Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  
 


เสียงหัวเราะจากเบาะแถวสาม vote  

    เรื่องจริงนะไม่ได้โม้

    ช่วงหยุดยาว เข้าพรรษา ผมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ด้วยวัตกุประสงค์ คือการทำบุญ 100 วัน

    ของคุณพ่อ และต้องการให้คุณแม่ ผูกคอและเจิมรถ เอนกประสงค์ ที่ชื่อ บิ๊กกรีน ให้ เพื่อความเป็นสิริมงคล

    ด้วยความที่มันเป็นรถคันใหญ่ คันแรกของบ้าน จึงเป็นที่ตื่นเต้นของเหล่าทะโมน (หลาน ๆทั้งหลาย) ของผมเป็นอย่างยิ่ง เสียงเถียงกัน แย่งกันเซ็งแซ่ แต่บ่งบอกถึงความสนุกสนานของเด็กน้อยในบ้าน
    ทำให้ผมรู้สึกเบิกบานขึ้นได้มากทีเดียว

    ผมจำไม่ได้แล้วว่า ผมไม่ได้ยินเสียงหัวเราะ อย่างสนุกสนาน และอารมณ์ที่พร้อมจะเบ่งบาน

    ตามเสียงเหล่านั้น มันหายไปนานขนาดไหน นับตั้งแต่พ่อป่วย เข้าโรงพยาบาล และจากไปอย่างสงบ

    ครั้งนี้ กลับถึงบ้าน กราบแม่ สวัสดี พี่ ๆ และทักทายหลาน ๆ เพื่อนบ้าน เสร็จแล้ว ผมก็

    เตรียมการที่จะให้แม่นำด้ายสายสิญจ์ ผูกพวงมาลัยรถ พร้อมเตรียมแป้งเพื่อเจิมพวงมาลัย

    ด้วยความที่ถึงบ้านก็ใกล้ค่ำแล้ว (โดยปกติคนที่ผูกรถให้คือพ่อ แต่ตอนนี้พ่อจากเราไปแล้ว)

    จึงรีบก่อนจะมืดด้วยสายตาแม่เองก็ไม่ค่อยจะดีนัก

    ไม่ทันที่จะจัดการอะไร ๆ เสร็จ เด็ก ๆ ก็แย่งกันขึ้น-ลง รถเป็นที่สนุกสนาน เบาะถูกพับขึ้น

    พับลง ฝาท้ายประตูด้านหลังก็โดนเปิด-ปิด อยู่ตลอดเวลา

    ผมกำลังจะหันไปดุ แต่แล้วก็ต้องหยุด เพราะสีหน้าของเด็ก ๆ ตอนนี้บ่งบอกถึงความสนุก

    สนาน บันเทิงเริงใจกันเป็นอย่างยิ่ง ก็เลยปล่อยเลยตามเลย

    --ภาค คนโดยสาร--
    วันรุ่งขึ้น
    พวกเราต่างก็เตรียมอาหารดิบ สุก เพื่อนำไปประกอบอาหารเลี้ยงพระที่วัดในหมู่บ้านอีก

    อำเภอหนึ่งซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อกับแม่ ผมต้องคิดหนักอีกครั้งกับกับข้าวที่ต้องนำไปเตรียม

    การ และผลไม้ (เงาะ) อีก 3 ถุงใหญ่ (รวมแล้ว 50 กก.) ด้วยความที่รถบรรจุคนได้ 7 คน (ตามสเปก)
    แต่เมื่อนำสัมภาระใส่เข้าไปแล้ว ก็เหลือที่นั่งเพียง 6 ที่นั่ง กับ ที่วางขาที่แคบลง

    "หนูขอนั่งหลังสุดนะน้า" เสียงหลานสาวตัวน้อยบอกผม เพราะเขาอยากนั่งเบาะสุดท้ายที่เขา

    คิดว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา

    "ได้ ๆ เดี๋ยวให้นั่งไปกับลังหมู 555" ผมตอบ

    และแล้วก็เอาของขึ้นรถจนหมด ถึงคราวที่ต้องเอาคนขึ้นรถ ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 5 คน เด็ก 2

    คน ก็ไม่มีปัญหาเพราะสามารถเบียด ๆ ได้โดยไม่อึดอัดนัก

    วันนี้เบาะหลังสุด จึงมีเพียง หลานสาว คนเดียวที่นั่ง อย่างเงียบสงบตลอดทาง

    ไปถึงบ้านน้า ซึ่งจะต้องทำกับข้าวที่นี่ ลูก ๆ ของพี่สาวอีกคน ที่เป็นเด็กผู้ชาย วัย ป.1 ก็เข้า

    มาบอกผมว่า ขอดูรถหน่อย

    แน่นอน คนรักหลานอย่างผมจัดให้อยู่แล้ว โดยกดรีโมทปลดล๊อค แล้วก็ขึ้นไปเล่นกันได้เลย

    ไม่น่าเชื่อว่า รถคันนี้ จะทำให้เด็กเสียเหงื่อได้ขนาดนั้น 555

    บ่ายกว่า ๆ พิธีการก็เสร็จสิ้นลงได้อย่างเรียบร้อย

    ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับ ขากลับ ไม่มีของเยอะอย่างขามา ที่นั่งแถวสามโดนจับจองกันเรียบร้อย ด้วยเด็ก 2 คน กับผู้ใหญ่อีก 1 คน (เอาไปนั่งขวางมันกันทะเลาะ) ผู้ใหญ่เบาะ 1 กับ 2 อีก 5 คน ก็เดินทางได้ไม่อึดอัด

    เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัว ก็มีเสียงเบาะแถวสาม สนทนากับสารถีเป็นระยะ ด้วยวัย ช่างจ้อ และผมจะไม่ตอบคำถามก็ไม่ได้ด้วยสิ ต่อมาด้วยการร้องเพลงด้วยกันทั้งคันรถ (เสียดายที่รถผมไม่มีจอทีวี) เสียงหยอกกัน เสียงหัวเราะจากเบาะหลังสุด ทำให้ผมรู้ว่า ทุกคนมีความสุข น้าผมยิ้ม แม่ผมยิ้ม รอยยิ้มจาง ๆ ที่ปรากฏ ก็พอบอกได้ว่าท่านมีความสุข ถึงแม้บางครั้งจะปวดหัวบ้างกับเจ้าตัวเล็กทั้งหลาย แต่สิ่งเหล่านั้นก็แฝงความสุขให้ท่านได้ลุกขึ้นแต่เช้า เพื่อเดินออกกำลัง และกลับมาพร้อมขนมครก ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ หรือแม้แต่โจ๊กอร่อย ๆ เสมอ ๆ

    สิ่งนี้ คือสิ่งที่คาดหวังจากการหารถครอบครัวคันเทอะทะคันนี้มากที่สุด ขอแค่ท่านมีรอยยิ้ม และมีพลัง อยู่เพื่อพวกเราทุกคน ผมพร้อมที่จะทำทุกอย่างครับ

    เพียงแต่มีสิ่งหนึ่งที่ผม ยังรู้สึกเสียดายอยู่ก็คือ ผมซื้อรถคันนี้มาใช้ช้าไป ช้ากว่าเวลาที่พ่อจะมีให้ผม ช้าไป แต่ก็ไม่ช้าจนเกินไป...

    --ภาครถ--

    เช้าวันต่อมา นั่งคุยกันกับพี่ ๆ น้า ๆ ว่า อยากไปเที่ยวถ้ำภูผาเพชร (สวยงามมากอยู่ใน จว.สตูล) คนเดินทาง ผู้ใหญ่ 6 เด็ก 2

    ก็เตรียมของกิน ขนม (ที่เหลือจากเมื่อวาน อิอิ) แล้วก็อาบน้ำแต่งตัวกันเลย แม่บอกผมว่า ไม่อยากไปเลย เพราะคงปีนเขาไม่ไหว แต่กลับเป็นคนแรกที่แต่งตัวเสร็จ แล้วบอกให้ผมรีบ ๆ อาบน้ำ (ผมคนสุดท้ายครับ) 9.00 น. พร้อม ก็ออกเดินทางกันเลย เย้ ๆ

    เช่นเดิมครับ เสียงเบาะหลังก็ยังคงมีคนส่งเสียงดังอยู่เรื่อยไป แรกเริ่มเดิมที สาเหตุที่ไปที่นี่กันเพราะ น้าบอกว่า ชีวิตนี้อยากไปเที่ยวสักครั้งก่อนจะไม่มีแรงไป

    รถมันทำหน้าที่ของมันอย่างดี ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย และเรียบร้อยมาก ไม่มีเสียงบ่นว่าเหนื่อยจากทุกตำแหน่งที่นั่ง ทุกคนพร้อมเที่ยวมาก หลังจากที่ พี่ ๆ น้า และหลาน ๆ ขึ้นเขาไปเรียบร้อย (ผมนอนรอข้างล่างกับแม่ ขี้เกียจปีนขึ้นไป เพราะวันรุ่งขึ้นต้องกลับหัวหิน) ก็เลยนั่งรอ นอนรอไป 1 อิ่ม

    ขากลับก็เลยแวะเยี่ยมลูกพี่ลูกน้อง ป่วยเป็นโรคพุ่มพวง (แม่เป็นห่วงหลานท่านคนนี้มาก) ขนาดที่ว่า ช่วงผมขับรถออกมาได้ประมาณ 10 กม.ท่านหลับไป พอตื่นมา ท่านถามว่าใกล้ถึงแล้วเหรอ คือ ใจท่านไปก่อนรถแล้ว

    ก็แวะไปเยี่ยมเยียนเสร็จสรรพ น้ามีความสุข แม่สบายใจ ก็กลับบ้านกัน

    ใครที่มีท่านทั้งสองครบถ้วน อยากทำอะไรรีบทำนะครับ

จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์
เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 13:45:59





[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ]       
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com