ความคิดเห็นที่ 1 เฮนรี่ ฟอร์ด  มีเมียเก็บลับๆ เป็นสาวชาวญี่ปุ่น ลูกชายที่เกิดกับเมียคนนี้ เป็นคนตั้งบริษัทมาสด้าเจแปน โดยมีฟอร์ดอเมริกันหนุนหลัง จากคุณ : ไฟลามทุ่ง เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 21:31:53

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ ^ จะฮาดีหรือเปล่าเนี๊ยะ จากคุณ : saksayam เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 21:45:12

ความคิดเห็นที่ 3 Ford เข้ามาเทคโอเว้อร์ มาตั้งแต่สมัยเกือบ 10 ปีก่อนแล้ว สมัยแรก Ford พยายามจะเข้ามาแทรกซึม ทั้วเอเซีย พยายามใช้แพทฟรอมร์เดียวกัน  แต่ก็เป๋ไป แต่ในช่วงนั้นก็ พัฒนา Mazda ออกแนวเด็กแนว ผลปรากฎว่าโดนใจประชากรโลกมากขึ้นกว่าชุดญี่ปุ่นพัฒนา จากคุณ : jioji เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 21:45:56

ความคิดเห็นที่ 4   ตอนนี้เป็น Partner กันครับ แต่คนในนี้ก็บอกมาครับว่า ยังไงก็ถือว่าเป็นคนละบริษัทกัน ก็เลยยังถือว่ามีการแข่งขันกันอยู่ แต่ก่อน Ford เป็นหัวเรือใหญ่กว่า แต่เดี๋ยวนี้เค้าถอนหุ้นออกจาก Mazda เกือบหมดแล้ว เพราะกลัวพิษเศรษฐกิจเหมือน GM ครับ ทำให้มีการพึ่งพากันเองน้อยลง และทำให้การบิหารเสถียรภาพมากขึ้น แต่เนื่องจากว่ารถบางรุ่น ยังคงใช้ Platform เดียวกันอยู่ จึงยังคงมีรถที่ขายโดยใช้อะไหล่ร่วมกัน เช่น รุ่น Mazda 3 - Focus, BT 50 - Ranger, Mazda 2 - Fiesta ครับ จากคุณ : unknownn_smp เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 22:31:43

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะมาสด้า บริหารงานผิดพลาด ดันไปเน้นรถเครื่องยนต์โรตารี่ ซึ่งมันกินน้ำมันกว่าลูกสูบ สมัยออกมาใหม่ๆ ราคาน้ำมันยังไม่แพง เลยไม่ได้มีผลกระทบ รถมาสด้าก็ขายได้เรื่อยๆ แต่พอตะวันออกกลางเจอความวุ่นวายเท่านั้นแหละ น้ำมันเลยราคาสูงขึ้น รถมาสด้าเลยขายไม่ออก(สมัยก่อนรถไม่ได้มีรุ่นเยอะเหมือนสมัยนี้) แล้วสุดท้ายก็ไปไม่ไหว ต้องขายหุ้น และฟอร์ดก็มาซื้อไป เพราะต้องการเจาะตลาดเอเชีย และขยายฐานการลงทุน และวิจัย ด้วย แต่ว่า ฟอร์ดเองก็ไม่ได้เทคโอเวอร์ทั้งหมด มาสด้ายังขอฝ่าย วิจัยและพัฒนา ให้เป็นอิสระบางส่วนโดยเฉพาะเทคโนโลยีที่มาสด้าพัฒนาเองตั้งแต่ต้น ด้วยเหตุนี้ รถ ตระกูลเอ็มเอ็กซ์ และ อาร์เอ็กซ์ ฟอร์ดเลยไม่ได้เอี่ยวอะไรกับเขาเลย ถึงจะอยากได้มากก็เถอะ แต่วิศวกรมาสด้า หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ให้ และตั้งแต่นั้นมา รถที่เป็น รถ อย่าง พวก คอมแพ๊คคาร์ มิดไซส์ซีดาน ฟอร์ดและมาสด้าเลยพัฒนาร่วมกันมาตลอด รถก็ออกมาคล้ายๆกัน แต่มาหลังจาก มาสด้าตัดสินใจเปลี่ยนแปลงรุ่นรถ จากเลขสามตัวอย่างพวก 323 626 121 มาเป็นเลขตัวเดียวแค่ 2 3 6 กลายเป็นมาสด้าขายดีเกินหน้าฟอร์ด ซะงั้น จนในที่สุดปีที่แล้ว มาสด้าก็สามารถซื้อหุ้นคืนจากฟอร์ดมาได้(ฟอร์ดเองก็ต้องยอมขายเพราะบักโกรก) ถึงจะไม่หมดแต่ก็เพียงพอที่ทำให้มาสด้าบริหารตัวเองไม่ต้องอยู่ใต้ฟอร์ดต่อไป แต่ก็ยังมีความร่วมมือในการพัฒนารถอยู่ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 22:56:21

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับ Ford  กับ Mazda เค้าเป็นพันธมิตรกันมานานตั้งแต่ปลายยุค 70's แล้วล่ะ ตอนนั้น Mazda ลงทุนลงแรงลงไปกับเครื่อง Rotary เยอะมากๆ ทั้งการวิจัยเครื่องยนต์ และการผลิตรถยนต์เครื่อง Rotary ออกขาย ซึ่งโชคร้ายมาเจอวิกฤตน้ำมันในเวลานั้นพอดี ('73) รถเครื่อง Rotary ที่กินน้ำมันค่อนข้างมาก นั้นขายไม่ดีนักเลยทำให้ Mazda มีปัญหาทางการเงิน เลยต้องหาคนมาช่วยอุ้ม ก็ได้ Ford นี่แหละมาช่วยเอาไว้ ซึ่งก็ได้ประโยชน์ในการลุยตลาด ภูมิภาคเอเซีย และแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีบางส่วน ทาง Mazda เองก็ได้ทั้งเงินมาอุดหนุนบริษัท และต้นทุนในการพัฒนารถก็ลดลงเพราะร่วมกับ Ford ได้ ตอนปี '79  Ford ก็ซื้อหุ้นของ Mazda มา 7%  และเพิ่มขึ้นเป็น  33.9% ในยุค 90's  เพราะตอนนั้น ญี่ปุ่นเจอปัญหาเศรฐกิจ Mazda ทำท่าจะไม่รอด แต่พอมาถึงปัจจุบัน Ford เองก็มีปัญหาทาง การเงินเหมือนกัน เลยคิดจะขายหุ้นที่ตัวเองมีอยู่ลงให้เหลือ 13.4% ซึ่งจะเสียสิทธิ์ในการ ควบคุมบริษัทด้วย  ซึ่งทาง Mazda เองก็ได้ซื้อหุ้นกลับจาก Ford  6.8% ที่เหลือก็ยังหาคนมาซื้ออยู่ เคยมีคนบอกเราว่า Mazda รักเครื่อง Rotary มาก ถึงขนาดลงทุนไปจนบริษัทเกือบเจ๊ง นี่สงสัยจะจริง แต่จริงๆแล้วบริษัทเจ้าของ Mazda เองก็ไม่ใช่บริษัทเล็กๆเลยนะ Sumitomo Group เนี่ย จากคุณ : blue_dahlia เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 22:56:43

ความคิดเห็นที่ 7   ได้ความรู้ดีครับ ผมเพิ่งทราบแค่เหตุการณ์ปลายๆ แต่พอเอามาเรียบเรียงก็โอเคครับ จริงๆผมเองก็ชอบประวัติศาสตร์ยานยนต์เองอยู่เหมือนกันครับ แต่จำไม่ค่อยได้เท่าไร 555++ ขอบคุณมากๆครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยครับ จากคุณ : unknownn_smp เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:10:33

ความคิดเห็นที่ 8 ที่มาสด้ารักโรตารี่มาก เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้วงการรถยนต์ญี่ปุ่น ได้ทำอะไรที่เหนือกว่าฝรั่ง เขาในสมัยหลังสงครามโลกโน่นน่ะครับ ตอนแรกที่ไปซื้อลิขสิทธ์มาพัฒนานี่ เรียกได้ว่า โดนเอาเปรียบมากๆ เพราะไปๆมาๆ ลิขสิทธ์ที่ซื้อมานี่ กลายเป็นว่า มันยังไม่ได้พัฒนาถึงขั้นจะมาใส่รถได้ ทุกอย่างเป็นแค่ทฤษฎีเท่านั้น กลายเป็นมาสด้าต้องมาพัฒนาซะเอง เรียกได้ว่า ถ้าถอยก็คือ จบเห่ สุดท้ายมาสด้าก็เลยกัดฟันสู้ต่อไป จนสามารถพัฒนาจนใช้งานได้จริง ซึ่งตอนนั้นทางฝั่งเยอรมันยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ สุดท้ายแล้ว มาสด้าคอสโม รถเครื่องยนต์โรตารี่ ก็วางจำหน่ายจนได้ ก็เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์รถยนต์ และมันเป็นความภูมิใจของ มาสด้า รวมทั้งคนญี่ปุ่นอีกด้วย และที่สำคัญคือ บ้านเกิดของมาสด้า คือฮิโรชิม่า เป็นหนึ่งในสองเมืองที่โดนระเบิดนิวเคลียร์ แต่ด้วยโรงงานที่ตั้งอยู่หลังภูเขาก็เลยรอดมาได้ ซึ่งตอนนั้น โรงงานก็เลยต้องกลายเป็นศูนย์ราชการ โรงพยาบาล ที่พัก เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของผู้ที่รอดตายจากระเบิดนิวเคลียตอนนั้นเลย ด้วยเหตุนี้ คนของมาสด้าก็เลยมีแรงจูงใจในการไม่ยอมแพ้สูงมาก เพราะผ่านจุดที่เรียกว่าน่าจะเลวร้ายที่สุดมาขนาดนั้นแล้ว ด้วยเหตุนี้ สำหรับมาสด้าแล้ว เครื่องโรตารี่ คือความภูมิใจของมาสด้า ความภูมิใจของคนฮิโรชิมา และความภูมิใจของคนญี่ปุ่น แก้ไขข้อมูล ตามที่ข้างล่างบอกจ้า แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 52 23:33:24 จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:18:55

ความคิดเห็นที่ 9 รถมาสด้าคันแรก เป็นรถสามล้อ ไว้ขนของ ขนคนงาน จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:23:04

ความคิดเห็นที่ 10 .. จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:23:26

ความคิดเห็นที่ 11 ตรูรู้ล่ะ ยางอะไหล่มาสด้า3 เอามาจากไหน หุหุ ลงรูปผิด แหะๆ รูปอยู่ข้างล่างจ้า แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 52 23:26:38 จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:24:01

ความคิดเห็นที่ 12 อันนี้ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล คันแรกของมาสด้า เจ้า อาร์360 ซึ่งคนที่พัฒนารถคันนี้นี่แหละ เป็นหัวหน้าทีม วิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์โรตารี่ รุ่นบุกเบิกเลย จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:25:40

ความคิดเห็นที่ 13 รูปของ 11 จ้า จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:26:58

ความคิดเห็นที่ 14 มาสด้า คอสโม รถเครื่องยนต์โรตารี่ ที่วางจำหน่ายคันแรกของโลก ก่อนที่รุ่นถัดมาจะเป็น รหัส อาร์เอ็กซ์ โดยเริ่มจาก RX-2 จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:29:00

ความคิดเห็นที่ 15 เอ่อ ถือว่าแลกเปลี่ยนแล้วกันนะคุณ Niceguy_C3 รถที่เป็นเครื่องยนต์ Rotary หรือ Wankel Engine ที่ออกขายจริงคันแรกของโลกไม่ใช่ของ Mazda จ้า แต่เป็น NSU Spider ของเยอรมันจ้า NSU คือบริษัทที่ Felix Wankel คนที่ คิดค้นเครื่องตัวนี้อยู่น่ะ NSU Spider เกิดปี '64 แต่ Mazda เกิดปี '67 ปีเดียวกับ NSU RO80 ที่เป็นรถ Sedan เครื่อง Wankel คันแรกเปิดตัวพอดี NSU ดอนนี้ก็คือ Audi จ้า แต่ยอมรับเลยนะว่า Mazda เก่งจริง เพราะในเวลานั้นญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็นนักเลียนแบบ กลับสร้างอะไรได้ขนาดนี้ *แก้คำผิดจ้า แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 52 23:33:20 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 52 23:32:38 จากคุณ : blue_dahlia เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:29:08

ความคิดเห็นที่ 16 และมาถึงเจ้า ซันวาน่า rx-7 รถที่ถือว่าสร้างชื่อเสียงให้กับโรตารี่ของมาสด้า มากๆ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:32:01

ความคิดเห็นที่ 17 และ รุ่นที่3 ของ rx-7 ขวัญใจขาดริฟท์ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:34:27

ความคิดเห็นที่ 18 และมาถึงอีกรุ่นนึงที่มาสด้าภูมิใจมากๆ เจ้า MX-5 นั่นเอง ทำไมถึงภูมิใจมากๆ เพราะว่ารถประเภท โรดสเตอร์ สมัยก่อนนั้น บริษัทรถยนต์อังกฤษ เป็นผู้ผลิตหลักๆเลยก็ได้ สำหรับรถประเภทนี้ แต่ด้วยความที่เศรษฐกิจย่ำแย่ ทำให้บริษัทรถอังกฤษต้องปิดตัวลง รวมทั้งเมื่อมันไปเมกา ประเทศที่ใช้แต่รถเครื่องใหญ่ๆ ซึ่งโรดสเตอร์มันเป็นรถขับกินลม ผลคือ คนที่โน่นขับคว่ำกันเป็นว่าเล่นแถมยังฟ้องกลับบริษัทรถอีก(ใช้รถผิดเองเนี่ยนะ) แล้วไปๆมาๆ บริษัทรถดันแพ้คดีซะงั้น รถโรดสเตอร์ก็เลยหายไปจากสารบบ รถยนต์ไปเลย จนมาสด้าไม่รู้นึกไงทำเจ้าคันนี้ขึ้นมา แถมประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมมากๆ สุดท้าย รถโรดสเตอร์ก็กลับมาสู่อุตสาหกรรมรถยนต์จนได้ สมชื่อมาสด้าที่ ทำอะไรที่ชาวบ้านไม่ทำจริงๆ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 52 23:46:35 จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:43:07

ความคิดเห็นที่ 19 และอีกหนึ่งความภูมิใจของมาสด้า กับการแข่งขันรถสปอร์ตที่เก่าแก่ที่สุดรายการนึงของโลกคือ เลอมังค์ 24 ชั่วโมง โดยรายการนี้ที่มาสด้าตัดสินใจเข้าแข่ง เพราะต้องการพิสูจน์ว่า เครื่องยนต์โรตารี่ สามารถที่จะใช้ในการแข่งขันอันหฤโหดได้ ซึ่งรายการนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความบ้าโรตารี่ของมาสด้ามากๆ เพราะว่าบริษัทแม่ ไม่มีเงินเพียงพอที่จะส่งทีมแข่งขัน แต่ทีมงานก็วิ่งหาสปอนเซอร์กันเองจนได้ลงแข่ง ซึ่งตอนนั้น ได้ทาง Mazda sport Corner(ต้นกำเนิด mazdaspeed) ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำชุดแต่งให้มาสด้า แต่ว่าก่อตั้งโดย ดีลเลอร์ของมาสด้าในโตเกียว มาดูแลเรื่องเทคโนโลยีให้ แม้ไม่ใช่จากมาสด้าโดยตรง แต่คนในทีมก็มาจากมาสด้าแทบจะทั้งนั้นแหละ สุดท้ายแล้ว มาสด้าเลยเห็นใจ ก็เลยจัดการซื้อบริษัทนี้ และกำเนิด Mazdaspeed อย่างเป็นทางการขึ้นมา ในปี 1990 และในปี 1991 นี้เองที่มาสด้าก็ทำสำเร็จ โดยสามารถคว้าแชมป์เลอมังค์ได้ ซึ่งถือเป็นรถญี่ปุ่นเพียงคันเดียว จนถึงปัจจุบัน ที่คว้าแชมป์นี้มาได้ และเป็นทีมญี่ปุ่นทีมแรกที่คว้าแชมป์มาได้(ที่มญี่ปุ่นทีมที่ 2 เป็นทีมออดี้ ใข้ออดี้อาร์8 ชนะในปี 2004) และคันนี้คือเจ้า 787B แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 52 00:09:18 จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 00:05:12

ความคิดเห็นที่ 20 ก็ขอจบส่วนของมาสด้า แต่เพียงเท่านี้(เกี่ยวกับกระทู้มั้ยเนี่ย) แต่ก็แสดงให้เห็นว่า ที่ผ่านมามาสด้าเอง ก็ยังถือว่าตัวเองอยู่ภายใต้ฟอร์ดแค่ในส่วนบริหารเท่านั้น ส่วนอื่นๆยังถือว่าเขาเป็นบริษัทรถญี่ปุ่นอยู่ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 00:07:08

ความคิดเห็นที่ 21 RX-8 และ RX-9 นี่ก็เป็นเครื่อง Rotary หรือเปล่าครับ จากคุณ : Mdiic~* เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 02:39:09

ความคิดเห็นที่ 22 ผมจำได้ว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย ราวๆ ปี 1971-72  มีอาจารย์ของผมท่านหนึ่ง ขับรถ NSU Ro 80 เครื่อง Rotary ของ wankel มาสอนหนังสือครับ  รถสีออกเปลือมังคุด ยางดำสนิทเงาวับ เพราะท่านขัดด้วย kiwi สีดำ(ช่วงเวลานั้น น้ำยาขัดเงายาง ยังไม่เป็นที่รู้จักกัน)   นิสิตคนไหน เดินเฉียดใกล้รถหรือไปยืนลูบๆคลำรถท่าน  ท่านมักจะออกมายืนมองดู กลัวใครไปทำให้รถท่านเป็นรอยกระมัง เข้าใจว่า สมัยนั้นมีเพียงไม่กี่คันในเมืองไทยเท่านั้นครับ จากคุณ : SengKun เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 06:43:32

ความคิดเห็นที่ 23   มีแฟมิเลียแจ่มๆไหมครับ จากคุณ : ฮ5555 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:18:50 A:203.131.212.105 X: TicketID:071933

ความคิดเห็นที่ 24 สวยมาตั้งแต่เกิด จากคุณ : บักแล่นแต๊ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:28:15

ความคิดเห็นที่ 25 กระทู้สาระจริงๆ จากคุณ : CooLMilK เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 16:27:17

ความคิดเห็นที่ 26 มีประโยช์มากเลย ว่าแต่ เครื่อง rotary มันมีจุดเด่นตรงไหนอีกหรือครับ นอกจากความทนทาน (ใช่ไหม) จากคุณ : nickvp เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 16:36:23

ความคิดเห็นที่ 27 #26 เด่นที่สุดน่าจะเป็นเรื่องรอบจัดครับ 1รอบจุดระเบิด3ครั้ง แต่ก็มีข้อเสียครับ เรื่องแรงบิด จากคุณ : ++พ่อ_ไข่ต้ม++ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 18:49:51

ความคิดเห็นที่ 28 RX เป็นรหัสของรถที่ใช้โรตารี่ครับ เพราะฉะนั้นทั้ง 8 และ 9(มีแต่ข่าวนะ) เป็นโรตารี่ ข้อดีของโรตารี่คือ 1 รอบทำงาน จุดระเบิด 2 ครั้ง 1500 ซีซี ของโรตารี่ เท่ากับ 3000 ซีซีของลูกสูบ ข้อดีทางกายภาพคือ มันเล็กและเบากว่าเครื่องลูกสูบ ข้อเสียในตอนนี้คือ อัตราการกินน้ำมันสูง และความทนทานของซีล ที่สู้ลูกสูบไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่า ในอนาคตมาสด้าก็ต้องลบข้อเสียจนได้สักวันแหละ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 22:37:36

ความคิดเห็นที่ 29   รถในฝัน โดยเฉพาะเจ้า RX-8 เคยเห็นแล้ว มันสวยตรึงตาตรึงใจจริงๆ ขนาดรถ มาสด้า 3 ยังดูแตกต่างสะดุดตาเลย ชอบจริง เสียดายที่ฟอร์ดกลังแกล้งมาสด้า เอาเครื่องยนต์ต่ำสุด 1.6 มาใช้ แต่ตัวเองใช้ 1.8 น่าเกลียดมากๆ จากคุณ : ฮัมเมอร์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 00:50:45 A:124.122.146.77 X: TicketID:121570