ความคิดเห็นที่ 1 คำถามนี้ ถกกันมานาน ฟันธง ยาก สำหรับผม ถ้ารถติดไม่นาน คา D อย่างนั้นแหละ แค่เหยียบเบรค แต่ถ้าติดนาน ก็ใส่ N และ ดึงเบรคมือ หรือ บางที ก็เลยไป P เลยถ้าไม่กลัวใครวิ่งมาชนตูดเกียร์พัง จากคุณ : -=Jfk=- - [ 6 ก.พ. 52 14:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ค้นในกระทู้เก่า มีให้พรึ่บ จากคุณ : คนจ๊นจน - [ 6 ก.พ. 52 14:36:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าเป็นเราติดเกิน 60 วินาที เราเข้า N ดึงเบรคมือค่ะ  .. แบบว่าเมื่อยขา เข้า P ตอนติดไฟแดงยังไม่เคยทำค่ะ   แต่เคยอยู่ที่ D ตอนติดไฟแดง แล้วปล่อยให้มันค่อยๆไหลขึ้นเนินไปเอง...แหะๆ....-"- ..... แบบนี้ล่ะคะเกียร์จะพังรึป่าว แต่เดี๋ยวนี้เลิกทำแล้วค่ะ  --' จากคุณ : ส่งเสียน้องออส - [ 6 ก.พ. 52 15:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อะไรก็เหอะ  ข้อ 3 เนี่ยะ ไม่น่าจะทำที่สุด อีกสองอัน ก็เลือกตามเลขนับถอยหลังเอา จากคุณ : น้องปลาดาว - [ 6 ก.พ. 52 15:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 งงตัง ไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะ หรือเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ไม่ตรง spec เห็นผลมากกว่าจะเข้า N หรือ เข้า D จากคุณ : fork - [ 6 ก.พ. 52 16:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 N เบรคมือครับ  P นี่ใจไม่ถึงพอ กลัวเจอกระซวกซะห้องเกียร์พังโม้ด D แล้วเหยียบเบรค อันนี้กรณีหยุดแค่ขำๆ จากคุณ : ARMS STRONG - [ 6 ก.พ. 52 17:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนติดไฟแดง ควรใช้เกียร์ออโต้แบบใดจึงจะเป็นการถนอมเกียร์ ให้ใช้ได้ยาวนาน ระหว่าง          1.ผลักมา n ดึงเบรคมือ          2.เข้า d ไว้อย่างเดิมแล้วเหยียบเบรค >>>>>>>> ถ้าเอาเฉพาะเรื่องการสึกหรอจริงๆ + อายุงานทนทานจริงๆ ต้องตอบ ข้อ 2 ครับ คืออย่างนี้ครับ การเข้าเกียร์ออโต้ มันไม่ใช่โยกเฟืองไปขบกัน แต่มันใช้วิธี "จับ" คลัชให้แน่น อธิบายง่าย จะบอกว่า อยากให้เกียร์ไหนทำงาน   ก็สั่งให้ engage clutch ชุดนั้น ทีนี่ ตอนที่สั่งให้ลูกสูบไฮโครลิคกดคลัชให้จับแน่น ก่อนที่คลัชจะจับแน่น  มันจะมี "สลิปมีการเสียดสีกันก่อน" อาการเหมือนเรา "เลี้ยงคลัช" ไม่ปล่อยคลัชให้สุด .... แผ่นคลัชจะเสียดสีกัน ... นึกภาพออกนะครับ แต่ทีนี้ เกียร์ออโต้ เขาพยายามป้องกันการ "เสียดสี" ของแผ่นคลัช พยายามหาวิธีทำให้มัน "ลดความเสียหายให้มาก" เช่น ให้คลัชแช่น้ำมันไว้ ฯลฯ ดังนั้น การสึกหรอตรงส่วนนี้ เมื่อวัดออกมาจริงๆ จะต่ำมาก น้อยมาก มีคนถามถึงวิธีวัด ใช้ Oil Analysis สั่งให้เขาทำ particle count นับจำนวนชิ้นส่วนเล็กๆ ของ ชิ้นส่วนพวก Metal and Non-metal จะได้ตัวเลขออกมาครับ (วิธีนี้ถ้าจำไม่ผิด เขาใช้ตรวจสอบอุปกรณ์ไฮโดรลิค มีใช้ตั้งแต่หลัง WW-II ครับ) ....เพราะมันสึกหรอจริงๆ วัดได้จริงๆ เมื่อคุณถาม 2 ข้อ .... จะต้องตอบข้อ 2 ครับ แต่ มาดูอีกด้านหนึ่ง ในทางปฏิบัติ ในเมื่อเรารู้ว่าการสึกหรอที่วัดได้ ==> ต่ำ ถึง ต่ำมาก จึงไม่มีความจำเป็นต้องเคร่งครัดมาก คุณอยากจะเข้า N + เบรคมือ ก็ได้ครับ อายุการใช้งานเกียร์ออโต้  ที่เกียร์มันจะพัง และที่พังกันเยอะๆนั้น ไม่ใช่เพราะ คนขับไม่ได้เข้า D+brake แต่มันพังเพราะสาเหตุอื่น ที่ผมเห็นรถมาเข้าอู่ มาซ่อมเกียร์ เป็นเพราะไปยุ่งกับเกียร์มากๆ เช่น ชอบล้างเกียร์บ้าง อันนี้เขาคิดว่าเกียร์คงชอบอาบนวดแบบเขา ทั้งๆที่โรงงานไม่เคยแนะนำ และเมื่อถอดเกียร์ออกมาดู ภายในไม่สกปรกเลย ไม่รู้จะล้างอะไร ??? บางคนเติมน้ำมันดีกว่าสเปคบ้าง อันนี้เขาคิดเองว่าดีกว่า บางคนเติมน้ำมันเกินขีดโดยไม่ตั้งใจ เช่น เขาให้ดับเครื่องวัด ก็ไปวัดน้ำมันตอนติดเครื่องอะไรพวกนี้ ที่ทำให้เกียร์พัง ลองถามดูเถอะครับ หลายคนในห้องนี้ใช้เกียร์ออโต้มาเป็นเวลานานหลายปี หลายๆคัน ไม่เคยเกียร์พัง ครับ สรุป สบายใจได้ จะเลือกข้อ 1 หรือ 2 เลือกตามสบายใจ และจุดประสงค์ของออโต้ เพื่อความสบาย ไม่ใช่เพื่อให้ผู้ใช้ลำบากครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 6 ก.พ. 52 18:51:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วถ้าเข้า D เหยียบเบรค + เบรคมือ ได้ไหมครับ 555 อย่าไปเข้า P เท่านั้นเป็นพอครับ เกียร์ทนไม่ทน พังเร็ว/ช้า ประการแรกอยู่ที่การใช้งาน+นิสัยการขับขี่ ประการที่สองก็อยู่ที่เกียร์นั้นๆด้วยครับว่าทนทานหรือเปราะบางแค่ไหน จากคุณ : dum.d - [ 6 ก.พ. 52 20:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เข้า P นี่ตัดไปได้เลย   ปล่อยให้คนเพี้ยนๆเขาทำกัน ส่วนจะเข้า N หรือ D อันนี้ไม่ต้องใช้หลักการทางวิศวกรรมมาตอบเลย คำตอบมันอยู่ที่  สามัญสำนึกของคน ถ้าจอดไม่นาน  จะมาคอย โยก N โยก D ไปทำไม ถ้าจอดนาน  จะคา D  แล้ว เหยียบเบรคไปทำไม โยก N โยก D   ครัชสึกตอนที่ผ้าครัชเริ่มจับ คา D  เปลืองน้ำมัน มันมีข้อเสียไปคนละทาง แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 08:34:00 จากคุณ : ton99 - [ 6 ก.พ. 52 22:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อิอิอิ ผมเอา N ดึงเบรกมือ ขี้เกียจออกแีรงเหยียบ จากคุณ : pinestand - [ 6 ก.พ. 52 22:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้า D-Drive ไว้นานๆ กินน้ำมันกว่า เข้า N คับ จากคุณ : CD6 Mugen - [ 6 ก.พ. 52 23:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 /_\  ขอบคุณทุกๆ คห. ครับ สรุป เข้า d+เหยียบเบรค หรือ ผลัก n+ดึงเบรคมือ แล้วแต่สถานการณ์ แต่ไม่ควร p จากคุณ : จขกท. (sidincubuz) - [ 7 ก.พ. 52 05:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาขอเก็บความรู้ด้วยคนนะคะ จากคุณ : ธ.ทหารอดทน - [ 7 ก.พ. 52 11:25:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เวลาเจอคันหน้า แล้วจับได้ว่าเข้าP หงุดหงิดครับ เกิดคำถามในหัว รถติดแค่นี้ลากไป P ทำไมฟ่ะ. จากคุณ : XXL - [ 7 ก.พ. 52 13:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอาว่า ผมเคยขับเกียร์ auto พังไป 3 ลูกในระยะเวลา 5 ปี 5555 เหยียบ เบรค + D หรือ N เบรคมือ ก็ไม่มีผลมากหรอกครับ สู้ขับ 130 ปลด D ปล่อยไหล เหลือ 60 เข้า D ใหม่ไม่ได้หรอก เอิ้กส์ๆๆๆๆๆ (14)  บางทีผมเคยทำครับ เหตุผล เนื่องจากบางครั้งต้องเอื้อมมาหยิบของหลังรถแล้วกลัวไปโดน คันเกียร์ครับ แค่นั้นแหละ ปกติด้วยเหตุอื่นๆจะไม่เข้า P เลยครับ จากคุณ : Zatan - [ 7 ก.พ. 52 22:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กระจ่างสักที เดี๋ยวอีกหน่อยก็มีคนถามใหม่แน่ๆเลยครับ จากคุณ : Papiruz - [ 8 ก.พ. 52 08:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใช้ที่เราสบายใจอย่าไปเครียดครับ จากคุณ : sittiporn - [ 8 ก.พ. 52 22:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถามบ้าง.. 1.เปลี่ยนจาก N ไป D จำเป็นต้องเหยียบเบรคทุกครั้งไหมคะ 2.แล้วเข้า N แต่ไม่ดึงเบรคมือ ได้ไหมคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : โมเช่หมาแก่ๆ - [ 9 ก.พ. 52 20:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ของผมแล้วแต่สติ ถ้าวันนั้นจดจ่อกับการขับรถมาก ก็ D แล้วเบรค ถ้าน้อยหน่อย ก็ N แล้วเบรค ถ้าน้อยลงไปอีก N แล้วเบรคมือ เปลี่ยนไปมา เกียร์มันสึกหรอได้จริง แต่ผมว่า ถ้าเผลอไปชนคันหน้า มันสึกหรอกว่าเกียร์นะ (อ่าน #15 แล้วนึกว่าขับ 130 แล้วเอื้อมหยิบของหลังรถ ฮ่าฮ่า) จากคุณ : อากง - [ 14 ก.พ. 52 11:45:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อยากทราบว่าผมใช้ฟอร์ดมอนเดโอตอนนี้เกียร์มีอาการกระตุกพอวิ่งไปเครื่องเร่งรอบถึง4000รอบแต่รถไม่วิ่งอยากถามว่าอาการเช่นนี้จะสามารถซ่อมได้หรือไม่ซ่อมแล้วจะดีเหมือนเก่าหรือจะเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูก(มือ2)ขอความคิดเห็นจากผู้รู้ด้วย ขอบคุณครับ จากคุณ : เล็ก - [ 22 มี.ค. 52 11:55:14 A:203.157.29.235 X: ]