ความคิดเห็นที่ 1 เทอร์โบอาจจะกลับญี่ปุ่นก่อนกำหนดครับ ควร worm down เพื่อลดอุณหภูมิแกนเทอร์โบก่อนครับ จากคุณ : waiprasert - [ 20 ธ.ค. 51 09:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนใหญ่ถ้าวิ่งทางไกลมากๆ เค้าให้ติดเครื่องทิ้งไว้ซักพักก่อนดับเครื่องครับ...เพื่อไม่ให้ Turbo พังไวครับ จากคุณ : นายHUT - [ 20 ธ.ค. 51 09:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ารีบดับทำธุระ หาturbo timer มาติดก็ดีครับ จากคุณ : ณปัณณ์ - [ 20 ธ.ค. 51 09:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 CRV Vios Big Bike ที่บ้านผม ทุกคัน ผมกลับมาจะติดเครื่องทิ้งไว้ สัก 5 นาทีครับ วอร์มดาวน์ มันก่อน จากคุณ : D610 - [ 20 ธ.ค. 51 09:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รถสมัยใหม่ เทอร์โบ hi tech ติดตั้งจากโรงงาน ผมว่าไม่น่ามีปัญหานะครับ ถ้าเป็นเทอร์โบ ติดทีหลัง อาจจะพังเอาได้.... จากคุณ : ลำไผ่ บ้านท่า - [ 20 ธ.ค. 51 09:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เทอร์โบติดโรงงาน ไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ ทำไปเหอะ คิดมาก จากคุณ : นามแฝงที่จะใช้ในเว็บ - [ 20 ธ.ค. 51 09:50:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หลักการเป็นอย่างนี้ ถ้าคุณวิ่ง Full load ย้ำว่า Full load หรือใช้โหดเต็มที่ ความร้อนสะสมมีมาก มันยังไม่ถ่ายเทไปที่น้ำ ตัวอย่าง ให้คุณเอาเหล็กเผาไฟร้อนๆ โยนลงน้ำ ตูม คุณจะเห็นรอบๆ แท่งเหล็กร้อน น้ำจะเดือด เป็นฟองพุ่งขึ้นมา แต่ถ้าคุณเอาเหล็กร้อนๆ แกว่งไปมาในน้ำ น้ำรอบๆ แท่งเหล็กจะวนมารับความร้อน การระบายความร้อนจากเหล้กก็ดีขึ้น ... แค่นี้เอง รถที่คุณวิ่ง 120 แค่นี้ จิบจ้อย ถ้าอ้างเรื่องเทอร์โบ เขากลัวว่า เทอร์โบหมุนเร็วๆ ความเร็วรอบมันหลายหมื่นรอบต่อนาที เร็วมาก ถ้าเทอร์โบตัวเล็ก ความเร็วเป็นแสนรอบต่อนาที อะไรพวกนี้ เวลาหมุนเร็วแล้ว เราดับเครื่องทันที แกนเทอร์โบยังหมุน แต่เครื่องยนต์หยุดก็ไม่มีน้ำมันเครื่องมาหล่อเลี้ยง แกนจะพัง .... นี่เองที่เขาว่าให้เดินเบาสักพัก พอให้รอบของแกนเทอร์โบลดความเร็ว แล้วค่อยดับ จะดีกับเทอร์โบ แต่ในทางปฏิบัติ รถคุณเป็นรถแข่งหรือ ???? ก็เปล่า !!! รถบ้านใครจะวิ่งมาสุดโหด รอบจัดๆ จนถึงที่จอดรถ ก็ดับทันที เปล่าครับ รถบ้านทั่วไป 100% + ผมแถม + ให้เห็นได้ชัดเจน สุดโต่งไปเลย ว่ารถบ้าน ขับเร็วแค่ไหน พอเข้าเมือง จะต้องเดินเบา ค่อยๆย่องเข้าเดินหน้า ถอยหลังเข้าที่จอดรถ ..... เวลาที่คุณขับย่องๆอย่างนี้มีเหลือเฟือ เผื่อแผ่ได้ถึงเทอร์โบ ที่มันจะค่อยๆ เดินเบาลงแล้ว พอจอดรถเสร็จ .... คุณก็ดับได้ทันที ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 ธ.ค. 51 10:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มีคนมาทักว่า อาจมีผลเสียต่อเทอร์โบ จริงไหม แล้วที่ผ่านมา เสียหายไปมากไหมครับ >>>>>> ผมแนะนำว่า ใครมาทัก ให้ถามเหตุผล ... ร่วมมือกันช่วยๆกัน ถามเหตุผล จะส่งเสริมให้เกิดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เราไม่จำเป็นต้องเรียนทางช่าง ก็เข้าใจได้ เหตุผลทางเทคนิคไม่จำเป็นต้องเป็นช่าง หรือเรียนทางนี้ก็เข้าใจได้ ไม่ยากเลย จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 20 ธ.ค. 51 10:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รถผมไม่มีเทอร์โบไทม์เมอร์ ใช้มาสี่ปีกว่าแระ ไม่เห็นจะเป็นอะไร เทอร์โบยังบูทปกติ (ติดวัดบูทครับ) จากคุณ : tranic - [ 20 ธ.ค. 51 11:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอางี้ครับ ง่ายๆนะ เอาเหล็กแท่งหนึ่งไปขัดให้เงาเลยนะครับ เผาไฟให้ร้อน แล้วโยนลงน้ำมันเครื่อง ปล่อยให้มันเย็นแล้วเอามาดูสภาพครับ จะเห็นว่ามันมีขี้ตะกรันเกาะที่แกนเหล็ก แต่มันก็ไม่มากหรอครับ แต่ลองทำทุกวันวันละ 3 หน ซักปีหนึ่งขี้ตะกรันมันจะหนามาก ขี้ตะกรันพวกนี้มันจะไปขูดกับบูทแกนเทอร์โบทำให้บูทมันสึกหรอ จากนั้น เมื่อบูทมันสึกมันจะกันน้ำมันเครื่องไม่ได้ น้ำมันเครื่องก็จะไหลมาที่ใบพัดเทอร์โบและบางส่วนก็เข้าห้องเผาใหม้ ทำให้ควันเริ่มขาว ทำให้เกิดการเผาใหม้ไม่สมบูรณ์ เมื่อบูทหลวม แกนเทอร์โบก็จะขยับได้ แกนก็จะเริ่มเอียง หรือวิ่งแกว่ง ถ้ามันตีใบพัดแตกก็ สวัสดีความเศร้าครับ การworm down เครื่องยนต์ ควรจะทำทุกครั้งกับรถเทอร์โบ แต่ถ้าคุณขับไม่เร็วมากเทอร์โบไม่ได้ร้อนมาก ก็แค่นาทีเดียวพอ ถ้าอัดมาสุดๆ ก็ซัก7-10 นาที รถผมไม่มีไทม์เมอร์ ใช้มาเกือบ10ปีแล้วครับ ผมวอร์มดาวน์ทุกครังก่อนดับเครื่อง ตอนเช้าวอร์มเครื่องทุกครั้งก่อนออก ปัจจุบันควันยังไม่ออกเลยครับ ไม่ว่าเร่งเครื่องแรงแค่ไหน ดีเซลเทอร์โบนะครับ isuzu ก่อน dragon eye ครับ 2500 turbo เช็คแกนเทอร์โบทุกครังที่ตั้งวาล์ว แกนยังแน่นไม่มีอาการรุน และไม่มีอาการฝืดเลยครับ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 51 11:43:29 จากคุณ : waiprasert - [ 20 ธ.ค. 51 11:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าหมายถึงส่งคนเข้าออกโรงพยาบาล หรือไปทำธุระด่วนๆ เรื่องผู้ป่วย ก็ให้ความสำคัญกับคนก่อนเถอะครับ จากคุณ : v (อากง) - [ 20 ธ.ค. 51 12:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตามน้าช่างกลหนุ่มครับ ผมก็คิดเช่นนั้น แต่ผมอธิบายหลักการไม่ได้ 555 จากคุณ : ลำไผ่ บ้านท่า - [ 20 ธ.ค. 51 13:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขับแช่ 120 km/h โหลดมันก็ไม่ได้มากอะไรนะครับ ความร้อนสะสมในโข่ง turbine คงไม่เยอะถึงขนาดที่จะเป็นอันตรายได้ และ EGT ของเครื่องดีเซลเทอร์โบ มันก็ไม่ได้สูงนัก ถ้าอัดหนักๆ ชนิดที่แช่เต็ม topspeed มา ค่อยมาเริ่มคิดใหม่   และอย่างที่ลุงช่างกล บอกว่า ตอนที่ขับช้า ถึงตอนจอด มันเป็น การ cooldown ไปแล้ว จากคุณ : ถัง - [ 20 ธ.ค. 51 13:41:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ๑๒๐ เองรอบยังไม่ถึงขีดแดงเลย ดับเลยก็ไม่พังหรอก จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 20 ธ.ค. 51 14:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อเทอร์โบยังร้อนอยู่  แล้วดับเครื่องทันที น้ำมันเครื่องที่แกนใบพัดจะไหม้เกิดเปนตะกันติดที่แกน เมื่อทำเช่นนี้บ่อยๆ ตะกันจะพอกขึ้นเรื่อยๆและอมความร้อนมากขึ้น เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง น่าจะนึกภาพ ออกนะครับ ว่าจะมีอะรัยกระจายกันมั่ง จากคุณ : FOXTROT - [ 20 ธ.ค. 51 16:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น้า ช่างกล-หนุ่ม นี่ตอบได้ ตรงประเด็นมากๆ มีตัวอย่างด้วย จากคุณ : Thanomklom - [ 20 ธ.ค. 51 22:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ความเห็นข้างบนมีประเด็น.. น่าสนใจ ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 21 ธ.ค. 51 10:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณทุกความเห็น แต่ก็ยังมีสองเหตุผลอยู่ ตามเหตุผล คุณช่างกล-หนุ่ม แนะนำ เท่ากับว่าก่อนมาถึงจุดหมาย เราต้องผ่อนคันเร่ง ลดลงมาเป็นเกียร์ 4 เกียร์ 3 เกียร์ 2 ตามลำดับ และ ระหว่างทีนำรถเข้าไปจอดที่ลานจอด รอบก็เดินเบา เพียงพอต่อ การรักษาสมดุล ของเทอร์โบ และน้ำมันเครื่องแล้ว ชัดเจนขอบคุณอีกครั้ง ส่วนเพื่อนๆที่แนะนำว่า ก่อนดับเครื่องควรเดินเบาเครื่อง ซักระยะหนึ่งก่อน เหตุผลนี้หากมีเวลาพอที่จะนั่งในรถ ต่ออีกสักสี่ห้านาที ต่อไปนี้ผมก็จะพยายามทำให้ได้ตลอดครับ. และที่สุดเรื่องที่ขับรถมาเร็วๆ แล้วดับเครื่องเลย ที่ผ่านๆมา ก็สบายใจขึ้นครับ. จากคุณ : ก้องชายแดน - [ 21 ธ.ค. 51 10:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คห. 10 เอาเหล็กแท่งหนึ่งไปขัดให้เงาเลยนะครับ เผาไฟให้ร้อน แล้วโยนลงน้ำมันเครื่อง ปล่อยให้มันเย็นแล้วเอามาดูสภาพครับ จะเห็นว่ามันมีขี้ตะกรันเกาะที่แกนเหล็ก >>>>>>> ใช่ครับ แบบนี้ผมเคยทำบ่อย เป็นวิธี "รมดำ" อย่างหนึ่ง ชิ้นงานเล็กๆน้อยๆ เช่น เหล็กนำศูนย์, ปากกาจับชิ้นงาน, เหล็กขีด ใช้รมดำป้องกันสนิม วิธีทำ --อบความร้อนที่ระดับอุณหภูมิ 700องศา C (สังเกตระดับความร้อนที่ใช้) แล้วจุ่มน้ำมันเครื่อง น้ำมันจะเกิด oxydation ไหม้ดำเคลือบบนผิวชิ้นงาน ดำเป็นมันสวยดี ป้องกันสนิมชิ้นงาน รอยกะทะไหม้ ก็เป็นการเกิด oxidation ของน้ำมัน ถ้าไม่ใช้เตาอบ เราสามารถดูอุณหภูมิจากการเปลี่ยนสีตามระดับความร้อน ดังนี้ ที่ 680 C ชิ้นงานเริ่มเป็น สีแดงมืดๆ ที่ 740 C สีแดงเริ่มสุก อุณหภูมิไอเสียที่ออกมาโดน "เขาควาย" ถ้าไม่มีลมวิ่งผ่าน เขาควายจะร้อนแดง แสดงว่า ความร้อนไอเสียสูงถึงระดับ 700 C ... เมื่อ Full-Load ไอเสียนี้จะวิ่งผ่านเทอร์โบด้านหนึ่ง เมื่อเราขับอัดเต็มที่ คือ Full-load ใบของเทอร์โบด้านไอเสียจะร้อนระดับ 700 C ความร้อนนี้ส่งผ่านไปทั่วทั้งตัวเสื้อเทอร์โบและส่งถึงแกนของมัน มาดูอย่างนี้ ถ้าแกนเทอร์โบร้อนถึงระดับนี้จริง น้ำมันที่มาโดนแกน ก็จะเกิด oxidation ไหม้เป็นตะกรันเกาะที่แกน เหมือนชิ้นงานรมดำ แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ 1) แกนเทอร์โบไม่ได้ร้อนถึงระดับความร้อนนี้ ถ้าแกนมันร้อนจัดระดับนี้ รถเทอร์โบทั้งหลาย ก็ไม่ควรที่จะ "อัดเต็มที่" ...ซึ่งฟังแล้ว ขัดแย้งกับธรรมชาติเทอร์โบ+ความต้องการที่จะติดเทอร์โบ ... ใช่ไหม ? 2) ประกอบกับน้ำมันเครื่องที่ใช้ต้องเลือกที่มีคุณภาพ anti-oxy ได้ดี ยิ่งใช้น้ำมัน Synthetic ซึ่งมี anti-oxidation สูง ยิ่งเป็นผลดีกับรถติดเทอร์โบมาก ในเมื่อ "แกนเทอร์โบ@full-load" ความร้อนมันยังไม่ถึงระดับรมดำ เมื่อปลดโหลด No-load คือ เดินเบา หรือ หยุด ความร้อนสะสมยังมีอยู่จริง แต่มันก็ไม่ควรจะทำให้แกนเทอร์โบ มีความร้อนเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ... จนทำให้น้ำมันไหม้เกิดตะกรันเกาะ ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 21 ธ.ค. 51 10:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ระหว่างทีนำรถเข้าไปจอดที่ลานจอด รอบก็เดินเบา เพียงพอต่อ การรักษาสมดุล ของเทอร์โบ และน้ำมันเครื่องแล้ว ชัดเจนขอบคุณอีกครั้ง >>>>>>>>>> พอดีผมเพิ่งนึกออก สังเกตเครื่อง Gasturbine ที่ทำงาน High-load ถึง Full-load ติดต่อกันนานๆ ไหมครับ ลักษณะการใช้งาน Gasturbine ใช้งานอย่างนี้ครับ 1) take full load ได้เร็ว หมายความว่า ติดเครื่องก็ใส่เต็มที่ได้ทันที มันรับโหลดได้เร็ว สังเกตเครื่องบินเจ๊ตโดยสาร สมัยก่อน DC-3 ดาโกต้า รุ่นสงครามโลก เวลาจะวิ่งขึ้นแท็กซี่ไปจอดหัวสนาม นักบินจะอุ่นเครื่องโดยการเร่งเครื่องเสียงดังสนั่นหวั่นไหว .... ผมมารู้ภายหลังว่า นี่เป็นวิธีอุ่นเครื่องที่ถูกต้อง ไม่ใช่เดินเบาทิ้งไว้นานๆ แต่เครืองเจ็ตทุกวันนี้ เขาวิ่งขึ้นเลย ไม่ได้จอดอุ่นเครื่องที่หัวสนาม 2) ตอนจะดับเครื่อง จะมีจังหวะ cool down เครื่องค่อยๆวิ่งมาเข้างวงจอด ระยะทางใกล้บ้าง ไกลบ้างแล้วแต่สนามบิน ระยะทางช่วงนี้ ==> เหมือนกับรถติดเทอร์โบ ที่แล่นเข้าเมือง เจอรถติดบ้าง เข้าลานจอดก็ต้องค่อยๆวิ่ง ระยะเวลาอย่างนี้ เป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันบังคับให้เทอร์โบมีเวลาหายใจ มีเวลา cool down ลงได้ อีกประการหนึ่งความร้อนที่แกนเทอร์โบ แม้ตอนอัดเต็มที่ก็ยังไม่ถึงระดับ(รมดำ) ที่จะทำให้น้ำมันไหม้เกิดตะกรันเกาะแกน ถ้ามันร้อนขนาดนั้นจริง รถเทอร์โบทั้งหลาย คงจะพังกันหมดเป็นแน่ ในเมื่ออัดเต็มที่น้ำมันเครื่องยังทนความร้อนได้ นับประสาอะไรกับดับเครื่องจอด ความร้อนจะมาจากไหนที่จะมาเพิ่มความร้อนให้แกนมันร้อนขึ้นกว่าเดิมครับ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 51 11:13:52 จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 21 ธ.ค. 51 11:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อย่างไรก็ตาม ประเด็นตะกรันดำที่เกิดจาก oxidation เป็นประเด็นที่น่าสนใจ จึงมีคำแนะนำให้เลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพด้าน anti oxidation สูง ซึ่ง น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ มันมีค่า anti-oxidation ดีโดยตัวของมันเอง ที่มี anti-oxidation ดีกว่าน้ำมันธรรมดา เพราะ base oil มี impurity ต่ำ เจ้า impurity นี่เป็นตัวการให้เกิด oxidation ง่าย เป็นตัวการทำให้น้ำมันเสื่อม เมื่อมีค่าความบริสุทธิสูง น้ำมันสังเคราะห์จึงยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายได้ยาวขึ้น แต่การพัฒนาด้านโรงกลั่น มีการพัฒนาวิธีการแยก impurity ได้ดีวันดีคืน ทำให้ได้ base oil ที่เอามาทำน้ำมันเครื่องดีขึ้นครับ ดังนั้น เพียงเราเลือกน้ำมันเครื่องที่มี API สูงๆ ก็ได้ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 21 ธ.ค. 51 11:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 22 น้ำมันเครื่องก็มีส่วนสำคัญ จากคุณ : ก้องชายแดน - [ 21 ธ.ค. 51 11:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 23 http://www.vigoupdate.com ครับ จากคุณ : thisname - [ 21 ธ.ค. 51 12:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าอัด full load จริงๆ อุณหภูมิบล็อกเครื่องจะสูงแล้วดับเครืองทันทีจะเกิด　Heat soak หรือเปล่า ต้องลองฟังเสียงหลังจากดับเครื่องแล้วมีเสียงคล้ายเหล๊กขยายตัวดังเปรี๊ยะๆ หรือไม่ ถ้ามีเสียงแสดงว่าเกิด Heat soak ซึ่งไม่ค่อยจะดีต่อโลหะประเภทอลูมิเนียม อย่าไปห่วงแค่แกนเทอโบเลย สมัยนี้มีน้ำหล่อเย็นไหลเข้าแกนเทอโบแล้ว เลยไม่จำเป็นต้องมีเทอโบไทเมอร์ แล้วจริงๆเทอโบรถดีเซลเดิมๆ ก็ไม่ร้อนเท่าไหร่（ติด temp sensor วัดดูมาแล้ว）　 จากคุณ : superchocolatebear - [ 21 ธ.ค. 51 20:24:23 ]