ความคิดเห็นที่ 1   น่าจะลองหาดูตัวลงท้ายด้วย IS นะครับ จะแรงหน่อย จากคุณ : ผมไม่รู้ เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 13:21:55 A:125.24.247.243 X: TicketID:125091

ความคิดเห็นที่ 2 เข้าใจว่า BMW ไม่เอาเกียร์ออโต้มาขายนะครับ เว้นแต่จะออเดอร์มาพิเศษ ไม่ลองดูพวก paddle shift เหรอครับ จากคุณ : the chubby knight (the chubby knight) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 13:26:30

ความคิดเห็นที่ 3 มาดูโฆษณาชวนโม้หน่อย เปรียบเทียบออฟชั่นที่525I E34 ปี96มี แอร์แบ็ค2ลูก ซึ่ง520iอาจจะไม่มี หรือมีแค่ใบเดียว ในขณะที่  benz w124 ก็มีแค่1ใบบ้าง2ใบบ้าง บางรุ่นก็ไม่มี หรือ benz 190E ก็ไม่มีเลย จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 14:24:18

ความคิดเห็นที่ 4 กุญแจรีโมท(เน่าๆ) 520i ไม่น่าจะมี Benz W124 มีบางคัน Benz 190E ก็คิดว่าไม่น่ามี จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 14:26:18

ความคิดเห็นที่ 5 กระจกมองข้างกระดิก 520i ไม่น่ามี Benz W124 ก็ไม่มี Benz 190E ไม่มีแน่นอน จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 14:27:39

ความคิดเห็นที่ 6 เบาะไฟฟ้าเมมโมรี่3จุด 520i มีรึเปล่าไม่รู้ Benz W124 มี1จุด บางรุ่นก็2จุด Benz 190E คิดว่าจะเป็นเบาะธรรมดามั้งนะ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 14:29:24

ความคิดเห็นที่ 7 แอร์หลัง Benz W124 ไม่มี มีแค่เป่าที่พื้นอย่างเดียว จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 14:30:51

ความคิดเห็นที่ 8 ม่านข้าง มีทั้งบานเล็กและบานใหญ่ แต่หลายๆคันมักจะพัง โดยเฉพาะม่านเล็กหูช้าง  พังซะส่วนใหญ่ ของผมก็พังแต่ซ่อมมาให้ใช้ได้ Benz W124 ไม่มีเลย 190Eไม่ต้องพูดถึง รุ่นพี่ไม่มีน้องจะมีได้เหยิ่งเลย จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 14:33:13

ความคิดเห็นที่ 9   520 อืดทานน้ำมันตัวถังบอดี้ E34 หนัก 1.6 ตัน เครื่อง 2000 ทำงานหนักมากครับ ผมว่าผ่านไปเลย อีกทั้งตัวรถ 520 คนใช้น้อยด้วย 525 เครื่อง 2500 กำลังพอดีกับบอดี้ครับอัตราเร่งดีเลย ไม่เก้ ทานน้ำมัน 8-9 ในเมือง นอกเมือง 10 กว่าได้ครับ ผมเคิยลองทั้ง 525 เดิมๆ กับที่ วาง 1เจ เทอร์โบมาแล้ว ความรู้ OK ทั้งคู่ครับรถหนักนั่งสบายขับสบาย ที่ไม่ค่อยดีก็พวกระบบไฟฟ้ามันเก่ามากแล้วก็ถึงเวลาเปลี่ยนราคาก็เอาเรื่องอยู่ ถ้าไม่วอรี่ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ครับ ถ้าใช้ในเมืองผมแนะนำ E36 ดีกว่านะครับ จากคุณ : สาธิต วงหนองบึง เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 14:34:52 A:112.142.25.194 X: TicketID:230900

ความคิดเห็นที่ 10 ม่านหลังปรับไฟฟ้า เห็นหลายคันบ่นๆว่าพังง่าย แต่ของผมซื้อมามันไม่มีเพราะเขาไปทำแผงลำโพง งานนี้ผมก็เลยต้องซื้อมาใหม่ เป็นของบ็อชแท้ ชุดนึง6500บาท จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 14:35:26

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วก็มีออฟชั่นอื่นๆที่บรรยายไม่ถูก และใช้ไม่เป็นก็มี ไม่เข้าใจก็มี อย่างเช่นรถล็อกประตูอยู่ ดึงมือเปิดขึ้นมา ไฟภายในรถจะติดขึ้นมาทันที บางอย่างBenz W124มี  แต่BMWไม่มีเช่นพวงมาลัยปรับระดับ ของBenzจะเป็นไฟฟ้า แต่บางคันก็ปรับไม่ได้เลย แต่BMW ใช้แรงมือยกขึ้นยกลง มันก็แล้วแต่ออฟชั่นจากเมืองนอกแหละ แต่ตอนนี้ผมชักเบื่อแล้วล่ะ อยากได้เทียน่าใหม่ แต่แหม แพ้งแพง ครั้นจะซื้อเทียน่าเก่าก็ต้องแคะกระปุกอีกตั้ง2-3แสนแน่ะ พยายามไม่คิดๆ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 52 14:57:32 จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 14:46:47

ความคิดเห็นที่ 12 หา 525 ตัว 2500 แท้ น่าใช้กว่าตัว 2400 ขับแล้วเหมือนว่าแรงบิดมันดีกว่า ใช้งานไม่อืดเท่าตัว 2400 (big nose เป็นเครื่อง 2400) รู้สึกตัว 2500 จะหมดปี 93 ถ้าจำไม่ผิด ลายไม้ก็ต่างกัน ถ้าจะเอาเกียร์ธรรมดาต้อง 520 แต่อืดกว่า 525 และกินน้ำมันมากกว่า option ก็น้อยกว่า ไม่น่าเล่น มีอีกตัวคือ 2.7l แต่ไม่แน่ใจว่าออโต้หรือธรรมดา (ถ้าจำไม่ผิดเป็นเกียร์ธรรมดา) 2.7 เป็นตัวที่ยนตรกิจทำขายเองในบ้านเรา และเครืองมีปัญหามากๆ จนทำให้ bmw germany เข้ามาตรวจสอบและทำตลาด bmw ในบ้านเราในที่สุด พอหมดจาก 2.7 ก็เป็น 525 ตัว 2500 เต็ม แล้วค่อยเป็นตัว 2400 กว่าๆ (หลบภาษี) ถ้าคุณเทียบกับ 190e ยังไง e34 น่าใช้กว่ามากเพราะขับสบายกว่า ใหญ่กว่า พวงมาลัยไม่ใหญ่เกะกะเหมือน 190e  แต่ข้อเสียของ e34 คือที่วางเท้าคนนั่งหลังมันเล้ก นั่งนานๆ มันเมื่อยครับ และก็มีเรื่อง sensor ต่างๆ ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะ (เพราะมันจะเสียตามระยะ) ราคาตัวนึงหลักพัน แต่มีหลายตัว รวมๆ ทั้งหมดแล้วหลายหมื่นเหมือนกัน แล้วก็มีหม้อน้ำกับปั้มน้ำที่ชอบพังอยู่เรื่อยๆ ถ้าเพิ่มเงินอีกนิด ผมคิดว่า w124 น่าใช้กว่า e34 เพราะนิ่มกว่า เงียบกว่า ขับสบายกว่า แต่ขับไม่สนุกเท่า e34 กินพอๆ กัน ขับ 525 กับ e280 ในเมืองประมาณ 6 โลกว่าๆ ตจว. จำไม่ได้เพราะขายไปนานแล้ว แต่ e280 แรงกว่าพอสมควรทีเดียว ตัว e220 w124 น่าใช้ครับ (ถ้าไม่ได้ชอบขับเร็วๆ) แต่ผมไม่ทราบราคาตลาดว่าแตกต่างกันเท่าไหร่ คงพอช่วยได้บ้างครับ จากคุณ : k.bom เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 21:51:14

ความคิดเห็นที่ 13   ขอแนะนำนะครับ จากที่ผมใช้อยู่ ( 525ia ปี 97 ) 1. เรื่องเครื่อง ถ้าคิดจะใช้ยาว แนะนำวาง 1JZ Turbo vvti , 2JZ Turbo vvti หาอู่เก่งๆ ค่าเครื่อง+ค่าวาง+ค่าเดินสายไฟ+ค่าท่อไอเสีย+ค่าอินเตอร์+ฯลฯ ร้านดีๆจบได้ในงบ 1 แสนครับ 2. เครื่องเดิม รับได้มั้ยกับการกินน้ำมัน ระดับ 6 โลลิตร ( ในเมือง ) และ 8-9 โลลิตร ( นอกเมืองที่ความเร็วไม่เกิน 110 ) ถ้ารับไม่ได้แนะนำให้รีบเปลี่ยนเป็น 1-2JZ โดยเครื่องและเกียร์เดิมถ้ายังสภาพดี มีอู่รับซื้อด้วยครับ 3. ถ้าอยากประหยัดให้ติด Gas หัวฉีดเท่านั้น แนะนำ Autronic , AG 4. ช่วงล่างซื้อมาถ้าไม่ค่อยดี ทำดังนี้ > ต้องการนิ่มๆ เลือกโช้ค bilstein สีดำ ( B4 ) ต้องการหนึบๆ เลือก bilstein สีเหลือง ( B8 ) 5. ผ้าเบรคแนะนำยี่ห้อ TRW ขับเร็วๆแล้วไม่เฟด ( หายากหน่อย ) 6. ตัวรถให้หาที่เป็น Big nose แท้ ปี 94 ขึ้นไป ถ้าดูไม่เป็นให้พาช่างที่ชำนาญรถ bmw ไปดูด้วย 7. เรื่องเกียร์ผมแนะนำให้เช็คให้ละเอียดที่สุด ถ้ากระตุกแบบแปลกๆ ขอให้ข้ามไปเลย อย่าเสียดาย ( รถผมใช้มา 140,000 km ก็กลัวๆเรื่องเกียร์อยู่ ถ้าเกียร์พัง อาจจะต้องหนีไปลง J ) 8. ถ้า 2 จิต 2 ใจ ตัดสินใจไม่ได้ แนะนำให้ไปลองขับ E34 ที่เป็นเครื่องเดิม กับเครื่อง 1JZ - 2JZ Turbo แล้วตัดสินใจอีกครั้ง ( เท้าแต่ละคนหนักไม่เหมือนกัน ความเห็นผม = 1-2JZ ไม่มี turbo วิ่งไม่ค่อยออก ) ถ้าจะเลือก เลือกที่มี turbo คุ้มกว่าครับ อื่นๆ แนะนำ bmwe34club.com , bmwsociety.com ครับ เลือกรถขอให้ใจเย็นๆ + โชคดีได้รถที่ถูกใจครับ จากคุณ : Black & White เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 22:10:12 A:124.120.203.242 X: TicketID:175488

ความคิดเห็นที่ 14   bmซ่อมแพ่งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ ถ้าใจรักก็ok จากคุณ : sonixsound (vogo3000) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 23:24:46

ความคิดเห็นที่ 15 ผมซ่อมช่วงล่างซีรี่ย์ 5 กับ 7 ราคาพอๆ กับซ่อมช่วงล่างแอคคอร์ดครับ ราคาไม่ต่างกันเลย ผมซ่อมอู่ข้างนอกทั้งหมดครับ จะแพงกว่าก็พวกซ่อมเครื่อง เรื่องราคาคิดว่าอยู่ที่อู่ที่ซ่อมมากกว่า อย่างที่บอก ถ้าเป็น e34 ส่วนที่แพงๆ จะเป็นพวกเซ็นเซอร์ เครื่อง+เกียร์ใช้ทนดี ผมใช้มาแสนแปดก่อนที่จะขาย เกียร์ยังใช้งานได้ปกติไม่เคยมีปัญหา เปลี่ยน knock sensor และ sensor หน้าเครื่องไปครั้งนึง จำได้ว่าครั้งนั้นหมดไปประมาณ 5 หมื่น แต่ไม่แน่ใจว่าทำอย่างอื่นอะไรมั่ง มันนานแล้ว แล้วก็มีเปลี่ยนปั้มน้ำและกะโหลกไปครั้งนึง เปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ ร้านหลังฮอนด้าพระราม 4 งานดีที่สุดครับ เหมือนของโรงงานเป๋ะ ช่วงล่างเปลี่ยนหลายหนเหมือนกัน เหมือนไม่ทนเท่า w124 หรือขับโหดก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะสมัยก่อนไปทำงานต้องขึ้นทางด่วนทุกวัน ขับเกิน 200 ทุกวันเหมือนกัน ปีหลังๆ ดูง่ายๆ ที่ airbag บนคอนโซลซ้ายกับพวงมาลัย 4 ก้าน ถ้าให้ชัวร์ก็จดเลขตัวถังมาเช็คได้เหมือนกัน อยู่ใต้กระจกหน้า ซ้ายหรือขวาจำไม่ได้แล้วครับ ที่จริงมันดูได้หลายจุดแต่ผมลืมหมดแล้ว เปลี่ยนเครื่อง J ต้องไล่เฟืองท้ายใหม่ แต่ผสมข้ามพันธ์เสียดายรถครับ ดูแล้วไม่ใช่ bmw ไปเลย (คหส่วนตัว) จากคุณ : k.bom เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 07:19:49

ความคิดเห็นที่ 16   ผมคิดว่า W124 น่าใช้มากกว่านะครับ เมื่อเทียบกันแล้ว อี34 ภายในแคบมากๆนั่งนานๆแล้วมันเมื่อยครับ ในขณะที่ W124 ยังกว้างมากกว่ามาสด้า 3 อยู่นิดหน่อย W124 ช่วงล่างนิ่มกว่า ขับแล้วไม่เหนื่อยเลย มั่นคงในขณะที่อี34 จะหนึบกว่าซึ่งขับแล้วเหนื่อยครับคล้ายๆรถญี่ปุ่นขนาดเล็ก W124 เก็บเสียงได้เงียบกว่าอี34 เลยครับทั้งๆที่เป็นรถประกอบในหรือที่เรียกว่า "รถธนบุรี" ถ้าเป็นตัวประกอบนอกหรือ "รถนำเข้า" จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเลยครับ ส่วนอัตราบริโภคน้ำมัน E 280 ประหยัดกว่า 525i ครับ E 280 แรงกว่าส 525i อี34 เบรคดีกว่า W124 - แอร์แบ็ค W124 ก็มีครับ ถ้ารุ่นปี 1996 จะมีสองใบครับแล้วจะมีกล่องเก็บของใต้ที่ท้าวแขนมาทดแทนให้ด้วย - กระจกมองข้างยอมรับว่าพับไม่ได้ครับ แต่สามารถให้ตัวได้นิดหน่อย และอีกอย่างมันก็ไม่ได้ใหญ่จนเกะกะเลย - รีโมท W124 มีบางคันเฉพาะรถประกอบนอกครับ - ม่านหลังไฟฟ้า W124 มีบางคันครับ ถ้าปี 1996 จะมีทุกคัน ( แต่สามรถหามาใส่ได้เอง ) - ม่านข้างประตูหลัง W124 มีบางคันครับ ( แต่สามารถหามาใส่ได้เอง ) - W124 มีเบาะไฟฟ้า+เมมโมรี่ 2 จุดครับ อันนี้ E34 น่าจะมี 3 จุดมั้ง - W124 มีกระจกมองหลังตัดแสงอัติโนมัติบางคันด้วย - W124 มีที่ปัดน้ำฝนไฟหน้าบางคัน ( แต่ผมไม่ชอบเพราะมันไม่ค่อยได้ใช้ ) - W124 เปิิิด/ปิดกระจก+ซันรูฟได้ด้วยกุญแจครับ ถ้าคันไหนมีรีโมทก็ใช้รีโมทได้ เอาไว้เวลาแดดแรงๆก็กดรีโมทให้มันเปิดระบายความร้อนครับ จากคุณ : อยากได้E 280 W124 เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 14:03:05