว่าจะอยู่ส่วนหนึ่งส่วนใดของทาง  และต้องใช้สัญญาณเตือนคนเดินเท้าให้รู้ตัวเมื่อจำเป็น 2. ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้ายและไม่ล้ำกึ่งกลางทางเดินรถ  เว้นแต่ - ด้านซ้ายมีสิ่งกีดขวาง  หรือ  ถูกปิดการจราจร - เป็นทางเดินรถทางเดียว - ทางเดินรถนั้นกว้างไม่ถึง 6 เมตร จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 5 3.  ในกรณีทางเดินรถจัดแบ่งช่องทางในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ล่องทางขึ้นไป  ต้องขับรถใน ช่องซ้ายสุด   เว้นแต่ -  ในช่องทางเดินรถมีสิ่งกีดขวาง  หรือ  ถูกปิดการจราจร -  เป็นทางเดินรถทางเดียว -  จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้อง  เมื่อเข้าใกล้ทางร่วมทางแยก -  เมื่อจะแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่น -  เมื่อผู้ขับขี่รถด้วยความเร็วสูงกว่ารถในช่องเดินรถด้านซ้าย 4.  ในกรณีที่ทางเดินรถจัดแบ่งช่องทางในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องขึ้นไป  ต้องขับรถในช่องทางเดินรถด้านซ้ายสุด  ผู้ขับขี่รถบรรทุก  รถบรรทุกคนโดยสาร  รถจักยานยนต์ต้องขับรถให้ใกล้ช่องทางเดินรถด้านซ้าย   ยกเว้น  รถบรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม  และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ 5.  รถที่มีความเร็วช้า  รถที่มีความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถคันอื่นที่ขับไปในทิศทางเดียวกันต้องขับให้ใกล้ขอบทางด้านซ้ายเท่าที่จะทำได้ 6.  ในทางเดินรถที่แคบและไม่อาจสวนกันได้อย่างปลอดภัย  เมื่อขับรถสวนกันผู้ขับขี่รถคันที่ใหญ่กว่าต้องหยุดรถให้ชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อให้รถคันที่เล็กกว่าผ่านไปได้ 7.  ในทางเดินรถที่มีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้า  ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถ  หรือ  หยุดรถเพื่อให้รถคันที่สวนมาผ่านไปได้ 8.  ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้าพอสมควรในระยะที่จะหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อจำเป็นต้องหยุดรถ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 6 9.  ห้ามมิให้ขับรถในกรณีต่อไปนี้ -  ในขณะหย่อนความสามารถ -  ในขณะเมาสุรา  หรือ  เมาอย่างอื่น -  ในลักษณะกีดขวางการจราจร -  โดยประมาท  หรือ  น่าหวาดเสียว -  คร่อม  หรือ  ทับเส้น  หรือ  แนวแบ่งช่องเดินรถ  เว้นแต่เมื่อเปลี่ยนช่องเดินรถ  เลี้ยวรถ  หรือกลับรถ -  บนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร -  โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย  หรือ ความเดือดร้อนของผู้อื่น การให้สัญญาณไฟของผู้ขับขี่ - เมื่อหยุดรถผู้ขับขี่ต้องให้สัญญาณสีแดงที่ท้ายรถ - เมื่อจะเลี้ยวรถ  หรือ  เปลี่ยนช่อบงทางเดินรถ  ผู้ขับขี่ต้องให้สัญญาณกระพริบสีแดง  หรือ  เหลืองอำพันที่ติดอยู่ท้ายรถไปในทิศทางที่จะเลี้ยว  หรือ  เปลี่ยนช่องทางเดินรถ - เมื่อจะให้รถคันอื่นแซง  หรือ  ผ่านขึ้นหน้า  ผู้ขับขี่ต้องให้สัญญาณกระพริบสีแดง  หรือ  เหลืองอำพันที่ติดอยู่ท้ายรถทางด้านซ้ายของรถ - ผู้ที่จะเลี้ยวรถให้รถคันอื่นแซง  หรือ  ผ่านขึ้นหน้าเปลี่ยนช่องเดินรถ  ลดความเร็วของรถ  หยุดรถ  หรือ  จอด  ต้องให้สัญญาณด้วยมือ  และแขน  หรือ  ไฟสัญญาณให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่า 60 เมตร - ผู้ขับขี่ต้องให้สัญญาณด้วยมือและแขน  หรือ  ไฟสัญญาณก่อนที่จะเลี้ยวรถ  เปลี่ยนช่องทางเดินรถ  ลดความเร็วของรถ  หยุดรถ  หรือ  จอดรถ  เป็นระยะทางยาวไม่น้อยกว่า  30 เมตร จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 7 การขับแซงและผ่านขึ้นหน้ารถคันอื่น 1. ในทางเดินรถที่ไม่ได้แบ่งช่องบเดินรถไว้  ผู้ขับขี่ที่ประสงค์จะแซง  หรือ  ผ่านขึ้นหน้ารถคันอื่น  ต้องให้สัญญาณกระพริบไฟหน้าหลายครั้ง  หรือ  ให้สัญญาณไฟเลี้ยวขวา  หรือ  ให้เสียงสัญญาณดังพอที่จะให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถคันหน้าให้สัญญาณตอบ  และเมื่อเห็นว่าไม่มีการขีดขวางรถอื่นที่กำลังแซงแล้วจึงจะแซงขึ้นหน้าได้ 2. การแซงต้องแซงด้านขวา  เมื่อขึ้นหน้ารถที่ถูกแซงเพียงพอแล้วจึงขับชิดซ้ายของทางเดินรถ 3. ผู้ขับขี่จะแซงด้านซ้ายได้ในกรณีต่อไปนี้ - รถที่จะถูกแซงกำลังจะเลี้ยวขวา  หรือ  ให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา - ทางเดินรถนั้นจัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องจราจรขึ้นไป 4. ห้ามขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่น - เมื่อรถกำลังขึ้นทางชัน  ขึ้นสะพาน  หรือ  อยู่ในทางโค้ง - ภายในระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางข้าม  ทางร่วม  ทางแยก  วงเวียน  หรือ  ทางรถไฟ - เมื่อมีหมอก  ฝน  ฝุ่น  หรือ ควัน  จนทำให้ไม่อาจเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะ 60 เมตร - เมื่อเข้าที่คับขัน  หรือ  เขตปลอดภัย 5. เมื่อได้รับสัญญาณขอแซงขึ้นหน้าจากรถคันหลัง  ผู้ที่ขับที่รถที่มีความเร็วช้า  หรือ  ใช้ความเร็วต่ำกว่ารถคันอื่นที่ขับไปในทิศทางเดียวกัน  ต้องยอมให้รถคันที่ใช้ความเร็วสูงกว่าผ่านขึ้นหน้า  และผู้ที่ขับที่รถที่ถูกขอทางต้อง - ให้สัญญาณเลี้ยวซ้ายตอบ (ยกไฟเลี้ยวที่ติดอยู่ด้านซ้ายของรถ  หรือ/ให้สัญญาณเลี้ยวซ้ายด้วยมือและแขน) - ลดความเร็ว - ขับรถชิดด้านซ้ายของทางเดินรถเพื่อให้รถที่จะแซงผ่านขึ้นหน้าได้โดยปลอดภัย จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 8 การออกรถ  การเลี้ยวและการกลับรถ 1. การออกรถจากที่จอด  ถ้ามีรถจอด  หรือ  มีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้า  ผู้ขับขี่ต้องให้สัญญาณ  (สัญญาณมือและแขน  หรือ  ไฟสัญญาณ)  และจะขับรถไปได้เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรของรถอื่น 2. การเลี้ยวซ้าย  ให้ปฏิบัติดังนี้ - ให้ผู้ขับขี่ขับรถในช่องเดินรถสำหรับที่จะเลี้ยวซ้ายไม่น้อยกว่า 30 เมตร 3. การเลี้ยวขวา  ให้ปฏิบัติดังนี้ - ให้ขับชิดด้านขวาสุดของทางเดินรถก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร - หากทางเดินรถที่มีพนักงานและเจ้าหน้าที่แสดงสัญญาณจราจรด้วยมือและแขน  ให้ผู้ขับรถเลี้ยวขวาผ่านไปได้โดยไม่ต้องอ้อมพนักงาน - กรณีที่รถอยู่ในทางร่วมทางแยก  ต้องให้รถที่สวนมาในทางเดินรถทางเดียวกันผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อนจึงจะเลี้ยวขวาได้ - การเลี้ยวรถ  ผู้ขับขี่ต้องระมัดระวังและต้องหยุดรถให้ทางแก่ผู้ที่กำลังข้ามทางและรถที่กำลังผ่านทางแยกจากทางด้านอื่นก่อน - กรณีที่รถเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาพร้อมกัน  ให้รถเลี้ยวซ้ายให้ทางแก่รถเลี้ยวขวาก่อน - กรณีที่เลี้ยวอ้อมวงเวียน  หรือ  เกาะ  ต้องขับรถอ้อมทางซ้ายของวงเวียน  หรือ  เกาะนั้น  ห้ามเลี้ยวรถในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายห้ามเลี้ยว  หรือ  ห้ามกลับรถ 4. การกลับรถ  หรือ  เลี้ยวรถทางขวาในทางเดินรถที่สวนกันได้ต้องไม่กลับรถ  หรือ  เลี้ยวรถทางขวาในเมื่อมีรถคันอื่นสวน  หรือ  ตามมาในระยะน้อยกว่า 100 เมตร  เว้นแต่ปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจร 5. ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ - เลี้ยวรถ  หรือ  กลับรถในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายห้ามเลี้ยวขวา  หรือ  ห้ามกลับรถ - กลับรถที่เขตปลอดภัย  ที่คับขัน  หรือ  บนสะพาน - กลับรถที่ทางร่วมทางแยก  เว้นแต่มีเครื่องหมายจราจรให้กลับรถได้ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 9 การหยุดรถและการจอดรถ 1. การหยุดรถ  หรือ  การจอดรถในทางเดินรถ  ต้องให้สัญญาณก่อนที่จะหยุด  หรือ  จอด  ในระยะไม่น้อยกว่า 30 เมตร  และเห็นว่าไม่เป็นการกีดขวางการจราจร 2. ต้องจอดรถทางด้านซ้ายของทางเดินรถและต้องจอดขนานชิดกับขอบทาง  หรือ  ไหล่ทางในระยะห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร 3. การจอดรถในทางเดินรถ  เมื่อผู้ขับขี่ไม่อาจควบคุมรถนั้น ผู้ขับขี่ต้องหยุดเครื่องยนต์และห้ามล้อไว้ 4. การจอดรถในทางที่ลาด  หรือ  ชัน  ผู้ขับขี่ต้องหันล้อเข้าหาขอบทาง 5. ห้ามหยุดรถในบริเวณต่อไปนี้ - บนทางเท้า - บนสะพาน  หรือ  ในอุโมงค์ - ใสทางร่วมทางแยก - ในเขตที่มีเครื่องหมายห้ามหยุดรถ - ในเขตปลอดภัย - ในลักษณะกีดขวางการจราจร จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 10 6. ห้ามจอดรถในบริเวณต่อไปนี้ - บนทางเท้า - บนสะพาน  หรือ  อุโมงค์ - ในทางร่วมทางแยก  หรือ  ในระยะ 10 เมตรจากทางร่วมทางแยก - ในเขตที่มีเครื่องหมายห้ามจอดรถ - ในทางข้าม  หรือ  ในระยะ 3 เมตรจากทางข้าม - ในระยะ 10 เมตรจากที่ติดตั้งสัญญาณจราจร - ในระยะ 3 เมตรจากตู้ไปรษณีย์ - ในระยะ 15 เมตรจากทางรถไฟ - ในระยะ 15 เมตรก่อนถึงป้ายรถประจำทางและเลยไปอีก 3 เมตร - ตรงปากทางเข้าออกอาคาร  หรือ  ทางเดินรถ  หรือ  ในระยะ 5 เมตรจากปากทางเดินรถ - ซ้อนกันกับรถคันที่จอดอยู่ก่อนแล้ว - ในที่คับขัน - ในลักษณะกีดขวางการจราจร ข้อกำหนดเกี่ยวกับความเร็วของรถ 1. รถบรรทุกที่มีน้ำหนักรวมเกิน 1,200 กิโลกรัม  ให้ขับรถในเขต กทม.  เมืองพัทยา   เทศบาล  ไม่เกิน 60 กม./ชม.  หรือ  นอกเขตดังกล่าวไม่เกิน 80 กม./ชม. 2. รถอื่นนอกจากที่ระบุในข้อ 1.  ให้คนขับในเขต กทม.  เมืองพัทยา  เทศบาล ไม่เกิน 80 กม./ชม.  หรือ  นอกเขตดังกล่าวไม่เกิน 80 กม./ชม. 3. ในกรณีที่มีเครื่องหมายจราจรกำหนดอัตราความเร็วต่ำกว่าที่กำหนดไว้ในข้อ 1. และ 2.  ให้ขับไม่เกินอัตราความเร็วที่กำหนดไว้นั้น จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 11 การขับรถผ่านทางร่วมทางแยก  หรือ  วงเวียน 1. ผู้ขับขี่ขับรถมาถึงทางร่วมทางแยกที่ไม่มีสัญญาณจราจร  หรือ  พนักงาน  เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจร  ให้ปฏิบัติดังนี้ - ถ้ามีรถอื่นอยู่ในทางร่วมทางแยกให้รถในทางร่วมทางแยกนั้นผ่านไปก่อน - ถ้ามาถึงทางร่วมทางแยกพร้อมกันและไม่มีรถอยู่ในทางร่วมทางแยก  ต้องให้รถที่อยู่ทางด้านซ้ายผ่านไปก่อน  เว้นแต่ในทางร่วมทางแยกนั้นมีทางเดินรถทางเอกตัดผ่านทางโท  ให้รถในทางเอกขับผ่านไปก่อน 2. ผู้ขับขี่รถมาถึงวงเวียนที่ไม่ได้ติดตั้งสัญญาณจราจร  หรือ  เครื่องหมายจราจร  ให้รถที่อยู่ในวงเวียนทางด้านขวาผ่านไปก่อน 3. รถที่ออกจากทางส่วนบุคคล  หรือ  บริเวณอาคาร  เมื่อจะผ่าน  หรือ  เลี้ยวเข้าทางเดินรถที่ตัดผ่านต้องหยุดให้รถที่กำลังแล่นอยู่ผ่านไปก่อน จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 12 ข้อควรทราบอื่น ๆ 1. รถฉุกเฉิน  ได้แก่ - รถที่ได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ใช้สัญญาณแสงวับวาบ  หรือให้ใช้เสียงสัญญาณไซเรน  เช่น  รถดับเพลิง  รถพยาบาล 2. เมื่อเห็นรถฉุกเฉินผู้ขับขี่จะต้องหยุดรถ  หรือ  จอดชิดขอบทางด้านซ้าย  แต่ห้ามหยุด  หรือ  จอดในทางร่วมทางแยก 3. การลากรถ  หรือ  จูงรถที่ไม่สามารถใช้พวงมาลัย  หรือ  ห้ามล้อได้  ให้ใช้วิธียกหน้า  หรือ  รถที่ถูกลากติดกับรถลาก 4. สายพ่วงที่ใช้ลาก  หรือ  จูงรถต้องมีความยาวจากส่วนท้ายสุดของรถที่ลากไม่น้อยกว่า 3 เมตร  แต่ไม่เกิน 5 เมตร 5. ห้ามขับรถเข้าเขตปลอดภัย เว้นแต่กรณีจำเป็นและได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ 6. ห้ามมิให้ผู้ขับรถยนต์ยอมให้ผู้อื่นนั่งแถวหน้าตอนเดียวกับที่นั่งคนขับเกิน 2 คน 7. ห้ามขับรถโดยใช้เกียร์ว่าง  หรือ เหยียบครัชในขณะที่ขับรถลงตามทางลาด  หรือ ไหลเขา 8. ห้ามขับรถตามหลังรถฉุกเฉินในระยะต่ำกว่า 50 เมตร 9. ห้ามขับรถผ่านเข้าไป  หรือ  จอดในบริเวณทีมีการปฏิบัติการดับเพลิง 10. ห้ามแข่งรถในทาง  เว้นแต่จะได้รับอนุญาต 11. เมื่อผู้ขับขี่ได้รับใบส่งของเจ้าพนักงานจราจรจะต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 7 วัน 12. กรณีใบอนุญาตขับรถชำระ  หรือ  เสียหายต้องยื่นคำขอใบแทนต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน  นับแต่วันทราบเหตุ 13. ขณะขับรถนอกจากจะต้องมีใบอนุญาตติดตัวแล้วจะต้องมีสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถด้วย 14. ในการขอจดทะเบียนรถหื่นคำขอต่อนายทะเบียนในท้องที่ที่ตนเองมีภูมิลำเนา 15. หากเจ้าของรถไม่เสียภาษีประจำปีในเวลาที่กำหนดจะต้องชำระเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 16. รถที่จดทะเบียนแล้วหากมีการเปลี่ยนแปลงสีของรถให้ผิดไปจากที่จดทะเบียนไว้  เจ้าของรถจะต้องแจ้งนายทะเบียนภายใน 7 วัน  นับแต่วันที่เปลี่ยนแปลง 17. รถที่มีไว้เพื่อขาย  หรือ ซ่อม  อนุญาตให้ขับได้ในเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 13 รถแท็กซี่ 1. ห้ามมิให้ผู้ขับรถแท็กซี่รับบรรทุกคนโดยสานเกินจำนวนที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ 2. การนับจำนวนคนโดยสารให้ถือว่าเด็กอายุไม่เกิน 10 ปีจำนวน 2 คน  เท่ากับคนโดยสาร 1 คน 3. ในขณะขับรถห้ามมิให้ผุ้ขับขี่แท็กซี่ - สูบบุหรี่  เปิดวิทยุ  หรือ  กระทำด้วยประการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความรำคาญแก่คนโดยสาร - จับพวงมาลัยด้วยมือเพียงข้างเดียว - ใช้เสียงสัญญาณแตรเพื่อเร่งรถอื่น - แซง  หรือ  ตัดหน้ารถอื่นในลักษณะฉวัดเฉวียนเป็นที่น่าหวาดเสียวว่าจะเกิดอันตราย - ขับรถเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้อื่น - รับคนโดยสารในบริเวณที่มีเครื่องหมายห้ามรับ - กล่าววาจาไม่สุภาพต่อคนโดยสาร 4. ผู้ขับแท็กซี่ต้องแต่งกายและมีเครื่องหมายเย็บติด  หรือ  ปักไว้ตามที่อธิบดีกำหนด ----------------------------------------------------------- *** ผู้เขียน (เท่ง หงส์แดง) ได้คัดย่อบางส่วนเพื่อเหตุผลทางพื้นที่ของเวบ ผิดพลาดประการใด ขอน้อมรับด้วยความสำนึก  ประโยชน์อื่นใดอันจะเกิดขอมอบสำหรับเพื่อน ๆ ผู้อยู่หลังพวงมาลัยทุกท่าน จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตื่นเช้าจัง เป็นข้อมูลที่ดีค่ะ เหมือนได้ไปอบรมมาเองเลย จากคุณ : dizza - [ วันพ่อแห่งชาติ 08:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะ.. ที่อยู่บนถนนส่วนใหญ่นี่ เหมือนจะไม่เคยผ่านตากันเลยนะเนี่ย จากคุณ : .. (ช่างปั้นอากาศ) - [ วันพ่อแห่งชาติ 09:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้ใบขับขี่มาจากโครงการนี้เหมือนกันค่ะ จากคุณ : giguru - [ วันพ่อแห่งชาติ 10:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เยี่ยมครับ ขอบคุณครับคุณเท่ง เก็บเข้าคลังครับผม จากคุณ : dna-design - [ วันพ่อแห่งชาติ 16:09:54 ]