ความคิดเห็นที่ 1   ถ้า ตจว. น่าจะไปรอด ค่าเช่าที่ไม่โหดมาก เห็นเช่าที่ดินเปล่ากัน ริมถนนใหญ่ประมาณ ครึ่งไร่ ปีละ 20,000 บาท ถูกๆ ถ้าเงินเย็นไม่ไปกู้แบงค์มา อยู่รอด ครับ ส่วนเรื่อง ทำในนามบุคคลธรรมดา นิติบุคคล หรือ หจก. ขึ้นอยู่ว่าคุณมีรายรับ รายจ่ายค่าใช้จ่าย และจะมีวิธีหลบเลี่ยงภาษีอย่างไร (ไม่ได้หนีภาษีนะ) เรื่องอื่นรอข้างล่าง จากคุณ : tonnopadon เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 15:32:10

ความคิดเห็นที่ 2   ต่อ อีกนิด เพื่อนผมเคยเช่า ตรงธนชาติ พระราม 9 เต็นอยู่ข้างใน พื้นที่นิดนึง เดือนละ แสน แค่ค่าเช่าก็จะแย่แล้ว จากคุณ : tonnopadon เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 15:34:04

ความคิดเห็นที่ 3   ธุรกิจทุกอย่าง .. อยากรอด อยากรุ่ง นอกจากเงินทุนหนาแล้ว ต้องเส้นสายดี !! เจอคู่แข่งเข้าไปก็วัดกันว่าใครมันจะแน่นกว่ากัน เรื่องจริง: ผู้ว่าที่จังหวัดแห่งหนึ่ง เป็นเพื่อนสนิทกับคู่แข่งของธุรกิจA ทำให้เกิดอุปสรรคแก่ธุรกิืจB ไม่ยอมเซ็นใบให้ซักที ดึงเวลาให้ช้า แต่เจ้าของBเส้นใหญ่กว่า ลงมากทม.ให้รัฐมนตรีจัดการ มีการตรวจสอบ สั่งโยกย้ายผู้ว่าคนนั้นทันที ผู้ว่าคนนั้นมาตัดพ้อหาว่าเจ้าของธุรกิจBกลั่นแกล้ง ... ฯลฯ โลกธุรกิจมีอะไรมากกว่าที่คุณคิดเยอะนะครับ !! ปล.เจ้าของธุรกิจB เค้าพกปืนไว้ในรถทุกคัน คันละ2-3กระบอกเป็นอย่างน้อย ปล. นี่ธุรกิจถูกกฏหมายนะจะบอกให้ ปล.ธุรกิจคือการแข่งขัน ไม่เราก็เค้าฝ่ายใดฝ่ายนึงรอด ฝ่ายใดฝ่ายนึงร่วง ปล.เมื่อก่อนยูนีฟคือผู้นำชาเขียวอันดับ1 พอโออิชิมา ..ยูนีฟร่วง!! จากคุณ : 6666 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 15:43:42 A:58.8.170.146 X: TicketID:229143

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นรับฝากขายก่อน กินแต่ค่านายหน้ายังงี้ได้เปล่าคะ   ถ้าจะทำเต๊นท์ก็ต้องใช้ตังค์เยอะล่ะมั้ง คนเอารถมาขายก็อยากได้ตังค์เลยทั้งนั้น แต่ว่า  มีทุนเท่าไรก็ทำไปเท่านั้นก่อนก็ได้นี่คะ อ่ะ ... ระวังรถที่แบบว่า ใช้งานมาหนักมากๆแต่ก่อนขายไปทำมาซะเนียน เพราะเพื่อนพ่อบางคนมาเล่าให้ฟังด้วยความฮา (--") แบบดีใจที่ตบตาเต๊นท์ได้  รถจริงๆโทรมมากแล้ว ไม่ควรได้ราคาขนาดนั้น (ถึงแม้ว่าเต๊นท์เขาก็เอาไปขายต่อได้กำไรอยู่ดีก็ตาม... เพราะมันก็จะมีคนซื้อประเภทที่ดูรถไม่เป็นมาซื้อไปอีก) ถ้าจะทุนจมก็คงไปรับซื้อรถที่มันชนหนัก-เบามาแต่ทำใหม่ซะเนียน คนซื้อที่เขาดูรถเก่งๆก็ดูออก ตอกเลขแชสซีมาใหม่  สวมทะเบียน แต่มันก็ดีนะ   เริ่มจากเล็กๆรถคันสองคันแต่ขอให้ปล่อยไปได้ก็แล้วกัน กำไรแค่พันสองพันซะเมื่อไร แถวที่ขาวมณีอยู่ ส่วนใหญ่จะโฆษณาว่า "ขายรถบ้าน" ประมาณว่า เต๊นท์นี้ขายแต่รถที่ใช้เบาๆมา แต่ว่า ที่จริงก็คือ บ้านที่ว่าน่ะ..อยู่บนเขา ทางขรุขระ  ทางสาหัสสากรรจ์ แล้วมาโฆษณาว่า รถบ้าน  อยากเป็นลม -"-   เขาก็พูดถูกนะ รถบ้านจริงๆ แค่บ้านมันต้องขึ้นเขาลงห้วยมากหน่อยแค่นั้นเอง   สงสารคนซื้อไป..รถโทรมจัด TT แล้วก็อย่าง คห. บนบอก  ทำธุรกิจอะไรก็ตาม...มันมีช่วงเวลาของมัน มีระยะเริ่มต้น ตั้งตัว  อยู่ตัว  ตกต่ำ หมุนเวียนกันไป คิดจะทำก็ลงมือทำเลย ไม่ต้องอายถ้ามันจะไม่สำเร็จ อย่างน้อยถ้าลงมือทำสักอย่าง โอกาสยังเป็น ๕๐-๕๐ แต่ถ้าไม่ทำ  โอกาสเป็น ๐ เลย (^^)/ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 52 16:20:16 จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 16:08:34

ความคิดเห็นที่ 5 เราว่าแค่ขึ้นป้ายว่า รับขายฝากรถ นี่ก็น่าจะมีคนเอารถมาเสนอแล้วนะ สำหรับการเริ่มต้น จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 16:25:01

ความคิดเห็นที่ 6 รับฝากรถ มันไม่ง่ายหรอกครับคุณหนูขาว เริ่มจากตัวเราจะขายรถซักคัน กล้าหรือไม่ที่จะฝากขาย ไม่กลัวเชิดรถไปหรอกหรือ เมื่อ10ปีก่อน ผมเคยเอารถมาตั้งกล่องขาย พวกเต๊นท์นี่แหละโทรมาบ่อยมาก บางคนก็เสนอให้ฝากขาย ในวงการรถมือสอง สำหรับคนนอกอย่างผมๆมองว่าน่ากลัวครับ น่ากลัวตรงที่รถขโมยมาขายหรือเปล่า รถย้อมแมวมาหรือเปล่า ทำเลที่ขายดีหรือเปล่า ซื้อมาวันนี้กี่เดือนกว่าจะได้ขาย แล้วถ้าเป็นปีล่ะ ราคารถที่เราซื้อมา ลดลงไปอีกแล้วนะ เครื่องมีปัญหามั้ย สารพัดสารพันปัญหาที่จะเกิด จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 17:35:36

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ถ้าแบบรู้จักคนเยอะ หรือมีหน้าร้านที่ทำให้ได้พบปะลูกค้าเยอะๆเนี่ย ขายง่ายเหมือนกันนะคะ  ขายเอง เอาส่วนต่าง ไม่ออกทุน  จะจ่ายให้เจ้าของรถก็ต่อเมื่อรถขายได้ง่ะ   แต่มันก็ไม่ใช่ลักษณะเต๊นท์รถอยู่ดี ถ้าเป็นเต๊นท์เนี่ย  เวลาขายออกต้องทำไฟแนนซ์ไปด้วยในตัวรึป่าวก็ไม่รู้นะคะ  (ทำไม่เป็นด้วยแหล่ะ เลยไม่ค่อยรู้เรื่อง) เคยแต่รับฝากขายให้เพื่อนพ่อ ขายไปหลายคันแล้ว บอกกับลุกค้าที่มาซื้อของเนี่ยแหล่ะ  จอดไว้หน้าร้าน มีคนถามซื้อเยอะ เลือกขายเฉพาะรถที่ราคามือสองอยู่ช่วงแสนบาท ไม่เกินสามสี่แสน มันก็ตัดสินใจไม่ยากและไม่ตอ้งทำไฟแนนซ์   เพราะเงินขนาดนี้มีคนซื้อสดไหว ก็ขายได้ค่อนข้างเร็วเพราะเราเจอคนเยอะ เลยทำให้คิดว่า ถ้ารับฝากขายแบบนี้มันง่ายกว่าอ่ะค่ะ แหะๆ ขายเฉพาะเงินสดเลย  แบ่งมากสุดก็แค่สองงวด เป็นมัดจำกับส่วนที่เหลือ ไม่ได้เอาดอกด้วย  แบ่งแค่สองงวดเราถือว่าเขาซื้อสดอ่ะ   แล้วก็ที่สำคัญที่กล้าขายเพราะรู้ที่มาที่ไปของรถ   ค่อนข้างชัวร์  แต่ให้เอาเงินสดซื้อรถเพื่อมาขายต่อ ก็รู้สึกว่าตัวเองจะยังไม่กล้าทำเหมือนกันอ่ะคะคุณเหล่านั้งฯ :D กล้ารับฝากจากคนที่รู้จักเท่านั้นเอง อีกอย่างน้องชายกับพ่อดูรถเก่ง เลยทำให้ขายง่ายอ่ะค่ะ   พูดให้คนมาซื้อเขาทึ่งๆได้ไง - -"   น้องชายพาลูกค้าที่มาซื้อไปทดลองรถ รถอืดๆแท้ๆไม่รู้ขับไงลูกค้าทึ่งน่าดู บอกว่า รถแรงดีจัง (-"-) ซื้อซะงั้น ฮาๆ อ้าว   รู้สึกว่าขาวมณีจะมายึดกระทู้ไปแล้ว 555 ถือว่ามาเล่าแล้วกัน เพราะขาวมณีไม่ใช่มือโปร ไม่เคยทำเต๊นท์ด้วย เพียงแต่เคยขายรถมือสองเท่านั้นเอง ^^ จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 19:33:36

ความคิดเห็นที่ 8 ผมคิดจะทำเหมือนกัน แต่ตอนนี้เริ่มทำแบบซื้อมาใช้เองแล้วก็ขายไปด้วย ทำมา5คันแล้ว ก็มีทั้งรถประมูลมั่ง รถบ้านมั่ง จากที่ผ่านมาก็ขายได้นะครับถ้าเป็นรถตลาด แต่การจะได้มาราคาถูกนี่เป็นเรื่องยาก นอกจากมีเครือขาย หรือฟลุ๊กๆ วงการนี้น่ากลัวที่เดียว ยิ่งไม่มีประสบการณ์ อาจจะเจ็บตัวหนัก ยก ตย นะครับ สมมุติคุณจะซื้อรถมาขาย คุณดูออกไหมรถคันนี้ถูกย้อมมา ถูกสวมทะเบียนมา ชนหนักมา ประเมินราคาตลาดออกไหม ประเมินราคาค่าซ่อมออกไหม พลาดไปก็เข้าเนื้อ อยากแนะนำว่าให้ลองไปเรียนหลักสูตรสอนเกี่ยวกับการดูรถมือสองก่อนอะครับ ลอง search ดูนะ อ่อเรื่องจดทะเบียน ส่วนตัวคิดว่าจดเป็นนิติบุคคลก็ดีครับน่าจะได้ประโยชน์ตอนเคลมภาษีรถคืนได้หากไปประมูล (อันนี้ไม่แน่ใจอย่างแรง) คือตอนประมูลชนะมันต้องจ่าย 7% ของราคาชนะประมูล ผมไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นบริษัทจำกัดจะทำอะไรตรงนี้ได้ไหม แต่ประโยชน์ที่สองคือหากกิจการไปไม่รอด ล้มไปก็รับผิดชอบแค่ในส่วนที่จดทะเบียน หนี้สินไม่มาถึงตัวบุคคล (หรือเปล่าหว่า) ยังไงลองศึกษาตรงนี้เพิ่มละกันครับให้เป็นไอเดีย จากคุณ : Beer (papaluza) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 21:09:26

ความคิดเห็นที่ 9 ง่ายๆ นะครับ ลองรับฝากขายก่อน ถ้าเห็นแวว แล้วตัวเองถนัด จะเดินหน้าต่อก็ไม่สาย อย่าก้าวไปลึกมาก แล้ว หันหลังกลับก็ไม่ได้ จะเดินหน้าก็เจ็บหนักครับ จากคุณ : Cnone on the way เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 21:10:01