Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
@^-^@ เมื่อ Big Bike และ Super Bike มาเคาะประตูถึงหน้าบ้านเราถึงเวลาหรือยังที่จะปฏิวัติการขับขีเสียใหม่  

เมื่อ Big Bike และ Super Bike มาเคาะประตูถึงหน้าบ้านเราถึงเวลาหรือยังที่จะปฏิวัติการขับขี่

เนื่อจากรถจักรยานยนต์ประเภท Big Bike และ Super Bike ได้วิ่เข้ามาเคาะประตูถึงหน้าบ้านเรา
โดย การนำเข้าอย่างเป็นทางการจากบริษัทแม่ ซึ่งปัจจุวันก็มีหลายยี่ห้อหลายค่าย ทั้ง ฝั่ง"พี่ยุ่น" และ "ฝรั่งหัวแดง"
และ ได้มีการนำเข้าจาก ผู้ค้ารายย่อยทั้ง "เป็นคัน" และ  "เป็นชิ้นส่วน" แล้วนำมาประกอบเอง

ประเทศไทยน่าจะมีการฝึกอบรมการขับขี่ รวมทั้ง การทำใบขับขี่ และน่าจะรวมถึง การจัดทำทะเบียนเสียใหม่ด้วย

ในเรื่องของการขับขี่ ทาง Honda เองมีการเปิดอบรมให้กับผู้สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับ การเพิ่มพูนทักษะ ในการขับขี่มอไซค์
ประเภท Big Bike และ Super Bike มาหลายปีแล้ว และไม่นานมานี้ทาง ค่าย "ซ่อมเสียง" ก็ได้เปิด สถานที่ฝึกอบรมขึ้นมา ในนาม YRA ตรง บางนา-ตราด  แล้วได้ข่าวว่าทาง ค่าย "แตนเขียวกับ พี่ ซูฯ" ก็กำลัง จะมีโครงการอยู่ (ระยะยาวด้วยมั้ง) ซึ่ง น่าจะส่งผลดีต่อผู้ที่มีใจรัก "สายลมและแสงแดด (+สายฝน ในบางโอกาส อิ อิ)

ในเรื่องของการทำ ใบขับขี่ (ซึ่ง ยังหาต้นไม่เจอเลย) น่าจะมีการปรับปรุงเสียใหม่ จากเดิม ให้ทำใบขับขี่ตั้งแต่อายุ 15 ปี
โดยจำกัดว่า ถ้าไม่ถึงอายุ 18 ปี ต้องไม่เกินขนาดของเครื่องยนต์ 110 CC ซึ่งมันขัดกับความเป็นจริงของปัจจุบันที่ว่า
ส่วนใหญ่ มักจะไม่ค่อยสนใจกันในเรื่องนี้ เด็กอายุ 16-17 ปีบางคนขับ CBR 150 หรือ แฟนธ่อม 200 ก็เห็นเยอะแยะไป และทางผู้ผลิต เอง (บางค่าย) ก็เอาเครื่อง 110 CC มาใส่กับรถ เกือบจะทุกขนาด เพื่อหวังยอดขายโดยไม่ คำนึงถึงความเหมาะสมกับ ตัวรถหรือผู้ใช้รายอื่น รถ คัน เล็ก กลาง ใหญ่ ก็ยัดเครื่องขนาด 110 CC มา (ไม่ขอเอ่ยยี่ห้อเด้อครับ พี่น้อง รู้ ๆ กันอยู่)
ความคิดผม (ส่วน ตั้ว ส่วนตัว  อิ อิ) น่าจะมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์  รูปแบบใหม่  กล่าวคือ
กำหนดให้มีการทำใบขับขี่ ได้ตั้งแต่อายุไม่เกิน 15 ปี  แล้ว รถจักรยานยนต์ ที่มีความจุของเครื่องยนต์ ประเภท Big Bike และ Super Bike ซึ่งตามหลักเกณฑ์ที่เค้าแบ่ง ๆ กันไว้คือ 250 CC แต่ไม่เกิน 750 CC
จัดอยู่ในประเภท Big Bike และ Super Bike ก็มีความจุตั้งแต่ 750 CC ขึ้นไป
ซึ่งปัจจุบัน Class 750 CC มักไม่ค่อยได้เห็น (พวกรถ Sport ทั้งหลายนะครับ) ซึ่ง ผมว่า น่าจะเอา การแบ่งตรงนี้ ไปทำใบขับขี่ เหมือนประเทศญี่ปุ่น
กล่าวคือ เราน่าจะมีใบขับขี่ ประเภท 1 2 3 หรือ 4 คือ
ประเภท 1 ก็ แบบ ทั่ว ๆ ไป คล้าย ๆ รถยนต์
ประเภท 2 คือ รถที่มีความจุตั้งแต่ 250 CC แต่ไม่เกิน 750 หรือ 600 CC
ประเภท 3 รถที่มีความจุตั้งแต่ 600 หรือ 750 CC ขึ้นไป
หรืออาจจะเพิ่มประเภท 4 ไปด้วยก็ได้ (ถ้าไมามากเกินไปอ่ะนะ) คือ รถที่มีความจุตั้งแต่ 1000 CC ขึ้นไป
แล้วก็ ในการที่จะทำใบขับขี่แต่ละประเภท ก็ควรจำกัดเรื่อง อายุ และประสปการณ์การขับขี่  เช่น
ประเภท 1 เริ่มตั้งแต่ อายุ 15 ปี ขึ้นไป ประเภท 2 อายุ ...น่าจะประมาณ 22-3 ปี ขึ้นไป เพราะ เป็นช่วงอายุที่
เรียนจบแล้ว เริ่มมีงานทำแล้ว ประเภทที่ 3 ก็น่าจะประมาณ 25 ปีขึ้นไป หรือมากกว่านั้น... แล้ว จะทำ  ใบขับขี่ประเภทที่ 2 หรือ3 ต้องมีประสปการณ์การขับขี่รถประเภท นั้น ๆ มาแล้ว เช่น จะทำใบขับขี่ ประเภท  ที่ 3 ต้องมีประสปการณ์
ขับขี่หรือมีใบขับขี่ประเภทที่ 2 มาไม่น้องกว่า 5ปี แล้วต้องมีใบรับรอง จาก ศูนย์ขับขี่ปลอดภัย ที่ ฝึกสอน อบรม ทักษะ จากที่ ๆ ได้มาตรฐาน

ในเรื่องของป้ายทะเบียน ก็ควรทำให้ เช่น รถทั่ว ๆ ไป ก็ให้คงไว้เหมือนเดิม ใบขับขี่ ก็ให้มีลักษณะเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าให้มี
การระบุไว้ว่า "ใบขับขี่ประเภทที่ 1" ไว้บนกรอบสี่เหลี่ยมบนพื้นสีขาว เพราะว่า ป้ายทะเบียนเป็นสีขาว
รถขนาด 250 CC ขึ้นไป ป้ายทะเบียน น่าจะมีสี คาดขวางไว้ตรงกลาง บริเวณ ตำแหน่งที่ระบุ จังหวัด (เหมือนป้าย ก่อนหน้าที่ ที่เป็นสีแดง คาดขวางตรงกลาง ตำแหน่ง ที่ระบุ จังหวัด)เช่น 250 แต่ไม่เกิน 600 CC(สมมติ เด้อครับ) สี สีไรดีล่ะ  อืม...สีเขียวละกัน  สีเขียว ที่เหมือนกับ TAXI สนามบิน  ใบขับขี่ ประเภทที่ 2 ก็ระบุไว้ให้เหมือนกัน  บนกรอบพื้นที่สี เขียว ให้เหมืออนกับสีบนป้ายทะเบียน   ส่วน  600 CC ขึ้นไป ก็น่าจะเป็น สีแดง ใบขับขี่ ก็ระบุไว้ ว่าเป็น "ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ประเภทที่ 3" ในกรอบสีเหลี่ยมบนพื้นที่ สีแดง

ซึ่ง การ ทำป้ายทะเบียนใหม่ ก็ป้อกัน การ "สวมทะเบียน" กันครับ  แล้วก็ ใบขับขี่ ก็ ป้องกัน คนที่มีใบขับขี่ ประเภทที่ 1 หรือ 2 ไปขับขี่รถที่ ใหญ่กว่าที่ระบุไว้  แต่ ผู้ที่มีใบขับขี่ ประเภทที่ 3 ก็สามารถขับขี่รถได้ทุกประเภท(ใบขับขี่)

ยาวจัง...แต่ความคิดแบบนี้ ผมมีมานานแล้ว เพราะเคยอ่านบทความที่ หลาย ๆ คน ไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้ว ได้บอกเล่าต่อ ๆ กันมา  ดู ๆ แล้ว เหมือนมันยุ่งยากนะครับ  แต่มันเป็นผลดี เป็นระเบียบ มากกว่าที่เป็นอยู่ นะครับ

แล้วควรที่จะแก้ไขกฎหมายการจราจรทางบกด้วย  การห้ม มอไซค์วิ่งขวา ให้วิ่งช่องซ้ายนี่ ยกเลิกไปเถอะ น่าจะเปลี่ยนเป็น ห้ามวิ่งขวา ยกเว้ย จะเลี้ยวขวาหรือกลับรถ แล้ว กฎข้อที่ว่า ห้าม มอไซค์ ขึ้นสะพาน ลงอุโมงค์ ขึ้นทางด่วน ก็น่าจะแก้ไขได้แล้ว

น่าจะให้รถประเภท Big Bike และ Super Bike ได้ขึ้น  นะครับ

กฎข้อบังคับ ผมว่า ทาง บริษัทนำเข้า น่าจะเข้ามามีส่วนในตรงนี้  เสนอให้ทางภาครัฐ ได้เข้ามาแก้ไขนะครับ  เพราะ ท่านจะขายอย่างเดียว คงไม่ดีมั้ง....นะ



ใครคิดเห้นอย่างไรก็ เชิญเลยนะครับ ทางที่ดี...เรา ชาว 2 ล้อ  น่าจะร่วมกันเสนอ แล้ว ส่งไปให้ทางภาครัฐในส่วนที่เกี่ยวข้องดู  น่าจะดีกว่าที่ เรา ๆ ท่าน ๆ พูดกันเอง แล้วไม่มีผลในทางปฏิบัติ  แต่...เสนอไปแล้ว ท่าน ๆ ทั้งหลาย จะรับฟะงใหม...อืม..นะ  คิดแล้ว เหนื่อยกับ "ประเทศไทย" จัง

จากคุณ : นายเบนซ์
เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 15:25:55




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com