ความคิดเห็นที่ 1 กรองอากาศสกปรกทำให้อากาศที่สะอาดเข้าสู่ระบบเผาไหม้ได้น้อยลง เพราะฉะนั้นต่อให้คำนวณเก่งแค่ไหนยังไงก็เร่งไม่ขึ้น.... เพราะไม่มีอากาศเข้าไปผสมน้ำมันล่ะครับ .... งง มั้ยครับ จากคุณ : โจนาธาน ลิฟวิงสตัน - [ 22 ธ.ค. 51 22:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แร่งไม่ขึ้นก็จริง แต่อัตราสิ้นเปลืองก็น่าจะเท่าเดิมนิ มันจ่ายน้ำมันลดลงด้วย จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ - [ 22 ธ.ค. 51 22:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 #2 จะเท่าเดิมได้ไงล่ะครับ ในเมื่อ อากาศน้อยลง  กล่องสั่งจ่ายน้อยลง >> เร่งไม่ขึ้น พอเร่งไม่ขึ้น  คุณก็กดคันเร่งเพิ่ม  พอเข้า Close Loop ปุ๊ป  น้ำมันก็หนาครับ เพราะอากาศน้อย      A/F มันไม่ได้ส่วนตามที่ควรจะเป็นครับ จากคุณ : พีสคุง - [ 22 ธ.ค. 51 22:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กรองอากาศ สกปรก ไม่น่าเกี่ยวโดยตรงกับอัตราสิ้นเปลือง   เพราะ O2 sensor ส่งสัญญาณ กลับมาคุม A/F Ratio ใน closeloop อยู่แล้ว   ถ้ายิงน้ำมันเท่าเดิม แต่อากาศน้อยลง O2 sensor ก็จะอ่านได้ว่า น้ำมันหนา ...  เครื่องก็ trim ให้ยิงน้ำมันน้อยลง อัตราสิ้นเปลือง ก็จะน้อยลงเป็นสัดส่วนเท่ากับกับ อากาศที่เข้าเครื่อง ถ้าเร่งถึง openloop กล่องก็ยิงน้ำมัน ตามสัญญาณ Airflow หรือ MAP ในเมื่อ เครื่องยนต์ ดูดอากาศไม่เข้า ... สัญญาณ Airflow ก็อ่านได้น้อยลง A/F Ratio ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนอีกเช่นกัน   แต่อาจจะสิ้นเปลือง ตรงที่มี pumping loss มากขึ้น กำลังอาจจะหายไปบางส่วน จากคุณ : ถัง - [ 23 ธ.ค. 51 00:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอ่อ ขอทราบที่มาของชื่อ จขกท. ครับ ตลกดี (เห็นมานานแล้วล่ะ อิอิ) จากคุณ : bOatanuTU - [ 23 ธ.ค. 51 00:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตาม #3 ครับ เวลาคัดจมูกก็ต้องหายใจแรงขึ้น ใช้พลังงานมากขึ้นครับ บางที่ต้อง 'ซู้ด' แรงๆ ครับ เฮ้อออ เหนื่อย จากคุณ : อิฐ เด็กแปล - [ 23 ธ.ค. 51 00:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คิดเหมือนผมเดี๊ยะๆ เลยข้างบนอ่ะ ยิ่งคัดจมูกก็ต้องออกแรงหายใจให้มากขึ้น เหนื่อยมากขึ้น เท่านัน้ จากคุณ : wankun - [ 23 ธ.ค. 51 02:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แต่ในรถเหมือนมีหมอประจำตัวตลอดเวลา เวลาเหนื่อยนัก ... หมอก็สั่ง.. พักก่อน เหนื่อยลดลงเอง สำหรับคนชอบหวัดคัดจมูกเป็นประจำ ควรมองหาหมอมานอนข้างกายครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 23 ธ.ค. 51 06:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ หมออะไรหรอครับ ผมคัดจมูกบ่อยซะด้วยสิ จากคุณ : แอบลักหลับโซฟาแถวๆที่ทำงาน (NoFlyZone) - [ 23 ธ.ค. 51 07:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ของผม ว๊โก 4*4 ปี 2005 3.0 ขาลง กรุงเทพ-พัดลุง 10.6โล/ลิตร // ขาขึ้น เป่ากรองอากาศ พัดลุง-กรุงเทพ 11.3โล/ลิตรครับ.......... ปล...ปกติ ล้างแอร์โฟร์ด้วย.......... จากคุณ : sagurahi - [ 23 ธ.ค. 51 08:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 วีออส lpg วิ่งความเร็ว 100-120 ตจว 2พันโล ทั้ง 2ครั้ง หนที่ 1 กรองสกปรก กิน 1.30 บาท/ ลิตร หนที่ 2 เป่ากรองแล้ว กิน 1.05 บาท/ลิตร จากคุณ : Star Mktg - [ 23 ธ.ค. 51 09:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณถัง ถ้ากล่องเอาแค่ MAP มาประมวลผลอย่างเดียว มันคงเป็นอย่างที่คุณถังว่าอ่ะครับ ผมกลัวแกจะเอา TPS มาประมวลผลด้วยอ่ะดิ จากคุณ : Ontjung - [ 23 ธ.ค. 51 18:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ในความคิดคุณอ้น TPS จะนำมาประมวล ยังไงบ้างครับ จากคุณ : ถัง - [ 23 ธ.ค. 51 18:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ทราบครับ แค่สงสัยว่าจะ เท่านั้น สิ่งที่ทำให้สงสัยคือ ค่าแรงดันที่กลับออกมาจาก TPS มันไม่ใช่แค่ 0 กับ 1 เปิด กับปิด มันมีรายละเอียด เช่น ตำแหน่งโหลดสูงสุด(ไม่ใช่ 100%ซะด้วย) ตำแหน่งเดินเบา อย่างในหนังสือที่ผมเคยอ่านๆมา ระบบหัวฉีดโตต้า ตัว ECU มองว่าลิ้นปีกเปิด 50 % คือเข้าข่ายโหลดสูงสุด และทำการสั่งเพิ่มการฉีดน้ำมันทันที ถ้ากรองอากาศตัน เร่งแล้วไม่ดีเหมือนเดิม จนต้องกดลึกเข้าไปในโซนโหลดสูงสุด อย่างนี้แล้ว AF มันน่าจะหนากว่าปรกติป่าวครับ จากคุณ : Ontjung - [ 23 ธ.ค. 51 22:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยครับ TPS มันไว้ปลด closeloop อย่างที่คุณอ้นว่า ถ้าแบบนี้ ก็มีความเป็นไปได้ ว่าจะกินน้ำมันขึ้น เพราะต้องเข้า openloop ครับ จากคุณ : ถัง - [ 23 ธ.ค. 51 22:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คือ ผมว่า open loop มันก็ประมวลด้วย MAP ที่ TP ก่อนโหลดสูงสุดแหละครับ เพียงแต่พอเรากดหนักๆ ECU ก็สั่งเพิ่มไปอีก เหมือนใช้อีก map นึง คงคล้ายปั๊มเร่งในคาร์บูมังครับ ...เปลี่ยนเรื่อง... ผมเคยลองเอาคอมตรวจค่า AF จาก Ox Sensor ของรถ(ใช้ software จูนแก็ส)...วิ่งด้วยน้ำมันนะครับ... ถ้าเราไม่คาคันเร่งไว้คงที่ในระดับนึง หรือคันเร่งมันไม่นิ่งในระดับนึง มันจะไม่เข้า Closed loop ครับ ไม่ว่า ไอ้ที่เราขยับคันเร่งไปมานั้น จะเข้าข่ายโหลดสูงสุดหรือไม่ ถ้าอยากประหยัดเวลาวิ่งทางไกล(เครื่อง 5A-FE ใน Corolla 96) ต้องเร่งเข้าสู่ความเร็วเป้าหมายโดยเร็วพอสมควร แล้วคาคันเร่งไว้เลย อย่าไปขยับมันอีกโดยไม่จำเป็น ...ทำแล้วประหยัดจนรู้สึกได้จริงๆครับ จากคุณ : Ontjung - [ 23 ธ.ค. 51 22:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รถผม ใน closeloop มันจะพยายามคุม Lambda 1 ไว้ แต่ช่วงเร่งเบาๆ  Lambda มันจะแกว่งๆ ไปทางหนาบ้าง ยังไม่ถึงกับหนาเป็น acceleration enrichment นะครับ ไม่รู้จะหมายถึง ไม่เข้า closeloop แบบที่คุณอ้นพูดถึงรึเปล่า รถผม รู้สึกมันจะดึงเอาจากค่า TPS เพราะตอนที่เร่งไป ประมาณ 50-60% TPS ค่า MAP ขึ้นไปถึง 8x hPA มันก็ยังไม่ปลดเข้า openloop ให้ แต่ถ้าเดินคันเร่งไปมากกว่านี้ มันถึงจะปลดให้ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 23:08:04 จากคุณ : ถัง - [ 23 ธ.ค. 51 23:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนที่เร่งไม่นิ่ง  มันก็ยังอยู่ใน closed loop อยู่นะครับ เพียงแต่ว่า ระบบมันไล่ปรับน้ำมันตามตัวแปรไม่ทัน  ค่าส่วนผสมที่ได้มันก็เลยไม่นิ่ง ความจริงถ้าดูเป็นกราฟ น่าจะเห็นมันเป็นเส้น overshoot แล้วสะบัดขึ้นลง ซึ่งอาการ overshoot แล้วแกว่งไปแกว่งมานี่  มันบอกถึงการมีอยู่ของ closed loop control TPS นอกจากจะใช้อ่าน load ในการสั่งจ่ายน้ำมันแล้ว ยังเป็นตัวที่สั่งการทำงานของเกียร์ด้วย  ถ้ากดคันเร่งลึกเกียร์จะอยู่ในเกียร์ต่ำนานขึ้น จากคุณ : ton99 - [ 23 ธ.ค. 51 23:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ อืมม ก็น่าจะใช่ครับ... ไว้ต้องลองใหม่อีกที ดูว่า มันใช้เวลานานไหม ที่ปรับลดการฉีดให้ lambda =1 ถ้านานเกินคงเป็น Open เพราะขนาด actuator ของ lambda cntrl ระบบแก็สเป็น mechanical แท้ๆ ยังทำงานได้เร็วพอสมควรเลย จากคุณ : Ontjung - [ 24 ธ.ค. 51 17:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณข้อมูลคุณถังครับ จากคุณ : Ontjung - [ 24 ธ.ค. 51 17:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 21 นานไม่นาน  เอามาวัดว่ามัน closed หรือ open ไม่ได้นะรับ ระบบ closed loop ใหญ่ๆบางระบบ   ถ้าไปเปลี่ยนตัวแปรมัน  กว่ามันจะนิ่งได้อีกทีก็ล่อเป็นชั่วโมงกันเลย ตอนที่เร่งเบาๆแล้วมันไม่นิ่ง  มันก็จะไม่นิ่งไปจนกว่า input ต่างๆมันจะนิ่ง ถ้า input ทุกตัวนิ่ง  output มันก็จะนิ่งเอง จะ closed หรือ open ถ้าจะดูให้ดูตรงที่ เราไปจูนอะไรมันเพิ่มแล้ว lamda มันเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ถ้าไม่เปลี่ยนหรือวิ่งไปวิ่งมา  ก็แสดงว่าเป็น closed ถ้าเปลี่ยนเพิ่ม-ลด ตามทิศทางที่จูน ก็แสดงว่าเป็น open จากคุณ : ton99 - [ 24 ธ.ค. 51 22:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้า Closed loop ใช้เวลานานขนาดนั้น ผลมันก็เหมือน Opened ล่ะครับ ไม่รู้จะทำไปทำไม การที่ออกแบบระบบให้เป็น closed เพื่อผลอะไร เป็น opened เพื่อผลอะไร //จะ closed หรือ open ถ้าจะดูให้ดูตรงที่ เราไปจูนอะไรมันเพิ่มแล้ว lamda มันเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ถ้าไม่เปลี่ยนหรือวิ่งไปวิ่งมา  ก็แสดงว่าเป็น closed ถ้าเปลี่ยนเพิ่ม-ลด ตามทิศทางที่จูน ก็แสดงว่าเป็น open // เห็นด้วยครับ อันนี้น่าจะชัดเจน ตอนนี้สายจูนมันขาดกระเด็นหายไป ยังไม่ได้ซ่อมเลย ซ่อมเสร็จแล้วจะลองจูนดูครับ จากคุณ : Ontjung - [ 25 ธ.ค. 51 09:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มันไม่เหมือนนะครับ ถ้ามัน open มันก็ปล่อยเลยตามเลยเลย มีแต่ feed forward ไม่มี feed back ถ้าเป็น closed แล้ว ถึงจะนานขนาดไหน มันก็ยังมี feed back เพื่อควบคุมให้กลับมาที่ค่า set point จากคุณ : ton99 - [ 25 ธ.ค. 51 21:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ท่านอ้น ผมว่า เรานัดเจอกันซักทีดีกว่า  คุยกันหน้าบอร์ดกันมานาน อยากรู้จักนอกจอแล้วครับ  น่าจะมีอะไรมันส์ๆ คุยกันเยอะ จากคุณ : ถัง - [ 26 ธ.ค. 51 02:26:42 ]