ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาดันให้แ้ล้วกัน จากคุณ : fa_beer เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 02:03:29

ความคิดเห็นที่ 2 ตามมา vote จากคุณ : แสงเรืองรองของฟ้าหลังฝน เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 07:59:11

ความคิดเห็นที่ 3 ลงขันไปละ จากคุณ : lustful เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 08:13:47

ความคิดเห็นที่ 4 เพิ่งรู้ว่า OBD II  มันรายงานอัตราการกินน้ำมันได้ เข้าใจว่ามันเช็คระบบเสียอีก มันเฉลี่ยคร่าวๆหรืออ้างอิงได้เลยครับ? จากคุณ : RoAdSidE เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 08:27:50

ความคิดเห็นที่ 5   OBDII บางรุ่นทำได้ ก็จริงนะครับ แต่ มันก็คำนวณจาก AF Ratio ที่ได้จาก Oxygen Sensor, Air Flow sensor, และ กระแสไหลผ่านหัวฉีด ถ้าพวกเซนเซอร์มันเก่า มันก็เพี้ยน วัดอย่างไรก็ไม่ตรง แนะนำว่า หา Fluid Flow meter มาต่อดักที่ท่อส่งน้ำมันก่อนเข้าหัวฉีด จะได้ค่าแม่นยำกว่า และ ราคาถูกกว่า OBDII Scanner ตัวแพง ๆ แน่นอนครับ เห็นว่าที่ Nectec มี Lab น่าจะมีไอ้ตัวนี้อยู่ ใครพอรู้จักไปหายืมสิครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 09:05:43 A:125.27.212.106 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 6 โอแม่เจ้า สิ่งมหัศจรรย์ของโลก! น่าจะเอาลิขสิทธิไปขายบริษัทรถจะได้ไม่ต้องเหนื่อยขายทีละตัวสองตัว ทำได้ผมว่าแขกเจ้าของบ่อนำมันเจ๋งแน่ จากคุณ : ลำไพล47 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 09:26:12

ความคิดเห็นที่ 7 อย่างถูกๆตัวละ 4-6 หมื่นอ่ะ ตามอู่ต่างๆก็จะมีเครื่องพวกนี้ หรือในคลับบางคลับก็จะมี จากคุณ : cyber-ta เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 09:44:54

ความคิดเห็นที่ 8 ตามมาจากหว้ากอค่ะ โหวตแล้วนะคะ ^^ จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 10:25:32

ความคิดเห็นที่ 9   ผมใช้ OBD2 ELM 327 กล่องจีน ตอนนั้นซื้อมา 2.2 พัน ตอนนี้เหลือ 1.5 พัน แล้ว สามารถดูค่าต่างๆได้ เอาไว้เทียบเวลาจูนแก๊ส กับ น้ำมัน แต่ OBD2 เข้าไปร้านติดแก๊ส ไปยืมเค้าใช้ได้เหมือนกัน รูปกล่อง OBD2 ELM 327 กล่องจีน และ หน้าโปรแกรม http://www.iwebgas.com/smf/index.php?topic=913.0 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 52 10:33:15 จากคุณ : > (Mr.ฟักทอง) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 10:32:35

ความคิดเห็นที่ 10 vote จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 10:55:51

ความคิดเห็นที่ 11 ตัว OBD-II มันก็อ่านค่าที่ได้มาจากกล่อง ECU ซึ่งเราจะได้รู้ว่ามันมีค่าอะไรที่ผิดปกติไปหรือไม่  ถ้าติดแล้วคนใช้ไม่รู้เรื่องก็ไม่มีประโยชน์... ถามว่าติดแล้วมันดีไหม  ตัวนี้ดีครับเพราะมันไม่ได้หลอกเหมือนพวก ของที่ติดแล้วมาบอกว่าช่วยประหยัดน้ำมันครับ... จากคุณ : papu เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 11:13:15

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้ากล่องมีสัญญาณ ออกมา OBDII ก็แสดงค่าได้ครับ มันเป็นแค่ ตัวอ่านค่าครับ ผมใช้อยู่แต่ของผมอ่านค่าอัตราการกินน้ำมันไม่ได้ เพราะมันไม่มีสัญญาณ ออกมาครับ จริงๆผมเห็นมันอ่านเป็น Port ISO นะ Port เดียวจริงๆ จากคุณ : Ouanjung เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 11:41:21

ความคิดเห็นที่ 13 ทดลองที่สภาพเปิด ก็ไม่ได้ข้อสรุปอยู่ดีหล่ะครับ ควรจะหาห้องทดลองให้เป็นกิจลักษณะ เอาสัญญาณที่หัวฉีดมาว่ากันเลย ที่รอบ x,xxx ติดกับไม่ติด มันสั่งเปิดหัวฉีดนานเท่าไร แล้วก็ติดโหลดเข้าไป จับกันอีกทีนึง ที่ลาดกระบังน่าจะมีนะ จากคุณ : srich เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 12:45:48

ความคิดเห็นที่ 14 ดีครับ ผมโหวตด้วย จากคุณ : ak47_gong เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 13:05:40

ความคิดเห็นที่ 15 ลองติดต่อวิศวกรรมยานยนต์ลาดกระบังดูครับ เผื่อได้คำตอบ จากคุณ : ToRThaD เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 15:46:26

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยโวตและคำแนะนำต่างๆนะครับ ที่ถามดูเพราะเห็นว่าเมืองนอกมีใช้เล่นกันเป็นปรกติ แบบถูกสุด ก็ซื้อแค่สายต่อพอร์ต obdii ที่รถ กับ serial port ของคอม ราคาไม่กี่ร้อยบาท แต่ในเมืองไทยไม่รู้ว่าจะซื้อสายที่ไหนครับ ตอนนี้ไม่ได้อยู่เมืองไทย ประสานงานออนไลน์ได้อย่างเดียวครับ จะวิ่งไปยืมที่ต่างๆไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ สำหรับคำแนะนำให้ลองยืมอู่ติดแก๊ส จะลองไปถามห้องหว้ากอดูนะครับ ว่าใครยืมสายของอู่แก๊สได้บ้าง สำหรับคำแนะนำให้ลองติดต่อ nectec เดี๋ยวจะถามว่าใครสะดวกติดต่อขอยืมหน่วยปฏิบัติการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสมองกลฝังตัวได้บ้าง ถ้ามีสายเชื่อมต่อแบบซีเรียล ก็พอจะหาแลปทอปลงซอฟแวร์มาใช้ไม่ยากนัก ค่าที่ดูหลักๆก็คือ MAF (อัตราการไหลอากาศ) กับ (VSS) ความเร็วรถ เท่านั้นครับ โดยสมมติว่าเซนเซอร์ทุกตัวทำงานเหมือนกัน เชื่อเพลิงชนิดเดียวกัน สัดส่วนอากาศเชื้อเพลิงถูกคุมไว้เท่ากัน แล้วคำนวณออกมาดูกินน้ำมันที่ความเร็วต่างๆ ซึ่งน่าจะละเอียดเพียงพอสำหรับสื่อสารกับคนที่กำลังจะโดนหลอกครับ ถ้าดูสัญญาณหัวฉีดก็น่าสนใจครับ เพราะเอามาทดสอบการขายกล่องไฮโดรเจนได้ด้วย แต่ผมดูจากโปรแกรม scantool.net ที่ดาวโหลดมามันไม่มีช่องสัญญาณหัวฉีดน่ะครับ ขอบพระคุณทุกความคิดเห็นนะครับ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 52 16:34:36 จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 16:06:02

ความคิดเห็นที่ 17 ต้มตุ๋น ครับ  ถ้าเป็นพวกเนื้อวัวว ก็ดี ทำเป็นเกาเหลาเนื้อตุ๋น กินกับข้าวอร่อยมาก  ประเด็น คือ คนไทยเหมือนกัน มาต้มกันเอง  ไม่มีสติ ปัญญา ความสามารถ ในการทำมาหาเลี้ยงชีพ ทางอื่นแล้วหรือ  มีส่วนราชการไหน ในประเทศสารขัน นี้  ดูแลรับผิดชอบเรื่องทำนองนี้ บ้างไหมครับ จากคุณ : dola36 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 16:07:18

ความคิดเห็นที่ 18 ไหนๆก็เข้ามาแล้ว ขอขายมะพร้าวหน่อยนะครับ เจ้าพอร์ต ODB II ที่ว่า มันคือส่วนเชื่อมต่อระหว่างกล่อง ECU ของรถ กับอุปกรณ์ภายนอก ซึ่งในอเมริกาได้กำหนดให้รถตั้งแต่ปี 1996 ต้องมีพอร์ตนี้  เอาไว้ให้ช่างใช้ปรับแต่งเครื่องเพื่อลดมลพิษที่ออกจากท่อไอเสียได้ง่ายๆ ของเมืองไทยอาจจะช้ากว่านั้นสักปีสองปี แต่รถรถรุ่นใหม่ๆ จะมีพอร์ตนี้ทุกคันครับ หน้าตาจะคล้ายๆกับปลั๊กที่มี 16 รู และถูกกำหนดไว้ให้อยู่ใต้คอนโซลฝั่งคนขับครับ ช่างจะได้หาเจอง่ายๆ อันนี้รูปจิ๊กมาจากคลับซีวิค จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 16:13:31

ความคิดเห็นที่ 19 สายเชื่อมต่อแบบมาตรฐาน ก็ไม่ซับซ้อนมาก ต่อเข้าพอร์ตอนุกรมของคอมพิวเตอร์ได้เลย ในปัจจุบันนี้ มีการออกอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบใหม่ๆเยอะแยะ ทั้งยูเอสบี ทั้งบลูทูธ เพื่อให้ใช้กับพวก พีดีเอ พอกเกตพีซี ได้ด้วย ผู้ใช้รถบางกลุ่มชอบที่จะได้ต่อทิ้งไว้ดูเล่นได้ตลอดเวลา  ไม่ต้องแบกโน๊ตบุกเข้ารถทุกครั้ง จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 16:17:58

ความคิดเห็นที่ 20 สายที่เห็นข้างบนนั่นราคาประมาณ 300-400 บาทเท่านั้น ถ้าอยู่อเมริกาก็สั่งผ่านเวบได้เลย เหมือนสั่งพิซซา แต่ที่บ้านเราหายากหน่อย และก็ราคาแพงหน่อย รูปข้างล่างนี่เป็นสายที่ขายเป็นชุดครับ พร้อมกล่องแปลงสัญญาณเป็นยูเอสบีและมีซอฟแวร์แถมด้วย ตกราวๆห้าพันบาท หลังๆ ทราบว่ามีของจีนเข้ามาด้วย ไม่แพงเท่าไหร่ แต่ก็ยังหลักพัน น่าเสียดาย รถผมแก่ไปหน่อย ไม่มีช่องให้เสียบ ไม่งั้นจะซื้อกลับไปเล่นซะหน่อย จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 16:21:18

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนนี้ผมดาวน์โหลดซอฟแวร์มาจาก scantool.net แล้วครับ ตัวนี้ฟรีครับ สามารถดูพารามิเตอร์ต่างๆได้ราวๆเจ็ดสิบกว่าตัว แต่หลักๆที่ผมดูรู้เรื่องคืออัตราการไหลอากาศ (MAF) ซึ่งเป็อากาศรวม ต้องเอามาหาร อัตราผสมอากาศอีกทีนึง ก็จะได้เป็นปริมาณเชื้อเพลิง ปริมาณเชื้อเพลิง เอามาหารความเร็ว ก็เป็นอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง แต่ก็อย่างที่พี่ๆบอกไว้ข้างบนครับ ค่าอาจจะคลาดเคลื่อนบ้าง เพราะเป็นค่าที่อ่านมาจาก ECU อีกทีหนึ่ง จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 16:26:26

ความคิดเห็นที่ 22 บางคนสงสัยว่า แล้วจะรู้ไอ้พวกพารามิเตอร์เหล่านี้ไปทำไม จริงๆแล้ว พารามิเตอร์พวกนี้ สามารถช่วยประหยัดน้ำมันและยืดอายุเครื่องยนต์ได้ครับ เช่นถ้าเห็นว่าอัตราการกินน้ำมันเริ่มจะสูงแล้ว คนขับอาจจะผ่อนคันเร่ง ขับช้าลงอีก 5 กม/ชม หรือใช้ตรวจสอบระบบที่ทำงานผิดปรกติเช่นแรงดันไฟ อุณหภูมิ รอบเครื่อง หรือโหลดของเครื่อง ซอฟแวร์ที่ต้องเสียเงินซื้อบางตัวจะสามารถเก็บประวัติการใช้งานได้ด้วย ทำให้สามารถนำมาวิเคราะห์ดูความเปลี่ยนแปลงสมรรถนะรถ และพฤติกรรมคนขับได้ด้วย ถ้ารถคันไหนไปติดแก๊สมา ก็สามารถเอามาใช้วิเคราะห์ปรับแต่งระบบแก๊ส ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมที่สุดได้ด้วย แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 52 16:35:58 จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 16:33:26

ความคิดเห็นที่ 23 ผมมีติดอยู่ที่รถอ่ะ Smart gauge ODB II For New Altis 2008 มีเช็คค่าสิ้นเปลืองพลังงาน อยู่ด้วย ช่วยไรได้ม่ะ ?? จากคุณ : *PIPPO* เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 17:00:57

ความคิดเห็นที่ 24 ช่วยๆกันหน่อยนะครับ จากคุณ : sLiimFit เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 17:42:50

ความคิดเห็นที่ 25 จะลองวันไหน ถ้าเสาร์อาทิตย์ ผมเอาเครื่องมือไปให้ วัดเวลาจ่ายน้ำมันได้ ลองรถอะไร ละ จากคุณ : ฯ้อง (นกเดินทาง) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 17:48:41

ความคิดเห็นที่ 26   ให้ยืมกล่อง OBD2 (ของจีน) + โปรแกรม ของผมไปใช้งานได้ เด๋วนี้จอดทิ้งไว้เฉยๆ จากคุณ : > (Mr.ฟักทอง) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 20:54:00

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบพระคุณมากครับคุณ *PIPPO*  นกเดินทาง  Mr.ฟักทอง ตอนนี้ห้องหว้ากอรวบรวมเงินลงขันครบแล้ว เพื่อนสมาชิกที่เชียงใหม่จะเดินทางไปซื้อเร็วๆนี้ ผมขอไปหาผู้ร่วมทำการทดสอบก่อนนะครับ แล้วจะมาแจ้งความคืบหน้าและรายละเอียดเพื่อนัดหมายทดสอบอีกครั้งหนึ่ง จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 52 22:27:16

ความคิดเห็นที่ 28 ขอพูดอะไรหน่อยนะครับ "เจตนาของห้องหว้ากอคือเผยแผ่ข้อมูลและหลักฐานที่แสดงให้เห็นและเข้าใจง่ายๆ ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่สามารถประหยัดน้ำมันได้จริง" ตรงนี้อาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง เพราะถ้าคิดจะทดลองเพื่อหาผลทางวิทยาศาสตร์แล้วตั้งธงอย่างนี้ ทดลองไปก็คงไม่มีประโยชน์ครับ เพราะว่าคงได้ผลก่อนทดลองอยู่แล้ว ก็ไม่ต่างจากการทดลองของเจ้าของผลิตภัณฑ์หรอกครับ เพราะยังไงก็ต้องทำให้มันออกมาใช้ได้ ผมว่าที่เค้ากำลังทำกัน คือการ ทดสอบว่ามันสามารถประหยัดน้ำมันได้จริงหรือไม่ มากกว่านะครับ แค่อยากให้เขาใจตรงจุดนี้น่ะครับ จากคุณ : The Absurdist เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 01:45:08

ความคิดเห็นที่ 29 อิอิ ตอนแรกเราก็คิดไว้ประมาณนั้นแหละครับ จริงๆก็ไม่อยากตั้งธงเรื่องการทดสอบหรอกครับ แต่จากข้อมูลแวดล้อม มันฟ้องว่าเป็นการต้มตุ๋น เหมือนซื้อรถที่บอกว่าบินได้ แต่ข้างในใส่เครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ แถมการทดสอบอะไรก็ไม่มี ได้แต่บอกว่าให้ลองซื้อไปขับดู จะรู้สึกว่าบินได้จริงๆ หลายๆคนบอกว่าไม่ต้องทดสอบหรอก เสียเงิน เสียเวลาเปล่าๆ ฟันธงไปเลยก็ยังได้ แต่หลายๆคนก็ยังข้องใจ อยากจะขอดู มีทั้งคนที่คิดว่า"เผื่อว่า" มันจะประหยัดได้จริงๆ และคนที่อยากให้ทำให้ดูเพื่อที่จะได้เคลียไปเลยว่ไม่ได้ ไม่ต้องมาข้องใจแล้วจัดรอบสองกันอีก ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการจัดทดสอบ ไม่ได้จัดเพื่อที่จะ "ทำให้ผลทดสอบออกมาว่าใช้ไม่ได้" แต่เป็นการทดสอบให้เห็นผลการใช้งานตามจริงครับผม ส่วนผู้ทดสอบอาจมีอคติบ้างเล็กน้อยก็ว่ากันไป หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะข้อมูลเบื้องต้นมันบ่งชี้มาแบบนั้น แต่กระบวนการทดสอบจะทำให้ได้มาตรฐานที่สุดครับ งั้นข้อความอย่างเป็นทางการขอเปลี่ยนเป็น "เจตนาของห้องหว้ากอคือเผยแผ่ข้อมูลและหลักฐานที่แสดงให้เห็นและเข้าใจง่ายๆ ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถประหยัดน้ำมันได้จริงหรือไม่" ตามที่คุณ The Absurdist เสนอนะครับ จริงๆอยากเอารถขึ้นแท่นทดสอบด้วยซ้ำ เนื่องจากการทดสอบ จำเป็นต้องนำรถไปวิ่งในถนนจริง เพราะคนขายอุปกรณ์อ้างว่า รถต้องวิ่งตัดเส้นแรงแม่เหล็ก อุปกรณ์จึงจะทำงาน ถ้ารถไม่มีความเร็ว อุปกรณ์จะไม่มีผล ทำให้มีโจทย์ตามมาอีกว่า เอาไปวิ่งทดสอบที่ไหนดี เดี๋ยวจัดอาสาสมัครเก็บข้อมูลได้แล้ว จะมาโพสต์ถามเรื่องเส้นทางทดสอบอีกทีนะครับ จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 07:30:01

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าเจ้าของเค้าบอกมาแบบนี้ " รถต้องวิ่งตัดเส้นแรงแม่เหล็ก อุปกรณ์จึงจะทำงาน "  ผมว่าไม่ต้องเสียเวลา เสียเงิน ไปทดสอบหรอกครับ ส่วนใครอยากจะเชื่อก็ปล่อยไปครับ เส้นแรงแม่เหล็กของโลก เป็นแนวใหน  แล้วรถต้องวิ่งอย่างไร ห้ามวิ่งแนวเหนือใต้เหรอครับ? เมาไปด้วยจริงๆ จากคุณ : RoAdSidE เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 08:23:29

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าผลออกมา ว่าจริง อุปกรณ์นี้ขายดีแหง๋ๆ ถ้าผลออกมา ว่าไม่จริง โดนตามถล่มเละแน่นอน จากคุณ : กบกระโดดไม่ไกล เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:44:49

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าผลออกมายังไงก็ไม่เกี่ยวอยู่ดี คนที่ฟังแล้วเชื่อก็ยังจะเชื่อฝังหัวกันต่อไป ส่วนคนที่ทดสอบจนทราบว่าไม่จริง.. ก็ไม่รู้จะประชาสัมพันธ์ยังไงให้คนทั่วไปรับทราบ ป่าวประกาศไปแล้วใครจะสนใจ ต่อให้ออก TV รายการคุณสรยุทธ์ ก็คงมีคนไม่ได้ดูอยู่บ้าง และก็โดนหลอกกันต่อไป จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 22:43:10

ความคิดเห็นที่ 33 ทดสอบกันวันไหนที่ไหนบอกด้วยครับผม ขอตามไปดูด้วยคนครับ พูดจริงๆว่าผมไม่เชื่อเลยไอ้ที่เค้าโฆษณากันมา จากคุณ : As it happens to be me เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 19:37:35