ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าไม่รู้อะไรเลย  ก็ไปดูตัวรถจริงๆก่อน แล้วเลือกคันที่ปีใหม่ที่สุดไว้ก่อน เพราะข้างในอ่ะ  มันย้อมกันได้ รถพวกนี้ รูปร่างใกล้เคียงกันหมด  ต่างกันตรงเรื่องการออกแบบนิดๆหน่อยๆ จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 12 มิ.ย. 52 15:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 - อืม... CB400 เครื่องเงียบ รถเบา ต้นจัด อะไหล่ ของแต่ง มีเป็นโกดัง แต่ต้องแม่นเรื่องรายละเอียด นะครับ เพราะแต่ะละปี มี detail แตกต่างกันไป ไหนจะ S R แล้วก็ รถนักเรียน อีก XJR400 เงียบพัง ดังวิ่ง เครื่องเหนียว ปลายไหล ค่อนข้างอาภัพ เรื่องอะไหล่ กับ ของแต่ง แต่ของติดรถแจ่มกว่า Inazuma แรงดี ตัวใหญ่ เนื่องจากตัว 400 เป็นbody เดียวกับ เจ็ดครึ่ง ขี่มันส์... ส่วนเรื่องอะไหล่ ไม่ทราบครับ เพราะเคยลองขี่อยู่แค่พักนึง ลองหาใน google ก้ได้ครับ มีเปรียบมวยแบบละเอียด เป็นกระบุงโกย... (- -") ("- -) จากคุณ : - License To Kill - - [ 12 มิ.ย. 52 16:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มือใหม่แนะนำฮอนด้าดีกว่าครับ   ขี่ง่ายขายคล่อง   อะไหล่เพียบ ถ้าเก๋าแล้วค่อยเขยิบไปเล่นตัวอื่นก็ยังไม่สาย   มาขึ้นอินนาเลยนี่เสี่ยงนะครับ   ซูฯไม่เหมาะกับมือใหม่เท่าไหร่ จากคุณ : โก๋เชียงราย (Prathai) - [ 12 มิ.ย. 52 16:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 CB400 ครับอยากได้อยู่เหมือนกันแต่ ราคาอยู่ที่เท่าไหร่ครับ? ดูในเวปมีแต่แพงๆ จากคุณ : ploynisa - [ 12 มิ.ย. 52 16:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอารายละเอียด CB มาฝาก  ที่มา ได้มาจากเมล์ผมเอง เมื่อ 13 สิงหาคม 2550 CB400SFโมเดลแรก -ปี92-93 ชื่อโค้ดมันคือCB400SF2N เช็คได้ที่ตรงเฟรมใต้เบาะ ตอนนี้โมเดลนี้ยังเป็นที่นิยม สำหรับผู้ที่ยังต้องการเอสเอฟในรูปแบบมีทะเบียน เลขคอของรุ่นนี้คือ NC31-1000000 ขึ้นไป เลขเครื่องคงไม่ต้องสนใจมาก เพราะว่าปานนี้อายุการใช้งานคงสูงพอที่จะต้อง เปลี่ยนเครื่องแล้ว ข้อดี ของรถรุ่นนี้คือ ล้มแล้วไมล์ไม่ค่อยแตก เครื่องยนต์ทนทาน ดูแลรักษาง่าย ข้อเสียคือ แผ่นชาร์ทไม่ทนสักเท่าไร เพราะว่าอยู่ในจุดที่อับลม ไม่สามารถระบายความร้อนได้ ทันและ เฟรมอ่อนถ้าล้มแรงหรือชนแรงๆเปอร์เซ็นต์เฟรมคดจะมีสูงมาก ข้อเสียที่สำคัญ ณ ปัจจุบันอีกเรื่องหนึ่งก็ คือ ความเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ติดรถครับ ถ้าเป็นรถที่มีป้ายในบ้านเรา พวกท่อยางหม้อ น้ำ ยางปากคาร์บูซีลต่างๆน่าจะหมดสภาพแล้วครับ ส่วนโมเดลที่สองของเอสเอฟคือ -ปี94 ที่ได้รับการเพิ่มเกจ์วัดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในเรือนไมล์ด้วย หรือคน ไทยนิยมเรียกว่าไมล์สามลูก ซึ่งถ้าลมปุ๊บ ปวดกบาลปั๊บทันทีเพราะว่า เกือบทั้งหมดจะเสื้อไมล์แตก(ราคาเสื้อ ไมล์ตกราวๆสองพันบาท) และเอสเอฟ แบบมีทะเบียนแท้สำหรับปี94นี้ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้างแต่ข้อนข้างน้อย ถ้าเลือกจะเล่นรถมีทะเบียน ความเห็นผมคือ มันน่าเล่นกว่าตัวปี92-93 มีทะเบียน ครับ เลขคอคือNC31-1200000 ขึ้นไป เลขเครื่องเป็น NC23E-150-xxxx ขึ้นมา เอสเอฟปี94ได้รับการแก้ไขเรื่องระบบจุดระเบิด และเปลี่ยนลูกสูบใหม่ ส่วนภายใน ท่อไอเสีย ก็ได้รับการขยายไส้ท่อใหม่ ให้ใหญ่กว่าเดิม คาร์บูก็เปลี่ยนรหัสด้วยครับ จากตัว92-93ที่ใช้Keihin VP22a ก็เปลี่ยน เป็น VP22C ตัวปี94จะมีที่แขวนหมวกกันน็อคตรงมือจับท้าบเบาะด้วย มีสวิทช์ไฟฉุกเฉินที่ปะกับ คันเร่ง และฝาครอบข้างใช้Emblem แทนที่จะเป็นสติ๊กเกอร์ ในปัจจุบัน คงหาปี94 ที่มีอุ ปกรณ์เป๊ะ ตามนี้ยากครับ -เริ่มปี95 เอสเอฟ ได้รับการปรับปรุงใหม่อีกครั้งนึงเพื่อไปสู้กับ XJR400Rที่มีการปรับเสปคไปใช้เบรคเบรมโบ้ และช็อคอัพหลังโอลินส์ โดยเครื่องยนต์ บล็อคใหม่ สำหรับเวอร์ชั่นอาร์(เวอร์ชั่นอาร์จะมีหน้ากากและไฟเหลี่ยม)ได้รับการขยายวาล์ว ใหม่ ให้ใหญ่กว่าเดิมคาร์บูชุดใหม่ขนาด 29มิล(ของเดิม26มิล)ทำงานร่วมกับระบบจุด ระเบิดแบบ PGM-IG ฮอนด้าได้ออก เวอร์ชั่นอาร์ที่มีการแก้ไขจากตัวสแตนดาร์ดปี94 เกือบทั้งคัน และ เครื่องยนต์ได้รับการปรับปรุงฝาสูบ-เสื้อสูบใหม่ท่อไอเสียแบบ4-2-1 ถอดเปลี่ยน ปลายท่อได้ ที่เฮดเดอร์เพิ่มช่อง Sub Tube พอเปลี่ยนท่อไอเสียเป็นแบบนี้ทำให้ เวอร์ ชั่นอาร์รวมไปถึงเวอร์ชั่นเอส ไม่สามารถติดตั้งขาตั้งคู่ได้เนื่องจากติดท่อไอเสียที่เลื้อยผ่านกลางลำตัวรถ ทางฮอนด้าจึงไม่ได้เชื่อมจุดยึดสำหรับติดตั้งขาตั้งคู่มาให้ด้วย ใครไม่แน่ใจว่ารถของตัวเป็นเวอร์ชั่นอาร์ แท้ๆ ก็ให้ก้มดูที่ใต้ท้องรถ จะไม่มี จุดยึดขาตั้งให้ครับ อัตราทดเกียร์ยังคงเดิมแต่เปลี่ยนอัตราทดขั้นสุดท้าบใหม่โดยการเพิ่มฟันสเตอร์ หลังอีก สามฟันทำให้เวอร์ชั่นอาร์ มีอัตราเร่งที่จี๊ดจ๊าด ผิดหูผิดตากับตัวธรรมดาทีเดียวเวอร์ชั่นอาร์มาหร้อมกับโคมไฟแบบกระจายแสงพิเศษ( ไฟเหลี่ยม) ตัวเรือนไมล์ของเวอร์ชั่นอาร์จะคล้ายของตัวปี92-93 แต่ตรงที่เป็นเกจ์วัดความร้อนในตัวปี92-93จะเปลี่ยนเป็นเกจ์วัดน้ำมันเชื้อเพลิง แทน และเรือนวัดรอบมีตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น15,000รอบต่อนาที(เอสเอฟตัวแสตนดาร์ด มี 14,000รอบต่อนาที) คันเกียร์ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยในตัวปี95เฟรมเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ เวอร์ชั่นอาร์ และ เวอร์ชั่นเอสคือมีการปรับองศาของคอรถและองศาของช็อคอัพหลัง ส่วนรายละเอียดของตัวแสตนดาร์ดปี95ให้สังเกตุตรงคาร์บูนะครับ ว่าไม่มีกะเปาะสี ดำ ที่เป็นตัวเซ็นเซอร์เช็คปีกผีเสื้อ(ในเวอร์ชั่นอาร์จะมี) และช็อคอัพหลังที่เหมือนตัวปี92-93สปริงเป็นสีดำ เอสเอฟ ตัวแสตนดาร์ด ปี95 เลข คอคือ NC31-1300000 ขึ้นไป เลขเครื่อง เป็น NC23E-160-xxxx ขึ้นมา ส่วนเวอร์ชั่นอาร์ เลขคอคือ NC31-135-xxxxขึ้นไป เลขเครื่อง เป็นNC23E-165-xxxx ขึ้นมา สังเกตุนะครับ ว่าเลขตัวที่สามของเวอร์ ชั่นอาร์ทั้งเฟรม และเครื่อง จะเป็นเลข 5 เนื่องจากว่า มันเป็นคนละตัวกันกับตัวแสตนดาร์ดนั่น เอง (แรงกว่าจริงขอบอก) โคดที่ตัวถังบริเวณใต้เบาะสำหรับตัวแสตนดาร์ด คือ CB400SF2S และสำหรับเวอร์ชั่น อาร์คือ CB400SF3S ชุดเบรคที่เหมือนปี92-94 ซึ่งถ้าใครชอบขี่แบบโหดๆขอแนะนำว่าให้เปลี่ยนผ้าเบรค เป็นเกรดเรซซิ่ง และใส่สาย stainless ถัก จะทำให้ฟิลลิ่งเบรคดีขึ้น เรือนไมล์ก็เหมือนปี94 ที่มีวัดรอบสูง สุดที่ 14000รอบต่อนาที ใครที่ใช้เวอร์ชั่เอส ปี96 ระวังตรงจุดนี้ด้วยนะครับ ลองดูว่าเรือนไมล์ของคุณ เป็นแบบนี้หรือเปล่า(มีเลขแค่14)เพราะมันจะรายงานรอบความเร็วไม่ตรงกับเครื่อง ยนต์ของเวอร์ชั่นเอสปี96นะครับ คราวนี้มาเริ่มที่ตัวปี 96 บ้าง ปีนี้เป็นปีเดียวที่ทางฮอนด้า ออกเอสเอฟ เวอร์ ชั่นเอสมาถึงสองครั้ง ครั้งแรกคือ ตอนต้นเดือนกุมภา ส่วนอีกครั้งนึงคือ ตอนปลายปี เดือนพฤศจิกา ซึ่งตัวที่ออกปลายปีถือเป็นเวอร์ชั่นเอส ปี97-98นะครับ ตัวถังยังคงเหมือนเวอร์ชั่นอาร์ทุกประการไม่ว่าจะเป็นเฟรม เครื่องยนต์ ท้าย แต่ที่เปลี่ยนไปมีดังนี้ 1.เรือนไมล์ กลับมาใช้แบบสามลูกและไม่ใช้หน้ากากแล้ว 2.ช็อคอัพหลังเปลี่ยนรูปทรงใหม่ 3.ระบบเบรคหน้า เปลี่ยนไปใช้แบบสี่ลูกสูบเป็นครั้งแรก และมีการแก้ไขปรับปรุงจาน เบรคใหม่ เพื่อเพิ่มพื่นที่สัมผัสให้มากขึ้น 4.แผงพักเท้าแบบตาข่ายเปลี่ยนจากสีเงินเป็นสีดำ 5.น้ำหนักรถ เบาลงไป1กิโล เป็น 174กิโล (เวอร์ชั่นอาร์175 กิโล) ส่วนเครื่องยนต์ยังเหมืน เวอร์ชั่นอาร์ ปี95 ปลั๊กหัวเทียนเป็นสีแดงและช็อคอัพหลัง new look showa เรือนไมล์ของเวอร์ชั่นเอส ปี96 ตัวเลขเป็นสีขาวนะครับจำไว้ให้แม่นๆว่ามีตัวเลขถึง 15000รอบต่อนาที เอสเอฟ ตัวแสตนดาร์ด ปี96เลขคอคือ NC31-140-xxxx ขึ้นไป เลขเครื่อง เป็น NC23E-170-xxxx ส่วนเวอร์ชั่นเอส เลขคอคือ NC31-145-xxxxขึ้นไป เลขเครื่องเป็นNC23E-175-xxxx ขึ้นมา โค้ดที่ตัวถังบริเวณใต้เบาะสำหรับตัวแสตนดาร์ด คือ CB400SF2T และสำหรับ เวอร์ชั่นS คือ CB400SF3T อย่างไรก็ดี เอสเอฟ ปี96 ถือว่า ดีกว่าเอสเอฟ ปี92-95 แต่ก็ยังไม่ดีพออยู่ดี ถ้าใครอยากซื้อมาแต่ง ถือว่าคุ้ม แต่ถ้าจะซื้อมาขี่แบบเดิมๆ ผมว่า หาตัวปี97 ขึ้นมาจะเวิร์คกว่าครับ เอสเอฟปี97-98 ผมขอเริ่มจากตัวแสตนดาร์ดก่อนดูเผินๆจะต่างจากเวอร์ชั่นเอสเพียงแค่พักเท้ากับ ท่อไอเสียแล้วก็เรือนไมล์เท ่านั้นเองระหว่างตัวแสตนดาร์ดกับเวอร์ชั่นเอส แต่ดูรวมๆก็นับว่าดูดีมากแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับภายในเมื่อเทียบกับตัวก่อนๆ ก็คือ เครื่องยนต์ครับฮอนด้าได้ปรับปรุงท่อไอดีใหม่ให้ยาวกว่าเดิม ปรับระบบจุดระเบิด ใหม่ และทำไส้ท่อใหม่ให้มีขนาดสั้นลง ระบบเบรคเปลี่ยนจากสองลูกสูบ มาเป็นสี่ลูกสูบครั้งแรก ในเวอร์ชั่นแสตนดาร์ด จานเบรคเปลี่ยนจากสีดำมาเป็นสีทอง และเปลี่ยนทรงโรเตอร์ตัวในใหม่ ช็อคอัพหลังเปลี่ยนมาใช้แบบเวอร์ชั่นเอสปี96 ท้ายใหม่ชิ้นเดียว สุดสวย ซึ่งตัวปี 92-96 สามารถแปลงใส่ได้ แต่ต้องหมดตังค์ ราวๆสี่-ห้าพันบาท (ค่าท้ายพันห้า,ค่าชุดยึดท้าย พันห้า-สองพัน,ค่าแปลงเบาะหนึ่งพัน) คราวนี้มาดูเวอร์ชั่นเอส กันบ้าง มีจุดเด่นหลายอย่างเช่น ชุดเรือนไมล์ แบบตัวเลขและเข็มเป็นสีแดงสวยมากๆ คาลิ ปเปอร์เบรคหน้าของเบรมโบ้ กันสะเทือนหน้าแบบปรับความแข็งสปริงได้ กันสะเทือนหลังยังคงเหมือนตัวเวอร์ชั่น เอส ปี96 ส่วนเลขคอของตัวแสตนดาร์ด เริ่มที่ NC31-150-xxxx เลขเครื่องเริ่มที่NC23E-180-xxxxขึ้นมา ส่วนเวอร์ชั่นเอส เลขคอคือ NC31-155-xxxx ขึ้นไป เลขเครื่องเป็นNC23E-185-xxxx ขึ้นมา โค้ดที่ตัวถังบริเวณใต้เบาะสำหรับตังแสตนดาร์ด คืด CB400SF2V และสำหรับ เวอร์ชั่นเอส คือ CB400SF3V CB400 Superfour -ปี 92-93 หมายเครื่องคอ NC31-100xxxx ขึ้นไป โค้ดใต้เบาะ CB400SF2N -ปี 94 หมายเลขคอ NC31-120xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่อง ป็น NC23E-150-xxxx ขึ้น ไป โค้ดใต้เบาะ CB400SF2R -ปี 95 standard หมายเลขคอ NC31-130xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-160 -xxxx ขึ้นไป โค้ดใต้เบาะ CB400SF2S -ปี 95 Version R หมายเลขคอ NC31-135xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-165 -xxxx ขึ้นไป โค้ดใต้เบาะ CB400SF3S -ปี 96 standard หมายเลขคอ NC31-140xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-170 -xxxx ขึ้นไป โค้ดใต้เบาะ CB400SF2T -ปี 96 Version S หมายเลขคอ NC31-145xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-175 -xxxx ขึ้นไป โค้ดใต้เบาะ CB400SF3T -ปี 97-98 standard หมายเลขคอ NC31-150xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E- 180-xxxx ขึ้นไป โค้ดใต้เบาะ CB400SF2V -ปี 97-98 Version S หมายเลขคอ NC31-155xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E- 185-xxxx ขึ้นไป โค้ดใต้เบาะ CB400SF3V CB400 Superfour Hyper V-TEC -V-TEC 1 ปี 99 หมายเลขคอ NC39-100xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-200 -xxxx ขึ้นไป ดูเลขใต้เบาะ CB400SFX -V-TEC 1 ปี 00 หมายเลขคอ NC39-101xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-201 -xxxx ขึ้นไป ดูเลขใต้เบาะ CB400SFY -V-TEC 1 ปี 01 หมายเลขคอ NC39-102xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-202 -xxxx ขึ้นไป ดูเลขใต้เบาะ CB400SF1 -V-TEC 2 ปี 02 หมายเลขคอ NC39-103xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-203 -xxxx ขึ้นไป ดูเลขใต้เบาะ CB400SF2 -V-TEC 2 ปี 03 หมายเลขคอ NC39-104xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-204 -xxxx ขึ้นไป ดูเลขใต้เบาะ CB400SF3 -V-TEC 3 ปี 04 หมายเลขคอ NC39-105xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-205 -xxxx ขึ้นไป -V-TEC 3 ปี 05 หมายเลขคอ NC39-110xxxx ขึ้นไป หมายเลขเครื่องเป็น NC23E-210 -xxxx ขึ้นไป รหัสสีหลักๆ เอาไว้ดูรถนะครับ PB215 สีน้ำเงิน NH411 สีบรอนซ์เงิน R101 สีแดง NH341H สีขาว NH418K สีดำ ํY124 สีเหลือง ขอ อนุญาต  เพิ่มเครดิตครับ Credit by   " เรื่อง Mr.J     แก้ไขล่าสุด : 14 เมษายน 2547 " แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 20:46:40 จากคุณ : Trobot - [ 12 มิ.ย. 52 16:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 CB 400  Honda ราคาท้องตลาด สูง เพราะคนนิยมเยอะ อะหลั่ยหาง่าย   ขายราคาไม่ตก   XJR 400   ถ้าเทียบ กับ CB 400  ในปีเดียวๆกัน   ราคามักจะไม่สูงเท่า XJR ปี 96 อัพ  จะมี  ออฟชั่น ปั๊มหน้าแบรมโบ้  กับโช๊คอัพหลังโอลิน ซึ่งเป็นออฟชั่นเสริมที่ คุ้มค่าและราคา     ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ      และราคากลางในท้องตลาดเมื่อปี 51 XJR  400  ปี  96     มีโอลินแบรมโบ้   ราคากลาง ตามท้องตลาด กระกอบใหม่นะครับ ไม่ใช่มือสอง"ในไทย"  ....  อยู่ประมาณ 55000-65000  แล้วแต่สภาพและของแต่ง ในขณะที่  CB 400  ปี  96   Version  R   จะอยู่ประมาณ 65000-75000 นี่คือการเปรียบเทียบ  รถ  แบบปี    ต่อปี   จะเห็นได้ว่า ถ้าไม่เน้น แบรนด์   XJR น่าซื้อกว่า ในเรื่องของ   ราคาที่ต่ำกว่า     ออฟชั่นที่ได้มากกว่า     และ   ปีที่ใหม่กว่า ทีนี้  ลอง มาเปรียบเทียบ ในแง่ ของ   เม็ดเงินบ้าง   ถ้าพี่  ตั้งงบซื้อรถไว้ที่  50-60   เนี่ย   พี่ก็จะได้ CB 400  ประกอบใหม่ อยู่ที่ ปี 93-95   แต่ถ้าพี่  เลือก XJR   ในงบที่วางไว้   พี่จะได้ ปี  96-98   ทีนี้ ก็ลองตัดสินใจเลือกดูเอาเอง ซื้อแบรนด์ หรือซื้อ สมรรถนะ  .... อันไหนดีกว่ากัน ตอบไม่ได้หรอกครับ มันก็ เหมือนแพนเค้ก  กับพอลล่าหล่ะครับ  ... พี่มาตั้งถามว่าชอบใครกว่ากัน   ตอบไม่ถูกหรอกครับ เพราะ  ก็ชอบทั้งคู่ และสวยทั้งคู่  ... สุดท้ายคนที่เลือก ที่จะซื้อก็คือ พี่ จขกท  ที่ ควักเงินซื้อ พี่เลือกเองตัดสินใจเองจะดีกว่าครับ  เลือกตามคนอื่น พอตัวเองได้มาแล้วไม่ชอบ  จะพาลเสียอารมณ์นะครับ   แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 17:33:37 จากคุณ : Trobot - [ 12 มิ.ย. 52 17:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เชื่อผมมั๊ย  เดี๋ยวต้องมีคนมาตอบ  ผมชอบทั้งคู่ ผมชอบพอลล่ากว่า   ผมชอบ  แพนเค้กกว่า หรือผมชอบ ....  กว่านะ   .....ผมเดาไว้เลย    หนุ่มๆรัชดา นี่ เปิดช่องไม่ได้ ...อิอิ จากคุณ : Trobot - [ 12 มิ.ย. 52 17:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลืมเลย แบรนด์โปรด ยังไม่ได้ตอบ .... suzuki Inazuma ใช่มั๊ยครับ   ตัวนี้  เคยได้ยินฉายามาว่า King Of Naked Bike ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงดี   จากที่เคยใช้มา 2-3  คัน .... สมรรถนะ ดีครับ  ยางหลัง ใหญ่ได้ใจ  ทิ้งโค้งแล้วมั่นดี กระชับ .... ส่วนตัว อิินาฯ คันมันเทอะทะ  ใหญ่โต  ไม่ค่อยพริ้ว.... แต่ชอบตรงที่ เบื่อเครื่องสี่ร้อย เอามาวางเครื่องที่ใหญ่ได้เลย บอดี้มันรองรับไว้แล้ว  .... (ง่ายๆว่าขยับซีซ๊สบายๆไม่ต้องแปลง) ซื้อขี่ในระยะยาว  จะคุ้มกว่า  (เผื่อขยับ).... จริงๆ คุณ จขกท. พลาดไป รุ่นนึงครับ     รถดีที่ถูกลืม ... อิมเพ้าท์ครับ โดดเด่นในเรื่องรอบจัดจ้าน สไตล์ซู  แต่ตัวเล็กกว่า อินาฯ คล่องตัวและพริ้ว       .... ลอง หา ข้อมูลดูครับ  ... จากคุณ : Trobot - [ 12 มิ.ย. 52 17:10:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อีก 1 ความคิดเ็ห็น ที่ขอแย้ง   พี่ความเห็นที่ 1 ครับ รถปีใหม่  รถไมล์กิโลน้อย ๆ ใช่ว่่าจะชัวร์  เครื่องยนต์ใช่ว่าจะฟิตกว่าปีเก่าๆ --------------------------------------------------------------------- ขออธิบายแนวคิด  นี้นะครับ จากประสบการณ์ของผมเอง .... เพราะอะไร  ที่ผมอยากจะแนะนำว่ารถปีเก่า ใช่ว่าจะ เครื่องยนต์สมบูรณ์กว่ารถปีเก่า ....   ถ้าเจ้าของกระทู้  ไม่ได้ซื้อรถ 0 กิโลจากศูนย์ .... ควรอ่านครับ.... รถพวกนี้    เก่า  จากญี่ปุ่นครับ .... ผมเคย ขี่   รถ รุ่นเดียวกัน  ค่ายเดียว กัน ซีซีเท่ากัน  ....  แต่ต่างปีมา เยอะพอควรครับ  ..... ไม่เสมอไป  ว่ารถปีใหม่   รถที่ไมล์กิโลวิ่งมาน้อย   จะดีกว่า  ถ้าแค่สันนิษฐานหน่ะใช่ครับ  แต่  เรื่องจริงๆ ประสบการณ์จริงๆ     เพราะ     เรา   ไม่รู้ ... ว่าเจ้าของเก่าที่ญี่ปุ่น  ขี่ มายังไงบ้างครับ .... นั่นคือคำตอบ ...... ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ  รถ ปี 2000   ขี่มาแค่  8000 โล ถ้า ผมพูดแค่นี้   คุณก็ว่า รถคงยังสภาพดี  ......   จริงมั๊ยครับ    ..... แต่ถ้า ผมบอกว่า    รถ ปี 2000  ขี่มาแค่  8000 โล แต่เจ้าของเก่าแม่ม ขี่ไม่เคยเปลี่ยนกรอง  เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเลย    แถมขี่ซัดทุกวัน  ...หล่ะ ครับ     ทีนี้  เริ่มกังวลยังครับ  ว่าเครื่องจะดีจริงมั๊ย  หรือว่าช้ำหมดแล้ว ... คุณจะรู้ได้ยังไง   คุณจะลงทุนผ่าเครื่องมาดูสภาพหรือ??? .... กับ รถ  ปีเก่าๆ ที่ เจ้าของเก่า(ที่ญี่ปุ่น)   ขี่มา  สองหมื่นโล  แต่ขี่ถนอมรถ เปลี่ยนกรอง   ถ่ายน้ำมันเครื่อง    ตามระยะ      แถมค่อยๆขี่  ไม่ซัดกระจุยหล่ะ   ....  สภาพเครื่องรถ   ปีไหน   จะ  ยัง สดกว่ากัน รถที่ญี่ปุ่น   วิ่งได้ไม่เกินห้าปี  ต่อทะเบียนไม่ได้  ....  ต้องเอาป้ายไปขอซื้อรถใหม่  และรถเก่า  ก็ต้องจอดทิ้ง  ใน Junk  รอขายเป็นอะหลั่ย(และเอามาวิ่งในไทย)  .....    คุณจะรู้ พฤติกรรมเจ้าของเก่า   มั๊ยว่าดูแลรักษารถยังไง พอมาถึงมือพี่ไทย    ก็บรรจงย้อม  บรรจงแต่งเก็บงานอีกรอบ .... ................................................................................... เอาเป็นว่า หวังดี  อยากให้รอบคอบที่สุด  พยายามหาข้อมูลเยอะๆ ศึกษาการดูรถ ละกันครับ       เอาเป็นว่า  จะซื้อรถอะไรก็ตามแต่ขอให้มีความสุขกับรถใหม่ และ  ขอให้ได้รถดีดีครับ จากคุณ : Trobot - [ 12 มิ.ย. 52 17:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 น้อง Trobot มีน้ำใจมาก  ที่แบ่งปันความรู้และข้อมูลให้กับเจ้าของกระทู้ พี่จะบอกว่า ข้อความที่อ้างอิงมานั้น   เอามาจาก เว็บ Stromclub.com และ ข้อความทั้งหมด   คัดลอกเอามาจากที่นี่   http://www.stormclub.com/scoops/0002/index.php Credit by   " เรื่อง Mr.J     แก้ไขล่าสุด : 14 เมษายน 2547 " จากคุณ : KJ_FBI - [ 12 มิ.ย. 52 20:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณพี่ปิ่นครับ   ได้รู้ที่มา    ลิ้งค์ที่ส่งให้มามีภาพประกอบด้วย ทำให้เข้าใจแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น  ... จากคุณ : Trobot - [ 12 มิ.ย. 52 20:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ความสวยและเท่  ไม่ต่างกันมาก  ขี่คันไหนก้เท่ทั้งนั้นแหละ เลือกคันที่สภาพเครื่องและภายนอก สมบูรณื ที่สุดก่อนเลย ครับ จากคุณ : neo1982 - [ 13 มิ.ย. 52 14:17:30 ]