ความคิดเห็นที่ 1 พี่ชายเคยจะเอา ซี่รี่ส์ 3 ปี 2008 มาให้ขับฟรีๆ  เพราะเขาจะออกซีรี่ส์ 5 ดิฉันส่ายหัวอย่างเดียวเลยค่ะ  ของฟรีก็จริง แต่ไม่มีปัญญาหาเงินมาซ่อมเวลาอะไหล่มันพัง   ถ้าคุณเคยเล่นรถญี่ปุ่นมือ 2  อายุสัก 6-7 ปี  คุณจะรู้ว่า รถเมื่อผ่าน 5 ปีไปแล้วมีแต่จะต้องเปลี่ยนอะไหล่ค่ะ แต่ยังดีที่อะไหล่รถญี่ปุ่นไม่แพง แต่รถยุโรปด้วยราคานี้  หรือจะใหม่ๆแบบของพี่ชายดิฉันดิฉันก็ไม่เอาเด็ดขาด มันก็จริง ที่คุณบอก  อะไหล่มันแพงเวลาซ่อม << แล้วทำไมต้องคิดว่า ซื้อมาแล้วจะซ่อมอย่างเดียว ซ่อมตลอดทุกเดือนเลยเหรอ ก็เลือกที่อันคิดว่าดีที่สุด แล้วก็ดูแลมันให้ดี เจอรถบางคันเจ้าของเดิมดูแลเอาใจใส่ดี ก็ดีไป เจอรถย้อมแมว เจ้าของดูแลไม่ดี  ไม่ใช่ซ่อมทุกเดือน  บางคันเรียกได้ว่าออกจากอู่มาไม่ทันไรก็ต้องกลับเข้าไปอีกแล้ว จะเล่นรถยุโรปต้องรู้จักอู่ดีๆ ไม่ฟันหัวแบะ  ต้องรู้แหล่งซื้อขายอะไหล่ราคาถูก  ถ้าอะไหล่บางตัวไม่มีขายในไทย  ก็ต้องรู้แหล่งฝากซื้อค่ะ ถ้าดิฉันมีเงินสำหรับซ่อมบำรุงรถยุโรปแบบนี้  ดิฉันก็ยังจะเลือกถอยแจ๊สป้ายแดงค่ะ  อย่างน้อยถือเป็นการเก็บเงินค่าซ่อมบำรุงก้อนนั้น เป็นค่าน้ำมันให้แจ๊สใหม่ดีกว่า ของแบบนี้มองต่างมุมค่ะ จากคุณ : Rarin-รริญ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:42:10

ความคิดเห็นที่ 2 เอามาบูรณะเหรอ? จากคุณ : Nal2usH เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:42:34

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ละคน มีความชอบส่วนตัวไม่เหมือนกัน และถ้าผมจะถามกลับกันว่า.. ทำไมคุณถึงไม่ชอบ Toyota หรือ Honda บ้างล่ะครับ ? ใครชอบแบบไหน ก็เลือกแบบที่เราชอบ ดีที่สุดครับ จากคุณ : - nutsadini เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:44:40

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วถ้าผู้หญิงขับแล้วมันเกิดเสียกลางทางตอนกลางคืนล่ะครับ คนซื้อรถใหม่เค้าก็มีเหตุผลของเค้าล่ะน่า จากคุณ : put (putta) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:44:54

ความคิดเห็นที่ 5 ผมอยากขับรถที่ไม่ต้องเสียเวลาบำรุงรักษา และไม่กวนเงินในกระเป๋าครับ ผมว่าคนไทยหลายคนยึดติดกับภาพลักษณ์ ยี่ห้อมากไป ลูกค้าฝรั่งผมเงินเดือนหลายแสนยังขับ Jazz เลยครับ จากคุณ : amry (amry) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:46:13

ความคิดเห็นที่ 6 ต่างคน ต่างความชอบ ต่างมุมมอง ต่างเหตุผลน่ะครับ ถ้าชอบเหมือนกันแบบนี้หมดทุกคน แล้วแจ๊ส กับ ยารีส จะขายให้ใครล่ะ คนที่เค้าเลือกซื้อ city car คันเล็กๆ เค้าก็ย่อมที่จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่คิดว่ารถคันนั้นๆ เหมาะกับเค้าที่สุด ซึ่งเหตุผลที่ดีที่สุดของเค้า อาจจะเป็นเห็นผลที่ดูไม่เข้าท่าเลย สำหรับคุณครับ และในทางกลับกัน เหตุผลที่ดีที่สุดของคุณ อาจไม่เข้าท่าเลย สำหรับคนอื่นก็เป็นได้ จากคุณ : Albe'do เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:47:38

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าทุกคนคิดจะซื้อแต่รถมือสองหมด จะเอารถใหม่ป้ายแดงไปขายใครล่ะครับ ไม่มีป้ายแดง ไม่มีมือสองครับ จากคุณ : คนรู้มาก เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:50:04

ความคิดเห็นที่ 8 เงินเท่ากัน ได้รถยุโรป อายุ 14 ปี กับรถญี่ปุ่น อายุ 6ปี รถ 14 ปีซื้อมายังไงต้องมีเก็บบ้าง กับรถ 6 ปี นี่ใช้ได้อีกนาน แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 52 10:51:14 จากคุณ : merida_recon เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:50:34

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ชอบของใช้แล้ว......ถ้าไม่มีปัญญาซื้อมือ 1 ก็อย่าซื้อเลยดีกว่าสำหรับเรานะ  ไม่อยากมาซ่อมของใช้แล้วของใคร รถแต่ละรุ่นมันมีเสน่ห์ในตัวมันนะ  ไม่ว่ารถยุโรปหรือรถญี่ปุ่น  ถ้ามีงบอยู่ 1 ล้านบาทเราเลือกซื้อ CIVIC มือ 1 ดีกว่าไปซื้อ BM มือ 2 (ที่คงได้ปีไม่เก่าเท่าไหร่) จากคุณ : ดาวหลงทาง เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:51:46

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท ไม่เคยมีรถใช่มั้ยครับ แรกๆผมก็คิดแบบคุณ แต่สุดท้ายก็ถอย Jazz แล้วก็คิดถูกครับ ถ้าตอนนั้นไปเล่น Bm คงจบแน่ๆ ตายแน่ๆ ราคาอะไหล่ ต่างกันเยอะนะครับ 2-3 เท่าตัวเลย มือหนึ่ง ภายใน 3 ปี เนี่ย ไม่มีปัญหา แน่นอน เข้า 0 3 ปี ยังไม่มากเท่า ซ่อม BM เลยด้วยซ้ำ เรื่อง น้ำมันเช่นกันครับ แพงครับ กินมากกว่าเท่าตัว ทางเลือกแบบนี้มันเหมาะสำหรับคนที่เชี่ยวเรื่องรถแล้ว ดูรถเป็น ซ่อมเองได้ มีปัญหาแก้ได้ สำหรับเซียนเค้า คนธรรมดาอย่างเราๆ เอามือหนึ่งสบายใจ สบายกระเป๋าดีกว่า ปล.ซื้อรถมาเป็นพาหนะครับ ไม่ใช่ภาระ จากคุณ : หนังสือที่คุณอ่านแล้ววางไม่ลง เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:53:12

ความคิดเห็นที่ 11 มีทั้งคนกล้ากับคนไม่กล้าครับ พูดง่ายๆคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถ เขาก็ต้องเอารถใหม่ป้ายแดงไว้ก่อน แม้ว่ามันจะเป็นรถญี่ปุ่นคันน้อยๆก็ตามที อย่างเพื่อนผม ชาตินี้ขับแต่ป้ายแดง รถเก่านิด ซ่อมหน่อย มองหารถใหม่กันแล้ว เตรียมตัวเป็นหนี้กันแล้ว เพราะเขาไม่รู้เรื่องรถเลย ส่วนตัวผม แม้จะรู้แค่งูๆปลาๆ เสียทีก็หาช่างเข้าอู่ วิเคราะห์หาสาเหตุ รถป้ายแดง ซื้อแล้วสบายใจ รถมือสอง เท่ห์เลือกได้ แต่ไม่สบายใจ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:53:45

ความคิดเห็นที่ 12   ถ้ามันดีจริงเค้าก้อซื้อขับกันเกลื่อนถนนแล้วละครับ ถ้าอยากก้อลองดูครับไม่ได้ซื้อมาซ่อม อิอิอิ จากคุณ : ploynisa เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:55:34

ความคิดเห็นที่ 13 ขอตอบในฐานะคนบ้ารถอีกคนนึงนะ 1. ถามว่ากินน้ำมันไหม เข้ามาบอกตรง ๆ ว่ากินไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ความฟิตของเครื่อง การสั่นของเครื่องยนต์ในรถ BMW เก่า มันจะทำให้คุณใจสั่นว่าเครื่องกุจะเป็นไรมั๊ยว้า.....(ในราคา 4 แสน) 2. ถามเรื่องความปลอดภัยเรื่องการประกอบ อันนี้ไม่เถียงค่ะ รถยุโรปน่าจะมีการประกอบและการใช้วัสดุตัวถังที่ดี 3. มาฆ่าข้อ 2 คืออยากบอกว่าถ้าคนดวงจะตาย นั่งเครื่องลำละพันล้านยังตายเรย ประสาอะไรกะรถแค่ไม่กี่แสน 4. ค่าซ่อมบำรุงตลอดอายุขัยที่มันจะอยู่กับคุณล่ะคะ กระจกตกราง คุณต้องใช้ไหม เครื่องสั่นเป็นเจ้าเข้าคุณใจเสียไหม หรือว่าสักแต่ซื้อมาใช้คะ???  ถ้าสักแต่ซื้อมาใช้ไม่กะซ่อม(ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในรถทั้งสองประเภทนี้) คุณเลือกรถอะไรก็ได้ค่ะ 5. แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะไม่ซ่อม แล้วเวลาจ่ายค่าซ่อมคุณจะรู้ค่ะว่า......นรก.....มีจริง สำหรับรถBMW ปีเก่า ๆ หรือ รถญี่ปุ่นเน่า ๆ ราคาแค่ 4 แสน เวลาคุณควักเงินจ่ายคุณจะรู้ค่ะ 6. เดาว่าคุณคงเป็นวัยรุ่นและยังหางานทำเองไม่ได้ค่ะ ข้อหลังนี่ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ แค่สงสัยเฉย ๆ จากคุณ : ตุ้ยนุ้ยอินคาร์ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:56:00

ความคิดเห็นที่ 14 บีเอ็มสวยๆมือสอง ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่ม่ายสาวสวยที่บ้าของแบรนด์เนม จะเลี้ยงดูดูเธอได้ ต้องกระเป๋าหนักพอสมควร จากคุณ : BEETONG เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 10:56:55

ความคิดเห็นที่ 15 ออกตัวก่อนเลยนะครับว่าไม่ีค่อยมีความรู้เรื่อง E34 เลย แต่เคยมองๆไว้เหมือนกัน เพราะได้ optionเพียบโดยเฉพาะ BigNose แต่ติดที่ว่ารถมันคันใหญ่ และคนส่วนหนึ่งซื้อไปแล้วซักพักก็จะเปลี่ยนเครื่อง เนื่องด้วยจากค่าดูและ และอะไหล่ เมื่อก่อนผมก็มีความคิดเรื่องรถซีดานขนาดกลางในแง่ + และตอนนี้ก็ยัง + อยู่ คันแรกเป็น Peugeot405 Sri มือสองซื้อมา 220,000 เมื่อ 5 ปีก่อน ก่อนซื้อผมก็ยอมรับในเรื่องค่าใช้จ่ายๆแล้ว และผมต้องเดินทางไกลเป็นประจำ เลยอยากได้รถที่สมรรถนะดีหน่อย ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ เดินทางไกลไม่เมื่อย ราคาไม่แรงมาก เลยเลือกคันนี้ แต่รถ (ยุโรป) ส่วนมากพอถึงเวลาชิ้นส่วนมันมีอายุของมันครับ ไม่ว่าเราจะดูแลดียังไง อย่างดีก็แค่ยืดเวลาไปได้อีกหน่อย 405 ผมก็ใช้ไป ดูแลไป ซ่อมไป บูรณะไปเรื่อยๆ เรื่องช่วงล่างไม่ต้องพูดถึงซึ่งดีอยู่แล้ว เครื่องยนต์ก็ยังดีอยู่ ดูแลตามรอบ ปัญหาที่เจอส่วนมากเกี่ยวกับระบบไฟ ถ้าจะแก้ให้ขาดก็ต้องไล่สายใหม่ทั้งระบบ ตอนนี้ใช้ Ford Focus มือ 1 ยังไม่เจอปัญหาใดใด นอกจากค่างวดและค่าประกัน 555 ตอนนี้ความคิดเริ่มเปลี่ยนครับ เราต้องดูความต้องการและการใช้งานเป็นหลัก ถ้า "อยากได้" และ "ไม่เดือดร้อน" ซื้อเลยครับไม่ต้องหาเหตุผลอื่น แต่ถ้า "ใช้งาน" และ "สมเหตุสมผล" ก็ต้องมานั่งคิดกัน -ใช้งานแบบไหนเป็นหลัก   -ในเมือง   -ทางไกล -จำนวนผู้โดยสารและสัมพาระมากน้อยเพียงใด -ความสามารถในการดูแลรักษาและสถานที่ซ่อม ถ้าตอบคำถามเหล่านี้ได้คุณก็จะได้คำตอบ มีหลายคนซื้อเพราะความชอบ มีหลายคนซื้อเพราะหน้าตาทางสังคม มีหลายคนซื้อเพราะค่านิยม มีหลายคนซื้อเพราะอยากมีรถ (แต่ไม่ค่อยได้ใช้ คิดว่าคงได้ใช้ซักวัน) และมีอีกหลายคนซื้อเพราะมีเหตุผลรองรับ หลายๆคนซื้อ SUV ขนาดใหญ่ใช้่ในเมือง ขับคนเดียวเพราะคิดว่าเอาไว้ออกต่างจังหวัดด้วย ซึ่งจริงๆแล้วออกต่างจังหวัดปีนึงไม่ถึง 5ครั้ง ตอนนี้ผมเลยคิดว่า ถ้าจะซื้อคันใหม่ (อีก 5-10 ปีแหละครับ) ผมจะซื้อรถขนาดเล็ก (แต่ก็ต้องดูจำนวนคนในครอบครัวอีกที กะไว้ไม่เกิน 4 ) แต่ถ้าจะออกต่างจังหวัด ผมจะเช่ารถดีกว่า นานๆทีค่าเช่าวันละ 1500-2000 ดีกว่าเอารถคันใหญ่ๆ มาใช้ในชีวิตประจำวันโดยสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ทั้งค่าน้ำมัน ค่าภาษีรายปี ค่าประกัน ค่าดูและรักษา และค่าเสื่อม จากคุณ : yozzy เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:01:44

ความคิดเห็นที่ 16 มันมีข้อดี-เสีย ในแต่ละด้านน่ะครับ อยู่ที่คนซื้อจะเลือกแบบไหน ข้อดี รถมือ 2 ระดับสูงๆ  ความปลอดภัย การทรงตัว ความสะดวกสบาย กินขาดรถเล็กใหม่ๆ แน่นอน แต่ข้อเสียที่ต้องพิจารณรา คือ อย่างแรก   รถมือ 2  ดอกเบี้ยแพงมากกกก   ถ้าไม่มีเงินสด หรือเงินดาวน์เยอะๆ  จะเสียดายดอกมากๆ   ดอกเบี้ยรถมือ 2  ร้อยละ 7 - 10 กว่าๆมั้ง   ส่วนมือ 1 มีตั้งแต่ 0% ถึงแค่ 5% อย่างต่อมา   รถมือ 2 ก็คือมือ 2 มันผ่านการใช้งานมา  ย่อมต้องมีซ่อมบำรุงเร็วกว่า   รถใหม่ๆ  มีปัญหา เผลอๆ เคลมได้เกือบทุกชิ้น แทบไม่ต้องเสียเงิน ไม่นับวิ่งหาอู่ หาอะหลั่ย  จะเข้าศูนย์ก็ได้ แต่ก็แพงกว่าเข้าศูนย์รถญี่ปุ่นแน่ๆ ต่อมาก็ ค่าบำรุงรักษา   รถมือ 2 ถ้ารถยุโรปราคาสูง  ชิ้นส่วนที่เปลี่ยนก็สูงตาม รถญี่ปุ่นเล็กๆ เค้าวางตลาดมาสำหรับระดับล่าง ราคาอะหลั่ยเลยต้องถูกตาม ถ้าเรารับได้  ได้อย่าง เสียอย่าง  อยู่ที่เราเลือก จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:02:55

ความคิดเห็นที่ 17 อย่างนี้มันต้องลองครับ  จะได้รู้ว่าความจริงกับความฝันมันเป็นอย่างงัยยยย จากคุณ : หนุ่มเมืองเพ็ด เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:03:31

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบคุณคห.10นะครับ คนมีรถมาแล้วหรือไม่เคยมี ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการเลือกซื้อหรอกครับว่าจะเป็นมือ1หรือมือ2 คนบางคนที่ค่อยๆก้าวขึ้นมาจาก0 พอมีเงินนิดหน่อย เขาก็มองมือ2ไว้ก่อนล่ะครับ เพราะมือ1มันแพง หรือบางคนไม่อยากเป็นหนี้ อยากจะซื้อให้มันจบๆกันไปไวๆ ครั้งนึงผมขายรถกระบะไมตี้X ราคา1.5แสน ตอนนั้นผมสอบถามไฟแน็นซ์มาได้ว่าจะต้องใช้เงินประมาณ4หมื่นบาทในการออกรถ แล้วผมก็มาบอกกับคนที่สนใจซื้อ คนสนใจซื้อบอกว่า "โอ๊ย!ดาวน์ทีนึงใช้เงิน4หมื่นบาท ออกรถป้ายแดงดีกว่า" แค่นี้ก็พอบอกระดับสติความนึกคิดแล้วครับว่าเป็นอย่างไร รถกระบะมือ2 คันละ1.5แสน ค่าซ่อมให้ไปไม่เกิน3หมื่นบาท ใช้งานสบายๆยาวๆ ผ่อนไม่กี่เดือน เป็นไท ไม่ต้องส่งต่อ เก็บแต่เงิน เจียดเงินไว้ซ่อมบ้างเล็กๆน้อยๆ รถมือ1 ป้ายแดง ไม่ต้องซ่อม แต่ต้องคอยลุ้นว่าเราจะผ่อนได้นานแค่ไหน จบหรือเปล่า แค่ได้ยินคำว่า"ยึด" เป็นคำที่ไม่อยากได้ยินเลย เป็นคำไม่มงคลจริงๆ ซึ่งที่ผมกล่าวมา มันเกิดขึ้นกับผมเอง จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:04:02

ความคิดเห็นที่ 19 อยากจะกรี๊ดดดดดดดดดดดด bm นี่เป็นอะไรที่ไม่อยู่ในหัวเลย เพราะมีประสบการณ์ไม่ค่อยดี จากการใช้งานมาแล้ว แบบว่า อะไหล่แพงมาก จุกจิกมาก ถ้าจะซื้อมือสอง (คนที่ซื้อมือสองคิดว่าไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร ไม่ได้มีเงินเหลือใช้) คิดว่ารถญ๊่ปุ่น ดีกว่า เพราะว่า ใช้แล้วไม่จนลง จะได้เอาตังค์ไปทำอย่างอื่นบ้าง ไม่ใช่ลงทีรถอย่างเดียว ส่วนรถดีหรือไม่ อยู่ที่คนขับ ถึงรถดีแค่ไหนขับไม่ดีก็ตายได้เหมือนกัน จากคุณ : น้ำตาลเปรี้ยว vs มะนาวหวาน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:07:00

ความคิดเห็นที่ 20 อธิบายไปก็คงเข้าใจกันอยาก ต่างคนต่างมีความต้องการไม่เหมือนกัน แนะนำว่า ลองซื้อมาใช้เลย แล้วจะรู้ว่า มันต่างกันกับที่คุณคิดมาคนละขั้ว จากคุณ : kittipatr เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:08:04

ความคิดเห็นที่ 21   ผมไม่กล้าครับ บีเอ็มดับเบิลยู.. จากคุณ : ซ้ายน่องเหล็ก เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:11:10

ความคิดเห็นที่ 22 ใช่แล้ว ตามคุณ kittipatr ต้องลองซื้อมาใช้ๆแล้วติดใจ ชาตินี้มองหาแต่มือสองๆอยู่ร่ำไป แต่ถ้าซื้อมาแล้วรวนเรเกเรเกตุง ชาตินี้ไม่ขอซื้อรถมือสองอีกต่อไป แล้วคราวนี้ล่ะคุณจะอยู่ในกลุ่มไหน คิดซื้อรถมือสอง ขอให้ซื้อแต่รถที่ยอดนิยมในตลาดครับ อย่างBMWตัวนี้ ก็ใช่ มีใช้กันเยอะแยะ แต่ราคาที่ให้มา สูงไป ปี97ไม่น่าเกิน4.2แสน ถ้าคุณซื้อมา เกเรนักขายทิ้ง ก็ขายไม่ยาก เพราะมีคนสนใจซื้อต่อกันเพียบ Benz นี่ก็ง่ายนะ แต่ถ้าเป็นรถแปลกอย่างซีตรอง วอลโว่บางรุ่น แค่บอกขายก็เบือนหน้าหนี แต่ถ้าเป็นรถตลาด แค่บอกว่าBenz BMW คนได้ยินก็จะถามต่อ "ไหนๆ รุ่นไหน ปีอะไร" จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:14:20

ความคิดเห็นที่ 23 พ่อเพื่อนซื้อ BM รุ่นปี 1995 ซีรีย์ 5มาราคา 3แสนนิดๆ ตอนนี้ซ่อมไปมากกว่าราคาซื้อรถแล้ว จริงๆเราก็ชอบเคยคิดเหมือนกันว่าจะซื้อมือสองมาขับ แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าเพราะเรื่อของพ่อเพื่อนนี่ละเจ้าค่ะ จากคุณ : busad777 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:17:07

ความคิดเห็นที่ 24 รถมือสองคันแรกที่เคยซื้อ ตอนแรกกะเอา บีเอ็มมือสองคับ แต่ก็ลงด้วยฮอนด้า เพราะคุยกับที่บ้านไว้ว่า ถ้าจะเล่นยุโรป ควรเอามือหนึ่งไปเลยย คันต่อมาก็ยุโรปเลย จากคุณ : pick_nicky เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:28:31

ความคิดเห็นที่ 25 เพื่อนผมคนนึงซื้อมา E36 ปี94 ราคาเต้น 3แสนนิดๆ ออกรถใช้เงิน 7หมื่น ผ่อนเดือนละ 7พันกว่า เจอค่าซ่อมเข้าไปตอนนี้เป็นหนี้อยู่ร่วมแสน (เฉพาะค่าซ่อม) จากคุณ : บ้านน้อยซอย65 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:30:01

ความคิดเห็นที่ 26 แล้วก็จะโดนคำถามกลับมาว่า ... ตังค์ตั้งสามสี่แสน ทำไมไม่เอา Jazz หรือ Yaris ฟระ ? ------------------------------------------------------------------- เรื่องแบบนี้ เจ้าของทรัพย์ เป็นผู้ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวครับ เพราะ หากเป็นผม ตังค์เท่ากัน ผมก็ไม่ซื้อทั้ง BMVV / Jazz / Yaris หรอก ครับ ผมอาจจะเอาไปซื้อ ปิคอัพอายุ ๑๐ กว่าปีได้ ๒ คันทีเดียว เรื่องการเกาะถนน เรื่องรถมาจากยุโรปอะไรนั่น ผมไม่แคร์ แคร์อย่าง เดียวครับ ทนมือทนteenไหม พังยากไหม ใช้งานผิดประเภทได้เปล่า ถ้ามันถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่แล้วเราไม่เปลี่ยน ใช้งานได้อีกนาน ไหม อะไหล่แปลงง่ายเปล่า พวกนี้มากกว่าครับ หลายคนอาจจะอยากได้เก๋งดีๆ กันสะเทือนอิสระสี่ล้อ กลับกัน ผมอยาก ได้แบบคานแข็งสี่ล้อ สปริงไม่อยากได้ อยากได้แหนบ หรืออย่างน้อยๆ เป็นเทอร์ชั่นบาร์ก็ยังดี ลดปริมาณลูกหมากให้น้อยสุด รุ่นไหนต้องใช้ลูก หมากกันโคลงก็ถือเป็นจุดหักคะแนนสำหรับผมแล้ว มันต้องยึดกันโคลง เข้ากับช่วงล่าง โดยใช้แค่เหล็กเสียบลูกชิ้น กับลูกยางไม่กี่ลูก เอาให้ถูก ทน พังยาก หรือ ไม่มีอะไรให้พังไว้ก่อน และนั่นคือสาเหตุที่ คนแบบผม ไม่ซื้อ BMVV มาใช้ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:46:34

ความคิดเห็นที่ 27 E34 สวยครับ ใหญ่ดี ขับหลังด้วย ผมก็ชอบ แล้วเอามาวาง J ไปซะ สบายไปอีกนาน จากคุณ : ขอบคุณโต๊ะสี่ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:50:15

ความคิดเห็นที่ 28 เข็ดแล้วครับ กับรถยี่ห้อ BMW ต่อให้มีคนมาให้ฟรี ก็ไม่เอา ถ้าเอามากกองไว้ตรงหน้าให้ฟรีๆ ระหว่าง BMW มือหนึ่ง กับ HONDA มือสอง ผมก็เลือก HONDA ครับ ขนาดเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เอาเข้าซ่อมแต่ละครั้ง ยังต้องเสียเป็นหลักหมื่น แล้วตอนนี้จะขนาดไหน จากคุณ : Bug Gerd เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:59:30

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้ E34 มา มากกว่า 7 ปีแล้ว ยังชอบและรักมันตั้งแต่แรก จริงอยู่ค่าซ่อมอาจจะแพงกว่า รถญี่ปุ่น แต่มันก็ทนกว่า คงแล้วแต่ความชอบครับ เรื่องการบำรุงรักษา ตอนนี้มีอู่ BM เยอะมาก ที่ทำแล้วจบสบายกระเป๋าด้วย ลองแวะไปที่ www.bmwe34club.com สิครับ จากคุณ : นาย T เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 12:15:07

ความคิดเห็นที่ 30 อ้างอิง คห.# 3 "และถ้าผมจะถามกลับกันว่า.. ทำไมคุณถึงไม่ชอบ Toyota หรือ Honda บ้างล่ะครับ ?" ตอบ : ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้เกลียดครับ พอดีฝังใจเรื่องความปลอดภัยกับรถยุโรป ที่ผมเชียร์ ก็เพราะว่า 1. สมรรถนะ 2. การเกาะถนน ผมขับ Vigo กลับบ้านต่างจังหวัดประมาณ 150km/h ผมก็รู้สึกกลัวๆนะ มันเบาๆโครงเครงไงไม่รู้(ความรู้สึก ปลิว) แต่แล้ว bmw ขับแซงมาอย่างรวดเร็ว ได้แต่มองท้าย แล้วพร้อมเข้าโค้งที่อยู่ข้างหน้าอย่างสวยงามและดูมั่นคง (คิดในใจว่า โหมัน...) 3. ความปลอดภัยครับ อย่างที่บอกครับ จากหนักให้เป็นเบา จากที่เห็นๆอุบัติเหตุ ตามรูป ตามข่าว ตาม forwordmail รถที่เห็นมีแต่ฝาข้างครอบไว้เฉยๆอะ ผมเห็นมอเตอร์ไซค์ออกมาจากซอย แล้วชนด้านข้าง ตรงใกล้ๆท้ายไปเี้ลี้ยว แล้วฝาข้างรถคันนั้นมันหลุดออกมาทั้งยวงเลยอะ(เหมือนผู้หญิงถอดกระโปรงแล้วมากองที่พื้น) 4.ความสวยงามและเกรดรถ อันนี้แล้วแต่มุมมอง ไปจอดกินข้าวก็คงจะบอกรสนิยมได้ละ (ข้อ 1-4 ความรู้สึกส่วนตัวทั้งนั้นครับ...) อ้างอิง คห.# 10 "จขกท ไม่เคยมีรถใช่มั้ยครับ" ตอบ : ใช่ครับ (เคยขับแต่ของ พี่ชาย(honda city) พี่สาว(isuzu dmax)) และก็ของญาติๆเวลากลับบ้าน เช่น vios และก็ vigo "ปล.ซื้อรถมาเป็นพาหนะครับ ไม่ใช่ภาระ" <<-- อันนี้โดนใจมากครับ อ้างอิง คห. #13 "6. เดาว่าคุณคงเป็นวัยรุ่นและยังหางานทำเองไม่ได้ค่ะ ข้อหลังนี่ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ แค่สงสัยเฉย ๆ " ตอบ : สงสัยได้ครับ แต่ "ยังหางานทำเองไม่ได้ค่ะ" <<-- ฟังแล้ว...รู้สึกไงไม่รู้สะเทือนใจนิดหนึ่ง..แต่ไม่ว่ากันครับ อ้างอิง คห.#15 ตอบ : เอามาใช้ในกรุงเทพครับ ขับมาทำงาน(สำหรับผม) อ้างอิง คห.#26 ถูกตามเหตุผลของคุณครับ จุดประสงค์คนละอย่าง แต่ของผมไม่ได้จะเอาไปบรรทุกผลไม้มาขายครับ เอาไว้ขับมาทำงาน แก้ไข สรุปท้าย สรุป จากที่อ่านๆมา เรื่องหลักๆ คือ "ค่าซ่อม และค่าอะไหล่ใช่ไหมครับ?" พอนึกถึงว่า "มือสอง" ต้องนึกตามไปอีกว่า กี่ปีหว่า? ใช้มากี่เจ้าหว่า? ใช้มาแบบไหนมั่งหว่า? สิ้นส่วนตรงไหนจะเสียมั่งหว่า? มีอะไรต้องเปลี่ยนมั่งหว่า? ใช่ไหมครับ? ฯลฯ และที่เลือกไม่เลือก ก็เหตุผลส่วนตัวและจุดประสงค์การใช้งานแต่ละคนไ่ม่เหมือนกัน ความจำเป็นและความคุ้มค่าในการเอาออกมาใช้งาน ถ้าผมมีไร่ อรุ่นหรือลำใย สัก 100 ไร่ ผมก็คงไม่เอาหรอก เอา 6 ล้อหรือ 10 ล้อดีกว่า ใช่ไหมครับบ ขอบคุณที่ให้ข้อมูลทุกท่านครับ..... แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 52 13:20:56 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 52 12:56:31 จากคุณ : Dusk_ManS เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 12:20:11

ความคิดเห็นที่ 31   ผมเห็นกระทู้แบบนี้บ่อยนะครับ เหตุผลผมว่าน่าจะมีดังนี้ 1. บางคนขอให้เป็นรถใหม่ออกจากศูนย์ไว้อย่างเดียว 2. บางคนต้องเป็นรถรุ่นใหม่เสมอ ตกรุ่นเมื่อไหร่ต้องเปลี่ยน 3. บางคนต้องเป็นรถที่คุ้มค่า ไม่ว่ามือหนึ่งหรือมือสอง 4. บางคนต้องเป็นรถยุโรปเท่านั้น มือสองก็ไม่เป็นไร 5. อื่น ๆ อีกมากมาย ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่ารถมือสองไม่ดี เพราะจะมีปัญหาเรื่องซ่อมตามหลัง แต่ผมมีเหตุจำเป็นเรื่องเงินที่ต้องซื้อรถมือสองมาใช้ครับ ซื้อมาแล้วผมใช้วิธีการ เปลี่ยนอะไหล่ทุกตัวที่อาการเริ่มจะเสีย ซื้อรถมา 330,000 ซ่อมไปไม่ถึง 30,000 (รถกระบะ)จนบัดนี้ 3 ปีกว่าแล้ว ยังขับคล้ายรถใหม่อยู่เลย เลยคิดว่าต่อไปถ้าซื้ออีก ผมจะซื้อรถมือสองเพราะมันคุ้มค่ามาก แต่ปัญหาอย่างเดียวที่ผมเจอคือค่าน้ำมันครับ ขนาดรถผมกิน 15 โล/ลิตร โดย ประมาณนะเนี่ย นี่แหละเป็นเหตุผลเดียวที่ผมไม่มองรถยุโรป เรื่องอะไหล่แพง ผมไม่ค่อยกังวล เพราะถ้ารู้จักใช้งาน รู้จักหาอะไหล่เราก็ลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ เยอะครับ อย่างไรก็ตามต่างคนต่างความคิดครับ จากคุณ : DASH2537 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 12:21:33 A:112.142.243.44 X:

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนมากคนที่ซื้อรถมือ2 จะมีงบจำกัด ถ้าซื้อรถมาแล้วใช้ไม่เท่าไรก็เสีย เจอค่าซ่อมรถกับค่าเสียเวลารถเข้าอู่ เงินเก็บก็หมดไปกับซื้อรถแล้ว คงเครียดน่าดู จากคุณ : ส/305 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 12:28:37

ความคิดเห็นที่ 33 ก็ไม่ลองซื้อมาใช้ดูเองซิจะได้รู้ ไม่ลองไม่รู้  แล้วจะได้รู้เอง  ไม่ต้องมาโพสต์ถามให้เสียเวลา ว่าทำไมไม่ซื้อ BMW และ Volvo มือสองกัน จากคุณ : s.kaya เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 12:48:51

ความคิดเห็นที่ 34 ชวนสงสัยแต่ละคน ทำไมค่าใช้จ่ายไปกับBMWแพงจัง ตั้งแต่ผมซื้อรถมาใช้เอง ไม่นับถึงที่บ้านใช้ ผมใช้BMWมือสองมาแล้ว2คัน เป็นE30 กับE34ที่ใช้ในปัจจุบัน ตอนที่ใช้E30 318I ซื้อมาตอนปี2002 รถปี1990 อายุรถ12ปี ซื้อมา1.5แสนซ่อมไปแค่ปั๊มลมเบรก 2พันกว่าบาท เท่านั้นเอง ใช้มาได้ซักปีกว่าก็ขายออกไป1.4แสน ส่วนE34 525I ซื้อมาเมื่อปีที่แล้ว2008 รถปี1996 อายุรถ12ปี ซื้อมา3.7แสนซ่อมบูชปีกนก เจียร์จาน เปลี่ยนผ้าเบรก ทำความสะอาดลิ้นปีกผีเสื้อ ซื้อม่านหลังใหม่ เพราะเจ้าของเก่าถอดออก หุ้มหนังใหม่ เพราะรู้สึกว่ามันเก่าเปลี่ยนโช้ก4ตัว เมื่อ2วันมานี้เอง   คิดโดยรวม นับตั้งแต่ซื้อมาเมื่อปีที่แล้ว จนถึงบัดนี้ ใช้ไปปีครึ่ง ค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จก็ประมาณ3หมื่นบาทนิดๆ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 12:57:31

ความคิดเห็นที่ 35   ขอให้ได้รถที่ถูกใจนะครับ และขอให้ได้รถที่ดีๆ อยู่กับคุณไปนานๆครับ ส่วนผมอ่ะ เหตุผลที่ผมกลัวมือสองเพราะกลัวว่าจะโดนย้อมแมวอ่ะครับ มีเพียงเท่านี้จริงๆ แหะๆ จากคุณ : unknownn_smp เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 13:02:30

ความคิดเห็นที่ 36 # 33 ไม่มีเงินซื้อครับ เลยไม่ได้ซื้อ ถามความคิดเห็นส่วนใหญ่อะครับ พอดีผมไม่รู้ เลยสงสัย จะได้เห็นข้อเสียของมัน เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น และจะได้เป็นข้อมูลเชิงความรู้ครับ ขอโทษคุณ s.kaya ด้วยครับ ถ้าคุณไม่พอใจ จากคุณ : Dusk_ManS เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 13:05:59

ความคิดเห็นที่ 37 ใจจริงก็ชอบนะ แต่ได้ยินเรื่องค่าซ่อมและอะไหล่แล้ว ขอใช้รถญี่ปุ่นต่อดีกว่า..55 จากคุณ : คนขับคลิ๊ก (noserius) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 13:16:31

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่มีปัญญา ไปจ่ายค่าบำรุง รักษารถยุโรป ครับ ผมเคยใช้ Ford Mondeo ปี 96 ยอมรับว่า ระบบ การขับขี่ ปลอดภัย ช่วง่ลางดี สมรรถนะ เยี่ยม  แต่ เวลาเสียที ละ คุณเอ๋ย อะไหล่แต่ละตัว ราคามหาโหดทั้งนั้น จากคุณ : ว่างงาน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 13:32:27

ความคิดเห็นที่ 39   การซื้อรถมันมีหลายปัจจัย เช่นถ้าคุณซื้อมาแค่ไปกลับบ้านที่ทำงานก็ใช้รถ ขนาดกลางทั่วๆไป แต่..ถ้าคุณต้องทำธุรกิจที่ภาพลักษณต้องดูดีเพื่อเหตุผล ทางธุรกิจก็อาจต้องใช้ s280 เวอรชั่นw140 ถึงแม้ว่ารถจะปีเก่าและค่าซ่อมแพงมากก็ตามแต่มันก็คุ้มกับสิ่งที่ตามมา ....อีกอย่างที่เราชอบพูดกันว่ารถยุโรปอะหลั่ยแพง รถญี่ปุ่นอะหลั่ยถูกทำไมถึงเป็นอย่างนั้น! ....ข้อสังเกตอีกอย่างไอ้รถยุโรปป้ายแดงหรือปีใหม่ๆมักไม่มีปัญหาอะไรแต่พอปีเก่าๆปุ๊ปมักมีปัญหาสาเหตุไม่ได้เกิดจากรถ...แต่เกิดจากการใช้งานรถ ใหม่มีรับประกันแต่พอหมดประกันเวลารถมีปัญหามักไม่ซ่อมเพราะอะหลั่ย แพงจึงทนใช้ไปเรื่อยๆจนมันลามไปยังจุดอื่นๆทีนี้พอซ่อมทีก็อานซิครับแถม ปัญหาไม่จบง่ายๆด้วย ส่วนช่างก็มีส่วนพอไปเจอช่างฟันเอาแถมฝีมื่อก็ไม่ใด้เรื่องอีกต่างหากทีนี้ก็เรื่องยาวกลายเป็นรถห่วยซะงั้น จะยกตัวอย่างให้ดู รถvolvo 940มือสองราคาแค่แสนกว่าถึงสองแสนคนมีรายได้ไม่มากก็ซื้อได้ แต่.....ค่าซ่อมบำรุงล่ะจริงๆถ้าคุณเปลี่ยนชิ้นส่วนตามกำหนดดูแลตามระยะก็ ไม่มีป้ญหาเปลี่ยนอะหลั่ยแท้ถึงจะแพงแต่เปลี่ยนทีเดียวแล้วลืมเลยแต่.....ก็ ไอ้แพงนี่ล่ะคนเลยไม่เปลี่ยนชั่งมันทนใช้ไปก่อนทีนี้ก็เป็นเรื่องซิ พอคน เห็นว่ามันจุกจิกก็ขายทิ้งแถมบ่นอีกกว่ารถไม่ดี เวลามีคนมาซื้อต่อเจอรถคัน นี้เข้าก็ซวยซิครับ...รถอะไรจุกจิกซ่อมก็ไม่หายซะทีอะหลั่ยแพงอีก จากคุณ : ยาหม่อง เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 13:40:58 A:58.136.229.55 X:

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่ได้ขับ E34 แต่ขับ E 36 ปี 99 ซื้อมาปีที่แล้วสี่แสนนิดๆ ตั้งแต่ซื้อมาซ่อมไปหลายอย่างเหมือนกัน ซ่อมกระจกไฟฟ้า ล้างลิ้นผีเสื้อ เปลี่ยนไดร์ เปลี่ยนไฟหน้าไปหลอด เปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน ล้างแอร์ เปลี่ยนยาง เปลี่ยนผ้าเบรก เจียรจาน มีปัญหาส่วนใหญ่ระบบไฟครับ ผมทำให้หายโดยไล่ระบบไฟทั้หมดใหม่ หมดนี้ไปประมาณ 3 หมื่นกว่าๆ ปัจจุบันนี้ ก้อขับปกติ ถามว่าผมลำบากมากไหมในการซ่อม ก็ลำบากครับ แต่ลองมานั่งคำนวณดู กับสิ่งที่ซื้อมา ok รับได้ชอบๆคับชอบ BM บางคนบ่นแพงรถยุโรป ค่าน้ำมัน แต่คนรัก BM อาจจะบ่นน้อยหน่อยเพราะใจมันรัก เวลาหากรถเสีย ผมมักจะลงมือซ่อมเอง เช่น ถ่านของเหลว อันนี้ถ่ายเองเป็น กระจกไฟฟ้า พอทำได้ (ถ้ามีอะไหล่) ส่วนซ่อมเครื่องอันนี้ คนรัก BM มักจะรู้ว่าซ่อมอู่ไหนดีถูก อะไหล่ซื้อที่ไหนไม่โดนฟัน แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 52 14:00:20 จากคุณ : pumee_23 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 13:58:22

ความคิดเห็นที่ 41 ท่าจะยาว.... ผมรักแจ๊สครับ มือหนึ่งป้ายแดงขับมาห้าปียังไม่มีเสียมีซ่อม คิดวว่าบีเอมมือสอง ขับไปห้าปี.....ไม่อยากจะคิด จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 14:00:11

ความคิดเห็นที่ 42 ซื้อรถมาใช้-ไม่ได้ไว้ชน ถ้าชนก็จนใจ ถ้าชนหนักๆ bm ก็ไม่เหลือ รถญี่ปุ่นเป็นรถตลาดซื้อง่ายขายคล่อง  รถยุโรป เต้นซื้อมาคันนึงจอดทิ้งเป็นปี 2 ปี บางคันเป็น 10 ปี ลองเข้าเต้นหาดู รถยุโรปรถมือสอง 3-5 แสนก็เป็นรถที่อายุมากๆแล้ว คงไม่ต่ำกว่า 10 ปี และรถอายุขนาดนี้ ซื้อมาแม้ไม่ต้องซ่อมทุกเดือนแต่ยังไงก็ต้องซ่อมอยู่แล้ว เพราะว่าคงมีเสียแน่นอน อายุมากค่าบำรุงรักษายิ่งมาก ไปเที่ยวต่างจังหวัดรถเสีย อะไหล่พัง ต้องการกลับบ้านด่วนศูนย์แถวนั้นจะมีไหม จะมีร้านแถวๆนั้นมีอะไหล่ไม้ ซ่อมได้ไม้ ปล. ถือเป็นอีกความเห็นนึ่งที่แตกต่าง จากคุณ : darkmetter เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 14:15:03

ความคิดเห็นที่ 43 สงสัยพี่เคียวห่วยจะโชคดีครับ ที่ได้รถดี คนเราถ้าจะโชคร้ายเสียค่าซ่อม บูรณะกับรถมือสอง ยังไง ต่อให้ซื้อรถใหม่ป้ายแดงก็อาจจะซ่อมไม่รู้จักจบ พี่ผมไปถอย 124 ปีแรกขับดีไม่เกเรเลย ปีถัดมา มันพร้อมใจกันเสีย ทั้งลูกหมาก โช้ค แท่นเครื่อง แต่อย่างที่หลายคนบอก ถ้าเรารู้จักอู่ก็ไม่แพงครับ ซ่อมถูกกว่า รถญี่ปุ่นใหม่ๆคันละล้านอีก จากคุณ : เบิ้ม99 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 14:43:32

ความคิดเห็นที่ 44 รถมันก้อผุเหมือนกัน จะเถียงกันทำไม จากคุณ : axelakkorn เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 14:45:43

ความคิดเห็นที่ 45 รถปีเยอะๆ ถ้าได้แบบเจ้าของเก่าใช้แบบรักษา เปลี่ยนอะไหล่หรือดูแลตามอายุการใช้งานมาตลอดก่อนขาย ซื้อมาราคานั้นแล้วไม่ต้องมาตามซ่อมตามเก็บ ก็สบายไปครับ แต่ปัญหาคือเราจะโชคดีได้รถแบบที่ว่ามาหรือเปล่าครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เตรียมเงินก้อน สำหรับตามเก็บ ไปๆมาๆจาก 4แสนกว่า ก็จะเป็น 5แสนได้ครับ บางคนที่ซื้อรถใหม่ เค้ายอมเพิ่มเงินเพื่อความสบายใจ อย่างน้อยก็น่าจะไม่ต้องเสียเงินก้อนซ่อมไปอีก 5ปีขึ้นไปครับ จากคุณ : 4G63T_CK2 (4G63T_CK2) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 14:53:13

ความคิดเห็นที่ 46 รถใหม่ป้ายแดงมันไม่จุกจิกเท่ารถเก่ามือสองครับ รถป้ายแดง 3 -4 ปีแรกคุณเติมน้ำมันกับเข้าศูนย์เช็คระยะอย่างเดียวครับ จากคุณ : DUNGDING เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 15:01:47

ความคิดเห็นที่ 47 ส่วนตัวใช้ BMW E46 มา 7-8 ปีได้แล้วตั้งแต่ป้ายแดงก็เปลี่ยนพวกช่วงล่างด้านหน้าไปชุดเดียวเองไปประมาณ 2-3 หมื่นเพราะซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนเอง ศูนย์ตี 7 หมื่น เหอๆ นอกนั้นก็มีเปลี่ยนตามปกติที่ต้องบำรุงรักษา ก็ไม่เห็นจุกจิกอย่างที่ว่ากัน ก็เลยงงที่ว่าจุกจิกกันเพราะซื้อมือ2กันมาเหรอครับ หรือ ตั้งแต่มือหนึ่งเลย แล้วที่ว่าจุกจิกนี่เป็นอะไร? อยากรู้น่ะครับ เพราะเคยเจอบางคนบอก bmw นี่จุกจิกมากไม่กล้าใช้ เลยถามเค้าว่าจุกจิกอะไร ตรงไหน เค้าบอกฟังอื่นมาอีกที แป่ววว อีกกรณีที่ว่าจุกจิกเพราะซื้อรถมี 2 มาแล้วเจ้าของเก่าอาจจะยังไม่ได้บำรุงรักษาหรือเปล่า อะไรที่ควรเปลี่ยนก็ยังไม่ได้เปลี่ยน แล้วเจ้าของใหม่ต้องมานั่งเปลี่ยน เลยเหมาว่า bmw จุกจิก อย่างนี้เหรือเปล่า หรือ ซื้อมือสองมาเจอรถที่มีปัญหาเลยต้องมานั่งซ่อม เลยเหมารวมว่า bmw ต้องจุกจิกทุกคัน? จากคุณ : คุณชาย_สูตรเข้มข้น เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 15:17:04

ความคิดเห็นที่ 48   ไม่ไหวมันมือสองนะพี่ ไม่รู้ว่าเจ้าของมันทำอะไรไว้บ้าง อย่างไอ้ บีเอ็ม เพื่อนผมอยู่คน ไอ้นั่นเที่ยวผับเที่ยวบาร์ ถ้าไม่นับบันทุกเพื่อนบันทุกเด็ก ขี้เมาอวกแตกอวกแตนเลอะเทอะในรถเป็นประจำแล้ว มันทั้งรับเด็กบาร์ เด็กผับ ลูกเมียชาวบ้านไปเล่นรถผีสิงที่ไหนก็ไม่รู้อีก แล้วนึกถึงตอนเมาขาดพาสาวประเภทสองขึ้นรถนะพี่ เวลาผมขึ้นรถมันนี่ มือไม้ยังไม่กล้าไปจับอะไรเปะปะเลยครับ เดี๋ยวเอาไปเคะจมูก หรือลูบหัวนี่พระเสื่อมแย่เลย แค่นึกภาพที่มันใช้รถนี่ผมยังผะอืดผะอมแล้วครับ ใครได้รถมันไปคงต้องพาเที่ยวรถน้ำมนต์ตามวัดทั่วไทยหละครับ จากคุณ : 555 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 15:17:25 A:116.58.231.242 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 49 ในเรื่องความปลอดภัย ผมว่า ก็ ไม่ได้ แตกต่าง กันมากมาย นิครับ ผมไม่ดู หรอก ครับ ว่า ตัวถัง ประกบกี่ชั้น ? ผมดู ว่า frame รถ ออกแบบมา รับแรงยังงัย ขนาดไหน ? ผลทดสอบการชน เป็นอย่างไร? เรื่องเกาะถนน ใน ระดับ ไม่เกิน 150 กม./ชม. ไม่ต่างกัน ครับ BMW ใน ระดับ 150-230 กม./ชม. ขึ้น จะยังok กว่า แต่..........ผมคงไม่ขับขนาดนั้น ตลอดเวลา อะดิ ครับ  เลยไม่รู้จะเอามาทำไม จากคุณ : ชัยพร (c_sujjitporn) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 15:18:42

ความคิดเห็นที่ 50 ตอนที่ผมซื้อW124 วันแรกเลยผมนำเข้าศูนย์Benz ลิซท์รายการออกมาเป็นหางว่าว ฟังราคาค่าบูรณะแล้วแทบลมจับ 1.5แสนบาท ทั้งพ่อทั้งพี่บอกว่าขายเหอะ แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นครับ รู้รายการแล้วว่าต้องทำอะไร ผมนำเข้าอู่นอก ซ่อมไป เบ็ดเสร็จ ทั้งโอเวอร์ฮอลล์เกียร์เปลี่ยนหม้อน้ำใหม่1ลูก(นอกรายการ)จบอยู่ที่6หมื่นบาท ลงแม็ก17อีกชุด ก็หมดไปอีก3หมื่นบาท จับโหลดก็หมดไปอีก2.5หมื่น ติดชุดเครื่องเสียง ทีวีอีก1.3หมื่น งานนี้มีแต่เสียตังค์ค่าแต่ง ซึ่งรถคันนี้ถ้าซื้อรถมือ1ป้ายแดงญี่ปุ่นก็ได้วีออสคันนึง จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 15:30:15

ความคิดเห็นที่ 51 3-4 แสน ยังซื้อ Jazz หรือ Yaris ไม่ได้เลยครับ จากคุณ : sLiimFit เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 15:44:38

ความคิดเห็นที่ 52 เราก็เลือกรถญี่ปุ่นค่ะ ในราคานั้น เพิ่มอีกนิดหน่อย ได้รถใหม่กิ๊บๆ แต่ในวงเงินนั้นถ้าอยากขับ บีเอ็ม ก็ได้รถมือสองแน่ๆ เก่าแค่ไหน คนเดิมดูแลมาดีแค่ไหน มีปัญหาอะไรมามั่งแล้ว ไม่อยากมานั่งปวดหัวค่าซ่อมก่อนได้ใช้ รถใหม่ ใช้ 5 ปี ก็ยังเป็นรถ 5 ปี รถเก่าซื้อ กี่ปี +เวลาที่ใช้อีก ไม่รู้เป็นสิบกว่าเท่าไหร่ จากคุณ : The eye of earth เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 15:47:58

ความคิดเห็นที่ 53 ระหว่าง BMW = Bringt mich ins Werkstatt = พาฉันไปอู่ซ่อมรถที กับ BMW = Beyerische misst Wagen = รถที่ผิดพลาดของชาวไบเออร์ เลือกสัก 1 อย่างครับ อิอิอิ รถยุโรบมาขับในเอเซีย ยังๆๆก็สู้รถที่ผลิตเพื่อใช้ในเอเซียไม่ได้ ผมคิดของผมคนเดียวนะคนอื่นไม่รู้ - -* จากคุณ : Cocoa_za เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 16:04:53

ความคิดเห็นที่ 54 ว่าก็ว่าเถอะนะ รถมือสองที่หลายคนไม่อยากมอง ดูหมิ่นดูแคลน แต่มันก็สร้างฐานะให้กับคนมาแล้ว ไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่เหมือนกันนะครับ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 16:05:23

ความคิดเห็นที่ 55   ถ้า จขกท. สนใจ BMW แนะนำให้เข้าไปในเวปไทยของรุ่นนั้นๆครับ แล้วจะรู้ว่า รถยี่ห้อนี้มันมีสเน่ห์ในตัวของมันเองขนาดใหน ผมก็ใช้ BMW อยู่ และรถคันต่อๆไปของผมก้อจะเป็น BMW ครับ จากคุณ : architect unp เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 16:22:15

ความคิดเห็นที่ 56 มีเงินซะขนาดนี้   ใครจะอยากได้ของมือ 2 จากคุณ : J J (yingtanarak) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 16:32:06

ความคิดเห็นที่ 57 แล้วแต่มุมมองนะครับ -- ผมเอง มีประสบการณ์กับรถคันเก่า แม้จะไม่ใช่รถยุโรป แต่ก็เป็น รถนำเข้าราคาสูง (ในสมัยสิบกว่าปีก่อน) ใช้มาตั้งแต่ป้ายแดงด้วย พอรถเริ่มอายุเยอะ ก็เริ่มซ่อมจุกจิก แล้วค่าอะไหล่นี่สุดๆล่ะครับ -- ผมเป็นประเภทซ่อมอู่ข้างนอกไม่เป็น อะไหล่ต้องของใหม่ ต้องของแท้ทุกชิ้นน่ะครับ ทำใจไม่ได้ ถ้าต้องใช้อะไหล่เทียมหรือมือสอง น่ะครับ -- ก็เลยเป็นที่มาว่า ทำไมถึงยอมขายรถคันนั้นทิ้ง แล้วเปลี่ยนมาใช้รถใหม่ป้ายแดง ทั้งๆที่รถใหม่ป้ายแดง สมรรถนะหลายๆอย่างสู้รถคันเก่าไม่ได้เลยครับ -- อีกอย่าง รถคันเก่าวิ่งเดือนนึงพันกว่ากม. แต่ต้องมีรายการเข้าศูนย์ไปซ่อมนู่น ทำนี่ เดือนละครั้ง ครั้งนึงก็หลายพัน แถมยังค่าน้ำมันอีก ในขณะที่คันใหม่ หมื่นกว่ากม.ภายในไม่กี่เดือน ไม่ต้องวิ่งเข้าศูนย์เลยครับ ตามระยะแค่นั้นเอง ค่าน้ำมันก็ถูกกว่าเกินครึ่งน่ะครับ จากคุณ : เด็กบูรพา เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 16:37:52

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่มีเวลามานั่งหาอะไหล่ แค่มือ 1 ไปศูนย์ทุก 6 เดือน ยังขี้เกียจเลยไปเพราะจำยอมหรอกนะ คนที่ชอบเค้าก็ชอบส่วนตัวจริงๆนะ เห็นที่บ.มี 2 คน BMW คัน เบนซ์คัน ซ่อมไม่เลิกขนาดเพิ่งออกมาจากอู่ไดร์ชาร์จพังอีกแหละ แล้วเมื่อไรจะขับอย่างมีความสุข แต่คิดว่าเค้าต้องชอบมากๆถึงได้ซื้อมาขับไปซ่อมไปแบบนี้  แต่เคยเห็นเค้าสุขเหมือนกันตอนทำสีเสร็จหาอะไหล่แท้ๆได้ ยิ้มทั้งวัน ชวนเราไปดูเราก็เออๆออๆไปด้วย ไม่ได้รู้เรื่องหรอก จากคุณ : ไอศครีมกะทิ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 17:04:22

ความคิดเห็นที่ 59 คนเรามีเหตุผลไม่เหมือนกันหรอกครับ ในการซื้อรถซักคัน ไม่มีใครผิด-ถูก จากคุณ : เจ๋ง เจได เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 17:11:31

ความคิดเห็นที่ 60 กระทู้ HOT +++ จากคุณ : pumee_23 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 17:42:09

ความคิดเห็นที่ 61 สำหรับเรานะ  ถ้าต้องออก BMW มือสองในราคาเท่ากับ Jazz หรือ yaris มือหนึ่ง เราก็เลือกมือหนึ่งอ่ะ  เพราะเราสู้ค่า Maintenance ของ BMW ไม่ไหวอ่ะ อะไหล่ทุกอย่าง  อย่างน้อยที่สุดแพงกว่ารถญี่ปุ่น 2 เท่าอ่ะ ขับ Jazz หรือ yaris สบายกระเป๋าตังค์กว่าเยอะ คิดยาวๆ ค่ะ ซื้อรถคันหนึ่งไม่ใช่ซื้อมาแล้วก็จบ  ค่าดูแลรักษาเขาตามมาอีกเพียบ ^___^ จากคุณ : มดสีเพลิง เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 17:59:04

ความคิดเห็นที่ 62 ผมว่า ซื้อรถเพื่อมาใช้ขับเดินทาง ไปไหนมาไหน ไม่ใช่ซื้อมาซ่อม ซื้อมาจอดอู่ ถ้ามีรถอยู่แล้ว และอยากมีอีกคัน หรือซื้อเพิ่ม และรับได้กับค่าใช้จ่ายการดูแลรักษาในแต่ละปีที่เพิ่มขึ้น ก้อจัดได้ครับ จากคุณ : ต้นes เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 18:08:27

ความคิดเห็นที่ 63   ใช่ครับ อยู่ที่ความต้องการ ของคนใช้ครับ ว่าต้องการอะไร -ประหยัดน้ำมัน -ความปลอดภัย -ความคล่องตัว -ความน่าเชื่อถือ จากคุณ : nut เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 18:25:48 A:58.8.22.45 X: TicketID:223392

ความคิดเห็นที่ 64 jazz มือ 1 ซื้อ BMW SERIES 5 525i E34 มือ  2 ได้ 1 คัน ิbmw BMW SERIES 5 525i E34  มือ 2 ซื้อ accord ท้ายก้อนเดียวได้ 2 คัน accord ท้ายก้อนเดียวซื้อ honda wave ได้ 10 คัน honda wave 10 คัน ซื้อจักรยานเสือภูเขาได้ 40 คัน จักรยานเสือภูเขา 40 คัน เที่ยวโรงงานรหัส S ได้ 100 ครั้ง จากคุณ : เจ้าตัวยุ่ง_Aoe เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 18:31:57

ความคิดเห็นที่ 65 ผมคนนึงแหล่ะจะวัดซื้อรถมือสอง  เล็งw124สภาพเดิมๆอยู่  เอามาใช้เป็นคันสำรอง  4แสนกว่าๆ  มีงบบูรณะแลพเผื่อซ่อมอีก2แสน  แค่นี้แจ่มแล้ว!!! จากคุณ : ซูม เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 18:54:54

ความคิดเห็นที่ 66 กลัวซ่อมพวกระบบอิเล็กทรอนิค ไม่ไหวมั้ง จากคุณ : เจ้าชายไม่วิเศษ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 18:58:22

ความคิดเห็นที่ 67 ซื้อรถมือสอง ซื้อความบกพร่องของคนอื่น ยอมซื้อรถเล็ก ๆ ราคาไม่แพง แต่เป็นป้ายแดงดีกว่าค่ะ จากคุณ : TsuTaYa เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 19:01:30

ความคิดเห็นที่ 68 ซ่อม หนัก แถม แดร๊ก น้ำมันอีกตะหาก นะ รถยุโรป มือสอง เนี้ย ไม่งั้น รถยุโรป ราคา ล้านกว่าๆ พอเป็น มือสอง ปั๊บ มันจะเหลือ 3 แสน ได้ไง .... ถ้ามีเงิน แค่ 3-4 แสน แถม เงินเดือนน้อย ไม่ได้แบมือ ขอพ่อ ขอแม่ ผม คงวางแผน ให้ดี....อยากได้ ก็คงอยาก แต่ คิดไปคิด มา คงหา รถที่ ขับ ไปใหนมาใหน สบาย กาย สบายใจดีกว่า....เสีย ก็ซ่อม ชิวๆ เติมน้ำมัน ก็ชิวๆ .... ไม่ต้อง มานอน ตริน ก่ายหน้าผากครับ อ้อ...ผมคน ตจว. เลยคิดมากหน่อย อะไหล่ การซ่อมแซม มันมีให้เลือกไม่มากนัก เหมือน กทม. จากคุณ : คนจ๊นจน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 19:03:55

ความคิดเห็นที่ 69 ผมก็คนหนึ่งที่ใช้ E34 อยู่ ใช้มาหลายปีแล้วก็ยังรัก มันอยู่  โดยยังใช้เครื่องเดิมๆ ไม่คิดเปลี่ยนเพราะรถ รุ่นนี้มันเข้าขั้นคลาสสิคครับ สงสัยว่าเงิน 3-4 แสน คุณออกรถ Jazz ป้ายแดงได้จริงหรือ Honda JAZZ 1.5 i-DSI S AT ราคา 576,000 http://www.manager.co.th/Motoring/newcar.aspx?MotorBrandID=10 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 52 19:37:24 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 52 19:32:17 จากคุณ : baramee@mbk เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 19:24:39

ความคิดเห็นที่ 70 วันนึงถ้าคุณรีบ แล้วรถเสีย วันนึงถ้าคุณ ไปรับสาว แล้วรถเสีย ในที่ไม่โรแมนติดเลย วันนึง พาครอบครัว ไปเที่ยว แล้วรถเสีย ยังไม่ทันได้เที่ยว วันนึงขับรถผู้ใหญ่ แล้วรถเสีย วันนึง รถเสียบนทางด่วน วันนึง รถเสีย ในวันที่ ไม่ค่อยมีตัง วันนึง .. เหตุผลคือ ความสบายใจ ครับ จากคุณ : กลิ้งยาง เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 19:25:42

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูกครับ นานาจิตตัง คนซื้อรถมือสองมีหลายประเภทเช่น 1 ไม่มีตังค์ซื้อป้ายแดง 2 ต้องการรถที่หรูหราในราคาไม่แพง จากคุณ : dum.d เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 19:54:33

ความคิดเห็นที่ 72 คุณคนจ๊นจน ตอบแบบไม่ค่อยจะมีเหตุมีผลเลย รถราคาล้านกว่าๆ พอเป็นมือสองเหลือสามแสนได้ไง ............................................... มันอายุกี่ปีล่ะครับท่าน ต่อให้เป็นรถญี่ปุ่นโครตจะนิยม โครตจะซ่อมง่าย มันก็เหลือ3แสนได้ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 19:57:16

ความคิดเห็นที่ 73 จริงๆแล้ว ราคารถตกฮวบฮาบน่ะ ชอบนักแล ไอ้ที่ได้แต่มอง ก้ได้โอกาสที่จะซื้อมาขับ ซื้อมาครอง จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 19:58:18

ความคิดเห็นที่ 74 ไม่ได้ว่าโง่นะ แค่ว่า ใจแคบไปนิด จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 20:02:10

ความคิดเห็นที่ 75 แวดวงที่ทำงานผมนิยมรถ บีเอ็มกัน แต่ผมไม่ตามกระแสครับ ขี้เกียจมาซ่อมเหมือนพวกเขา ผมไม่ชอบรถยุโรปด้วย มันเกินตัวแปลก ๆ ไม่มีความจำเป็น ขนาดนั้น อย่างน้อย ๆ ก็เปลืองน้ำมันกว่ารถที่ผมใช้เยอะ จากคุณ : Tony and The MAZE เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 20:03:48

ความคิดเห็นที่ 76 ความคิดเห็นที่ 72   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   คุณคนจ๊นจน ตอบแบบไม่ค่อยจะมีเหตุมีผลเลย รถราคาล้านกว่าๆ พอเป็นมือสองเหลือสามแสนได้ไง ............................................... มันอายุกี่ปีล่ะครับท่าน ต่อให้เป็นรถญี่ปุ่นโครตจะนิยม โครตจะซ่อมง่าย มันก็เหลือ3แสนได้ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 19:57:16 [แก้ไข] ผมเทียบตรรกะ กับรถ ยี่ห้ออื่นๆนะครับ เอาเฉลี่ยๆ....ความนิยม ความน่าใช้ มันบ่งบอก.... ถ้ามันไม่เป็นเหตุผล ก็ขออภัย... จากคุณ : คนจ๊นจน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 20:55:04

ความคิดเห็นที่ 77 ผมเลือกป้ายแดง Jazz กะ Yaris ดีกว่าครับ เพราะปัญหาจุกจิกไม่น่าจะมี แต่ถ้าเป็น BM มือสอง ลองนึงถึงค่าอะไหร่ดูล่ะกันครับว่าคุ่มหรือไม่ จากคุณ : nongsab เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 21:56:00

ความคิดเห็นที่ 78 ผมใช้ E39 ปี 2002-2003 มือสองอยู่ มันก็ดีกว่าหล่ะน้อง เรื่องของการขับขี่ โครงสร้างตัวถัง สมรรถนะ ถ้าเทียบกับรถ compact ญี่ปุ่นราคาหลักล้านเท่ากัน แต่ น้องลืมอะไรไปหรือเปล่า ไม่ใช่เรื่อง เมนเทนแนนซ์ หรอกนะ เรื่องของ " หัวใจ " ไงครับ คนที่ซื้อรถแต่ละคนมีเหตุผลต่างกันไป ดังนั้น ถึงเงินจำนวนที่เท่ากัน แต่ทุกคนก็ตัดสินใจซื้อรถไม่เหมือนกัน ใจรัก BMW ก็ซื้อ BMW ครับ มือสองไม่ว่า แต่ถ้ารักความใหม่ มือสอง BMW หรือแม้แต่ Benz เขาก็ไม่แล !!! อีกอย่าง รถมือสอง ค่าตัวถูก ก็ไม่ได้แปลว่าซ่อมถูกตามค่าตัวหรอกนะ ไม่งั้น Alfa Romeo 156 คงไม่จอดค้างเตนท์หรอกน้อง สวยกระโดดในราคา Jazz ป้ายแดงแบบนั้น ถ้าซ่อมเท่ากัน พี่คงสอยมาไว้ใช้อีกคันเป็นแน่แท้ !!!! จากคุณ : Bud-to-budding เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 22:27:24

ความคิดเห็นที่ 79 จากที่ จขกท บอกว่าผมไม่ค่อยรู้เรื่องรถเท่าไหร่เลยครับ? นี่เเหละครับ ไม่มีความรู้ยิ่งไม่สมควรซื้อบีเอ็มตามที่ จขกท บอกเลยครับ การที่จะซื้อรถมือสองสักคันหนึ่งจะต้องมีความรู้ในการดูรถพอสมควรครับ ไม่มากก็น้อยครับ อีกอย่างรถบีเอ็มตามที่ จขกท พูดนั้นเเต่ละรุ่นย่อย ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องศึกษาเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียครับว่าเเต่ละรุ่นมีปัญหาอะไรเช่น 318 ไอ นกเเก้วรุ่นเดียวกัน เเต่ต่างกันที่ปีก็มีเครื่องต่างกัน เเต่ละเครื่องก็มีข้อดี ข้อเสียต่างกัน ดูว่าคนส่วนใหญ่ที่เล่นรุ่นนี้เล่นปีไหน ถ้าซื้อมือสองมาควรต้องเช็คจุดไหนเป็นพิเศษ เช่น เกียร์ ช่วงล่าง นี่เเหละครับมันเป็นรายละเอียดปีกย่อยนอกเหนือจากที่เราดูทั่วไปจำพวก ชนมา ทำสีมา เเละต้องรู้ด้วยว่าเเหล่งซ่อมกับเเหล่งอะไหล่มีขายเเถวไหนบ้าง ถ้า จขกท สนใจอยากได้บีเอ็มจริงๆเเนะนำว่าให้เข้าไปหารายละเอียดตามเว็บของคนใช้รถร่นนี้ครับ -อะไหล่มันแพงเวลาซ่อม << แล้วทำไมต้องคิดว่า ซื้อมาแล้วจะซ่อมอย่างเดียว ซ่อมตลอดทุกเดือนเลยเหรอ ก็เลือกที่อันคิดว่าดีที่สุด แล้วก็ดูแลมันให้ดี อันนี้เลือกยากครับ ถ้าไม่มีความรู้เรื่องรถเก่าเลยยิ่งยากครับ บางทีภายนอกดูดี เเต่เครื่องไม่ดี ก็มีครับ ถ้าจะเอาเเบบดีต้องหารถที่มีเซอร์วิส เข้าศูนย์ตลอด มีรายละเอียด การซ่อมการเคลมประกันทุกอย่างอย่างนี้ดีเเน่ครับ ถ้าจขกท สนใจอยากได้จริงๆ เเนะนำ จขกท ดังนี้ครับ 1. เลือกรุ่นบีเอ็มที่เราสนใจ ตามราคาที่บอกข้างต้น โดยหารถจากเว็บรถมือสองต่างๆครับ เเล้วดูราคาขาย 2. เข้าไปศึกษารายละเอียดของรถที่เราจะซื้อ จากพวกเว็บบอร์ดของคนใช้รถรุ่นนี้ เเล้วศึกษาข้อดี ข้อเสีย วิธีการเลือกซื้อ เเหล่งซ่อม เเหล่งอะไหล่ ราคาที่เขาซื้อกันประมาณเท่าไหร่ 3. ถ้าจะซื้อจริงๆ กรณีดูรถไม่เป็น เดี่ยวนี้มีพวกบริษัทรับดูรถมือสองให้บริการครับเช่น car trust คิดค่าบริการครั้งละ 2000 บาทครับ เขาจะสรุปให้หมดเลยว่าชนตรงไหนมา ทำสีตรงไหนบ้าง ซื้อไปเเล้วต้องซ่อมตรงไหนบ้าง  ราคาค่าซ่อมเท่าไหร่ เเหล่งซ่อมเเหล่งอะไหล่อยู่ตรงไหน ราคาที่เราจะซื้อเเพงหรือปล่าว ตรงนี้เขาจะทำเป็นเอกสารบอกเราหมดเลยครับ จากคุณ : เด็กบ้านนอก (Suparoek) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 22:51:35

ความคิดเห็นที่ 80   ไม่มีใครผิดใครถูกครับ นานาจิตตัง ขึ้นอยู่กับ "ความเชื่อมั่นในตัวรถ" เท่านั้นเองครับ ถ้าคนที่ไม่เชื่อใจ เพราะกลัวว่าซื้อมาแล้วจะต้องซ่อมโน่นนี่ ก็คงไม่เอา ส่วนคนที่มั่นใจ ก็เลือกได้ ขอให้ได้คันที่ไม่ต้องมาจุกจิกมากนัก เท่านั้นเอง ยังไงก็ขอให้ได้รถที่ไม่งอแงแล้วกันนะครับ ผมเอาใจช่วย แต่ว่าก่อนไป อยากจะขอแย้งนิดหน่อยว่าเดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่น เค้าแข็งแรงขึ้นเยอะนะครับ หลายๆ คันเคยได้มาตรฐานการชนมา 5 ดาวก็มีครับ แล้วบางคันของยุโรปก็มีไม่ถึง 5 ดาวเหมือนกัน อันนี้ผมว่าอยากให้เปิดใจลองดูนะครับ จากคุณ : unknownn_smp เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 23:00:49

ความคิดเห็นที่ 81 เค้าเรียกว่า รสนิยม จากคุณ : kotobuki เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 23:34:09

ความคิดเห็นที่ 82 ขึ้นชื่อว่ารถยนต์ ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไร มูลค่าของมันจะลดลงทันที ที่มีการจดทะเบียน และยิ่งนานวัน มูลค่าของรถก็จะลดลงไปเรื่อยๆ อย่างรถรถญี่ปุ่น ยี่ห้อดัง รุ่นท็อปฮิตติดตลาดแค่จดทะเบียนปั๊บ ลดลงไปแล้ว20-25% แต่ถ้าเป็นรถยุโรปจะมากกว่านี้ แต่มันก็จะชะลอการลง ไม่ลดอย่างฮวบฮาบเหมือนราคาตอนที่ยังปีใหม่ๆเมื่อถึงจุดๆนึง ยกตัวอย่างเซฟิโร่A31-33 ราคามันชะลอแทบจะไม่ขยับแล้ว หรือBenz W124 หรือBMW E34 ราคาปีนี้ ปีที่แล้ว หรือจะปีหน้า แทบไม่ต่างกัน ปีที่แล้วซื้อมา4แสน ปีหน้าขายก็ยังป้วนเปี้ยนที่เลข4แสน อาจจะลดก็ไม่มากแค่หลักหมื่น ไม่เหมือนป้ายแดง ปีที่แล้วซื้อ6แสน ปีหน้าขาย4แสนจะได้หรือเปล่าก้ไม่แน่ใจ ผมเองก็ยังคิดสนใจ เทียน่ารุ่นใหม่ สนใจมากๆ แต่ค่อนข้างจะทำใจลำบาก คือ -เรื่องมูลค่าที่มันลดลงอย่างมากมาย ไหนจะค่าดอกเบี้ยอีก -พอมีรุ่นใหม่ๆออกมา กิเลสมักจะพาไป อยากจะเปลี่ยนรุ่นใหม่ๆอยู่เรื่อย แต่พอเป็นมือสอง ที่ตกมาแล้วไม่รู้กี่รุ่น มีรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวกี่ครั้งก้ไม่สนใจ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 07:42:58

ความคิดเห็นที่ 83 ใช่รถดี และการเลือกรถ มือ 2 ไม่ใช่ง่ายเหมือนซื้อขนมไม่ว่ายี่ห้อใดก็ตาม คนขายส่วนใหญ่ที่ขายเพราะมีปัญหา ซ่อมใช้ต่อไม่คุ้ม หรือเสียจุกจิก - เจอดีดีไป ถ้าไม่ละ ซ่อมอีก เอาไปสัก 50000 อย่างถูก - ตอนซ่อมต้องจอดที้งไว้ อีกกี่วัน กี่ครั้ง อู่ก็น้อย จะเข้า 0 ก็น้อยแถมฟันหัวแบะอีก - ตายกลางทางในเมือง ลากอย่างเดียว ถ้าตจว. กินข้าวลิงแน่ คนที่ซื้อเขารับสิ่งพวกนี้ได้ แต่คนส่วนใหญ่ต้องการซื้อรถมาใช้เพื่อความสะดวกมากกว่าความมันส์และสบาย จากคุณ : ฟ้าสาง ที่ฝั่งมูล เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 08:50:39

ความคิดเห็นที่ 84 เพราะว่ามันได้ป้ายแดงค่ะ ได้รถใหม่ สมรรถนะ ย่อมดีกว่า ถ้าเรามีเงินเยอะๆ เราก็คงซื้อ BMW มือ 1 มาขับเหมือนกันแหละ แต่ตอนนี้ไม่มี ก็ใช้รถญี่ปุ่นมือ 1 ไปก่อน จากคุณ : แก้วใส (keawsai2) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 09:47:59

ความคิดเห็นที่ 85   ^ ^ ^ ใหม่กว่าไท่จำเป็นต้องสมรรถนะดีกว่านะครับบ จากคุณ : Dark wars เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 14:12:04 A:124.121.25.180 X: TicketID:221240

ความคิดเห็นที่ 86 ความคิดเห็นที่ 26     แล้วก็จะโดนคำถามกลับมาว่า ... ตังค์ตั้งสามสี่แสน ทำไมไม่เอา Jazz หรือ Yaris ฟระ ? ------------------------------------------------------------------- เรื่องแบบนี้ เจ้าของทรัพย์ เป็นผู้ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวครับ เพราะ หากเป็นผม ตังค์เท่ากัน ผมก็ไม่ซื้อทั้ง BMVV / Jazz / Yaris หรอก ครับ ผมอาจจะเอาไปซื้อ ปิคอัพอายุ ๑๐ กว่าปีได้ ๒ คันทีเดียว เรื่องการเกาะถนน เรื่องรถมาจากยุโรปอะไรนั่น ผมไม่แคร์ แคร์อย่าง เดียวครับ ทนมือทนteenไหม พังยากไหม ใช้งานผิดประเภทได้เปล่า ถ้ามันถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่แล้วเราไม่เปลี่ยน ใช้งานได้อีกนาน ไหม อะไหล่แปลงง่ายเปล่า พวกนี้มากกว่าครับ หลายคนอาจจะอยากได้เก๋งดีๆ กันสะเทือนอิสระสี่ล้อ กลับกัน ผมอยาก ได้แบบคานแข็งสี่ล้อ สปริงไม่อยากได้ อยากได้แหนบ หรืออย่างน้อยๆ เป็นเทอร์ชั่นบาร์ก็ยังดี ลดปริมาณลูกหมากให้น้อยสุด รุ่นไหนต้องใช้ลูก หมากกันโคลงก็ถือเป็นจุดหักคะแนนสำหรับผมแล้ว มันต้องยึดกันโคลง เข้ากับช่วงล่าง โดยใช้แค่เหล็กเสียบลูกชิ้น กับลูกยางไม่กี่ลูก เอาให้ถูก ทน พังยาก หรือ ไม่มีอะไรให้พังไว้ก่อน และนั่นคือสาเหตุที่ คนแบบผม ไม่ซื้อ BMVV มาใช้ จากคุณ : สยึมกึ๋ย     เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 11:46:34     ------------------------------ ตอบได้โดนใจมากๆครับ คิดเหมือนกันเลย จากคุณ : GRAYG เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 18:16:43

ความคิดเห็นที่ 87 ของอย่างนี้อย่าเชื่อใคร ต้องลองเองครับ มีเงินก็ซื้อเลย ดีไม่ดีคุณก็จะรู้เองละ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวรถและตัวคุณเองด้วย ผลที่ออกมาคุณจะได้ไม่ต้องมาโทษใคร ถือเป็นประสบกาณ์สอนลูกสอนหลานต่อไปนะครับ จากคุณ : คนใต้ดิน เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 20:34:02

ความคิดเห็นที่ 88   ของอย่างนี้ต้องลองศึกษาดูครับ ผมว่าคนที่บอกว่า BMW ซ่อมแพงเนี่ยส่วนใหญ่ฟังคนอื่นมามากกว่าใช้เองครับ จริงๆแล้วรถยุโรปมือสองไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับถ้าคุณเลือกเป็น อย่าง E34 เนี่ยผมเคยใช้ 2 ครั้งนะ ครั้งแรกป้ายแดงซื้อตั้งแต่ปี 89 สรุปว่าใช้ไป 6 ปีแล้วไปขายทิ้งตอนปี 95 ด้วยเหตุผลว่า........ซ่อมไม่ไหวครับเข้าศูนย์ที่ละหลายหมื่นตลอด จะซ่อมที่อื่นก็ไม่ได้เพราะรถแค่ 6 ปี อะไหร่เชียงกงก็ไม่มี กล่องควบคุมอะไรเสียซักอันก็หลายหมื่นอยู่...สุดท้ายเลยขายไป.... ทีนี้รอบสองผมกลับมาซื้อมือสองรุ่นเดิมเมื่อสองปีที่แล้ว เป็นรถปี 96 ใช้จนทุกวันนี้ก็โอเคนะ ค่าซ่อมไม่แพงครับยอมรับได้ เพราะรถอายุขนาดนี้มีอะไหร่เชียงกงกับอะไหร่ทดแทนเยอะครับ ราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด บางชึ้นถูกกว่า JAP ด้วยซ้ำ อู่นอกก็มีเยอะครับไม่จำเป็นต้องเข้าไปให้ศูนย์ฟันแล้วครับ สรุปผมว่ารถยุโรปมือสองก็ใช้ได้ครับ เลือกรุ่นที่อายุเยอะหน่อยจะได้มีอะไหร่มือสองจากต่างประเทศให้เลือกใช้ครับ (ที่ JAP เค้า scrap รถที่อายุประมาณ 4-5 ปีครับ) ถ้าเป็นกระทาชายก็ลุยเลยครับมือสอง แต่ถ้าเป็นสาวๆก็ปลอดภัยไว้ก่อนป้ายแดงดีกว่าครับ จากคุณ : นายสองหน เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 21:11:30 A:116.68.144.11 X:

ความคิดเห็นที่ 89 ผมก็ชอบรถมือสองเป็นชีวิตจิตใจครับ โดนเฉพาะโตโยต้ามือสอง สมรรถนะ ก็ไม่ขี้เหร่ อะไหล่ก็มีทั้งแท้เทียบเทียมเยอะแยะ นำมาปรับปรุงให้สภาพใกล้เคียงของใหม่ได้ไม่ยากและไม่ทำให้กระเป๋าแห้งจนเกินไป  ถ้ามีเงินมากๆ ไว้สำหรับซ่อมโดยเฉพาะ ผมเองก็ชอบครับ พวก BMWรุ่นเก่าๆ หรือ Benz รุ่นเก่า Volvo รุ่นเก่า ๆ เกือบๆยี่สิบปีก็ยังดูสวย แต่ด้วยสถานภาพทางการเงินตอนนี้ไม่ไหวแน่ๆ เวลาซ่อมคงจะเหนื่อย กว่าจะได้อู่ที่พอจะไว้ใจได้ไม่มั่วไม่ฟันอีก พอได้เจออู่ดีๆ ก็ไม่รู้ว่าอะไหล่จะแพงขนาดไหนอีก ยังไงก็ตามผมก็ว่าอะไหล่แพงอยู่ดีเมื่อเทียบกับราคารถ 4-5แสนที่ซื้อมันมาน่ะครับ สรุปว่าแล้วแต่ชอบเนอะ จากคุณ : 2ndHand_Fanclub เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 22:07:35

ความคิดเห็นที่ 90   สวัสดีค่ะ เราว่าการเลือกรถอะไรเป็นเรื่องของใจคนซื้อมากที่สุดค่ะ ต่อให้บอกว่า BMW จุกจิกเเต่ถ้าคุณรักในเเบรนด์นี้ก็คงห้ามคุณไม่ได้ใช่มั้ยคะ ถ้าคุณชอบ BMW เเละพอจะมีรายได้สูงซักนิดเพื่อรองรับการซ่อมเพราะเป็นรถมือสองก็ลุยเลยค่ะ ไปซื้อหนังสือรถมาเปิดดูหาหลายๆที่เปรียบเทียบกัน หาคนที่รู้เรื่องรถไปดูด้วย พอได้รถมาเเล้วก็พาไปตรวจสภาพว่าต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง อู่นอกที่ซ่อมเก่งๆเดี๋ยวนี้มีเยอะค่ะ ถ้าคุณเปลี่ยนในสิ่งที่ควรเปลี่ยนเเล้วคุณจะได้รถคุณภาพดีมาใช้อีกนานหลายปีเลยค่ะ สำหรับเราซึ่งเป็นคนบ้ารถมากๆก็รักใน BMW นะคะ ตอนนี้ช้ E90 320 ise อยู่ค่ะ ใช้มาตั้งเเต่ป้ายเเดง ตอนนี้เกือบ 2 ปีเเล้วไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เเต่ถึงจะมีเราก็พร้อมรับค่ะ ก็ใจมันรักไงคะ จากคุณ : น้องมิ้ม เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 09:33:17 A:161.200.34.9 X: TicketID:037121

ความคิดเห็นที่ 91   ก่อนหน้านี้ใช้ toyota เหมือนกัน แต่ตอนนี้ใช้ e46 ค่อนข้างเห็นความแตกต่างมากอยู่เหมือนกัน..ขึ้นอยู่กับความพอใจที่มีทั้งดีและไม่ดี... เอาเป็นว่าส่วนตัวเลือก bm อ่ะ เพราะขนาด e46 อายุเกิน 5 ปี ยังดูสภาพดีอยู่เลย จากคุณ : TaSmAnPaTh (TaSmAnPaTh) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 52 09:34:48

ความคิดเห็นที่ 92 ผมกำลังเล็งๆ W124 มือสองอยู่เหมือนกัน ปัจจุบันมี New Jazz ป้ายแดงแล้ว เผอิญต้องใช้รถในการติดต่อธุรกิจ เลยต้องหามาเพื่อการนี้ และได้คุยกับอู่ไว้เรียบร้อย เหตุผลคนเราไม่เหมือนกันครับ จากคุณ : FyGI เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 52 21:57:11

ความคิดเห็นที่ 93 รถมือสองซื้อมาโดนทุกที (ปัญหา) นึกอยู่ในใจว่าทำไมซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้มั่ง จากคุณ : oakman เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 08:01:28

ความคิดเห็นที่ 94 ใช้มาำ e30 มา 2 คันแล้วครับ ลองแล้วจะติดใจ จากคุณ : fanya เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 21:57:10

ความคิดเห็นที่ 95 นานาจิตตังครับ รถญี่ปุ่นก็ดีตรงประหยัด ราคาถูกกว่า รถยุโรปก็ดีตรงสมรรถนะ ความปลอดภัย เรื่องราคาค่าซ่อมของรถยุโรป ยอมรับครับว่าส่วนมากแพงกว่าญี่ปุ่นแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าคุณมองหาอู่ที่ไหน ถ้าเป็นอู่นอก มีฝีมือ ไว้ใจได้ ก็เหมือนเป็นอู่ศูนย์ราคาประหยัดดีๆนั่นเอง แล้วแต่การชั่งน้ำหนักครับว่าจะเลือกอะไร ความสบายใจ สบายกระเป๋า หรือความปลอดภัย สมรรถนะที่ดีกว่า ผมก็เคยเลือกครับ แล้วก็ไปจบที่ E39 sport ครับ ไม่นึกเสียใจเลย จากคุณ : thehmmonly เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 17:03:51

ความคิดเห็นที่ 96 ว่าแล้วก้อไปถอย e36 มือสองดีก่า .... เอ... หรือ e34 ดี? จากคุณ : nchp27 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 17:16:59

ความคิดเห็นที่ 97   กระทู้hotจริงๆ ชอบฟังความดิดเห็นหลายๆแนวหลายๆคน ชอบความคิดเห็นของเฮ๊ย เหล่านั้งเคียงห่วยมากครับ จากคุณ : สน 300อี เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 22:50:57 A:58.97.35.116 X: