 |
ความคิดเห็นที่ 8 |
เจนเนอเรชั่นที่ 8 เจนเนอเรชั่นที่ 8 แลนเซอร์ ซีเดีย ได้รับการออกแบบตามแนวคิด COMPACT BODY WITH BIG CABIN สำหรับชื่อซีเดียมาจากการนำคำว่า CENTURY และ DIAMOND มาผสมกัน จนกลายเป็น "เพชรเม็ดงามแห่งศตวรรษ ในส่วนของเครื่องยนต์ ถือเป็นครั้งแรกที่มิตซูบิชิ นำเอาขุมพลังเทคโนโลยีฉีดเชื้อเพลิงตรงสู่ห้องเผาไหม้ GDI (GASOLINE DIRECT INJECTION) นำมาผนวกกับระบบส่งกำลังอัตราทดแปรผัน CVT (CONTINUOS VARIABLE TRANSMISSION) โดยขุมพลังมีให้เลือกทั้งบล็อค 4G15 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,468 ซีซี GDI 100 แรงม้า และบล็อค 4G93 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,800 ซีซี GDI 130 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ INVECS-III CVT SPORT-MODE 6 จังหวะ ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้เองตามต้องการ วางลงในโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE (REALIZED IMPACT SAFETY EVOLUTION) รองรับแรงกระแทกจากการชนทั้งด้านหน้าด้านข้างและด้านหลังได้เป็นอย่างดี แลนเซอร์ ซีเดีย ถูกนำมาเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2001 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี จอน บอง โจวี ร็อกสตาร์ ชื่อดัง เป็นพรีเซ็นเตอร์ สำหรับแลนเซอร์ ซีเดีย ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นการนำชุดกระจังหน้าและเปลือกกันชนหน้าแบบโครเมียมจากเวอร์ชั่นไต้หวันมาทำตลาดพร้อมวางเครื่องยนต์ 2 ขนาด ใน 5 ทางเลือกรุ่นย่อย ทั้งขุมพลังรหัส 4G18 บล็อก 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,584 ซีซี หัวฉีด ECI MULTI 107 แรงม้า มีทั้ง เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติอัตราทดแปรผัน INVECS-III CVT ล็อกอัตราทดได้ 6 จังหวะ วางในรุ่น 1.6 GLXi และ 1.6 GLXi LIMITED ส่วนรุ่น 1.8 SEi LIMITED วางขุมพลัง 4G93 บล็อก 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,834 ซีซี หัวฉีด ECI MULTI 123 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ INVECS-II CVT SPORT MODE 6 จังหวะ พร้อมโหมดบวกลบ ในปี 2002 ได้มีการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรก เปลี่ยนลายกระจังหน้า จากซี่ตั้งมาเป็นซี่นอนเปลี่ยนชุดไฟท้ายด้านหลังให้เป็นโคมสีแดงพร้อมเพิ่มทางเลือกใหม่ในสไตล์สปอร์ตในปี 2003 ด้วย LANCER 1.8 VIRAGE ตกแต่งด้วยสีแดงเพลิงรอบคัน มาพร้อมกระจังหน้าลายพิเศษ สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ และล้ออัลลอยลายพิเศษ และในต้นปี 2004 ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่โดยเปลี่ยนชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้า-หลังใหม่ทั้งหมดมาเป็นแบบโค้งมน ด้วยกระจังหน้าทรงปิระมิด และยกเลิกรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร โดยแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ 4G63 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,997 ซีซี 135แรงม้า เชื่อมด้วยเกียร์อัตโนมัติมาทำตลาดแทน ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดจากกระแสความคิดด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ขยายไปทั่วโลก ในเดือนมีนาคม 2008 ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ จึงเปิดตัว แลนเซอร์ E20 ซึ่งได้รับการปรับปรุงระบบจ่ายเชื้อเพลิงและกล่อง ECU ให้รองรับน้ำมันแก็สโซฮอล์ E20 เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับทั้งอัตราการบริโภคน้ำมันและสิ่งแวดล้อม และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2008 ท่ามกลางกระแสน้ำมันแพงไปทั่วโลก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ก็เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่อยากได้ความประหยัดเต็มพิกัดด้วยการแนะนำแลนเซอร์ CNG อันเป็นรุ่นย่อยใหม่ ติดตั้งระบบจ่ายเชื้อเพลิงสำหรับการใช้ก๊าซธรรมชาติอัด CNG (Compressed Natural Gas) เชื่อมเข้ากับ เครื่องยนต์ 4G18 บล็อก 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,600 ซีซี เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์นั่งที่ให้ทั้งความคุ้มค่าคุ้มราคาและการประหยัดที่เป็นเยี่ยม
จากคุณ |
:
parama01
|
เขียนเมื่อ |
:
6 พ.ย. 52 21:10:58
|
|
|
|
 |