ความคิดเห็นที่ 1 ฉายานี้มาจากรูปลักษณ์ภายนอกของ 500E ที่ไม่แตกต่างจาก W124 รถขนาดกลางของค่ายดาวสามแฉกทั่วไปนัก ที่ดูแปลกแตกต่างจาก W124 ทั่วไปก็เพียงโป่งรอบคันที่คลุมยางขนาดใหญ่กว่าปกติเอาไว้ บวกกับความสูงที่น้อยกว่านิดหน่อย แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นกลับแตกต่างโดยสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะที่ เยี่ยมยอด ตัวถังที่แข็งแกร่ง และความแตกต่างจาก W124 ทั่วไปเริ่มกันตั้งแต่ต้นกำเนิดของมันเลยทีเดียว จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มต้นของเรื่องราวคงมาจาก เมื่อ BMW คู่แข่งของ Mercedes-Benz จาก Munich (Munchen) ในแคว้น Bavaria (Bayern) เปิดตัวรถ High-Performance Sedan อย่าง M5 (E28) เป็นครั้งแรกในปี 1985 M5 ตัวแรกใช้เครื่อง 3.5 ลิตร 6 สูบเรียง(Inline-6) 286 แรงม้า ประกอบด้วยมือโดย BMW M GmbH. หรือที่เรียกว่า M-Division ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักขับชาวยุโรปที่มีถนนดีๆไว้รองรับรถแรงๆ อย่าง Autobahn ใน Gemany และ Autostrada ใน Italy แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 06:55:06 จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พอปี 1989 BMW เปิดตัว M5 ใน Body ใหม่ E34 โดยยังใช้เครื่อง Inline-6 เหมือนเดิม ความจุเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.6 ลิตร 315 แรงม้า ซึ่งก็ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีอีกครั้งแถมเป็นการเปิดตลาดใหม่ที่เรียก ว่า High-Performance Sedan ขึ้นมา จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนนั้น Benz กำลังไปได้สวยกับ Body อย่าง W124 ทั้ง 230E และ 300E เรียกว่าผลิตแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว แล้วก็มีคนเอา W124 ไปแต่งอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Brabus หรือ AMG (ตอนนั้น AMG ยังไม่ได้เป็นของ Benz) ซึ่งแน่นอนสำนักแต่งต่างๆแต่งรถ Benz ซะแรงเกินหน้าเกินตา Benz แถมหน้าตายังผิดกับความเป็น Benz ทั่วๆไป บริษัทเยอรมันก็เหมือนคนเยอรมัน Ego แรงขนาดนั้นก็คงรับไม่ได้ แถม BMW ยังเปิดตัว M5 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทาง Benz คงเห็นช่องทางขึ้นมาว่าลูกค้ากลุ่มนี้คงไม่น้อยแถมยังให้ชาวบ้านได้รู้อีก ว่า รถแรงๆในสไตล์ Benz เป็นอย่างไร จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แต่ครั้นที่จะออกแบบเองผลิตเอง ตอนนั้น Benz ยังไม่ได้มี Motorsport Division เป็นเรื่องเป็นราว เหมือนทาง BMW ตัวโรงงานที่ Sindelfingen ก็ง่วนอยู่กับการผลิต W124 ธรรมดาอยู่ จะขึ้นไลน์การผลิตก็คงยาก แถมไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองไปคุยกับเพื่อนร่วมเมือง Stuttgart ที่เชี่ยวชาญการผลิตรถ High performance อย่าง Porsche ดู ทาง Porsche เองนั้นกำลังว่างจากการผลิตหลังจากหยุดการผลิต 959, 944 ลง ก็คงเห็นช่องทางว่า เอา Benz มาผลิตก็คงช่วยเรื่องการว่างงานได้ (เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากหยุดผลิต E500 ก็ได้ Audi RS2 มาผลิตอีกครั้ง) ทาง Benz ได้ให้โจทย์กับทาง Porsche ว่า ต้องการให้ Porsche เอา W124 ที่มีอยู่ไปพัฒนาให้เป็นรถทีมีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยใช้เครื่องยนต์ M119 ของ 500SL (R129) แล้วก็ต้องประกอบตัวถังด้วยมือที่โรงงาน Rossle-Bau ของ Porsche ใน Zuffenhausen ในเบื้องต้นทาง Benz คาดว่าทาง Porsche จะประกอบรถรุ่นนี้ได้ 8-12 คันต่อวัน หรือ 2,400 คันต่อปี จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:41:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 Porsche เองพอได้โจทย์แบบนั้นมา ก็ต้องเอา W124 มาดูว่าควรต้องทำอะไรเพิ่มเติมกับตัวถังบ้าง เพื่อที่จะรองรับเครื่องยนต์ของ 500SL ได้ ก็ได้ข้อสสรุปว่า ต้องเพิ่มความแข็งแรงในจุดต่างๆของตัวถังเพื่อรองรับน้ำหนักและกำลังของ เครื่องที่มากขึ้น เลื่อนผนัง Firewall เข้าไปให้ใกล้ห้องโดยสารเพื่อที่จะวางเครื่องยนต์ได้ใกล้จุดศูนย์กลางของรถ มากขึ้น ย้ายแบตเตอรี่ไปไว้ด้านหลัง เพื่อที่จะกระจายน้ำหนักให้ใกล้เคียง 50:50 ขยายอุโมงค์เกียร์ให้ใหญ่ขึ้นเพื่อที่จะรองรับหน้าแปลนเกียร์ของเครื่องยนต์ ใหม่ได้ ขยายถังน้ำมันจาก 75 ลิตรเป็น 90 ลิตร จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ระบบกันสะเทือนนั้นก็ยกชิ้นส่วนของ 500SL ที่มีขนาดใหญ่โตกว่ามาใช้เพื่อรองรับน้ำหนักที่มากขึ้น ตัว Shock absorber หน้าก็เปลี่ยนมาใช้แบบแก้ส ความที่ Spring และ Shock absorber นั้นมีความแข็งและสั้นกว่าปกติ 500E ก็เลยมีึความสูงน้อยกว่า W124 ทั่วไปอยู่ประมาณ 1 นิ้ว สำหรับทางด้านหลังก็ใส่ Hydraulic balance เหมือนที่อยู่ใน T-Model หรือตัว 5 ประตูด้วย ส่วนระบบเบรคก็ได้เบรค หน้าขนาด 300 mm.แบบมีรูระบายความร้อน และเบรคหลังขนาด 277 mm. จาก 500SL เพราะเบรคใหญ่ขึ้นเลยต้องใส่ล้อ 16x8J แล้วรัดไว้ด้วยยาง 225/55 ลายเดียวกับที่เราเห็นใน W124, W140 ทั่วไป (ปกติ W124 ใช้ล้อ 15x6.5J ยาง 195/65) จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากการเอาชิ้นส่วนของ 500SL มาใส่และการใช้ล้อที่มีขนาดกว้างกว่าปกติ ทำให้ความกว้างของ 500E นั้นกว้างกว่า 300E อยู่ 1.5 นิ้ว เลยต้องมีโป่งออกมามากกว่า W124 ทั่วไปและเป็นจุดที่สังเกตเห็นได้ง่ายที่สุด พอมีโป่งออกมาแล้วเลยต้อง Design ตัว Aeropart ใหม่ด้วย แต่เชื่อไหม ว่ามันต้องต้องสังเกตจริงๆถึงจะเห็นความแตกต่างจาก W124 ธรรมดา จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนเครื่องยนต์ที่จะเอามาลงในตัวถังนี้นั้น ทาง Benz ได้เลือกเครื่อง M119 ที่วางอยู่ใน 500SL (R129) มาใช้กับ 500E M119 เป็นเครื่อง V8 32 valve 4973 cc. ปั่นแรงม้าออกมาได้ 326 แรงม้าที่ 5700 rpm. แรงบิดสูงสุด 479 N-m ที่ 3900 rpm มีระบบ Variable valve timing โดยการเปลี่ยนองศาแคมได้ประมาณ 20 องศาในเฉพาะฝั่งไอดี เดิมจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดกลไกที่คุมด้วยไฟฟ้า KE-Jetronic ของ Bosch แต่รุ่นที่มาลงใน 500E นั้น เปลี่ยนเป็น LH-Jetronic ที่เป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมด แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 06:56:20 จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถึงจะเป็นเครื่อง V8 ความจุสูง แต่น้ำหนักนั้นหนักกว่าเครื่อง M103 Inline-6 ที่วางใน 300E เพียง 36 Kg. เพราะเครื่อง M119 นั้นสร้างมาจาก Aluminum Alloy ทั้งหมด และมีการออกแบบกลไกที่ดี อย่างข้อเหวี่ยงนั้นก็มีการเจาะรูลดน้ำหนักด้วย (บางคนอาจจะเคยเห็นเครื่องยนต์คล้ายๆกันกับเครื่องตัวนี้ ในรถหรูสัญชาติญี่ปุ่นบางยี่ห้อ เพราะเขาเอาเครื่องรุ่นนี้ไปผ่าศึกษา แล้วก็เอาไปผลิตใส่รถตัวเอง) แต่ในโลกของความแรงไม่มีอะไรได้มาฟรี การเอาเครื่อง M119 มาลงในตัวถัง W124 นั้นก่อให้เกิดความร้อนมหาศาลจนต้องขยายขนาดและเปลี่ยนทางเดินหม้อน้ำใหม่ แถมเครื่องตัวนี้ยังกินน้ำมันมากกว่าเดิมมากจนต้องใส่ถังน้ำมันขนาด 90 ลิตรแทน ปล. รูปที่เอามาใส่จะมีเทอร์โบด้วย จริงๆแล้วรุ่นนี้ไม่มีเทอร์โบนะ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 07:18:47 จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 500E ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติอย่างเดียวเท่านั้น จริงๆแล้วไส้ในของเกียร์ที่เอามาใช้กับ 500E ก็ตัวเดียวกับ 300E นั่นแหละ แต่ต้องทำหน้าแปลนข้างนอกให้เข้ากับเครื่อง V8 ส่งกำลังผ่านเฟืองท้ายอัตราทด 2.82:1 ทำให้ 500E ที่ตัวถังหนักเกือบ 1.8 ตัน มีอัตราเร่ง 0-100 ใน 5.6 วินาที ความเร็วสูงสุดหลังปลดล๊อค อยู่ที่ประมาณ 274 Km/h แต่ด้วย Torque ระดับ 480 N-m นั้นไม่ใช้น้อยๆ ถ้าเผลออาจจะคุมไม่อยู่ได้ ทาง Benz จึงติดตั้ง ASR (Anti-Slip Regulation) มากับ 500E ด้วย พร้อมทั้งให้รถออกตัวที่เกียร์ 2 เพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าอยากลองออกรถด้วยเกียร์ 1 ก็กระทืบคันเร่งแรงๆแล้วคุมพวงมาลัยให้ดีๆแล้วกัน แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 06:56:54 จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การผลิต 500E นั้นถึงจะมีการประเมินในตอนต้นว่าทาง Porsche จะผลิตได้ 8-12 คันต่อวัน แต่เอาเข้าจริงกลับผลิตได้เพียง 18 วัน ต่อคัน (ใช่แล้ว 18 วันต่อคันจริงๆ) เพราะ Benz ต้องการให้ 500E ถูกสร้างขึ้นมาอย่างปราณีตที่สุด เริ่มจากการที่ทาง Porsche ประกอบชิ้นส่วนตัวถังขึ้นมาด้วยมือเป็นคันในโรงงานที่ Zuffenhausen แล้วต้องส่งตัวถังที่ประกอบแล้วไปตรวจสอบความเรียบร้อย พ่นกันสนิมและทำสีที่โรงงานของ Benz ที่ Sindelfingen แล้วส่งกลับไปประกอบเครื่องยนต์ เกียร์และกลไกต่างๆ ที่โรงงานของ Porsche อีกครั้ง แล้วจึงส่งกลับไปตรวจความเรียบร้อยอีกครั้งที่โรงงานของ Benz แล้วจึงส่งไปขาย รถรุ่นนี้มีเฉพาะพวงมาลัยซ้ายเท่านั้น ถ้าใครเคยเห็นรถรุ่นนี้แต่พวงมาลัยขวาล่ะก็ แสดงว่าไม่ใช่ 500E แท้ๆ จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:50:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พอปี 1993 ทาง Benz เองก็มีการ Minor change W124 หรือที่เราเรียกว่า "Code C" หรือ "E หน้า" นั่นแหละ 500E เองก็เปลี่ยนเหมือนกัน โดยตัวถังก็เปลี่ยนให้ทันสมัยขึ้น มี Auto Climate Control เปลี่ยนเบรคหน้าใหม่เป็น 320 mm. แล้วก็ได้ชื่อใหม่ว่า E500 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 06:58:05 จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:51:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากนั้น ในปี 1994 ก็มี E500 Limited Edition ออกมาอีก ภายในเปลี่ยนใหม่เป็นสองสีใช้ไม้ birds-eye maple สีดำ ใส่ Option มาเต็มเหยียด พวงมาลัย 4 ก้านแบบใหม่ แล้วก็ล้อ 17 นิ้วลายใหม่เหมือน 190E Evolution รุ่นนี้มีเพียง 499 คัน จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แต่เหนือฟ้าก็ยังมีฟ้า ในช่วงท้ายๆของการผลิต W124 นั้น AMG (ซึ่งถูก Benz ซื้อไปแล้ว) ได้เอารถ E500 Limited Edition 12 คันไปแต่งเพิ่ม โดยขยายความจุเครื่องยนต์เป็น 6 ลิตร เปลี่ยนระบบกันสะเทือน ท่อไอเสีย ล้อ และภายในให้เป็นของ AMG ทั้งหมด ก็ได้แรงม้าเพิ่มมาเป็น 381 แรงม้า กับอัตราเร่ง 0-100 น้อยกว่า 5.3 วินาที ชื่อรุ่นนี้คือ AMG E60 จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 E500 สิ้นสุดการผลิตลงในปี 1995 พร้อมกับการเปิดตัว E-Class ตัวถังใหม่ W210 รวมแล้ว 500E/E500/E500 Limited Edition/AMG E60 ได้ถูกผลิตขึ้นมา 10,479 คัน นับว่่ายอดเยี่ยมทีเดียวสำหรับรถราคา 75,000 US$ ความพิเศษของ 500E/E500 นี้ นอกจากจะเป็นรถที่ประกอบด้วยมือทั้งคัน และสมรรถนะที่เยี่ยมยอดแล้ว ยังเป็นรถที่แสดงถึงความร่วมมือกันของ Porsche และ Mercedes-Benz ซึ่งคงหาไม่ได้อีกแล้ว เพราะในปี 1991 หลังจากที่ 500E เปิดตัวได้ไม่นาน ทาง Benz ก็ซื้อ AMG ที่มีแนวทางการแต่งรถที่แตกต่างออกไป รถE500 รุ่นหลังๆก็ไม่ได้มีความพิเศษเหมือนที่อยู่ใน Body W124 เพราะ AMG รับผิดชอบรุ่นพิเศษแทน 500E/E500 W124 จึงกลายเป็นตำนานอีกบทหนึ่งของวงการรถยนต์ที่หลายคนคงจะจดจำไปอีกนาน จากคุณ : blue_dahlia - [ 7 มี.ค. 52 06:54:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หุหุ รถดีในอดีต ขึ้นแท่นเลย แต่เครื่องใหญ่ขนาดนี้ มีความร้อนสูง วิ่งในบ้านเราสงสัยจะมีปัญหาเรื่องตัวร้อนเป็นไข้อบ่อยๆแน่เลย จากคุณ : Etinity - [ 7 มี.ค. 52 06:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : PTKNC - [ 7 มี.ค. 52 08:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากครับ อ่านเพลินเลย จากคุณ : DarkBlueFlamingo - [ 7 มี.ค. 52 08:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แต่กี่รุ่น ๆ ของ Benz ที่ลงเครื่องแรง ๆ มาก ๆ ลงไป Handling แย่หมดนะครับ ได้ทางตรงอย่างเดียว ชอบ E500 ที่ Body อย่างเดียว นอกนั้นเฉย ๆ อ่ะ จากคุณ : นามแฝงที่จะใช้ในเว็บ - [ 7 มี.ค. 52 09:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นอยู่คันพวงมาลัยขวา แปลงทั้งคันมาจากE220 บ้านเรานี่เอง หมดไปเป็นล้านแต่มาครบๆ จากคุณ : bigBirdS - [ 7 มี.ค. 52 09:29:08 ]

ความคิดเห็นที่ 22 I reward you 3 gives thank you for such a good quality content wish that we have more people like you จากคุณ : Fighting Beaver - [ 7 มี.ค. 52 09:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เพื่อนผมมีคันนึง ซื้อตั้งแต่อยู่เมกา เลยเอามาด้วย แรงใช้ได้เลย เคยจับกะ W203 C32AMG เครื่อง 354 แรงม้า ตัวซีคลาส หนีไม่ออกเลย แต่ E500 ก็ขึ้นไม่ได้เหมือนกันสรุปว่า แรงมาก ถ้าทางตรงๆยาวๆ สงสัยมีโดน จากคุณ : เคยทำ - [ 7 มี.ค. 52 10:49:32 A:192.168.0.17 X:210.203.191.250 TicketID:207223 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เยี่ยมเลย จากคุณ : ก้นกบ - [ 7 มี.ค. 52 11:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 25 500E ได้เวลาหาซื้อมาเก็บกันแล้ว ราคามีแต่ขื้นกับขื้น จากคุณ : gowest - [ 7 มี.ค. 52 14:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณสำหรับข้อมูลสนุกๆแถมได้ความรู้คับ ชอบ E500 จัง สวยมากกก จากคุณ : CD6 Mugen - [ 7 มี.ค. 52 16:06:40 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับ สรุปคันนี้ไม่ใช่ใช่ไหม http://www.one2car.com/CarInfor/cardetails.aspx?caridx=L20079012&row=2 จากคุณ : TaTum0022 - [ 7 มี.ค. 52 18:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ค.ห.27 ของปลอมครับ คันจริงสภาพน่าเกลียดมาก ของจริงตัวนี้ครับ จากคุณ : คุณหน่อง - [ 7 มี.ค. 52 21:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 พวกแปลง ๆ ลงเครื่อง 500 เข้าโค้งที ต้องระวัง ๆ กันหน่อยนะ ปกติ หน้าก็หนักมากอยู่แล้ว ต้องไปหาสปริงแข็ง ๆ มาใส่ก็เด้งอย่างกับม้าแล้ว ถ้ามาแรง ๆ เข้าโค้ง หน้ายิ่งดื้อเข้าไปอีก เตรียมมิดได้ตลอดเวลา ว่าแต่ ไฟหน้า E500 นี่มันสวยจริง ๆ พับผ่าสิ จากคุณ : นามแฝงที่จะใช้ในเว็บ - [ 8 มี.ค. 52 12:06:43 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันจ้า ขอตอบพี่นามแฝงฯ นิดนึงเน้อ.. คิดเหมือนพี่เลยว่าพวกตัวแรงๆของ Benz Handling สู้ทาง BMW ไม่ได้ แต่จะไปเทียบกับทาง BMW M มันก็ไม่ใช่แนวเดียวกันซะทีเดียวเพราะพวก BMW M มันเป็นรถที่ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถแข่ง ยิ่งพวกตัวแรกๆเนี่ยใกล้เคียงรถแข่งมากกว่ารุ่นใหม่ๆซะอีก มันผิดกับทาง Benz ที่เหมือนว่าจะทำรถ ที่ยังคงความเป็นรถบ้านอยู่ แต่เครื่องยนต์แรงขึ้นเท่านั้น เพราะลูกค้าของ Benz ยังคงอยากได้รถที่นุ่มนวลอยู่บ้าง แถมโดยธรรมชาติแล้วเครื่อง BMW มันแรงได้มากกว่าที่ความจุเท่ากัน Benz เลยต้องเอาเครื่องใหญ่ๆที่หนักมากว่าลง Handling มันเลยตามเครื่องไม่ทัน ก็ความคิดเห็นส่วนตัวนะพี่ แต่ขอเว้นไว้รุ่นนึงคือ 190E Evolution อันนั้น Handling มันใกล้เคียงรถแข่งเพราะมันคือรถแข่งที่เอามาขายให้ครบตามกฎ Homologation ตอบคุณ TaTum0022 คห.26 พวงมาลัยขวา เบาะ พวงมาลัย ก็ไม่ใช่ของ 500E ด้วย เบาะหลังของ E500 จะเป็น Bucket seat นั่งได้แค่ 2 คนนะ (เบาะของรถร่นนี้เป็นของ Recaro ทั้งหมดทุกตัว) ดังนั้นน่าจะเป็นรถที่วางเครื่องมาใหม่แหละจ้า แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 15:48:22 จากคุณ : blue_dahlia - [ 8 มี.ค. 52 15:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อย่าที่ว่าครับ ตัวนี้มันเรียกได้ว่าคนละรุ่นกับW124ธรรมดาเลย ถ้าจะเปรียบขั้นตอนการแปลงรถ ก็เหมือนเอาCediaแปลงเป็น EVO7ล่ะครับ ผ่ากันทั้งคันแม้แต่ประตูก็ใช้ร่วมกันไม่ได้(ทั้งภายในภายนอก) แต่ก็มีนะที่มาครบๆทั้งคันจริง พวงมาลัยขวาต่างหาก แต่เรื่องร่นfirewallนั้นไม่แน่ใจแต่คิดว่าไม่ได้ทำ ตอนนี้คงไม่มีใครทำเพิ่มแล้วล่ะครับ เพราะวางJZก็แรงและจบเหมือนกัน จากคุณ : bigBirdS - [ 8 มี.ค. 52 21:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไอ้วางเครื่องลงไปเนี่ย มันไม่เท่าไหร่หรอก ทั้งเครื่องยี่ห้อเดียวกันหรือวางข้ามสายพันธ์ แต่การวางเครื่องลงไปแล้วใช้สมรรถนะของเครื่องใหม่ได้ครบเนี่ย ไม่ง่ายเลยนะ ไม่งั้น Porsche คงไม่ไปยุ่งโครงสร้างตัวถังกับระบบกันสะเทือนให้มันเปลืองต้นทุนหรอก คนไทยหลายคนชอบเอาเงินไปลงที่เครื่องหมด เบรค ระบบรองรับไม่เคยสนใจ รถวิ่งได้ก็จริง แต่พอจะเบรคหรือเข้าโค้งเนี่ยเครื่องมันแทบช่วยอะไรไม่ได้เลย แบบนี้แหละมันเลยมิดกันซะเยอะ อยู่ในเมืองอาจจะไม่รู้สึก ลองออกต่างจังหวัดยาวๆสิ ความแตกต่างนี้จะชัดเจนขึ้น แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 22:59:35 จากคุณ : blue_dahlia - [ 8 มี.ค. 52 22:58:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านเพลินดีครับ...ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ฮ5555 - [ 9 มี.ค. 52 09:52:34 A:203.131.212.105 X: TicketID:071933 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความรู้ เนี้ย มันเท่ จริงๆ เอา อีห้าร้อยมาลงแก็ซ ได้ไหมครับ จากคุณ : รรน - [ 20 เม.ย. 52 16:32:31 A:58.64.104.164 X: TicketID:106642 ]