ไหนๆ ก็เปิดประเด็นย้อนร้อย"เส้นทางแก๊งโจรกรรมรถส่งขายอียิปต์"แล้วอ่ะนะ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
ริโย่ขอสานต่อ เจาะเกาะติดเรื่องนี้ต่อเลยแล้วกันค่ะ
เนื้อหาอาจจะยาวไปซักนิดนะคะ เพื่ออรรถรสในการอ่านข่าวค่ะ
V
V
V
เจาะเกาะติด "เส้นทางแก๊งโจรกรรมรถส่งขายอียิปต์" ภาค 2
-ตำรวจเร่งขยายผลแก๊งโจรกรรมรถชาวอียิปต์ ขณะที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
พระราม 2 ยืนยันช่างในอู่ที่ถูกจับกุม มีลักษณะคล้ายกับผู้ต้องสงสัยที่
กล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลจับภาพไว้ได้ ขณะรถถูกโจรกรรม
-หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล 5 บุกเข้าจับกุมบริษัทย่านบางพลี
ซึ่งลักลอบนำรถที่ถูกโจรกรรมมาชำแหละ เพื่อส่งขายยังประเทศอียิปต์และ
ตะวันออกกลาง จนสามารถจับกุมผู้จัดการบริษัท ซึ่งเป็นชาวอียิปต์ได้ 2 คน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งขยายผล ถึงที่มาที่ไปของซากรถ จำนวน 7 คัน
และเครื่องยนต์ที่ลบหมายเลขเชสซี จำนวน 123 เครื่อง ซึ่งหนึ่งในซากรถ
ที่พบเป็นรถของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพระราม 2 ที่ถูกนำมาชำแหละ
โดยขณะเข้าตรวจค้นตำรวจพบหมายเลขเครื่องตกอยู่ จึงได้นำมาตรวจสอบ
จนพบว่าเป็นรถที่แจ้งหายไว้ที่ สน.ท่าข้าม
-นายไพฑูรย์ อุ่นบุญมา หัวหน้าแผนกยานพาหนะ รพ.พระราม 2 เล่าว่าได้
นำรถคันดังกล่าว หมายเลขทะเบียน ปฮ-353 มาจอดไว้บริเวณด้านหน้า
โรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงบ่าย จนกระทั่งเวลา 4 ทุ่ม ในคืนวันที่ 7 มี.ค. 2552
พนักงานได้เดินออกมา เพื่อที่จะเอารถไปใช้ขนของแต่ไม่พบรถ ซึ่งจาก
การตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาล แม้ว่าจะไม่สามารถ
จับภาพ ขณะเกิดเหตุได้ชัดเจน แต่พบว่าก่อนเกิดเหตุไม่นานมีชาย 2 คน
มาเดินวนเวียนอยู่บริเวณรถ และหลังจากที่ เมื่อวานตนได้เดินทางไปดูรถ
ของกลางในอู่ที่ตำรวจเข้าตรวจค้น ก็พบว่า ช่างที่มีหน้าที่ลบหมายเลขเชสซี
ในอู่ดังกล่าว มีหน้าตาคล้ายกับผู้ต้องสงสัยในกล้องวงจรปิด
-ขณะเดียวกันบริษัทประกัน แอลเอ็มจี ก็ได้ส่งพนักงานมาที่โรงพยาบาล
พระราม 2 เพื่อขอข้อมูลในการเคลมเงินประกัน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ทำ
ในวงเงิน 2 แสนบาทกรณีรถหาย โดยเจ้าหน้าที่ประกันระบุว่า ตั้งแต่ช่วงหลัง
ปีใหม่ที่ผ่านมา รถลูกค้าที่ทำประกันไว้มีสถิติถูกโจรกรรมมากขึ้นกว่าเมื่อ
ช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งจากเดิมเมื่อรถหายจะแจ้งความกับตำรวจเพื่อสกัดจับ
โดยเฉพาะตามด่านชายแดนประเทศเพื่อนบ้านหรือตามอู่ ที่คนร้ายจะนำไป
ชำแหละ เพื่อแยกเป็นอะไหล่ขาย แต่ไม่เคยพบข้อมูลว่า จะมีการนำรถไป
ชำแหละเพื่อส่งออกทางเรือ และส่งไปขายยังประเทศในแถบตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม สถิติรถของลูกค้าที่หายไป จะได้รถคืนมาเพียงแค่ 1 ใน 10 เท่านั้น
-ในส่วนของกองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 เจ้าของคดีที่เข้าจับกุมแก๊ง
ชำแหละรถ พันตำรวจเอกสมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สืบสวนนครบาล 5
บอกว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการขยายผล พร้อมตรวจสอบเลขเครื่องยนต์
ทั้ง 123 เครื่องที่ตรวจยึดได้ กับทางกรมการขนส่งทางบก และศูนย์ ศปร.
ว่ามีหมายเลขตรงกับที่แจ้งหายไว้หรือไม่ พร้อมกันนั้นได้ประสานเข้า
ตรวจสอบร้านเชียงกง ย่านปทุมวัน ที่ผู้ต้องหาให้การว่า รับซื้อจากร้าน
ขายอะไหล่รถย่านปทุมวัน ซึ่งจะทำการประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้า
ตรวจสอบอะไหล่รถ เพื่อดูใบอินวอยซ์ หรือใบนำเข้าว่า มีหรือไม่
ซึ่งคาดว่าร้านเชียงกงเหล่านี้ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งชำแหละรถรายใหญ่
เพราะอะไหล่เหล่านี้จะต้องสามารถตรวจสอบจากใบเสร็จ และใบนำเข้าได้
พร้อมกันนั้นได้มีการตรวจสอบไปยังบัญชีของผู้ต้องหาว่า มีการถ่ายโอน
ไปยังที่ใดบ้าง
-ขณะที่ นายศิวพล บุญปราการ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล ในฐานะที่
เคยรถหาย บอกว่า เมื่อปีที่แล้วซื้อรถโตโยต้า ไฮลักซ์ มาในราคาคันละ
เกือบ 3 แสนบาท แล้วนำมาทำสีปรับปรุงระบบใหม่อีกเกือบ 1 แสนบาท
ซึ่งเวลาจอดก็จะใช้อุปกรณ์ป้องกันการขโมยเป็นที่ล็อกคลัชต์ล็อกเอาไว้
ทุกครั้ง โดยจอดไว้ที่หน้าแฟลตเคหะคลองจั่น ซึ่งเป็นที่พักของตน ปรากฏว่า
หลังจากนั้นไม่กี่เดือนประมาณมิถุนายน รถคันดังกล่าวก็อันตธานหายไป
ในช่วงกลางคืน และจนป่านนี้ก็ยังไม่ได้คืน ในความรู้สึกของคนเป็นเจ้าของรถ
รู้สึกว่าตัวเองทำงานเก็บเงินมาตลอดชีวิต เพื่อที่จะลงทุนซื้อรถมาใช้ทำงาน
แต่ต้องมาถูกโจรกรรมไปโดยที่ไม่ได้ทำประกันไว้ ทำให้รู้สึกผิดหวังและ
ท้อแท้ไปพักใหญ่ กว่าจะเก็บเงินซื้อรถคันใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเห็น
เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแก๊งโจรกรรมรถขบวนการใหญ่ได้ จึงรู้สึกดีใจเป็น
อย่างมาก
Riyo model change รายงาน
พบกับ ริโย่ ได้ใหม่ ในกระทู้หน้า
"เจาะเกาะติดแบบถึงลูกถึงคน แก๊งโจรกรรมรถส่งขายอียิปต์ ภาค 3" ค่ะ
แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 12:31:37
จากคุณ :
Riyo model change
- [
20 มี.ค. 52 12:22:18
]