ความคิดเห็นที่ 1 ทำงานทันทีเมื่อเครื่องหมุน หมุนช้าไฟน้อย หมุนเร็วไฟมาก ความเร็วรถไม่มีผล แต่รอบมีผล จากคุณ : kong_ttc - [ 28 ธ.ค. 51 07:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รอบสูงได้กระแสมากขึ้น จากคุณ : joe (aircraftdesigner) - [ 28 ธ.ค. 51 09:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำงานทันทีที่เครื่องติด ที่รอบ idle ก็จ่ายไฟได้เกินพอความต้องการใช้ไฟทั้งหมดในรถ ทดลองวัดการชาร์จ โดยเปิดไฟหน้า เปิดแอร์ เรียกว่าเปิดโหลดทั้งหมดในรถ ใช้ Amp-meter วัด ==> จะต้องแสดงด้าน Charge หรือใช้ Volt-meter วัดก็ได้ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 28 ธ.ค. 51 10:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ต้องหว่งครับ ณ ปัจจุบัน อัตเตอร์เนเตอร์  (หรือบางท่านยังเรียกว่าไดชาร์จ) ผลิตไฟกระแสสลับ จำนวน 3 เฟส ก่อนจะถูกเรียงกระแสให้เป็นกระแสตรง และถูกป้อนกระแสไฟฟ้าให้กับวงจรทั้งหมดในรถยนต์จนเพียงพอแล้วถึงจะประจุเข้ากับแบตเตอรี่   แม้ว่ารอบเครื่องเดินเบาก็สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอ ครับ  (คุณสามารถทดสอบได้ด้วยตังเองครับ  ดับเครื่อง  เอาโวลล์มิเตอร์  มาวัดไฟแบตเตอรี่จะได้ประมาณ  11.50 - 12.50 V  ครั้งที่สอง ให้ติดเครื่องยนต์ แล้ววัดอีกครั้งหนึ่ง จะวัดค่าได้ประมาณ 13.8 -14 V ครับ นั่นแสดงว่า อัตเตอร์เนเตอร์ทำงานแล้วครับ) ***เข้าไปอ่านในบางweb บอกว่า ไดชาร์จจะทำงานเมื่อรอบเครื่องที่ 1500 ขี้นไป เป็นเรื่องจริง ที่สมัยก่อน เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าในรถยนต์ เป็น ไดนาโม หรือเครื่องผลิตไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งต้องมีรอบหมุนที่ค่อนข้างสูงในการผลิตไฟฟ้า  ซึ่งไม่เหมาะกับปัจจุบัน แล้ว เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ มีมากมาย เช่น กระจกไฟฟ้า เครื่องเสียง กันขโมย abs เบาะปรับไฟฟ้า  ไฟแสงสว่าง ไฟสัญญาณ ฯลฯ   ****ขอถามอีกข้อนะครับ กรณีขับที่ความเร็ว 20กม/ชม กับ ที่80กม/ชม การชาร์จไฟจะเท่ากันไหมครับ เท่ากันครับ หลังจากอัตเตเนเตอร์ผลิตไฟกระแสสลับออกมาแล้ว จะต่อผ่านไดโอด เรียงให้เป็นกระแสตรง แล้วส่งต่อไปยัง เรตกูเรเตอร์ เพื่อควบคุมกระแส ไม่ให้ มากเกิน 14-14.5V  เพื่อใช้ในการชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ก่อน และวงจรจะตรวจสอบว่า โวลต์ของแบตเตอรี่เต็มหรือยัง  ถ้ายังไม่เต็ม อัตเตเนเตอร์ก็จะผลิตกระแสไฟต่อไป  ถ้าเต็มแล้ว จะตัดไม่ให้อัลเตอร์เนเตอร์ผลิตกระแสไฟ ครับ ปล อุปกรณ์ที่ว่ามาทั้งหมด อยู่ที่ ด้านหลังอัลเตอร์เนเตอร์ เรียกว่า ไอซีเรตกูเรเตอร์ จะเห็นว่ามีสายไฟสีแดงเส้นใหญ่พอสมควร เข้าแบต ชุดนั้นล่ะครับ จากคุณ : goppyboy - [ 28 ธ.ค. 51 10:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่จริงครับที่ทำงานทันทีที่เครื่องยนต์ทำงานครับ มันมีวงจรเทียบโวลท์อยู่หากแบตเตอรี่มีไฟเพียงพอจะมีตัวตัดไม่มีกระแสไฟฟ้าออกมาครับ ตาม คห ที่4 ก็ตอบได้ชัดเจน แต่จากที่ผมทำอยู่ มันชาร์จได้ 2 ระดับ ความเร็วเท่าไรก็ตามอยู่กับโวลท์ด้วยครับ จากคุณ : จะเด่น ณ ปานนั้น - [ 28 ธ.ค. 51 11:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รูปด้านบนดูด้านล่างๆนะครับและอันนี้ตัวคุมไฟให้ชาร์จแค่ไหน จากคุณ : จะเด่น ณ ปานนั้น - [ 28 ธ.ค. 51 11:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เข้ามาเก็บความรู้ครับ จากคุณ : Papiruz - [ 28 ธ.ค. 51 15:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเมื่อไหร่มันไม่ทำงาน  ไฟชาร์ทมันจะฟ้องที่หน้าปัด มีรถรุ่นไหนไฟชาร์ทโชว์ที่รอบต่ำกว่า 1500rpm บ้าง?  ผมไม่เคยเห็น จากคุณ : ton99 - [ 28 ธ.ค. 51 16:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตาม คห 5  ครับ ไม่จริงครับที่ทำงานทันทีที่เครื่องยนต์ทำงานครับ มันมีวงจรเทียบโวลท์อยู่หากแบตเตอรี่มีไฟเพียงพอจะมีตัวตัดไม่มีกระแสไฟฟ้าออกมาครับ ถามว่าอัตเตอเนเตอร์ทำงานนะครับ  ไม่อย่างนั้นจะมีโวลล์ออกมาที่ 13.8 V ได้อย่างไร แต่จะชาร์จหรือไม่ก็ขึ้นโวลล์ของแบตเตอรี่ตามที่คุณเด่น ว่าไว้ด้วย ผมใช้ Dmax  ก่อนติดเครื่อง โชว์ ไม่ถึง 12V ติดเครื่องโชว์ 13.9 V เลย เคารพทุกความคิดเห็น มาร่วมแชร์ความรู้และแบ่งปัน จากคุณ : goppyboy - [ 28 ธ.ค. 51 17:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเคยพบปัญหาใกล้จมูกนะ สานพานอัตเตเนเตอร์หย่อน ก็ทำให้ไฟชาร์จโชว์ได้นะครับถ้าวิ่งลุยน้ำแล้วโชว์นี่ชัดเลย จากคุณ : goppyboy - [ 28 ธ.ค. 51 17:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มันทำงานแน่ๆ ครับ ถ้ามีไฟกลับไปเลี้ยงตัวมัน ให้มีแม่เหล็กแบบไม่ ถาวรเกิดขึ้นครับ แต่ ... รอบการทำงานมีผลไหม ตอบว่า มีครับ รอบ ที่ต่ำมากๆ กับสูงมากๆ จะได้ไฟฟ้าต่างกันออกไปครับ แต่ ไฟฟ้าที่ออก มาโดยทั่วไป มักจะเป็นกราฟเหมือนแรงม้าหล่ะครับ ต่ำๆ ได้น้อยพอ รอบสูงขึ้นก็ได้มากขึ้น มากขึ้น พอรอบสูงมากๆ ไฟก็จะผลิตได้น้อย ลงบ้าง จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 28 ธ.ค. 51 17:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อัลเทอร์เนเตอร์ (Alternator ) ครับ #4 ไม่ใช่ อัตเตอร์เนเตอร์  เด๋วเพื่อนๆเอาไปพูดผิด จากคุณ : หัวหอม++หัวเหม็น - [ 28 ธ.ค. 51 17:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รอบต่ำผลิตได้น้อย พอรอบถึงระดับหนึ่ง จะคงที่ จากคุณ : SuperBlackbird - [ 28 ธ.ค. 51 21:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อาจจะเป็นความเข้าใจผิดยังมีอีกประเด็นหนึ่งซึ่งทำให้เข้าใจว่้า ชาร์เมื่อวิ่งรอบสูงๆคือ .................. บางครั้งถ่านไกล้จะหมดเมื่อวิ่งที่ความเร็วรอบตำ่ๆ จะทำให้ไม่สามารถชาร์ทไฟได้ หากวิ่งรอบสูงๆก็จะชาร์ทได้ หากรถใครมีไฟเตือนขึ้นตอนวิ่งช้าๆตอนวิ่งเร็วไม่ขึ้นโชว์ละก้อ  ให้รีบไปเปลี่ยนถ่านครับ สองก้านไม่เกินสามร้อย ดีกว่าเปลี่ยนไดใหม่ หลายพัน จากคุณ : ปรมาจารย์ - [ 28 ธ.ค. 51 22:55:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าถามว่ามันทำงาน ทันทีไหม จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ทำงานทันที ที่มันหมุน แบบว่าเปิดปุ๊บติดปั๊บ มันมีหลักการของมันอยู่ ตามที่ความเห็น 4 ,5,6 ว่าไว้ และที่เห็นมันชาร์จทันที เพราะมีการใช้กระแส เช่น เวลาสตาร์รถยนต์ Starter จะดึงกระแสจากแบต ฯ ไปใช้ IC regulator ก็จะสั่งให้ชาร์จ หลักการคล้ายปั๊มน้ำ Automatic ตามบ้านเรา เมื่อใช้น้ำปั๊มก็ทำงาน กราฟ Output ของ Alternator ก็เหมือนกันปั๊มน้ำคือ ที่ความเร็วรอบต่ำจะ ค่อย ๆ ผลิตกระแสออกมา  จนถึงความเร็วรอบหนึ่ง  ก็จะเป็นเส้นตรง ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบ Alternator จะเริ่มมีแรงดันที่สามารถชาร์จแบต ฯ ได้ (ประมาณ 13.8 V)     ที่ความเร็วรอบ Alternator ประมาณ 1000+- (อันนี้แล้วแต่การออกแบบ) แต่ Dia. Pulley ของ Alternator จะเล็กกว่า Dia.  Pulley หน้าเครื่อง ประมาณ 2 เท่ากว่า ๆ ผมไม่แน่ใจตัวเลข ซึ่งคำนวณกลับแล้วจะได้รอบ เครื่องยนต์ที่เดินเบาหรือต่ำกว่านั้นนิดหน่อย ซึ่งคนออกแบบ Alternator กับผู้ผลิตเครื่องยนต์จะต้องร่วมกันพัฒนา จากคุณ : Basno - [ 29 ธ.ค. 51 10:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้มากเลย จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 30 ธ.ค. 51 03:56:42 A:124.120.94.252 X: TicketID:006219 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมกลับมาอ่าน คห. หลายคนเข้าใจผิด ผมขออนุญาตแก้ไข ผมคงไม่ลอกตำรามาอ้างนะครับ ผมอยากจะเห็นพวกเรามาคุยกันด้วยเหตุผล ใช้ภาษาง่ายๆ เข้าใจได้ทันที ตัวอย่างที่ดี เช่น คห. 8 ของคุณต้น อธิบายด้วยภาษาง่ายๆ สั้นๆ เข้าใจได้ทันที :-) อยากเชิญชวนให้ท่านที่เถียงว่า ไดชาร์จต้องรอรอบ หรือ รอไฟแบตฯตกต่ำเสียก่อน อ้างวงจรตรวจสอบอะไรให้วุ่นวาย ขอเชิญท่านกลับไปอ่าน คห. 8 แล้ว ค่อยมาเถียงกันว่า จริงไหม ? จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 4 ม.ค. 52 09:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จาก คห. 4 เป็นเรื่องจริง ที่สมัยก่อน เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าในรถยนต์ เป็น ไดนาโม หรือเครื่องผลิตไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งต้องมีรอบหมุนที่ค่อนข้างสูงในการผลิตไฟฟ้า  ซึ่งไม่เหมาะกับปัจจุบัน แล้ว เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ มีมากมาย เช่น กระจกไฟฟ้า เครื่องเสียง กันขโมย abs เบาะปรับไฟฟ้า  ไฟแสงสว่าง ไฟสัญญาณ ฯลฯ   >>>>>>>> จริงครับ รถสมัยก่อนที่ใช้ "ไดชาร์จ" กระแสตรง เวลาขับกลางคืน ขับในเมืองรถวิ่งช้า ไดชาร์จหมุนช้า --> จ่ายไฟไม่พอ รุ่งขึ้นสตาร์ทไม่ติด อันนี้รถ Fiat 15 (รถรุ่นหลัง WW-II  195x เคยเห็นไหมครับ) รถคุณพ่อผม คนขับรถเขาแก้ขัดโดยพยายามวิ่งเกียร์ต่ำ เพื่อให้รอบเครื่องสูง การขับอย่างนี้ "ไฟชาร์จ" จะมาก พอเพียง ... รุ่งเช้าคนขับมาถึงบ้าน จัดการเช็ดล้างรถตามปกติ ผมชอบไปคุยกับเขา เขาเล่าให้ฟังอย่างนั้น แล้วมาเรียกผมไปคอยดูเขาตอนสตาร์ .... สตาร์ทชึ่งเดียวติด จริงๆ แฮะ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 4 ม.ค. 52 09:35:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จาก คห 4 ****ขอถามอีกข้อนะครับ กรณีขับที่ความเร็ว 20กม/ชม กับ ที่80กม/ชม การชาร์จไฟจะเท่ากันไหมครับ เท่ากันครับ >>>>>>>>>>>>> ผิด ครับ มันจะเท่ากัน... ไม่ได้  ครับ เพราะ HP-output ของเครื่องยนต์ที่ความเร็วทั้งสอง = ไม่เท่ากัน ที่ความเร็ว 20 km/h เครื่องยนต์มี HP-output น้อยกว่า ที่ความเร็ว 80 km/h ครับ การที่ HP-output = ไม่เท่ากัน ถ้าไดชาร์จชาร์จไฟ = เท่ากัน วิ่งๆไป แบตฯจะหมด ครับ ลองคิดให้ดีๆ ... จะร้อง อ๋อ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 4 ม.ค. 52 09:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จาก คห 15 Alternator จะเริ่มมีแรงดันที่สามารถชาร์จแบต ฯ ได้ (ประมาณ 13.8 V)     ที่ความเร็วรอบ Alternator ประมาณ 1000+- (อันนี้แล้วแต่การออกแบบ) >>>>>>>>>> Voltage 13.8 Volt เขาเรียก GassungSpannung แปลว่า Voltage ที่ทำให้เกิด Gas ขึ้น เป็น Limit ไฟชาร์จ ..... ไม่ควรชาร์จเกินระดับ Volt นี้ เพราะแบตฯจะแห้งและเสียหาย ===> 13.8 V ไม่ใช่แรงดันไฟ "เริ่มชาร์จ" ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 4 ม.ค. 52 09:49:47 ]