ความคิดเห็นที่ 1 เห็นขายๆ หรือทำกันเองก็ เอาคร่อมขั้ว + - มันก็ทำงานตลอดเวลา แบบนี้ อายุก็สั้นมาก แล้วก็ ทำให้แบตทำงานตลอดเวลา >>>>>>>>>>>>  แบตทำงานตลอดอยู่แล้ว เราดับเครื่องดึงกุญแจออกก็ยังมีไฟไปเลี้ยง ECU นาฬิกา กันโขมย อยู่ดี Capacitor เมื่อเก็บประจุเต็มที่แล้วจะแทบไม่มีกระแสใหลครับ ต่อคร่อมใว้เฉย ๆ ก็กินไฟนิดเดียว น้อยมาก ๆ แบบนี้ จะทำให้แบตลาโลกไปก่อนหรอืป่าว >>>>>>>>>>>> ไม่มีผลนะถ้ามันไม่ชอตนะ ดูๆ เหมือนไม่มีไรเลย กินแล้วก็คาย จะช่วยอะไรได้คะ >>>>>>>>>>>> ช่วยทางใจ อิอิ การใส่  bypass capacitor ต้องใส่ใว้ใกล้ load มากที่สุดครับ วิศวกรอิเล็กทรอนิกส์จะรู้ดี ใส่ที่แบตไม่ช่วยอะไร (อาจช่วยแต่น้อยมาก) จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ - [ 10 มี.ค. 52 17:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วตกลงอะไหล่ตัวนี้มันทำหน้าที่อะไรเนี่ย ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย จากคุณ : .. - [ 10 มี.ค. 52 18:54:36 A:203.144.130.176 X: TicketID:197822 ]

ความคิดเห็นที่ 3 volt stabilizer คือการนำตัวเก็บประจุ หรือ Capacitor หลายๆตัวมาต่อคร่อมกัน ผมจะขยายความเข้าใจเล็กๆน้อยๆ แหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าให้กับรถยนต์คือ ไดชาร์จ อาศัยการหมุนตัวตัดกันของขดลดสนามแม่เหล็ก เกิดเป็นไฟ กระแสสลับ หรือ AC เหมือนไฟบ้าน (ไม่มีขั้ว ไฟมาเส้นเดียว) แล้วเอามาผ่านวงจร Regurator ภายใน กรองไฟกระสลับ เป็นกระแสตรง DC แบบถ่านไฟฉาย มีสองขั้วบวก และ ขั้วลบ ส่งมากักเก็บกระแสไฟที่ แบตเตอร์รี่ แม้กระแส ไฟที่ได้จากไดชาร์จ จะมีความกระเพื่อม ไม่สม่ำเสมอ ตามความเร็วรอบเครื่องยนต์ แต่ตามหลักวิชาอิเล็กทรอนิกส์ Capacitor ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ Battery ต่อให้แรงดัน Votage และกระแส Current จะกระเพื่อมแค่ไหน Battery จะทำหน้าที่กรองกระแสให้เอง ยังไงกระแสก็เรียบ 100 เปอร์เซนต์ ส่วน volt stabilizer เป็นการกรองความถี่มากกว่า เหมือนคลื่นเสียงก็มีความถี่ ที่มนุษย์ได้ยิน และก็มีความถี่อีกมากที่เราไม่ได้ยิน volt stabilizer มีหน้าที่กรองความถี่ในจุดนี้ เพื่อไม่ให้ไปรบกวนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ทำงานร่วมกับความถี่ เช่นวิทยุ ลำโพง เพาเวอร์แอมป์ กล่อง ECU น็อกเซนเซอร์ วัดไมล์ วัดรอบอื่นๆ แต่ถ้าจะบอกว่าเอา volt stabilizer มากรองกระแสไฟให้เรียบขึ้น ผมว่าเป็นเพียงขี้เล็บของแบตเตอร์รี่ เท่านั้นครับ ส่วนเรื่องอายุการใช้งาน ไม่ว่า Capacitor หรือแบตเตอร์รี่พวกนี้มีอายุการใช้งานทั้งนั้นครับ ขึ้นอยู่กับความร้อนที่ไปกระทำต่อมัน แต่ให้มันเสื่อมยังไง ก็แทบไม่เห็นผล เพราะมันแทบไม่มีผลอะไรต่อรถยนต์เลย แต่ถ้าเป็น Capacitor ตัวเล็กที่อยู่กล่อง ECU ิอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือพวกที่อยู่วิทยุ โทรทัศน์ พวกนี้ค่าความถี่ว่าเป็น เฮริตซ์ พวกนี้ถ้าเสื่อมเมื่อไหร่ จะพาความถี่รวนไปทั้งวงจรเลยครับ จากคุณ : ผู้หาความแพ้ (Peterson) - [ 10 มี.ค. 52 19:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่อยากจะเรียก Voltage stabilizer เลย เพราะมันไม่ไช่ แค่ Bypass Capacitor ช่วยกรองแรงดันให้เป็นเส้นตรงมากขึ้น " ต่อให้แรงดัน Votage และกระแส Current จะกระเพื่อมแค่ไหน Battery จะทำหน้าที่กรองกระแสให้เอง ยังไงกระแสก็เรียบ 100 เปอร์เซนต์  " อันนี้ผมแย้งว่าผิดนะครับ Battery มีค่าความต้านทานภายในสูง (ESR) ทำให้เก็บประจุ และคายประจุได้ช้า จึงกรองไฟจากไดนาโมได้ระดับนึง พอเพียงกับที่ใช้ในรถ อาจจะแกว่งอยู่ประมาณ 11-13 V แต่ถ้าใส่ Bypass Capacitor เพิ่มเข้าไปแรงดันอาจแกว่งแคบลง เหลือประมาณ 11.5-12.5 V รถบางคันติดเครื่องเสียงเยอะ ๆ เวลาเปิดดัง ๆ เบสหนัก ๆ Power AMP จะดึงกระแสสูงมาก อาจเป็นร้อยแอมป์ในช่วงสั้น ๆ แบตเตอรี่จ่ายกระแสไม่ทัน จึงต้องใส่ (Bypass) Capacitor เอาใว้ช่วยจ่ายกระแสในช่วง Peak สั้น ๆ โดย Capacitor นั้น ต้องอยู่ใกล้ Power AMP ให้มากที่สุด และสายเส้นใหญ่ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ - [ 10 มี.ค. 52 20:26:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใส่ Capacitor ไปก็ไม่ได้ช่วย Sensor ต่าง ๆ ภายในรถ เพราะเขาออกแบบระบบ การส่งสัญญาณใว้ป้องกันแรงดันที่กระเพื่อมตรงนี้แล้ว Sensor ทีต้องการความแม่นยำเช่น Airflow O2 AF จะมีสายกราวด์แยกจากตัวถัง โดยเดินสายกราวด์จาก ECU มาโดยตรง จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ - [ 10 มี.ค. 52 20:36:04 ]