อยากเล่าเรื่องตัวเองไว้เป็นอุทาหรณ์และเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นกับพื่อนสมาชิกชาว Pantip อาจจะยาวนิดนึงแต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนที่กำลังคิดจะซื้อรถใหม่
เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาผมมีความคิดอยากซื้อรถใหม่ป้ายแดงมาใช้กับเขาบ้าง จึงได้เดินทางไปศูนย์รถยนต์มีชื่อแห่งหนึ่ง ทางศูนย์ได้แนะนำเซลมาคนหนึ่งสมมุตินามว่านาย เอก หลังจากได้พูดคุยกับนายเอกถึงความจำนงค์นายเอกก็พาเยี่ยมชมศูนย์เข้าออก ลองสตาร์ทรถคันโน้นคันนี้จนเป็นที่พอใจแล้วก็เข้าประเด็นกันว่าเราอยากได้รถใหม่โดย
1. อยาก Turn รถเก่ที่ใช้อยู่
2. ซื้อสด
นายเอกบอกได้ครับพี่ขอดูรถพี่ก่อนและประเมิณราคาว่าคร่าวๆ 300,000-320,000 ครับพี่เราบอกว่าถ้าได้ราคาตามนี้เรา OK นายเอกขอเวลาติดต่อเต็นท์ที่อยู่ในสังกัดแล้วบอกว่าจะติดต่อเราอีกครั้งพร้อมจะนัดแนะเต็นท์ไปตีราคาพอถึงวันก็มีคนมาดูรถแล้วแจ้งกับผมว่าจะแจ้งราคาไปยังนายเอก หลังจากนั้นไม่นานนายเอกก็โทรมาแจ้งว่าทางเต็นท์ให้ราคา 300,000 บาท ผมตอบตกลงและนัดแนะไปทำสัญญาจองรถกันที่
โชว์รูมในวันทำสัญญาจอง
** ผมได้รูดบัตรเครดิตไป 10,000 บาทพร้อมมัดจำทะเบียนรถเล่มเก่าไว้ และนัดส่งมอบรถคันเก่ากันที่ โชว์รูมอีกสองวันต่อมา
ที่โชว์รูมในวันทำสัญญาส่งมอบรถคันเก่า ผมได้ขับรถไปที่โชว์รูมซึ่งวันนั้นเป็นวันหยุดราชการมีนายเอกกับพนักงานอีกคนอยู่ที่โชว์รูม
** เราได้ทำหนัวสือสัญญาซื้อขายรถคันเก่ากับนายเอกโดยมีนายเอกเซ็นเป็นผู้ซื้อและเป็นผู้รับเงินส่วนตัวเงินนั้นนายเอกแจ้งว่าจะเป็นการจ่ายกันเองระหว่างเต็นท์กับศูนย์เมื่อผมทวงถามถึงใบเสร็จนายเอกแจ้งว่าเนื่องจากวันนี้มีงานออกบูทที่ห้างแห่งหนึ่งจึงไม่สะดวกขอเป็นวันถัดไปจะนำไปส่งให้ที่ Office ซึ่งในวันถัดไปนายเอกได้นำเอกสารเป็นใบเสร็จรับเงินชั่วคราวไปฝากไว้ให้ที่ Office นายเอกแจ้งว่าในกรณีของผมถ้าเป็นการซื้อสดและจ่ายเงินมากกว่า 70% ทางศูนย์จะมีการให้เครดิต 15 วันให้กับลูกค้าซึ่งถ้าผมสนใจที่จะใช้รถก่อนก็ขอให้ชำระเป็นเงินสดอีก 200,000 บาททางนายเอกก็จะเตรียมการเดินเรื่องให้ผมจึงตอบตกลงและนัดวันรับรถกัน
ใกล้ถึงวันรับรถก็มีการติดต่อจากนายเอกตลอดถึงเรื่องของแถม,รายละเอียดของฟิล์มกรองแสงรุ่นที่ผมอยากได้ ฯลฯ
ใกล้ถึงวันรับรถ นายเอกโทรมาถามว่าผมจะสะดวกรับรถที่ไหน ที่ศูนย์ใหญ่,ที่โชว์รูม, หรือจะให้เขาขับมาส่งที่ Office เนื่องจากมีฤกษ์ออกรถที่ผู้ใหญ่ที่เคารพขอไว้เข้ามาเกี่ยวข้องผมจึงขอให้นายเอกขับรถมาส่งที่ Office และได้เตรียมเงินสด 200,000 บาทไว้ตามที่สัญญา
ในวันรับรถตามเวลาที่นัดแนะไว้นายเอกได้ขับรถป้ายแดงรุ่นที่ผมตกลงซื้อไว้มาที่ Office หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าของแถมที่ตกลงกันไว้ยังขาดอยู่บางรายการ แต่มีข้อสังเกตุที่มาทราบภายหลังว่ามันผิดปกติคือ
1. มีกุญแจให้ชุดเดียว
2. ไม่มีคู่มือประจำรถ
3. ไม่มียางอะไหล่
นายเอกแจ้งว่าเนื่องจากรีบทำการตัดรถมาให้พวกของแถมต่างๆยังมาไม่ครบ ซึ่งของทั้งหมดจะครบในอีก 3 วันและขอให้เรานำรถเข้าไปที่ศูนย์เพื่อรับของทุกอย่างในวันนั้น ซึ่งในเวลานั้นเมื่อมีรถอยู่กับเรา ผมคิดว่ามันคงไม่มีปัญหาอะไร หลังจากนั้นก็พากันไปที่ Office ผมเพื่อจ่ายเงินสดจำนวน 200,000 บาท ซึ่ง
** นายเอกได้ให้ผมเซ็นเอกสารไปหลายอย่างเช่น
- หนังสือรับส่วนลดที่ศูนย์ลดให้ 20,000 บาท
- หนังสือตรวจรับรถ
- สำเนาทะเบียนบ้าน+บัตรประชาชน 3ชุดไว้ขอทะเบียน
- เอกสารหนังสือยอมรับสภาพหนี้ส่วนที่เหลือที่ทางศูนย์ให้เครดิต และได้ให้เฉพาะสำเนาเอกสารฉบับนี้ไว้ส่วนหนังสืออื่นๆ รวมถึงใบเสร็จรับเงินนัดรับกันที่ศูนย์
หลังจากนั้นอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมงทางผู้จัดการศูนย์ได้โทรมาแจ้งว่า Sale คนนั้นได้แอบนำรถมาส่งมอบโดยที่เขาไม่รู้รวมถึงเงินทั้งหมดที่ผมจ่ายไปรวมถึงการ Turn รถคันเก่าในราคา 300,000 นั้นทาง ศูนย์ยังไม่เคยได้รับเลยทางศูนย์รับทราบเฉพาะ 10,000 บาทที่จองรถเท่านั้น จึงจูงมือพากันไปโรงพักทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า
พนักงานนายนั้นทำงานได้เพียง 1 เดือน ที่สำคัญใช้เอกสารปลอมในการสมัครงาน รวมถึงไม่มีบุคคลค้ำประกันที่เชื่อถือได้มาเซ็นต์ค้ำประกัน ทำให้ใม่สามารถสืบหาตัวได้ บาปกรรมจึงต้องมาตกที่ลูกค้าอย่างผมตอนนี้ผมได้ดำเนินการโดย
1. นำเงินที่ค้างอยู่ไปยื่นไว้ที่สำนักงานวางทรัพย์กลาง
2. ร้อง สคบ (มีนัดหมายไกล่เกลี่ยเร็วๆนี้)
3. แจ้งไปยังสำนักงานใหญ่ (ตอนนี้เงียบไปแล้วหลังจากทราบว่าผมร้องไป สคบ แล้ว)
รอผลการเจรจาเสร็จสิ้นแล้วผมจะมา รายงานผลให้ทราบ
ตอนนี้ส่วนตัวแค่อยากนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเป็นอุทาหรณ์ว่ามิจฉาชีพประเภทนี้มีอยู่ใกล้ตัวเราต่อไปถึงแม้จะเข้าไปติดต่อซื้อรถถึงในศูนย์ก็ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นทางที่ดีอย่าจ่ายเป็นเงินสดและหาพยานให้มากที่สุด
ส่วนผมตอนนี้มันมืดไปหมดยังไม่เข้าใจว่าทำไมผมต้องมาเจอปัญหานี้กับบริษัทที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ไม่รู้จะเรียกว่าบุญกรรมหรืออะไร ไม่รู้จะจบด้วยการขอความเห็นใจหรือว่ากันด้วยกฏหมายซึ่งถ้าถึงขั้นเป็นคดีความกันแล้วผมจะต้องทำอย่างไร ฯลฯ
ท่านใดมีข้อแนะนำรบกวนด้วยครับ
จากคุณ :
ShowCase 
- [
15 มี.ค. 52 21:00:05
]
เตือนภันมิจฉาชีพในศูนย์รถยนต์
