ความคิดเห็นที่ 1   เอาน่าใจเย็นๆครับ   ผมขับรถแต่ก็เห็นใจ 2 ล้อเช่นกันครับ  ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดู   เราก็ค่อยๆขับ คอยระวังเอาก็ได้ครับมันไม่เกิดอุบัติเหตุหรอกถ้าเราขับช้าจริงๆ และก็ไม่ตั้งอยู่บนความประมาทครับ   ฝนตกก็บอกอยู่แล้วให้เราขับช้าๆ ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวัง จากคุณ : Vigo_9409 เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 17:39:51

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่ามีอีกตั้งหลายที่ ที่สามารถไปจอดหลบฝนได้ ถึงแม้ว่าอาจต้องขับไกลไปอีกนิด แต่ก็ปลอดภัยกว่าเยอะ จากคุณ : p_thanapon เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 17:50:15

ความคิดเห็นที่ 3 คงเหมือน วิ่งย้อนศรอะคับ..................ขับรถใหญ่กว่าต้องระวัง มอไซด์อาจแค่ โดนขับรถผิดช่องทาง แต่รถใหญ่โดน ฆ่าคนตายโดยประมาท ทำทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย................ กฏหมายเมืองไทย....................ต้องไปอยู่อเมริกา.........ดูที่เหตุมากกว่าที่ผล จากคุณ : tongfar111 เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 18:04:39

ความคิดเห็นที่ 4 แค่คำพูดว่า "ไม่คิดว่า นึกว่า  " ก็เป็นการประมาทแล้วครับ ควรคิดว่า "อาจจะ  น่าจะ " ไว้ก่อนดีกว่า เพราะถ้าเกิดมันมีเหตุการณ์ขึ้นจริง ก็จะได้ตัดสินใจได้เร็วขึ้น จากคุณ : เบิ้มจัง เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 18:12:06

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเห็นใจคนขับรถยนต์นะ เพราะยังไง ตามสายตาคนทั่วไปแล้วรถใหญ่มันก็ยังผิดวันยังค่ำ แต่ผมก็เข้าใจคนขับรถมอร์ไซค์นะครับ เพราะถ้าหากขับต่อ วิสัยทรรศน์ในการมองเห็นทางข้างหน้าก็เสี่ยงจะให้เกิดดวงถึงฆาตได้ ลองเตรียมอุปกรณ์กันฝนแบบชั่วคราวไปก่อนก็ดีนะครับ อย่างร่มอันเล็กเนี้ย จอดข้างทางนั่งกางร่ม คลาสสิกดีนะครับ .... เพราะผมเคยทำครับ ผลออกมา คนตะโกนออกมาสรรเสริญ "อ้ายบ้า"... บ้าเหรอครับ...แต่บ้าอย่างงี้....ผมไม่ตายอ่ะครับ ยอมบ้ามั้ยครับ.... (ร่มสีชมพูด้วยครับ..หวานมาก) จากคุณ : เทียมฟ้าหน้าใส เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 18:13:31

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นใจทั้งสองฝ่าย  แต่ก็เห็นใจ มอไซด์มากกว่า เพราะ เนื้อหุ้มเหล็กยังไงก็เจ็บตัว  ออกไปก็เปียกฝน แต่คิืดว่า น่าจะมีที่อื่นให้หลบมากกว่าในอุโมงค์ ที่ปลอดภัยกว่า อย่างในปั๊มน้ำมัน  ทนเปียกอีกหน่อยดีกว่า เสี่ยงอันตราย ส่วนทางรถยนต์ ก็เห็นใจเช่นกัน ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เห้อออ จากคุณ : eissee เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 18:27:57

ความคิดเห็นที่ 7 มันก็ต้องระวังกันทุกฝ่ายล่ะครับ รถยนต์เห้ๆ ก็มีเยอะ แล้วทำไม ฝนตก ไม่ขับให้ช้าๆ กันหน่อยล่ะครับ จากคุณ : โกอ้วน เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 19:25:03

ความคิดเห็นที่ 8 ถามว่าเห็นใจไหม ตอบว่าเห็นใจครับ แต่มอไซค์ทำไม่ถูก เนื่องจากความเห็นใจบางทีมันก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นะครับ ต่อให้ขับมาดีๆก็เหอะ เพราะลงอุโมงมุมอับมันเยอะนะครับ อยากให้หาที่จอดที่อื่นจะดีกว่าครับ เพราะมันอันตรายทั้งต่อคุณเองและเพื่อนร่วมทางครับ จากคุณ : Eevrastop เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 19:25:18

ความคิดเห็นที่ 9   ถ้าเรา ยึด กฎจราจร ว่า คือ กฎแห่งความปลอดภัย อุบัติเหตุ หลายๆกรณี จะไม่เกิด แต่เมื่อเรา ย่อหย่อน ด้วยเหตุผลใดก็ตาม นั่นหมายถึง เราเปิดโอกาส ให้สิ่งนั้น เกิดได้ง่ายขึ้น มอไซค์ วิ่งย้อนศร/ ฝ่าไฟแดง /จอดในที่ห้าม หรือ คับขัน ไม่ต่างอะไร กับ รถยนต์ แซงทางโค้ง ฝ่าเส้นทึบ ในมุมอับสายตา ตามตจว. เกิดอุบัติกับ 18 ล้อ บรรทุกหิน ถามว่า เห็นใจ ใครดี 4 ล้อ หรือ 18 ล้อ ? จากคุณ : ด้วยรักและผ่านมาก่อน เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 19:49:21 A:58.9.233.7 X: TicketID:127369

ความคิดเห็นที่ 10 สงสารคนขับรถมอเตอร์ไซค์ครับขับปรกติตำรวจก็จ้องจับ จะให้วิ่งเลนซ้ายเลนซ้ายก็มีรถจอดอยู่จะให้ไปยังไง? ฝนตกก็เปียกแถมโดนรถยนต์วิ่งเร็วๆทำน้ำกระเด็นใส่ ขับมอเตอร์ไซค์ดีอย่างเดียวครับ รถติดมันยังไปได้เรื่อยๆ อิอิ แต่ผมก็ขับทั้ง4ล้อ2ล้อน่ะ รถยนต์ขับดีๆก้อมี มอเตอร์ไซค์ขับดีๆก็มี ถนนมีไม่กี่เลนแบ่งๆกันใช้ครับ ขับรถดี มีน้ำใจ ภัยไม่มีน่ะครับ จากคุณ : หลังติดเบาะ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 19:51:26

ความคิดเห็นที่ 11   ผมไปเยี่ยมเพื่อน ที่อเมริกา เมื่อ ห้าปีที่แล้ว เขาขับรถ แบบผมต้อง ทัก ด้วยความแปลกใจ เขาขับออกจากซอย ก่อนออกถนนใหญ่ สองข้างทาง โล่ง ไม่มีรถสักคัน ไม่มีมุมอับสายตา เขาจอดติดนิ่ง 3 วินาที แล้วค่อยออกตัว อีกครั้ง เขาบอกว่า ถ้าไม่จอดติดนิ่ง ตำรวจเห็น โดนใบสั่งครับ ไม่มีต่อรอง ไม่มีใต้โต๊ะ เพราะ เขาเรียก สิ่งนี้ว่า จิตสำนึกต่อสาธารณะและคนร่วมชาติ เพื่อนผมบอกว่า รถที่จะต้องระวังมากที่สุด และปลอดภัยที่สุด สำหรับ อเมริกา คือ รถโรงเรียน ( สีเหลือง รูปทรงคลาสสิค นั่นแหละ) วินัยสร้างคน คนสร้างชาติ ถ้าคนยังไม่มีวินัย แล้วจะเอาอะไร ไปสร้างชาติ แล้วในปีนั้นแหละ (เมื่อห้าปีที่แล้ว) ผมลงรถไฟใต้ดิน ที่นิวยอร์ค เป้นการใช้บริการ รถไฟใต้ดิน ครั้งแรก ในชีวิต พบว่า มีการจัดนิทรรศการ ที่สถานีรถไฟ มีภาพเก่าๆ ให้ดู เพราะ เขากำลัง เฉลิมฉลอง ครบรอบ 100 ปี การเดินรถไฟใต้ดิน ในปีเดียวกัน นั้นเอง ประเทศไทย เริ่มให้บริการ รถไฟใต้ดิน MRT เป็นครั้งแรก จากคุณ : ด้วยรักและผ่านมาก่อน เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 19:59:56 A:58.9.233.7 X: TicketID:127369

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นใจทั้งคู่ครับ จากคุณ : white_pooh_bear เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:05:27

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นใจทั้งคู่ครับ ใครเจ็บมากก็เห็นใจมากกว่า เป็นกรณีไป แต่ถ้าในความถูกต้องที่ห้ามจอดก็อย่าจอดครับ มันต้องมีเหตุและผล ถึงจะเกิดปัญหาได้ เท่าที่อ่านข้างบนมีแค่คนเห็นใจรถมอเตอร์ไซค์ ผมก็เข้าใจนะ ส่วนตัวก็ขี่อยู่ แต่ถ้ามุมกลับกัน รถยนต์ขับมา มีเด็กนั่งมาด้วย แล้วเกิดหักหลบรถมอไซค์ที่จอดอยู่แบบตกใจ รถหมุนเสียหลักไปชนกับรถที่สวนทางมา คนขับเจ็บหนัก เด็กเสียชีวิต อันนี้จะเรียกความผืดกับใครดีล่ะ เผลอๆมอไซค์แถวนั้นหายหมดใครจะรู้ ทางที่ดีอย่าทำดีกว่าครับ ไม่คุ้มทั้ง 2 ฝ่าย จากคุณ : โอพ่อพระ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:14:08

ความคิดเห็นที่ 14   เห็นใจรถยนต์ครับ ลองสังเกตุไม่ว่าใต้อุโมงค์ ใต้สะพาน มอเตอร์ไซด์หลบฝนผมไม่ว่า แต่หลบฝนกินกันเป็นเลนมันน่าเห็นใจตรงไหน จากคุณ : TONTIW เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:15:04

ความคิดเห็นที่ 15 เค้าห้ามไม่ให้มอเตอร์ไซร์ลงอุโมงค์นี่ จากคุณ : เกาลูน (issyza) เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:23:31

ความคิดเห็นที่ 16   มันก็แค่สมมติ ถ้าชนจริงๆ รถยนตร์ผิดครับ ข้อหาขับโดยประมาท  คุณต้องพร้อมเบรค พร้อมที่จะหยุดรถตลอด มอเตอร์ไซค์มีความผิดครับแต่แค่ ฝ่าฝืนป้ายจราจร แต่กีดขวางการจราจร ดูจากการจอดแล้วรถยังผ่านไปได้ จึงตกไปครับ ถ้ากีดขวางต้องผ่านไปไม่ได้ 10 กว่าคัน ก็ 10กว่ากรรม แยกกันครับ ต่างกรรมต่างวาระ ....หัวโตแน่นอน จากคุณ : CitizenShip เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:38:49

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเคยใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะในการทำงานกว่า 10 ปี ปัจจุบันใช้แต่รถยนต์เป็นพาหนะมอเตอร์ไซค์ใช้แค่ไปตลาดใกล้ ๆ บ้าน เห็นใจทั้งสองฝ่ายครับ แต่สมัยก่อนฝนตกผมจะไม่จอดในที่เป็นอันตรายเช่นนี้แน่นอนจะจอดบนฟุตบาทใต้สะพานลอยหรือจอรถให้รถเปียกฝนแต่ผมหลบใต้ชายคาตึกแถวริมฟุตบาทครับ มีจิตสำนึก คิดถึงความลำบากของคนอื่นบ้าง ไม่ประมาท และเห็นแก่ตัว ความปลอดภัยก็จะมากขึ้นเองครับคนไทยทุกคน จากคุณ : peeang เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 21:02:07

ความคิดเห็นที่ 18 ตาม กฎหมาย ก็ตาม คห.16 ครับ ตาม อารมณ์ ก็ ทุก คห. ครับ ขอขอบคุณ จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 21:59:31

ความคิดเห็นที่ 19   เห็นใจทั้งคู่ครับ แต่ถ้าต้องเลือกจริงๆ ผมเห็นใจ ฝั่งรถยนต์มากกว่า เพราะเค้าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ทำไรผิด เคารพกฏจราจรทุกอย่าง สำหรับ มอเตอร์ไซค์ ถือว่าประมาทอย่างมากที่จอดรถในที่แบบนั้น น่าจะคิดไกลๆ สักหน่อย ไม่ใช่เอาง่ายเข้าว่า สำหรับ รถยนต์ ไม่มีไรจะบอกครับ นอกจาก คำว่า "ซวย" จากคุณ : tete เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 22:50:09 A:58.9.53.153 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ฝนตกถนนลื่น ก็อย่าขับเร็วกันสิ เรื่องไม่เป็นเรื่อง .-_-. จากคุณ : Jun Asawa เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 23:03:46

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่สงสารใครเลยประมาททั้งคู่ จากคุณ : OmO_M@Y เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 23:23:17

ความคิดเห็นที่ 22 ลองจอดในอุโมงค์แยกเกษตรดิครับ ได้มีตายจริงๆแน่ เพราะเป็นอุโมงค์โค้ง เข้าโค้งมาเจอจอดหลบฝน ยังไงก็คงหลบไม่พ้นครับ จากคุณ : BeatBox เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 23:23:33

ความคิดเห็นที่ 23 ทำไมไม่มีใครคิดว่าต้องจำกัดความเร็วตามกฎหมายกันมั่งเหรอครับ เพราะไม่ว่าบนสะพานหรืออุโมงค์ มันก็ถูกจำกัดความเร็วไม่เกิน 50 ทั้งนั้น...แต่มีใครปฏิบัติตามบ้างครับ? ดูอย่างบนสะพานข้ามแยกลาดพร้าวจำกัดความเร็วที่ 20 เอง แต่ไอ้แท็กซี่ที่มาโวยวายว่าสะพานไม่ปลอดภัย มันขับที่ความเร็วเท่าไรครับ เกิน 20 มั้ย? จริงๆ มอไซค์หลบฝนก็น่าเห็นใจครับ เพราะมอไซค์นี่มีศัตรูบนท้องถนนมากๆ ถนนใน กทม. ก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อนมอไซค์วิ่งแม้แต่น้อย (พูดง่ายๆ ก็คือ จริงๆ แล้วมอไซค์ไม่มีถนนจะวิ่งนั่นแหล่ะ) นอกจากถนนบางนา - ตราด ที่มีเลนมอไซค์โดยเฉพาะ แม้จะไม่มีตลอดทั้งเส้นก็ตาม ไหนจะ พี่ตั้ม ที่คอยจับผิดเมือ่ไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย ไหนจะคอยหลบรถที่พุ่งออกมาจากซอย ไหนจะสิ่งกีดขวางในเลนซ้ายสารพัด เช่น กรวยสีส้ม หลุมฝาท่อที่ปิดไม่เสมอกับถนน ไหนจะขึ้นสะพานก็ไม่ได้ ลงอุโมงค์ก็ไม่ดี ที่จอดหลบฝนก็ไม่มี ต้องไปจอดหลบในปั๊ม ใต้สะพานลอย ใต้ทางด่วน ในอุโมงค์ แต่รถยนต์ไม่ค่อยน่าเห็นใจครับ เพราะมีถนนให้วิ่งเยอะแยะกว่ามอไซค์หลายเท่า นั่นหมายความว่า ผู้ขับรถยนต์ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นตามพื้นที่ของถนนครับ ถ้าขับรถไม่มีความระมัดระวัง นั่นแปลว่า ประมาทครับ จากคุณ : ทัชชี่ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 23:27:37

ความคิดเห็นที่ 24 สำหรับจอดหลบฝนผมเห็นใจทั้งคู่ครับ ทั้งรถทั้งมอเตอร์ไซด์ เพราะว่าถ้าใครเคยได้ขับมอเตอร์ไซด์ก็จะรู้ด้วยตัวเองครับ ว่ามันอันตรายมากเวลา ฝนตก ถนนลื่นมากอาจเสียหลักได้ง่าย  ปรกติแค่ขี่เหยียบหินก้อนใหญ่ๆบ้างคนยังล้มกันเลย   แล้วเวลาขี่ฝ่าสายฝน ถ้าใส่หมวกกันน๊อคแบบปิดหมดก็ไอน้ำขึ้นเต็มครับ ใส่แบบครึ่งใบน้ำก็เข้าตา (อารมณ์เดียวกับขับรถตอนฝนตกแล้วแอร์เสียแล้วฝ้าขึ้นเต็มกระจกนั่นแหละครับ)  แต่ถ้าชินทาง รู้ว่าข้างหน้ามีที่หลบเช่น ปั้มน้ำมัน หรือตึกอะไร ก็ไปข้างหน้าเถอะครับ   ส่วนรถใหญ่ก็ขับกันระวังๆหน่อยครับ ฝนตกถนนลื่นจะขับเร็วกันทำไม ธรรมดาปกติตรงอุโมงค์เกษตร ฝนไม่ตกก็เห็นมีอุบัติเหตุกันตลอดอยู่แล้ว (ใส่กันมาเกือบร้อย แล้วมาเบรคกันในอุโมงค์ ถ้าเข้าโค้งไม่ทันก็ชน ถ้าเราทัน คันหลังไม่ทันก็ชน สุดท้ายก็กลับบ้านช้าอยู่ดี เผลอๆไม่มีรถกลับบ้านด้วย) แต่ถ้าเป็นกรณีอื่นเช่นวิ่งย้อนศร ขับปาดไปปาดมา แล้วเกิดอุบัติเหตุอันนี้ผมสมน้ำหน้าครับ จากคุณ : เด็กอ้วน_KUB เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 00:17:08

ความคิดเห็นที่ 25   หลบฝนผมเข้าใจและเห็นใจคนขี่มอเตอร์ไซค์ครับ ผมก้อใช้มอเตอร์ไซค์เหมือนกัน ผมว่าควรจะหาที่จอดหลบฝนที่มันปลอดภัยกว่านี้หน่อยครับ ปกติผมก้อหลบฝนประจำแต่ผมจอดชิดข้างทางแล้วขึ้นไปยืนหลบฝนตามร้านค้า , ใต้ชายคาตึกแถวมากว่าครับ แต่ถ้าหลบฝนในอุโมงค์ หรือในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ( บางคันจอดไม่ชิดข้างทางโผล่ออกถนนเยอะ ) อันนี้ผมว่าช่วยไม่ได้ละครับ ผมว่า จกท. อย่าเอาจำนวนคนมาเป็นที่ตั้งเลยครับ มอเตอร์ไซค์หากโดนชนก้อบาดเจ็บสาหัสอาจถึงตายเลยก้อได้ แต่ในกรณีนี้ผมยังเห็นใจคนขับรถยนต์มากกว่าครับ ปล. ต่อให้ตัวเปียกปอนยังดีกว่าเอาตัวเองไปเสี่ยงนะครับ จากคุณ : athit1975 เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 08:31:25 A:125.26.65.220 X: TicketID:061694

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านข้อความของ จขกท คนขี่ 2 ล้อ มีเหตุผล "ส่วนตัว" แต่กระทบต่อความปลอดภัยของ "ส่วนรวม" อย่างที่ คห11 ยกตัวอย่างมา จอดรถหยุดนิ่ง นั่นคือมี stop sign ถ้าเป็น all-way stop sign ทุกคน ก็จะต้องรุ้ว่า ใครมาก่อน ไปก่อน ไม่ว่า 2 ล้อ หรือ 4 ล้อ ต้องตามกฎ อ้างได้หรือไม่ว่า "ฝนตก ขอ2 ล้อไปก่อนเถอะ" ประเทศเค้า ไม่มีอนุโลม ที่อเมริกา หรือประเทศที่เจริญแล้ว จะมาอ้างเหตุผล "ส่วนตัว" กับทางกฎหมายไม่ได้ กฎคือกฎ ไม่สามารถฝ่าฝืน เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของ "ส่วนรวม" เห็นใจน่ะ เห็นใจ แต่กฎหมาย มันก็ต้องเป็นกฎ ไม่อย่างนั้นต่อไป นอกจาก 2 ล้อจะจอดกันริมๆใต้อุโมงค์เป็นแถว ต่างคนต่างมาหลบฝนในอุโมงค์มากขึ้นจนปิดไปครึ่งเลน หรือ 1 เลน ถามว่า อ้างความเห็นใจจากรถยนต์ประเภทอื่นได้หรือไม่? จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 10:43:46

ความคิดเห็นที่ 27 เดี๋ยวนี้ คนเราเป็นอะไรกันไปหมด   เอาเรื่องนั้น ปนกับเรื่องนี้ไปทั่ว   ถามแต่แรกว่า   แล้วมันเรื่องอะไรที่ต้องไปหลบฝนในอุโมงค์  มันเป็นที่หลบฝนอย่างนั้นหรือ   เมื่อลงไปหลบฝนเป็นหลายสิบคันในนั้น มันกีดขวางการจราจร จนน่าที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่     ตัวเองเป็นต้นตอของการเกิดอุบัติเหตุ   เมื่อเกิดเหตุกลับมาถามว่า จะเห็นใจใคร   สำหรับเรานะคะ    ชีวิตคนมีค่าเท่ากันค่ะ  ไม่ว่าจะคนขี่มอเตอร์ไซด์หรือคนขับรถยนต์   มันแบ่งแยกไม่ได้หรอกค่ะว่า  จะเห็นใจใครมากกว่ากัน แต่ที่แน่ๆคือ   มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องลงไปหลบฝนในนั้น   และอีกอย่างเหมือนอย่างที่คุณข้างบนว่า   บ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง  เพื่อไว้รักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน  เหตุใดคุณถึงคิดที่จะเอาความ"มักง่าย" ส่วนตัว  ไปก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นละคะ   แล้วยังจะเอาเรื่องคามเห็นใจมาปน   เราว่า มั่วจริงๆค่ะ จากคุณ : วันนี้รักเธอที่สุด เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:22:43

ความคิดเห็นที่ 28   แต่เวลาลงอุโมงค์ใต้ดินผมไม่ขับเร็บนะแล้วก็ชิดซ้ายด้วย เห็นคันอื่นๆลงมาเร็วแล่นกันเร็วมากๆๆเลนก็ชิดกันจริงๆ ถ้าชนกันมาในนั้นก็จะอัดต่อๆกันไปเป็นโดมิโน่เลยล่ะ เวลาฝนตกก็เห็นตำรวจจราจรบนทางด่วนเค้ามาหลบฝนใต้แนวทางด่วนด้านบนบ้างบ้าง(ทางออกไปดินแดง) คาดว่าเค้าทำได้เพราะเลนมันกว้างและทัศนวิสัยดีเห็นแต่ไกลว่ามีคนจอดมอเตอไซ ไม่ชนแน่นอน แต่กระทู้ที่แล้วที่เป็นปัญหาขึ้นมาก็คือมีมอเตอไซไปหลบฝนในอุโมงค์ซึ่งมันเป็นจุดที่ทัศนะวิสัยไม่ดีมากๆ ถ้าเห็นก็คือมันกระชะ้นชิดมากๆแล้ว เหมือนว่าคุณเดินอยู่มุมตึกแล้วมีคนมาดักจ๊ะเอ๋นั่นแหละ ครั้งจะหลบก็หลบไม่ได้เพราะเลนมันแคบมากๆพาลจะทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เราหักหลบไปชนคันอื่นพังวอดวายส่วนมอเตอไซต้นเหตุเห็นคนที่หักหลบตัวเองแล้วรีบขี่หนีออกไปเลย..... จากคุณ : ............. เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:40:16 A:10.216.90.40 X:203.170.231.232 TicketID:157584

ความคิดเห็นที่ 29 ผมโหวต รถยนต์นะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นใจมอเตอร์ไซด์ นะครับ จากที่ผมขับรถยนต์ ลงอุโมงค์มาหลายแห่ง มันเป็นเส้นทางที่อันตรายนะครับ ทั้งแสงน้อย ทั้งทางโค้ง .... ถ้าอุโมงค์มันมีไหล่ทางเหมือนสะพานบางแห่ง หรือถนนทั่วๆ ไป ผมว่ามันก็คงไม่อันตรายเท่าไหร่ แต่นี่มันไม่มี ประกอบกับอุโมงค์แทบทุกที่เป็นทางโค้งอีก บางทีมองไม่เห็นชาวสองล้อหรอกครับ และผมว่่าคนขับรถยนต์หลายๆ คน เมื่อขับลงไปแล้วเค้าคงไม่ได้คาดคิดมาก่อนหรอกว่า ลงไปจะมีรถมอเตอร์ไซด์ มาจอดในอุโมงค์ เมื่อเห็นแล้ว บางคนอาจจะเบรคเพื่อชลอความเร็วทัน บางคนตกใจหักออกขวา ไปชนรถอีกเลนนึง หรือบางคนอาจจะเบรคตัวโก่ง สุดท้ายรถปัด กวาดมอเตอร์ไซด์ไปหลายคัน ด้วยความเคารพ ชาวสองล้อ ผมว่า ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะไปหลบฝนในอุโมงค์ครับ คุณมีเหตุผลว่า มีเอกสารสำคัญ มีเครื่องมือทำมาหากินสำคัญ มีเด็กไม่สบาย ไปงานแต่งงาน ต่างๆ นา นา แต่เหตุผลเหล่านี้ มันสำคัญกว่าชีวิตคุณ และชีวิต และทรัพย์สินคนอื่นหรือครับ.... ขอเถอะครับ อุโมงค์ มันเป็นจุดอับ และอันตรายมากกว่า ถนนบนดิน หรือ สะพานข้ามแยกหลายเท่านะครับ ปกติผมขับรถ ก็เห็นใจชาวสองล้อนะครับ สะพานข้ามแยกหลายแห่งที่มอเตอร์ไซด์ขึ้นไป ทั้งที่จริงๆ ห้ามขึ้นผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะทัศนวิสัยมันชัดเจนกว่าในอุโมงค์เยอะ เมื่อผมขับรถตามมอเตอร์ไซด์บนสะพานข้ามแยกแล้วแซงไม่ได้ ผมก็ไม่เคยคิดที่จะ จี้ตูด เบียด บีบแตร หรือ ดริฟไฟไล่อะไรทั้งนั้น ผมเลือกขับตาม มอเตอร์ไซด์ไปเรื่อยๆ จนกว่าเลนขวาผมจะว่างพอที่จะให้แซงได้ รวมทั้งเวลาผมขับตามมอเตอร์ไซด์ในอุโมงค์ ผมก็ทำแบบนี้เหมือนกัน แต่จอดนี่มัน มากไปหน่อยน่ะครับ อันตรายมาก บางทีความเร็วแค่ 50-60 กม./ชม. บนถนนที่เต็มไปด้วยน้ำฝน ก็ทำให้รถกระบะ บางคันปัดได้แล้วนะครับเมื่อเบรคกระทันหัน เพื่อนผมเคยมาแล้ว ท้ายปัดที่ความเร็วไม่ถึง 60 แต่ยังดีที่ไม่ใช่ในอุโมงค์ จากคุณ : 000 (aekalter) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 14:04:52

ความคิดเห็นที่ 30 ผมก็ขับทั้ง 2 แบบ ถ้าขับมอไซด์  ่ไม่คิดไปหลบฝนในอุโมงค์แน่ มันคือจุดฝังตัวเองชัด ๆ เพราะ  หากมีรถแก๊ส มาระเบิดในอุโมง ถ้่าขับรถยนต์ จะเปิดไฟใช้ความเร็วต่ำ ...  สงสัยดูหนังแอคชั่นเยาะ เลยเห็นว่าเขาชอบใช้ฉากอุโมงค์นี่แหละทำเสียว   จากคุณ : นบนอบ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 15:07:55

ความคิดเห็นที่ 31 เหตุผลแต่ละอันนี่ เห็นแก่ตัวทั้งนั้น กลัวนั่น กลัวนี่ แต่ไม่กลัวรถคันอื่นจะเกิดอุบัติเหตุเพราะตัวเอง ตอบอย่างไม่ลังเล เห็นใจคนขับรถยนต์ จากคุณ : + + D O L a T E + + เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 15:49:27

ความคิดเห็นที่ 32 สำหรับมอเตอร์ไซค์ที่รักชีวิตเค้าคงใส่หมวกกันน็อคพร้อมรัดใต้คางและคงไม่ลงไปจอดหลบฝนในอุโมงค์ ฉะนั้นผมไม่ห่วงพวกนี้ครับ สำหรับพวกไม่รักชีวิต คิดตื้นๆ ลงไปจอดหลบฝนในอุโมงค์ที่ห้ามมอเตอร์ไซค์ลง ขนาดตัวเค้ายังไม่รักชีวิตตัวเองเลย ทำไมผมต้องสงสารเค้าด้วยหล่ะครับ สงสารรถครับ จากคุณ : นอต (coolknott) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 22:02:22

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยกับ คห.23 กฎหมายจำกัดความเร็วบนสะพาน และในอุโมงค์ มีใครสนใจปฏิบัติตามกันบ้างครับ ถ้าทำตามกฎ ขับไม่เกิน 40-50 ผมว่ายังไงก็เบรคทัน ถ้าไม่ทันก็คือประมาทแล้วล่ะครับ ส่วนตัวผม ขี่มอเตอร์ไซค์ แต่ไม่เคยลงไปหลบในอุโมงค์ครับ ผมพกชุดกันฝนและรองเท้ากันฝนติดรถตลอดครับ หนักแค่ไหนผมก็ไปได้โดยไม่เปียกครับ (ยกเว้นน้ำท่วม อันนี้จนปัญญา) จากคุณ : Mr.Submarine เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 01:09:53