ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเอาออกทางเดินไอเสียจะโล่งขึ้น อัตราเร่งดีขึ้นหน่อย แต่เพิ่มมลภาวะมากกว่าเดิมมาก ๆ ครับ ไม่แนะนำครับ จากคุณ : Arc_ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:56:04

ความคิดเห็นที่ 2 จะว่าอะไรมั้ย ถ้าจะบอกว่า ตัดแคทออก มัน "เห็นแก่ตัว" ตัวเองได้ความสะใจ แต่ก่อมลพิษให้กับคนอื่น จากคุณ : Bug Gerd เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:58:37

ความคิดเห็นที่ 3 เปลี่ยนท่อตัวปลายครับ... ดีกว่าแน่ๆ จากคุณ : โจนาธาน ลิฟวิงสตัน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:58:38

ความคิดเห็นที่ 4 ทำท่อใหม่ทั้งเส้น ใส่แคทซิ่งอีกลูก จากคุณ : เบิ้ม99 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:06:17

ความคิดเห็นที่ 5 เสียงดีขึ้นครับ  ออกฮึ่มๆๆ ไม่วี๊ด แต่ของผมรถกระบะนะ ได้ตีนต้นจึ๋งนึงครับ อย่าไปหวังมาก  เรื่องประหยัด จริงๆวัดยากครับ อาจจะรู้สึกไปเอง บอกร้านท่อไอเสียได้เลย  คุยราคาก่อน เกิน400ไปร้านอื่น เขาจะตัดเอาท่อใส่แทน ก่อมลพิษผมไม่สนครับ ตอนเดินถนน ขึ้นรถเมล์ ไอเสียคนอื่นผมยังดมได้ แต่ถ้างบถึง ทำทั้งเส้นแจ่มกว่าครับ ท่อสูตรก็เยอะแยะ ดูตามคลับจะมีครับ จากคุณ : ร้อยละสิบสลึง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:11:29

ความคิดเห็นที่ 6 ตัดแล้วขอผมนะ จากคุณ : อีโวลูชั่น เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:33:30

ความคิดเห็นที่ 7 เสียเงินซื้อ มา เสียเงิน เอาออก ทำร้ายสังคมอีก ตะหาก จากคุณ : BOPI เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:46:42

ความคิดเห็นที่ 8 มลภาวะ ควันพิษ เพิ่มเยอะมาก เพราะตัวกรองที่ไม่ให้คาร์บอนมอนนอกไซด์ ออกมาเกินปริมาณ หลักๆ เลยก็คือเจ้าตัวแคทฯ นี่แหละ อย่างที่ 2 คือ เสียงรถคุณดัง ขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะตอนเร่งแซง ชาวบ้านแถวนั้นคงหันมามอง แล้วก็คงจะด่าว่าคุณ คือ พวกแต่งท่อให้เสียงดังหนวกหู สรุปก็คือ ข้อดีของการตัด ก็ตามที่เพื่อนคุณว่ามาเร่งดีขึ้น ประหยัดขึ้น เล็กน้อย เป็นข้อดีที่คุณได้รับเอง พอใจเอง ส่วนตัว ส่วนข้อเสีย ตามที่บอกมาข้างบน คุณไม่ได้รับ ไม่ได้สัมผัส ก๊าซพิษ ก็ไม่ได้ดมเอง เสียงก็ไม่ได้ยินเองแบบเต็มๆ มีแต่ชาวบ้านและคนอื่นที่เค้าไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ทั้งนั้น ก็อยู่ที่จิดสำนึกคุณเองครับว่ามีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมแค่ไหน แต่สำหรับความเห็นส่วนตัวผม ผมว่าพวกจงใจตัดแคท แย่กว่าการอุด EGR เยอะนะ แต่ถ้าคนที่ มันเสีย มันตัน จำเป็นต้องเอาออก หรือทลวง กับพวกที่โดนช่างขโมยตัดแบบไม่รู้ตัว (มันขายได้เป็นหมื่นเลยนะ) อันนี้พอให้อภัยกันได้บ้าง เพราะแคทฯ ใหม่ ราคาก็ใช่ย่อยนิ จากคุณ : 000 (aekalter) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:01:28

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าแคทไม่ตันแต่เอาออก  เรื่องอัตราเร่งและประหยัดไม่ค่อยมีผลครับ แต่ไอเสียเหม็นขึ้นชัวร์ๆอยู่แล้ว  วิ่งมา สี่หมื่นกว่าโลแคทไม่น่าตัน ส่วนเอาออกแล้ว  เอามาใส่ได้ไหม? ถ้าเอาออกแล้วหาท่อแทนแคทมาใส่  เวลาจะใส่แคทขึ้นก็ใส่ได้ แต่ถ้าทะลวงแคทเดิม  ก็เอามาใส่อีกไม่ได้ครับเพราะมันไม่มีแล้ว แคทของใหม่เบิกห้างหลายตังค์อยู่ครับ(ไม่รู้ของเก๋งเป็นไงแต่รถกระบะเกือบสามหมื่นครับ) แต่ถ้าตันแล้วจัดการเลยครับ เพราะมีผลหลายเสียหลายอย่าง เช่น วิ่งไม่ค่อยออก กินน้ำมันเพิ่มขึ้น เพราะระบายไอเสียไม่ดีครับ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 14:08:39 จากคุณ : โอvgs เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:05:09

ความคิดเห็นที่ 10 ไอเสียมันจะออกมาเยอะทำสิ่งแวดล้อมขนาดนั้นเลยเหรอครับ ถ้าใช้มา 5 ปี 40000 โล(รถติด) ผมว่าไอเสียก็พอ ๆ กันน่ะครับ ไม่อย่างนั้นคนใช้รถ เกิน 80000 ทุกคนก็ควรเปลี่ยนเหมือนกันเพราะหมดอายุ ดูแลเครื่องให้เผาไหม้ดี ๆ ไม่เร่งเกิน 90 กม. ก็ได้ถ้าไม่มีเงินเปลี่ยน จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:21:51

ความคิดเห็นที่ 11 ว่าแต่ถ้าตัดแล้วเซนเซอร์อะไรจะมีปัญหาหรือเปล่า อยากเอาออกเหมือนกัน ของใหม่แพง แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 14:24:41 จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:23:22

ความคิดเห็นที่ 12 ลองมาแล้วทั้ง ใส่และไม่ใส่ ต้นและกลางแตกต่างครับ ไม่พูดถึงมลพิษ เพราะทุกวันนี้ ยังกินเหล้า กินข้าวเหลือ อาบน้ำอุ่น เปิดแอร์นอน อยู่เลย จากคุณ : เลวบัดซบ (1298 D-Max) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:24:45

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ^ แถมอีก ยังเที่ยวกลางคืน  และอีกสารพัดครับ จากคุณ : โอvgs เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:34:20

ความคิดเห็นที่ 14 สงสารลูกหลานเหลนในอนาคตบ้างเถอะ อย่าเห็นแก่ตัว จากคุณ : นอต (coolknott) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:41:29

ความคิดเห็นที่ 15 อนาถบางความคิด คนอื่นทำแย่ได้ ทำไมตูจะทำไม่ได้ ช่วยๆกันทำแย่เข้าไปครับ โลกเราจะได้พังเร็วขึ้น จากคุณ : อย่าเห็นแก่ตัว (toy1152) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:52:18

ความคิดเห็นที่ 16 "ก่อมลพิษผมไม่สนครับ" อึ้งเลยครับ...... จากคุณ : As you know เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:52:27

ความคิดเห็นที่ 17 พวกเราไม่เจอปํญหาหรอกครับ อย่างมากก้คงร้อนขึ้นอีกหน่อย ไม่มากมาย แต่คนที่จะรับผลกรรมที่เราๆท่านๆก่อไว้ ก็คือลูกหลานครับ แน่นอน เปิดแอร์  ใช่ ............... แต่ก็พยายามเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่สูงสุดที่จะไม่ร้อน ก็ประมาณ 25 26 27 องศา ........... แล้วเปลี่ยนใช้แอร์ รุ่นใหม่ เพื่อลดมลพิษ ใช้ตู้เย็นใหม่เพื่อลดการใช้สารพวก ที่ก่อให้เกิดการทำลายโอโซน .............. จำไว้ครับ เราทำในยุคเรา เราไม่ได้รับผลมากมายนัก ................. แต่หลายๆคนทำ มันสะสมไป จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานครับ ................. ปล ถึงโลกนี้ปลี่ยนแปลงไป ..........โลกมันก็จะปรับสภาพให้โลกอยู่ได้   ต่อให้คนสร้างสารพิษยังไง โลกก็อยู่ของมันได้ ................... มีแต่ คน ที่อยู่ไม่ได้ครับ ................... โลก พร้อมที่จะขับไล่ หรือล้างเผ่าพันธุ์คน ได้อยู่เสมอ ......... สร้างมลพิษเยอะนัก ...........ก็ลดชั้นโอโซนลง ปรับให้โลกร้อนขึ้น มันเป็้นวิวัฒของโลก ........... โลกปรับตัวเอง เพื่อให้โลกอยู่รอดได้  และ สิ่งมีชีวิต ชนิตอื่น ก็จะตายไป  แน่นอน .....รวมถึงคนด้วย ................ แต่มันไม่เกิดกับยุคเราครับ เราจะเร่งให้ โลก ฆ่าเรา หรือเราจะ พยายาม ชะลอการฆ่าจากโลกเรา ...... แม้เพียงเล็กน้อย เราก็ถือว่า ชะลอได้ ......รวมมือคนละนิดละหน่อย ก็ชะลอการฆ่าเผ่าพันธุ์ของเราได้เรื่อยๆ  จนเมื่อถึง เวลาที่เรา รักษโลก  โลกก็จะดูแลเราครับ จากคุณ : reni เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:11:26

ความคิดเห็นที่ 18 อ้าว...แต่ถ้าแคทมันตันจะดันทุรังไปทำไมล่ะครับ  ? ยิ่งไม่ก่อผลเสียมากกว่าเหลือ  เฮ้อ... หรือจะไปซื้อใหม่ดี(ราคาไม่ต่ำกว่า20,000แล้วแต่รุ่น)   คนใจดีที่นี่มีเยอะครับ หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วตรู แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 15:22:00 จากคุณ : โอvgs เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:20:29

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่น่าเชื่อ... ว่ายังมีคนไม่สนใจมลพิษ ยอมรับว่ายังสร้างพวกมลพิษทางอ้อม...กันอยู่ทั้งนั้น แต่ไอ้ควันพิษตรงๆ แบบนี้ ช่วยกันหน่อยไม่ได้รึงัย แค่รถเมล์ รถบรรทุกก็จะตายอยู่แล้ว รถดีๆ ก็จะมาทำให้มันเน่า จะแรงขึ้นสักแค่ไหนเชียว จากคุณ : NHON เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:22:25

ความคิดเห็นที่ 20 คห.5 ชั่วได้สนิทจริงๆ ที่มีความคิดเห็นแก่ตัวแบบนี้ เป็นกรรมของประเทศที่มีคนที่มีความคิดคับแคบแบบนี้ร่วมอยู่ในสังคม แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 15:38:43 จากคุณ : ลุงเต่า เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:23:48

ความคิดเห็นที่ 21   เคยตัดออกแล้ว รถอัตราเร่งแย่ลงครับ จากคุณ : oklah เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:48:42 A:210.246.73.18 X: TicketID:014314

ความคิดเห็นที่ 22   อืมมม มีเงินแต่งรถเป็นแสนๆแต่คาตาไลริคสามหมื่นอิดออดที่จะเปลี่ยนใส่ เค้าถึงว่ามนุษย์มันเห็นแก่ตัวที่สุดในโลกแล้ว ถ้าพระเจ้าจะล้างโลกก็ไม่แปลกใจแล้วล่ะ จากคุณ : ............... เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:57:35 A:10.216.90.40 X:203.170.231.232 TicketID:157584

ความคิดเห็นที่ 23   ความคิดเห็นที่ 20     คห.5 ชั่วได้สนิทจริงๆ ที่มีความคิดเห็นแก่ตัวแบบนี้ เป็นกรรมของประเทศที่มีคนที่มีความคิดคับแคบแบบนี้ร่วมอยู่ในสังคม แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 15:38:43 จากคุณ : ลุงเต่า     เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:23:48     ****ขอยืมใช้ด้วย  ชั่วจริงๆ**** จากคุณ : การกินเป็นสิ่งจำเป็น เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:10:04

ความคิดเห็นที่ 24 รถเพื่อนตัดออก มันแรงขึ้นกระจึ๋งนึง  แต่ผมขับผมว่า same same เท่าที่ทราบมา ..แคต  จริงๆมันไม่ตันนะ มันกรองด้วยเคมี แบบการแลกเปลี่ยนอิออน...   แบบไอเสียผ่านมา แล้วแลกเปลี่ยนประจุกัน  ทำให้ความเป็นพิษน้อยลง ไม่ได้กรองด้วย ขนาดรูแบบ  กรองอากาศ   มันจะเสื่อมได้  แต่มันไม่ได้ตันจริงๆหรอกครับ  รูตั้งเบ่อเร่อเท่อ.. จากคุณ : listeria เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:12:02

ความคิดเห็นที่ 25 ความเห็นที่ 22 จะมีสักกี่คน  ที่พอแคทตันแล้ว  วิ่งไปที่ศูนย์บริการเพื่อขอซื้อแคทใหม่ในราคาสามหมื่นมาใส่   ถามตัวเองก่อนนะครับ จากคุณ : โอvgs เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:13:01

ความคิดเห็นที่ 26 ขอยืนยันว่าตันได้ครับ ถ้าใช้งานในรอบเครื่องสูงๆ บ่อยๆ จะตันช้าหน่อยครับ  เพราะมีอุณหภูมิที่ล้างตัวเองได้ ศูนย์บางที่แนะนำว่า ถ้าเป็นดีเซล ให้เร่งเครื่องยนต์ 3000รอบขึ้นไป ต่อเนื่องกัน 15-20 นาที  (จะมีใครทำไหมว่า) ถ้าส่วนมากไม่ได้ขับเร็วบ่อยๆหรือใช้งานในกรุง จะตันเร็วกว่าครับ โดยเฉลี่ยอายุการใช้งานจะอยู่ที่ประมาณ  หนึ่งแสนกิโลครับ ถ้าตันแล้ว  ทะลวงแคทมีผลดีกว่าครับ ................................................... จากกระทู้นึง ของเพื่อนผม -แวะมาบอกสมาชิก ..... ที่ยังเสียดายแคทอยู่ ถ้ารถน้าๆ วิ่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 80000 โล ..... แล้วที่ผ่านๆมา วิ่งไม่ค่อยเร็ว หรือไม่ค่อยได้ลากรอบสูงๆ บ่อย โอกาสตัน มันมีสูงครับ .... เพราะรถผม ช่วง 1 - 60000 โล  จะวิ่งไม่ค่อยเร็ว ลากรอบไม่ค่อยสูง แต่พอขึ้นระยะ 70000 โล ผมอัดบ่อยๆครับ รอบสูงๆ ..... จนมาทะลวงทิ้งที่ระยะ 97300 โล ผลคือ .... แคทผมมันตันเยอะมากๆเลยครับ // ส่องดูตามรูแคท เขม่าดำๆ เต็ม ตันเกือบทุกรู + แคทหมดสภาพ เคาะ 3 ที ร่อนออกจากแคทหมด ผมถึงว่า ..... ทำไมช่วงหลังๆกดแล้ว มีควันนิดๆ + กินน้ำมัน มากขึ้น เพราะวัดค่าเฉลี่ยได้ไม่เกิน 16.7 โลลิตรเลย หลังๆที่ผ่านมา                    รถผมวิ่งไม่ถึง 18 โลลิตรเลย น่าจะมาจากตัวนี้ด้วย อีก สาเหตุนึง ถึงจะเป็นส่วนน้อย   หลังทะลวงแล้ว ..... ออกตัวสบายเลยครับ รถเบาดีจริงๆ  แต่ถ้ารถทำท่อมา เสียงจะดังขึ้นอีกหน่อย    จะรับได้เปล่า  //  ถ้ารถท่อเดิมๆ ไม่ดังเท่าไร แล้วก็จะยังไม่โล่งเท่าไร สรุป ..... ที่ผมกล่าวมา คือ ผมอยากจะบอกว่า ถ้าเรามัวแต่เสียดายแคท โดยที่รถเราวิ่งมานาน แล้วไม่รู้ว่ามันตันไหม (ทั้งๆที่น่าจะตัน) ถ้าตัน รถเราก็อืด + กินน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก แล้วแบบนี้ จะเอามันไว้ทำไม ..... แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 16:23:14 จากคุณ : โอvgs เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:18:36

ความคิดเห็นที่ 27 ความเห็น 21 ครับ เค้าหมายถึงแคทนะครับ  ไม่ใช่หม้อพัก ถ้ารถเป็นเกียร์ออโต้  เอาหม้อพักออก  จะวิ่งไม่ดีครับ ถ้าเกียร์ธรรมดาวิ่งดีครับ จากคุณ : โอvgs เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:28:32

ความคิดเห็นที่ 28 ความเห็นที่ 22 จะมีสักกี่คน  ที่พอแคทตันแล้ว  วิ่งไปที่ศูนย์บริการเพื่อขอซื้อแคทใหม่ในราคาสามหมื่นมาใส่   ถามตัวเองก่อนนะครับ ผมครับ แต่ไม่เข้าศูนย์ ผมเอา Cat เก่าไปขายเพราะเค้าเอาไปหลอมเอา Platinum ออกมาหรือไงเนี่ยแหละ ได้หลายพันอยู่ หาดูตาม Web รถได้มีคนรับซื้อ จากนั้นผมไปซื้อ Cat แบบ Hi-flow มาใส่ครับ เสียค่าล้อเป็นแสน สองแสนได้ ผมจ่ายค่าอากาศที่ดีให้ลูกหลานผมได้ครับ คนอื่นชั่ว ไม่ได้แปลว่าเราต้องชั่วตาม เริ่มจากตัวเองดีกว่า อย่าเห็นแก่ตัวครับ จากคุณ : นอต (coolknott) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 17:19:08

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้ายังไม่หมดอายุ ก็อย่าเพิ่งถอดเลยครับ  ช่วยเท่าที่ช่วยได้ไปก่อน จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 17:21:03

ความคิดเห็นที่ 30 คุณทุกคนก่อมลพิษ จะไปต่อว่าใครดูตัวเองซะก่อน จากคุณ : กลิ้งยาง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 18:55:00

ความคิดเห็นที่ 31   คนอื่นส่วนน้อยครับ  คนที่ดมไอเสียหน่ะ  ตัวคุณและครอบครัวคุณต่างหาก จากคุณ : pipat_2520 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 19:11:00

ความคิดเห็นที่ 32 ถามหน่อย Cat มีอายุการใช้งานเท่าไร เห็นบอกว่า 4-5 หมื่นโล มันก็หมดประโยชน์แล้ว จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 19:25:53

ความคิดเห็นที่ 33 แคต จริงๆ ผมว่า 8หม่ืน ถึง 1แสนโล กว่าจะตันจนไอเสียกลั่น...... แต่ที่ผมพูดๆ เพราะ มีคน หวังไปตัดแคต เพราะอยากแรง .......... ถ้ามันตันจริง เอาออกก็ได้ ส่วนจะหาใส่ใหม่ หรือไม่ มันก็ต้องดูที่เงินเราอีกเหมือนกัน .......... 2หมื่น 3 หมื่นก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ .......   แต่ที่พูดนี่คือ กรณี  แคตมันอยู่ของมันดีๆไม่ได้ตัน  แล้วเอาไปตัดออก หรือ egr มันก็ทำงานได้เต็มระบบ อยู่ดีๆ เอาไปอุด ..............  แบบบนี้ มันไม่ควรครับ จากคุณ : reni เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 19:47:30

ความคิดเห็นที่ 34 ว่าแล้ว  นีโอช่วงนี้ วิ่งไม่ออกเลย สงสัย ต้องหาทาง อะไรซักอย่าง จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 22:23:52

ความคิดเห็นที่ 35 โอ้ แม่เจ้า ไม่คิดไม่ฝันจะมีคนมาตอบมากมายขนาดนี้ ขอบคุณนะครับสำหรับทุกความคิดเห็น  กระจ่างมากเลย  ไม่คิดว่าจะมีคนใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมขนาดนี้ (เพราะเดี่ยวนี้ในสังคมเห็นแก่ตัวกันมาก รวมถึงตัวผมด้วย) สรุปเรื่องก็คือ   ผบ.สั่งห้ามตัดออก แถมเหนบแนมมาว่า แดกเหล้าแดกได้ แคตตัวละ3หมื่นใช้ได้แสนโล ตกโลละ0.03บาท อยากแรงก็ไปหารถที่มันแรงแรงขี่ อยากประหยัดก็ไปหาที่มันccน้อยใช้ หรือไม่ก็ไปติดแก๊ส  พูดจาราวกับว่าผมชื่อ โอ๊ค ปล.giveหมดไม่มีเหลือเหมือนเงินในกระเป๋าต้องขอโทษด้วยที่ให้ไม่ครบทุกท่าน ว่าแต่แคทมันอยุ่ช่วงไหนของท่อ แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันตันหรือไม่ตัน จากคุณ : พีสมะ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 23:57:23

ความคิดเห็นที่ 36 ผมถึงไม่ค่อยเข้าตามคลับรถโดยตรงไงครับ.................... สิ่งแวดล้อม..................ไม่สนใจ...............อุด EGR ตัด แคท... ไฟตัดหมอก..................สนับสนุนให้ติดกัน....แล้วก็ใช่พร่ำเพรื่อ.... ถึงตอนโน้น.....ก็นั่งไทม์แมนชีน.....กลับมาแก้ไขไม่ได้ จากคุณ : sagurahi เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 07:43:04

ความคิดเห็นที่ 37 อืมนะ  แล้วจะรู้ได้ไงว่าคันไหนตัด คันไหนยังมีแคตอยู่ (คันไหนสร้างมลพิษมาก) จากคุณ : cyber-ta เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 07:58:24

ความคิดเห็นที่ 38 เรื่องแคต เรื่องegr คุยกันไม่ได้จริงๆ ต่างคนต่างความคิด ส่วนรถผมแสนกว่าโลแล้ว แคตไปเกิดใหม่แล้ว จากคุณ : ณปัณณ์ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 08:34:16

ความคิดเห็นที่ 39   ผมซื้อว่ะ เพราะมีปัญญาซื้อรถคันละล้านได้กะอีแค่คาตาไลริตก้อนเท่าขี้ราคาสามหมื่นบาทมีปัญญาซ์้อและจะเต็มใจซื้อว่ะครับ ช่วงเวลาหลายปีกว่าที่คาตาไลริคมันจะเสมื่อนผมหาเงินเพิ่มได้หลายแสนแล้ว!!!!! กะอีแค่สามหมื่นทำไมมันจะซื้อไม่ได้??? ผมใช้รถดีเซลและผมภูมิใจที่มันมีอุปกรณ์คัดกรองไอเสียเป็นพิเศษผ่านมาตรฐานยูโร 3 และถ้าวันไหนที่มันไม่ดีเท่าเดิมผมก็พร้อมจะจ่ายให้มันผ่านยูโร3หรือดีมากกว่าเดิมด้วย มีปัญญาซื้อรถแต่ไม่มีปัญญารักษาให้มันอยู่ในสภาพที่มันเป็นมิตรต่อคนอื่นๆด้วยอย่าซื้อรถเลย ไปขี่ควายดีกว่า เอ๊ะอย่าเลยเดี๋ยวก็คงปล่อยให้ควายเป้นโรคตายอีก ไปเดินตีนเปล่าๆนั่นแหละดีแล้ว จากคุณ : ................... เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 09:58:29 A:10.216.90.40 X:203.170.231.232 TicketID:157584

ความคิดเห็นที่ 40 555 คนทุกคน ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนข้างบน  ผมว่าคุณคือ  1ใน 100ครับ ชื่นชมในความเป็นคนดีรับผิดชอบต่อสังคม มีสักกี่คนที่มีปัญญาซื้อเปลี่ยนใหม่  เพื่อนผมแต่ละคนก็มนุษย์เงินเดือนทั้งนั้น ออกรถมาคันนึงเพื่อใช้เดินทาง  เงินเดือน ผ่อนรถ+ให้แม่+ค่าใช้กิน+ค่าเช่า มันแทบไม่มีเหลือเดือนๆนึง  ขนาดรถมือสอง ผมถามว่ามันจะเอาตังค์จากไหนมาซื้อแคทเปลี่ยน แล้วคนแบบนี้ในประเทศเราก็เยอะมากซะด้วย คุณ.............ช่วยคิดหน่อยว่าจะทำไงดีครับ จากคุณ : โอvgs เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 10:49:37

ความคิดเห็นที่ 41   ผมก็มนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน จากที่สังเกตุมาจากคนรอบข้างและฟังคนเล่ามา ทุกๆคนสามารถมีเงินเก็บได้ทั้งนั้น แต่ใครจะมีใครจะหมดมันขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะใช้เงินฟุ่มเฟือยแค่ไหน ถ้าตั้งใจจะเก็บเงินจริงๆมันทำได้หมดทุกคนล่ะ แต่ถ้าจะให้แจงรายละเอียดลงไปอีกคงยาก เอาง่ายๆว่าถ้างดเหล้า งดบุหรี่ งดเที่ยวกลางคืน เท่านี้เงินเหลือแน่นอน ผมให้เวลาเอาแค่ระยะรถคันนึงเปลี่ยนรุ่นก็ได้สัก 5 ปีแค่สามหมื่นบาทยังน้อยไป รวมถึงค่าบำรุงรักษารถอื่นด้วยแล้วยังสบายเลย รถคันนึงอย่าคิดมาว่าซื้อมาแล้วจบเรื่อง มันต้องแบ่งมาเป็นค่าบำรุงรักษาต่างๆนานๆด้วย ถ้าซ์้อมาแล้วใช้มันสมบุกสมบันไม่ซ๋อมไม่ดูแลเลย สุดท้ายมันก็อยู่ได้ไม่นาน พวกที่ฝนตกแล้วเหินน้ำไปชนโน่นชนนี่ก็พวกนี้เกินครึ่ง ยางหมดสภาพไม่มีดอกแข็งเป็นหินแต่ฝืนใช้ต่อไปเพราะไม่อยากจ่าย..... ยิ่งถ้าเป็นพวกตามเว็บที่ชอบแต่งรถเนี่ยอ้างว่าคาตาไลริคแพงแล้วอยากจะถีบจริงๆ ทีไอ้กล่องจูนเครื่องอันเป็นหมื่นมีจ่ายกันจัง ไหนจะค่าน้ำมันที่ผลาญเล่นไปเพราะแข่งกับคันโน้นคันนี้อีก เงินสามหมื่นมันก็แค่เศษๆกับของเล่นพวกนั้น จากคุณ : ............... เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 14:48:50 A:10.216.90.40 X:203.170.231.232 TicketID:157584

ความคิดเห็นที่ 42 พี่คห.41 ครับ มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ (ยกเว้นพวกที่พ่อแม่รวย) เขาซื้อรถกันที ผ่อนกันเงินเดือนแทบไม่เหลือ เงินเดือนแค่ 4-5 หมื่น มันก็ขับรถคันละล้านกว่าๆแล้ว ผ่อนกันเดือนละเกือบสามหมื่น สิ้นเดือน หักค่าน้ำมันก็แทบจะกินแกลบแล้ว ประกันชั้น 1 ก็ไม่กล้าทำ ยางก็ใช้กันเกือบแสนโล เดือนไหนเอารถเข้าศูนย์ จ่ายอีก 4-5 พัน ก็แทบตายกันเลยทีเดียว รถราคาเป็นล้าน ติดฟิล์มแค่ 3-4 พัน เพราะไม่มีใครดูรู้ว่าฟิล์มถูก อะไรที่มันโชว์ได้ว่าตรูรวย มันก็จะทำ อีกหน่อยคงต้องบังคับเอา Catalytic Converter ติดไว้บนหลังคา สกรีนยี่ห้อไว้ด้วย รับรองงานนี้ต้องทุ่มทุนสร้าง เอายี่ห้อ/รุ่นที่ไฮโซที่สุด เพื่อประกาศว่าตรูรวย แต่นี่ Cat มันไปอยู่ใต้รถ ไม่มีใครมองเห็น เรื่องอะไรจะไปทุ่มทุน ไม่มีใครเห็น จากคุณ : ลุงเต่า เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 18:51:35

ความคิดเห็นที่ 43   วิ่งแต่ชานเมือง 80-120 ตลอด 130000 โล แคทตันยังครับ เมื่อก่อนได้ 17 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 14 โลลิตร รถเกียร์ CVT ศูนย์บอกให้ทะลวงออก แต่หัวหน้าช่างที่ออกมาเปิดอู่เองบอกอย่าไปเอาออก รถจะกินน้ำมันขึ้นกว่านี้อีก ก็เลยยังแก้ปัญหาเรื่องกินน้ำมันไม่ได้ซักที เปลี่ยนของเหลว หัวเทียน กรองเบนซินไปแล้ว เหลือแต่แคท จากคุณ : bio เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 14:57:32 A:202.176.102.39 X: TicketID:231419

ความคิดเห็นที่ 44   รถเกียร์อะไรครับ MT / AT ถ้า MT อาจจะดีขึ้นในทุกกรณี ถ้า AT ถ้ามันไม่ตัน ต้นหายแน่ๆครับ แล้วขับในเมือง แดรก.... ระเบิด แรงบิดมันหายครับ ถ้ามันตัน ซื้อใหม่ร้านแถวๆนวลจันทร์ ขายอยู่ 3800 ครับ CAT ใหม่ made in USA หาเอาเองนะครับ ร้านไหน กลัวโดนหาว่าโฆษณา จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 17:08:04