ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องนี้ยืดเยื้อมาหลายปีแล้ว กลุ้มใจมากเลย ใครพอจะมีอะไรแนะนำ ได้บ้างไม๊คะ หรือว่า เราต้องก้มหน้ารับกรรม จากการกระทำที่ไม่รับผิดชอบของจำเลยที่1 แทนคะ... จากคุณ : คนจีนตัวน้อย เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 19:03:30

ความคิดเห็นที่ 2 ผู้กู้มีทรัพย์สินอะไรบ้างครับ เพราะถ้ายึดทรัพย์กันจริงต้องไปยึดจากจากผู้กู้ก่อนครับ จากคุณ : keaw_m เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 19:44:21

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงผ่อนกับแบงค์ก็ยึดได้ครับถ้าบ้านเป็นชื่อคุณ แต่พอขายทอดตลาดต้องหักให้กับหนี้แบงค์ก่อน ก็ต้องเคลียร์กับเจ้าหนี้เท่านั้นละครับเลิกคิดถึงจำเลยที่1ได้แล้วมันไม่รับผิดชอบแน่ ส่วนใหญ่คดีเเพ่งก็มักยึดทรัพย์ของคนค้ำแบบนี้ละครับตัวต้นเรื่องมันมักไม่มีอะไรให้ยึด บ้านเวลาขายทอดตลาดราคามักตกด้วยครับ  ตอนเค้าฟ้องคุณไม่ได้ไปขึ้นศาลใช่มั๊ยครับอยู่ๆจะมีหมายบังคับคดีมาเป็นไปไม่ได้แน่นอน ผมดูแล้วมันน่าจะเป็นหมายยึดทรัพย์จริงนะ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 52 20:05:55 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 52 19:59:07 จากคุณ : laekul เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 19:48:22

ความคิดเห็นที่ 4 ยังไม่ได้ขึ้นศาลกันเลย จะมาบังคับคดีกันได้ยังไง เท่าที่ได้ยิน หลังประนอมหนี้กันในศาลแล้ว ศาลจะให้เราผ่อนจ่ายตามรายได้ที่เรามี โดยที่เรายังสามารถใช้ชีวิตได้ต่อไปด้วย ช่วงนี้ห้ามเซ็นอะไรเด็ดขาด จนกว่าจะโดนฟ้อง ไปคุยกันในศาลเท่านั้น จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 19:51:18

ความคิดเห็นที่ 5 โทรฯไป ปรึกษา สภาทนายฯ อย่างเดียวเลยครับ ตอนนี้ เรื่องของคุณอยู่ในขั้นตอนของศาลแล้ว  จะแนะนำอะไรไป มันไม่ช่วยอะไรมากหรอก  นอกจากแนะให้เจรจา กับเจ้าหนี้  แต่เล่นมี เลขคดีแดงออกมาแล้ว ก็คือศาลชั้นต้นตัดสินไปแล้ว http://www.chusaklaw.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=chusaklawcom&thispage=3&No=13474 ออกหมายบังคับแล้ว เจรจาได้ ก็ต้องโดนค่าธรรมเนียมตรงนี้เข้าไปด้วยอยู่ดี  เพราะเขาถือว่ามี คชจ ทางศาลเกิดแล้ว คุณจ่ายตลอดหละ หลักๆ คือยึดรถ ขายทอดตลาด ได้ต่ำกว่าเงินกู้ ก็เรียกเก็บเพิ่ม เก็บไม่ได้ก็ฟ้องยึดทรัพย์มาขายต่อ งานนี้มีแต่ จ่ายหละครับ  ยื้อยากหละ เพราะคุณเป็นคนค้ำประกัน มีสภาพ เป็นลูกหนี้ร่วม  ตามสัญญาอยู่แล้ว  ***เขาถึงบอกว่าห้ามค้ำประกันให้คนอื่นไง*** แล้วเลยกำหนด อุทรณ์ยังเนี่ย จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 20:03:27

ความคิดเห็นที่ 6 เฮ้อ.. คนดีต้องมาเดือดร้อน เราคุยกับเพื่อนที่เป็นทนายให้แล้วคะ เข้าใจว่าที่คุณบอกเรื่องยืดเยื้อเพราะมันผ่านขั้นตอนการพิจารณาคดีไปหมดแล้วใช่ไหมคะ  แต่คุณไม่ได้ไปศาลตามหมายเรียก ดังนั้น ในขั้นนี้ เขาจะยึดทรัพย์คุณจริงๆคะ เพราะศาลตัดสินออกมาแล้ว ถึงมี หมายมาแจ้งยึดทรัพย์ได้ แนะนำให้ไปคุยกับเจ้าหนี้ เพื่อขอประนอมหนี้ด่วน ซึ่งอาจจะลำบากนิดหนึ่งที่จะขอต่อรอง  เพราะต่อสู้ใดๆไม่ได้แล้ว เนื่องจากผ่านขั้นตอนการพิจารณาไปหมดแล้วนั่นเอง   แนะนำว่า ให้ดูว่าหมายศาลส่งมาถูกบ้านไหม ถ้าผิดบ้าน ทำให้คุณไม่ได้รับ   อาจจะขอดึงเรื่องให้กลับมาพิจารณาคดีใหม่ (แต่ถ้ามีใบเซ็นรับคงอ้างแบบนี้ไม่รอด) แต่ถ้ายังไม่ขึ้นศาล ก็ตามคคห 4 คะ จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 20:05:49

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกๆคำตอบ ก่อนเลยนะคะ คห.1 เราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าผู้กู้มีทรัพย์สินอะไรเหลือหรือไม่ หลอกลวงคนอื่นเค้าไปทั่ว... แสดงว่าตามคห.2 เค้าก็ยึดบ้านเราได้จริงๆเหรอคะ...กลุ้ม ตัวต้นเรื่องมันมักไม่มีอะไรให้ยึด จริงๆเลยค่ะ ลอยนวล โทรไปก็ไม่หลบเรานะ รับปากว่าจะจ่าย แต่ก็ไม่เคยจ่าย... คห.4 เรายังไม่เคยขึ้นศาลเลยค่ะ มีแต่เจอใบแบบนี้มา 2 ครั้งแล้ว สรุปคือเราต้องจ่ายเงินส่วนที่เหลือแน่ๆแล่วใช่ไม๊คะ... จากคุณ : คนจีนตัวน้อย เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 20:07:40

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นคดีดำครับยังไม่ถึงขั้นกระบวนการสุดท้าย สามารถไปเจรจาออมชอมได้ หรือจะสู้คดีก็ได้ ลักษณะการปิดหมายที่บ้านแบบนี้เป็นการกระตุ้นให้ผู้ค้ำไปเร่งให้ผู้ซื้อ (จล1)นำเงินมาชำระครับ.......กว่าจะถึงขั้นยึดหลักทรัพย์กันจริงๆอีกนานและอีกหลายกระบวนการครับ อีกทั้งผู้ค้ำก็ยังเป็นลูกหนี้ของธนาคารซื่งเป็นเจ้าหนี้ที่1 และหลักทรัพย์ที่ค้ำก็ยังสูงกว่าราคาหนี้ค่ารถอีกมากด้วย ทางเจ้าหนี้ไฟแนนซ์ต้องไปไล่บี้ยึดทรัพย์ของ จำเลยที่1ก่อนถ้าไม่พอจ่ายถึงจะมาถึงผู้ค้ำ.....ปรึกษาทนายก่อนดีที่สุดครับ จากคุณ : 2yOuNg@hEaRt เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 20:12:25

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าดูไม่ผิด แสนแปด ใช่นะครับ - จำเลยที่1 ได้ถูกยึดรถไปนานแล้ว แต่ยังมีค่าปรับส่วนต่างที่ยังค้างจ่าย เป็นจำนวน 180,000 บาท และยังคงไม่ยอมจ่าย - ไม่น่าเป็นไปได้นะครับ ฟ้องยึดทรัพย์ ประนอมหนี้กันจริง ๆ จ่ายไม่เท่าไรดอกครับ อาจไม่ถึง แสนแปด ด้วยซ้ำ ลองดูนะครับ Good Luck จากคุณ : หามจั่ว เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 20:25:29

ความคิดเห็นที่ 10 ตายหละ เราเคยได้รับใบขอให้ชำระหนี้ก่อนบังคับคดี เมื่อเดือนเมษา 52 แจ้งว่าให้ไปชำระหนี้แก่โจทย์ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เราจึงโทรไปทวงถามจากผู้กู้ เค้าก็สัญญาว่าจะจ่าย แล้วเราก็ปล่อยเรื่องไป จนมาถึงวันนี้ เราจึงได้รับหมายแจ้งการยึดอสังหาริมทรัพย์ โดยการเอามาผูกติดกับประตูรั้วบ้านอย่างแน่นหนา แต่เราไม่เคยไปขึ้นศาลเลยค่ะ ไม่มีหมายศาลส่งมาที่เรา อ่านมาหลายๆความเห็นแล้วก็พอจะรู้ว่าต้องทำใจ ยอมชำระหนี้แทนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว ขอบคุณคห.5 และน้องต๋าวด้วยนะคะ จากคุณ : คนจีนตัวน้อย เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 20:29:30

ความคิดเห็นที่ 11 เพิ่งเห็นคห.8 ทีว่ายังเป็นคดีดำอยู่(จริงๆก็ไม่ทราบความหมายหรอกค่ะ) แต่ก็ยังพอรอมชอมได้ใช่ไม๊คะ และคห.9 ค่าปรับส่วนต่างที่ยังค้างจ่าย เป็นจำนวน 180,000 บาท จริงๆค่ะ ส่วนมูลค่าบ้านที่จะถูกยึด มูลค่าที่ถูกเค้าประเมินคือ 2.3 ล้านค่ะ จากคุณ : คนจีนตัวน้อย เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 20:36:39

ความคิดเห็นที่ 12 มีเลขคดีแดงแล้วนี่ครับ แสดงว่า ศาลมีคำพิพากษาแล้ว งานนี้ เขาจะยึดก็ยึดได้ล่ะครับ เพราะถือว่า บังคับคดีตามคำพิพากษา ผู้ค้ำฯ ยังไงก็ดิ้นไม่หลุดอ่ะครับ ถ้าจะดึงเรื่องคือ  ให้จำเลยที่1  อุทธรณ์ แล้วขอทุเลาการบังคับ น่าจะพอดึงได้แล้ว    แต่ก็อีกนั่นล่ะ  โจทก์อาจจะคัดค้านได้ ทางออก อื่นๆ  พอมี  แต่ไม่อยากแนะนำในนี้ครับ จากคุณ : ถัง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 20:55:53

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าถึงที่สุดแล้ว แล้วจะโดนยึดบ้าน ก็พยายามหาเงินมาชดใช้ก่อนนะครับ เพราะถ้าเอาบ้านไปขายทอดตลาดราคามันจะเสีย เอาเข้าจริงจะเท่ากับเสียมากกว่า 180,000 ได้ เฮ้อ..เห็นใจนะครับ คนที่คุณไปเซ็นค้ำให้นี่เป็นใครกันครับ จากคุณ : ปลาวาฬสีฟ้า..หางกุด เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 20:56:25

ความคิดเห็นที่ 14 อยากทราบทางออกอื่นๆของคุณถังค่ะ คุณปลาวาฬฯ เราคงต้องค่อยๆผ่อนแทนผู้กู้ไปค่ะ หากไม่มีทางออกอื่นๆแล้ว ผู้กู้นี่เคยมีโรงพิมพ์ค่ะ เราเป็นลูกค้าของเค้า ตอนนี้รง. ของเค้าเจ๊งหมดแล้วค่ะ ลูกน้องของเค้าก็นอกจากไม่มีใครได้เงินเดือน แถมยังโดนเอาบัตรประชาชน ไปแอบทำบัตรเครดิต เอาไปใช้ส่วนตัวอีก ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว โชคร้ายพอกัน โดนไปคนละหลายหมื่นทีเดียว เรียกว่าโดนกันอ่วมเลยหละค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 52 21:16:52 จากคุณ : คนจีนตัวน้อย เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 21:13:15

ความคิดเห็นที่ 15 ผมตอบหลังไมค์ไปแล้วนะครับ จริงๆแล้ว ถ้าหาเงิน 180,000 ไปจ่ายให้เจ้าหนักงานบังคับคดี เรื่องมันน่าจะจบง่ายนะครับ  คือ จบในส่วนคดีนี้ไปเลย   แล้วก็สบายใจเรื่องบ้านไปได้ ส่วนคุณคนจีนฯ ก็ฟ้องเอากับ คนที่คุณค้ำฯ ให้เขา เอา 180,000 คืนมา จากคุณ : ถัง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 21:37:33

ความคิดเห็นที่ 16 เป็น คดีแดง แล้วนะครับ เพราะมีเลขคดีออกมาแล้ว กล่าวคือศาลชั้นต้น พิพากษาแล้ว จะลองหลังไมค์ไปถามวิธีอื่นๆ จาก คคห 12 ดูก่อนก็ได้ครับ   แต่ผมแนะนำ ให้โทรฯไป ปรึกษาเบื้องต้น ที่สภาทนายฯ อีกทางหนึ่ง http://www.lawyerscouncil.or.th/ คือทำได้ง่าย คงไปเจรจา เป็นผู้ผ่อนชำระหนี้แทน  โดยไม่ต้องมายึดบ้าน  เพราะมันจะยิ่งหนัก บ้านราคาประเมิณ เขาประเมิณต่ำอยู่แล้ว การว่าคดีแพ่ง แบบนี้ จำเลยไม่ไป ก็ว่าได้ครับ  เพราะมีหมายมาแล้ว(มีแล้วแน่ๆหละ  ถ้าไม่ได้รับ ไม่มีเซ็นรับ ก็ลองไปปรึกษาดู  แต่ค่าจ้างทนายยื้อ  จะคุ้มไหม  เพราะถึงที่สุด ก็ต้องจ่ายอยู่ดี) แต่ในเมื่อคุณจะต้องจ่าย 180000 แล้ว โดยไปรับโอนหนี้มา  ก็ให้ขอรับโอนสิทธิในการฟ้องร้องมาด้วย  ให้เจ้าหนี้  ออกหนังสือโอนสิทธิตรงนี้มาให้  แล้วไปฟ้องเอาจาก จำเลย1  อีกต่อ จะตามได้เท่าไร ก็ยังดีกว่าจ่ายเต็มๆ 1.8 แสนหละนะ แนวทางคร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับ  ที่เหลือต้องไปหาทนายเอา การตกลงกับทนาย  ถามไปเลย คชจ ประมาณเท่าไร มันจะมี 1 ค่าเขียนคำร้อง(ชนะแพ้ ก็ตรงนี้หละ) ซึ่งจะร่วมคำร้องต่อศาล หลักฐาน เอกสารต่างๆ 2  ค่าธรรมเนียมต่างๆที่ศาล อันนี้ไม่สูง หลักร้อย-พัน  ให้ทนายประเมิณได้ 3  ค่าแรงตามนัดสืบ  เมื่อมีการสืบพยาน ทนาย ก็ต้องเตรียมคำถามต่างๆ ที่จะถามเขา  และคำตอบต่างๆว่าคุณจะตอบยังไง  รองให้เขาประเมิณได้ครับว่าเท่าไร จะได้รู้ว่าคุ้มแค่ไหน  คือไงๆ 1.8เนี่ย คุณต้องจ่ายแน่  แต่จะเรียกจากจำเลย1ได้เท่าไร  เป็นเรื่องของคุณแล้ว จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 21:38:07

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณคุณถังอีกหลายๆครั้งค่ัะ ได้รับหลังไมค์แล้วนะคะ จะว่าไป เงิน แสนแปด ชม.นี้ ออกจะสาหัสอยู่ค่ะที่จะต้องเสียไป ให้กับคนที่ไม่มีความรับผิดชอบชั่วดีอะไรเลย...แต่ ทำไงได้ คนประมาทคือเราเอง...ใครๆเค้าก็รู้กันทั้งนั้น ว่าไม่ควรไปค้ำประกันให้ใคร เค้ารู้กันทั้งโลกเลยก็ว่าได้...แต่.... ขอบคุณคุณแมวน้ำขี้เซา ที่พยายามอธิบายให้มากมาย เดี๋ยวคงต้องไปปรึกษาที่สภาทนายฯ ตามที่คุณว่ามาแน่ๆเลยค่ะ จากคุณ : คนจีนตัวน้อย เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 22:14:09

ความคิดเห็นที่ 18 ยินดีครับผม จากคุณ : ถัง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 22:36:59

ความคิดเห็นที่ 19   ขอให้ผ่านไปด้วยดีครับ สู้ๆนะครับ จากคุณ : ~ลุงหนอน~ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 22:37:18

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ สาบานเลย ชาตินี้จะไม่ค้ำให้ใครเด็ดขา่ด จากคุณ : LPGinSIDE เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 22:40:36

ความคิดเห็นที่ 21 ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 22:41:39

ความคิดเห็นที่ 22 ขั้นตอนทางศาลจบแล้วครับ (คดีดำคือคดีอาญา, คดีแดงคือคดีแพ่ง) ขั้นตอนนี้อยู่ในขั้นตอนบังคับคดีของกรมบังคับคดีแล้ว นำหมายศาลไปติดต่อที่กรมบังคับคดีได้เลย ทางออกมีน้อยมาก เช่น ยอมจ่ายแต่ขอผ่อนเดือนละ.......บาท อีกสักพักก็ไปขอลดค่าผ่อนเดือนละ......บาท ตามสภาพรายได้ของคุณ ลองตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมดู http://test.led.go.th/SearchKeep/index.asp จากคุณ : เท่ง หงส์แดง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 22:46:14

ความคิดเห็นที่ 23 ประนอมหนี้โลดครับ วิธีคุณถังที่ว่า นำเงินแสนแปดไปจ่าย เจ้าพนักงานบังคับดคี ไม่จบนะครับ ถ้าจะจ่ายแบบนี้ เค้าคิดหนี้เต็มถึงวันจะจ่าย ถ้าจ่ายไม่ครบ ก้อจะมียอดหนี้วิ่งต่ออีก แนะนำว่าติดต่อซิตี้ลีสซิ่ง ชี้แจงภาระหนี้ของเรา บรรยายปัญหาผู้เช่าซื้อไป แล้วเสนอตัวเลขที่เราจะจ่ายได้ จะผ่อนกี่งวดหรอ เทก้อนเดียว แล้วให้ทางซิตี้เคาะมาว่า เอาไม่เอา พวกลีสซิ่งชอบยึด บีบผู้ค้ำมาจ่ายแทนครับ เพราะยึดแล้ว พูดตามตรง ขายบ้านได้เท่าไหร่ แบงค์ที่รับจำนองจะได้เงินไปทั้งหมดก่อนอยู่ดี ยกเว้นดาวนบ้านเยอะกู้น้อยมาก แบบนี้ ลีสซิ่งจะได้เงินเหลือ ซึ่งตอนนี้ คิดว่าแบงค์ที่รับจำนอง น่าจะได้รับหมายเรียกให้ส่งโฉนดมาให้เจ้าพนักงานบังคับดคีแล้ว ใช้ประกอบการขายทอดตลาดด้วยครับ ค่อยๆคิดครับ  ยังมีค่าธรรมเนียมถอนการยึด 3.5% ของยอดหนี้ซิตี้เค้าอีกก้อน อย่าปล่อยให้มีการขายเกิดขึ้นนะครับ สู้ ๆ จากคุณ : ต้นes เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 23:05:45

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องของคุณศาลได้มีคำพิพากษาแล้ว โดยจำเลยที่ 1 จะเข้ามาสู้คดีหรือเปล่าไม่ทราบ แต่คุณไม่ได้ไปสู้คดีแน่ ๆ ก่อนหน้านี้จะมีหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องมาส่งให้คุณที่บ้าน โดยเจ้าพนักงานศาลจะเอามาผูกไว้ที่หน้าบ้านเพราะโจทก์จะคัดทะเบียนราษของคุณยืนยันต่อศาลว่าคุณมีที่อยู่ที่นี่แน่นอน เมื่อถึงวันนัดถ้าจำเลยทั้งสองไม่มาศาล ศาลก็มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และขาดนัดพิจารณา โจทก์ก็จะสืบพยานไปฝ่ายเดียว และศาลก็จะมีคำพิพากษาออกมา หลังจากนั้น 30 วัน โจทก์ก็จะขอให้ศาลออกคำบังคับ และจะส่งมาให้คุณที่บ้านอีกครั้ง พอครบ 45 วัน จำเลยยังไม่ไปชำระหนี้ โจทก์ก็จะยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี หลังจากนั้น 45 วัน โจทก์ก็จะนำข้อมูลทรัพย์สินของจำเลยมาเสนอต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าจำเลยมีทรัพย์อะไร แล้วให้เจ้าพนักงาน ฯ ทำการยึด ซึ่งก็คือหมายที่คุณได้รับนี่เอง ซึ่งหลังจากนี้เจ้าพนักงานก็จะทำการขายทอดตลาด โดยจะมีหนังสือแจ้งมายังคุณอีกทีหนึ่งว่าจะทำการขายวันเวลาใด เพื่อให้คุณเข้าไปคัดค้านราคาขาย โดยครั้งแรกจะเริ่มประมูลที่ 80 % ของราคาประเมิน ถ้ายังขายไม่ได้ การขายครั้งต่อไปจะเริ่มที่ 50 % ของราคาประเมิน ซึ่งคุณมีสิทธิค้านราคาได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ข้อที่คุณควรจะทำ 1 เข้าไปติดต่อกับเจ้าหนี้ เพื่อขอชำระหนี้ จะตกลงกันอย่างไรก็แล้วแต่ 2 ถ้าทรัพย์ที่ถูกยึดไม่ใช่ของจำเลยที่ 2 ก็อาจจะร้องขัดทรัพย์ได้ 3.ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้พิจารณาคดีใหม่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 จัตวา ซึ่งจำเป็นต้องให้ทนายดำเนินการ 3.ส่วนเรื่องที่จะยืดระยะเวลาโดยการอุทธรณ์นั้นหมดสิทธิ เพราะระยะเวลาได้ล่วงเลยมาเกิน 30 วัน นับแต่มีคำพิพากษาแล้ว 4.แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อคุณต้องรับผิดชำระหนี้ให้แก่โจทก์ไปแล้ว คุณสามารถฟ้องไล่เบี้ยเอากับจำเลยที่ 1 ได้เช่นกัน มีข้อสงสัยอะไร หลังไมค์สอบถามได้ครับ จากคุณ : NVW887 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 23:20:17

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณทุกๆคำตอบ และทุกๆคำแนะนำค่ะ อ่านทั้งหมดแล้ว คิดว่าเหลือหนทางเดียวคือเข้าไปประนอมหนี้ โดนการยอมผ่อนจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ไปซะ... เพราะจะไปคาดหวังเอาจากผู้กู้ก็ คงหมดหวังแล้ว และหากจะให้ไปฟ้อง ไล่เบี้ยเอากับจำเลยที่ 1 หลังจากนั้น ก็ไม่เห็นแสงสว่างใดๆทั้งสิ้น เข้าใจคำตอบ จากทุกๆความเห็นที่แวะเข้ามาช่วยๆกันอธิบาย ชี้แจงรายละเอียดที่จะต้องไปดำเนินการแล้วนะคะ คนไม่รู้จักกันในโลกไซเบอร์แห่งนี้ ยังหาคนมีน้ำใจได้มากกว่า คนที่เราเคยรู้จักซะอีก กราบขอบคุณ คุณNVW887  คุณต้นes  คุณเท่ง หงส์แดง คุณ~ลุงหนอน~  คุณLPGinSIDE  คุณแมวน้ำขี้เซา คุณถัง คุณน้องต๋าว และอีกหลายๆท่านที่เข้ามาตอบกระทู้นี้ และให้กำลังใจเราทุกๆท่าน เลยนะคะ เข้ามาแก้ที่พิมพ์ผิดค่ะ... แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 52 05:06:11 จากคุณ : คนจีนตัวน้อย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 05:04:17

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ เป็นกำลังใจให้คนจีนตัวน้อยนิดนะครับ สู้ๆครับ จากคุณ : Athlons เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 10:25:23

ความคิดเห็นที่ 27   ได้เรื่องอย่างไรแจ้งข่าวด้วยครับ เพื่อนๆในคงมีความยินดีให้ความแนะนำ ครับ จากคุณ : ~ลุงหนอน~ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 13:42:46

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นกำลังใจให้ จขก.ค่ะ เกือบจะโดนเคสเดียวกันเหมือนกัน เราเลยไปบังคับให้มัน(ผู้เช่าซื้อ) โอนลอย+เอารถมาให้เราใช้ แล้วเราผ่อนต่อเองค่ะ รถโดนยึดไปแล้ว แต่ยังไม่ถูกขายทอดตลาด เราต้องไปไถ่ถอนออก เซงจริงๆๆๆ จากคุณ : นางฟ้าไซเบอร์ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 15:03:19

ความคิดเห็นที่ 29 ได้ความรู้เยอะขึ้นเลยครับ ..... จากคุณ : จอบบ้อน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 16:45:20

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณคุณAthlons สำหรับกำลังใจค่ะ คุณ~ลุงหนอน~ หากคืบหน้ายังไงจะมาแจ้งข่าวนะคะ หากกระทู้ยังอยู่ คุณนางฟ้าไซเบอร์ ถือว่ายังโชคดีนะคะ เสียเงินแต่ยังได้รถมาแทน เราใจเย็นปล่อยเรื่องไปเอง โทษใครไม่ได้ รถเค้าเราก็ขับไม่เป็น(เกียร์ธรรมดา) เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้เตือนตัวเองได้ดีทีเดียวค่ะคุณจ็อบบอน แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 52 05:26:15 จากคุณ : คนจีนตัวน้อย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 17:24:21