ความคิดเห็นที่ 1 มันมันส์กว่ากันเย๊อะะะ จากคุณ : JIRATH - [ 25 มิ.ย. 52 02:15:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ecu กี่บิต ต่อ กี่บิต มันก็เทียบกับสมองและประสบการณ์นักแข่งไม่ได้ครับ โดยเฉพาเวลาที่ต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า จากคุณ : Tread'em all - [ 25 มิ.ย. 52 03:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 MT ที่ออกแนวเท้าซ้ายว่างๆ สบายแบบ AT ก็มีทำการแข่งกันอยู่หน่า พวก DogBox  , Airshift ละมั่ง  จำได้ว่ายัดเกียร์ใส่ ไล่เกียร์เอาอย่างเดียว แต่เกียร์ 1 ต้องเลี้ยงคลัช หน่อย แล้วคิดว่า MT มันรับกับเทคนิคการขับในแต่ละแบบของรูปแบบการแข่งขัน อย่างที่คุ้นเคยหน่อย  รถdrift  นี่มีเทคนิคกระทืบคลัช พอแบบ AT เลยจะทำไง ปลดเกียร์ N ยัด D  กระทืบหลายที ก็ต้องเลี่ยนเกียร์ไปมา คงแย่ อิอิ คิดว่า เกียร์ AT MT ถ้ามันดีต่อการแข่งรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเค้าก็เลือกไปใช้แหละอย่าง * รถ drag  นี่ AT กันก็เยอะ เพราะเปลี่ยนเกียร์ได้แน่นอนกว่า เร็วกว่า เนียนกว่า เค้าก็จับไปใส่ แต่ MT ก็อยู่เพียบ คิดว่าแล้วแต่ งาน   รอน้าๆ ท่านต่อไป     **ความคิดส่วนตัว ผิดพลาดขออภัยนะ** จากคุณ : JoJoeSaj - [ 25 มิ.ย. 52 03:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มันมีหลายอย่างที่เกียร์ออโต้ทำไม่ได้หรือทำได้ไม่ดีพอคับ เช่นเอนจิ้นเบรคบางโค้งเค้าไม่แตะเบรคแต่ใช้เอนจิ้นเบรคเอาคับ มันจะต่อเนื่องกว่าคับ หรือที่เค้าเรียกว่าอะไรผมจำได้ไม่แม่น"ฮีลแอนด์โท"มั้งคับ เกียร์ออโต้อาจจะทำไม่ได้ดีคับ หรือการแข่งบางประเภทต้องการอันเดอร์สเตียร์ เกียร์ออโต้อาจจะทำลำบากคับ แล้วถ้ารถที่มีแรงม้าแรงบิดสูงๆเกียร์ออโต้อาจจะรองรับไม่ไหวคับ แต่ในการแข่งขันบางประเภทก้อนิยมใช้เกียร์ออโต้อ่ะคับเช่นควอเตอร์ไมล์ แต่ราคาเกียร์ออโต้สำหรับแข่งขันก้อแพงเอาเรื่องคับ จากคุณ : ดูดีเป็นที่สุด - [ 25 มิ.ย. 52 03:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ออโต้มันไม่มีแอ๊คชั่น ไม่มีการเหยียบคลัช เบิ้ลเครื่องเเรงๆ พอเข้าโค้ง ก็สับเกียร์ต่ำ ปล่อยคลัช ท้ายรถก็กระดึ๊กกระดึ๊ก ไม่งั้นหนังที่เราดู คนขับมันจะไม่มีอะไรทำ นอกจากกดปุ่ม ไนตรัส อย่างเดียว กดอยู่นั่นแหละ กดเเล้วก็ผลัดกันแซง อย่างหนังเรื่อง FASTฯไง//ฮ่าฮ่าหุบ จากคุณ : farm boy - [ 25 มิ.ย. 52 04:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 F1 อยากใช้ แต่เค้าไม่ให้ใช้ จากคุณ : PiGsPy - [ 25 มิ.ย. 52 05:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จขกท เคยขับ MT หรือป่าวครับ? ถ้าเคยขับแล้วจะรู้...  MT เราควบคุมมันได้ทุกขั้นตอน คนขับเป็น การเหยียบครัท เปลี่ยนเกียร์ ไม่ทำให้ปวดหัวเลย เพราะมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย สมองสั่งการโดยอัตโนมัติ จากคุณ : sukineko - [ 25 มิ.ย. 52 06:06:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เกียร์ AT มันเป็นอะไรที่ดูเหมือนจะสะดวก แต่จริงๆแล้ว การควบคุมด้วยรถด้วยเกียร์ MT นั้นจะสามารถควบคุมรถได้ทุกจังหวะของการขับขี่ ไม่ว่าจะเบรค จะเข้าโค้ง จะแซง จะสามารถรู้ได้เลยว่าทำได้หรือปล่าว ยังไงผมก็ยังชอบเกียร์ MT อยู่ดี แต่หากใช้ใน กทม คงไม่ไหว แต่ต่างจังหวัดสบาย จากคุณ : Mr.Sleeplees - [ 25 มิ.ย. 52 06:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่จริงหรอกครับ  รถแข่งในสนามใหญ่ๆ ณ ต่างประเทศเป็นเกียร์ออโต้ไฟฟ้าครับ เป็นแบบปุ่มกดอยู่บนพวงมาลัย  ใช้กด+ หรือ- เพื่อเพิ่มหรือลดกำลัง ขอดีของเกียร์ออโต้ไฟฟ้านี้คือ  สามารถคุมรอบเครื่องให้คงที่ที่รอบสูงๆได้ แต่เป็นการปรับเกียร์ เพื่อเพิ่ม-ลด การส่งถ่ายกำลัง รถเกียร์ออโต้แบบนี้มีเกียร์ 20 กว่าเกียร์ครับ ถี่มากๆ จากคุณ : cyber-ta - [ 25 มิ.ย. 52 07:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 11 AT มันขับง่ายเกินไปครับ แค่มีสมองซีกเดียว กับมืออีก 1 ข้าง และเท้าอีก 1 ข้างก็ขับได้แล้ว ผมเคยเล่นเกมส์แข่งรถพบว่า ถ้าเลือกเป็นแบบ AT แล้ว Top Speed จะต่ำกว่า MT ประมาณ 10% จากคุณ : Pryer (WeArePry) - [ 25 มิ.ย. 52 07:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ประสิทธิภาพส่งกำลัง   มันต่างกันครับ สำหรับรถแข่ง จากคุณ : บ้านน้อยซอย65 - [ 25 มิ.ย. 52 07:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เกียร์ Manual มันกว่าครับ สั่งการได้ทุกอย่าง ส่วนระบบ ก็อาจแตกต่างกันไป เบสิกชาวบ้านๆก็ H-Pattern ขยับไปอีกนิดก็ Sequential สับขึ้นสับลง ใช้คลัชท์ตามปกติ(ยกเว้นเกียร์dog) หรือ Airshifter อันนี้พื้นฐานเกียร์ต้องเป็นฟันตรง(เกียร์dog) เพราะต้องสับเข้าเลยไม่เหยียบคลัชท์ (ระบบนี้แหละที่ทำเป็นปุ่มกดไฟฟ้า+/- หรืออะไรก็ว่าไป) แต่เกียร์ออโต้ก็เริ่มเป็นที่นิยมในการแข่งรถหลายๆชนิดแล้วครับ เช่น drag ใช้ออโต้ 2-3 สปีด เท่านั้นเอง ลากทีไปเกือบสุด track จากคุณ : Themad - [ 25 มิ.ย. 52 07:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รถนิสสัน รถบ้าน รถธรรมดา ตัว TOP จะเป็น AT รถแรง รถซุปเปอร์คาร์ ตัว TOP จะเป็น MT จากคุณ : ลุงป่อง (Uncle_Pong) - [ 25 มิ.ย. 52 08:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มันแทนกันไม่ได้จริงๆครับ อย่างเช่น อาหารฝรั่งเศส ทั้งหรูหรา ราคาแพง แต่เลี่ยน เอาไว้กินเมื่อ ขอแฟนแต่งงาน อาหารไทย ราคาถูก อร่อย มีประโยชน์ กินได้ทุกวัน ไม่เบื่อ เอาไว้กินกับแฟนทุกวัน หลังแต่งงาน ก็แบบนี้แล จากคุณ : WISH 999 - [ 25 มิ.ย. 52 08:23:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เกียร์ธรรมดา  สมองสั่งการ ร่างกาย(แขน-ขา) ทำงานโดยตรงต่อเครื่องจักร(คลัทช์-คันเร่ง-เกียร์) เกียร์ออโต้     สมองสั่งการ ร่างกาย(แขนขา)ทำงานกับเครื่องจักร แต่เครื่องจักร ต้องไปคิดคำนวนอีกครั้งนึงเพื่อสั่ง ลดเกียร์ เพิ่มเกียร์ เกียร์ออโต้ ต้องมีการคิดคำนวน สองรอบ เกียร์ธรรมดา คำนวนรอบเดียว  แถมเป็นไปได้ตามใจสั่ง ไม่ต้องอ่านใจสมองกล จากคุณ : พ่อพี่ไอ - น้องเอ็ม (ibara) - [ 25 มิ.ย. 52 08:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ดู wrc(แรลลี่) ก็เป็น ออโต้ นี่ครับ แต่เป็นแบบ ไกปืน ข้างพวงมาลัย สับๆๆๆ อย่างเดียว... จากคุณ : คนจ๊นจน - [ 25 มิ.ย. 52 08:41:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขึ้นอยู่กับการใช้งาน จากคุณ : ขับใน กทม จะรู้เองว่าควรใช้ไร - [ 25 มิ.ย. 52 08:41:22 A:119.31.12.13 X: TicketID:038237 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เกียร์ AT เบิ้ลเครื่องเร่งรอบรอตอนออกตัวหรือออกจากโค้งได้หรือเปล่า.. แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 08:43:51 จากคุณ : InBox - [ 25 มิ.ย. 52 08:43:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนละอารมณ์กัน และบางสนามก็คงเกี่ยวกับกฎการแข่งด้วย จากคุณ : The eye of earth - [ 25 มิ.ย. 52 08:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตามความเห็นข้างบน  บอกไว้หลายเหตุผลแล้ว เมื่อไหร่ที่รถแข่งที่ใช้เกียร์ออโต เข้าวินขึ้นมา   ก็คงจะตามกันมาใช้ ออโตกันเป็นแถวละครับ แต่ว่า ใครล่ะ จะเป็น ผู้เริ่มใช้ก่อน จากคุณ : MaeJung - [ 25 มิ.ย. 52 08:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 "มันเป็นอารมณ์ครับ ... ช่วงทางตรงสาดไปที่เข็มวัดรอบสูงๆ ผ่อนคันเร่ง กระทืบครัช แล้วสับเกียร์ถัดไปภายในเสี้ยววินาที โดยที่รักษารอบไม่ให้ตก ... มองเห็นโค้งลึกข้างหน้า ผ่อนคันเร่ง สับเกียร์ลง สาดโค้งโดยไม่ค้องเบรค ปล่อยให้เอนจิ้นเบรคทำงานจนพ้นกลางโค้ง รถตั้งลำ ก็เหยียบคันเร่งพุ่งไปข้างหน้า รอจังหวะรอบสูงแล้วเตรียมสับเกียร์ต่อไป ..." ปล. นี่คืออารมณ์ของเกียร์ธรรมดาครับ (ผมขับ MT มาตลอด เพิ่มมาคันปัจจุบันนี่แหละที่เป็น AT เพราะแก่แล้ว + ขี้เกียจ ... แต่ผมก็ยังคิดถึง อารมณ์ของเกียร์ธรรมดาอยู่เสมอครับ) จากคุณ : หนุ่ม No.7 - [ 25 มิ.ย. 52 09:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เอ่ออ นักแข่งวันนึงเขาทั้งซ้อมทั้งแข่ง ตั้งกี่ชั่วโมง เทคนิคไม่ต้องพูดถึง ประสบการณ์ในการลองขับรถประเภทต่างๆ แบบไม่ต้องนับ แบบนั้นแล้ว .. ยังจะว่าเขาไม่ยอมรับสิ่งใหม่อีกหรอเนี่ย จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 25 มิ.ย. 52 09:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าชอบความเร็วจริงๆ ลองขับเกียร์ MT ดูครับ สำหรับผมขอนิยามการขับเกียร์MTว่า "under my control" ครับ จากคุณ : Ferrari - [ 25 มิ.ย. 52 09:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พูดยาก ไม่ลองไม่รู้.....ลองขับเกียร์ A/T เหมือน M/T สิ ไม่เกินปี พังคาทีนจ้า... จากคุณ : popz_civic (PoPz_Civic) - [ 25 มิ.ย. 52 09:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เกียร์ธรรมดาคือเกียร์ที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับ ใจต้องการอย่างไรเครื่องยนต์ก็สนองให้อย่างนั้น เกียร์อัตโนมัติเป็นเกียร์ที่มันคิดเองได้ ใจคนสั่งมันไม่ได้ ถึงแม้จะทำเป็นเกียร์บวกลบ หนึ่ง สองไว้ มันก็แค่ตอบสนองใจคนได้เพียงครึ่งเดียวที่ใจต้องการ จากคุณ : chem chem - [ 25 มิ.ย. 52 09:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ลองหาตู้ Simulation หยอดเหรียญตามห้าง เล่นดูครับ เล่นจนชำนาญ ยังบอกได้เลย ว่า MT สามารถควบคุมรถได้ดีกว่ามากครับ ไม่ว่าจะเป้นการเข้าโค้งโหดๆ ดริฟ ครับ ลองดู แค่ในเกมส์ยังต่าง ในชีวิตจริง มันต่างยิ่งกว่าในเกมส์อีก จากคุณ : XenoType - [ 25 มิ.ย. 52 09:19:42 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่า การแข่งขันหลายๆ ที่จะห้ามเอาไว้ครับ เป็น ๑ ในกฎ จริงๆ มันก็มีข้อดีและ ข้อเสียในตัวเองเหมือนกันครับ เพราะ เกียร์ออโต้ ที่ลงไปอยู่ในสนามแข่ง มันคนละเรื่องกับเกียร์ออโต้ที่อยู่ในรถบ้านทั่วไป ครับผม จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 25 มิ.ย. 52 09:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมขับเกียร์ MT มาเกือบ 20 ปี เพิ่งมาขับ AT ผมก็ไม่เห็นว่า AT มันจะทำงานได้ใกล้เคียง MT เลย MT เข้าเกียร์ช้าเหรอ ผมไม่ ผมว่า AT เข้าเกียร์ช้ามาก ไม่ทันใจเลย ขับมากี่คันๆ ยกเว้น CVT มันไม่รู้สึกง่ะ ผมว่าก่อนสรุปต้องลองใช้ MT มากๆ จนเป็นส่วนนึงของร่างกายดีกว่า แล้วจะไม่รู้ว่าการเปลียนเกียร์ มันไม่ได้ใช้สมองมากอย่างที่คิดหรอก ทุกวันนี้ขับ AT ผมก็ยังชอบ MT มากกว่า  ผมจะชอบ MT มากก็ตอนมีสาวนั่งข้างๆ ง่ะ จากคุณ : CK5 - [ 25 มิ.ย. 52 09:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อีกประเด็นนึงก็คือ มันทนทานกว่าครับ คิดดู การแข่งต้องใช้รอบเครื่อง สูง ๆ อีกอย่างนึงคือ มันได้ดั่งใจมากกว่า ไม่เหมือนเกียร์ โอโต้ จากคุณ : vicza - [ 25 มิ.ย. 52 10:05:57 A:202.28.25.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 อย่างที่ป๋าหยึมพูดครับ M/T บ้านๆ ไม่เหมือน M/T ตามสนามแข่ง อย่างในสนามเซอร์กิต เกียร์ M/T เค้าใช้ไฟฟ้ามาช่วยคุมการเปลื่ยนเกียร์ ใช้กระดิกนี้วสั่งอย่างเดียว หรืออย่างพวกรถ One Make Race หลายๆยี่ห้อที่เอามาแข่งกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นเกียร์สุนัขทั้งนั้น โยกเอาได้เลย ไม่ต้องเหยียบคลัตช์ ถ้าเป็นพวกแข่งจับเวลา หรือ ควอเตอร์ไมล์ เดิ๋ยวนี้เค้าใช้เกียร์อัตโนมัติ 2 เกียร์ เพราะเน้นเรื่องเวลาอย่างเดียว แต่ไม่ได้เน้นเรื่องความเร็วมากนัก (แต่ก็เกิน 200 ทุกคัน) ที่ไม่เอา A/T มาใช้ในการแข่งเซอร์กิต ส่วนนึงเพราะคุมรอบเครื่องไม่ได้ขณะเข้าโค้ง อีกทั้งการบำรุงรักษาที่ต้องทำได้ทันทีขณะแข่งขันในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ถามว่าทุกๆคนก็อยากสบายครับ แต่ความสบายต้องใช้ให้ถูกเหตุการณ์เท่านั้น จากคุณ : แอบหลับบนโต๊ะทำงาน (NoFlyZone) - [ 25 มิ.ย. 52 10:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าแข่งแบบง่าย นอนอยู่บ้านสบายใจกว่า ความเร้าใจมันอยู่ที่การที่เราควบคมทุกอย่างได้ดั่งใจนี่แหละครับ เหมือนคนชอบปีนหน้าผาแหละ ทางเดินดีๆ มีไม่ชอบ ชอบความ ท้าทาย จากคุณ : เด็กนรกฯ - [ 25 มิ.ย. 52 10:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รถแข่งใช้ mt เพราะต้องการความแรงดังใจ รถบ้านใช้ at เพราะต้องการความสะดวกสบาย จากคุณ : AVSystem - [ 25 มิ.ย. 52 10:58:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เชื่อเถอะครับ รถแข่งยังไงๆก็ต้องใช้กึ่ง AT คือพวก Sequencial พวกรถ Drift ทั้งหลายแหล่นั้น ต้องการ Sequencial กันหมดแหละครับ * แต่ Sequencial ยังนับว่าเป็น MT อยู่นะ เพราะยังไงก็ต้องเปลี่ยนเอง แต่ไม่เหยียบ clutch แค่นั้นเอง ส่วนรถ Drag ยังไงๆก็ต้อง AT เพราะมันตอบสนองได้ต่อเนื่องกว่า เร็วกว่าเยอะๆๆๆๆ ที่เห็นเหลือหลายๆคันยัง MT อยู่ เพราะงบไม่ถึงครับ ถ้ามีตังค์รถ drag ไป AT หมดครับ จากคุณ : AMIYAMA - [ 25 มิ.ย. 52 11:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มาอ่าน จากคุณ : PICCANINNY'S DAD - [ 25 มิ.ย. 52 12:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จขกท ไปลองหัดขับเกียร์ mt ให้เป็น แล้วจะเข้าใจเอง ย้ำว่า ขับเป็น ไม่ใช่แค่ ขับได้ ถ้าแค่ขับได้ มันจะเมื่อย จากคุณ : ton99 - [ 25 มิ.ย. 52 12:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 37 at ..... drag   หลักแสนอยุ่  เฉพาะเกียร์นะ แล้วถ้า drift  at   จะ drift ยังไงหว่า....... ส่วนมาก แข่งรุ่น super car ใช้Sequencial กันเยอะแล้ว ก็ไม่ได้ใช่ at  ล้วนๆ  แค่กึ่งๆ จากคุณ : โซดากับชาเขียว - [ 25 มิ.ย. 52 12:47:22 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เอาง่ายๆ เกียร์ MT จะเปลี่ยนเกียร์ตามความพึงพอใจของผู้ขับ เกียร์ AT จะเปลี่ยนเกียร์ตามคำสั่งจาก ECU แล้วอย่างไหนจะขับมันส์กว่ากันล่ะครับ ให้คอมบังคับ หรือ บังคับเอง ถ้าให้คอมบังคับก็ต้องเลือกโหมดว่าจะเล่นแบบง่าย แบบยาก หรือยากมาก ง่าย = ขับบ้านๆ แตนๆ สบายๆ ยาก = ใช้รอบสูงขึ้นมีความเป็น Racing มากขึ้น ยากมาก = ขั้นเทพ ถ้าบังคับเองก็ต้องแล้วแต่ผู้บังคับว่ามีความสามารถขนาดไหนครับ รอบสั่งได้ ต้องมือไว เท้าไว แล้วอาศัยความรู้สึกเอาครับ จากคุณ : Coffer dam - [ 25 มิ.ย. 52 12:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ซื้อรถให้เมีย AT ซื้อรถให้ตัวเอง MT ไม่สนว่าขับในเมืองหรือ ต่างจังหวัด เรื่องเมื่อยไม่เมื่อย สบาย ไม่สบาย ไม่เกี่ยว เพราะผมขับ MT ตั้งแต่อายุ 11 จนถึง 32 เปรียบเสมือน แขนขาไปซะแล้ว เข้าโค้งออกโค้งนี่ มันชิบ เชนเกียร์ ไม่แตะเบรค ใช้รอบเครื่องดึงเอนจิ้นเบรค พร้อมกับเลี้ยงรอบไปในตัว ดึงรถเข้าจุด apex ของโค้ง แล้วกดคันเร่งออกโค้งต่อได้เลย รถเพื่อนผม ออกต่างจังหวัดทุกอาทิตย์ ขับมา 4 ปี 1.5 แสนโล ผ้าเบรคยังอยู่เต็ม ๆ ยังไม่เคยเปลี่ยนจากโรงงาน เพราะผมสอนมันขับรถวิธีนี่แหละ ผมต้องไล่มันไปเปลี่ยนผ้าเบรค เพราะ มันหมดอายุแล้ว ถ้าจำเป็นต้องใช้ มันจะอันตราย 555+ จากคนที่แค่ขับได้ เปลี่ยนเป็บคนที่ขับรถเป็น เพื่อนผมมันบอกเองผลที่ได้คือ 1. ไปถึงที่หมายได้เร็วกว่าเดิม 2. ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม ***** ประเด็นสำคัญ ***** ถ้าคุณเป็นหนึ่งเดียวกับรถแล้ว คุณจะรู้รอบเครื่องของรถตัวเอง ความสัมพันธ์ระหว่างรอบเครื่องกับความเร็วที่พอเหมาะ โดยที่ไม่ต้องพึ่ง AT มาคำนวณให้ 3. ถึงแม้จะเร็วกกว่าเดิม แต่รู้สึกปลอดภัยกว่าเดิมครับ vigo 3000 เทอร์โบ (ทำช่วงล่าง) ขับแบบนี้ แซง GTR ในทางขึ้นเขาขุนตาลมาแล้วครับ แต่เชื่อมะ มันโดนเจ้าถิ่น ขับกะบะ 6 ล้อเล็ก บรรทุกของ แซงในโค้งอีกทอดนึง เจ้าถิ่นนี่เค้าสุดยอดจริง ๆ ครับ ตามคุณต้นบอกเลย ต้องขับเป็น ไม่ใช่แค่ ขับได้ ถ้าคุณมีรถเพื่อแค่อยากเดินทางสบาย ๆ AT คือคำตอบ ถ้าคุณต้องการความสนุกในการขับ + ต้องการเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ MT คือคำตอบ จากคุณ : un750 - [ 25 มิ.ย. 52 13:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 +++++ถ้าได้ลองขับ แบบจริง ๆ จัง ๆ ก้อจะทราบครับว่าทำไม ถึงยังต้องใช้รถมีเกียร์ ในการแข่งขัน จำพวกวิ่งวนรอบ ในสนาม แล้วคงรู้อีกอย่างว่าทำไม ถึงต้องใช้ยางใหญ่ ๆ ที่ดูเหมือนหนัก ๆ   (เผื่อสงสัยว่าทำไมนักแข่งไม่ใช้ยางเล็ก ๆ เบา ๆ จะได้วิ่งไว ๆ อีก) เฮ้ออออออออออ แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 13:50:46 จากคุณ : mantu - [ 25 มิ.ย. 52 13:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เกียร์ MT มันคือเราควบคุมเกียร์ ควบคุมรถ ใจสั่งมาเลย เกียร์ AT ตรูยังไม่อยากเปลี่ยนเกียร์ อยากจะลากรอบซักหน่อยมันดันเปลี่ยนให้ซะละ หรือ จะเข้าโค้งนี้ให้มันส์ด้วยความเร็วขนาดนี้มันต้องเกียร์นี้แหละ ไม่ต้องเหยียบเบรก แต่เกียร์AT ดันไปอยู่เกียร์ที่สูงกว่า ตรูเลยต้องมาเหยียบเบรกอีก เฮ้อออ จากคุณ : ลูกหมาตกน้ำป๋อมแป๋ม - [ 25 มิ.ย. 52 14:14:13 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มันเป็นจิตวิญญาณของนักแข่ง ที่ต้องผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับรถคับ จากคุณ : bigkeymouse - [ 25 มิ.ย. 52 14:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าออโต้หมดจะแข่งกันทำไมอะ.....ล้อเล่น จากคุณ : ปู้ (ligay097) - [ 25 มิ.ย. 52 14:31:36 ]

ความคิดเห็นที่ 44 นักแข่งเดี๋ยวนี้ ใช้ MT ไฟฟ้า หมดแล้วนิ ECU โรแกรมให้ได้ดังใจ มันยากมากนะ จากคุณ : ก้นกบ - [ 25 มิ.ย. 52 17:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เคยลอง E46/M3  ครับ ทั้งเกียร์ MT ธรรมดา และ MT ไฟฟ้า ความคิดผม ความมันไม่ได้แตกต่างเท่าไหร่ แต่เกียร์ไฟฟ้า เข้าเร็วกว่าเยอะครับ จากคุณ : Apache_j - [ 25 มิ.ย. 52 20:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เอานิยามที่เพื่อนฝรั่งผมบอกก็แล้วกันครับ " เกียร์แมนวล มันให้คุณได้สัมผัส สื่อสาร และเ้ข้าใจความรู้สึกของรถคุณอย่างแท้จริง " สั้น ๆ แต่ได้ใจความ ในเมืองนอกคนชอบขับเกียร์แมนวลก็มีเยอะนะครับ อาจเพราะรถเค้าไม่ติดด้วยมั้ง จากคุณ : Tiger Ton - [ 25 มิ.ย. 52 21:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อีกอย่าง ใครบอกขับเกียร์ AT ได้เหมือน MT ผมบอกได้เลยว่า คน  ๆ นั้นไม่เคยขับเกียร์ MT อย่างจริงจัง หรือไม่ก็เป็นคนที่ไม่สามารถจับความรู้สึกที่รถส่งมาให้เราได้ครับ ผมมีรถทั้งสองแบบแต่เกียร์ AT นี่ไว้ขับวันที่ไม่ได้ออก ตจว หรืออยากขับแบบเรื่อย ๆ เท่านั้นครับ นอกนั้นต้อง MT เท่านั้น จากคุณ : Tiger Ton - [ 25 มิ.ย. 52 21:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตอนเราหัดขับรถ พ่อให้หัดขับกระบะ ที่เป็นเกียร์ MT ก่อน จากนั้นค่อยมาขับ CRV ที่เป็น AT เรารู้สึกชอบ MT มากกว่านะ มันขับสนุกกว่า  ควบคุมจังหวะ และอื่น ๆได้ดีกว่า AT AT  ให้ความรู้สึก . . สบายไปป่ะ ไม่ต้องทำไรเลย  ไม่สนุกเท่าไหร่ แต่ตอนนี้รถที่ใช้เป็น AT ค่ะ เพราะขับในเมือง  ใช้ MT ในเมือง เมื่อยตายย จากคุณ : arra - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 21:20:33 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขับรถปกติ ผมชอบ mt เพราะตัวเองคิด และ สับเกียร์ได้ดีกว่า สมองกลของ at   สิ่งที่ at ทำไม่ได้แบบมนุษย์ คือ   ... มันคิดอะไรล่วงหน้าไม่ได้ มันแค่คำนวนจาก สิ่งที่เกิดขึ้น เดี๋ยวนั้น แต่ถ้าขับแข่งในสนาม และ มี at ที่ทำงานได้เร็ว อัตราทดสมบูรณ์ ผมอาจจะใช้ at นะ   อย่างน้อยมันลด workload ได้  และได้ความ consistency อีก แถม ขับแล้วล้าน้อยกว่า mt แท้ๆ ที่ต้องเหยียบคลัช mt แท้ๆ  ขับได้ 5 รอบ  รอบที่ 6 อาจจะเริ่มสับช้า หรือ สับว่าวแล้ว จากคุณ : ถัง - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 23:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เข้าโค้งอย่าไปใช้ Engine Brake เลยครับ  พวกแข่งรถหรือพวกขับ MT จริงๆจังๆ เค้าพยายามหลีกเลี่ยงทั้งนั้น ข้อเสียมีเยอะกว่าข้อดี 1. ซ่อมเกียร์แพงกว่าเปลี่ยนผ้าเบรคเยอะ 2. มันเสียหลักอาจจะปัดได้เวลาเข้ามาเร็วๆ 3. "Money shift" อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าที่ความเร็วนั้นควรจะใช้เกียร์ 3 แต่ดันไปเข้าเกียร์ 1 เครื่องจะ over-rev แล้วตัว rev-limiter ก็ช่วยไม่ได้ด้วยถ้ารอบพุ่งจากการ down shift ไม่ใช่จากการเหยียบคันเร่ง หัด heel-and-toe ให้เป็น จะขับเกียร์ธรรมดาสนุกขึ้นเยอะ แล้วคนนั่งแทบจะไม่รู้สึกเลย เริ่มจาก rev-matching เวลาเปลี่ยนเกียร์ลงจะแซงก่อนก็ได้ แล้วค่อยเริ่มผสมกับการเบรค  search youtube เอา มีสาธิตให้ดูเยอะ เกียร์ AT แบบ Torque converter ไม่ใช่ "สิ่งใหม่ๆ" อย่างที่คุณคิดหรอกครับ มันมีมานานมากแล้ว Dual-Clutch MT คือนวัตกรรมใหม่ล่าสุดต่างหาก ใหม่กว่า CVT AT เสียอีก นักแข่งรถต้องการ control ครับ ไม่ใช่ความสะดวกสบาย แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 11:51:03 จากคุณ : bUzZ - [ 27 มิ.ย. 52 20:35:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คห.50 ขอถามหน่อยนะครับ   heal-and-toe ,rev-matching , over-rev , rev-limiter คืออะไรอ่ะครับ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 09:57:13 จากคุณ : CK5 - [ 29 มิ.ย. 52 09:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 52 Heel-and-Toe (ผมเขียนผิดในคคห 50 นะครับ ไม่ใช่ heal) คือเทคนิคการขับที่เพิ่มรอบความเร็วของเครื่องขณะที่เหยียบเบรคไปพร้อมๆ กัน นึกภาพว่าปลายเท้า (toe) เหยียบเบรค แล้วหมุนส้นเท้า (heel) ไปแตะคันเร่งเพื่อให้รอบสูงขึ้น โดยการทำทั้งสองอย่างนี้เป็นไปพร้อมๆ กัน ในขณะที่เหยียบคลัทช์อยู่ http://en.wikipedia.org/wiki/Heel-and-toe rev matching คือการเร่งรอบเครื่องให้สูงขึ้นก่อนที่จะเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ สมมติว่าคุณขับที่ 100 กม/ชม ที่เกียร์ 5 ใช้รอบ 2500 ถ้าจะเปลี่ยนเกียร์ลง 4 เพื่อให้แรงบิดมามากขึ้นที่จะแซง ก็เหยีบบคลัทช์ แล้วเร่งรอบให้สูงขึ้น (เป็นเท่าไหร่แล้วแต่รถแต่ละรุ่ย), เข้าเกียร์ 4 ไปพร้อมๆ กันแล้วปล่อยคลัทช์ ความเร็วรถจะยังอยู่ที่ 100 กม/ชม จะไม่มีการเกิด engine brake ให้คุณหัวกระตุก คงนึกภาพออกนะครับ over-rev คือการที่รอบรถทำงานสูงกว่า รอบสูงสุดที่ออกแบบมา อาจทำให้ลูกสูบชนวาล์วได้ รถสมัยใหม่เหยียบคันเร่งไปถึงขีดแดง เครื่องจะตัดน้ำมันเอง จากการทำงานของ rev limiter ใน ECU (คอมพิวเตอร์คุมเครื่อง)เพื่อป้องกันการเสียหาย แต่ถ้าคุณเข้าเกียร์ผิดอย่างเช่นข้างบน ไปเข้าเกียร์ 2 ที่ 100 กม/ชม พอปล่อยคลัทช์ อัตราการทดของเกียร์สอง ที่ความเร็ว 100 กม/ชม อาจทำให้รองเครื่องพุ่งไปมากกว่าขีดแดงได้ โดยที่ rev limiter  ไม่สามารถช่วยป้องกันได้ ทุกอย่างที่คุณถามมามีให้ศึกษาใน google, wikipedia หรือแม้กระทั่ง youtube หมดนะครับ ลองหาดูมีให้อ่านละเอียดมากกว่าที่ผมเขียนไว้เยอะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 20:11:29 จากคุณ : bUzZ - [ 29 มิ.ย. 52 11:41:59 ]