ความคิดเห็นที่ 1 จ่าบอกว่า เชิญพี่ลงมาดูอะไรนี่ซี ขับมาได้อย่างไรกันครับ ผมลงไปเห็นล้อหน้าด้านขวาแล้วเป็นฝ่ายตาเหลือก เหลือแต่ขอบยางรุ่งริ่งอยู่กับกระทะล้อ ซีตรองเพรสทีจของผมวิ่งตะบึงมาด้วยล้อเพียง3ล้อ โดยผมไม่รู้ตัวสักนิดเดียว คนรถตื่นลงมาดูบ้างก็หายง่วง ยิ้มฟันขาวดีใจที่รอดตาย พอขยับรถเข้าข้างทางก็จัดแจงเอายางอะไหล่มาเปลี่ยน ก่อนจะวิ่งมาถึงกรุงเทพทันกำหนดเวลา จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 21:10:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อมาเปลียนไปขับ300E แต่ซีตรองเพรสทีจคันนี้ก็ขายไม่ลง ยอมเก็บขึ้นคานไว้ในโรงรถ เมื่อ2-3ปีที่แล้วนึกครึ้มขึ้นมาจะเอามาขับเล่นบ้าง ปรากฏว่าไฮโดรลิกตายสนิททั้ง4ข้าง เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผม ไปดีดคานขึ้นจนล้อลอย ตามช่างมาลากไปซ่อม ไปๆมาๆเลยเถิดทำสีทำเบาะ ยกเครื่องใหม่หมดเลย หมดไปเกือบสามแสน เอากลับมาวิ่งได้พักนึงก็สำนึกได้ว่าตัวเองแก่แล้ว ควรจะเลิกเล่นของเล่นเสียที ก็เลยเอากลับเข้าที่แล้วคลุมผ้าไว้เฉยๆ จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 21:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 2-3วันมานี้คิดถึงเค้าขึ้นมาได้ เลยให้ลูกน้องเข็นเอาออกมาทำความสะอาดแล้วถ่ายรูปไว้ ก่อนจะเก็บเข้าที่ จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 21:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ด้นหลังมุมสูง จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 21:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ห้องคนขับ จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 21:13:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ห้องนาย จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 21:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่วางเท้า วางเด็กลงไปสบายๆ จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 21:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จบที่รูปนี้ครับ จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 21:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอารถซีตรองวิ่ง3ล้อจากที่อื่นมาให้คนไม่เคยเห็นดูครับ จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 21:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ของเขาเป็นล้อหลังนะ ส่วนที่ผมเจอนี่ ล้อขวาหน้าเลย จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 21:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 วิ่งสามล้อแล้วเลี้ยวยังได้เลยครับ ... สุดยอด ! แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 21:36:32 จากคุณ : conan_murder - [ 4 มี.ค. 52 21:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นเพรสทีจที่สวยมากๆเลยครับ จากคุณ : max'86 - [ 4 มี.ค. 52 21:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สภาพเรียบร้อย สวยงามเป็นที่สุด รถรุ่นนี้ สภาพแบบนี้ เก็บไว้ให้ดีเถอะครับ นานทีปีหนก็เอาเข้างานแสดงรถโบราณให้พวกผมได้ชมกันบ้าง ไม่ได้ว่า ว่าเป็นรถเก่าโบราณนะครับ แต่รถแบบนี้ มันเข้าข่าย Vintage ที่เป็นที่นิยมในหลาย ๆ ประเทศเชียว จากคุณ : I feel - [ 4 มี.ค. 52 21:47:29 A:192.168.0.17 X:125.24.234.196 TicketID:102965 ]

ความคิดเห็นที่ 14 งามมากจริงๆ นับถือ จากคุณ : SSERIES001 - [ 4 มี.ค. 52 21:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องน่าสนใจ รูปสวยครับ เห็นแล้วนึกถึงตอนเด็กๆเลย รถรุ่นนี้คลาสสิกมากๆ รักษาให้ดีครับ คุณค่าตัวรถตอนนี้อาจจะไม่มาก แต่คุณค่าทางจิตใจ ของคนรักรถ ที่มีต่อรถตัวเอง มีค่ามากกว่าสิ่งใดครับ จากคุณ : asiam - [ 4 มี.ค. 52 21:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นแล้วก็คิดถึงตอนเป็นนักศึกษา แอบหยิบกุญแจ สตาร์ทรถคุณพ่อไปรับสาว ปรากฎว่าซวย ไดสตาร์ทไหม้ จอดตายอยู่หน้าห้างฯ ตามช่างมาสตาร์ทไปอู่ (ลากไม่ได้ รถมันนอนนิ่งราบกับพื้นเลย) เปลี่ยนไดสตาร์ทตัวเดียวไปหมื่นกว่า(เมื่อ 20 กว่าปีก่อน) พ่อด่าเช็ดเลย(รับสาวไปเที่ยวไม่ชวนพ่อ) เพรสทีจ 2400 เช่นกันครับ แต่คันของคุณพ่อเป็นล้อแมกซ์แล้ว สีฟ้ามรกต น้ำมันไฮดรอลิกซื้อทิ้งไว้รอเติมเต็มโรงรถ แต่น้ำมันเบนซินที่เติมเปลืองกว่าเยอะ พวงมาลัยพาวเวอร์รุ่นนี้ ตอนจอดหรือขับช้าจะเบาหวิว แต่พอวิ่งเร็วจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เป็นพวงมาลัยก้านเดียว ไม่มีก้านไฟเลี้ยว ไฟใหญ่มาเกะกะ ปุ่มไฟเลี้ยวอยู่มือซ้าย(จำได้ว่าต้องคอยกดคืน) ปุ่มไฟใหญ่อยู่มือขวา ขับแรกๆ ก็งงๆ มันฝืนธรรมชาติรถญี่ปุ่น  แตร อยู่ตรงไหนหว่า... ไม่ใช่ที่พวงมาลัย? เคยเอาไปเที่ยวผับ เมาเหล้าถอยรถ ชนถังขยะที่เป็นถังน้ำมัน200ลิตรเก่าๆ กระเด็นกระดอน ตื่นเช้าสร่างเมา รีบมาดูรถ มีแต่รอยถลอกนิดหน่อย ... โล่งอก พอเรียนจบ ขับไปทำงานก็ดูมันแก่ๆ ขอพ่อเอาไปขาย ปล่อยไป 1แสนถ้วน คนมาซื้อไม่ต่อซักคำ ตอนนี้ เสียดายยยยย  ผมขอโทษครับพ่อ ปล.ขออนุญาตท่านเจ้าของกระทู้เซฟรูปนะครับ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 22:17:06 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 22:12:28 จากคุณ : เถื่อนตามดวง - [ 4 มี.ค. 52 22:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ยินดีครับ จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 22:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด ราคาราว 1ล้านบาท ไช่มั้ยครับ สภาพสมบูรณืมากเลย จากคุณ : REX-REX - [ 4 มี.ค. 52 22:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 งามมาก ๆ เลยครับ โอโห้  สวย จัง จากคุณ : ปัญญาประดิษฐ์ - [ 4 มี.ค. 52 23:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จำได้ตอนเด็กๆเคยนั่งรถของอา รุ่นนี้เลย ชอบตอนมันค่อยๆยกตัวขึ้น นึกแล้ว อยากกลับไปเป็นเด็กจัง จากคุณ : พริกดอง พริกน้ำส้ม - [ 4 มี.ค. 52 23:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สวยมากๆเลยครับ แต่ดูแล้วนั่งหลังคงจะสบายกว่านั่งหน้านะครับ จากคุณ : M-force333 - [ 4 มี.ค. 52 23:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านที่พวกท่านคุยกันมา ชักอยากจะกลับไปติดเครื่องเอามาขับเล่นอีกแล้ว จากคุณ : Navarat.C - [ 4 มี.ค. 52 23:26:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ดีนะที่เข้ามาดู เลยได้คิดถึงสมัยเด็ก ชอบรถรุ่นนี้มาก เห็นวิ่งผ่านทีไรจะรีบหันไปดูจนพ้นสายตา จนป่านนี้ ยังไม่เคยมีโอกาสได้นั่งได้ลองขับเลย เป็นรถในความ ทรงจำที่ไม่เคยลืมเลย จากคุณ : XXL - [ 5 มี.ค. 52 01:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวยมากๆเลยครับ ตามมาจากห้อง Olym มาเลยนะเนี่ยะ จากคุณ : BertAXM (BertAXM) - [ 5 มี.ค. 52 04:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอนอกเรื่องหน่อยครับ ไฮดรอลิกของซีตรอง กะของออสติน นี่ระบบมันเหมือนกันมั้ยครับ จากคุณ : อ (อากง) - [ 5 มี.ค. 52 08:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สวยสุด ๆ เลยครับ มีรถสวย ๆ อย่างนี้ ผมล่ะอิจฉา จากคุณ : เงินเดือนสามพันขับวอลโว่ - [ 5 มี.ค. 52 08:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ทำให้มันวิ่งได้เถอะครับ แล้วเอาออกมาขับ ให้เป็นที่อิจฉาและฉงนสงสัย ของผู้ใช้รถบนท้องถนน รวมทั้งผมด้วย อิอิ จากคุณ : FyGI - [ 5 มี.ค. 52 09:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สมัยก่อน มันเป็นรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีฝรั่งเศสเชียวนะครับรุ่นนี้ ไม่ธรรมดาหรอก. จากคุณ : LittleTiger - [ 5 มี.ค. 52 09:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โห.. เป็นการรักษารถที่ดีมากๆเลยคับ ใหม่ ปิ๊ง.. ทั้งภายในและภายนอก จากคุณ : ตาเอิ้น (wish_c_za) - [ 5 มี.ค. 52 09:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 รถสวยมากๆเลยค่ะ   เบาะหนังท่าทางจะนิ่มน่าดูเลยค่ะ พวงมาลัยเท่ห์มากๆ   เห็นแล้วอยากนั่งจังเลยค่ะ จากคุณ : khunrarin - [ 5 มี.ค. 52 09:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ข้างในดีกว่าตอนออกใหม่ๆอีกมั้งครับ  โห จากคุณ : TzOzOzN - [ 5 มี.ค. 52 10:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เหมือนรุ่นนี้ราคาออกห้างจะแตะๆ ล้านใช่หรือเปล่าครับ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดยอดมากในยุคนั้น กระจกไฟฟ้า กระจกมองข้างปรับภายใน เห็นบางรุ่นมีตู้เย็นเสียด้วย ตอนนู๊นพ่อผมเคยไปดูตัวที่โชว์รูมตรงจตุจักร เซลล์จัดการวิ่ง 3 ล้อให้ดูครับ กลับมาน้องชายมาคุยให้ฟังว่า เอ็ย ซีตรองมันเจ๋งมากเลยอ่ะ วิ่ง 3 ล้อได้ด้วย แต่สุดท้ายพ่อผมไปถอย Renault 20TS แทน ไม่เป็นไรฝรั่งเศสเหมือนกัน แถมกดแตรไม่เหมือนชาวบ้านอีกเหมือนกัน ถามหน่อยครับ 2400 Pallas กะ Pretiege มันต่างกันไงครับ ใช่ความยาวฐานล้อหรือเปล่าครับ จากคุณ : dragunov - [ 5 มี.ค. 52 11:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าไม่รักจริงคงไม่ลงทุนบูรณะไปตั้งสามแสนเชียวนะเนี่ย เป็นซีตรองที่สวยที่สุดที่ผมเคยเห็นมาเลยครับ เคยขับทั้ง cx20 และ เพรสตีจ เหมือนกันครับ ช่วงล่างของรถรุ่นนี้เกาะถนนสุดยอดเลย เข้าโค้งบนทางด่วนได้เต็มๆแบบไม่มีเสียวสักนิดทั้งๆที่ไม่ได้แต่งช่วงล่างมาเลย เวลาสตาร์ทรถแล้วไฮดรอลิกมันยกตัวรถขึ้น คนมองกันเป็นแถวเลย เสียดายรถซีตรองสมัยนี้จริงๆ ไปอยู่ในมือค่ายรถแย่ๆทั้งบริการและราคาอะไหล่เลยทำให้ชื่อเสียงที่เรื่องลือของซีตรองตายไปจากตลาดรถบ้านเราไปเลย จากคุณ : ผ่านมาชม - [ 5 มี.ค. 52 11:37:28 A:124.120.61.124 X: TicketID:106043 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เอากลับมาวิ่งเถอะครับ รถสวยๆแบบนี้ยิ่งจอดไม่ใช้เลยยิ่งโทรมเร็วครับ จากคุณ : max'86 - [ 5 มี.ค. 52 12:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมเคยขับ cx20 สี midnight blue อยู่หลายปี เรื่องเกาะถนน กับเข้าโค้งนี่ไม่แพ้ใครก็แล้วกัน ยิ่งระบบกันสะเทือนนี่สุดยอด สมัยนั้น ถนน พระรามสองยังสร้างไม่เสร็จเป็นลูกรัง คันอื่นสั่นสะเทือนไปทั้งคันเกือบหลุดเป็นชิ้นๆ แต่เจ้าต๋อง(ซีตรอง)ผม มันเงียบสนิทแทบไมรู้สึก ยิ่งขึ้นลงสะพานไม่ต้องชะลอ ไม่มีเสียวหน้าท้องหรือแกว่งเลย  พวงมาลัยนี่ทดรอบสุดๆครับหมุนรอบเดียวสุดแล้ว แถมตีกลับมาตั้งตรงเองทุกครั้งไม่ต้องไปสาวให้เมื่อย กลับรถนี่ครั้งเดียวผ่านถ้าไมใช่ถนนในซอย  แต่อย่าให้รถตายนะครับทุกอย่างจะกลายเป็นหินในบัดดล เพราะฉนั้นต้องเอาใจใส่พอสมควร ตัวถังแข็งใช้ได้ไม่ใช่แบบรถญี่ปุ่นทุกวันนี้หมาเห่าใส่ยังบุบ แต่เวลาซ่อมต้องช่างซีตรองจริงๆ สมัยนั้นก็อู่ช่างศักดิ์ ซอยทรัพย์ครับถ้าจำไม่ผิด  อัดลูกไฮโดรลิก ลูกละ๓๐๐บาท ทั้งคันจะมี๕หรือ ๖ ลูกนี่แหละครับ  ปัญหาที่เป็นบ่อยก็ความร้อนครับเวลารถติด สมัยนี้ยังเห็นวิ่งกันอยู่บ้าง  แต่น้อยมาก   รูปลักษณ์ทันสมัยตลอด เอามาวิ่งตอนนี้ไปไหนก็ยังมีคนมอง  สปอร์ตคลาสสิก    ทุกวันนี้ยังคิดถึงมันอยู่เลยครับเจ้าต๋องนี่ จขกท ครับเอาออกมาใช้เถอะครับเสียดายรถดีๆ จากคุณ : wilson_sam - [ 5 มี.ค. 52 16:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จำได้ว่าที่งานเกษตรแฟร์ครั้งหนึ่ง ตอนที่ซีตรองรุ่นนี้ออกใหม่ๆ มีคนเอามาวิ่งสามล้อโชว์.... แล้วตรงล้อที่หายไป พี่แกผูกลูกโป่งสวรรค์ไว้ลูกหนึ่ง พอวิ่งผ่านไปมีเด็กชายอายุสัก 8-9 ขวบ ร้องออกมาว่า "แน่จริงเอาลูกโป่งออกสิ" คนหัวเราะกันเกรียวเลย จากคุณ : หมู4X - [ 5 มี.ค. 52 18:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เคยใช้ CX 20 สีขาวรุ่นปี 1983 ตอนนั้นที่บ้านให้มาหัดขับก่อนจะซื้อรถใหม่ จำได้ว่าเวลาเข้าจอด พวงมาลัยไม่ว่าหมุนไปทางไหน มันจะกลับมาตรงกลางเองเสมอ ทั้งๆ ที่รถไม่ได้เลื่อนนะ ระบบไฮดรอนิวเมติกก็สุดยอด เอารถไปแบกของหนักหลายร้อยโล รถท้ายไม่ห้อยเลยซักนิด เบรคกระทืบให้ตายยังไงหน้าก็ไม่ทิ่ม แถมเจอหลังเต่าเหรอ หึหึ กระโดดข้ามไปเลยนิ่งๆ ผมว่า ณ เวลานั้น ซีตรอง CX 20 เค้าล้ำสมัยเรื่องเทคโนโลยีนะ ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ CITROEN DS แระ รถปี 1960-1970 แต่มีระบบไฟหน้าเลี้ยวตามการเลี้ยวพวงมาลัย (ใช้สลิง) สมัยนี้ BENZ LEXUS เพิ่งเอามาทำขาย จากคุณ : .... (SHAGUAR) - [ 5 มี.ค. 52 23:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมชอบรุ่นนี้มากกกกกกกกกกก ยิ่งสีดำเงาๆๆนะ จากคุณ : pick_nicky - [ 5 มี.ค. 52 23:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สิบกว่าปีก่อนใช้ CX20 ประทับใจมากกับระบบช่วงล่างเเต่ทนค่าซ่อมไม่ไหวเลยขายไปถูกๆๆ 50000 พ่อยังเรียกมันว่า อ้ายรถขี้เหนียว ผมถามว่าทำไมพ่อบอกว่าขนาดหมามันยังไม่ให้นอนใต้ท้องรถ ผมฮาเลยเพราะเวลาจอดมันจะยุบตัวลงเรื่อยๆๆๆจนคานติดพื้น เเละผมเองก้ชอบขับเเบบไม่ยกไฮโดรลิกสมัยนั้นเท่ห์มากๆๆๆโหลดเเป้กๆๆๆ จากคุณ : nicks22 - [ 6 มี.ค. 52 23:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 40 รถสวย ... จากคุณ : jassb1 - [ 7 มี.ค. 52 13:09:22 ]