ความคิดเห็นที่ 1 |
|
Reset เกียร์ก่อน แล้วสอนให้เกียร์เรียนรู้วิธีการขับใหม่ CVT ของ Mitsu มันเป็นเกียร์ที่มีสมองกลครับ ต้องให้มันลืมของเก่าแล้วเรียนรู้ของใหม่ด้วย
มาดูทริกเล็กๆ ของการขับ CVT กัน
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า CVT คือระบบเกียร์ Invect III คือ สมองของเกียร์ที่ทำหน้าที่คอยสั่งการ และเรียนรู้
และการแนะนำนี้ แนะนำเฉพาะขับคนเดียวเท่านั้น เมื่อท่านขับคนเดียวจนใช้ความสามารถรถได้เนียนแล้ว ท่านจะสามารถปรับรูปแบบการกดคันเร่งและเลี้ยงรอบได้เองเมื่อภาวะน้ำหนักหรือจำนวนคนเปลี่ยนไปครับ
ตัวที่กิน 95 แรงบิดสูงสุด 2750 แรงม้าสูงสุด บ้างก็บอกว่า 5800 บ้างก็บอกว่า 6000
ตัวที่กิน 91 ตัวใหม่ แรงบิดมา 4 พัน โค้งกราฟแรงบิดแบ่งเป็นสองโค้ง แรงม้า บนๆ เหมือนเดิมถ้าจำไม่ผิด 6พัน
แต่การขับทั้งสองตัวเพื่อให้แรงนั้นแทบไม่ต่างกันเลย
การขับให้แรง คงไม่ได้เกิดขึ้นในพริบตาสำหรับ รถใหม่ที่ยังไม่ได้เรียนรู้พฤติกรรมคนขับเลย ต้องเริ่มสั่งสอนมันครับ แต่ผมจะไม่สอนวิธีสั่งสอนมัน แต่จะแนะนำเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ขับสนุกขึ้นเท่านั้นเอง
ขั้นแรกเมื่อรู้แล้วว่าแรงบิดและแรงม้าอยู่ตำแหน่งใด ที่นี้มารู้จักกับแรงบิดกับแรงม้า แรงบิดคือแรงที่ใช้ ลากตัวถังอ้วนๆของ mitsu ให้พุ่งไปข้างหน้า เป็นแรงที่เหมาะกับการเปลี่ยนจากอัตราความเร็ว ยิ่งแรงบิดมาก ยิ่งพาร่างอ้วนๆ ของ mitsu พุ่งออกไปได้เร็ว ไม่ใช่แรงม้านะจ๊ะที่เป็นตัวฉุดลาดรถไป ส่วนแรงม้าละไว้ก่อน เพราะจะไม่พูดถึงในการขับcvt ให้แรงเลยก็ว่าได้ครับ
สังเกตุซิ รถ บ้าๆ พลังแรงๆ ทั้งหลายจะออกแบบให้แรงบิดสูงสุด มาอยู่ในช่วง power band ของจุดประสงค์การออกแบบรถนั้นๆ เสมอ รถบ้าพลัง รอบจัดๆ เยอะๆ ไม่มีคันไหน แรงบิดลงมาต่ำอยู่ 2 พันกว่ารอบเหมือนรถบ้านครับ เพราะมันเอามาใช้ประโยชน์ในสนามแข่งไม่ได้
แล้วทีนี้มาดู power band ของ 4g18 ตัวแรกกัน(กิน95)
power band ในช่วงที่เหมาะสมอยู่ที่ 3500-4500 ครับ เพราะแรงบิดสูงสุด มันอยู่แค่ 2750 แต่ไม่ใช่ว่า เลยมาปุ๊บมันจะดรอบลงปั๊บเลย มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ มันจะค่อยๆ ดรอปไปจน กราปแรงมาโค้งสูงขึ้นมาแทนครับ
ก่อการแซ๊ดรถ cvt ครั้งแรก สิ่งที่ควรทำคือ reset เกียร์ ฮ่าๆ ยังไม่รู้กันหละซิ วิธีง่ายๆ ของ 1.6 คือ N D N D N D N ประมาณ แบบว่า จึก จึก จึก ไอ้ตรงเนี้ยแหละที่คนไม่เคยทำไม่เคยเห็นจะไม่รู้ว่า ควรเลื่อนคันเกียร์เร็วขนาดไหน ทำพลาดรถเต่าเกียร์กระตุกเลยครับ สำหรับมือใหม่ ไม่แนะนำ ส่วนของ 1.8 ตบเข้า sportronic ดันเกียร์ขึ้นลง ตบกลับD แค่นั้นเรียบร้อย reset แล้ว -*- ง่ายโคตรๆ
มาต่อสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ชินคันเร่ง สมมุติท่านอยู่ตำแหน่งpole position คันแรก เตรียมชิงไฟเขียวกับคันข้างๆ ให้ท่านเข้า Ds รอไว้เลย (ปกติผมขับใช้แต่ D -*- Ds มะค่อยใช้) จากนั้นท่านทำการกระทืบให้สุด หมายเหตุ ดูเรื่องพรมที่ท่านปูด้วย หากมีขวางใต้คันเร่ง รถท่านจะสำแดงเดชได้ไม่เต็มที่ แล้วถอนเท้าแล้วกระแทกลงไปอีกที การกระแทกครั้งที่สอง ในครั้งนี้ ดันกลับมาที่ D ด้วยนะครับ เพราะว่าเราต้องการจะเล่นรอบเครื่องยนต์ ผมไม่สามารถตอบได้ว่า จะมิดหรือไม่มิด แต่โดยส่วนตัวผมแล้วไม่เคยมิดเลย แค่ประมาณ 3/4 หรือ 4/5 เท่านั้นเอง เหตุผล ไม่อยากให้น้ำมันหนาเกิน บวกกับความรู้สึกผม เหยียบแบบไม่มิดมังพุ่งกว่าแถมเลี้ยงรอบง่ายกว่า อ้อๆ ในการกระทืบทั้งที่สองนี้ให้เลี้ยงรอบอยู่ราวๆ 4000-4500 ครับ สำหรับการขับคนเดียว ความเร็วมันจะพุ่ง ปื๊ดๆๆๆๆ ขึ้นอย่างรวดเร็วไหลไปเรื่อยๆ ยัน120 เข็มความเร็วจะเริ่มขึ้นช้าลงจนใกล้ๆ 140
หากเป็นรถที่ผ่านการทารุณกรรมอย่างผมมาบ่อยๆ แล้ว เพียงแค่กระดิกปลายเท้าลงไปอีกนิด (ถอนซัก เซ็นต์สองเซ็นต์แล้วกดใหม่ เพื่อเปลี่ยนรอบ และอัตราทดเกียร์) รอบจะตวัดขึ้นไปที่ 5000 แล้วความเร็วรถจะพุ่งขึ้นไปเหมือนเดิมไหลไปจนแตะ 170 แล้วที่นี้แหละมันจะเริ่มอืด
พอถึงตรงนี้ขอแยกออกเป็นสองส่วน
ส่วนที่หนึ่ง พวกกิน 95 แรงบิดรอบต่ำ
รถท่านจะเริ่มอืดอย่างแน่นอน ให้กระดิกปลายเท้าอีกครั้งแล้ว ค่อยๆไล่รอบขึ้นไปเรื่อยๆ อย่ากดพรวด เหตุผลเดิม -*- น้ำมันหนาไป แรงมันน้อยกว่าน้ำมันบาง ความเร็วรถท่านจะไต่ๆๆๆๆ ขึ้นไปจนได้ 190 ตามเข็มชี้ แต่สำหรับผมแล้ว ยางเดิมล้อเดิมเทสมา ได้ เกือบ 195 ตามเข็มชี้ มีพี่หลายท่านได้ดูรูปกันไปบ้างแล้ว เดี๋ยวว่างๆ จะไปอัดถ่ายทำเป็นสารคดีเอิ๊กๆ
ส่วนที่สอง พวกกิน 91 แรงบิดมาสูง หลักการเดียวกันเลยครับ 1.8 ด้วย หลักการเดียวกับข้างขนมะกี้เลย
เพียงแต่ว่า ไอ้ 1.6 เนี่ย ผมยังไม่มีโอกาสได้ลอง เลยไม่รู้ว่า มันจะอืดแบบรุ่นแรก หรือ ไล่ง่ายกว่ารุ่นแรก แต่ทำเหมือนกัน ส่วน 1.8 ไปขับของใครมานั้น หุหุ ม่ายบอกแต่ลองแล้วเนียนกว่ากดแช่อย่างเดียวเยอะครับ
เมื่อท่าขับอย่างนี้บ่อยๆ แล้ว รถท่าน เพียงกระดิกปลายเท้า Invect III มันจะตกใจและสะดุ้งตื่น มาทำงานให้ท่านกันอย่างรวดเร็ว
อย่างเช่นผม เป็นคนที่ขับกดคันเร่งเท้าขวา เบรคเท้าซ้าย เมื่อซัดเร็วๆ นั้น เท้าขวาผมแทบไม่ถอนคันเร่งเลย แล้วใช้เท้าเบรคเอา
เช่นๆ ขับมาความเร็วประมาณหนึ่ง กำลังมุดๆมา บนถนนสามเลน ข้างหน้ามีช่อง พอมุดได้ ก็ขับมาปกติ พอจะถึงตูดคันที่ขวางผม ก็จะทำการแตะเบรคเล็กน้อยพอประมาณ (ต้องเรียนรู้เองว่าเบรคระยะปลอดภัยคือเท่าไรครับ) ถอนเท้าจากคันเร่งนิดหนึ่ง รอบรถผมก็จะตวัดขึ้น พอผมเปลี่ยนช่องทางจนดูว่าปลอดภัยแล้ว ก็ส่งคันเร่งพร้อมปล่อยเบรค รถผมก็ไม่เกิดอาการรอรอบเลยครับ เพราะว่าผมลากมันมาก่อนแล้ว
แต่เดี๋ยวก่อน การกระทำเช่นนี้จะทำให้ระบบ cvt ของท่านทำงานหนักยิ่งขึ้น เกิดความเครียดในชุดเกียร์สูงมาก ท่านจึงต้องดูแลเป็นพิเศษนะครับ น้ำมันเกียร์ ต้องถ่ายบ่อยกว่าปกติ จาก 4 หมื่น เหลือเพียง 2 หมื่น เพื่อไม่ให้เกียร์พังนะครับ อีกทั้งยังเปลืองผ้าเบรคด้วย
จนปัจจุบันนี้รถผม หากวันไหนขับแซ๊ดๆ หลังจากแตะเบรคเพื่อชลอ โดยใช้เท้าขวา เมื่อปล่อยเบรคปุ๊บยังไม่ต้องกดคันเร่ง รอบรถผมจะตวัดไป 3 พันรอบเป็นขั้นต่ำทันที ซึ่งรอบจะตวัดขึ้นสูงเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับ ความเร็วในการลดความเร็วของรถด้วย และปล่อยเบรคเพื่อจะไปต่อด้วยครับ
(เครดิต by Beer Lancer club)
Enjoy driver ครับ
จากคุณ |
:
แฟนน้องกุ๊ก
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ก.ค. 52 09:55:06
|
|
|
|