Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เทสต์ไดร์ฟ Lancer EX ดอนเมือง มาแล้วครับ  

Group Test : Mitsubishi Lancer EX
สัมผัสแรกของรุ่น 2.0/1.8 ที่ดอนเมือง

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดการทดสอบแบบกลุ่มหรือ Group Test ให้สื่อมวลชนได้สัมผัส มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 2,000 และ 1,800 ซีซี โดยใช้พื้นที่ของสนามบินดอนเมืองในการทดสอบสมรรถนะ

เนื่องจากสนามบินดอนเมือง เป็นพื้นที่หวงห้าม ก่อนการทดสอบจึงต้องมีขั้นตอนกันสักนิด เริ่มจากการนัดรวมตัวของสื่อมวลชน บริเวณห้องรับรอง เดินผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ทั้งคนและสัมภาระ จากนั้นจึงนั่งรถบัสต่อไปยังจุดทดสอบ ซึ่งมีรถยนต์และเจ้าหน้าที่คอยท่าอยู่

รถยนต์ทดสอบมี 6 คัน แบ่งเป็นรุ่น 2,000 และ 1,800 ซีซี อย่างละ 3 คัน โดยจะได้ขับคันละ 2 รอบสนาม ในรถยนต์ทุกคันจะมี Instructor นั่งคู่ไปด้วยตลอดการทดสอบ

สนามทดสอบเป็นลานกว้าง ถูกกำหนดเส้นทางด้วยไพลอนหรือกรวยยาง ลักษณะการวางทางเป็นแบบเดียวกับการแข่ง Gymkhana มีทั้งช่วงทางตรง สลาลอม เลี้ยวมุมแคบ และการเบรก

สถานีแรก โชว์วงเลี้ยวแคบ 5 เมตร
เริ่มต้นด้วยรุ่น 2,000 ซีซี  รหัสเครื่องยนต์ 4B11 ออกจากจุดสตาร์ตเริ่มวอร์มอัพด้วยสถานีแรก ทดสอบความคล่องตัวด้วยวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5 เมตร มีไพลอนเรียงบังคับไว้ด้านนอกคล้ายวงเวียน ไม่ให้เลี้ยวเกินออกไป เริ่มต้นต้องนำรถชิดด้านซ้ายของไพลอน จากนั้นจึงหมุนพวงมาลัยไปทางขวา เพื่อวน 1 รอบแล้วจึงออกไปยังสถานีถัดไป

รอบแรกเป็นการขับดูไลน์สนาม ผมไม่ได้นำรถชิดซ้ายสุดมากนัก และไม่ได้หมุนพวงมาลัยไปทางขวาจนสุดทันที แต่ค่อยๆ หมุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งรถหันหน้าไปยังทิศทางที่ขับมาตอนแรก จึงหมุนพวงมาลัยสุด และด้วยความเคยชินเมื่อรู้ตัวว่าหมุนสุดจึงคลายออกนิดๆ ตอนขาออกจากวงเวียนก็ยังผ่านไพลอนไปได้โดยไม่เฉี่ยวชน (แต่ต้องชลอความเร็วจนเกือบหยุด เพราะไม่แน่ใจว่าพ้นหรือเปล่า)

รอบ 2 ของรุ่น 2,000 ซีซี จึงขับรถชิดซ้ายของไพลอน และพยายามไม่หมุนพวงมาลัยสุดตั้งแต่แรก แต่ใช้วิธีค่อยๆ หมุนพวงมาลัยเพิ่มกระทั่งหมุนสุดที่ประมาณครึ่งทางของวงกลม ขาออกจากวงเวียนพบว่าไม่หวาดเสียวเหมือนรอบแรก

ทางตรง 2 ช่วง พิสูจน์อัตราเร่งเกียร์ CVT+ Sport Mode
จากวงเวียนเข้าสู่ทางตรงสั้นๆ ก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางตรงยาวประมาณ 180 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาอีกครั้ง เข้าสู่ทางตรง 270 เมตร ในช่วงทางตรงทั้ง 2 ช่วง เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี 154 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจากไหลๆ ไปแตะ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างสบาย รอบแรกใช้เพียงเกียร์ D ไม่ต้องใช้โหมดสปอร์ตแต่อย่างใด

อัตราเร่งของรุ่น 2,000 ซีซี ถือว่าอยู่ในระดับเกินพอสำหรับการใช้งานทั่วไป การตอบสนองเมื่อกดคันเร่งถือว่าทันใจพอสมควร การเพิ่มขึ้นของอัตราเร่งเป็นไปอย่างต่อเนื่องและนุ่มนวล เสียดายทางตรงสั้นไปนิด จึงยังไม่รู้ว่าเมื่อขึ้นสู่เกียร์สูงๆ แล้วอัตราเร่งจะเป็นอย่างไร

รอบ 2 ของรุ่น 2,000 ซีซี ทดลองใช้โหมด Sport ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยแป้นหลังพวงมาลัย ขวามือ + เปลี่ยนเกียร์สูง ซ้ายมือ – เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ นึกอยากใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก ดึงแป้นหลังพวงมาลัยได้เลย และถ้าจะยกเลิกก็แค่ดึงแป้นฝั่งขวาค้างไว้ 3 วินาที

เกียร์ของแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ เป็นแบบอัตโนมัติ  INVECS-III CVT พร้อมโหมด Sport การเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลง ถือว่าฉับไวกว่าที่คาดคิดไว้ เมื่อดึงแป้นเกียร์แล้วอีกเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เกียร์ก็เปลี่ยนจังหวะให้ ลองลากรอบสูงแล้วดึงแป้น + เปลี่ยนเกียร์ขึ้นสูง เกียร์ก็ยังเปลี่ยนให้ด้วยความนุ่มนวลและฉับไวพอควร

สลาลอม พวงมาลัย+ช่วงล่าง ที่สัมพันธ์กัน
สุดทางตรงเลี้ยวขวาเกือบจะเป็นยู-เทิร์น เข้าสู่สลาลอมแบบกว้างจำนวน 3 ไพลอน วางห่างกัน 50 เมตร จึงสามารถขับด้วยความเร็วสูงเท่าที่เครื่องยนต์จะทำได้ การเข้าสลาลอมด้วยความเร็วสูง พบว่าระบบกันสะเทือนให้ความมั่นใจสูง ไม่มีอาการว่าจะปัดเป๋แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงรอบแรก ยังไม่คุ้นเส้นทาง จึงเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ค่อนข้างเยอะ

จากนั้นขับบนทางตรงสั้นๆ เข้าสู่สลาลอมแบบแคบ 5 ไพลอนกว้างไพลอนละ 30 เมตร ถ้าไม่ใช้ความเร็วต่ำลง ก็ต้องออกแรงบังคับควบคุมรถกันมากขึ้น รอบแรกขับสบายๆ รอบ 2 ใช้ความเร็วเท่าที่คิดว่าเอารถอยู่ พบว่ายางเริ่มส่งเสียงร้องเป็นบางจังหวะ ต้องออกแรงหมุนพวงมาลัยมากขึ้น ตัวรถมีอาการมากขึ้น แต่ทั้งหมดยังสามารถควบคุมได้ดี ยางขนาด 215/45 R18 ช่วยควบคุมการบิดหรือโย้ตัวของแก้มยางไม่ให้ส่งผลต่อการทรงตัว ขณะเลี้ยวมุมแคบหรือเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง

เบรกรับมือได้สบาย
ออกจากสลาลอม เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการทดสอบ เป็นทางตรงไม่ยาวมาก เมื่อถึงจุดที่กำหนดให้กระทืบเบรกเต็มที่ จากความเร็วประมาณ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนถนนแห้งสนิท สามารถเบรกหยุดนิ่งได้ในระยะทางสั้นๆ และไม่มีอาการปัดเป๋แต่อย่างใด เอบีเอสทำงานสั้นๆ ในช่วงแรกที่กระทืบเบรก แป้นเบรกแทบไม่มีการเต้นหรือสั่นสะเทือนให้ตกใจแต่อย่างใด ออกจากสถานีเบรกก็นำรถเข้าจอดรอคิว ออกไปทดสอบให้ครบ 2 รอบ

1,800 ซีซี เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป
เมื่อขับรุ่น 2,000 ซีซีครบ 2 รอบ ก็เปลี่ยนรถเป็น 1,800 ซีซี 139 แรงม้า นอกเหนือจากการตกแต่งภายนอก-ภายใน รวมทั้งอุปกรณ์มาตรฐานแล้ว สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ อัตราเร่งของเครื่องยนต์ ความจุต่างกัน 200 ซีซี ม้าน้อยกว่า 15 ตัว แน่นอนว่าส่งผลกระทบถึงอัตราเร่งอย่างชัดเจน

ความแตกต่างของอัตราเร่งจะชัดเจน ถ้าเปรียบเทียบด้วยการเร่งจากจุดหยุดนิ่ง แต่ถ้าขับลอยๆ อยู่แล้วกดคันเร่งเพิ่มความเร็ว ก็จะรู้สึกว่าแตกต่างกันไม่มาก ส่วนอัตราเร่งช่วงปลายก็อย่างที่ผมบอก คือ ไม่มีโอกาสได้ทดสอบ รวมทั้งสิ่งที่น่าจะแลกมาด้วยอัตราเร่งที่ช้ากว่ารุ่น 2,000 ซีซี นั่นคือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ถ้ามีโอกาสทีมงานมอเตอร์ทริเวียจะนำเสนอต่อไป

ผมไม่ได้บอกว่ารุ่น 1,800 ซีซีอัตราเร่งอืดนะครับ แต่บอกว่าต่างจากรุ่น 2,000 ซีซีชนิดสัมผัสได้ ส่วนจะอืดหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการและความเคยชินของแต่ละคน สำหรับผมแล้ว ถ้ามีรุ่น 1,800 ซีซี ที่ให้อุปกรณ์มาตรฐานเหมือนรุ่น 2,000 ซีซีทุกอย่าง (หรือตัดบางอย่างที่เข้าข่ายฟุ่มเฟือยออกไป) ก็จะเป็นรุ่นย่อยที่น่าสนใจมาก เพราะเครื่องยนต์ 1,800 ซีซีรหัส 4B10 รุ่นนี้เป็นแบบ FFV หรือ Flex Fuel Vehicle สามารถใช้ได้ตั้งแต่ E0-แก๊สโซฮอล์ E85

ระบบบังคับเลี้ยวและระบบกันสะเทือน ให้ความรู้สึกเดียวกับรุ่น 2,000 ซีซี แม้จะใช้ยาง 205/60 R16 ซึ่งแคบกว่าและแก้มสูงกว่ากันมากก็ตาม การเข้าสลาลอมหรือเลี้ยวมุมแคบ ก็ยังให้ความรู้สึกที่หนักแน่นดี ยกเว้นเมื่อใช้ความเร็วสูงเกินปกติ จะมีอาการยวบให้สัมผัสบ้าง

http://www.motortrivia.com/section-report/0006-mitsubishi-lancer-ex-first-impress/mitsubishi-lancer-ex-first-impress.html

แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 52 15:34:24

 
 

จากคุณ : i-n
เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 15:32:54




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com