ความคิดเห็นที่ 1 เคยว่าจะตั้งกระทู้ถามว่า เอา log ของ GPS เป็นหลักฐานได้หรือไม่เหมือนกันครับ เข้ามารอคำตอบครับ :D จากคุณ : Arc_ - [ 28 เม.ย. 52 13:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 + + +  พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 + + +    อัตราความเร็วของยานพาหนะตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับ 8 พ.ศ. 2551    ในกรณีปกติให้กำหนดความเร็วของรถดังต่อไปนี้    - 1. สำหรับรถบรรทุกที่มีน้ำหนักรถรวมทั้งน้ำหนักบรรทุกเกิน 1,200 กิโลกรัมหรือรถบรรทุกคนโดยสาร ให้ขับในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาลไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือนอกเขตดังกล่าวให้ขับไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง    - 2. สำหรับรถยนต์อื่นนอกจากรถที่ระบุไว้ใน 1 ขณะที่ลากจูงรถพ่วงรถยนต์บรรทุกที่มีน้ำหนักรถรวมทั้งน้ำหนักบรรทุกเกิน 1,200 กิโลกรัม หรือรถยนต์สามล้อให้ขับในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือนอกเขตดังกล่าวให้ขับไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง    - 3. สำหรับรถยนต์อื่นนอกจากรถที่ระบุไว้ใน 1 หรือ 2 หรือรถจักรยานยนต์ ให้ขับในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือนอกเขตดังกล่าวให้ขับไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง    ในเขตทางที่มีเครื่องหมายจราจรแสดงว่าเป็นเขตอันตรายหรือเขตให้ขับรถช้าๆ ให้ลดความเร็วลงและเพิ่มความระมัดระวังขึ้นตามสมควร    ในกรณีที่มีเครื่องหมายจราจรกำหนดอัตราความเร็วต่ำกว่าที่กำหนดในข้างต้น ให้ขับไม่เกินอัตราความเร็วที่กำหนดไว้นั้น แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 52 10:28:51 จากคุณ : mini2000mph  - [ 30 มี.ค. 52 10:28:11 ] http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V7682141/V7682141.html แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 14:14:16 จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 28 เม.ย. 52 14:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับ เผื่อจะได้เถียงอย่างคล่องปากหน่อย เพราะบางครั้งมั่นใจมากว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่โดนกล่าวหาเลย จากคุณ : -3_บาท_50- - [ 28 เม.ย. 52 14:20:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับคุณ ทัชชี่ จากทีมงานตำรวจทางหลวงครับ สำหรับคำถามที่ถามมาขอตอบดังนี้ครับ ตามกฎหมายแล้ว สำหรับรถยนต์ส่วนบุคลทั่วไปให้ใช้ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในทางหลวง และ ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตเทศบาลครับ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้ความเร็วแค่ 90 ในทางหลวง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึง "อนุโลม" ให้ใช้ความเร็วได้ประมาณ 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนทางหลวง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพถนนและการจราจรของเส้นทางนั้นๆ ว่ามีความปลอดภัยเพียงใด คำว่าอนุโลมนี้ ไม่ได้หมายความว่าท่านไม่มีความผิด เพียงแต่เราต้องการปรับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงครับ การตรวจจับความเร็วของตำรวจทางหลวงนั้น ถ้ามีการตั้งจุดจับความเร็วจะมีเครื่องตรวจจับความเร็วโดยเครื่องนี้ทำงานโดยระบบแสงเลเซอร์ วิธีการทำงานคร่าวๆคือ จะมีอุปกรณ์ยิงแสงเลเซอร์สามตัวยิงไปที่ถนนเมื่อรถวิ่งผ่านแสงดังกล่าวก็จะสามารถระบุความเร้วได้แม่นยำมากครับ เพราะ อุปกรณ์ที่ตรวจจับจะทำงานพร้อมกันสามตัวยิงไปในจุดๆเดียว ความแม่นยำจะมากกว่าการระบุความเร็วของรถจากอุปกรณ์GPS ที่โดยปรกติแล้วGPSที่ใช้ระบุตำแหน่งของพลเรือนจะมีความคลาดเคลื่อนของตำแหน่งในระดับ ฟุต หรือเมตร เป็นปรกติครับ เครื่องตรวจับความเร็วนี้ มีการบันทึกรูปถ่ายและความเร็วรถครับ ที่สามารถแสดงหลักฐานว่ารถคันไหนวิ่งด้วยความเร้วเท่าไหร่ ถ้าท่านพอจะมีเวลาก็สามารถขอดูได้ครับ จากคุณ : radar_gamo - [ 28 เม.ย. 52 15:46:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนเรื่องที่ถามว่า สายตาของตำรวจทางหลวงนั้นมีความแม่นยำในระดับไหน ขอตอบอย่างนี้ครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทุกนาย ยืนอยู่บนท้องถนน 365 วัน หลายท่านเป็นตำรวจทางหลวงมามากกว่า30ปี เพราะฉะนั้น ประสบการณ์ต่างๆจะสอนให้รู้ได้ว่ารถที่วิ่งผ่านไปนั้นใช้ความเร็ว "ประมาณ" เท่าไหร่ หรือแม้แต่แค่ได้ยินเสียงรถบบรทุกวิ่งผ่านไปก็สามารถระบุได้ว่า รถคันดังกล่าวบรรทุกด้วยน้ำหนักเท่าไหร่ ความถูกต้องจากประสบการณ์ +-ไม่เกิน 500 กิโลกรัม ครับ แต่ไม่มีความแม่นยำในระดับของเครื่องตรวจจับความเร็ว เพราะฉะนั้น ถ้าท่านสงสัยในการทำงานของเจ้าหน้าที่จึงอยากให้ขอดูข้อมูลจากเครื่องตรจวจับความเร็วจะดีที่สุดครับ จากคุณ : radar_gamo - [ 28 เม.ย. 52 15:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมวิ่ง 100 เดียวยังโดนจับเลย รถกระบะกำลังแซงรถช้าก็หาว่าวิ่งขวา เฮ้อ.... จากคุณ : Cool Runner - [ 28 เม.ย. 52 18:44:39 A:222.123.240.248 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 แซงแล้วยังลงไม่ได้ยังโดนเลย ทำไมไม่ทำถนนสามเลน ภาษีก็เสีย จากคุณ : beeboyd666 - [ 28 เม.ย. 52 19:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมวิ่ง 95 กม./ชม. ยังโดนเลย ผมไม่อยากเถียงคนจับว่า อนุโลมได้ 110 ไม่ใช่เหรอ ก็ในเมื่อกฏหมายมันเขียนไว้ 90 กม./ชม. ผมก็รู้อยู่เต็มอก ผมเลยยอมโดนปรับแต่โดยดีเหมือนกันนะ ที่ จขกท. โดนจับ เพราะวิ่งเกิน 110 กม./ชม. นะครับ ถ้าเกิน 110 ก็ไม่ต้องลุ้นว่าจะรอดแล้วครับ ตำรวจใจดีเค้าก็ปล่อยผ่านถ้าต่ำกว่า 110 แต่ถ้าคนจับอยากได้เงิน เกิน 90 ก็ไม่รอดแล้วครับ จากคุณ : ทาคุจัง - [ 29 เม.ย. 52 02:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบได้แบบไม่ต้องคิดเลย เครื่องตรวจจับความเร็วแม่นยำกว่าแน่นอนครับ จากคุณ : OreOแง่มๆ - [ 29 เม.ย. 52 09:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ที่ผมสงสัยว่าใช้ log ของ GPS เป็นหลักฐานได้ไหม หมายถึงว่า กรณที่ จนท. ไม่ได้เอารูปถ่ายมาให้ มาบอกแค่ว่าขับเร็วเกิน ที่กำหนด อย่างที่ผมเคยเจอครับ :D จากคุณ : Arc_ - [ 29 เม.ย. 52 16:00:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กฏหมายเมืองไทยล้าสมัยมากตั้งแต่พศ.2522 ทุกวันนี้สมรรถนะรถยนต์บวกกับวิศวกรรมด้านการออกแบบถนนมันทันสมัยขึ้นแต่กฏหมายของเรายังล้าหลังไม่พัฒนาให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงจึงนำมาซึ่งเอื้อประโยชน์ให้กับคนกลุ่มหนึ่งทำมาหากินบนความเดือดร้อนของประชาชน คุณขับได้ไหมกับความเร็ว90กม/ชม ลองขับกทม.-เชียงใหม่ดูทีซิต่อให้โคตรตำรวจมาขับด้วยผมท้าว่าทำไม่ได้หรอก ประเทศเราคงต้องอาสัยเวลาพัฒนาคนอีกนานผู้ที่มีอำนาจจึงจะรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชนแต่ประชาชนก็เห็นแก่เงินซื้อเสียงจึงฝนตกขี้หมูไหลคน[^_^]มาพบกัน ..คงต้องอาศัยความใจดีของตำรวจทางหลวงอีกแหละครับอย่าเข้มงวดมากนักเลย จากคุณ : ฉ่ำเยิ้ม - [ 29 เม.ย. 52 20:42:16 A:124.122.194.85 X: ]