ความคิดเห็นที่ 1 น่าจะผิดทั้งสองนะ - - จากคุณ : PPalone เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 18:37:07

ความคิดเห็นที่ 2 น่าจะผิดทั้งคู่นะ "สำเนาบัตรที่ใช้ก็เป็นของจำเลยเอง รูปที่มาแปะทีหลังก็เป็นรูปเดียวกับของจริง ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใด แม้จะปลอมขึ้นมาหรือเอาไปใช้" แบบนี่เราถ่ายสำเนาแล้วทำปลอมไว้เยอะ ๆ ก็ได้นะสิค่ะ พอโดนยึดที เราก็เอาสำเนาใหม่มาใช้ - - ว่าแต่มันทำกันง่าย ๆ หรือค่ะ มันต้องมีตราประทับอะไรอีกเยอะแยะนี่นา ปลอมแปลงเอกสารราชการยังไงก็ผิดไม่ใช่เหรอค่ะ กฏหมายใบขับขี่ประเทศไหนนี่ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 18:46:02 จากคุณ : eissee เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 18:44:22

ความคิดเห็นที่ 3 ศาลฎีกาเป็นศาลสูงสุด สามารถยกคำพิพากษาศาลฎีกา มาประกอบการตีความตัวบทกฏหมายได้ โจรในเครื่องแบบหลายๆ ท่าน ใช้ช่องว่างของกฏหมาย ขูดรีดประชาชน บางที ประชาชนคงต้องศึกษาช่องว่างของกฏหมาย ไว้หลบโจรเหล่านี้..... แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 18:50:25 จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 18:48:46

ความคิดเห็นที่ 4 ควรดูที่เหตุแวดล้อมประกอบด้วยครับ เหตุไม่เหมือนกัน ผลก็ย่อมไม่เหมือนกันครับ จากคุณ : monticello เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 19:31:32

ความคิดเห็นที่ 5 เอารายละเอียดในฏีกามาให้ดูครับ *********** โจทก์ ฟ้อง ว่า เมื่อ วันที่ 6 ตุลาคม 2536 เวลา กลางคืน ก่อน เที่ยงจำเลย กระทำผิด ต่อ กฎหมาย หลายกรรม ต่างกัน กล่าว คือ จำเลย ได้ ทำ ปลอมขึ้น ซึ่ง ใบอนุญาต ขับ รถ อันเป็น เอกสารราชการ ของ สำนักงาน ขนส่งจังหวัด ขอนแก่น กรมการขนส่งทางบก โดย แก้ไข เพิ่มเติม ภาพถ่าย ในเอกสาร ที่ แท้จริง โดย จำเลย นำ สำเนา ภาพถ่าย ใบอนุญาต ขับ รถ ของ จำเลยเลขที่ ขท. 1716/2523 ชนิด ที่ สาม มา แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมเอา ภาพถ่าย หน้า จำเลย ขนาด 1 นิ้ว มา ปิด ทับ ลง ใน สำเนา ภาพถ่าย ใบอนุญาตขับ รถ ดังกล่าว แล้ว อัด กรอบ พลาสติก ขนาด เท่า เอกสาร ที่ แท้จริง ทั้งนี้เพื่อ ให้ เจ้าพนักงาน ตำรวจ และ บุคคล ทั่วไป หลงเชื่อ ว่า สำเนา ภาพถ่ายใบอนุญาต ขับ รถ ดังกล่าว เป็นต้น ฉบับ เอกสารราชการ ที่ ถูกต้อง แท้จริงของ สำนักงาน ขนส่ง จังหวัด ขอนแก่น ที่นาย ทะเบียน เป็น ผู้ จัดทำ ขึ้นโดย ประการ ที่ น่า จะ เกิด ความเสียหาย แก่ สำนักงาน ขนส่ง จังหวัด ขอนแก่นกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม และ ประชาชน แล้ว จำเลย ได้ ใช้ใบอนุญาต ขับ รถ ที่ จำเลย ทำ ปลอม ขึ้น ดังกล่าว อ้าง แสดง ต่อ ร้อยตำรวจเอก สำเริง สมบูรณ์กิตติกร เจ้าพนักงาน ตำรวจ ประจำ สถานีตำรวจ ทางหลวง 4กอง กำกับ การ 1 กรมตำรวจ ขณะ ปฏิบัติ หน้าที่ เรียก ตรวจ ใบอนุญาต เป็นผู้ขับ รถ เพื่อ ให้ หลงเชื่อ ว่า เป็น ใบอนุญาต ขับ รถ ที่ แท้จริง ทั้งนี้โดย ประการ ที่ น่า จะ เกิด ความเสียหาย แก่ ร้อยตำรวจเอก สำเริง และ ประชาชน เหตุ เกิด ที่ ตำบล กลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัด นครราชสีมา เจ้าพนักงาน จับ จำเลย ได้ พร้อม กับ ยึด ใบอนุญาต ขับ รถ ที่ จำเลย ทำ ปลอม ขึ้นดังกล่าว เป็น ของกลาง ขอให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264,265, 268, 91, 32, 33 และ ริบของกลาง ********* จำเลย แถลง ขอ ต่อสู้ คดี แต่ มิได้ ยื่นคำให้การ ถือว่า จำเลย ให้การปฏิเสธ ********* ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265, 268 ให้ ลงโทษ ตาม มาตรา 268 กระทง เดียว จำคุก 1 ปีคำให้การ รับสารภาพ ชั้นสอบสวน ของ จำเลย เป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณามีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ หนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คง จำคุก จำเลย มี กำหนด 8 เดือน ริบของกลาง ******** จำเลย อุทธรณ์ ******** ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน ********* จำเลย ฎีกา โดย ผู้พิพากษา ซึ่ง พิจารณา และ ลงชื่อ ใน คำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาต ให้ ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ******* ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า "จำเลย ฎีกา เป็น ปัญหาข้อกฎหมาย ข้อ แรก ว่าการกระทำ ของ จำเลย ตาม ที่ โจทก์ บรรยาย มา ใน ฟ้อง เป็น ความผิด ฐาน ปลอมเอกสาร หรือไม่ เห็นว่า การ ที่ จำเลย นำ เอา ภาพถ่าย ของ จำเลย เอง มา ปิดทับ ลง ใน สำเนา ภาพถ่าย ใบอนุญาต ขับ รถ ของ จำเลย ถึง แม้ จะ กระทำ ไป เพื่อให้ เจ้าพนักงาน ตำรวจ และ บุคคล ทั่วไป หลงเชื่อ ว่า เป็นต้น ฉบับ เอกสารที่ แท้จริง แต่ ใน เมื่อ เป็น ภาพถ่าย ของ จำเลย และ เป็น สำเนา ภาพถ่ายใบอนุญาต ขับ รถ ของ จำเลย เอง การกระทำ ของ จำเลย ย่อม ไม่ ก่อ ให้ เกิดความเสียหาย ใด ๆ แก่ ผู้อื่น หรือ ประชาชน จึง ไม่เป็น ความผิด ฐานปลอมเอกสาร แม้ จำเลย จะ นำ ไป ใช้ ก็ ไม่ทำ ให้ จำเลย มี ความผิด ฐาน ใช้เอกสารปลอม ตาม ที่ โจทก์ ฟ้อง ไป ได้ ปัญหา นี้ เป็น ข้อกฎหมาย ที่ เกี่ยวกับความสงบ เรียบร้อย แม้ จะ ไม่ได้ ยกขึ้น ใน ศาลชั้นต้น และ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1ก็ ตาม จำเลย ผู้ฎีกา ก็ ยกขึ้น อ้าง ได้ ตาม ประมวล กฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบ มาตรา 225 คดี ไม่จำต้อง วินิจฉัยปัญหา ตาม ฎีกา ข้อ อื่น ของ จำเลย อีก ต่อไป คำพิพากษา ของ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1ไม่ต้อง ด้วย ความเห็น ของ ศาลฎีกา ฎีกา ของ จำเลย ฟังขึ้น " ******** พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 19:35:19

ความคิดเห็นที่ 6 ศาลก็ได้ตัดสินไปแล้ว ขอแสดงความคิดเห็นนะครับไม่ได้วิจารณ์ศาลนะ เรื่องใบขับขี่ผู้ทำมีเจตนาหลอกลวงชัดเจนเลยเพราะไม่ได้บอกว่าเป็นสำเนา และไม่ยอมเสียค่าปรับด้วย ไม่ผิดฐานปลอมแปลงก็น่าจะผิดฐานหลอกลวง แล้วทำไมป้ายเสียภาษีถึงผิด ที่อ่านเข้าใจว่าต่อภาษีจริงไม่ได้แก้ไข้ใดๆ แต่ถ่ายสำเนาสีมาติด งง หรือผมอ่านไม่เข้าใจ จากคุณ : cagiva เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 19:46:23

ความคิดเห็นที่ 7 เค้าห้ามยึดใบขับขี่ กุญแจรถ แล้วไม่ใช่เหรอครับ แจกก็แต่ใบสั่งได้เท่านั้น จริงปะ ก็ไม่น่ามีเหตุผลให้ต้องทำหลายๆใบนะเนี่ย จากคุณ : โอพ่อพระ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:08:40

ความคิดเห็นที่ 8 #7 จากที่ผมอ่านข้อกฏหมายมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร พบเห็นการกระทำผิดจราจร สามารถยึดใบขับขี่ และออกใบสั่งให้ใช้แทนใบขับขี่ได้ครับ ในใบสั่งก็ยังเขียนไว้ว่าใช้แทนใบอนุญาตขับขี่ได้ 7 วัน ถ้าไม่ได้ทำผิดกฏจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเรียกดูใบขับขี่ เพื่อตรวจสอบได้ครับ แต่ถ้าใบอนุญาตถูกต้อง และไม่ได้ทำผิดกฏจราจร ก็ไม่สามารถยึดใบขับขี่ได้ ในทางกลับกัน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สงสัยว่าผู้ขับขี่มึนเมา สามารถให้เป่าเครื่องแอลกอฮอล์ได้ หากฝ่าฝืน ไม่ยอมเป่า ศาลได้เคยพิพากษาจำคุกไปเรียบร้อยแล้วครับ ไม่แน่ใจว่ารอลงอาญาหรือเปล่า แต่ถ้าเป่าแล้ว ปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกินกฏหมายกำหนด ก็ต้องปล่อยไป และต้องคืนใบขับขี่ครับ จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:12:58

ความคิดเห็นที่ 9 ปลอมเอกสาร หมายถึง ทำให้เอกสารที่ไม่มีอยู่จริง ให้เป็นจริงขึ้นมา ถ้าเอกสารที่มีอยู่แล้ว และทำขึ้นมาเลียนแบบ เขาเรียกว่า สำเนาเอกสารครับ เช่น คุณเอา Transcript ไปถ่ายเอกสาร จะถือว่าเป็นการปลอมเอกสารหรือ? หรือเอาบัตรประชาชนไปถ่ายเอกสาร จะถือเป็นการปลอมเอกสารได้อย่างไร การทำสำเนานั้น ไม่ว่าจะทำเหมือนขนาดไหน ก็ถือว่าเป็นสำเนา ดังนั้นกรณีนี้จึงไม่เข้าข่าย ปลอมเอกสาร แต่จะผิดมาตราอื่นอีกหรือไม่ ก็ไม่แน่ครับ ศาลจะพิจารณา จะพิจารณาตามคำฟ้อง เนื่องจากคำฟ้องไม่ได้กล่าวหาว่าหลอกลวง แต่กล่าวหาว่าปลอมเอกสาร ศาลจึงยกฟ้องไงครับ สำหรับป้ายภาษีนั้น คงจะเป็นการปลอมให้เห็นว่าต่อภาษีทั้งที่ไม่ได้ต่อจริง จึงเป็นการปลอมเอกสาร จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:18:50

ความคิดเห็นที่ 10 "การกระทำ ของ จำเลย ย่อม ไม่ ก่อ ให้ เกิดความเสียหาย ใด ๆ แก่ ผู้อื่น หรือ ประชาชน" คัดบางส่วนมาจากฏีกาครับ รบกวนถามท่านผู้เฒ่าสายลมว่า จะผิดมาตราใดได้บ้างครับ จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:24:24

ความคิดเห็นที่ 11 ผมไม่ใช่นักกฏหมายนะ แต่เท่าที่อ่าน ศาลพิจารณาว่า ไม่ผิดฐานปลอมเอกสาร แต่ถ้าคุณขับรถฝ่าไฟแดง หรือ เมาแล้วขับ คุณก็ต้องรับโทษอยู่ดี เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะแสดงใบขับขี่ตัวจริง หรือ สำเนา คุณก็เลี่ยงความผิดนั้นๆไม่ได้.... จากคุณ : nuinonthaburi เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:48:54

ความคิดเห็นที่ 12 เค้าไม่ได้ให้ "หน้าที่" แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าต้องยึดใบขับขี่ตั้งแต่ต้น แต่ให้ "สิทธิ" แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะพิจารณายึดใบขับขี่ได้ ถ้าหากว่า กฎหมายกำหนดว่า... เมื่อคนขับทำผิดกฎจราจร เจ้าหน้าที่ "ต้อง" ยึดใบขับขี่เป็นตัวประกัน เพื่ิอให้คนขับไปเสียค่าปรับ อย่างนี้คนขับถึงจะมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารจนเกิดความเสียหาย หรือ.. คนขับ ไปพิมพ์ชื่อที่ไม่ใช่ชื่อตน ข้อมูลที่ไม่ใช่ของตน อันนี้ผิดเต็มๆ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:53:07

ความคิดเห็นที่ 13 #11 ถ้ากระทำผิดจริง ก็ต้องโดนไปตามความจริงอยู่แล้วครับ #12 ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 21:28:26 จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 21:16:39

ความคิดเห็นที่ 14   ^ ^ คนละเรื่องละหลงประเด็น จากคุณ : ชาวนาไทย555 เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 21:21:50

ความคิดเห็นที่ 15 เคสป้ายภาษี เขาก็ทำ "สำเนา" เช่นเดียวกับในเคส ใบขับขี่ ไม่ได้มีการแก้ไขใดๆ แต่ทำไม "การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐาน "ปลอมเอกสาร" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรคหนึ่ง" แล้วสำเนาป้ายภาษีนั้น "น่าจะเกิดความเสียหายแก่นายทะเบียนยานพาหนะหรือผู้อื่นได้" อย่างไรครับ? แต่ทำสำเนาใบขับขี่ กลับ "ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ แก่ผู้อื่นหรือประชาชน" ??? โอย งง..... จากคุณ : วิกรมาทิตย์ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 21:32:11

ความคิดเห็นที่ 16 คห.15 อ่านดีๆครับ ป้ายภาษี ไม่ได้ไปเสียภาษี ทำขึ้นมาเอง...ผิดมั้ย โกงภาษี...หรือถ่าไม่ผิด ผมจะได้โกงมั่ง อิอิ... จากคุณ : คนจ๊นจน เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 22:08:21

ความคิดเห็นที่ 17 อืม.. ตอนนี้ใบขับขี่เป็นพลาสติก ผมเอาไปให้ร้านทำขึ้นใหม่ข้อความเดิมทุกประการรูปเหมือนกันด้วย (คือ Scan แล้วพิมพ์ลงบนบัตรพลากติกอีกใบ) ผิดไหมครับ จากคุณ : ลุงบุญคำ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 22:32:32

ความคิดเห็นที่ 18 ฏีกา 213/2539 เรื่องสำเนา ใบขับขี่ // แต่ในเมื่อเป็นภาพถ่ายของจำเลยและเป็นสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับรถของจำเลยเอง // ตรงนี้  ผมว่า น่าจะเป็นจุดที่ศาล มองว่า ขาดเจตนาครับ ในเมื่อตัวเอง มีขับขี่อยู่แล้ว  ทำ copy ของตัวเอง  มันไม่มีเจตนากระทำผิดนะ ถ้าไม่มีใบขับขี่ แล้วทำปลอมเอง   คงไม่รอดแน่ อันนี้พยายามจะพาเหตุผล จาก คำพิพากษามาคุยกันนะครับ จากคุณ : ถัง เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 23:51:18

ความคิดเห็นที่ 19   ยังไงช่วยขอรายละเอียดฎีกาที่ 2463/48 เรื่องสำเนาภาษี และ พรบ.ฯ มาเทียบกันด้วยครับ ว่ามันต่างกันจุดไหน จากคุณ : นที เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 06:00:05 A:125.25.14.143 X: TicketID:072386

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องใบเสียภาษีน่าจะสำเนาแล้วเอาไปติดอีกคันหรือเปล่าครับ....เพราะไม่มีเหตุผลที่จะสำเนาติดคันจริงซึ่งมีตัวจริงติดอยู่แล้ว ซึ่งให้คนหลงเชื่อว่าเป็นใบเสียภาษี/ประกันภัยที่แท้จริงของรถคันนี้ ....น่าจะเป็นแนวนี้นะ . แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 07:21:51 จากคุณ : แกงป่าปลาเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 07:17:38

ความคิดเห็นที่ 21   ตรงนี้ ต้องดู ฐานความผิดที่ฟ้อง ของโจทก์ และเจตนา ของจำเลย // การที่จำเลยนำเอาภาพถ่ายของจำเลยเองมาปิดทับลงใน สำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับรถของจำเลย ถึงแม้จะกระทำไปเพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจและบุคคลทั่วไป หลงเชื่อว่าเป็นต้น ฉบับเอกสารที่แท้จริง แต่ในเมื่อเป็นภาพถ่ายของจำเลยและ เป็นสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับรถของจำเลยเอง การกระทำของจำเลยย่อมไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ แก่ผู้อื่นหรือประชาชน จึงไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร // กรณีนี้ ศาลท่านดูที่เจตนา ถ้า เอารูปคนอื่น หรือ ข้อมูล หรือ สำเนาคนอื่น ที่ไม่ตรงกับ ต้นฉบับ อันนั้น มีเจตนา ที่ไม่สุจริตแน่ๆ // แต่กรณีนี้ ข้อมูลและรูป ยังเป็นของ เจ้าของทุกประการ ไม่มีผู้เสียหายใดๆ (เข้าข่าย ทำเลียนแบบ / มิใช่ทำปลอม) ถ้าเจ้าของ ทำผิดกฎจราจร โดนยึด แล้วไม่ไปเสียค่าปรับ ฐานความผิด ก็เป็นเรื่อง ไม่ชำระค่าปรับ มีกฎ มีระเบียบอะไรก็ว่าไป ถ้าจะบอกว่า ทำปลอม เผื่อการโดนยึดแล้วไม่เสียค่าปรับ ตรงนั้น ทำปลอม ด้วยข้อมูลเท็จ ไม่ง่ายกว่าหรือ มีแต่รุปจริง ชื่อปลอม ที่อยู่ ปลอม จะไปตามตัว หรือ ส่งปณ. / ใบสั่ง ไปเรียกค่าปรับ อะไร ก็ไม่ได้แล้ว (และกรณีนี้นี่แหละ ที่จะตรงฐานความผิด) ต่างกับ ปลอมป้ายภาษี ที่มีเจตนา เลี่ยงการตรวจ เพราะ ไม่ได้เสียภาษี มาตั้งแต่ต้น จากคุณ : ด้วยรักและผ่านมาก่อน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 08:30:29 A:58.9.67.185 X: TicketID:127369

ความคิดเห็นที่ 22   น่าจะตามความเห็น9ของท่านผู้เฒ่าสายลม นะครับ ที่สำคัญน่าจะอยู่ที่"คำฟ้อง"ด้วย อีกทั้งน่าจะมีเรื่องรายละเอียดที่จะยกมาอ้างในส่วนนั้นๆเช่นเรื่องป้ายทะเบียนมีข้อห้ามว่า"ห้ามดัดแปลง แก้ไข บดบังส่วนหนึ่งส่วนใด"ประมาณนั้น? ส่วนใบขับขี่นั้นไม่รู้ว่ามีข้อดังกล่าวไหมนะครับ จากคุณ : ฮ5555 เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:39:23 A:203.131.212.105 X: TicketID:071933

ความคิดเห็นที่ 23 คห. 16 ผมอ่านดีแล้วครับ ไม่มีตรงไหนบอกว่าไม่ได้เสียภาษี หรือเป็นของรถคันอื่น ลองอ่านดูนะครับ ฎีกา 2463/2548 จำเลย ถ่ายสำเนาเอกสารแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีรถยนต์ประจำปีและแผ่นป้ายประกันภัย คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถเป็นภาพสีให้ปรากฏข้อความที่มีสี ตัวอักษร และขนาดเหมือนฉบับที่แท้จริงแล้วนำไปติดที่รถยนต์บรรทุกและรถพ่วงมีลักษณะ ที่ทำให้หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่นายทะเบียนยานพาหนะหรือผู้อื่นได้ จึงเป็นการปลอมเอกสานขึ้นทั้งฉบับ หาใช่ว่าจำเลยจะต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความให้ผิดแตกต่างไปจากต้นฉบับ เอกสารที่แท้จริงไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรคหนึ่ง น่าจะทำแบบคห. 19 นะ เอารายละเอียดมาเทียบกันดูเลย น่าจะมีอะไรต่างแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 12:07:31 จากคุณ : วิกรมาทิตย์ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 11:59:33

ความคิดเห็นที่ 24 ที่ผมอ่านมาทั้งหมด เป็นฏีกาบรรทัดฐาน ที่เก็งสอบของพวกสอบเนติบัณฑฺิตไทยครับ ตัวผมเองเป็นวิศวกรโยธา แถมอยู่ต่างประเทศ พยายามค้นข้อมูล 2463/2548 ในเน็ตก็ไม่มี กำลังให้รุ่นน้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ ได้เรื่อง ได้ข้อสรุปยังไง จะมาตั้งกระทู้ใหม่นะครับ จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 13:30:19

ความคิดเห็นที่ 25   ต้องเข้าใจว่าเอกสารปลอม ประกอบด้วยองค์ประกอบอะไรบ้าง -ปลอมทั้งฉบับ หรือบางส่วน -ลงลายมือชื่อปลอม -เติมแก้ไข ในเอกสารจริง และ ได้กระทำ เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใด หลงเชื่อว่าเป็น เอกสาร ที่แท้จริง จึงจะผิดฐานปลอมเอกสาร ประเด็นเรื่องใบขับขี่คือ เป็นของตนเองอยู่แล้ว แต่ทำขึ้นมาใหม่ ดังนั้น ไม่มีความผิดถูกต้องแล้วครับ เพราะขาดเจตนา ทำให้คนอื่นหลงเชื่อ ไงครับ เหตุผลเพราะว่า เจ้าตัวใบขับขี่ปลอม นั่นเป็นของเขาอยู่แล้ว นั่นเอง เว้นแต่ ทำสำเนาใบขับขี่คนอื่น แล้วแปะรูปตัวเองลงไป อันนี้ ผิดแน่นอน เพราะมีเจตนาให้คนคิดว่า ตัวเขาในรูป เป็น ชื่ออีกคนหนึ่ง ส่วนเรื่องป้ายภาษี เป็นการ ทำสำเนาเอกสาร ไป "แปะ" กะรถคันอื่น ทำให้ คนอื่นหลงเชื่อว่าเป็นเอกสาร ที่"แท้จริง" ของรถคันนั้น ดังนั้น กรณีนี้ ผิดเต็มๆ ครับ ถ้าเรียน กฏหมายมาก่อน ก็จะเข้าใจไม่ยากฐานความผิดในการตัดสินคดีนี้ครับ จากคุณ : ำพ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 10:27:49 A:10.7.100.16 X:203.148.187.139 TicketID:209675

ความคิดเห็นที่ 26   เห้นด้วยกับ # 21 #25 ครับ ผมเรียนกฎหมายตอนเรียน ป.ตรี เป้นวิชาเลือกครับ กฎหมายจะใช้คำที่ชวนให้งง เพราะมีชี้ไปนี้แล้วถามวกกลับทุกที 555 กรณีนี้ สำเนาใบขับขี่ตัวเองไม่ผิดโทษฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ เพราะแม้จะยื่นให้เจ้าหน้าที่แล้วขับรถหนี เจ้าหน้าที่ก็สามารถติดตามส่งใบสั่งในความผิดตอนนั้นได้ครับ ถ้ายังเก็บหลักฐาน แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิบัติงานโดยมิชอบ เช่นมั่วจับ ก็คงไม่เสี่ยงส่งมา ส่วนกรณีปลอมแปลง พรบ. ป้ายวงกลม (ป้ายภา๊ษี) อันนี้ถ้ารถไม่เอาไปวิ่งที่ไหน บนถนนก็คงทำได้ครับ แต่ถ้าเอามาวิ่งก็ผิดทันที เพราะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าได้ต่อ พรบ และภาษีมาแล้ว และที่ผิดต่อนายทะเบียนคือ นายทะเบียนไม่ได้รับภาษีจริง รถที่ต่อทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสภาพ รถพ่วงไม่มีความปลอดภัยที่จะใช้วิ่งบนถนน ครับ มันจึงส่งผลกระทบต่อนายทะเบียนผุ้ให้อนุญาตต่อทะเบียนภาษี ไงครับ และอาจจะกระทบถึงประชาชนทั่วไปบนถนนครับ เพราะรถไม่มี พรบ.จิง ไม่มีใครจ่าย(ตาย 50000 บาดเจ็บ ไม่เกิน 150000) จากคุณ : R34 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 12:20:09 A:125.24.119.247 X: TicketID:178284

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าผม สำเนาใบขับขี่ตัวเองขึ้นมา 3 ใบ เหมือนกันเป๊ะ วันที่ 1 ผมทำผิดกฏจราจร ตำรวจยึดใบที่ 1 ไป (จริงๆ แล้วผมจะต้องไม่เหลือใบขับขี่ ขับรถไม่ได้ จนกว่าจะไปเสียค่าปรับ) แต่ยังไม่มีเวลาไปเสียค่าปรับ วันที่ 2 ผมจึงยังขับรถได้อีก แต่บังเอิญฝ่าไฟแดง ตำรวจยึดใบฯ ที่ 2 ไป (ทั้งๆ ที่ผมไม่ควรจะขับรถได้) วันที่ 3 ผมทำผิดอีก โดนยึดอีก ก็เอาใบที่ 3 ไปสิ อิ อิ อิ พอมีเวลา ผมจึงไปเสียค่าปรับ อย่างนี้ไม่ผิดหรือครับ? ทั้งที่ถ้ามีใบขับขี่ใบเดียว โดนยึดครั้งแรก ก็ไม่มีสิทธิ์ขับรถได้แล้ว แต่นี่ยังขับได้อีก เพราะทำสำเนาไว้ !!! เพราะการที่ผมสำเนาใบขับขี่ตัวเองขึ้นมา ผมมีเจตนาให้จนท.หลงเชื่อว่าเป็นของจริงอยู่แล้ว และเมื่อโดนยึดใบแรกไป วันต่อมา ผมอาจขับรถไปชนคนตาย ชนคันอื่น ขับไปขนยาเสพติดก็ได้ ***ซึ่งเป็นการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนได้ อย่างที่ไม่ควรจะเกิด !!!*** งงครับ บังเอิญผมไม่ได้เรียนกฏหมายมาครับ ตอนเอ็นท์ ก็เลือกนะ แต่ไม่ติด เพราะคะแนนดันสูงไป จากคุณ : วิกรมาทิตย์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 14:36:02

ความคิดเห็นที่ 28   ก็ถ้าคุงวิกรถูกจับ ได้ในครั้งสุดท้าย และมีตำรวจรายงานเป็นเอกสารประกอบสำนวน (ผิดจริงๆนะครับ ไม่ใช่จับมั่ว มีหลักฐานชัดเจน ) ผมก้อคิดว่าศาลคงไม่ลงโทษแค่สำเนาเอกสารเพื่อใช้ในการกระทำผิด แต่คงจะลงโทษในข้อหาที่หนักกว่า และไม่ลดหย่อนโทษ เพราะเจตนาจะกระทำผิดกม. จราจรนะครับ จากคุณ : R34 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 16:14:59 A:125.24.119.247 X: TicketID:178284

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าผมทำผิดกฏจราจรหรือกฏหมาย ก็ต้องว่ากันไปตามนั้น แต่เรื่องใบขับขี่ การจะตัดสินว่า "การทำสำเนาเอกสารของทางราชการ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น" มันไม่ใช่ครับ เพราะการทำสำเนาของผม "ทำให้ผมมีโอกาสขับรถได้อีก แล้วไปก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นได้แน่นอน" ควรจะต้องมีความผิดด้วย ผมเห็นตามศาลชั้นต้น และ ศาลอุทธรณ์ น่ะครับ คดีแบบนี้ ไม่ธรรมดาไงครับ ถึงได้ขึ้นมาเป็น super case เพราะมันขัดกับแนวคิดของคนส่วนใหญ่ แค่ 2 ศาล เห็นตรงกัน อีกศาลหนึ่งเห็นต่าง ความเห็นก็ 2:1 อยู่แล้วครับ ก๊อปปี้ "เอกสารของทางราชการ" --> จนตำรวจจับได้ แล้วยังไม่ผิดอีก อย่างนี้ไม่ต้องสอนให้เยาวชนมีความ "ซื่อสัตย์" กันแล้วครับ โตขึ้นมาก็หาช่องทางทุจริตกันทั้งเมือง บ้านเมืองเราถึงเป็นแบบนี้ เศร้า แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 52 20:13:33 จากคุณ : วิกรมาทิตย์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 20:06:33

ความคิดเห็นที่ 30   ผมมองจากสำนวนฟ้องที่ศาลชี้ เพราะจำเลยโดน 2 ศาลตัดสินว่ามีความผิดมาแล้วด้วยฐานความผิดปลอมแปลงเอกสารราชการ ในชั้นฎีกา จำเลย ขอต่อสู้ในหมวดความสงบสุข ตามคำแถลงของศาลครับ "ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่ได้ยกขึ้นในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ตาม" "จำเลย (ขอต่อสู้) ผู้ฎีกาก็ยกขึ้นอ้างได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๒๕ ตามข้อกฎหมาย ใบขับขี่ถือเป็นเอกสารราชการ(ฎีกาที่ 4772/2536) ตาม ป.อาญา มาตรา 1 อนุ 8 ประกอบมาตรา 265 หากนำไปใช้ปรับบทมาตรา 268 ดังนั้น คุณ(ฝ่ายโจทย์)จึงจับกุมดำเนินคดีข้อหาปลอมเอกสารราชการไม่ได้" เพราะใบขับขี่ของเค้ามีอยู่จริง เค้าสอบใบขับขี่ได้จริง แต่ได้ทำสำเนาไว้ใช้หลายใบ ในจุดนี้เอง ที่ศาลท่านยกฟ้องจากสำนวนฟ้องของคุงตำรวจว่าจำเลยใช้ใบขับขี่ปลอม เลยจัดสำนวนฟ้องว่าปลอมแปลงเอกสารราชการ (ใบขับขี่) ศาลท่านยกฟ้องเพราะใช้กฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรีบยร้อย แม้จะไม่ได้มีการกล่าวถึงในศาลชั้นต้น และศาลอุืทรณ์มาก่อน และ กล่าวว่า "การกระทำของจำเลยย่อมไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ แก่ผู้อื่นหรือประชาชน จึงไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร แม้จำเลยจะนำไปใช้ก็ไม่ทำให้จำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามที่โจทก์ฟ้อง ไปได้ " การที่ศาลท่านบอกว่า "ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ แก่ผู้อื่น หรือประชาชน" หมายถึงแม้จะเป็นสำเนาเอกสารใบขับขี่ แต่มันคือสำเนาตัวจริง ข้อมูลที่อยู่มีอยู่จริง (ตามกันได้) จะประกันภัย ตำรวจ หรือขนส่ง เอาเลขใบอนุญาตไปเช็คในระบบก็ทราบแล้วว่าถูกต้อง ก็จัดการส่งใบส่งไปให้ได้ ทำให้ถึงจะไปชนใครแล้วเราแลกใบขับขี่สำเนาไว้ที่สามารถตามเราได้ครับ จึงไม่ผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และไม่เกิดผลกระทบกับประชาชนทั่วไป เพราะเค้าเอาชื่อที่อยู่ไปเช็คได้ไงครับ ส่วนที่คุงวิกรณ์ถามในเรื่องใบขับขี่ว่า การจะตัดสินว่า "การทำสำเนาเอกสารของทางราชการ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น" มันไม่ใช่ครับ เพราะการทำสำเนาของผม "ทำให้ผมมีโอกาสขับรถได้อีก แล้วไปก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นได้แน่นอน" ใช่ครับ แต่ข้อมูลในใบขับขี่ที่คุณแลกกับตำรวจ หรือคู่กรณีมันก็เป็นข้อมูลจริงไงครับ ฉะนั้นตำรวจ เจ้าทุกข์ คู่กรณีคุง ประกันภัยสามารถติดตามคุงวิกรณ์มาดำเนินการได้อย่างเรียบร้อยเลยครับ คุณวิกรณ์จะใช้สำเนากี่ใบทำผิดสักกี่ครั้ง ข้อมูล ความผิดมันก็ทยอยเข้ามาครับ ตรงนี้ศาลท่านเห็นว่าที่จำเลยขอสู้ในกรณีนี้ ไม่มีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารตามสำนวนคุงตำรวจครับยกฟ้องในสำนวนนี้ แต่ก็ยังมีความผิดฐานปลอมแปลง พรบ. และป้ายวงกลม ต่อไปครับ ควรจะต้องมีความผิดด้วย จากคุณ : R34 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 22:03:14 A:125.24.119.247 X: TicketID:178284

ความคิดเห็นที่ 31 อ่อ พอเข้าใจขึ้นมาระดับนึงครับ ผมไม่ทราบเรื่อง หมวดความสงบสุข หรอกครับ ว่าเป็นอย่างไร แล้วจะมีหมวดอะไรอีกบ้าง ก็ไม่ทราบ เนื้อหาของแต่ละหมวดเป็นอย่างไร? แสดงว่า ทนาย ใช้ได้ เพราะถ้าขอเล่นในหมวดความสงบสุขนี้ตั้งแต่ศาลชั้นต้น อาจรอดไปแล้วก็ได้ ยังดีที่มาคิดได้ในขั้นสุดท้าย แล้วก็รอดจริงๆ ส่วนเรื่อง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ผมมองตั้งแต่ต้นทาง คือ ตัดไฟเสียแต่ต้นลม ไงครับ คือ คนอื่นเดือดร้อนได้จริงๆ แต่ศาล มองที่ปลายทาง ว่า พอทำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้ว ค่อยมาตามเอาผิดทีหลังก็ได้ ก็จริงครับ คนที่เดือดร้อนจากผมก็ซวยไปสิครับ ทำไมเขาต้องมาวุ่นวายด้วย แต่ก็ดีครับ เป็นช่องว่างของกฏหมายที่ประชาชนอย่างเราน่าจะรู้ไว้ เดาว่า ต่อไป ตำรวจเจอแบบนี้อีก คงไม่ส่งฟ้องเรื่องปลอมเอกสารฯ แล้วครับ คงจะเล่นเรื่องอื่นแทน จะเป็นเรื่องอะไรได้บ้างล่ะครับ? จากคุณ : วิกรมาทิตย์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 23:19:20

ความคิดเห็นที่ 32   ถ้ามองแบบเปรียบเทียบ สำเนาใบขับขี่ไม่ตา่งอะไรกับ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ที่เราใช้ทำสัญญา กับองค์กรต่างๆ ธนาคารต่างๆ กู้หนี้ ยืมสิน ฉะนั้นถ้าสำเนา(ที่ถูกต้อง)ทำนิติกรรมแทนไม่ได้ สงสัยพวกเราต้องมีตัวจริงกี่ฉบับล่ะครับ เพื่อจะได้ทำนิติกรรมเหล่านั้น เช่น ถ้าต้องการจะซื้อรถแบบโจรๆ เอาบัตรประชาชนปลอมที่อยู่ปลอม ซื้อรถดาน์ว แล้วเชิดรถหนีไปขายต่อ แบบนี้ตำรวจจะส่งสำนวนฟ้องว่าปลอมแปลงเอกสารราชการได้ใช่ป่ะครับ แต่ถ้าเราใช้สำเนาจริง ที่อยู่จริง ซื้อดาน์วรถแล้วหนีไปขายเขมร ยังงี้ตำรวจคงไม่ส่งแค่สำนวนปลอมแปลงเอกสารราชการ น่าจะเป็นสำนวนยักยอกทรัพย์ หรือคดีแพ่งนะครับ ฉะนั้นพวกเราสำเนาเอกสารราชการทำธุรกรรมกันมาตั้งนานแล้วนะครับ สมัครเรียน สมัครงาน กู้หนี้ เปิดบัญชีธนาคาร จากคุณ : R34 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 08:39:06 A:125.24.138.101 X: TicketID:178284

ความคิดเห็นที่ 33 การทำสำเนาเอกสารทางราชการที่ทำกันมานานนั้น มีการ "เซนต์รับรองสำเนาถูกต้อง" เสมอครับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีเจตนาบริสุทธิ์ และบอกชัดเจนว่า นี่สำเนานะ ไม่ใช่ตัวจริง แต่กรณีก๊อปปี้ใบขับขี่นี้ เจตนา ไม่บริสุทธิ์ อย่างชัดเจน เพราะตั้งใจให้ผู้อื่นเชื่อว่า เป็นต้นฉบับจริง น่ะสิครับ ปัจจุบันนี้จะเห็นว่า ต้นฉบับเอกสารสำคัญหลายๆ อย่าง เริมมีการทำ "ลาย" ที่จะปรากฏเมื่อผ่านการสำเนา ให้รู้ว่า ไม่ใช่ต้นฉบับที่แท้จริงไงครับ จากคุณ : วิกรมาทิตย์ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 12:25:27

ความคิดเห็นที่ 34   อืม ถ้ามีลายเวลาสำเนามันก็ติดลายด้วย ไม่ทราบตอนนี้ใบขับขี่มีลายกันหรือยังครับ พอดีผมมีแต่ตลอดชีพ สำเนาสีแล้วก็เหมือนๆ (ยังหล่อ) เมื่อหลายปีมาแล้ว อิอิ จากคุณ : R34 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 13:10:36 A:125.24.165.245 X: TicketID:178284

ความคิดเห็นที่ 35 เอ้า มีใบชมพูตลอดชีพแบบนี้ เขาก็รู้อายุหมดสิครับ ผมก็เป็นแบบเดียวกัน เอิ๊ก จากคุณ : วิกรมาทิตย์ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 16:29:41