  | 
				
				
					 
						ความคิดเห็นที่  3 | 
 						 
				  
				
ได้ข้อมูลมาบ้างแล้วค่ะ ขอบคุณอากู๋ กับพี่ mocyc ดอทคอมค่ะ
  1.ต้องยื่นเรื่องเสียภาษีสรรพสามิตได้ที่ว่าการอำเภอ ทุกแห่ง หรือยื่นที่กรมสรรพสามิต กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า โดยสรรพสามิตจะได้พิจารณค่าธรรมเนียมตามระเบียบหลักเ กณฑ์ที่กำหนด พิจารณาจาก รุ่น ยี่ห้อ ชนิดรถ ราคากลาง ตามอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้
  2.หลังจากเสร็จเรื่องจากสรรพสามิตเรียบร้อยแล้ว ก็ให้นำรถที่ประกอบเองนั้นไปที่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ที่กรุงเทพฯ นะครับ เพื่อยื่นเรื่องขอตรวจสภาพ โดย สมอ.จะส่งให้สถานที่ตรวจของเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งมีอยู่ 2 ที่ ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปู จว.สมุทรปราการ และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จว.ชลบุรี  การดำเนินการเจ้าของก็ต้องยื่นเรื่องคำขอต่อ สมอ. ซึ่งจะพิจารณาตามลำดับในการส่งตรวจ และรอรับผลการตรวจสอบจากหน่วยงานทั้ง 2 แห่ง ว่าผ่านการตรวจหรือไม่ผ่านการตรวจ โดยมีค่าธรรมเนียมการตรวจเริ่มต้นที่ 27,000 บาท (ชำระก่อนนำรถไปตรวจสภาพนะครับ)
  3.ระหว่างนั้นก็ให้ผู้มีใบรับรองวิศวกรรมเครื่องกล ทั้งจากหน่วยงานราชการหรือเอกชน หรือตามวิทยาลัยเทคนิคก็ได้ รับรองความมั่นคง แข็งแรงในการประกอบ เพื่อออกเอกสารนำประกอบการพิจารณา
  4.เมื่อได้ดำเนินการทั้ง 3 ขั้นตอนเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็รวบรวมเอกสารดังกล่าวยื่นจดทะเบียนต่อขนส่งจังหวัด นั้นๆที่ขอจดทะเบียน หากเอกสารถูกต้องก็จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
  ปล.ถ้าเป็นตัว พันซีซีขึ้นไป ก็มีราคาแยกระหว่างรถฟูลแฟริ่งกับไม่ฟูลแฟริ่งอีก เริ่มต้นไม่น้อยกว่า 50,000 ขึ้นไปถึง90,000 สำหรับรถที่เอกสารครบพร้อมจดทะเบียน ขั้นตอนวุ่นวายครับ แต่รถตัวพันปีใหม่ๆจะดูจดแล้วคุ้มกว่ารถ ซีซีน้อยกว่า 400
  อืม..ดูใช่เงินแยะจังแฮะ 50000-90000 ซื้อได้อีกคันเลยนะนั้น
				
				 
				 
				
					| จากคุณ | 
					: 
DuskyDuck    
						 | 
				 
				
					| เขียนเมื่อ | 
					: 
2 ต.ค. 52 13:37:56
						 | 
				 
				
					 | 
					 | 
				 
				 
 | 
  |