ซึ่งคนเคยเรียนคงจำกันได้ว่าวงจรนี้เป็น "ระบบอันดับหนึ่ง (First order system)" เพราะหลังจากทำการแปลงลาปลาซแก้ปัญหาสมการเชิงอนุพันธ์แล้ว เราจะได้ฟังก์ชั่นถ่ายโอน (Transfer function, TF) เป็น
vo(s)/vi(s) = (1/T) * (1/(s+1/T))
ซึ่งจะเห็นได้ว่าใน s - domain เทอมเศษของ TF ที่ได้ มี s ยกกำลัง 1 (นี่แหล่ะระบบอันดับหนึ่ง แท้จริงมาจากเทอมอนุพันธ์อันดับ 1)
โดย T คือ Time constant (ผมขอแปลเป็น ค่าเวลาคงตัว ) มีค่าเท่ากับ R*C เพราะฉะนั้น R และ/หรือ C ยิ่งมาก T ก็จะยิ่งมาก
โดยผมจะแบ่งการจำลองออกเป็น 3 กรณีนะครับ
Case 1. คือขณะที่วงจรยังไม่มีการทำงานมาก่อน (Initial condition = 0) อยู่ดีๆ จ่ายไฟตรงเข้าไป
Case 2. คือขณะที่วงจรยังไม่มีการทำงานมาก่อน จ่ายไฟพัลส์หรือรูปคลื่นสี่เหลี่ยมที่ 50 Hz (คาบเวลา 20/1000 วินาที หรือ 20 mSec) โดยให้ duty cycle = 50% (คลื่นขาขึ้นมีเวลา 10 mSec และขาลบ 10 mSec เท่ากัน)
Case 3. คือขณะที่วงจรยังไม่มีการทำงานมาก่อน จ่าย sine wave ที่ความถี่ 50 Hz ซึ่งผ่านการแปลงเป็นไฟตรงแบบ Full wave ด้วยไดโอดเรกติไฟเออร์
ป.ล.
1. ผมไม่รู้ไฟที่กำเนิดได้จาก alternator ในรถได้ความถี่เท่าไหร่นะครับ ใครอยากรู้ต้องไปวัดเอาเอง ผมยังไม่เคยวัดเลย ขอตั้งต้นที่ความถี่ไฟบ้าน 50 Hz ก่อนละกันครับ
2. ทุกกรณีที่ใช้มี amplitude ของแรงขาเข้า vi = 12 V เท่ากันทั้งหมด (แต่ (t) จะทำให้รูปคลื่นแตกต่างกันไป)
3. ทุกกรณี ผมสมมติค่า R ในวงจรที่ 0.01 โอมห์ และค่า C ในวงจร 33,000 ไมโครฟารัด (uF) ที่เค้านิยมใช้คร่อมไดชาร์จกัน ซึ่งจะทำให้ Time constant, T = RC = 0.00033
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 14:31:19
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 09:55:15
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 09:51:43
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 09:36:57
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 09:35:42
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 09:34:56